“เรื่องของกุ้ยเฟยข้าจะจัดการเอง เจ้าอย่าได้ก่อเรื่องอีกเลย กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าต่อไปเจ้าอยากจะหย่าหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้ เจ้ายังเป็นพระชายาของจวนอ๋องอู่เฉิงอยู่”ขอเพียงแค่เสิ่นหรูโจวกลับไปกับเขา เขาจะไม่ซักถามอีก นี่เป็นการยอมอ่อนข้อที่เขาสามารถทำได้มากที่สุดแล้วหลังจากเสิ่นหรูโจวได้ยินกลับทำหน้าเยาะหยัน จนถึงตอนนี้เซียวเฉินเหยี่ยนยังติดว่านางกำลังก่อเรื่อง ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้ได้ความสนใจของเขา ช่างน่าขันเสียจริง !นางไม่ใช่เสิ่นหรูโจว ผู้ที่ในดวงตามีเพียงแค่ความรักเช่นชาติก่อนอีกต่อไปแล้วนางแสยะยิ้ม จ้องมองเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างเย็นชา “ที่ท่านมาในวันนี้ก็เพื่อพูดเรื่องเหล่านี้?”เซียวเฉินเหยี่ยนสีหน้าเคร่งขรึมทันที จ้องมองนางโดยไม่พูดอะไร“ในเมื่ออยากจะเชิญข้ากลับ เช่นนั้นก็ต้องแสดงความจริงใจเสียหน่อย เพียงแค่คำพูดจะมีประโยชน์อันใด?” เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว “เมื่อใดที่ท่านจัดการลงโทษมู่หว่านหรง ค่อยมาพูดเรื่องเหล่านี้กับข้า”เซียวเฉินเหยี่ยนสายตาหม่นหมอง “เจ้าอยากจะบีบบังคับข้าให้ลงโทษหว่านหรง ดั่งที่คิดไว้จริง ๆ !”ดังนั้นถึงได้ไม่สนใจอะไร ย้ายออกมาจากในจวนอ๋อง ยัง
นางจ้องมองแผ่นหลังของเซียวเฉินเหยี่ยนด้วยสายที่ไม่แยแส กล่าวอย่างเย็นชา “เมี่ยวตง ปิดประตู!”ทันทีที่เซียวเฉินเหยี่ยนออกจากเรือน ด้านหลังก็มีเสียงปิดประตูอย่างไม่เกรงใจดังขึ้นทันทีประตูใหญ่ถูกปิดลงเสียงดัง“โครม” เขาที่อยู่ด้านนอกราวกับสุนัขที่ถูกไล่ออกมา!เพลิงโกรธปะทุขึ้นมาทันที เซียวเฉินเหยี่ยนกำหมัดแน่น จ้องมองประตูเรือนเขม็ง ดวงตามืดมนจนน่ากลัวเมื่อฉางหลินเห็นดังนั้นจึงรีบกล่าวเตือน “ท่านอ๋อง ท่านอย่าโมโหจะทำลายสุขภาพ”เขาพลางเตือน พลางบ่นพึมพำในใจเหตุใดเสิ่นหรูโจวถึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้?นิสัยแข็งกร้าวขึ้น คิดไม่ถึงว่ายังกล้าท้าทายท่านอ๋อง! นี่ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ทิ้งนางไว้สักสองวัน นางก็จะกลับมาเอง ตอนนี้ท่านอ๋องมาตามด้วยตนเอง นางยังไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ช่างน่าประหลาดจริง ๆ !อีกอย่าง ช่วงนี้ท่านอ๋องเหมือนกับว่าจะต่างจากเมื่อก่อนเมื่อก่อน ท่านอ๋องเห็นเสิ่นหรูโจวเป็นขยะ คร้านจะสนใจ แต่ตอนนี้ ท่านอ๋องกลับถูกนางยั่วโมโหได้ง่ายดาย นี่หมายความว่า ท่านอ๋องเริ่มสนใจเสิ่นหรูโจวขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่?เซียวเฉินเหยี่ยนหันหลังกลับทันควัน กล่าวด้วยสีหน้าน่ากลัว “กลับจวน!”“ข
เช้าตรู่วันต่อมา เมี่ยวตงกลับมาจากหมู่บ้านเฉินเจีย นำข่าวมาด้วย“คุณหนู คิดไม่ถึงเลยว่าที่หมู่บ้านเฉินเจียนั่นจะมีผู้หญิงตั้งครรภ์แบบนั้นอยู่คนหนึ่งจริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะ” เมี่ยวตงเบิกดวงตากว้าง รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเสิ่นหรูโจวมองด้านหลังของนางแวบหนึ่ง แต่กลับไม่เห็นใครเมี่ยวตงกล่าวถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่ แต่บ่าวช้าไปหนึ่งก้าว เหมือนกับว่านางถูกใครพาตัวไปแล้ว”เสิ่นหรูโจวสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย กล่าวน้ำเสียงประหลาดใจ “ถูกใครพาตัวไปแล้ว?”เมี่ยวตง “ใช่แล้วเจ้าค่ะ”ผู้ใดจะพาตัวหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยไปกันนะ?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้หาตัวไม่เจอแล้ว นางจะต้องรีบคิดหาหนทางอื่น“ช่างเถอะ หาไม่เจอก็ช่างมันเถอะ ข้าจะลองหาผู้ป่วยคนอื่นดูแล้วกันนะ”ใบหน้าที่งดงามของเสิ่นหรูโจวแฝงไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ นางหยิบกล่องยาขึ้นมา กล่าวกับเมี่ยวตง “วันนี้จะต้องจัดการบาดแผลให้ฉินอวี่ใหม่ ข้าต้องไปตรวจเขาก่อน รอข้ากลับมาแล้วค่อยว่ากัน”“เจ้าค่ะ” เมี่ยวตงพยักหน้า ส่งนางออกนอกบ้านไปหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสิ่นหรูโจวมาถึงที่จวนอุปราช“พระชายาลำบา
อันที่จริงเมื่อชาติก่อนนางก็เป็นสตรีดังเช่นที่ฉินอวี่พูด ถูกตามใจ ถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตขึ้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่รอบตัวผู้ชายคนหนึ่งทั้งวันเมื่อนึกถึงเรื่องทุกอย่างที่ตนเองทอดทิ้งเมื่อชาติก่อน ท่าทางที่ลุ่มหลงเซียวเฉินเหยี่ยน นางก็อยากจะด่าตัวเองว่านังโง่จริง ๆ !นางคิดอย่างใจลอย ไม่ได้ระวังน้ำหนักบนมือ ตอนพันผ้าพันแผลจึงดึงแน่น จนฉินอวี่ร้อง“ซี้ด”ด้วยความเจ็บปวดนางสติกลับคืนมา รีบกล่าว “ขออภัยด้วย”ฉินอวี่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร”เสิ่นหรูโจวยิ้มด้วยความเก้อเขิน พันแผลอย่างระมัดระวังจนเสร็จ “พักผ่อนมาหลายวัน ตอนนี้บาดแผลยังเจ็บมากอยู่หรือไม่?”“ยาที่พระชายาให้ข้าน้อยได้ผลยิ่งนัก บาดแผลค่อย ๆ สนิทกันอย่างช้า ๆ ” ฉินอวี่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย กล่าวอย่างสบาย ๆ “บาดแผลเจ็บเล็กน้อย ก็คือตอนทำแผล”เสิ่นหรูโจวพยักหน้า ทำท่าครุ่นคิด “เช่นนี้เองหรือ”“แต่ว่าไม่เป็นไร เจ็บแค่นี้ข้าน้อยทนได้”เสิ่นหรูโจวไม่ได้พูด เปิดกล่องยาที่แบกมาออก หยิบอุปกรณ์ฉีดอันหนึ่งออกมาฉินอวี่มองสิ่งของในมือของนาง ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “พระชายา สิ่งนี้คืออะไร?”เสิ่นหรูโจวยิ้มออกมาทันที “นี่คือย
ในความทรงจำเมื่อชาติก่อน เป่ยซิวเยี่ยนไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเลยสักนิด เขาเป็นคนที่เย็นชาและห่างเหินถึงเพียงนั้น จะยื่นมือช่วยเหลือนาง ได้อย่างไรกัน?ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นลู่หวายหนิงก็สะกิดที่แขนของนาง ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองเข็มในมือของนางด้วยความเปล่งประกาย“พี่สาว เจ้าสิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เสิ่นหรูโจวยิ้ม “นี่คือยาแก้ปวด”“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นยา?” ลู่หวายหนิงกล่าวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ถูกกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น เขาจ้องมองเข็มในมือของนางอย่างจริงจัง“หน้าตาช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน”ฉินอวี่ผ่านการทดลองเมื่อครู่ รู้ดีว่าเจ้าของสิ่งนี้ใช้ดีมากขนาดไหน“นายน้อย ยาของพระชายาน่าอัศจรรย์จริง ๆ ข้าน้อยฉีดไปหนึ่งเข็ม ไม่นานบาดแผลก็หายปวด!”ลู่หวายหนิงเคยกินยาที่เสิ่นหรูโจวให้ รู้ดีว่าถึงแม้ว่ายาของนางจะแปลกประหลาด แต่ว่าได้ผลดีมากจริง ๆ ได้ยินฉินอวี่พูดเช่นนี้ จึงไม่รู้สึกประหลาดใจ ยอมรับว่าของสิ่งนั้นคือยาอย่างรวดเร็วจ้องมองเข็มที่เรียวยาวนั้น ในหัวสมองของเขาเกิดความคิดขึ้นมา ถ้าหากเจ้าสิ่งนี้สามารถแก้ปวดได้ ไม่ใช่ว่าสามารถนำไปใช้ ที่ในสนามรบ
เขานำของเหลวที่อยู่ในหลอดฉีดยาดันเข้าไปช้า ๆ ขั้นตอนนี้ยังมีความเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย ฉินหมิงก็ไม่กล้าขัดขืน ทำได้แค่เพียงกัดฟันทน ทรมานอยู่ในใจ“เสร็จแล้ว” ลู่หวายหนิงดึงเข็มที่เรียวยาวออกมา จ้องมองฉินหมิงด้วยความคาดหวังยิ่ง “เป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไรบ้าง?”ฉินหมิงสีหน้ายากจะอธิบายเล็กน้อย นวดคลึงแขนของตนเอง ขมวดคิ้วกล่าว “เหมือนชาเล็กน้อย”ลู่หวายหนิงโยนหลอดฉีดยาทิ้ง หยิกฉินหมิงทีหนึ่งฉินหมิงกำลังจะร้องว่าเจ็บ แต่กลับประหลาดใจที่แขนของตนเองกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บ!ลู่หวายหนิงเงยหน้าถาม “เจ็บหรือไม่?”ฉินหมิงส่ายหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง “นายน้อย ท่านลองดูอีกครั้ง”ลู่หวายหนิงจึงออกแรงมากกว่าเดิม หยิกเขาแรง ๆ ทีหนึ่ง“ยังคงไม่มีความรู้สึก” ฉินหมิงกล่าวอย่างตกตะลึงลู่หวายหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าประสิทธิภาพของยาจะดีถึงเพียงนี้ เขาออกแรงถึงเพียงนั้นแล้ว ฉินหมิงยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บ!“เป็นเพราะแรงของข้าน้อยเกินไปใช่หรือไม่?” ทันใดนั้นเขามองไปที่กระบี่ติดตัวที่อยู่บริเวณเอวของฉินหมิงฉินหมิงเข้าใจทันทีว่าเข้าคิดจะทำอะไร กล่าวอย่างลังเล “นายน้อย ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรอกกระมัง?”“เป
ลู่หวายหนิงดวงตาเปล่งประกาย มองเป่ยซิวเยี่ยนพร้อมกับกล่าว “พี่สาวมาแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นท่านอาจารย์ท่านลองถามนางอย่างละเอียดดีหรือไม่?”เป่ยซิวเยี่ยนจ้องมองขวดและหลอดฉีดยาที่หน้าตาแปลกประหลาดนั่น กล่าวเย็นชา “เก็บของพวกนี้ไปก่อน”จากนั้นหันไปมองฉินหมิงกล่าว “ให้นางเข้ามา”ไม่นานนัก เสิ่นหรูโจวก็ถูกพาเข้ามานางเห็นว่าลู่หวายหนิงก็อยู่ด้วย คิดในใจว่าเขาต้องนำยาแก้ปวดให้เป่ยซิวเยี่ยนดูแล้วเป็นแน่ ต่อจากนี้เป่ยซิวเยี่ยนก็น่าจะต้องถามถึงเรื่องของยาแก้ปวด จากนั้นนางก็จะสามารถเอ่ยปากเรื่องความร่วมมือได้แล้ว!นางมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเป่ยซิวเยี่ยนยังคงเย็นชา “เรื่องการรักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟย เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วหรือไม่? ขาดยาอะไร ก็รีบบอก ข้าจะให้คนไปจัดเตรียม”รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นหรูโจวจืดจางลงไปไม่น้อย เหตุใดจึงไม่เอ่ยถึงยาแก้ปวดกันนะ?“ไม่ขาดอะไร ข้าเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว”เป่ยซิวเยี่ยนสีหน้าไร้อารมณ์ กล่าว“อืม”ด้วยน้ำเสียงเมินเฉยเพียงคำเดียวเสิ่นหรูโจวเห็นเขาไม่เอ่ยถามเรื่องยาเลยสักคำ ก็เข้าใจแล้วเกรงว่าเป่ยซิวเยี่ย
เป่ยซิวเยี่ยนเหลือบตาเล็กน้อย จ้องมองเสิ่นหรูโจวใบหน้าอันงดงามราวกับภาพวาดของเสิ่นหรูโจวเงียบสงบ น้ำเสียงเย็นยะเยือกแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว“ในสนามรบถูกฟันได้ง่าย การบาดเจ็บเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง ท่านพ่อกับท่านพี่ของข้าก็อยู่ในสนามรบเช่นกัน ในฐานะที่ข้าเป็นคนในครอบครัว ย่อมหวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย และในสนามรบไม่ได้มีเพียงท่านพ่อกับท่านพี่ของข้า ยังมีท่านพ่อ พี่น้อง ลูกหลานของคนอีกนับแสน ชีวิตของพวกเขาก็จะถูกจดจำเช่นกัน”“ในเมื่อการศึกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เหล่าทหารได้ถูกกำหนดว่าต้องเผชิญกับการบาดเจ็บ เช่นนั้นข้าหวังว่าจะพยายามช่วยชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็อย่าได้เป็นโรคเรื้อรัง หรือแม้แต่การเสียชีวิตเนื่องจากขาดยารักษา”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของเสิ่นหรูโจวก็หดหู่ลงเล็กน้อง เมื่อนึกถึงเรื่องการตายในสนามรบของท่านพ่อกับท่านพี่เมื่อชาติก่อนขึ้นมามีชาติถึงมีบ้าน ตระกูลเสิ่นของพวกเขาจงรักภักดีทั้งครอบครัว ป้องปกชาติ แต่การเสียสละชีวิต กลับทำให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของพวกเขาต้องแตกสาแหรกขาดชาตินี้นางไม่ต้องการความจงรักภักดีอะไรทั้งสิ้น นางเพียงแค่อยากให้คนในครอบครัว