เขาหยุดทุกสัมผัส ปล่อยให้เธอได้มีพื้นที่หายใจ
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียง สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อดับไฟร้อนที่ยังลุกโชนอยู่ในอก ความรู้สึกพลุ่งพล่านจากสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอบอวล ปลายนิ้วของเขายังจำได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวกาย ริมฝีปากยังคงติดตรึงกับรสสัมผัสอันหอมหวานที่เพิ่งลิ้มลอง
ใบหน้าหล่อคมเข้มเริ่มคลายจากแรงปรารถนาอันเกินจะต้านทานที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
และเมื่อเขาปล่อยเธอให้หลุดพ้นจากการถูกทับไว้โดยร่างกายกำยำของเขา
หญิงสาว ก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปที่หยิบเสื้อนอนที่โดนเขาขว้างทิ้งไปมาสวมปิดบังเนินเนื้อเต่ง จากนั้นก็เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนอย่างรวดเร็ว ดึงสาบเสื้อเข้าหากันแน่นเพื่อปิดบังเรือนร่างใต้ชุดนอนบางเบา ไม่อยากให้เขาสำรวจเธอด้วยสายตาแบบนั้นอีก
เขานิ่งไปพักใหญ่ และเมื่อชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาบนผนัง เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้ว
"ขอฉันอยู่ที่นี่สักพักได้ไหม...แค่อยากพักอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อย" ลมหายใจที่ยังหอบพร่า และเสียงทุ้มอ่อนนุ่มของเขาเอ่ยขึ้น
อันนา ยังคงมองเขาด้วยแววตาลังเล หวาดกลัว โดยที่ความหวาดกลัวนั้นเธอไม่ได้กลัวเขา แต่เธอกลัวหัวใจเธอเองมากกว่า
ริมฝีปากเธอยังเจือรอยหอบหายใจจากเหตุการณ์เมื่อครู่ รู้สึกได้ถึงไอร้อนที่ยังกรุ่นอยู่บนผิวปาก ลมหายใจของเขายังอยู่ใกล้เกินไป และภาพเมื่อครู่ก็ยังติดตาเธอไม่จางหาย
ดึกแล้ว...ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง มีเพียงแสงไฟหัวเตียงที่ส่องสว่างอย่างแผ่วเบา
พีท นั่งลงที่พื้นพร้อมเอนศีรษะลงกับกำแพง หลับตาลงราวกับเด็กน้อยที่หมดแรง
เขาขยี้ตาตัวเองด้วยความง่วง
“ฉันง่วงจะแย่แล้ว...” เขาพูดเสียงอู้อี้ ทะเล้น ไม่เหมือนผู้ชายที่เร่าร้อนเมื่อกี้นี้เลย ทำไมเขาถึงเปลี่ยนโหมดเร็วขนาดนี้กันนะ?!
ผิดกับ อันนา เธอยังคงรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะจากการรุกร้ำของเขา และแม้เวลาจะผ่านไป เธอก็ยังไม่กล้าหลับตาลง
เขาพูดพลางหาวออกมายาว ๆ “ขอนอนพักสักหน่อยได้ไหม…?”
“นอนบนพื้นก็ได้ เห็นใจคนง่วงหน่อยเถอะ ฉันขอนอนสักพักจะได้มีแรงขับรถกลับบ้าน” เสียงเขาเหมือนเด็กขี้อ้อน ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลยสักนิด
หญิงสาว จ้องหน้าเขาอย่างชั่งใจ ดวงตาคมของ พีท ดูอิดโรย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยแววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด
จากเหตุการณ์เมื่อครู่ ทำให้เธอคิดอยู่นาน แต่หัวใจเธอเองที่อ่อนไหวไปกับคำขอของเขา และตอบรับไป เพราะรู้ดีว่าฤทธิ์ไวน์ที่เขาดื่มเข้าไปอาจจะมีผลต่อการขับรถกลับบ้านของเขา
“ก็….ก็ได้…แต่ที่ฉันยอมให้นายนอนพักต่อเพราะกลัวนายขับรถกลับแล้วนายจะง่วง แล้วเกิดอุบัติเหตุนะ” เธอตอบแบบไม่มองหน้าเขา และทำให้น้ำเสียงดูปกติ ไม่ให้รู้ว่าเธอสั่นสะท้านแค่ไหนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“แต่….นายต้องนอนข้างล่าง ฉันจะปูที่นอนสำรองของฉันให้?”
พีท ยิ้มออกมาทันที “โอเค ขอบคุณครับคุณผู้หญิง”
เธอ ยังคงไม่ละสายตาไปจากเขา ใจเธอยังคงเต้นแรง และเธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก
เธอ รีบลุกขึ้นไปหยิบ ฟูกนอนสำรองของเธอ พร้อมผ้าห่มกับหมอนออกมามาวางบนพื้น แต่สายตาและการกระทำยังคงระวังและระแวงเขาไปพร้อมกัน
พีท มองการกระทำของเธอด้วยรอยยิ้มขำ ๆ
“แน่ใจนะว่าให้ฉันนอนข้างล่าง?” เขาพูดพลางยกคิ้ว “เตียงเธอกว้างออก”
อันนา กอดอกแน่น รู้ดีว่าเขาแค่แกล้งเล่น แต่เธอไม่อยากเสี่ยงกับอะไรที่อาจเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาในคืนนี้
“เตียงฉันมีแค่เตียงเดียว นายตัวโตขนาดนั้น จะให้นอนเบียดกันได้ไง”
ชายหนุ่ม เลิกคิ้ว ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “ถ้าให้ฉันนอนบนเตียงด้วย เธอจะกลัวรึเปล่า?”
ใจเธอกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำถามนั้น แววตาของ เขา เจ้าเล่ห์เกินไป เธอรู้ว่าเขาแค่หยอกเล่น แต่สัมผัสจากเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ยังติดอยู่บนผิวของเธอ
“นายต้องนอนข้างล่างนั่นแหละดีแล้ว!” เธอตอบเสียงแข็ง
พีท หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยอมถอย ล้มตัวลงบนฟูกที่ปูไว้กับพื้นอย่างว่าง่าย แต่ก่อนที่เขาจะหลับตาลง เขาก็ยังคงส่งสายตายียวนมาให้เธอ
“ก็ได้ ๆ นอนข้างล่างก็ได้... แต่ถ้ากลางดึกเธอเปลี่ยนใจ ก็อย่าลืมปลุกฉันล่ะ”
อันนา เม้มปากพยายามกดความร้อนผ่าวที่แล่นขึ้นมาบนใบหน้าตัวเองอย่างสุดความสามารถก่อนจะหันหลังให้เขา
พีท หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกที่เธอปูไว้
เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง ก่อนจะขึ้นเตียงของตัวเองแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว
ห้องตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองที่แผ่วเบา
พีท เอียงหน้าไปมอง อันนา เห็นเธอพลิกตัวไปมาเหมือนกำลังพยายามข่มตาหลับ
“อันนา...” เขาเรียกเบา ๆ
“อะไร? นายคนเจ้าเล่ห์” เธอขานรับเสียงงัวเงีย
พีทยิ้มมุมปาก “ฝันดีนะ”
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังเรียบเรียงความคิดที่ยังสับสนอยู่ในหัว ก่อนจะพึมพำเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแทบจะหลอมละลายไปกับความเงียบของค่ำคืน
“อือ...นายก็ฝันดี”
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ เธอเองก็ไม่แน่ใจ รู้เพียงแค่ว่าเปลือกตาที่หนักขึ้นทุกขณะค่อย ๆ ปิดลงโดยไม่ทันรู้ตัว และในที่สุด เธอก็ปล่อยให้ตัวเองหลับไหลไปกับค่ำคืนที่เงียบงัน
พีท หลับตาลง หัวใจอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด... คืนนี้อาจจะไม่ได้เป็นไปตามแผนเจ้าเล่ห์ของเขา แต่มันก็ไม่ได้แย่เลยสักนิด
ดวงตาคมของเขาค่อย ๆ หลับลงด้วยความอ่อนเพลีย ฤทธิ์ของไวน์ทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้งกว่าปกติ แต่ภายในใจกลับไม่ได้สงบตามร่างกายเลยสักนิด
อันนา...
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว เธอไม่เหมือนใคร เธอไม่อ่อนหวานหรือออดอ้อนเหมือนผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตเขา เธอแข็งนอก อ่อนใน ดื้อรั้น แต่กลับทำให้เขาหลงใหลได้โดยไม่ต้องพยายาม
เขาค่อย ๆ หลับตาลง ปล่อยให้ร่างกายจมลงไปกับที่นอน แม้มันจะไม่ได้หรูหราเทียบเท่ากับเตียงนุ่ม ๆ ที่บ้านของเขา ที่นอนผืนนี้ทั้งแข็งกว่า เล็กกว่า แต่น่าแปลกที่เขากลับรู้สึกพึงพอใจกับความเรียบง่ายตรงหน้า
อากาศรอบตัวเย็นสบาย บรรยากาศไม่ได้เงียบสนิท แต่กลับให้ความรู้สึกสงบอย่างประหลาด ราวกับว่าความวุ่นวายในหัวใจเขาค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยความสบายใจที่หาไม่ได้จากชีวิตที่หรูหรา
เขาปล่อยให้ความคิดสุดท้ายเลือนรางไปทีละนิด ร่างกายค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เปลือกตาหนักอึ้งขึ้นทุกขณะ จนในที่สุด สติของเขาก็ดับวูบลงไปกับค่ำคืนอันแสนเงียบสงบ
—
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตี 4 แล้ว แสงไฟที่เปิดไว้สลัว ๆ ยังคงให้บรรยากาศอุ่น ๆ ในห้องเล็ก
พีท ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ อย่างเงียบเชียบ ความมึนจากฤทธิ์ไวน์ค่อย ๆ จางหายไป ทำให้สติของเขากลับมา เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของใครบางคนดึงความสนใจของเขาไปที่เตียง
อันนา นอนตะแคง หันหลังให้เขา ผ้าห่มคลุมกายจนเกือบมิด มีเพียงไรผมที่หลุดลุ่ยออกมาปรกแก้มของเธอเท่านั้นที่เขามองเห็น พีท ยิ้มบาง ๆ
เขาลุกขึ้นนั่ง สะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความมึนงงออกไป ก่อนจะหันสายตาไปมองเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
แสงจันทร์อ่อน ๆ ส่องลอดผ่านหน้าต่าง กระทบลงบนใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นแพขนตายาวที่ทอดตัวอย่างสงบ ริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ราวกับกำลังจมอยู่ในห้วงนิทราที่ลึกที่สุด
เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหยุดอยู่ข้างเตียง มองดูเธออย่างเงียบงัน หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความสงสัยบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจ—ทำไมเธอถึงดูน่ามองขนาดนี้ในเวลาที่ไม่รู้ตัวแบบนี้กันนะ
ราวกับต้องมนต์สะกด เขาค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงต่ำเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว ปลายจมูกของเขาอยู่ห่างจากจมูกเล็ก ๆ ของเธอเพียงนิดเดียว ลมหายใจแผ่วเบาของเธอแตะต้องผิวแก้มของเขาเบา ๆ และนั่นทำให้เขาชะงัก
เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?
ดวงตาทอดมองใบหน้าของเธออย่างลังเล ในหัวของเขามีคำถามมากมายที่ไม่มีคำตอบ แต่สิ่งเดียวที่เขารู้ในตอนนี้คือ—เขาไม่อยากละสายตาจากเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียวสายตาของเขามองลงไปที่ร่างบางซึ่งกำลังหลับใหลอยู่บนเตียง
ริมฝีปากคู่นั้น….ริมฝีปากที่เขาเคยสัมผัส กำลังเผยอเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งทำให้เธอดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยในยามหลับไหล ใบหน้าหวานดูสงบ ราวกับเจ้าหญิงที่กำลังจมอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ทำให้เขาอยากปกป้องและทะนุถนอมเธอมากยิ่งขึ้น
เขาเผลอยิ้มบางๆ โดยไม่รู้ตัว หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เธอ แม้แสงไฟสลัวจะทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างเล็กบนเตียง
พีท ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ ผู้หญิงสวย ๆ ที่เข้ามาหาเขามากมาย ทำไมเขาถึงไม่เคยสนใจเลยสักนิด? ทำไมเขาถึงต้องการเพียงแค่เธอ?
แค่เธอคนเดียว...
สายตาคมมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับใหลเต็มไปด้วยความหลงใหล ความรู้สึกที่แล่นพล่านอยู่ในอกทำให้เขากำหมัดแน่น
เธอทำให้เขาอยากสัมผัสเธอ...
ไม่ใช่แค่เพราะแรงปรารถนา แต่มันมากกว่านั้น มากจนเขาเองก็อธิบายไม่ได้
ชายหนุ่ม สูดลมหายใจลึก ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวไปที่ประตู มือหนาหมุนลูกบิดอย่างเงียบเชียบ พยายามไม่ให้เกิดเสียงรบกวนหญิงสาว
ก่อนที่เขาจะออกไป เขาหันกลับไปมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“ฝันดี... อันนา” เขาพึมพำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะปิดประตูห้องให้หญิงสาว จากนั้นตัวของเขาเองก็เดินออกไปสู่ค่ำคืนที่เงียบงัน
เขาเดินไปที่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่คู่ใจเมื่อสตาร์ทรถ เขาจงใจไม่เร่งเครื่องมากนักเพื่อลดเสียงรบกวน ไม่ให้ใครในหอพักต้องตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำแล้วไม่นาน ไฟท้ายของรถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ ละลายหายไปในความมืด ขณะที่เขาขับออกจากเขตหอพักของอันนา…บรรยากาศรอบตัวเขายังเงียบสงัด ถนนโล่งมีเพียงลมเย็นที่ปะทะใบหน้า ทำให้ความมึนง่วงจากคืนอันยาวนานค่อย ๆ จางลงเล็กน้อยแต่มีสิ่งที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในใจของเขา มันไม่ใช่เพียงแค่ความหลงใหล มันลึกซึ้งกว่านั้น อันตรายกว่านั้นมันคือความปรารถนาในตัวอันนา...ความปรารถนาที่ตัวเขาเองยังรู้สึกหวาดหวั่นเขากลัวเหลือเกินว่า สักวันหนึ่ง…เขาอาจจะหยุดความรู้สึกนี้ไว้ไม่ได้ อาจจะเผลอปล่อยให้ความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ กลืนกินสติสัมปชัญญะของเขาไปทั้งหมด และบางที...บางทีคืนนี้อาจเป็นคืนที่เขาเข้าใกล้ขีดจำกัดของตัวเองมากที่สุดแล้วพีท เร่งเครื่อง มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ของเขาทุกครั้งที่เขากลับบ้าน มักจะเป็นหัวค่ำ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ ครั้งนี้เขากลับมาตอนฟ้าใกล้สาง… สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ลุงมิ่ง รปภ.ที่
แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนสายส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง อันนา พลิกตัวช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาคู่งามกวาดมองไปทั่วห้อง และแล้วเธอก็พบว่า…พีท…ไม่อยู่แล้วอันนา ชะงัก หัวใจเต้นแผ่วเบาเมื่อพบว่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เธอจำได้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เมื่อคืนเธอขยับนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภาพความทรงจำจากเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาสัมผัสร้อนแรง... ลมหายใจของเขาที่ใกล้จนได้ยินชัด... ริมฝีปากของเขาที่แนบลงมาหาเธอช้า ๆ แล้วจูบอย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนสัมผัสของมือหนาที่กอบกุมเต้าอกอวบอิ่มพร้อมทั้งแรงเคล้าคลึงด้วยความเบามือแต่แฝงด้วความผ่าวร้อนได้แผ่ซ่านผ่านชุดนอนบางจิ๋วเข้าไปยังเนินเนื้อยังคงติด ผิวกายของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนไหนมาก่อนอันนา ใบหน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอหลุบตามองต่ำ ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่ความฝันพีท... ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและสัมผัสของเขาเธอเองก็ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อนเลย มันทำให้เธอวาบหวามและอบอุ่นไปใ
ตอนบ่ายถึงเวลานัดหมายทำโครงการวิจัยร่วมกันของ ทั้ง 2 คนอันนาเดินเข้ามาในห้องทดลองพร้อมแฟ้มเอกสารแนบอก พยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอก้าวเท้าอย่างระมัดระวัง ขยับแว่นตาเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัส ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้อง แต่เธอยังไม่พบกับใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าและหัวใจของเธอตอนนี้ก็เต้นโครมคราม จนแทบจะระเบิดออกมาข้างนอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า… เธอจะต้องเผชิญหน้ากับพีท—เจ้าของรอยจูบและสัมผัสที่ยังทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เสื่อมคลายเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสะกดอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะเปิดเอกสารเพื่อเตรียมเริ่มงานแต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างกำยำของชายหนุ่ม ยืนพิงกรอบประตู เขายกยิ้มมุมปากพลางกอดอก สายตาคมมองเธอราวกับอ่านใจออก“ไง…” พีท ทักและลากเสียงเนิบนาบที่ฟังดูสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธออย่างไม่รีบร้อน ท่าทีของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าการพบกันครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ธรรมดา“ทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้นล่ะ? หรือว่า… คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่?”อันนาสะดุ้ง รีบหลบตาพีททันที หน้า
พีท ยืดแขนเพื่อบิดความเมื่อยล้า สายตาคมเข้มมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “สรุปว่าเย็นนี้ไปกินชาบูที่ไหนกันแน่นะ?”อันนา ที่กำลังเก็บของชะงักไปนิดหน่อยก่อนตอบ “โชติบอกว่าร้านชาบู หน้ามอ ร้านเดิมที่เคยไปกินประจำ”พีท เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างช้า ๆ ก่อนลากเสียงถาม“ที่เคยไปกินประจำ….ไปกินด้วยกันบ่อยรึไง?” เสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อได้ยินคำตอบอันนา เงยหน้าขึ้นมองพีทที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที สีหน้าเขาดูนิ่งขึ้น แต่แววตากลับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่“ก็… เคยไปกินด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมหรอ?”พีท เท้าแขนลงกับโต๊ะ จ้องเธอนิ่ง “ไปกันบ่อยแค่ไหน?”หญิงสาว เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและท่าทางของเขา “ก็… หลายครั้งอยู่ ทำไม นายมีปัญหาหรือไง?”พีท พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “เปล๊า~ แค่สงสัยว่าไปกันแค่สองคน หรือไปกันหลายคน”อันนา เลิกคิ้ว “บางทีก็หลายคน บางทีก็แค่ฉันกับโชติ”คำตอบนั้นทำให้ พีท ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงเล็กน้อย “แค่เธอกับโชติ?”อันนา เริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาดูไม่พอใจ“อืม บางครั้งก็แค่ฉันกับโชติสองคน ทำไมหรอ?”พีท จ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจ
ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้วหัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือเขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจแต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่มลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไปจูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจเธอเกลียดตัวเองที
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
"จะหนีไปไหน…แค่คิดว่า…ฉันอยากจะสำรวจมากขึ้น…?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นเล็กน้อยเธอ กลืนน้ำลายลงคอ พยายามผลักอกเขาออก แต่กลับสัมผัสได้ถึงผิวอุ่นและแนวกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่น่าหวั่นใจ"นาย!!!!...ปล่อยนะ" เธอพูดเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอกแต่แทนที่เขาจะปล่อย กลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนเธอรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจมั่นคงของเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ"ทำไมต้องหนีละ?" เขากระซิบเบาๆ ใกล้ใบหู ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวอันนา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสแนบชิดจากร่างกายของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายเธอเหมือนจะร้อนขึ้นกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว..."อยากสัมผัสอีกจัง…เธอตัวหอมมากรู้ไหม" พีท กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู ราวกับจงใจให้เสียงนั้นก้องอยู่ในความคิดของอันนา กลิ่นกายตอนอาบน้ำใหม่ๆ ของเธอหอมจนชายหนุ่มไม่อยากปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระเธอ แทบหยุดหายใจเมื่อจมูกโด่งของเขาแนบเข้ากับใบหูของเธอ สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงทำให้ร่างกายเธอสั่นไหว ลมหายใจอุ่นของเขารดราดอยู่บริเวณข้างแก้ม ปลุกความร้อนวูบวาบให้แล่นไปทั่วร่าง"อย่า..." เสียงของเธอแผ่
แสงแรกของรุ่งเช้าสาดส่องผ่านม่านบางเบา ทอประกายอ่อนโยนลงบนเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแนบชิดอยู่ข้างๆ ร่างกายอันกำยำ แขนเรียวบางพาดอยู่บนอกกว้าง ผิวกายเบียดเสียดกันอยู่อันนา ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ อาการมึนหัวอย่างหนักปรากฏต่อเธอ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของคนข้างกายความจริงที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เธอรีบขยับตัวออกห่าง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่หัวใจเต้นรัวแทบระเบิดและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังมีร่างของใครบางคนนอนเปลือยอกอยู่ใกล้ๆ เธอดวงหน้าคมเข้มของเขาหลับไหลอยู่แต่ชวนให้น่ามองทุกส่วนของใบหน้านั้นอันนา ทบทวน เธอสะดุ้งตื่นและสำรวจตัวเอง ตัวเธอเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียวห่อหุ้มตัวอยู่ เธอหน้าแดงก่ำ และนึกทบทวนว่าเธอจำอะไรได้บ้างพีท รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเตียงนอน เขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองร่างของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทาและกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ อันนา หันมาเจอสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาที่เธออยู่พอดี เธอรีบดึงผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดทันทีชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตลกในท่าทางของเธอ นี่เธอจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง"นี่…นี่…นาย…นายทำอะไรฉัน
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่
"ขึ้นไปกันเถอะ" เขาเอ่ยเสียงแหบต่ำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยี่หวา ก้าวลงมาเช่นกัน ส้นสูงของเธอกระทบพื้นเป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างกวินอย่างมั่นใจ ก่อนจะคว้าแขนเขาและพาเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรมเงียบสงบในยามดึก พนักงานต้อนรับทำหน้าที่รับข้อมูลจากแขกผู้มาเยือ ก่อนจะส่งกุญแจห้องให้ตามที่ ยี่หวา ต้องการเธอรับมันมา ก่อนจะจับมือ กวิน แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปกวิน ใช้สายตาจับจ้องเธอเหมือนจะกลืนกิน ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนยี่หวา หันมามองเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเจ้าเล่ห์ "มองยี่หวาแบบนี้ทำไม?"กวิน โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ "เพราะเธอร้อนแรงเกินกว่าจะละสายตานะสิ"เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ปลายนิ้วแตะลงบนอกของกวิน ไล้ไปตามสาบเสื้อของเขาเบาๆ"แล้วกวินแน่ใจเหรอ ว่ารับมือยี่หวาไหว?"ติ๊ง!เสียงลิฟต์ดังขึ้น ประตูเปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรมยี่หวา ดึงมือ เขาให้ก้าวออกไป ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะประตูห้อง แล้วเปิดออกพร้อมกับผลักเขาเข้าไปเบาๆภายในห้องกว้างขวาง มีแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ห
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้วหัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือเขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจแต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่มลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไปจูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจเธอเกลียดตัวเองที
พีท ยืดแขนเพื่อบิดความเมื่อยล้า สายตาคมเข้มมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “สรุปว่าเย็นนี้ไปกินชาบูที่ไหนกันแน่นะ?”อันนา ที่กำลังเก็บของชะงักไปนิดหน่อยก่อนตอบ “โชติบอกว่าร้านชาบู หน้ามอ ร้านเดิมที่เคยไปกินประจำ”พีท เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างช้า ๆ ก่อนลากเสียงถาม“ที่เคยไปกินประจำ….ไปกินด้วยกันบ่อยรึไง?” เสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อได้ยินคำตอบอันนา เงยหน้าขึ้นมองพีทที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที สีหน้าเขาดูนิ่งขึ้น แต่แววตากลับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่“ก็… เคยไปกินด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมหรอ?”พีท เท้าแขนลงกับโต๊ะ จ้องเธอนิ่ง “ไปกันบ่อยแค่ไหน?”หญิงสาว เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและท่าทางของเขา “ก็… หลายครั้งอยู่ ทำไม นายมีปัญหาหรือไง?”พีท พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “เปล๊า~ แค่สงสัยว่าไปกันแค่สองคน หรือไปกันหลายคน”อันนา เลิกคิ้ว “บางทีก็หลายคน บางทีก็แค่ฉันกับโชติ”คำตอบนั้นทำให้ พีท ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงเล็กน้อย “แค่เธอกับโชติ?”อันนา เริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาดูไม่พอใจ“อืม บางครั้งก็แค่ฉันกับโชติสองคน ทำไมหรอ?”พีท จ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจ