Share

ตอนที่ 4 เข้าวัง

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2024-12-14 18:55:17

วันรุ่งขึ้นลู่เหยียนซินถูกลี่ถิงปลุกขึ้นมาอาบน้ำตั้งแต่เช้า ดวงตาที่ยังไม่เต็มตื่นปากของนางก็ยังหาวหวอดๆ อยู่เลย 

“ลี่ถิง ข้าต้องแต่งตัวเช้าขนาดนี้เลยเหรอ”

“เตรียมตัวไว้เพคะพระชายา ท่านยังต้องกินอาหารก่อนเข้าวังอีกนะเพคะหากท่านอ๋องต้องคอยนานเกรงว่าพระชายาอาจจะถูกทำโทษอีก”

“ก็ได้”

ทางด้านเรือนฉางหมิงเมื่อเห็นว่าจวนจะสายแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นนางออกมา อ๋องฉินที่กำลังจะสั่งให้ชิงอีไปเรียกในตอนนั้นลู่เหยียนซินก็เดินออกมาพอดี  

นางสวมชุดกระโปรงสีชมพูหวานปักลวดลายดอกไม้สวยงามขับสีผิวขาวเนียนใส ที่เอวยังคาดเครื่องประดับสีเดียวกัน ทำให้เอวระหงยิ่งดูอรชรมากขึ้นดูอ่อนช้อยน่าหลงใหล มวยผมที่เกล้าขึ้นยังมีที่ปักผมรูปหางหงส์หยกดิ้นทองประดับอยู่เผยให้เห็นใบหน้าเล็กๆหวานใส แก้มแดงระเรื่อเมื่อโดนแสงแดดกลับสว่างใสมีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

“ไปกันได้หรือยังข้ามีงานต้องกลับมาทำต่อนะ”

“.....”

‘เป็นเขาที่รอนางนานไม่ใช่หรืออย่างไรกัน นางมาช้ายังจะกล้าบ่นอีก’

อ๋องฉินเดินนำหน้านางไปยังหน้าประตูจวน ลู่เหยียนซินหันมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นรถม้า ‘ไหนบอกว่ารีบ? รถม้าสักคันก็ไม่เห็นเตรียมเอาไว้แล้วจะมาเร่งนางทำไมกัน’

ลู่เหยียนซินที่มัวแต่ชะเง้อคอมองหารถม้า ไม่ทันสังเกตุว่าชิงอีกำลังจูงม้าประจำกายของอ๋องฉินมาทางด้านหลัง อ๋องฉินกระโดดขึ้นม้าพร้อมทั้งเอี้ยวตัวไปคว้าเอวบางของนางขึ้นมานั่งซ้อนด้านหน้าของตน

“ว๊าย!! ท่านจะทำอะไร” 

ลู่เหยียนซินตื่นตะหนกตกใจเป็นอย่างมาก จู่ๆอ๋องบ้าผู้นี้ก็คว้าเอวนางขึ้นบนหลังม้าไม่บอกกล่าวอะไรสักคำ หัวใจจะวาย

“อยู่นิ่งๆ อยากตกม้าตายหรืออย่างไร”

“ข้านึกว่าพวกเราจะนั่งรถม้าไปเสียอีก”

“รถม้าช้าไปข้ารอเจ้าแต่งตัวจนเกินเวลาแล้ว ฝ่าบาทกับฮองเฮาจะรอนาน”

“แล้วเหตุใดท่านไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า”

“.....” อ๋องฉินหมดคำจะพูดกับนาง ออกแรงส่งควบม้าไปข้างหน้าทันที

คนทั้งคู่นั่งบนหลังม้าไร้การพูดคุยกันแผ่นหลังของนางแนบชิดกับอกแกร่งของอ๋องฉิน ใกล้ชิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนพ่นรดข้างพวงแก้มของนาง

-หน้าประตูวังหลวง-

อ๋องฉินกระโดดลงจากหลังม้าก่อนแล้วยื่นมือไปคว้าเอวบางของนางลงจากหลังม้า เมื่อเท้าแตะถึงพื้นลู่เหยียนซินก็เดินไปข้างหน้าทันที ดวงตาสุกใสมองพระราชวังข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น

“ตามข้ามา แล้วอย่าพยายามสร้างเรื่องให้ข้าอีก”

“ข้าจะไปทำเช่นนั้นทำไมกันล่ะเพคะท่านอ๋อง”

คำพูดประจบประแจงก้ำกึ่งหยอกล้อทำให้อ๋องฉินได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอาใจ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้นางไม่คอยตามตอแยเขาเหมือนแต่ก่อนวันนี้เขาคงไม่อยากเข้าใกล้หรือพูดคุยกับนางเลยสักเพียงนิด

คนทั้งคู่เดินมาถึงหน้าท้องพระโรงก็มองเห็นเฉินกงกงที่ยืนหน้าระรื่นอยู่ก่อนแล้ว

“ท่านอ๋อง พระชายา”

“เสด็จพ่อล่ะ”

“อยู่ในห้องทรงพระอักษร กระหม่อมจะไปทูลฮ่องเต้เดี๋ยวนี้”

“อืม”

ในห้องทรงพระอักษรฮ่องเต้กับฮองเฮานั่งสนทนากันเพียงลำพังไร้ซึ่งเงาของข้ารับใช้ ไม่นานนักเฉินกงกงก็รีบเข้ามารายงานว่าอ๋องฉินกับพระชายาฉินมาถึงแล้วจึงรับสั่งให้ทั้งคู่เข้ามาทันที

เมื่อทั้งสองคนมาถึงก็คุกเข่าลงพร้อมกันแล้วพูดขึ้นว่า

“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮาเพคะ”

“ลุกขึ้นเถอะ” ฮองเฮากล่าวพร้อมแย้มสรวล กาลเวลาไม่ได้ทำให้พระพักตร์และผิวพรรณของพระองค์ลดความงดงามลงเลยกลับกันยิ่งผ่องใสมากขึ้น

ลู่เหยียนซินมองพระพักตร์อันมีเสน่ห์ของพระองค์ นางมองเห็นแววตาที่อ่อนโยนของฮองเฮาพลันทำให้นางคิดถึงผู้เป็นมารดาขึ้นมาทันที

“วันนี้ที่ข้าเรียกพวกเจ้าเข้าวังเพียงเพราะจะสอบถามสถานการณ์ในจวนอ๋องของพวกเจ้า”

“เรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าแต่งงานกับพระชายามาครึ่งปีได้แล้วเหตุใดถึงยังไม่มีทายาทตัวน้อยๆ ให้ข้าอีก”

“เสด็จแม่เรื่องนี้ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่าพะย่ะค่ะ”

“ค่อยเป็นค่อยไปอย่างไรกันราชวงศ์ของเรายังไม่มีทายาทเลยสักคน ทั้งรัชทายาทและอ๋องซุนต่างก็มีชายาของตัวเองแล้วแต่กลับยังไม่มีผู้ใดมีองค์ชายองค์หญิงน้อยให้ข้าเลยสักคน หากข้าจะร้อนใจผิดตรงไหนกัน” 

ฮองเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแห่งความผิดหวังสีพระพักตร์เศร้าหมองจนเห็นได้ชัด นางตั้งตารอทายาทขององค์ชายทุกคนมาหลายปีไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงหรือองค์ชายก็ได้ทั้งนั้น 

ก่อนหน้านี้พระชายารัชทายาทตั้งครรภ์นางก็ดีใจจนเนื้อเต้นทั้งยังทรงคัดสรรยาบำรุงต่างๆ ส่งไปให้นางด้วยตัวเอง แต่ไม่นานนักพระชายารัชทายาทกลับแท้งลูกนั่นเท่ากับว่าการตั้งตารอคอยของนางก็ไร้ความหมายโดยปริยาย

มาครั้งนี้อ๋องฉินที่แต่งพระชายาเข้าจวนนานนับครึ่งปีแล้วแต่กลับยังไม่มีทายาทออกมาให้นางเลยสักคน ไม่ให้นางเคร่งเคลียดได้เช่นไรกันเล่า

ลู่เหยียนซินมองเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของฮองเฮาก็นึกสงสารนาง 

“เจ้าได้กินยาบำรุงที่แม่ส่งไปให้บ้างหรือไม่”

แม่? ฮองเฮาถึงกับเอ่ยสรรพนามสั้นๆแทนพระองค์ออกมา สร้างความประหลาดใจให้แก่ฮ่องเต้และฉินอ๋องเป็นอย่างมาก 

“ยาบำรุงหรือเพคะ?”

ฮองเฮามองเห็นสีหน้างงงวยของลู่เหยียนซินก็รู้ทันทีว่าอ๋องฉินคงจะสั่งให้คนนำไปทิ้งก่อนหน้านี้แล้ว

“เหตุใดเจ้าถึงชอบทำให้ข้าผิดหวังอยู่เรื่อยนะเยว่เหวินหมิง เจ้าอยากให้ข้าตรอมใจตายเลยหรืออย่างไร” 

“โธ่ชีวิตที่น่าสงสารของข้า ข้าน่าจะแต่งเข้าบ้านบัณฑิตธรรมดาๆไม่น่าแต่งเข้าราชวงศ์ที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ป่านนี้ข้าคงได้หลานตัวน้อยๆมากอดแล้ว”

“ฮองเฮาตรัสอะไรเช่นนั้น” ฮ่องเต้กล่าวอย่างนึกเหนื่อยใจ ต้องแสดงละครขนาดนั้นเชียวหรือ?

“หากพวกเจ้าทั้งสองพยายามไม่มากพอ  เช่นนั้นเจ้าก็แต่งชายารองเข้ามาสักคนสิ หยางซูฉินนางตามติดเจ้ามาเนิ่นนานพวกเจ้ารักใคร่ปรองดองกันข้านั้นรู้มานานแล้ว หากชายาของเจ้าไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เช่นนั้นก็แต่งนางเข้ามาเถอะ”

“ฮองเฮา!/เสด็จแม่!”

ฮ่องเต้เอ่ยปรามฮองเฮาก่อนจะลอบมองไปยังลู่เหยียนซินแต่สีหน้าของนางนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ก่อนหน้านี้นางเคยลั่นวาจาว่าจะไม่ให้อ๋องฉินแต่งชายารองโดยเด็ดขาดมาตอนนี้นางกลับนิ่งเฉยเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?

“พระชายาฉิน หากข้าอนุญาตให้อ๋องฉินแต่งชายารองเจ้าคิดเห็นสิ่งใดบ้าง”

“ไม่มีความเห็นเพคะ”

อ๋องฉินเดิมที่เอาแต่เงียบหันมองไปยังนางทันที 

‘จะไม่มีความเห็นได้เช่นไรกันก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่านางคัดค้านหัวชนฝาอย่างไรก็ไม่ให้เขาแต่งชายารองเด็ดขาดไม่ใช่หรือ’

“เช่นนั้นข้าจะออกราชโองการให้อ๋องฉินแต่งชายารองเข้ามาในจวนก็แล้วกัน”

“ลูกยังไม่อยากแต่งชายารองตอนนี้พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”

“เจ้าว่าอะไรนะ!”

“ลูกคนแรกของข้าควรที่จะเกิดจากพระชายาเอกก่อนพ่ะย่ะค่ะ ลูกไม่อยากมีปัญหาหากว่าลูกคนแรกเกิดจากชายารองเกรงว่าจะต้องเกิดการแย่งชิงกันแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิดอันใด”

ฮ่องเต้ฟังน้ำเสียงเยือกเย็นแล้วรู้สึกเสียวสันหลังกันเลยทีเดียว เขาซับเหงื่อเบาๆพลางจับจ้องใบหน้าของลู่เหยียนซิน ฮ่องเต้หลี่ตาลงพร้อมเกิดความคิดอันบรรเจิดทันที

“แต่งมาก็ครึ่งปีแล้วยังไม่มีทายาทสักทีเห็นทีพวกเจ้าคงไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้กระมัง”

“เวลานี้รัชทายาทเรียนรู้งานกับข้าที่วังหลวงยังไม่มีเวลาออกว่าราชการยังหัวเมืองต่างๆ”

“เจ้าเป็นโอรสที่เกิดจากฮองเฮาของข้าอีกคนหนึ่ง ดังนั้นข้าจะมอบหมายให้เจ้าไปยังชายแดนเหนือไปที่เมืองจี้โจวช่วยแม่ทัพฮั่วขจัดภัยแล้ง ข้าได้ยินมาว่าจี้โจวตอนนี้นั้นประสบภัยแล้งอย่างหนักราษฎรอดอยากเจ้าจงไปแก้ความวิบัตินี้เสีย หากแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าหรือจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อ….พระชายาฉินตั้งครรภ์แล้วเท่านั้น!”

“เสด็จพ่อ! แก้ภัยแล้งจะไปแก้ได้ภายในเดือนสองเดือนได้เช่นไรกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ทำไม? เจ้าทำไม่ได้หรือ อ๋องเทพสงครามเช่นเจ้ามีสิ่งใดที่ทำไม่ได้กัน”

“ไม่ใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะเพียงแต่ว่าหากข้าต้องเดินทางไปชายแดนเหนือไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด เพียงแค่อยากจะขอเสด็จพ่อให้พระชายาเดินทางไปกับข้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“งั้นหรือ ได้สิข้าอนุญาต”

ลู่เหยียนซินเบิกตากว้างนางอ้าปากค้างทันที อ๋องฉินเห็นสีหน้าของนางก็คิดว่านางคงจะไม่อยากไปที่แห้งแล้งทุรกันดานคงจะทรมานยิ่ง เขายกยิ้มพลางหันไปมองฮ่องเต้อีกครั้ง

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ ลูกรับบัญชาพร้อมออกเดินทางไปจี้โจวทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีๆ ข้าหวังว่าจะมีข่าวดีจะหนึ่งเรื่องหรือสองเรื่องข้าก็จะรอฟังข่าว เจ้าเดินทางปลอดภัยนะลูกรัก” ฮองเฮารีบเอื้อนเอ่ยทันทีที่ได้ยินว่าพระชายาฉินต้องตามไปด้วยก็รู้สึกว่ามีความหวังขึ้นมาทันที การอยู่ใกล้ชิดกันเพียงลำพังสองคนไม่นานหรอกข้าได้อุ้มหลานแน่!

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”

ไม่มีใครสนใจลู่เหยียนซินเลยสักคน นางได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ทีตาละห้อย

“ไหนท่านอ๋องบอกว่าหม่อมฉันนั้นโง่เขลา หากต้องเดินทางไปด้วยไม่เท่ากับเป็นภาระของพระองค์หรือ หม่อมฉันไปด้วยจะช่วยอะไรพระองค์ได้ล่ะเพคะ” ลู่เหยียนซินกล่าวด้วยเสียงลอดไรฟันออกมาพลางยิ้มให้อ๋องฉินแววตาคู่หนึ่งของนางเหมือนดั่งมีดที่ต้องการแทงทะลุตัวเขาได้

อ๋องฉินไม่สนใจเขารู้ว่านางโกรธแต่เขาพยายามจะให้เรื่องนี้จบอย่างไว เขาหันกลับไปมองพระพักตร์ของฮ่องเต้และฮองเฮาตามเดิม

“ไปให้กำลังใจท่านอ๋องหน่อยก็ดีสามีภรรยาควรอยู่เคียงข้างกันคิดจะทำสิ่งใดก็ควรปรึกษาหารือกันก่อนเสมอ ไปครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหนข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องห่างจากกันอีก” ฮองเฮาพูดขึ้นมาอารมณ์นางดีขึ้นจากเมื่อครู่มาก

ลู่เหยียนซินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแข้งขาอ่อนขึ้นมาทันที นางลอบมองอ๋องฉินหวังให้เขาปฏิเสธแต่ตาอ๋องบ้านี่กลับนิ่งเฉยไหนบอกเกลียดนาง แล้วเหตุใดต้องนำนางไปด้วยกันเล่า

“ระหว่างเดินทางไปจี้โจวอาจจะยากลำบากสักหน่อยข้าจะส่งยาบำรุงไปให้เจ้านำติดตัวไปด้วย เจ้าต้องกินดื่มทุกวันจะบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี เพื่อรอรับองค์ชายองค์หญิงตัวน้อยนะเหยียนเอ๋อร์”

นางยิ้มตอบฮองเฮาด้วยสายตาละห้อยก่อนจะหันมองไปยังอ๋องฉินก็เห็นเขาลอบมองนางอยู่ก่อนแล้วมุมปากที่เหยียดยิ้มหมายความว่าเช่นไร! เขาต้องการแกล้งนางงั้นหรือ?

เดินทางไปชายแดนต้องพบกับความยากลำบาก ใช่สินะ! ให้คนรักของตัวเองอยู่สบายส่วนข้าต้องติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยเพื่อเอาไปทรมาน ความคิดของคนผู้นี้ช่างชั่วร้ายเสียจริง!

“ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา”

ฮองเฮาทอดพระเนตรมองดูคนทั้งคู่ด้วยความปลื้มปิติยินดีอย่างยิ่ง

“เอาล่ะพระชายาฉินเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องหารือต่อกับอ๋องฉินอีกเล็กน้อย”

“เพคะ”

คล้อยหลังพระชายาฉินออกไปแล้ว ฮองเฮาเองก็ขอตัวกลับไปยังตำหนักในทันที ฮ่องเต้กลับมามีสีหน้าเคร่งขรึมตามเดิม

“ยามนี้ที่ชายแดนเหนือมีกลุ่มคนคอยปล้นเสบียงอาหารเงินทองของมีค่า  พวกมันฆ่าชาวบ้านเหมือนผักเหมือนปลาให้ได้มาเพื่อสิ่งที่พวกมันต้องการ ชาวบ้านนับร้อยพันต่างสูญเสียเดือดร้อนถ้วนหน้า”

“ความจริงแล้วข้าตั้งใจเพียงให้แม่ทัพฮั่วเป็นคนจัดการเองแต่จนตอนนี้เรื่องยังยืดเยื้อไม่จบสิ้นทั้งภัยแล้งที่กัดกินมาเป็นเวลายาวนาน เจ้าไปครั้งนี้ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยพสกนิกรได้ไม่มากก็น้อย” ฮ่องเต้มองบุตรชายของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความหวัง

“ลูกจะทำสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”

“พระชายาของเจ้านำนางไปด้วยอาจลำบากสักหน่อย แต่ข้ามีลางสังหรณ์ว่าในบางเวลานางอาจช่วยเจ้าได้”

อ๋องฉินส่ายหัวทันทีนางจะเป็นภาระของเขาถึงจะรู้อยู่ก่อนแล้วแต่นำนางไปด้วยเป็นการทรมานนางอีกวิธีหนึ่ง เขายิ้มด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก

ฮ่องเต้เห็นเขายิ้มที่มุมปากก็คิดเอาไว้แล้วว่าลูกคนนี้น่าจะหาทางทรมานพระชายาตัวเองเป็นแน่ 

'เฮอะ! แรกๆก็แบบนี้หลังๆกลัวจะเหมือนสุนัขที่ขาดเจ้าของไม่ได้นะสิ ข้ารู้ ข้าเห็น เพราะข้าผ่านมาก่อน… ลูกข้าจะเหมือนใครถ้าไม่ใช่ข้ากัน!'

อ๋องฉินนั้นเป็นองค์ชายลำดับที่สามของฮ่องเต้เยว่เหวินเทียน แห่งแคว้นเป่ยฉี

ฮ่องเต้เยว่เหวินเทียนมีเหล่าองค์ชายองค์หญิงมากมายแต่ทายาทสายตรงที่เกิดจากฮองเฮาและพระสนมชั้นสูงมีเพียง 

องค์รัชทายาทเยว่เหวินเฉินองค์ชายลำดับที่หนึ่งและอ๋องฉินเยว่เหมินหมิงองค์ชายลำดับที่สามที่เกิดจากฮองเฮาองค์ปัจจุบัน

อ๋องอี้เยว่เหวินหลี่ องค์ชายลำดับที่สองที่เกิดจากหยางกุ้ยเฟยและอ๋องซุนเยว่เหวินจุน องค์ชายลำดับที่สี่ที่เกิดจากหลินเต๋อเฟย

อ๋องฉินผู้นี้มีความสามารถในด้านการรบที่มากฝีมือ ทั้งวรยุทธ์ยังล้ำเลิศกว่าผู้ใด เขากุมอำนาจทางการทหาร เป็นท่านอ๋องที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากฮ่องเต้เป็นอย่างมาก

ในบรรดาองค์ชายทั้งหมดคนที่มีวรยุทธ์สูงสุดคืออ๋องฉิน ทุกครั้งที่ต้องฝึกวรยุทธ์ร่วมกันกับเหล่าพี่น้องเขาก็ไม่เคยคิดจะออมมือเลยสักครั้ง

“เอาล่ะเจ้ากลับจวนไปได้แล้วไปเตรียมตัวเดินทางเสีย มองหน้าเจ้านานไปข้าเริ่มหายใจไม่ออก”

อ๋องฉินพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วกล่าวเพียงสั้นๆว่า 

“ทรงชรามากแล้ว รักษาพระวรกายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“เยว่เหวินหมิง!”   ฮ่องเต้ขว้างที่ฝนหมึกมุ่งตรงไปทางเขาทันที อ๋องฉินหลบได้ทันเขาเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องทรงพระอักษรอย่างรวดเร็วก่อนที่ฮ่องเต้จะได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังแว่วเข้ามาในห้อง

‘เจ้าลูกคนนี้นับวันยิ่งอาจหาญมากขึ้น น่าตีให้ตายเสียจริง!’

Related chapters

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 5 พบเจอเสด็จปู่

    ทางด้านลู่เหยียนซินเมื่อออกมาจากห้องทรงพระอักษร ก็พบเข้ากับคนผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะมายืนรอนางอยู่ก่อนแล้ว"พระชายาท่านนี้คือฉางกงกงเป็นขันทีและข้ารับใช้ประจำกายของไท่ซ่างหวงที่ตำหนักซูหนิงพ่ะย่ะค่ะ""อ๋อ งั้นหรือ" ‘ถ้าเช่นนั้นเวลานี้ก็ต้องอยู่รับใช้ไท่ซ่างหวงสิเหตุใดถึงมายืนอยู่ตรงนี้กัน’"พระชายา ไท่ซ่างหวงมีรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงรีบเข้ามารายงานทันทีเมื่อเห็นพระชายาฉินเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษร'ไท่ซ่างหวงเรียกหางั้นหรือ?’"ข้าเคยไปทำสิ่งใดให้พระองค์โกรธเคืองหรือไม่" เมื่อไม่แน่ใจว่าเจ้าของร่างเดิมนี้แต่ก่อนได้ก่อเรื่องสร้างราวใดๆทิ้งไว้หรือไม่ จึงต้องเอ่ยปากถามออกไปด้วยความหวาดระแวง"หามิได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา พระองค์แค่ทรงต้องการพูดคุยด้วยเท่านั้นเองพะย่ะค่ะ"เหล่าราชวงศ์คนชั้นสูงไม่มีทางที่จะเรียกเข้าพบเพียงเพื่ออยากพูดคุยด้วยเท่านั้นแน่คงต้องมีเรื่องอะไรให้นางปวดหัวอีกแน่นอน เมื่อครู่ก็พึ่งจะโดนบังคับให้เดินทางไปชายแดนเหนือครั้งนี้จะโดนบังคับทำสิ่งใดอีก!"โว้ย! ข้าอยากจะบ้าตาย" นางขยี้ผมแรงๆด้วยความโมโหจนกงกงทั้งสองมองด้วยความตื่นตกใจ ‘เหตุใดพระชายาถึงไม่รักษากิ

    Last Updated : 2024-12-14
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 6 ออกเดินทางไปเมืองจี้โจว

    -เช้าวันต่อมา-"พระชายาทายาอีกสักหน่อยเถิดนะเพคะ ยังต้องนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันแผ่นหลังของท่านต้องระบมอีกเป็นแน่""พอแล้วไว้ค่อยทาทีหลังเถอะรีบไปขึ้นรถม้ากัน จวนจะได้เวลาออกเดินทางแล้ว""เจ้าเตรียมข้าวของของข้าครบแล้วใช่หรือไม่""ครบแล้วเพคะพระชายา""ไม่รู้เลยว่าต้องไปนานเท่าใดเมื่อวานข้ายุ่งๆ ทั้งวันจนลืมส่งข่าวให้ท่านพ่อเสียสนิทเลย""พระชายาไม่ต้องทรงเป็นกังวลเพคะเรื่องที่ท่านอ๋องกับพระชายาต้องเดินทางไปยังชายแดนเหนือเวลานี้ล่วงรู้กันทั้งเมืองแล้วล่ะเพคะ""หืม ใครกันช่างปากไวเช่นนี้เพียงแค่คืนเดียวรู้กันทั่วทั้งเมืองเลยงั้นหรือ"ลี่ถิงได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางไม่กล้าบอกว่าข่าวที่แพร่สะพัดไปนี้เป็นฝีมือของคุณหนูหยาง เพราะกลัวว่าพระชายาจะโกรธหยางซูฉินจนก่อเรื่องขึ้นมาอีกเมื่อเดินออกมาจากเรือนซินหยางก็มองเห็นบ่าวในจวนช่วยกันยกหีบสัมภาระขึ้นบนรถม้ากันขวักไขว่ข้าวของรุงรังเต็มไปหมด เมื่อพวกเขาหันมาเห็นนางจึงรีบทำความเคารพ ลู่เหยียนซินโบกมือเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องสนใจนางพวกเขาจึงรีบไปทำงานต่อทันทีลู่เหยียนซินรีบเร่งฝีเท้าไปขึ้นรถม้าที่หน้าจวน เพื่อออกนอกเมืองไปสมทบกับกองทหารของอ๋องฉินอีกทีหนึ่งเมื

    Last Updated : 2024-12-15
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 7 หุบเขาลึกลับ

    "พระชายาเหตุใดถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะเพคะ""จะเป็นไรไปล่ะท่านอ๋องมีใจรักใคร่ต่อแม่นางหยางผู้นั้นส่วนตัวข้าเองก็ไม่มีจิตพิศวาสกับท่านอ๋องอีกแล้ว ในเมื่อทั้งข้าและท่านอ๋องต่างก็ไม่ได้รักใคร่กันการหย่าขาดจากกันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว""พระชายาอย่าได้พูดเช่นนั้นออกไปนะเพคะ หากท่านอ๋องโกรธขึ้นมาเป็นพระชายาเองที่จะเดือดร้อน""จะโกรธข้าด้วยเรื่องใดกันมีแต่จะดีใจน่ะสิที่หลุดพ้นจากข้าไปได้""พระชายา...""หรือว่าที่เจ้าคัดค้านเพราะไม่อยากไปลำบากข้างนอกกับข้า วางใจเถอะหากข้าได้หนังสือหย่าแล้วข้าจะทูลขอให้ท่านอ๋องรับเจ้าไว้เป็นหญิงรับใช้ในจวนต่อไป""ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกเพคะพระชายาอยู่ที่ไหนหม่อมฉันก็จะอยู่ที่นั่น เพียงแต่หม่อมฉันไม่อยากให้พระชายาลำบากอยู่ข้างนอกคนเดียวเพคะ""เมื่อครู่เจ้าก็เพิ่งพูดไปว่าจะไม่มีทางทิ้งข้า ก็นั่นอย่างไรเล่าข้าต้องอยู่ตัวคนเดียวที่ไหนมีเจ้าอยู่ด้วยนี่นา" นางพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ลี่ถิงเห็นแววตาของนางดูมีความสุขต่างจากเมื่อก่อนมากก็ไม่กล้าพูดขัดนางอีกต่อไป"ลี่ถิง การเป็นคนธรรมดาคงจะรู้สึกดีกว่าการอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันนะ วันข้างหน้าไม่รู้ว

    Last Updated : 2024-12-15
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 8 ผู้เฒ่าปริศนา

    ‘รู้สึกไปเองรึป่าวนะ…’“ไม่มีอะไร พวกเรารีบอาบน้ำกันเถอะลี่ถิงข้ารู้สึกร้อนๆหนาวๆ ยังไงชอบกล”“เพคะพระชายา”ลู่เหยียนซินอาบน้ำไปอีกสักพักก็รู้สึกหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไรขนที่ลุกชันไม่ได้เกิดจากน้ำที่เย็นเยือกแต่เกิดจากบรรยากาศโดยรอบ นางจึงรีบขึ้นจากแม่น้ำทันทีลี่ถิงนำชุดมาให้นางเปลี่ยนเพราะเกรงว่าพระชายาของตนจะจับไข้เสียก่อน “ลี่ถิงกระโจมข้าอยู่ตรงไหน”“กระโจมใหญ่ตรงนั้นเพคะพระชายา”“งั้นหรือ?นอนกับเจ้าแค่สองคนไม่เห็นต้องทำกระโจมใหญ่ขนาดนั้นเลยนี่นา”“หาไม่เพคะพระชายา กระโจมนี้เป็นของท่านอ๋องกับพระชายาเพคะ”“ห๊า!เจ้าว่าอะไรนะ?” เมื่อได้ยินดังนั้นนางจึงหยุดฝีเท้าลงหันหลังกลับไปมองยังลี่ถิงด้วยใบหน้าที่งุนงงระคนตกใจ“พระชายาท่านเป็นชายาของท่านอ๋องไม่ให้อยู่กระโจมเดียวกันกับท่านอ๋อง แล้วท่านจะไปนอนที่ไหนกันล่ะเพคะ” “ก็ให้ข้านอนกับเจ้าก็ได้นี่นา ท่านอ๋องเกลียดข้าอย่างกับอะไรดีจะมานอนร่วมเตียงเดียวกันได้เช่นไร”“เป็นคำสั่งท่านอ๋องเพคะ” ลู่เหยียนซินเบ้ปากทันทีตาอ๋องบ้านี่ยังไงเกลียดนางก็ควรอยู่ให้ห่างจากนางสิ ให้นอนเตียงเดียวกันข้าจะหลับลงได้เช่นไรกันนางจำใจต้องเดินไปยังกระโจมใหญ่นั้นด้

    Last Updated : 2024-12-16
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 9 หลุดพ้นเสียที

    ‘ท่านผู้เฒ่าหายไปไหนแล้ว?’นางหันซ้ายหันขวาไม่พบผู้ใดทันใดนั้นก็ถูกกระชากจากคนด้านหลัง นางไม่ทันตั้งตัวเซไปซบที่หน้าอกของบุรุษตรงหน้าทันทีเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าเป็นอ๋องฉินเขาออกมาตามนางทำไมกัน!“บ้าจริงท่านกระชากข้าทำไม ข้าเกือบจะหกล้มไปแล้วนะ”“ใครใช้ให้เจ้าออกมาข้างนอกไม่บอกกล่าวข้าเช่นนี้”“ข้าปลุกท่านแล้วแต่ท่านไม่ยอมตื่นเสียที ข้าเพียงแต่ร้อนอยากออกมารับลมข้างนอกก็เท่านั้นเอง”“เจ้าปลุกข้าแล้วเช่นนั้นหรือ”“ปลุกไปแล้วพอออกมาข้างนอกก็พบทหารของท่านหลับกันทุกคน ข้าไม่มีเพื่อนคุยจึงเดินเล่นออกมาไกลไปหน่อยขอโทษท่านแล้วกัน”นางรีบเดินเลี่ยงออกมาเพื่อกลับกระโจมทันที เมื่อเข้ามาในกระโจมลู่เหยียนซินก็ก้มลงมองที่หน้าอกของตัวเองก็พบกับแหวนหยกสองชิ้นคล้องอยู่กับสายสร้อยเส้นหนึ่ง พระเจ้า!เรื่องเมื่อครู่ไม่ใช่ความฝันนี่นาอ๋องฉินมองตามจนนางหายลับเข้าไปในกระโจม จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกคนจะหลับกันหมด ป่าแห่งนี้น่ากลัวจะมีอาถรรพ์อะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นพวกเขาที่มีวรยุทธ์ไม่มีทางที่จะหลับขนาดที่ไม่ได้ยินเสียงผู้ใดย่างกรายเข้ามาเลย อีกทั้งลู่เหยียนซินเดินเสียงดังถึงเพียงนี้ไม่มีทางที่จะไม่มีใครได้

    Last Updated : 2024-12-16
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 10 พระชายาป่วย

    การเดินทางยาวนานต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ห้าลู่เหยียนซินเหตุเพราะก่อนหน้านี้ร่างกายของนางเพิ่งถูกโบยมาแผลยังไม่ทันหายดี อีกทั้งการนั่งอยู่บนรถม้าทั้งวันเป็นเวลาห้าวันติดกันไม่สามารถขยับไปทางไหนได้การสั่นสะเทือนของรถม้าที่โครงเครงตลอดทางส่งผลให้ร่างกายของนางบอบช้ำขึ้นมาอีกระลอก เนื้อด้านหลังกระแทกกับแผ่นไม้หลายต่อหลายครั้งนางได้แต่อดทนมาตลอด แต่วันนี้ความเจ็บปวดกำเริบขึ้นมาอีกครั้งความรู้สึกปวดหนึบตามร่างกายเริ่มตีตื้นขึ้นมาและดูเหมือนจะส่งผลให้พิษไข้ค่อยๆ กำเริบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนางกินยาแก้อักเสบไว้แล้วแต่เพราะแผลด้านหลังนั้นลึกเกิน แม้จะกินยาหรือทายาทุกวันเพื่อให้ทุเลาลงไปบ้างแล้วแต่แผลก็ยังหายช้าอยู่ดีความเจ็บของบาดแผลส่งผลให้นางได้รับพิษไข้ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เหงื่อผุดขึ้นไหลย้อยลงจากศรีษะไหลไปตามกรอบหน้าของนางแล้วหยดลงบนเสื้อผ้าจนเปียกชุ่ม นางหลับตาลงพยายามฝืนความเจ็บปวดเอาไว้“พระชายาเป็นเช่นใดบ้างเพคะ”“ข้ายังไหว” นางตอบลี่ถิงด้วยเสียงอันสั่นเครือ“ให้ข้าแจ้งท่านอ๋องหรือไม่เพคะ”“ไม่ต้อง ข้าไม่ใช่คนที่ฉินอ๋องจะเห็นใจหากรู้ว่าข้าไม่สบายมีแต่จะสมน้ำหน้าข้าเสียมากกว่า เขาอาจจะหา

    Last Updated : 2024-12-17
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 11 ระแวง

    “ยังไม่ถึงจี้โจวก็จับไข้เสียแล้ว อ่อนแอเสียจริง!”อ๋องฉินจำต้องผลัดเสื้อผ้าของนางออกพลันสายตาของเขาก็มองไปเห็นร่องรอยบนแผ่นหลังของนาง ร่องรอยที่ถูกโบยยังไม่จางหายนวลเนื้อขาวใสมีรอยแดงแตกระแหงแผลบางแห่งยังคงมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยเหตุที่นางจับไข้ก็คงเพราะพิษจากแผลที่โดนโบยนี่เองสินะ อ๋องฉินมองนางนิ่งเหตุใดถึงอดทนได้ขนาดนี้กันสักพักจึงลงมือเช็ดตัวให้นางอีกครั้งก่อนจะนำยามาทาด้านหลังของนางอีกทีหนึ่ง ไอร้อนยังคงไม่เจือจางลงเขาจำใจต้องดึงนางมาสวมกอด กลิ่นอายความอบอุ่นที่อยู่ตรงหน้าทำให้คนตัวเล็กมุดเข้าอ้อมแขนแกร่งทันทีชายหนุ่มรู้สึกเกรงตัวตามสัญชาตญาณของบุรุษ ความนุ่มนิ่มของกายสาวที่แนบชิดกับเนื้อตัวของเขาทำให้นวลเนื้อส่วนล่างตื่นขึ้นมาทันที แต่เห็นว่านางป่วยไข้เลยต้องหยุดความคิดเหล่านั้นลงอย่างเลี่ยงไม่ได้เขาสวมกอดนางอยู่อย่างนั้นทั้งคืนเมื่อถึงรุ่งเช้าค่อยรีบออกไปสั่งการให้ทหารเริ่มจัดขบวนออกเดินทางกันต่อ เขาไม่ได้อยากแล้งน้ำใจกับนางมากนักเพียงแต่หนทางข้างหน้ายังมีผู้คนที่รอคอยการช่วยเหลือไม่สามารถช้าได้สักวินาทีเดียว“พระชายาเป็นเช่นไรบ้างเพคะ” ลี่ถิงค่อยๆ ประคองนางออกมาจากกระโจมเพื่

    Last Updated : 2024-12-17
  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 12 ถึงเมืองจี้โจว

    การเดินทางมายังเมืองจี้โจวนั้นกินเวลามามากกว่าเจ็ดวันแล้ว ผ่านเส้นทางทุรกันดานของชนบทที่ห่างไกลความเจริญเข้าสู่เขตชายแดนเมืองจี้โจวในวันที่แปดพอดีขบวนเคลื่อนมาใกล้ตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางที่จะผ่านเข้าไปยังประตูเมืองนั้นต้องพบเจอกับหมู่บ้านน้อยใหญ่ ทิวทัศน์โดยรอบแสดงให้เห็นถึงความแร้นแค้นของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ลู่เหยียนซินที่เลิกม่านขึ้นมองเห็นก็รู้สึกอนาจใจยิ่งนัก พืชผลทางการเกษตรแห้งแล้งล้มตายจำนวนมาก​ผู้คนอดอยากเห็นได้ชัดจากสีหน้าที่หม่นหมองของพวกเขาเหล่านั้น​ อีกทั้งยังต้องมาพบเจอกับโจรป่าที่บุกปล้นสะดมกันแทบทุกวันซ้ำเติมความทุกข์ยากเข้าไปอีกโจรป่าหรือโจรภูเขาที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากนั้นนับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ​ พวกเขาเหล่านั้นมาจากทั่วทุกสารทิศ​รวมตัวกันที่หุบเขาหูซานใกล้หมู่บ้านเหมยหลัน หมู่บ้านเหมยหลันอยู่ห่างจากตัวเมืองจี้โจว​ราวๆ40ลี้[1]หุบเขาหูซานนี้อยู่ใจกลางระหว่างหมู่บ้านเหมยหลันกับตัวเมืองจี้โจว เพราะความอุดมสมบูรณ์ของตัวป่าพวกเขาเลยเลือกที่จะปักหลักลงที่นั่น และลงเขาเพื่อออกปล้นบ้านเรือนชาวบ้านแทบจะทุกหมู่บ้านและเมืองอื่นๆที่ใกล้เคียงกัน เมื่อกองทัพอ

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 2 - ชีวิตจะไม่เหงาอีกต่อไป

    “ตอนนี้เด็กๆก็ไม่อยู่แล้ว เจ้าคิดถึงพวกเขาหรือไม่”“แน่นอนสิเพคะใครบ้างที่ไม่คิดถึงพวกเขากัน ข้าเองก็ไม่เคยห่างกับลูกๆนานขนาดนี้มาก่อนเลย”เด็กทั้งสองเดินทางไปเมืองจี้โจวนับดูแล้วก็เป็นเวลาสามเดือนเต็มพอดี ไม่เพียงแค่พวกเขาสองสามีภรรยาที่คิดถึงเด็กๆใจจะขาด แต่คนในวังก็ไม่ต่างกัน เด็กสองคนนี้ฉลาดเฉลียวเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งวัง หรืออาจจะทั้งเมืองหลวงก็เป็นได้ เมื่อพวกเขาไม่อยู่ที่แห่งนี้ก็พลันเงียบงันลงทันใดอ๋องฉินมองใบหน้าเศร้าสร้อยของภรรยารัก ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ“ถ้าเช่นนั้นพวกเราไปเยี่ยมกันดีหรือไม่”“จะหาเวลาไหนไปล่ะเพคะงานของท่านกับข้าต่างก็ล้นมือกันไปหมด บางวันเราสองคนแทบจะไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำเจอหน้ากันแค่ตอนกลางคืนไม่ทันพูดคุยก็เผลอหลับกันไปแล้ว”“ก็จริง หากเจ้าเหงานักเช่นนั้นพวกเราควรมีน้องให้หลิงหลิงอีกสักคนดีหรือไม่”นางได้ยินดังนั้นก็ขึงตาใส่เขาทันที“ไม่น่าจะใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีกระมังเพคะ”“แต่ข้าว่าน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ดีมากๆ อย่างน้อยก็ยืดไปได้อีกสักสี่ห้าปี ราชสำนักน่าจะใช้งานเราน้อยลงบ้า

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 1 - น้องเล็กสุดแสบ

    6 ปีต่อมา-เมืองจี้โจว-“ท่านพี่ จะให้ข้าไปด้วยหรือไม่” เยว่เหวินหลิงเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดของนางด้วยเสียงอันเบา“ไม่ต้องหรอก”เยว่เหวินหลิงแม้จะดูแก่นๆไปบ้างแต่นางเชื่อฟังผู้เป็นพี่ชายมาโดยตลอด ได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวแกรกๆ“อ้อ เช่นนั้นข้าจะกลับไปที่จวนก่อนท่านพี่ก็กลับไวๆนะเจ้าคะ”เยว่เหวินหลงพยักหน้าให้นาง หลังจากส่งหลิงหลิงขึ้นรถม้าแล้วเยว่เหวินหลงก็เดินตรงไปข้างหน้าเลี้ยวซ้ายเดินต่อไปอีกยี่สิบกว่าเก้าก็ถึงรถม้าของฮั่วเฟิงอวี้ เขากระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วเข้าไปนั่งลงด้านในข้างเฟิงอวี้“ท่านพี่เฟิงอวี้ รอข้านานหรือไม่”“ไม่เลย ทีแรกข้าคิดว่าเจ้าจะพาหลิงเอ๋อร์มาด้วยเสียอีก”“นางพูดมากเกินไป เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง”“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าก็ช่างว่าน้องสาวตัวเองไปได้ นางน่ารักขนาดนั้นทำไมถึงชอบพูดจาทำร้ายจิตใจนางอยู่เรื่อยกันเล่า”สารถีประจำจวนแม่ทัพฮั่วเมื่อเห็นว่านายน้อยทั้งสองเข้าไปนั่งบนรถม้าเรียบร้อยแล้วก็เริ่มขี่รถม้าออกจากเมืองทันทีเยว่เหวิ

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 44 บทส่งท้าย_สีสันของชีวิตคู่

    -สี่ปีผ่านไป-วันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่าตลอดระยะเวลาสี่ปีมานี้เด็กทั้งสองคนเติบโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูของทุกคน ใช่แล้ว! ทุกคนช่วยกันเลี้ยงดูแทนนางจริงๆพักนี้ท่านหญิงน้อยดูจะตัวอวบอ้วนขึ้นมามาก เพราะไม่ว่าผู้ใดที่แวะมาเยี่ยมนางที่จวนล้วนหยิบเอาขนมหวานและของกินต่างๆติดมือมาให้นางทั้งนั้นคนในวังยิ่งแล้วใหญ่ขนมหวานมากมายตระการตาถูกประเคนใส่ปากนางไม่ยั้ง ฮองเฮาเองดูจะมีความสุขมากที่เห็นปากน้อยๆของนางเคี้ยวขนมอย่างเอร็ดอร่อยรัชทายาทก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันทรงเสด็จไปต่างเมืองเมื่อกลับมาก็มักจะนำของเล่นขนมแปลกๆ มาฝากเด็กๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือขนมหวานของโปรดของนาง‘ทุกคนล้วนต้องการให้ลูกของนางอ้วนเป็นหมูใช่หรือไม่นะ’ลู่เหยียนซินใช้วิชาความรู้ของนางเปิดสถานศึกษาวิชาการแพทย์ นางนำความรู้ของนางที่มีอยู่ออกมาถ่ายทอดให้แก่เหล่าบัณฑิตและผู้ต้องการสอบเข้าเป็นหมอหลวง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหมอหลวงในวังหลวงแห่กันมาร่ำเรียนจากนางกันมากมายเช่นกันในสถานศึกษาแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสอนวิชาแพทย์แต่เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็ก

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 43 พระชายาจะคลอดแล้ว

    เพราะลู่เหยียนซินที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากจวนก็รู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งนัก วันเวลาผ่านไปจนครรภ์ของนางเข้าสู่เดือนที่เก้านางกำลังเดินออกมาจากห้องอาบน้ำขณะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไหลออกมาจากต้นขาของนาง นางก้มมองดูถึงกับต้องรีบสูดหายใจเข้าปอดช้าๆเพื่อลดอาการตื่นเต้น ถุงน้ำคล่ำของนางแตกแล้ว!“ลี่ถิง มาช่วยข้าที”ลี่ถิงที่กำลังนั่งจัดของขวัญต้อนรับคุณหนูคุณชายน้อยอยู่นั้นก็ตกใจเสียงตะโกนเรียกของพระชายา รีบวิ่งไปยังห้องอาบน้ำทันที“พระชายา เกิดอะไรขึ้นเพคะ”นางเห็นเพียงพระชายาสวมเสื้อเพียงชั้นเดียวจึงรีบเข้าไปพยุงทันที“ดูเหมือนว่าข้าจะคลอดแล้ว ตามหมอหลวงเร็วเข้า”“เช่นนั้นให้หม่อมฉันประคองพระชายาไปที่ห้องคลอดก่อนนะเพคะ”นางไม่กล้าทิ้งพระชายาไว้คนเดียวจึงตะโกนเรียกชิงอีที่ตอนนี้คอยให้อาหารเสือสองตัวอยู่ด้านนอกตำหนัก เมื่อได้ยินเสียงเรียกเขาก็รีบวิ่งมาทันที“มีอะไรหรือ”“พระชายาจะคลอดแล้ว ตามหมอหลวงเร็วเข้า”“จะ…จะคลอด จะคลอดแล้วหรือ”“เอ้า! ยืนอึ้งทำไม รีบไปสิ!”“ได้ ได้ ท่านห

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 42 เป็นฝาแฝด

    เช้าวันต่อมาลู่เหยียนซินกำลังหยอกล้อกับลูกเสือน้อยสองตัวที่มีนามว่าเปาเปาและจ้านจ้านอยู่ที่สวนดอกไม้หน้าตำหนักใหญ่ นางเป็นคนตั้งชื่อให้พวกมันด้วยตัวของนางเอง“พระชายา”เสียงหวานใสดังขึ้นด้านหลังนาง ลู่เหยียนซินหันไปมองก็พบว่าเป็นหยางซูฉินยืนอยู่ตรงทางเข้าอุทยาน ด้านหลังเป็นแม่ทัพหยางที่ยืนซ้อนหลังนางอีกทีหยางซูฉินค้อมคำนับทำความเคารพลู่เหยียนซินทันที ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆนาง อ๋องฉินเดินมายืนข้างๆนางแล้ว“พระชายาหม่อมฉันมีเรื่องอยากจะสนทนากับพระองค์สักนิดได้หรือไม่เพคะ”“ได้สิ ข้าคงต้องฝากเปาเปากับจ้านจ้านไว้กับพวกท่านก่อน”“ข้าน้อยไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับพวกเสือเท่าไหร่นะพ่ะย่ะค่ะพระชายา” เสียงแม่ทัพหยางเอ่ยขึ้นสีหน้าเขาดูหวาดหวั่น‘ก็แค่ลูกเสือตัวน้อยๆพวกเขาจะกลัวอะไรกันนักหนา’ นางหันมองไปยังฉินอ๋อง“ไปเถอะ”ลู่เหยียนซินยิ้มหวานก่อนจะเดินนำหยางซูฉินไปยังศาลาริมสวนดอกไม้“เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าเช่นนั้นหรือ”หยางซูฉินตอนนี้ดูสงบเสงี่ยมลงเป็นอย่างมาก ชุดที่นางสวมใส่ไม่มีความหรูหราเช่นเคย

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 41 อย่าไปเลยนะ

    “ความจริงแล้วข้าไม่ใช่ลู่เหยียนซิน”นางมองออกไปก็เห็นสายตาที่นิ่งสงบของเขามองนางอยู่ก่อนแล้ว“ท่านไม่คิดจะตกใจหน่อยหรือ”“ข้ารู้มานานแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นาง”“ท่าน! ท่านรู้ได้เช่นไรกัน”“ทุกสิ่งในตัวเจ้านั้นเปลี่ยนไปความรักความห่วงใยที่เจ้ามีต่อทุกคนที่ลู่เหยียนซินคนก่อนหน้านั้นไม่เคยมี”“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าขอยืนยันว่าข้ารักที่เจ้าเป็นตัวของเจ้าเองในตอนนี้”ทันใดนั้นแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วของนางก็พลันเกิดประกายแสงวาววับขึ้นมาประตูค่อยๆเปิดออกให้เห็นภายใน อ๋องฉินแรกเริ่มไม่ได้ตื่นตกใจกับสิ่งที่เห็นแต่ไม่นานนักเขาก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันทีลู่เหยียนซินที่ไม่หันไปมองก็รู้ว่าข้างในคือที่ไหน แต่เมื่อมองตามสายตาที่เบิกกว้างของเขาไปก็พลันตกใจขึ้นมาทั้งยังสงสัยว่ามันมาโผล่ในที่แห่งนี้ได้เช่นไรกันห้องพักแพทย์ที่นางเข้าไปพักผ่อนหลังการผ่าตัดคลอดแม่ลูกคู่นั้นเกิดเป็นภาพให้เห็นหลังประตูบานนั้นนางคิดว่าที่อ๋องฉินตื่นตกใจไม่น่าจะใช่เห็นประตูบานนี้ แต่เป็นนางอีกคนในนั้นที่ก้มหน้าลงนอ

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 40 หากข้าไม่ใช่ลู่เหยียนซิน

    เย็นวันนี้เหตุเพราะเขาดื่มสุรากับเสด็จปู่ไปถึงสองไหและส่วนใหญ่เป็นเขาที่ยกดื่มอยู่ฝ่ายเดียวทำให้อาการมึนเมามีมากเกินควบคุมอีกทั้งได้ยินว่าพระชายาของตนนั้นตั้งครรภ์แล้ว ความเมาที่ยังไม่ทันสร่างบวกกับความดีใจทั้งตื่นตกใจผสมปนเปกันเข้ามา ทำให้เลือดลมของเขาวิ่งพ่านจนเกิดอาการหน้ามืดหงายหลังล้มดังตึงลงไปทันทีเมื่อฟื้นขึ้นมาก็ยังคงรู้สึกเวียนศรีษะเป็นอย่างมาก เขารีบลุกขึ้นหันมองไปรอบๆห้องก็ไม่พบใครอยู่ในห้องนี้เลย“นางหายไปไหนแล้วล่ะ?”ข่าวการตั้งครรภ์ของพระชายาฉินแพร่กระจายออกไปจนทั่วทั้งวังหลวง ผู้คนในวังต่างรู้สึกปลื้มปิติยินดีกันถ้วนหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาเมื่อทรงทราบข่าวก็เสด็จมาที่ตำหนักซูหนิงทันทีอ๋องฉินรีบเปิดประตูออกไปเดินไปยังโถงตำหนักซูหนิงก็พบว่าลู่เหยียนซินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ถัดไปไม่ไกลกันนัก เสด็จปู่ ฮ่องเต้และฮองเฮาก็ประทับอยู่ตรงนั้นด้วย“เห็นหรือไม่เพคะหม่อมฉันพูดถูกหรือไม่ ว่าไว้แล้วเชียวว่านางต้องตั้งครรภ์อยู่อย่างแน่นอน”“แน่นอนสิ ข้ายังรู้เลย” ฮ่องเต้อมยิ้มอย่างภูมิใจในความเฉลียวฉลาดของพระองค์ฮอ

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 39 พระชายาตั้งครรภ์แล้ว

    ‘ดื่มสุราต้องมีความสำราญใจถึงเพียงนั้นเชียว’"พระชายา มีคนมาขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ" เสียงขันทีหน้าตำหนักเข้ามารายงานคนด้านใน"ใครหรือ" นางเดินออกไปด้านนอกประตูตำหนักทั้งยังถือถ้วยน้ำชาออกไปด้วย นางยังไม่ทันยกขึ้นดื่มก็ถูกคนเรียกตัวไปอีกแล้วเมื่อมองออกไปหน้าประตูคนผู้นั้นก็เดินออกมาจากด้านหลังของทหารรักษาประตูมองไปก็รู้ทันทีว่าคือชิงอี เสื้อผ้าของชิงอีฉีกขาดเขาเดินเข้ามาหานางด้วยใบหน้าที่น่าสังเวชยิ่งนักพรู๊ด..~~ลู่เหยียนซินเดิมทีกำลังจะดื่มชาลงไปถึงกับต้องพ่นออกมาด้วยความตกใจที่เห็นสภาพขององค์รักษ์คนสนิทของอ๋องฉิน"ชิงอี เหตุใดเจ้าถึงเป็นสภาพนั้นกันเล่า"นางมองออกไปอย่างนึกสงสัยก็เห็นเฟยหยาจูงเสือขาวสองตัวเข้ามา ตอนนี้พวกมันนั่งอยู่บนพื้นหน้าพระตำหนักจ้องมองนางอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ลู่เหยียนซินรีบก้าวเดินไปข้างหน้านางยื่นมือออกไปลูบหัวของพวกมันไปคนละหนึ่งที"เด็กดี"อ๋องฉินที่เดินตามนางออกมาถึงกับขมวดคิ้วมองไปยังเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ผมเผ้ารุงรัง นี่เขากล้าแต่งต

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 38 เด็กในร่างคนแก่

    ทั้งสองเดินออกจากท้องพระโรงไปได้ไม่ไกลนักลู่เหยียนซินก็พึ่งนึกขึ้นได้ เข้าเมืองหลวงมาทั้งทีจะไม่ให้แวะไปหาเสด็จปู่คงเป็นการเสียมารยาทมากแน่ๆ อ๋องฉินที่เดินตามหลังนางมาก็หยุดเดินกะทันหันและมองนางด้วยความสงสัย ‘นางจะทำอะไรอีก?’“พวกเราไปถวายพระพรเสด็จปู่ด้วยดีหรือไม่เพคะ”“หากเจ้าเหนื่อยแล้ว วันหลังพวกเราค่อยมาใหม่ก็ยังได้”“ไม่เหนื่อยเลยสักนิดรีบไปกันเถอะเพคะ กลับมาทั้งทีคงไม่ดีนักหากพวกเราไม่ไปถวายพระพรพระองค์”“เช่นนั้นก็ได้ ตามใจเจ้า”พวกเขาเดินต่อไปยังตำหนักซูหนิงสองข้างทางก่อนเข้าสู่ตัวตำหนักเป็นอุทยานสวนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เมื่อเดินมาถึงหน้าตำหนักก็พบเข้ากับฉางกงกงที่ยืนรออยู่นอกตำหนักแล้ว“ท่านอ๋อง พระชายา ข้าน้อยนึกว่าพวกท่านจะไม่แวะมาที่นี่เสียแล้ว”“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือฉางกงกง เหตุใดสีหน้าท่านถึงดูไม่ได้เอาเสียเลยล่ะ” อ๋องฉินเอ่ยปากถามออกไปเมื่อเห็นว่าสีหน้าฉางกงกงนั้นดูเคร่งเคลียดยิ่งนัก“ก็ไท่ซ่างหวงนะสิพ่ะย่ะค่ะ โวยวายใหญ่เลยว่าท่านอ๋องกับพระชายากลับมาแล้วแต่ไม่ยอมมาคารวะพระองค์เสียที ทรง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status