ริมฝีปากบางของไกอาหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความยั่วยวน เธอช้อนสายตามองหน้าเขาอีกครั้งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดีใจ ดวงตาสีอัญมณีฉายแววความหลงใหลที่เด่นชัดออกมาจนเคียนอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม เพราะเขาคิดว่าสตรีผู้นี้กำลังหลงใหลเขาอย่างหนักหน่วงมากทีเดียว
แน่ล่ะ ก็เธอดูไร้เดียงสาซะขนาดนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่พบเจอบุรุษที่ใบหน้าชวนมองเช่นเขา เธอจะเคลิบเคลิ้มเช่นนี้ นอลข่าน..ชนเผ่าที่เผชิญความร้อนในทะเลทรายได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งๆ ที่สภาพทรัพยากรของเมืองนี้มันไม่ได้เอื้ออำนวยให้เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเลย แต่ถึงอย่างนั้นคนที่นี่ก็ยังคงต่อสู้เพื่อให้ชนเผ่าเล็กๆ กลายเป็นราชอาณาจักร อ่า..ในเรื่องนั้นไกอาชื่นชมอยู่เสมอในใจ แต่บุรุษในเมืองนี้นี่มันยังไงกัน? จะหาคนที่รักกันที่หัวใจไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ “ข้าชื่นชอบใบหน้านี้เป็นอย่างมากเลยค่ะ ท่าน..หล่อเหลา อ่า..แน่นอนว่าคงจะมีสตรีจำนวนไม่น้อยที่เอ่ยชมเชยท่านเช่นนี้” เธอยกมือขึ้นมาแตะลงบนใบหน้าที่ประดุจพระเจ้าทรงปั้นของเขา เราไม่รู้ชื่อของกันละกันด้วยซ้ำและไกอาคิดว่าเธอให้โอกาสชายผู้นี้นานมากเกินไปแล้ว “แต่ไม่มีคำชมใดที่จะทำให้ข้าดีใจได้เท่ากับคำชมที่เจ้ากล่าวออกมา เพราะการได้รับคำชมจากสาวงามทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองนั้นทรงเกียรติมากทีเดียว” มุมปากของไกอากดลึกเป็นรอยยิ้มแต่ทว่ามันคือรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาของเธอเลย.. “ข้าต้องการสามี ไม่ใช่คู่นอนเพียงครั้งคราวเท่านั้น และคำกล่าวของท่านมันไม่มีหลักฐานอะไรเลยว่าท่านจะยินยอมเป็นสามีของข้า” ดวงตาสีอำพันของเคียนวูบไหวราวกับเปลวไฟ สตรีผู้นี้ไม่ได้ยืนอยู่ในจุดที่สามารถต่อรองได้ แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับสู้ไม่ถอยเพื่อการหาสามีของนาง นั่นสร้างความประทับใจให้เคียนมากพอสมควรและเขา..อยากจะเล่นสนุกกับเธออีกหน่อย เขาจะไม่มาที่นี่อีกต่อไป เพราะเขาต้องวุ่นอยู่ในพระราชวังไม่มีเวลาออกมาที่นี่อีก อย่างน้อยๆ ก็หลายเดือนทีเดียว เพราะอย่างนั้นเคียนจึงได้แต่เอ่ยคำขอโทษในใจ “เช่นนั้นเรามาทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรกันดีหรือไม่ ที่นี่คือบ้านของข้าและเจ้าสามารถทดลองมาอยู่ที่นี่กับข้าสักระยะก่อนก็ได้” เขาส่งกุญแจบ้านให้เธอพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนยินดี ไกอามองหน้าเขา..เธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีอำพันที่แสนเจ้าเล่ห์ เขาดูเหมือนกับงูพิษ แต่ก็ลื่นเหมือนกับปลาไหลที่จะไม่มีวันยินยอมให้เธอจับตัวได้ง่ายๆ เอาเถอะ..คนเราไม่ได้เจอตัวกันง่ายๆ หรอกหากว่าไม่ใช่พรหมลิขิต และที่นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงของชนชั้นสูงที่มีคนมองดูการกระทำที่น่าละอายของเธอ ในตอนนี้เธอคือนักเดินทางและเขาคือหัวหน้าโจร ความสัมพันธ์เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องคาดหวังอะไรเพราะเขามันพร้อมจะหลบหนีเธอไปจากที่นี่ตลอดเวลาอยู่แล้วนี่.. เธอก็แค่หาความสุขกับบุรุษชาวนอลข่านที่หน้าตาดีสักคน หลังจากนั้นค่อยไปหาสามีก็ยังไม่สาย “ข้าควรจะทราบชื่อของท่านรึเปล่า..” มุมปากของเขายกสูงขึ้นมาพร้อมกับร่างกายที่แนบชิดในทันที “เรียกข้าว่าเคียน..แค่เคียนก็พอ” อ่า..ช่างเป็นชื่อที่ดียิ่งนัก ส่วนเธอไม่ควรจะบอกชื่อจริงออกไปสินะ “เช่นนั้นท่านเรียกข้าว่า..อามินได้นะคะ” เขาจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปรารถนา “อามิน..” ชื่อของเธอถูกเรียกออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนที่ดวงตาของไกอาจะหลับตาลงอย่างช้าๆ เมื่อใบหน้าของเขาเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเราสัมผัสกัน ความรู้สึกแรกเมื่อริมฝีปากของเขาแนบชิดลงมามันคือความอุ่นร้อนที่แทบหลอมละลาย วงแขนแกร่งโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน และสิ่งที่เธอทำได้คือการโอบกอดเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองหงายหลังลงไปบนโต๊ะ เกลียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามริมฝีปากก่อนที่มันจะสอดลึกเข้ามาด้านใน เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้านผ่าวขณะบดเบียดจูบเข้าหากัน ในระหว่างที่ริมฝีปากกำลังพัวพันมือของเขาก็พยายามจะถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายของเธอ แน่นอนว่าในยามนี้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเลยเพราะนี่มันไม่ใช่การร่วมรักทั่วไปที่เธอเคยพบเจอมาก่อน เขาเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังกระโจนเข้าขย้ำเหยื่อตัวเล็กๆ ที่ไร้หนทางต่อสู้ ในห้องที่เหมือนกับเป็นห้องทำงานมากกว่าที่จะเป็นห้องนอน กระดาษมากมายบนโต๊ะทำงานถูกมือของเคียนกวาดลงไปกองบนพื้นจนกระดาษเหล่านั้นปลิวว่อนขึ้นมา แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากเจ้าของร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขน เขาอุ้มเธอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงาน ริมฝีปากของเราผละออกจากกันอย่างเชื่องช้า ถึงแม้จะไม่อยากถอนริมฝีปากออกแต่เขาอยากจะมองหน้าเธอก่อน ผิวกายที่ขาวนวลเนียนมีรอยแดงของนิ้วเขาเต็มไปหมด เสื้อท่อนบนของเธอหลุดออกจากร่างกายไปเมื่อไหร่แล้วไม่รู้ เนินเนื้อคู่งามที่คราแรกมันโผล่พ้นเสื้อมาเพียงเล็กน้อยแต่ทว่าในยามนี้มันกลับเผยให้เห็นถึงความสวยงามที่ยากจะละสายตา เธอตัวเล็กเพียงนิดเดียวเท่านั้นแต่กลับมีทรวดทรงของเนินเนื้อที่งดงามและใหญ่เกินกว่าที่มือของเขาจะครอบครองมันได้หมด ยอดปลายถันสีหวานที่ดูราวกับแต้มของกุหลาบนั่นกำลังชูชันขึ้นมาเมื่อถูกสายตาของเขาจ้องมอง ราวกับมันกำลังร่ำร้องให้เขาสัมผัสมันอยู่ ความสวยที่ราวกับเป็นงานศิลปะ เธอดูเหมือนภาพวาดมากกว่าที่จะเป็นความจริง และหากเรื่องในวันนี้จบลงเคียนคิดว่าเขาคงจะเพ้อฝันถึงร่างกายนี้เป็นเดือนๆ อย่างแน่นอน เขาพูดได้เต็มปากเลยว่าเธอสวยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอสตรีมา.. นัยน์ตาสีอำพันของเขากำลังมองสำรวจร่างกายของเธออยู่ และสายตาเช่นนั้นของเขากำลังทำให้เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เพราะเขาจ้องมองด้วยความตื่นตะลึงและตกใจราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างกายของไกอาสะท้านวาบเมื่อปลายนิ้วของเขาสัมผัสลงไปบนปลายยอดสั่นระริก เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอราวกับเธอการขออนุญาตและเมื่อเห็นว่าเธอมีสีหน้าเช่นไร เขาก็กระโจนใส่มันในทันที ปลายลิ้นร้อนสัมผัสลงไปบนจุดเล็กๆ บนหน้าอก ยอดอกที่ยกแอ่นถูกดูดเม้ม ขณะที่สองมือของเขาเคล้นคลึงมันด้วยความหลงใหล เขาออกแรงบีบจนมันปริออกมาตามร่องนิ้ว และดูเหมือนว่ายอดอกเล็กๆ นั่นจะไวต่อสัมผัสมากกว่าส่วนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเพราะร่างกายของเธอนั่นสั่นสะท้านทุกครั้งที่ปลายลิ้นของเขาตวัดไปมา น่ารักเกินไปแล้ว อยากจะแกล้งมากกว่านี้ซะแล้วสิ..ยอดอกแข็งชันถูกลิ้นตวัดเลีย ปลุกอารมณ์ซาบซ่านจนลมหายใจของไกอาถี่กระชั้น เธอสอดมือเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีทองของเขาด้วยความหลงใหล ก่อนจะขยำมือลงไปบนนั้นเพื่อดึงรั้งเส้นผมที่นุ่มลื่นราวกับเส้นไหมเขาไม่ละมือที่กำลังเคล้นคลึงปุ่มนูนเล็กอย่างปลุกเร้า ราวกับว่าเคียนหลงใหลเจ้าสิ่งนั้นมากเหลือเกิน อันที่จริงเขาหลงใหลในทุกอย่างของสตรีเบื้องหน้า ใบหน้างามล้ำ กลิ่นหอมหวานที่เด่นชัดออกมาจากร่างกายของเธอ ดวงตาสีอัญมณีที่แวววาวไปด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากสีเชอร์รีที่กำลังเผยอออกมาเล็กน้อย และเสียงร้องครางอื้ออึงในลำคอ ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอล้วนแล้วแต่ทำให้เขาหลงใหลมันทั้งสิ้นไกอารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะขาดใจ เมื่อเขาแกล้งหยอกเย้าแล้วใช้ฟันขบลงมาเบาๆ บนยอดอกด้วยความมันเขี้ยว“อื้อ..”เขาเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยแววตาสีอำพันที่แน่วแน่เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น“ตรงนี้สวยจังเลย ยิ่งสัมผัสมันสีก็จะยิ่งเข้มขึ้น..ดูสวยงามราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบานออกมา”ใบหน้าของไกอาขึ้นเป็นสีแดงเข้ม เมื่อเขากล่าวชมเชยร่างกายของเธอออกมาด้วยใบหน้าเช่นนั้น“อ่า..พะ..พอแล้วตรงนี้พอแล้วค่ะ”เธอไม่ใช่เ
ดวงตาสีอัญมณีของเธอช้อนขึ้นมามองเขาด้วยความยวนยั่ว และนั่นทำให้ความอดทนทั้งหมดที่เคียนมันขาดสะบั้นลงในทันทีเธอรับส่วนนั้นของเขาเอาไว้ในโพรงปาก ก่อนเคลื่อนไหวกระพุ้งแก้มโอบล้อมขึ้นลง ริมฝีปากดูดดึงส่วนกลางลำตัวอย่างเชื่องช้า เป็นผลให้ความหฤหรรษ์แล่นวาบไปทั่วทั้งตัวให้ตายเถอะ หากไม่หยุดยั้งเอาไว้เพียงเท่านี้เขาอาจจะเสร็จสมออกมาโดยที่ไม่ทันได้เริ่มทำเรื่องเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นเขาควรจะผลักไสใบหน้าของเธอออกไปก่อน จากนั้นค่อยให้เธอเป็นฝ่ายอยู่ด้านล่างเสียบ้าง..“อา..พะ..พอก่อน..”“ตู้ม!!”นั่นคือจังหวะนรกที่สุดในชีวิตของเคียนเลยก็ว่าได้ เพราะว่าสิ่งที่เขาได้ยินพร้อมกับประชาชนเกินครึ่งร้อยของที่นี่มันคือเสียงระเบิดอย่างแน่นอนไกอายังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมาผ้าคลุมของเขาก็ถูกสะบัดมาปกคลุมร่างกายของเธอเอาไว้ในทันที“ไป..ใส่เสื้อผ้าก่อน..”เขาพูดคำเหล่านั้นออกมาด้วยความเสียดายอย่างสุดหัวใจ เคียนไม่รอช้าเขาเดินไปสวมใส่กางเกงก่อนจะจับดาบเอาไว้แน่นในมือ หากเดาไม่ผิดอีกไม่เกินสองนาทีจะต้องมีทหารวิ่งมาทางนี้ ก็แน่ล่ะ เพราะว่าเขาเป็นองค์รัชทายาทนี่ และอาบูก็อยู่แถวนี้ด้วยพอเขาหันไปมองอาม
เมื่อได้ฟังคำกล่าวของโนแอล ไกอาก็คิดว่าเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ของนอลข่าน เธอควรจะไปซื้อหนังสือมาอ่านทบทวนดูให้รู้แล้วรู้รอดไปเพราะว่าคนไม่รู้กฎหมายเท่ากับคนโง่ และที่นี่มีกฎหมายแปลกๆ เยอะมากมายเกินกว่าที่เธอจะสามารถจินตนาการได้ทีเดียว“เช่นนั้นข้าจะต้องรู้เรื่องกฎหมายให้มากกว่านี้ซะแล้วโนแอล”โนแอลส่งยิ้มให้กับไกอา“เจ้าคือคนฉลาดอย่างที่ข้าคิดเอาไว้จริงๆ ด้วยสินะ เรื่องหนังสือข้อกฎหมายต่างๆ ในราชอาณาจักรของเรานั้น ข้าจะสั่งให้สาวใช้นำมันมาให้เจ้าในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องชุด..แน่นอนว่าชนชั้นสูงที่ดีไม่ควรจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำกัน ข้าจะจัดหาชุดที่งดงามมากที่สุดในนอลข่านมาให้เจ้าก็แล้วกันสหาย..”หากพูดถึงเรื่องชุด ในตู้เสื้อผ้าของเธอนั้นมีชุดเดรสมากมายหลากหลายประเภทมากทีเดียว และในบางชุดเธอยังไม่เคยสวมใส่หรือว่าแตะต้องมันด้วยซ้ำ“เรื่องชุด..”“อย่าปฏิเสธสิ คิดซะว่านี่คือของขวัญการขอบคุณของข้า เพราะการที่เจ้ายินยอมเดินทางเข้าไปในพระราชวังและรับปากว่าจะยอมเปิดใจให้องค์รัชทายาทมันคือเรื่องที่ข้าจะต้องขอบคุณเจ้าอยู่แล้ว แต่ไกอา หากว่าเจ้าไม่รักเขาหรือว่าพระองค์ไม่ใช่บุรุษในแบบที่เจ้าชอบ เจ้าจะต้อ
คำสั่งของเสด็จพ่อยังคงดังก้องอยู่ในหัว แต่เคียนยังคงคิดถึงอามินอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่หลับตาเขาก็สัมผัสได้ถึงเธอในยามนอน ริมฝีปากปากอ่อนนุ่มนั้นกำลังเผยอ ออกจากกันและกำลังจะตอบรับการจุมพิตจากเขา เธองดงาม..ใช่ สวยมากทีเดียวมันเป็นความสวยที่มาพร้อมกับความซ่านกระสันในทุกครั้งที่นึกถึงเลยริมฝีปากเล็กๆ คู่นั้นเข้าครอบครองส่วนที่แข็งตึงของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าที่เกลียวลิ้นร้อนไล้ไปตามเส้นเลือดที่ปูดโปน เธอดูดกลืนลาวาขาวขุ่นที่รินไหลออกมา พร้อมกับใช้ลิ้นปาดเลียลงไปบนส่วนปลายหัวบวมแดงย้ำๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นและมันหงุดหงิดทุกครั้งที่เขานึกถึง..ไอ้ชนเผ่าเดมิซาพวกนั้นจะมาให้ถึงช้ากว่านั้นสักสิบนาทีก็ไม่ได้รึไงวะ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะปล่อยตัวปล่อยใจ และเสร็จสมไปในริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธอไปแล้ว“ฝ่าบาท..ได้เวลาเตรียมตัวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”อาบูเดินเข้ามาพร้อมกับข้าหลวงที่จัดการเตรียมน้ำเอาไว้ให้องค์รัชทายาททรงอาบ“วันนี้ข้าจะอาบน้ำเอง..ออกไปให้หมด”อาบูสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเบนสายตามองหน้าของข้าหลวงทั้งหมดพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เพื่อให้ข้าหลวงพวกนั้นออกไปก่อน“เช่นนั้นกระหม่อมจะคอยช่วย..”“ไม่อาบู เจ้าเองก็จ
ไกอาคลี่ยิ้มบางที่แสนอ่อนโยนให้กับสตรีที่เดินเข้ามาทักทายเธอ“ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ ข้าชื่อว่านาญาค่ะ นาญาแห่งอิลบา ลูกสาวของท่านเคาน์อิลบาผู้ปกครองเหมืองทองของราชอาณาจักร”นั่นคือการแนะนำตัวหรือว่าการประกาศออกมาเพื่อโอ้อวดกันแน่ เรื่องนั้นไกอาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเลดี้นาญา”นาญาส่งยิ้มกับไกอาด้วยรอยยิ้มที่ว่างเปล่า แน่นอน..มันว่างเปล่าเพราะไม่ได้มีความยินดีอยู่ในนั้นเลย“ข้าทอดทิ้งโนแอลมานานพอสมควรแล้ว เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาของเลดี้นาญาแล้วค่ะ”นาญากระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการกล่าวอำลาแก่สตรีจากจักรวรรดิ“ให้ตายเถอะเลดี้ไกอานั้นงดงามเสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าของพี่ชายข้าอีก”สตรีคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาและเมื่อนาญาได้ยินคำกล่าวนั้นเธอก็กลั้วหัวเราะในลำคอทันที“นั่นเรียกว่างดงามอย่างนั้นหรือ ผอมแห้งเกินไปแถมใบหน้านั้นก็นับว่าจืดชืด ที่โดดเด่นเพราะว่านางพึ่งมาอยู่ที่นอลข่านต่างหาก แต่หากอยู่ไประยะหนึ่งข้าคิดว่านางจะต้องหมดความนิยมจากเหล่าบุรุษของที่นี่..พวกเขาก็แค่ชื่นชอบของใหม่เท่านั้น มีอะไรให้เราใส่ใจกัน”นาญายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม
“เป็นอย่างไรเล่า ข้าบอกไปแล้วว่าพระพักตร์ขององค์รัชทายาทนั้นทรงหล่อเหลาและงดงามประดุจพระเจ้าทรงปั้น..”เสียงของโนแอลนั้นดังไปไม่ถึงไกอาเลยดวงตาสีอัญมณีจับจ้องมองไปยังใบหน้าที่มันน่าเหลือเชื่อมากทีเดียว คราแรกเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด แน่นอนว่าเธออาจจะคิดถึงโจรผู้นั้นมากเกินไป และทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นมา เหมือนกับว่ามองบุรุษคนไหนก็เป็นเขาแต่ไม่ใช่เลย เธอหยิกแขนตัวเองไปแล้วสองรอบ แน่นอนมันเจ็บและยังคงเป็นรอยแดงอยู่ไม่จางหายไปไหนโจรผู้นั้นที่เธอพบเจอเขาในย่านการค้าจนเราเกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยกันไปคือองค์รัชทายาทของนอลข่านนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย เรื่องตลกร้ายประเภทใดกันแล้วเธอดันเสนอหน้ามานั่งด้านหน้าสุดและนั่งตรงข้ามกับเขาด้วย อากาศในยามค่ำคืนถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องโถงจัดเลี้ยงนะพระราชวังแต่ทว่าก็ยังคงรู้สึกเหน็บหนาวไม่น้อย แต่ทว่าไกอารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นๆ ที่กำลังชุ่มไปตามแผ่นหลังและมือทั้งสองข้างของเธอเมื่อได้ลองค้นเข้าไปในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ก่อนจากลาเธอจำได้ว่าเขานัดให้เธอไปพบเขาอีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น และเพราะว่าร่างกายของเธอมันเต็มไปด้วยรอยแดงเต็มไปหมด ทำให้โรสไม่ยินยอมใ
เป็นอีกครั้งที่ไกอาอาจจะต้องถามตัวเองว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เพราะท่านดยุคคาเรนที่เราไม่ได้สนิทกันเลยกำลังยืนโอบเอวของเธอราวกับเราสนิทสนมกันมากเธอเงยหน้ามองหน้าของท่านดยุคด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ก็ครั้งที่แล้ว ก่อนที่เราแยกจากกันเจ้าเป็นคนเอ่ยปากนัดข้าเองว่างานในครั้งหน้า เราค่อยมาสานต่อจากครั้งที่แล้ว..ลืมแล้วงั้นหรือเจ้ากวางน้อย”กวางน้อยกวางใหญ่อะไรกันวะ! เธอพูดตอนไหนก่อนว่าจะมาสานต่ออะไรนั่น ในวันนั้นเท่าที่จำได้เป็นเขาด้วยซ้ำที่หนีออกไปก่อนที่เธอจะตื่น!!“ท่านดยุคคะ..”“หมับ!!”ไวกว่าคำพูดของเธอคือมือขององค์รัชทายาทที่ยื่นมากำข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร พระองค์ทรงจ้องมองเธอด้วยความโกรธในแบบที่คูณสองจากตอนแรกที่เราพบเจอกันเคียนกัดกรามแน่น เขานอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หลับตาภาพของเธอก็จะฉายชัดขึ้นมาในทันที และที่เขาเป็นเช่นนั้นเขาคิดว่าความทรมานทั้งหมดของเขามันเกิดจากเธอ เกิดจากความน่ารักที่แสนไร้เดียงสานั่นของเธอ แต่ทว่ามันกลับกลายเป็นเหมือนเขาเป็นคนโง่ เธอเก่งกาจเรื่องการปั่นหัวคนอื่นและหลอกลวงอย่างนั้นหรือ เธอมองเขาเป็นอะไรกัน ของเล่น? หรือคนหน้าโง่ที่มาหลงเสน่ห์เธ
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่คาเรนพึ่งรู้สึกว่าเขาเอาตัวเองไปเล่นกับไฟ และผลลัพธ์ที่ได้ดูเหมือนว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไหร่นัก แต่เขาเดินทางมาไกลมากเกินกว่าจะถอยหลังกลับเพราะอย่างนั้นเขายังคงยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“แน่นอนเลดี้ไกอา ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”ไกอาหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า อันที่จริงเธอแทบจะหลุดขำออกมาด้วยซ้ำ เขาเป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้งั้นสินะ“ข้าไม่สนใจว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนนั้นมันยังไงกัน แต่ในยามนี้ข้าอยากจะพูดคุยกับไกอา..แบบเป็นการส่วนตัว ในเมื่อดยุคมีนัดกับเลดี้นาญา เช่นนั้นในวันนี้ท่านก็ควรจะปล่อยมือของไกอาซะ”เคียนปัดมือของคาเรนออกในทันที ไกอายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวเธอก็ถูกเขาลากไปอีกทางแล้วคาเรนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ตรงที่องค์รัชทายาทแย่งชิงยัยไกอาตัวร้ายไปจากเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากมาย นอกการเสียหน้านิดหน่อย และ..ไม่ว่ามองจากทางไหน เลดี้ไกอาและองค์รัชทายาทจะต้องมีอะไรที่มันพิเศษมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ และเขาต้องแย่งชิงนางมาจากองค์รัชทายาทให้ได้เลยคอยดู..รู้สึกสูญเสียบ้างสิคาเบเรียน ไม่อย่างนั้นจะเป็นองค์รั
ฝีเท้าของโนแอลก้าวเดินตามหลังขององค์ราชามายังพระราชวังหลักที่เธอไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้ง ในสวนหน้าพระราชวังนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้และพันธ์ุไม้หายากทั้งนั้นเลย แล้วน้ำพุที่อยู่ตรงกลางสวนก็ทำมาจาก..ทองคำใช่ไหมนั่นเรื่องความร่ำรวยของราชวงศ์นั้นทุกคนในนอลข่านต่างรู้ดีทั้งนั้น แต่เธอไม่คาดคิดว่าพระราชวังขององค์ราชาจะหรูหราถึงเพียงนี้คีนแนนนั่งลงบนม้านั่งด้านในสวน เขาผายมือเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้โนแอลนั่งลงตรงข้ามเขาแน่นอนว่าเธอมองหน้าขององค์ราชาอีกครั้งเพื่อที่จะถามให้แน่ใจว่าเธอนั้นสามารถนั่งลงตรงข้ามพระองค์ได้จริงๆ ใช่ไหม?“นั่งเถิดเลดี้โนแอล เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่”เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของพระองค์เธอจึงยินยอมนั่งลงตรงข้ามกับองค์ราชา โนแอลยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองที่มันกำลังเต้นแรงเอาไว้เธอหวังอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่มันเต้นแรงจนผิดปกติ“ข้าหลวงมารายงานกับข้าว่าเคียนพาเลดี้ไกอาไปที่พระราชวังของเขา ท่าทางทั้งสองคนจะไปได้สวยมากกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้ ในวันพรุ่งนี้บางทีลูกชายของข้าอาจจะประกาศข่าวดีเรื่องการแต่งงานออกมา”โนแอลก้มหน้าลงเล็กน้อย“หากเป็นเช
นิ้วมือของเคียนกดเข้าที่กลางลำแกร่ง เขาขยับเอวเบาๆ เพื่อให้ส่วนนั้นของเราเสียดสีไปมาอยู่ที่ภายนอก เพราะหยาดน้ำหวานที่รินไหลออกมาจากกลีบดอกไม้ทำให้ทุกการขยับเอวของเคียนมันรู้สึกเสียดเสียวจนไกอาขบกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น“อ่า..คะ..เคียน”เขาจับมือของเธอขึ้นมาจุมพิตลงไปบนหลังฝ่ามือด้วยความอ่อนโยน“ว่าอย่างไรไกอา รู้สึกดีจนอยากจะได้มากกว่านี้อย่างนั้นหรือ?”ทั่วร่างกายราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน เธอกำลังรู้สึกซ่านกระสันและอยากให้เขากระทำมากกว่านี้จนแทบควบคุมร่างกายเอาไว้ไม่อยู่ความรู้สึกวูบไหวก่อตัวขึ้นมาในช่องท้อง ขนาดแค่เขาถูไถที่ด้านนอกยังสามารถทำให้เธอรู้สึกดีถึงเพียงนี้..ดวงตาสีอำพันกำลังจ้องมองใบหน้านั้น..ดวงหน้าของเธอนั้นให้ความรู้สึกเย้ายวนจนเขาแทบคลั่งเลย เป็นความงดงามที่ร้อนแรงและแผดเผาผู้ที่พบเห็นจนรู้สึกด้อยค่าตัวเอง เธอทำให้ผู้อื่นมองเธอด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความอิจฉาเคียนรู้สึกได้เลยว่าขีดจำกัดของเขามันหมดลงแล้ว และเขาควรจะได้ครอบครองสตรีผู้นี้เสียที เขากดแทรกแก่นกายฝ่าความคับแคบเข้าไปด้านใน และเพียงแค่ส่วนปลายหัวบวมแดงที่สอดแทรกเข้าไปส่วนนั้น ไกอาก็บีบรัดแท่งร้อนของเขาแน่น
นัยน์ตาสีอำพันของเคียนจ้องมองดวงหน้างามที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้ของไกอา เธอกำลังมองสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ..เรื่องราวของเรามันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันเกิดมาจากการที่เขาต้องการร่างกายของเธอและเธอเองก็ต้องการสามี จุดประสงค์ของเราแตกต่าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีความมั่นคงใดๆ อยู่ในความสัมพันธ์นี้ของเราเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่กล้าให้ความหวังและยิ่งไม่อาจคาดหวังได้ด้วยแต่ถึงอย่างนั้นในยามนี้เขาต้องการเธอมากจริงๆ ความต้องการที่กลั่นกรองออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจ และเคียนตั้งใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะเป็นบุรุษที่เอาแต่ใจเท่านั้น“อย่าพึ่งกล่าวถึงวันพรุ่งนี้สิ เพราะมันยังมาไม่ถึงเลย แต่หากจะเอ่ยถามข้าเรื่องชีวิตของเจ้าในวันพรุ่งนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนเพราะว่าคนที่เจ้านอนด้วยคือองค์รัชทายาทนะไกอา..”เขายังคงบ่ายเบี่ยงจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยสินะ ยังไม่มีการรับปากหรือว่าให้ความแน่ใจกับเธอได้เลยแต่ก็ช่างมันเถอะ หากว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วละก็ ชีวิตคู่หากเกิดมาจากการบังคับก็ดูจะไม่ยืนยาวสักเท่าไหร่นัก เธอยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน และไกอากำลังบอกกล่าวกับตัวเองว
โนแอลเดินออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อตรวจดูภาพรวมของงานที่เธอจัดขึ้นด้วยความตั้งใจ แน่นอนว่าเธอคือนักจัดงานเลี้ยงตัวยงและโนแอลไม่อยากให้งานเลี้ยงของเธอมันมีความผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว“เจ้ายังคงจัดงานเลี้ยงได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ..”เมื่อหันไปตามเสียงโนแอลก็พบเจอกับท่านอาของเธอ อันที่จริงเธอจะต้องเรียกท่านดยุคว่าท่านพี่ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างท่านยายจึงสั่งให้เธอเรียกขานท่านดยุคว่าท่านอา..“นี่คงเป็นครั้งแรกที่ท่านอายอมถอยออกมาก่อน..วันนี้พ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทเหรอคะ”มันต้องขยี้สักหน่อยสิ เพราะว่าครั้งที่แล้ว เป็นท่านอาที่ทอดทิ้งไกอาแล้วออกมาจากห้องตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอาแต่เธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะหากว่าท่านอามาทำร้ายเพื่อนของเพื่อนน่ะ“ฮะ..ฮ่า คงงั้น วันนี้อาคงจะพ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทแล้ว แต่ครั้งหน้ารับรองได้เลยว่าอาจะไม่แพ้ เพราะว่าอามีเจ้าที่จะคอยเป็นผู้ช่วยของอายังไงล่ะ”โนแอลมองท่าทางของท่านอาที่ดูเหมือนกับว่าท่านอาของเธอจะจริงจังกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพื่อการแก้แค้นองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่ไปแก้แค้นองค์ราชาแทนล่ะ หรือท่านอาของเธอเชื่อจริงๆ
รอยยิ้มแสนหวานฉายชัดอยู่บนใบหน้าของไกอา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อที่จะมองใบหน้าที่กำลังเขินอายอยู่“ในเมื่อเราพูดคุยและทำความเข้าใจเรื่องราวในวันนั้นกันเสร็จสิ้นแล้ว ข้าควรจะ..ขออนุญาตกลับก่อน”ในวินาทีที่ไกอาพูดว่าเธอจะกลับ มือของเคียนก็เอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร“ใครอนุญาตให้เจ้าไป”“อ่า..เรื่องนั้นข้าอนุญาตตัวเองได้ค่ะ”ดวงตาสีอำพันของเขาฉายแววไม่พอใจอีกครั้ง เคียนก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของไกอาด้วยความแผ่วเบา“ข้าคิดว่าเราทั้งสองคนจะสานต่อเรื่องในวันนั้นซะอีก..เจ้าไม่คิดเหมือนกับที่ข้าคิดอย่างนั้นหรือ?”เรื่องราวมันติดค้างอยู่ในใจ ความรู้สึกวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาในทันทีที่เขาคิดถึงใบหน้างามของเธอ ส่วนนั้นแข็งตึงขึ้นมาแบบที่ไม่ต้องรอคอยการปลุกเร้าใดๆ ความปรารถนาฉายชัดออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจเขาต้องการเธอ..ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมาครอบครองหรือไม่ก็ยึดครองเอาไว้ เพราะในใจของเคียนรู้สึกได้ถึงความไม่ยุติธรรม เขารู้ดีว่าความรู้สึกของคนสองคนมันย่อมไม่เท่าเทียมกัน แต่นี่เหมือนกับนัยน์ตาสีอัญมณีของเธอไม่คิดอะไรเลย และมีเพียงเขาแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่คิดไปไกลมา
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่คาเรนพึ่งรู้สึกว่าเขาเอาตัวเองไปเล่นกับไฟ และผลลัพธ์ที่ได้ดูเหมือนว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไหร่นัก แต่เขาเดินทางมาไกลมากเกินกว่าจะถอยหลังกลับเพราะอย่างนั้นเขายังคงยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“แน่นอนเลดี้ไกอา ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”ไกอาหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า อันที่จริงเธอแทบจะหลุดขำออกมาด้วยซ้ำ เขาเป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้งั้นสินะ“ข้าไม่สนใจว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนนั้นมันยังไงกัน แต่ในยามนี้ข้าอยากจะพูดคุยกับไกอา..แบบเป็นการส่วนตัว ในเมื่อดยุคมีนัดกับเลดี้นาญา เช่นนั้นในวันนี้ท่านก็ควรจะปล่อยมือของไกอาซะ”เคียนปัดมือของคาเรนออกในทันที ไกอายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวเธอก็ถูกเขาลากไปอีกทางแล้วคาเรนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ตรงที่องค์รัชทายาทแย่งชิงยัยไกอาตัวร้ายไปจากเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากมาย นอกการเสียหน้านิดหน่อย และ..ไม่ว่ามองจากทางไหน เลดี้ไกอาและองค์รัชทายาทจะต้องมีอะไรที่มันพิเศษมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ และเขาต้องแย่งชิงนางมาจากองค์รัชทายาทให้ได้เลยคอยดู..รู้สึกสูญเสียบ้างสิคาเบเรียน ไม่อย่างนั้นจะเป็นองค์รั
เป็นอีกครั้งที่ไกอาอาจจะต้องถามตัวเองว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เพราะท่านดยุคคาเรนที่เราไม่ได้สนิทกันเลยกำลังยืนโอบเอวของเธอราวกับเราสนิทสนมกันมากเธอเงยหน้ามองหน้าของท่านดยุคด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ก็ครั้งที่แล้ว ก่อนที่เราแยกจากกันเจ้าเป็นคนเอ่ยปากนัดข้าเองว่างานในครั้งหน้า เราค่อยมาสานต่อจากครั้งที่แล้ว..ลืมแล้วงั้นหรือเจ้ากวางน้อย”กวางน้อยกวางใหญ่อะไรกันวะ! เธอพูดตอนไหนก่อนว่าจะมาสานต่ออะไรนั่น ในวันนั้นเท่าที่จำได้เป็นเขาด้วยซ้ำที่หนีออกไปก่อนที่เธอจะตื่น!!“ท่านดยุคคะ..”“หมับ!!”ไวกว่าคำพูดของเธอคือมือขององค์รัชทายาทที่ยื่นมากำข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร พระองค์ทรงจ้องมองเธอด้วยความโกรธในแบบที่คูณสองจากตอนแรกที่เราพบเจอกันเคียนกัดกรามแน่น เขานอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หลับตาภาพของเธอก็จะฉายชัดขึ้นมาในทันที และที่เขาเป็นเช่นนั้นเขาคิดว่าความทรมานทั้งหมดของเขามันเกิดจากเธอ เกิดจากความน่ารักที่แสนไร้เดียงสานั่นของเธอ แต่ทว่ามันกลับกลายเป็นเหมือนเขาเป็นคนโง่ เธอเก่งกาจเรื่องการปั่นหัวคนอื่นและหลอกลวงอย่างนั้นหรือ เธอมองเขาเป็นอะไรกัน ของเล่น? หรือคนหน้าโง่ที่มาหลงเสน่ห์เธ
“เป็นอย่างไรเล่า ข้าบอกไปแล้วว่าพระพักตร์ขององค์รัชทายาทนั้นทรงหล่อเหลาและงดงามประดุจพระเจ้าทรงปั้น..”เสียงของโนแอลนั้นดังไปไม่ถึงไกอาเลยดวงตาสีอัญมณีจับจ้องมองไปยังใบหน้าที่มันน่าเหลือเชื่อมากทีเดียว คราแรกเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด แน่นอนว่าเธออาจจะคิดถึงโจรผู้นั้นมากเกินไป และทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นมา เหมือนกับว่ามองบุรุษคนไหนก็เป็นเขาแต่ไม่ใช่เลย เธอหยิกแขนตัวเองไปแล้วสองรอบ แน่นอนมันเจ็บและยังคงเป็นรอยแดงอยู่ไม่จางหายไปไหนโจรผู้นั้นที่เธอพบเจอเขาในย่านการค้าจนเราเกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยกันไปคือองค์รัชทายาทของนอลข่านนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย เรื่องตลกร้ายประเภทใดกันแล้วเธอดันเสนอหน้ามานั่งด้านหน้าสุดและนั่งตรงข้ามกับเขาด้วย อากาศในยามค่ำคืนถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องโถงจัดเลี้ยงนะพระราชวังแต่ทว่าก็ยังคงรู้สึกเหน็บหนาวไม่น้อย แต่ทว่าไกอารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นๆ ที่กำลังชุ่มไปตามแผ่นหลังและมือทั้งสองข้างของเธอเมื่อได้ลองค้นเข้าไปในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ก่อนจากลาเธอจำได้ว่าเขานัดให้เธอไปพบเขาอีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น และเพราะว่าร่างกายของเธอมันเต็มไปด้วยรอยแดงเต็มไปหมด ทำให้โรสไม่ยินยอมใ
ไกอาคลี่ยิ้มบางที่แสนอ่อนโยนให้กับสตรีที่เดินเข้ามาทักทายเธอ“ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ ข้าชื่อว่านาญาค่ะ นาญาแห่งอิลบา ลูกสาวของท่านเคาน์อิลบาผู้ปกครองเหมืองทองของราชอาณาจักร”นั่นคือการแนะนำตัวหรือว่าการประกาศออกมาเพื่อโอ้อวดกันแน่ เรื่องนั้นไกอาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเลดี้นาญา”นาญาส่งยิ้มกับไกอาด้วยรอยยิ้มที่ว่างเปล่า แน่นอน..มันว่างเปล่าเพราะไม่ได้มีความยินดีอยู่ในนั้นเลย“ข้าทอดทิ้งโนแอลมานานพอสมควรแล้ว เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาของเลดี้นาญาแล้วค่ะ”นาญากระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการกล่าวอำลาแก่สตรีจากจักรวรรดิ“ให้ตายเถอะเลดี้ไกอานั้นงดงามเสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าของพี่ชายข้าอีก”สตรีคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาและเมื่อนาญาได้ยินคำกล่าวนั้นเธอก็กลั้วหัวเราะในลำคอทันที“นั่นเรียกว่างดงามอย่างนั้นหรือ ผอมแห้งเกินไปแถมใบหน้านั้นก็นับว่าจืดชืด ที่โดดเด่นเพราะว่านางพึ่งมาอยู่ที่นอลข่านต่างหาก แต่หากอยู่ไประยะหนึ่งข้าคิดว่านางจะต้องหมดความนิยมจากเหล่าบุรุษของที่นี่..พวกเขาก็แค่ชื่นชอบของใหม่เท่านั้น มีอะไรให้เราใส่ใจกัน”นาญายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม