แชร์

ตอนที่ 4 เข้าวัง

ผู้เขียน: Jiulin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 18:55:17

วันรุ่งขึ้นลู่เหยียนซินถูกลี่ถิงปลุกขึ้นมาอาบน้ำตั้งแต่เช้า ดวงตาที่ยังไม่เต็มตื่นปากของนางก็ยังหาวหวอดๆ อยู่เลย 

“ลี่ถิง ข้าต้องแต่งตัวเช้าขนาดนี้เลยเหรอ”

“เตรียมตัวไว้เพคะพระชายา ท่านยังต้องกินอาหารก่อนเข้าวังอีกนะเพคะหากท่านอ๋องต้องคอยนานเกรงว่าพระชายาอาจจะถูกทำโทษอีก”

“ก็ได้”

ทางด้านเรือนฉางหมิงเมื่อเห็นว่าจวนจะสายแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นนางออกมา อ๋องฉินที่กำลังจะสั่งให้ชิงอีไปเรียกในตอนนั้นลู่เหยียนซินก็เดินออกมาพอดี  

นางสวมชุดกระโปรงสีชมพูหวานปักลวดลายดอกไม้สวยงามขับสีผิวขาวเนียนใส ที่เอวยังคาดเครื่องประดับสีเดียวกัน ทำให้เอวระหงยิ่งดูอรชรมากขึ้นดูอ่อนช้อยน่าหลงใหล มวยผมที่เกล้าขึ้นยังมีที่ปักผมรูปหางหงส์หยกดิ้นทองประดับอยู่เผยให้เห็นใบหน้าเล็กๆหวานใส แก้มแดงระเรื่อเมื่อโดนแสงแดดกลับสว่างใสมีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

“ไปกันได้หรือยังข้ามีงานต้องกลับมาทำต่อนะ”

“.....”

‘เป็นเขาที่รอนางนานไม่ใช่หรืออย่างไรกัน นางมาช้ายังจะกล้าบ่นอีก’

อ๋องฉินเดินนำหน้านางไปยังหน้าประตูจวน ลู่เหยียนซินหันมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นรถม้า ‘ไหนบอกว่ารีบ? รถม้าสักคันก็ไม่เห็นเตรียมเอาไว้แล้วจะมาเร่งนางทำไมกัน’

ลู่เหยียนซินที่มัวแต่ชะเง้อคอมองหารถม้า ไม่ทันสังเกตุว่าชิงอีกำลังจูงม้าประจำกายของอ๋องฉินมาทางด้านหลัง อ๋องฉินกระโดดขึ้นม้าพร้อมทั้งเอี้ยวตัวไปคว้าเอวบางของนางขึ้นมานั่งซ้อนด้านหน้าของตน

“ว๊าย!! ท่านจะทำอะไร” 

ลู่เหยียนซินตื่นตะหนกตกใจเป็นอย่างมาก จู่ๆอ๋องบ้าผู้นี้ก็คว้าเอวนางขึ้นบนหลังม้าไม่บอกกล่าวอะไรสักคำ หัวใจจะวาย

“อยู่นิ่งๆ อยากตกม้าตายหรืออย่างไร”

“ข้านึกว่าพวกเราจะนั่งรถม้าไปเสียอีก”

“รถม้าช้าไปข้ารอเจ้าแต่งตัวจนเกินเวลาแล้ว ฝ่าบาทกับฮองเฮาจะรอนาน”

“แล้วเหตุใดท่านไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า”

“.....” อ๋องฉินหมดคำจะพูดกับนาง ออกแรงส่งควบม้าไปข้างหน้าทันที

คนทั้งคู่นั่งบนหลังม้าไร้การพูดคุยกันแผ่นหลังของนางแนบชิดกับอกแกร่งของอ๋องฉิน ใกล้ชิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนพ่นรดข้างพวงแก้มของนาง

-หน้าประตูวังหลวง-

อ๋องฉินกระโดดลงจากหลังม้าก่อนแล้วยื่นมือไปคว้าเอวบางของนางลงจากหลังม้า เมื่อเท้าแตะถึงพื้นลู่เหยียนซินก็เดินไปข้างหน้าทันที ดวงตาสุกใสมองพระราชวังข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น

“ตามข้ามา แล้วอย่าพยายามสร้างเรื่องให้ข้าอีก”

“ข้าจะไปทำเช่นนั้นทำไมกันล่ะเพคะท่านอ๋อง”

คำพูดประจบประแจงก้ำกึ่งหยอกล้อทำให้อ๋องฉินได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอาใจ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้นางไม่คอยตามตอแยเขาเหมือนแต่ก่อนวันนี้เขาคงไม่อยากเข้าใกล้หรือพูดคุยกับนางเลยสักเพียงนิด

คนทั้งคู่เดินมาถึงหน้าท้องพระโรงก็มองเห็นเฉินกงกงที่ยืนหน้าระรื่นอยู่ก่อนแล้ว

“ท่านอ๋อง พระชายา”

“เสด็จพ่อล่ะ”

“อยู่ในห้องทรงพระอักษร กระหม่อมจะไปทูลฮ่องเต้เดี๋ยวนี้”

“อืม”

ในห้องทรงพระอักษรฮ่องเต้กับฮองเฮานั่งสนทนากันเพียงลำพังไร้ซึ่งเงาของข้ารับใช้ ไม่นานนักเฉินกงกงก็รีบเข้ามารายงานว่าอ๋องฉินกับพระชายาฉินมาถึงแล้วจึงรับสั่งให้ทั้งคู่เข้ามาทันที

เมื่อทั้งสองคนมาถึงก็คุกเข่าลงพร้อมกันแล้วพูดขึ้นว่า

“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮาเพคะ”

“ลุกขึ้นเถอะ” ฮองเฮากล่าวพร้อมแย้มสรวล กาลเวลาไม่ได้ทำให้พระพักตร์และผิวพรรณของพระองค์ลดความงดงามลงเลยกลับกันยิ่งผ่องใสมากขึ้น

ลู่เหยียนซินมองพระพักตร์อันมีเสน่ห์ของพระองค์ นางมองเห็นแววตาที่อ่อนโยนของฮองเฮาพลันทำให้นางคิดถึงผู้เป็นมารดาขึ้นมาทันที

“วันนี้ที่ข้าเรียกพวกเจ้าเข้าวังเพียงเพราะจะสอบถามสถานการณ์ในจวนอ๋องของพวกเจ้า”

“เรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าแต่งงานกับพระชายามาครึ่งปีได้แล้วเหตุใดถึงยังไม่มีทายาทตัวน้อยๆ ให้ข้าอีก”

“เสด็จแม่เรื่องนี้ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่าพะย่ะค่ะ”

“ค่อยเป็นค่อยไปอย่างไรกันราชวงศ์ของเรายังไม่มีทายาทเลยสักคน ทั้งรัชทายาทและอ๋องซุนต่างก็มีชายาของตัวเองแล้วแต่กลับยังไม่มีผู้ใดมีองค์ชายองค์หญิงน้อยให้ข้าเลยสักคน หากข้าจะร้อนใจผิดตรงไหนกัน” 

ฮองเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแห่งความผิดหวังสีพระพักตร์เศร้าหมองจนเห็นได้ชัด นางตั้งตารอทายาทขององค์ชายทุกคนมาหลายปีไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงหรือองค์ชายก็ได้ทั้งนั้น 

ก่อนหน้านี้พระชายารัชทายาทตั้งครรภ์นางก็ดีใจจนเนื้อเต้นทั้งยังทรงคัดสรรยาบำรุงต่างๆ ส่งไปให้นางด้วยตัวเอง แต่ไม่นานนักพระชายารัชทายาทกลับแท้งลูกนั่นเท่ากับว่าการตั้งตารอคอยของนางก็ไร้ความหมายโดยปริยาย

มาครั้งนี้อ๋องฉินที่แต่งพระชายาเข้าจวนนานนับครึ่งปีแล้วแต่กลับยังไม่มีทายาทออกมาให้นางเลยสักคน ไม่ให้นางเคร่งเคลียดได้เช่นไรกันเล่า

ลู่เหยียนซินมองเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของฮองเฮาก็นึกสงสารนาง 

“เจ้าได้กินยาบำรุงที่แม่ส่งไปให้บ้างหรือไม่”

แม่? ฮองเฮาถึงกับเอ่ยสรรพนามสั้นๆแทนพระองค์ออกมา สร้างความประหลาดใจให้แก่ฮ่องเต้และฉินอ๋องเป็นอย่างมาก 

“ยาบำรุงหรือเพคะ?”

ฮองเฮามองเห็นสีหน้างงงวยของลู่เหยียนซินก็รู้ทันทีว่าอ๋องฉินคงจะสั่งให้คนนำไปทิ้งก่อนหน้านี้แล้ว

“เหตุใดเจ้าถึงชอบทำให้ข้าผิดหวังอยู่เรื่อยนะเยว่เหวินหมิง เจ้าอยากให้ข้าตรอมใจตายเลยหรืออย่างไร” 

“โธ่ชีวิตที่น่าสงสารของข้า ข้าน่าจะแต่งเข้าบ้านบัณฑิตธรรมดาๆไม่น่าแต่งเข้าราชวงศ์ที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ป่านนี้ข้าคงได้หลานตัวน้อยๆมากอดแล้ว”

“ฮองเฮาตรัสอะไรเช่นนั้น” ฮ่องเต้กล่าวอย่างนึกเหนื่อยใจ ต้องแสดงละครขนาดนั้นเชียวหรือ?

“หากพวกเจ้าทั้งสองพยายามไม่มากพอ  เช่นนั้นเจ้าก็แต่งชายารองเข้ามาสักคนสิ หยางซูฉินนางตามติดเจ้ามาเนิ่นนานพวกเจ้ารักใคร่ปรองดองกันข้านั้นรู้มานานแล้ว หากชายาของเจ้าไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เช่นนั้นก็แต่งนางเข้ามาเถอะ”

“ฮองเฮา!/เสด็จแม่!”

ฮ่องเต้เอ่ยปรามฮองเฮาก่อนจะลอบมองไปยังลู่เหยียนซินแต่สีหน้าของนางนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ก่อนหน้านี้นางเคยลั่นวาจาว่าจะไม่ให้อ๋องฉินแต่งชายารองโดยเด็ดขาดมาตอนนี้นางกลับนิ่งเฉยเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?

“พระชายาฉิน หากข้าอนุญาตให้อ๋องฉินแต่งชายารองเจ้าคิดเห็นสิ่งใดบ้าง”

“ไม่มีความเห็นเพคะ”

อ๋องฉินเดิมที่เอาแต่เงียบหันมองไปยังนางทันที 

‘จะไม่มีความเห็นได้เช่นไรกันก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่านางคัดค้านหัวชนฝาอย่างไรก็ไม่ให้เขาแต่งชายารองเด็ดขาดไม่ใช่หรือ’

“เช่นนั้นข้าจะออกราชโองการให้อ๋องฉินแต่งชายารองเข้ามาในจวนก็แล้วกัน”

“ลูกยังไม่อยากแต่งชายารองตอนนี้พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”

“เจ้าว่าอะไรนะ!”

“ลูกคนแรกของข้าควรที่จะเกิดจากพระชายาเอกก่อนพ่ะย่ะค่ะ ลูกไม่อยากมีปัญหาหากว่าลูกคนแรกเกิดจากชายารองเกรงว่าจะต้องเกิดการแย่งชิงกันแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิดอันใด”

ฮ่องเต้ฟังน้ำเสียงเยือกเย็นแล้วรู้สึกเสียวสันหลังกันเลยทีเดียว เขาซับเหงื่อเบาๆพลางจับจ้องใบหน้าของลู่เหยียนซิน ฮ่องเต้หลี่ตาลงพร้อมเกิดความคิดอันบรรเจิดทันที

“แต่งมาก็ครึ่งปีแล้วยังไม่มีทายาทสักทีเห็นทีพวกเจ้าคงไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้กระมัง”

“เวลานี้รัชทายาทเรียนรู้งานกับข้าที่วังหลวงยังไม่มีเวลาออกว่าราชการยังหัวเมืองต่างๆ”

“เจ้าเป็นโอรสที่เกิดจากฮองเฮาของข้าอีกคนหนึ่ง ดังนั้นข้าจะมอบหมายให้เจ้าไปยังชายแดนเหนือไปที่เมืองจี้โจวช่วยแม่ทัพฮั่วขจัดภัยแล้ง ข้าได้ยินมาว่าจี้โจวตอนนี้นั้นประสบภัยแล้งอย่างหนักราษฎรอดอยากเจ้าจงไปแก้ความวิบัตินี้เสีย หากแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าหรือจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อ….พระชายาฉินตั้งครรภ์แล้วเท่านั้น!”

“เสด็จพ่อ! แก้ภัยแล้งจะไปแก้ได้ภายในเดือนสองเดือนได้เช่นไรกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ทำไม? เจ้าทำไม่ได้หรือ อ๋องเทพสงครามเช่นเจ้ามีสิ่งใดที่ทำไม่ได้กัน”

“ไม่ใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะเพียงแต่ว่าหากข้าต้องเดินทางไปชายแดนเหนือไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด เพียงแค่อยากจะขอเสด็จพ่อให้พระชายาเดินทางไปกับข้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“งั้นหรือ ได้สิข้าอนุญาต”

ลู่เหยียนซินเบิกตากว้างนางอ้าปากค้างทันที อ๋องฉินเห็นสีหน้าของนางก็คิดว่านางคงจะไม่อยากไปที่แห้งแล้งทุรกันดานคงจะทรมานยิ่ง เขายกยิ้มพลางหันไปมองฮ่องเต้อีกครั้ง

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ ลูกรับบัญชาพร้อมออกเดินทางไปจี้โจวทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีๆ ข้าหวังว่าจะมีข่าวดีจะหนึ่งเรื่องหรือสองเรื่องข้าก็จะรอฟังข่าว เจ้าเดินทางปลอดภัยนะลูกรัก” ฮองเฮารีบเอื้อนเอ่ยทันทีที่ได้ยินว่าพระชายาฉินต้องตามไปด้วยก็รู้สึกว่ามีความหวังขึ้นมาทันที การอยู่ใกล้ชิดกันเพียงลำพังสองคนไม่นานหรอกข้าได้อุ้มหลานแน่!

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”

ไม่มีใครสนใจลู่เหยียนซินเลยสักคน นางได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ทีตาละห้อย

“ไหนท่านอ๋องบอกว่าหม่อมฉันนั้นโง่เขลา หากต้องเดินทางไปด้วยไม่เท่ากับเป็นภาระของพระองค์หรือ หม่อมฉันไปด้วยจะช่วยอะไรพระองค์ได้ล่ะเพคะ” ลู่เหยียนซินกล่าวด้วยเสียงลอดไรฟันออกมาพลางยิ้มให้อ๋องฉินแววตาคู่หนึ่งของนางเหมือนดั่งมีดที่ต้องการแทงทะลุตัวเขาได้

อ๋องฉินไม่สนใจเขารู้ว่านางโกรธแต่เขาพยายามจะให้เรื่องนี้จบอย่างไว เขาหันกลับไปมองพระพักตร์ของฮ่องเต้และฮองเฮาตามเดิม

“ไปให้กำลังใจท่านอ๋องหน่อยก็ดีสามีภรรยาควรอยู่เคียงข้างกันคิดจะทำสิ่งใดก็ควรปรึกษาหารือกันก่อนเสมอ ไปครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหนข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องห่างจากกันอีก” ฮองเฮาพูดขึ้นมาอารมณ์นางดีขึ้นจากเมื่อครู่มาก

ลู่เหยียนซินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแข้งขาอ่อนขึ้นมาทันที นางลอบมองอ๋องฉินหวังให้เขาปฏิเสธแต่ตาอ๋องบ้านี่กลับนิ่งเฉยไหนบอกเกลียดนาง แล้วเหตุใดต้องนำนางไปด้วยกันเล่า

“ระหว่างเดินทางไปจี้โจวอาจจะยากลำบากสักหน่อยข้าจะส่งยาบำรุงไปให้เจ้านำติดตัวไปด้วย เจ้าต้องกินดื่มทุกวันจะบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี เพื่อรอรับองค์ชายองค์หญิงตัวน้อยนะเหยียนเอ๋อร์”

นางยิ้มตอบฮองเฮาด้วยสายตาละห้อยก่อนจะหันมองไปยังอ๋องฉินก็เห็นเขาลอบมองนางอยู่ก่อนแล้วมุมปากที่เหยียดยิ้มหมายความว่าเช่นไร! เขาต้องการแกล้งนางงั้นหรือ?

เดินทางไปชายแดนต้องพบกับความยากลำบาก ใช่สินะ! ให้คนรักของตัวเองอยู่สบายส่วนข้าต้องติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยเพื่อเอาไปทรมาน ความคิดของคนผู้นี้ช่างชั่วร้ายเสียจริง!

“ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา”

ฮองเฮาทอดพระเนตรมองดูคนทั้งคู่ด้วยความปลื้มปิติยินดีอย่างยิ่ง

“เอาล่ะพระชายาฉินเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องหารือต่อกับอ๋องฉินอีกเล็กน้อย”

“เพคะ”

คล้อยหลังพระชายาฉินออกไปแล้ว ฮองเฮาเองก็ขอตัวกลับไปยังตำหนักในทันที ฮ่องเต้กลับมามีสีหน้าเคร่งขรึมตามเดิม

“ยามนี้ที่ชายแดนเหนือมีกลุ่มคนคอยปล้นเสบียงอาหารเงินทองของมีค่า  พวกมันฆ่าชาวบ้านเหมือนผักเหมือนปลาให้ได้มาเพื่อสิ่งที่พวกมันต้องการ ชาวบ้านนับร้อยพันต่างสูญเสียเดือดร้อนถ้วนหน้า”

“ความจริงแล้วข้าตั้งใจเพียงให้แม่ทัพฮั่วเป็นคนจัดการเองแต่จนตอนนี้เรื่องยังยืดเยื้อไม่จบสิ้นทั้งภัยแล้งที่กัดกินมาเป็นเวลายาวนาน เจ้าไปครั้งนี้ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยพสกนิกรได้ไม่มากก็น้อย” ฮ่องเต้มองบุตรชายของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความหวัง

“ลูกจะทำสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”

“พระชายาของเจ้านำนางไปด้วยอาจลำบากสักหน่อย แต่ข้ามีลางสังหรณ์ว่าในบางเวลานางอาจช่วยเจ้าได้”

อ๋องฉินส่ายหัวทันทีนางจะเป็นภาระของเขาถึงจะรู้อยู่ก่อนแล้วแต่นำนางไปด้วยเป็นการทรมานนางอีกวิธีหนึ่ง เขายิ้มด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก

ฮ่องเต้เห็นเขายิ้มที่มุมปากก็คิดเอาไว้แล้วว่าลูกคนนี้น่าจะหาทางทรมานพระชายาตัวเองเป็นแน่ 

'เฮอะ! แรกๆก็แบบนี้หลังๆกลัวจะเหมือนสุนัขที่ขาดเจ้าของไม่ได้นะสิ ข้ารู้ ข้าเห็น เพราะข้าผ่านมาก่อน… ลูกข้าจะเหมือนใครถ้าไม่ใช่ข้ากัน!'

อ๋องฉินนั้นเป็นองค์ชายลำดับที่สามของฮ่องเต้เยว่เหวินเทียน แห่งแคว้นเป่ยฉี

ฮ่องเต้เยว่เหวินเทียนมีเหล่าองค์ชายองค์หญิงมากมายแต่ทายาทสายตรงที่เกิดจากฮองเฮาและพระสนมชั้นสูงมีเพียง 

องค์รัชทายาทเยว่เหวินเฉินองค์ชายลำดับที่หนึ่งและอ๋องฉินเยว่เหมินหมิงองค์ชายลำดับที่สามที่เกิดจากฮองเฮาองค์ปัจจุบัน

อ๋องอี้เยว่เหวินหลี่ องค์ชายลำดับที่สองที่เกิดจากหยางกุ้ยเฟยและอ๋องซุนเยว่เหวินจุน องค์ชายลำดับที่สี่ที่เกิดจากหลินเต๋อเฟย

อ๋องฉินผู้นี้มีความสามารถในด้านการรบที่มากฝีมือ ทั้งวรยุทธ์ยังล้ำเลิศกว่าผู้ใด เขากุมอำนาจทางการทหาร เป็นท่านอ๋องที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากฮ่องเต้เป็นอย่างมาก

ในบรรดาองค์ชายทั้งหมดคนที่มีวรยุทธ์สูงสุดคืออ๋องฉิน ทุกครั้งที่ต้องฝึกวรยุทธ์ร่วมกันกับเหล่าพี่น้องเขาก็ไม่เคยคิดจะออมมือเลยสักครั้ง

“เอาล่ะเจ้ากลับจวนไปได้แล้วไปเตรียมตัวเดินทางเสีย มองหน้าเจ้านานไปข้าเริ่มหายใจไม่ออก”

อ๋องฉินพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วกล่าวเพียงสั้นๆว่า 

“ทรงชรามากแล้ว รักษาพระวรกายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“เยว่เหวินหมิง!”   ฮ่องเต้ขว้างที่ฝนหมึกมุ่งตรงไปทางเขาทันที อ๋องฉินหลบได้ทันเขาเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องทรงพระอักษรอย่างรวดเร็วก่อนที่ฮ่องเต้จะได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังแว่วเข้ามาในห้อง

‘เจ้าลูกคนนี้นับวันยิ่งอาจหาญมากขึ้น น่าตีให้ตายเสียจริง!’

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 5 พบเจอเสด็จปู่

    ทางด้านลู่เหยียนซินเมื่อออกมาจากห้องทรงพระอักษร ก็พบเข้ากับคนผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะมายืนรอนางอยู่ก่อนแล้ว"พระชายาท่านนี้คือฉางกงกงเป็นขันทีและข้ารับใช้ประจำกายของไท่ซ่างหวงที่ตำหนักซูหนิงพ่ะย่ะค่ะ""อ๋อ งั้นหรือ" ‘ถ้าเช่นนั้นเวลานี้ก็ต้องอยู่รับใช้ไท่ซ่างหวงสิเหตุใดถึงมายืนอยู่ตรงนี้กัน’"พระชายา ไท่ซ่างหวงมีรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงรีบเข้ามารายงานทันทีเมื่อเห็นพระชายาฉินเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษร'ไท่ซ่างหวงเรียกหางั้นหรือ?’"ข้าเคยไปทำสิ่งใดให้พระองค์โกรธเคืองหรือไม่" เมื่อไม่แน่ใจว่าเจ้าของร่างเดิมนี้แต่ก่อนได้ก่อเรื่องสร้างราวใดๆทิ้งไว้หรือไม่ จึงต้องเอ่ยปากถามออกไปด้วยความหวาดระแวง"หามิได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา พระองค์แค่ทรงต้องการพูดคุยด้วยเท่านั้นเองพะย่ะค่ะ"เหล่าราชวงศ์คนชั้นสูงไม่มีทางที่จะเรียกเข้าพบเพียงเพื่ออยากพูดคุยด้วยเท่านั้นแน่คงต้องมีเรื่องอะไรให้นางปวดหัวอีกแน่นอน เมื่อครู่ก็พึ่งจะโดนบังคับให้เดินทางไปชายแดนเหนือครั้งนี้จะโดนบังคับทำสิ่งใดอีก!"โว้ย! ข้าอยากจะบ้าตาย" นางขยี้ผมแรงๆด้วยความโมโหจนกงกงทั้งสองมองด้วยความตื่นตกใจ ‘เหตุใดพระชายาถึงไม่รักษากิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 6 ออกเดินทางไปเมืองจี้โจว

    -เช้าวันต่อมา-"พระชายาทายาอีกสักหน่อยเถิดนะเพคะ ยังต้องนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันแผ่นหลังของท่านต้องระบมอีกเป็นแน่""พอแล้วไว้ค่อยทาทีหลังเถอะรีบไปขึ้นรถม้ากัน จวนจะได้เวลาออกเดินทางแล้ว""เจ้าเตรียมข้าวของของข้าครบแล้วใช่หรือไม่""ครบแล้วเพคะพระชายา""ไม่รู้เลยว่าต้องไปนานเท่าใดเมื่อวานข้ายุ่งๆ ทั้งวันจนลืมส่งข่าวให้ท่านพ่อเสียสนิทเลย""พระชายาไม่ต้องทรงเป็นกังวลเพคะเรื่องที่ท่านอ๋องกับพระชายาต้องเดินทางไปยังชายแดนเหนือเวลานี้ล่วงรู้กันทั้งเมืองแล้วล่ะเพคะ""หืม ใครกันช่างปากไวเช่นนี้เพียงแค่คืนเดียวรู้กันทั่วทั้งเมืองเลยงั้นหรือ"ลี่ถิงได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางไม่กล้าบอกว่าข่าวที่แพร่สะพัดไปนี้เป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 7 หุบเขาลึกลับ

    ‘รู้สึกไปเองรึป่าวนะ…’“ไม่มีอะไร พวกเรารีบอาบน้ำกันเถอะลี่ถิงข้ารู้สึกร้อนๆหนาวๆ ยังไงชอบกล”“เพคะพระชายา”ลู่เหยียนซินอาบน้ำไปอีกสักพักก็รู้สึกหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไรขนที่ลุกชันไม่ได้เกิดจากน้ำที่เย็นเยือกแต่เกิดจากบรรยากาศโดยรอบ นางจึงรีบขึ้นจากแม่น้ำทันทีลี่ถิงนำชุดมาให้นางเปลี่ยนเพราะเกรงว่าพระชายาของตนจะจับไข้เสียก่อน“ลี่ถิงกระโจมข้าอยู่ตรงไหน”“กระโจมใหญ่ตรงนั้นเพคะพระชายา”“งั้นหรือ?นอนกับเจ้าแค่สองคนไม่เห็นต้องทำกระโจมใหญ่ขนาดนั้นเลยนี่นา”“หาไม่เพคะพระชายา กระโจมนี้เป็นของท่านอ๋องกับพระชายาเพคะ”“ห๊า!เจ้าว่าอะไรนะ?” เมื่อได้ยินดังนั้นนางจึงหยุดฝีเท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 8 พระชายาป่วย

    การเดินทางยาวนานต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ห้าลู่เหยียนซินเหตุเพราะก่อนหน้านี้ร่างกายของนางเพิ่งถูกโบยมาแผลยังไม่ทันหายดี อีกทั้งการนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันเป็นเวลาห้าวันติดกันไม่สามารถขยับไปทางไหนได้การสั่นสะเทือนของรถม้าที่โครงเครงตลอดทางส่งผลให้ร่างกายของนางบอบช้ำขึ้นมาอีกระลอก เนื้อด้านหลังกระแทกกับแผ่นไม้หลายต่อหลายครั้งนางได้แต่อดทนมาตลอด แต่วันนี้ความเจ็บปวดกำเริบขึ้นมาอีกครั้งความรู้สึกปวดหนึบตามร่างกายเริ่มตีตื้นขึ้นมาและดูเหมือนจะส่งผลให้พิษไข้ค่อยๆ กำเริบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนางกินยาแก้อักเสบไว้แล้วแต่เพราะแผลด้านหลังนั้นลึกเกิน แม้จะกินยาหรือทายาทุกวันเพื่อให้ทุเลาลงไปบ้างแล้วแต่แผลก็ยังหายช้าอยู่ดีความเจ็บของบาดแผลส่งผลให้นางได้รับพิษไข้ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เหงื่อผุดขึ้นไหลย้อยลงจากศรีษะไหลไปตามกรอบหน้าของนางแล้วหยดลงบนเสื้อผ้าจนเปียกชุ่ม นางหลับตาลงพยายามฝืนความเจ็บปวดเอาไว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 9 ถึงเมืองจี้โจว

    การเดินทางมายังเมืองจี้โจวนั้นกินเวลามามากกว่าเจ็ดวันแล้ว ผ่านเส้นทางทุรกันดานของชนบทที่ห่างไกลความเจริญเข้าสู่เขตชายแดนเมืองจี้โจวในวันที่แปดพอดีขบวนเคลื่อนมาใกล้ตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางที่จะผ่านเข้าไปยังประตูเมืองนั้นต้องพบเจอกับหมู่บ้านน้อยใหญ่ ทิวทัศน์โดยรอบแสดงให้เห็นถึงความแร้นแค้นของชาวบ้านเป็นอย่างมากลู่เหยียนซินที่เลิกม่านขึ้นมองเห็นก็รู้สึกอนาจใจยิ่งนัก พืชผลทางการเกษตรแห้งแล้งล้มตายจำนวนมาก​ผู้คนอดอยากเห็นได้ชัดจากสีหน้าที่หม่นหมองของพวกเขาเหล่านั้น​ อีกทั้งยังต้องมาพบเจอกับโจรป่าที่บุกปล้นสะดมกันแทบทุกวันซ้ำเติมความทุกข์ยากเข้าไปอีกโจรป่าหรือโจรภูเขาที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากนั้นนับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ​ พวกเขาเหล่านั้นมาจากทั่วทุกสารทิศ​รวมตัวกันที่หุบเขาหูซานใกล้หมู่บ้านเหมยหลัน หมู่บ้านเหมยหลันอยู่ห่างจากตัวเมืองจี้โจว​ราวๆ40ลี้[1]

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 10 หมู่บ้านมู่หลาง

    เมื่อแม่ทัพฮั่วเดินทางมาถึงหมู่บ้านมู่หลางเขาถึงกลับต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าทันที เมื่อคืนเวลาประมาณยามโฉว่ (01.00-02.59 น.) เขาได้รับรายงานมาว่าหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านโดยรอบเมืองจี้โจวถูกโจรป่าบุกปล้นเขารีบส่งกองกำลังทหารมาช่วยแต่เพราะข่าวสารที่ล่าช้าเกินไปจึงมาไม่ทันการ ชาวบ้านถูกสังหารไปหลายชีวิตพวกทหารรุดหน้าไปช่วยหญิงสาวที่ถูกจับตัวไปและพึ่งจะส่งถึงมือชาวบ้านก็เช้าตรู่นี่เอง แม่ทัพฮั่วส่งท่านหมอโจหมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในตัวเมืองจี้โจวมาช่วยรักษาคนเจ็บที่นี่ เขาไม่สามารถส่งหมอออกมาได้หลายคนนักเพราะเมื่อคืนหมู่บ้านรอบๆก็ถูกปล้นเช่นกัน จึงต้องแบ่งท่านหมอกระจายกันออกไปตามหมู่บ้านต่างๆหมู่บ้านมู่หลางดูจะได้รับความเลวร้ายที่สุดพวกโจรป่าบุกฆ่าไม่เว้นหญิงชายทั้งยังเผาบ้านเรือนไปหลายหลัง พอมาเห็นด้วยตาของตนเองจึงรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก“ทำความเคารพท่านแม่ทัพขอรับ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 11 การมาของหยางซูฉิน Part1

    “ท่านดูหงุดหงิดใจไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เป็นอะไรไปนางทำอะไรให้ท่านกัน”“ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าเพียงแต่…”“หืม”“แล้วเหตุใดข้าต้องมานั่งอธิบายให้เจ้าฟังด้วย!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านอ๋องหากอยากได้ที่ปรึกษาข้าพร้อมตลอดเวลานะ”“พูดบ้าอะไรของเจ้า ไปไกลๆข้าเลยนะ”พวกเขาเงียบปากลงทันทีเมื่อเห็นลู่เหยียนซินเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ“สถานการณ์เป็นเช่นใดบ้างพ่ะย่ะค่ะพระชายา” เป็นชิงอีที่เอ่ยปากถามนางก่อน“น่าจะคงที่แล้วล่ะคงต้องรบกวนท่านแม่ทัพช่วยเปลี่ยนท่านหมอมาดูแลที่นี่ต่อด้วยนะเจ้าคะ ท่านหมอโจเองก็อยู่ที่นี่มาทั้งคืนแล้วต้องให้เขาพักผ่อนบ้าง”“ไม่มีปัญหา ข้าจะรีบส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 12 การมาของหยางซูฉิน Part2

    “คาราวะพระชายาฉินเพคะ""อืม"ลู่เหยียนซินตอบกลับเพียงคำเดียวก่อนจะตั้งท่าเดินเลี่ยงไปยังห้องนอนของนาง"เดี๋ยวก่อน!" เสียงดุดันของบุรุษแทรกเข้ามาทันทีลู่เหยียนซินหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมามองบุรุษที่เรียกขานนางด้วยความไม่สบอารมณ์ยิ่ง นางจึงหันหลังไปสั่งให้ลี่ถิงล่วงหน้าไปรอที่ห้องก่อน"วันนี้เจ้าหายไปไหนมา""ข้าหรือ?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าถามผู้ใด""ข้าก็เพียงแต่คิดว่าท่านอ๋องจะสนใจสตรีผู้งามพร้อมไปด้วยกิริยาและหน้าตาที่อยู่ตรงหน้าท่าน ไม่สนใจจะใคร่ถามว่าข้าหายไปไหนมา""เจ้าอย่าได้ต่อปากต่อคำให้มากนัก ข้าเพียงแต่ถามเจ้าว่า..."

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 13 ทำคลอดฮูหยินฮั่ว

    วันถัดไปอ๋องฉินสั่งเรียกแม่ทัพทั้งสองประชุมหารือเรื่องปราบโจรภูเขา พวกเขาหารือกันตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดก้าวเท้าออกมาเลยสักคนหลี่เจ้อหยูบ่าวรับใช้ประจำกายของแม่ทัพฮั่วรีบควบม้าตรงดิ่งมายังจวนเจ้าเมืองด้วยความเร่งรีบเมื่อมาถึงหน้าจวนเขาลนลานลงจากหลังม้าและรีบวิ่งเข้าไปในจวนจนแทบจะสะดุดกับขอบประตู ยังดีที่ทหารหน้าประตูรับไว้ได้ทัน คนผู้นี้มาที่จวนแห่งนี้กับท่านแม่ทัพฮั่วอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่เคยชิน ทหารเหล่านั้นจึงปล่อยให้เขาเข้าไปด้านในไม่ได้ขวางเอาไว้เขารีบวิ่งเข้ามาในจวนด้วยความรวดเร็วแม่ทัพฮั่วมองเห็นมาแต่ไกลแล้ว หากไม่มีเหตุการณ์ใดที่สำคัญจริงๆ คนผู้นี้จะไม่กล้าเข้ามารบกวนในเวลาแบบนี้เป็นแน่“นายท่าน นายท่านขอรับ!”“มีเรื่องอะไร”“ฮูหยิน ฮูหยินตกเลือดขอร

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 12 การมาของหยางซูฉิน Part2

    “คาราวะพระชายาฉินเพคะ""อืม"ลู่เหยียนซินตอบกลับเพียงคำเดียวก่อนจะตั้งท่าเดินเลี่ยงไปยังห้องนอนของนาง"เดี๋ยวก่อน!" เสียงดุดันของบุรุษแทรกเข้ามาทันทีลู่เหยียนซินหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมามองบุรุษที่เรียกขานนางด้วยความไม่สบอารมณ์ยิ่ง นางจึงหันหลังไปสั่งให้ลี่ถิงล่วงหน้าไปรอที่ห้องก่อน"วันนี้เจ้าหายไปไหนมา""ข้าหรือ?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าถามผู้ใด""ข้าก็เพียงแต่คิดว่าท่านอ๋องจะสนใจสตรีผู้งามพร้อมไปด้วยกิริยาและหน้าตาที่อยู่ตรงหน้าท่าน ไม่สนใจจะใคร่ถามว่าข้าหายไปไหนมา""เจ้าอย่าได้ต่อปากต่อคำให้มากนัก ข้าเพียงแต่ถามเจ้าว่า..."

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 11 การมาของหยางซูฉิน Part1

    “ท่านดูหงุดหงิดใจไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เป็นอะไรไปนางทำอะไรให้ท่านกัน”“ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าเพียงแต่…”“หืม”“แล้วเหตุใดข้าต้องมานั่งอธิบายให้เจ้าฟังด้วย!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านอ๋องหากอยากได้ที่ปรึกษาข้าพร้อมตลอดเวลานะ”“พูดบ้าอะไรของเจ้า ไปไกลๆข้าเลยนะ”พวกเขาเงียบปากลงทันทีเมื่อเห็นลู่เหยียนซินเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ“สถานการณ์เป็นเช่นใดบ้างพ่ะย่ะค่ะพระชายา” เป็นชิงอีที่เอ่ยปากถามนางก่อน“น่าจะคงที่แล้วล่ะคงต้องรบกวนท่านแม่ทัพช่วยเปลี่ยนท่านหมอมาดูแลที่นี่ต่อด้วยนะเจ้าคะ ท่านหมอโจเองก็อยู่ที่นี่มาทั้งคืนแล้วต้องให้เขาพักผ่อนบ้าง”“ไม่มีปัญหา ข้าจะรีบส

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 10 หมู่บ้านมู่หลาง

    เมื่อแม่ทัพฮั่วเดินทางมาถึงหมู่บ้านมู่หลางเขาถึงกลับต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าทันที เมื่อคืนเวลาประมาณยามโฉว่ (01.00-02.59 น.) เขาได้รับรายงานมาว่าหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านโดยรอบเมืองจี้โจวถูกโจรป่าบุกปล้นเขารีบส่งกองกำลังทหารมาช่วยแต่เพราะข่าวสารที่ล่าช้าเกินไปจึงมาไม่ทันการ ชาวบ้านถูกสังหารไปหลายชีวิตพวกทหารรุดหน้าไปช่วยหญิงสาวที่ถูกจับตัวไปและพึ่งจะส่งถึงมือชาวบ้านก็เช้าตรู่นี่เอง แม่ทัพฮั่วส่งท่านหมอโจหมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในตัวเมืองจี้โจวมาช่วยรักษาคนเจ็บที่นี่ เขาไม่สามารถส่งหมอออกมาได้หลายคนนักเพราะเมื่อคืนหมู่บ้านรอบๆก็ถูกปล้นเช่นกัน จึงต้องแบ่งท่านหมอกระจายกันออกไปตามหมู่บ้านต่างๆหมู่บ้านมู่หลางดูจะได้รับความเลวร้ายที่สุดพวกโจรป่าบุกฆ่าไม่เว้นหญิงชายทั้งยังเผาบ้านเรือนไปหลายหลัง พอมาเห็นด้วยตาของตนเองจึงรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก“ทำความเคารพท่านแม่ทัพขอรับ”

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 9 ถึงเมืองจี้โจว

    การเดินทางมายังเมืองจี้โจวนั้นกินเวลามามากกว่าเจ็ดวันแล้ว ผ่านเส้นทางทุรกันดานของชนบทที่ห่างไกลความเจริญเข้าสู่เขตชายแดนเมืองจี้โจวในวันที่แปดพอดีขบวนเคลื่อนมาใกล้ตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางที่จะผ่านเข้าไปยังประตูเมืองนั้นต้องพบเจอกับหมู่บ้านน้อยใหญ่ ทิวทัศน์โดยรอบแสดงให้เห็นถึงความแร้นแค้นของชาวบ้านเป็นอย่างมากลู่เหยียนซินที่เลิกม่านขึ้นมองเห็นก็รู้สึกอนาจใจยิ่งนัก พืชผลทางการเกษตรแห้งแล้งล้มตายจำนวนมาก​ผู้คนอดอยากเห็นได้ชัดจากสีหน้าที่หม่นหมองของพวกเขาเหล่านั้น​ อีกทั้งยังต้องมาพบเจอกับโจรป่าที่บุกปล้นสะดมกันแทบทุกวันซ้ำเติมความทุกข์ยากเข้าไปอีกโจรป่าหรือโจรภูเขาที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากนั้นนับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ​ พวกเขาเหล่านั้นมาจากทั่วทุกสารทิศ​รวมตัวกันที่หุบเขาหูซานใกล้หมู่บ้านเหมยหลัน หมู่บ้านเหมยหลันอยู่ห่างจากตัวเมืองจี้โจว​ราวๆ40ลี้[1]

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 8 พระชายาป่วย

    การเดินทางยาวนานต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ห้าลู่เหยียนซินเหตุเพราะก่อนหน้านี้ร่างกายของนางเพิ่งถูกโบยมาแผลยังไม่ทันหายดี อีกทั้งการนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันเป็นเวลาห้าวันติดกันไม่สามารถขยับไปทางไหนได้การสั่นสะเทือนของรถม้าที่โครงเครงตลอดทางส่งผลให้ร่างกายของนางบอบช้ำขึ้นมาอีกระลอก เนื้อด้านหลังกระแทกกับแผ่นไม้หลายต่อหลายครั้งนางได้แต่อดทนมาตลอด แต่วันนี้ความเจ็บปวดกำเริบขึ้นมาอีกครั้งความรู้สึกปวดหนึบตามร่างกายเริ่มตีตื้นขึ้นมาและดูเหมือนจะส่งผลให้พิษไข้ค่อยๆ กำเริบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนางกินยาแก้อักเสบไว้แล้วแต่เพราะแผลด้านหลังนั้นลึกเกิน แม้จะกินยาหรือทายาทุกวันเพื่อให้ทุเลาลงไปบ้างแล้วแต่แผลก็ยังหายช้าอยู่ดีความเจ็บของบาดแผลส่งผลให้นางได้รับพิษไข้ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เหงื่อผุดขึ้นไหลย้อยลงจากศรีษะไหลไปตามกรอบหน้าของนางแล้วหยดลงบนเสื้อผ้าจนเปียกชุ่ม นางหลับตาลงพยายามฝืนความเจ็บปวดเอาไว้

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 7 หุบเขาลึกลับ

    ‘รู้สึกไปเองรึป่าวนะ…’“ไม่มีอะไร พวกเรารีบอาบน้ำกันเถอะลี่ถิงข้ารู้สึกร้อนๆหนาวๆ ยังไงชอบกล”“เพคะพระชายา”ลู่เหยียนซินอาบน้ำไปอีกสักพักก็รู้สึกหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไรขนที่ลุกชันไม่ได้เกิดจากน้ำที่เย็นเยือกแต่เกิดจากบรรยากาศโดยรอบ นางจึงรีบขึ้นจากแม่น้ำทันทีลี่ถิงนำชุดมาให้นางเปลี่ยนเพราะเกรงว่าพระชายาของตนจะจับไข้เสียก่อน“ลี่ถิงกระโจมข้าอยู่ตรงไหน”“กระโจมใหญ่ตรงนั้นเพคะพระชายา”“งั้นหรือ?นอนกับเจ้าแค่สองคนไม่เห็นต้องทำกระโจมใหญ่ขนาดนั้นเลยนี่นา”“หาไม่เพคะพระชายา กระโจมนี้เป็นของท่านอ๋องกับพระชายาเพคะ”“ห๊า!เจ้าว่าอะไรนะ?” เมื่อได้ยินดังนั้นนางจึงหยุดฝีเท

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 6 ออกเดินทางไปเมืองจี้โจว

    -เช้าวันต่อมา-"พระชายาทายาอีกสักหน่อยเถิดนะเพคะ ยังต้องนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันแผ่นหลังของท่านต้องระบมอีกเป็นแน่""พอแล้วไว้ค่อยทาทีหลังเถอะรีบไปขึ้นรถม้ากัน จวนจะได้เวลาออกเดินทางแล้ว""เจ้าเตรียมข้าวของของข้าครบแล้วใช่หรือไม่""ครบแล้วเพคะพระชายา""ไม่รู้เลยว่าต้องไปนานเท่าใดเมื่อวานข้ายุ่งๆ ทั้งวันจนลืมส่งข่าวให้ท่านพ่อเสียสนิทเลย""พระชายาไม่ต้องทรงเป็นกังวลเพคะเรื่องที่ท่านอ๋องกับพระชายาต้องเดินทางไปยังชายแดนเหนือเวลานี้ล่วงรู้กันทั้งเมืองแล้วล่ะเพคะ""หืม ใครกันช่างปากไวเช่นนี้เพียงแค่คืนเดียวรู้กันทั่วทั้งเมืองเลยงั้นหรือ"ลี่ถิงได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางไม่กล้าบอกว่าข่าวที่แพร่สะพัดไปนี้เป

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 5 พบเจอเสด็จปู่

    ทางด้านลู่เหยียนซินเมื่อออกมาจากห้องทรงพระอักษร ก็พบเข้ากับคนผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะมายืนรอนางอยู่ก่อนแล้ว"พระชายาท่านนี้คือฉางกงกงเป็นขันทีและข้ารับใช้ประจำกายของไท่ซ่างหวงที่ตำหนักซูหนิงพ่ะย่ะค่ะ""อ๋อ งั้นหรือ" ‘ถ้าเช่นนั้นเวลานี้ก็ต้องอยู่รับใช้ไท่ซ่างหวงสิเหตุใดถึงมายืนอยู่ตรงนี้กัน’"พระชายา ไท่ซ่างหวงมีรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงรีบเข้ามารายงานทันทีเมื่อเห็นพระชายาฉินเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษร'ไท่ซ่างหวงเรียกหางั้นหรือ?’"ข้าเคยไปทำสิ่งใดให้พระองค์โกรธเคืองหรือไม่" เมื่อไม่แน่ใจว่าเจ้าของร่างเดิมนี้แต่ก่อนได้ก่อเรื่องสร้างราวใดๆทิ้งไว้หรือไม่ จึงต้องเอ่ยปากถามออกไปด้วยความหวาดระแวง"หามิได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา พระองค์แค่ทรงต้องการพูดคุยด้วยเท่านั้นเองพะย่ะค่ะ"เหล่าราชวงศ์คนชั้นสูงไม่มีทางที่จะเรียกเข้าพบเพียงเพื่ออยากพูดคุยด้วยเท่านั้นแน่คงต้องมีเรื่องอะไรให้นางปวดหัวอีกแน่นอน เมื่อครู่ก็พึ่งจะโดนบังคับให้เดินทางไปชายแดนเหนือครั้งนี้จะโดนบังคับทำสิ่งใดอีก!"โว้ย! ข้าอยากจะบ้าตาย" นางขยี้ผมแรงๆด้วยความโมโหจนกงกงทั้งสองมองด้วยความตื่นตกใจ ‘เหตุใดพระชายาถึงไม่รักษากิ

DMCA.com Protection Status