ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา
อันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้ว
หัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือ
เขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจ
แต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่ม
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไป
จูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจ
เธอเกลียดตัวเองที่เธอไม่ได้ปฏิเสธการจูบของเขาอีกต่อไป
เหมือนใจเธออยากผลักไสตัวเขาออกไป แต่อารมณ์ตรงกันข้ามกลับอยากสัมผัสตัวเขามากกว่านี้ นี่เธอกำลังหลงเข้าไปในเสนห์ของเขาแบบไม่ได้คิดจะถอนตัวเลยหรือ หญิงสาวถามตัวเองอยู่ในใจ
เขาจูบเธอเนิ่นนาน ให้สมกับอารมณ์ที่พุ่งพล่านของผู้ชายที่เกินต้านทาน มือหนาอุ่นกำลังซุกซน มันกำลังเริ่มไต่ลูบคลำมายังเนินเนื้อนุ่มชูชันที่อยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาและอยู่ภายใต้เสื้อในลูกไม้ตัวจิ๋ว ที่แสนจะยั่วยวนเขาเป็นยิ่งนัก เขาค่อยๆ สอดมือเข้าไปยังเนินเนื้อนั้นและเริ่มบีบเค้นเต้าชูชันอย่างเบามือ อารมณ์ของชายหนุ่มโลดแล่น
"อ่า…..อืม….." เขาครางออกมาอย่างมีความสุข และเริ่มรุกเร้าเธอมากขึ้น
ชายหนุ่มเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเธอ และมือใหญ่หนาเริ่มสำรวจลึกเข้าไปยังเนินเนื้อทั้งสองข้างอย่างจงใจ จนเจอเข้ากับปลายปุ่มของเต้าอันเต่งตึงที่ชูชันพร้อมรับกับมือหนาอันร้อนผ่าวของเขา มันช่างนุ่มและน่าสัมผัสอะไรอย่างนี้ มือเขาเริ่มเคล้าคลึงและบดขยี้แบบเบามือ ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์ความต้องการอันร้อนแรงนี้ได้แล้ว
อันนา รู้สึกสั่นสะท้านกับการสัมผัสของเขา เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ผ่านมือของพีทไปยังเนินเนื้อและปลายปทุมที่มือใหญ่ของเขากำลังเคล้าคลึง เธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย อารมณ์เธอตอนนี้โดนชายหนุ่มชักนำไปจนเธอลืมว่าวันนี้เธอมีนัดกับใครไว้
ชายหนุ่มได้พาเธอดำดิ่งไปกับความปรารถนาที่เร่าร้อนของชายหญิงจนยากที่จะถอนตัวได้เลย แต่ละจุดของร่างกายที่เขาสัมผัสเธอทำให้เธออ่อนระทวยและยากจะปฏิเสธเขาได้เลย
และพีทเองก็เตลิดไปกับอารมณ์อันเร่าร้อนและพลุ่งพล่านของเขา ที่เจอเข้ากับความงดงามของเรือนร่างที่อยู่ตรงหน้า
เขา กระชับร่างเธอให้แน่นขึ้น รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มที่ชวนให้เขาเผลอหลงไปในอารมณ์ มันร้อนรุ่มจนเขาแทบจะกลั้นหายใจไม่ทัน
เขายังคงจูบเธอไม่ปล่อย ยังไม่ยอมละความปรารถนาที่จะลิ้มลองริมฝีปากของเธอให้นานที่สุด
"อื่อ…." เธอเผลอครางเบาๆ อ่อนแรงไปกับสัมผัสของชายหนุ่ม และเริ่มคล้อยตามอารมณ์ของเขาที่ยัดเยียดเข้ามาให้เธอมากยิ่งขึ้น
เสียงหายใจที่กระเส่า เสียวซ่าน และเสียงครางเบาๆของหญิงสาวยิ่งทำให้อารมณ์ของเขากระเจิงควบคุมไม่อยู่
จากนั้นมือหนาใหญ่ของเขา ก็ผละจากการสำรวจเนินอกเต่งตึง ลากเลื่อนต่ำลงไปสำรวจความงามที่อยู่ภายใต้กระโปรงนักศึกษาตัวสั้นที่ตอนนี้ถูกเขาถลกขึ้นมาสูงขึ้นจนเกือบจะถึงกางเกงในตัวจิ๋วของเธอ
เขาเริ่มไล่มือเคล้าคลึงไปตามเนื้อนุ่มของต้นขาเรียวงามของหญิงสาว
ผิวกายของเธอร้อนระอุขึ้นมา มือใหญ่ค่อยๆไล่เล้าโลมและบีบเค้นขึ้นมาเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงกางเกงในตัวจิ๋ว เพื่อค้นหาความยั่วยวนให้ทั่วร่างระหงสมส่วนของหญิงสาวประหนึ่งเขานั้นคือเจ้าของร่างกายเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
อันนา ไม่สามารถบอกให้เขาหยุดได้เลย เพราะริมฝีปากของเธอก็ยังถูกเขาดูดดึงอยู่อย่างไม่ยอมปล่อย ส่วนมืออันซุกซนของเขาก็กำลังเล่นอยู่กับช่วงล่างอันน่าหลงใหลของเธอ
เธอยอมรับว่าเธออายมาก อายที่ตัวเธอทำไมต้องตอบสนองเขาและไม่พยายามผลักใสเขาออกไปสักนิด เธอพยายามปฏิเสธว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา…แต่…..!!!!
ทำไมเธอต้องอ่อนไหวไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนนี้ทุกครั้งที่เขามอบให้เธอ ทำไมเธอถึงยอมให้เขานำพาอารมณ์ปรารถนาอย่างนี้นะ
ทันใดนั้น……
เสียงโทรศัพท์ของ อันนา ดังขึ้นมาขัดจังหวะอารมณ์อันพุ่งพล่านของทั้งสองพอดี….
ชายหนุ่มเองยังไม่อยากหยุดอารมณ์และจูบของเขา เขาอยากสัมผัสเธอแบบนี้ไปนานๆ แต่เสียงโทรศัพท์นั้นกลับทำให้เขาต้องชะงักและหยุดความฟุ้งซ่านของตัวเขาเอง
อันนา ได้สติจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
เธอรีบผลักตัว พีท ออกไป และรีบไปรับโทรศัพท์โดยไม่คิดจะมองหน้าเขา
"ฮัล…..ฮัลโหล?" อันนาพูดเสียงตะกุกตะกัก ขณะที่ยังรู้สึกถึงความร้อนจากการสัมผัสเมื่อครู่อยู่ในร่างกาย
"อันนา อยู่ที่ไหน?" เสียงโชติถามทันทีอย่างร้อนรน "รีบมาที่ร้านชาบูเลยนะ โชติมาถึงแล้ว ยังไม่เห็นใครมาเลย"
หัวใจของเธอเต้นแรง เธอกลืนคำตอบเอาไว้ก่อนจะรีบตอบกลับไปว่า
"เดี๋ยวไปนะโชติ แล้วเจอกันนะ ฉันเพิ่งทำโครงการวิจัยเสร็จพอดี" แล้วก็กดวางสายทันที
พีท ยังคงจ้องมองเธอ ดวงตาคมฉายแววจริงจัง เดินเข้ามาหาหญิงสาวอีกครั้ง “เธออยากให้ฉันทำต่อหรือเปล่า…ยังมีเวลาอีกเยอะนะ?” เขายิ้มและทำสายตากรุ้มกริ่ม
อันนา หน้าแดงเป็นลูกตำลึง เธอจัดเสื้อและกระโปรงนักศึกษาให้เข้าที่ ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ตอนนี้ด้วยนะ เธอรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่อาจห้ามเขาได้ แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของเขาแทน
“…นายมันอีตาคนบ้า” เธอพึมพำเสียงแผ่ว รู้สึกว่าหน้าเธอร้อนและแดงถึงใบหู
พีท ยิ้มมุมปาก หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มของเขาก้มลงมาใกล้เธออีกครั้ง ก่อนกระซิบเสียงพร่า “เหมือนเธอจะชอบคนบ้าอย่างฉันนะ และชอบให้คนบ้ารังแกนะ?” เขามองสำรวจร่างกายสมส่วนที่เขาได้มีโอกาสลิ้มลองความหอมหวานและอ่อนนุ่ม แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่อารมณ์เขากลับดิ่งลงไปและไม่อยากลุกขึ้นมาจากอารมณ์วาบหวามยั่วยวนใจนั้น
ทำไมเขาถึงมีความต้องการแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้คนเดียวนะ หรือเขาจะรู้สึกว่าเขาเริ่มมี……ความรัก…..เข้าแล้วใช่ไหม?
ความรักงั้นเหรอ? คำนี้มันฟังดูไกลตัวเกินไปสำหรับเขา มันเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง—แต่ตอนนี้ หัวใจของเขากลับเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่เห็นเธอ
ให้ตายสิ...เขาเสพติดมันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ชายหนุ่ม กัดฟันแน่น พยายามควบคุมตัวเอง ไม่ให้หันไปคว้าตัวเธอเข้ามาใกล้อีก และไม่ให้เผลอทำตามสัญชาตญาณที่บ้าคลั่งในใจ
เขาแทบคลั่งจริง ๆ หัวใจเตลิดไปไกลกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว
เขาคิดถึงห้องเล็ก ๆ ของเธอ เตียงนอนธรรมดาแต่งแบบน่ารัก หมอนที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ของเธอ ผ้าห่มที่ไม่ได้หรูหราอะไรแต่กลับให้ความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด บรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นกันเองราวกับกักเก็บไออุ่นของเธอไว้ในทุกมุมห้อง
เทียบไม่ได้เลยกับห้องของเขา—ห้องที่โอ่อ่าใหญ่โต กว้างขวาง และตกแต่งอย่างหรูหรา เตียงขนาดคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าปูเตียงเนื้อนุ่มที่สุด โคมไฟระย้าที่ทอดเงาอ่อนโยนลงบนผนังลายหินอ่อน และผ้าม่านเนื้อดีที่พลิ้วไหวไปตามสายลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทุกอย่างในห้องของเขาถูกจัดวางอย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงฐานะและรสนิยมของเจ้าของได้อย่างไร้ที่ติ
แต่ทำไมกัน… ทำไมเขาถึงไม่อยากกลับไปที่ห้องของตัวเอง?
แต่เขากลับอยากไปที่ห้องของ อันนา… เตียงของหญิงสาวทำให้เขาติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น
เขาอยากกลับไปที่ห้องของเธออีกครั้ง อยากสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นอีก
มันน่าหงุดหงิดที่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้เลย…ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ตลอดเวลา มันร้อนรุ่มมากจริงๆ ให้ตายสิ
ทำไมเขาถึงต้องมาใส่ใจหญิงสาวคนนี้ ผู้หญิงสวยๆ ที่พร้อมจะไปกับเขาเพราะฐานะและหน้าของเขามีตั้งมากมาย ทำไมเขาไม่สนใจใครเลย เขาครุ่นคิดในใจ "ทำไมกัน?"
เขาถามตัวเองเสียงต่ำ ในหัวมีแค่คำถามเดียว "ทำไมเธอถึงมีผลกับฉันขนาดนี้?"
อันนา หลบตา รีบเบือนหน้าหนี มือน้อยๆ ของเธอสั่นเทา รีบติดกระดุมเสื้อที่ถูกชายหนุ่มปลดออกให้เรียบร้อย ราวกับต้องการลบหลักฐานของเหตุการณ์อันเร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับพีท
จากนั้นเธอรีบควานหาแว่นตาที่ พีท จงใจถอดมาใส่ แล้วรีบทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด เธอพยายามข่มความรู้สึกอายและพร้อมกันนั้นอารมณ์พลุ่งพล่านที่ไม่ได้ปฏิเสธเขาเลย
นั่นยิ่งทำให้เธอหน้าแดงเป็นทวีคูณ
พีท จ้องมองอยู่ที่ใบหน้าอันแดงระเรื่องของอันนา
ริมฝีปากของเขายังรู้สึกถึงสัมผัสของเธอ มันยังอุ่น...ยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของเขาไม่จางหาย
"รีบไปกันเถอะ โชติเค้ารอนานแล้ว"
เสียงของอันนา สั่นไหว ราวกับพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ
แต่น้ำเสียงนั้นกลับสะกิดให้ พีท ตื่นจากภวังค์
เขากระพริบตา ไล่ความคิดวุ่นวายในหัวออกไป ก่อนจะมองใบหน้าของหญิงสาวที่ยังแดงก่ำ ดวงตาของเธอหลุบต่ำ เหมือนพยายามเลี่ยงสายตาของเขา
เธอรีบตัดบท ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องทดลองทันที
ชายหนุ่ม มองตามแผ่นหลังของเธอที่รีบก้าวออกไปด้วยความร้อนรน ราวกับต้องการหนีอะไรบางอย่าง
เขาแค่นยิ้ม พลางส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเดินตามเธอไป
"ยังไงเธอก็ต้องไปกับฉันอยู่แล้ว ไม่ต้องรีบเดินหนีไปไหนหรอกน่า" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เมื่อเริ่มควบคุมอารมณ์ที่ครุกรุ่นด้วยแรงปรารถนาให้เบาบางลง
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ตอบโต้อะไร รีบสาวเท้าลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว หวังเพียงว่าอากาศข้างนอกจะช่วยให้เธอสงบลงบ้าง
ชายหนุ่มเดินตามเธอมาอย่างไม่รีบร้อน
เพื่อนนักศึกษาหญิงหลายคนในตึก เมื่อเห็น พีท เดินตาม อันนา ลงมาที่ด้านล่างของตึก เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที
"กรี๊ดดด! พีท เดือนมหาวิทยาลัย เค้ามาอีกแล้ว!เธอ"
"ให้ตายสิ เข้ามาคณะเราบ่อยเกินไปแล้วนะ!"
"มีอะไรที่เขาติดใจอยู่ที่นี่แน่นอน!"
กลุ่มนักศึกษาพากันซุบซิบ บ้างแอบหัวเราะคิกคักมองไปที่ อันนา เป็นเชิงสงสัย
"หรือว่าเขามาตามจีบ อันนา จริง ๆ หรือแค่มาทำโครงการวิจัยด้วยกัน?" ใครบางคนพูดขึ้น
"เป็นไปได้ไหมว่าเขาสองคนกำลังคบกัน?" อีกเสียงเสริม
อันนา ได้ยินทุกคำพูดชัดเจน เธอเม้มปากแน่น หน้าแดงและร้อนผ่าว เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใครๆ และไม่ต้องการทำตัวเด่นเพื่อให้ใครสนใจเธอ
เธอแค่อยากเป็นคนธรรมดา ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตั้งใจเรียนให้จบ หางานดี ๆ ทำเพื่อดูแลพ่อแม่และน้องชาย เธอมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
แต่ พีท…ชายหนุ่มคนนี้กำลังเข้ามาทำให้หัวใจของเธอวุ่นวายจนเธอสับสน
ขณะที่ พีท กลับทำตัวสบาย ๆ ราวกับเสียงกรี๊ดและสายตานับสิบที่จับจ้องมานั้นเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน
"ฉันจะต้องตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนเพราะนายคนเดียวเลย!"
อันนา หันมากระซิบเสียงเครียด ขณะที่รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบและสายตาอยากรู้อยากเห็น
เพราะ พีท เด่นมาก ในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็เป็นจุดสนใจเสมอ ทั้งรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์แบบกวน ๆ ฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย และท่าทางที่ดูเจ้าเล่ห์ปนมั่นใจ เขาเพอร์เฟคทุกอย่าง เป็นใครก็อยากที่จะเข้าหาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดชายหนุ่ม
และทุกคนรู้จักเขา...นั่นทำให้ อันนา พลอยตกเป็นเป้าสายตาไปโดยปริยาย
พีท ยักไหล่ ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอแม้แต่น้อย "ทำไมล่ะ? ฉันชอบนะ พวกเขาจะได้มีเรื่องให้ได้คุยกันไง ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อยว่าฉันมาหาเธอ มาเพื่อทำงานกับเธอให้เสร็จ!!"
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้จนเธอเผลอกลั้นหายใจ "หรือจริง ๆ แล้ว เธอกลัวอะไรอยู่กันแน่? กลัวฉัน... หรือกลัวความรู้สึกของตัวเอง?"
อันนา เบิกตากว้าง หัวใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
"บ้าไปแล้ว!" เธอรีบหันหน้าหนี แต่แก้มกลับร้อนผ่าวขึ้นมาจนน่าหงุดหงิด
ชายหนุ่ม ยิ้มอย่างพอใจ
"โอเค ไปกันเถอะ เราต้องไปกินชาบูตามที่เธอกับฉันนัดกันไว้กันนะ จำได้ไหม?" เขาพูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยินก่อนจะเดินนำไปที่มอเตอร์ไซค์
หญิงสาวแทบจะมุดลงไปในพื้นดินเพื่อกลบความอายที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก
เธอเหลือบมองรอบตัว เห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นจากคนอื่น ๆ ที่แอบฟังบทสนทนาของพวกเขา
ทุกคำพูดของ พีท เหมือนจะตอกย้ำให้ทุกคนคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริง ๆ
"นายพูดบ้าอะไรของนาย!" เธอกระซิบเสียงดุ พยายามไม่ให้ใครได้ยินมากนัก
แต่ชายหนุ่มกลับยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับอยู่บนใบหน้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับกำลังสนุกที่ได้เห็นเธอเขินอาย
ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ ทำให้เธอถอยหลังไปอีกก้าว "หรือว่าเธออยากให้ฉันพูดให้ชัดเจนกว่านี้?"
เธอทำตาโต รีบส่ายหน้า หัวใจเต้นโครมครามจนแทบระเบิด บ้าจริง! นี่เขาจะทำให้เธออับอายไปถึงไหน!
เธอโพล่งออกมาโดยไม่คิด "ฉันจะหาทางไปร้านเอง นายไม่ต้องไปส่งเลย!"
พีท ยิ้มมุมปากราวกับคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดแบบนี้ เขายืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ปนขี้เล่น ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้
"อันนา…" เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ
"ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน นายหน้าตี๋สงสัยแน่ เพราะเขารู้ว่าวันนี้เธอมาทำโครงการวิจัยกับฉัน และที่สำคัญ... เธอไม่มีรถไปเองอยู่แล้ว"
หญิงสาว เม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นระรัวกับสถานการณ์ตรงหน้า เธอเกลียดนักเวลาที่เขาพูดเหมือนรู้ทันเธอทุกอย่าง และที่แย่กว่านั้นคือ… เขาพูดถูกทุกคำ
เขาตัดบท ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเธอต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว "หรือว่า...เธออยากอธิบายเองว่าทำไมถึงมาสาย?"
"นี่นาย…." อันนา พูดเสียงหลง ความจริงแล้วเธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะปกติถ้าจะไปทานข้าวด้วยกัน โชติจะต้องมารับเธอเสมอ แต่คราวนี้โชติคิดว่าเธอคงไปกับพีท จึงไม่ได้มารับ
หญิงสาวจ้องเขากลับ ก่อนจะเบือนหน้าหนี หงุดหงิดตัวเองที่เผลอเล่นบทนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าท้ายที่สุดแล้วก็ต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์เขาอยู่ดี
ชายหนุ่มอมยิ้ม พาเธอเดินไปจนถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ เขาหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์คู่ใจขึ้นมา ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วหันไปมองเธอที่ยืนกอดอก ทำหน้าเหมือนไม่อยากยุ่งกับเขา
"ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวนายหน้าตี๋จะรอนาน" เขาทำเสียงทะเล้น เอ่ยพลางตบเบาะเบา ๆ เหมือนกับจะทำให้บรรยากาศของเขาและเธอดูผ่อนคลาย
อันนา สูดลมหายใจลึก ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายอย่างเสียไม่ได้ มือเธอจับเบา ๆ ที่ข้างเสื้อช็อปวิศวะของพีท แทนที่จะโอบรอบเอวเขา
พีท รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบานั้น เขาหันไปมองเธอผ่านกระจกมองหลัง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
"ทำไมวันนี้จับแค่นี้ล่ะ? กลัวอะไรอยู่เหรอ?"
"เปล่าสักหน่อย!" อันนา รีบเบี่ยงหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นว่าตัวเองกำลังหน้าแดง
ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก แต่ไม่พูดอะไรเพิ่ม เพียงแค่เร่งเครื่องออกไป โดยมีลมเย็นปะทะใบหน้า—ทว่าความร้อนที่ค้างคาในใจทั้งสองยังไม่มีทีท่าว่าจะจา
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
"ขึ้นไปกันเถอะ" เขาเอ่ยเสียงแหบต่ำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยี่หวา ก้าวลงมาเช่นกัน ส้นสูงของเธอกระทบพื้นเป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างกวินอย่างมั่นใจ ก่อนจะคว้าแขนเขาและพาเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรมเงียบสงบในยามดึก พนักงานต้อนรับทำหน้าที่รับข้อมูลจากแขกผู้มาเยือ ก่อนจะส่งกุญแจห้องให้ตามที่ ยี่หวา ต้องการเธอรับมันมา ก่อนจะจับมือ กวิน แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปกวิน ใช้สายตาจับจ้องเธอเหมือนจะกลืนกิน ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนยี่หวา หันมามองเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเจ้าเล่ห์ "มองยี่หวาแบบนี้ทำไม?"กวิน โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ "เพราะเธอร้อนแรงเกินกว่าจะละสายตานะสิ"เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ปลายนิ้วแตะลงบนอกของกวิน ไล้ไปตามสาบเสื้อของเขาเบาๆ"แล้วกวินแน่ใจเหรอ ว่ารับมือยี่หวาไหว?"ติ๊ง!เสียงลิฟต์ดังขึ้น ประตูเปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรมยี่หวา ดึงมือ เขาให้ก้าวออกไป ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะประตูห้อง แล้วเปิดออกพร้อมกับผลักเขาเข้าไปเบาๆภายในห้องกว้างขวาง มีแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ห
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่
เสียงจอแจภายในห้องประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยดังอื้ออึงไปทั่ว คณะวิทยาศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์กำลังรวมตัวกันเพื่อแข่งขันโครงการวิจัยข้ามคณะในปีนี้ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสองคณะได้ร่วมมือกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ท่ามกลางนักศึกษาหลายร้อยคนอันนา นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ เอกเคมี ปีสี่ หญิงสาวผู้มีดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นตาที่ดูเข้ากันกับดวงตาแสนซน คิ้วที่เรียงสวยรับกับจมูกโด่งพองาม และรูปร่างบอบบางของหญิงสาวที่สูง 165 เซนติเมตร เดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุม เธอเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นคนหัวกะทิของคณะวิทยาศาสตร์ ฉลาดและรอบคอบ แต่กลับเย็นชาและไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน"ขอโทษค่ะ ขอทางหน่อยค่ะ" อันนา พูดเสียงเรียบ ขณะพยายามเดินผ่านกลุ่มนักศึกษาที่มุงดูรายชื่อของเพื่อนร่วมโครงการวิจัยบนบอร์ดกันอยู่เมื่อเธอดูชื่อแล้วจึงพยายามมองหาเพื่อนร่วมทีมที่ถูกสุ่มเลือกให้ตามป้ายชื่อที่ติดที่เสื้อของแต่ละคนซึ่งโครงการวิจัยจะกำหนดให้มีนักศึกษาจำนวน 2 คน ต่อ 1 โครงการวิจัยแต่เมื่อสายตาไปหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ แต่เต็มไปด้วยความมีเสน่ห์บางอย่างที่เธอเองก็อธิบายไม่ถูก
การทำงานโครงการวิจัยร่วมกัน ณ หน้าห้องทดลองของคณะวิทยาศาสตร์ พีท มักจะนัดทำงานร่วมกับอันนา ในตอนเย็นๆ ที่คนไม่พลุกพล่าน และไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาของใคร ระหว่างที่ขึ้นมายังห้องทดลอง เขามักจะใส่หมวกอำพรางเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากนักและวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พวกเขาได้ทำงานร่วมกัน และรู้จักกันมากขึ้น แต่สถานการณ์การเจอกันแต่ละครั้งเหมือนอยู่ในสมรภูมิอารมณ์ ที่มีชายหนุ่มหน้าหล่อคอยก่อกวน“วันนี้เราทำบทไหนต่อนะ… เธอลองอธิบายให้ฉันฟังที” พีท พูดขึ้น ขณะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาเป็นประกายซุกซนกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่เป้าหมาย—หญิงสาวใส่แว่นเจ้าประจำที่มักจะบ่นเขาเสมอ“ปกติ นายชอบไปนั่งมองสาวๆ ตามคณะอื่นใช่ไหมล่ะ เลยไม่ค่อยมีเวลาทบทวนรายละเอียดของโครงการวิจัยเลย!!! ” อันนาเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้ามอง ขณะที่เธอกำลังก้มหยิบของบนพื้นพีท ยิ้มบางๆ กับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ โต๊ะของเธอ “โห หาว่าฉันเจ้าชู้อีก? นี่ฉันตั้งใจมาทำงานนะ”อันนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาผ่านกรอบแว่น “งั้นเหรอ? ก็ลองดูว่าคราวนี้นายจะตั้งใจได้นานแค่ไหน”"ถ้า….ฉันตั้งใจมองเธอมากกกว่
เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ ๆ ดังขึ้นที่หน้าตึก อันนา ที่ยืนรออยู่ ต้องอึ้งไปชั่วขณะมอเตอร์ไซด์คันใหญ่สีดำด้าน มาพร้อมดีไซน์หรูและโลโก้ของแบรนด์ราคาแพงที่เธอรู้จักดี มันไม่ใช่รถที่นักศึกษาธรรมดาจะเป็นเจ้าของได้แน่ ๆ และที่สำคัญ… มันเป็นของ พีท"ขึ้นมา" พีท ยกหมวกกันน็อกอีกใบให้เธออันนา กะพริบตา ไม่คาดคิดว่าเขาจะมารับเธอด้วยรถคันนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงขับมอเตอร์ไซด์เก่า ๆ มาซะอีก แต่ไม่ใช่เลย..."นี่นาย..." เธอเอ่ยเบา ๆ แต่ยังไม่ขยับ"ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวฉันไปส่งที่หอ แล้วก็อย่าลืมบอกทางด้วยนะคร้าบบบ" พีท ว่าพลางสวมหมวกกันน็อกของตัวเองอันนา กลืนน้ำลาย รถคันนี้ใหญ่เกินไปสำหรับเธอ และที่แย่กว่าคือเบาะที่นั่งมันเล็กเกินไปสำหรับสองคน เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนั่งเบียดกับเขาเธอปีนขึ้นไปนั่งด้านหลังอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อพีทสตาร์ทรถและเร่งเครื่อง เธอก็ต้องรีบคว้าชายเสื้อเขาไว้แน่น"จับแน่น ๆ หรือจะกอดก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ " เสียงทุ้มเอ่ยอย่างมีเลศนัย"ฉันไม่อยากจับหรือกอดตัวนายหรอกน่า!" อันนา เถียงกลับ แต่เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไป เธอก็ต้องกลืนน้ำลายอีกครั้ง เพราะแรงลมและแรงดึงทำให้เธอเผลอขยับ
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่
"ขึ้นไปกันเถอะ" เขาเอ่ยเสียงแหบต่ำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยี่หวา ก้าวลงมาเช่นกัน ส้นสูงของเธอกระทบพื้นเป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างกวินอย่างมั่นใจ ก่อนจะคว้าแขนเขาและพาเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรมเงียบสงบในยามดึก พนักงานต้อนรับทำหน้าที่รับข้อมูลจากแขกผู้มาเยือ ก่อนจะส่งกุญแจห้องให้ตามที่ ยี่หวา ต้องการเธอรับมันมา ก่อนจะจับมือ กวิน แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปกวิน ใช้สายตาจับจ้องเธอเหมือนจะกลืนกิน ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนยี่หวา หันมามองเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเจ้าเล่ห์ "มองยี่หวาแบบนี้ทำไม?"กวิน โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ "เพราะเธอร้อนแรงเกินกว่าจะละสายตานะสิ"เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ปลายนิ้วแตะลงบนอกของกวิน ไล้ไปตามสาบเสื้อของเขาเบาๆ"แล้วกวินแน่ใจเหรอ ว่ารับมือยี่หวาไหว?"ติ๊ง!เสียงลิฟต์ดังขึ้น ประตูเปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรมยี่หวา ดึงมือ เขาให้ก้าวออกไป ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะประตูห้อง แล้วเปิดออกพร้อมกับผลักเขาเข้าไปเบาๆภายในห้องกว้างขวาง มีแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ห
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้วหัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือเขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจแต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่มลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไปจูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจเธอเกลียดตัวเองที
พีท ยืดแขนเพื่อบิดความเมื่อยล้า สายตาคมเข้มมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “สรุปว่าเย็นนี้ไปกินชาบูที่ไหนกันแน่นะ?”อันนา ที่กำลังเก็บของชะงักไปนิดหน่อยก่อนตอบ “โชติบอกว่าร้านชาบู หน้ามอ ร้านเดิมที่เคยไปกินประจำ”พีท เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างช้า ๆ ก่อนลากเสียงถาม“ที่เคยไปกินประจำ….ไปกินด้วยกันบ่อยรึไง?” เสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อได้ยินคำตอบอันนา เงยหน้าขึ้นมองพีทที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที สีหน้าเขาดูนิ่งขึ้น แต่แววตากลับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่“ก็… เคยไปกินด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมหรอ?”พีท เท้าแขนลงกับโต๊ะ จ้องเธอนิ่ง “ไปกันบ่อยแค่ไหน?”หญิงสาว เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและท่าทางของเขา “ก็… หลายครั้งอยู่ ทำไม นายมีปัญหาหรือไง?”พีท พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “เปล๊า~ แค่สงสัยว่าไปกันแค่สองคน หรือไปกันหลายคน”อันนา เลิกคิ้ว “บางทีก็หลายคน บางทีก็แค่ฉันกับโชติ”คำตอบนั้นทำให้ พีท ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงเล็กน้อย “แค่เธอกับโชติ?”อันนา เริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาดูไม่พอใจ“อืม บางครั้งก็แค่ฉันกับโชติสองคน ทำไมหรอ?”พีท จ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจ
ตอนบ่ายถึงเวลานัดหมายทำโครงการวิจัยร่วมกันของ ทั้ง 2 คนอันนาเดินเข้ามาในห้องทดลองพร้อมแฟ้มเอกสารแนบอก พยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอก้าวเท้าอย่างระมัดระวัง ขยับแว่นตาเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัส ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้อง แต่เธอยังไม่พบกับใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าและหัวใจของเธอตอนนี้ก็เต้นโครมคราม จนแทบจะระเบิดออกมาข้างนอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า… เธอจะต้องเผชิญหน้ากับพีท—เจ้าของรอยจูบและสัมผัสที่ยังทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เสื่อมคลายเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสะกดอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะเปิดเอกสารเพื่อเตรียมเริ่มงานแต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างกำยำของชายหนุ่ม ยืนพิงกรอบประตู เขายกยิ้มมุมปากพลางกอดอก สายตาคมมองเธอราวกับอ่านใจออก“ไง…” พีท ทักและลากเสียงเนิบนาบที่ฟังดูสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธออย่างไม่รีบร้อน ท่าทีของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าการพบกันครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ธรรมดา“ทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้นล่ะ? หรือว่า… คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่?”อันนาสะดุ้ง รีบหลบตาพีททันที หน้า
แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนสายส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง อันนา พลิกตัวช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาคู่งามกวาดมองไปทั่วห้อง และแล้วเธอก็พบว่า…พีท…ไม่อยู่แล้วอันนา ชะงัก หัวใจเต้นแผ่วเบาเมื่อพบว่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เธอจำได้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เมื่อคืนเธอขยับนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภาพความทรงจำจากเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาสัมผัสร้อนแรง... ลมหายใจของเขาที่ใกล้จนได้ยินชัด... ริมฝีปากของเขาที่แนบลงมาหาเธอช้า ๆ แล้วจูบอย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนสัมผัสของมือหนาที่กอบกุมเต้าอกอวบอิ่มพร้อมทั้งแรงเคล้าคลึงด้วยความเบามือแต่แฝงด้วความผ่าวร้อนได้แผ่ซ่านผ่านชุดนอนบางจิ๋วเข้าไปยังเนินเนื้อยังคงติด ผิวกายของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนไหนมาก่อนอันนา ใบหน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอหลุบตามองต่ำ ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่ความฝันพีท... ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและสัมผัสของเขาเธอเองก็ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อนเลย มันทำให้เธอวาบหวามและอบอุ่นไปใ