Share

บทที่ 187

Penulis: มู่มู่
เขานำของเหลวที่อยู่ในหลอดฉีดยาดันเข้าไปช้า ๆ ขั้นตอนนี้ยังมีความเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย ฉินหมิงก็ไม่กล้าขัดขืน ทำได้แค่เพียงกัดฟันทน ทรมานอยู่ในใจ

“เสร็จแล้ว” ลู่หวายหนิงดึงเข็มที่เรียวยาวออกมา จ้องมองฉินหมิงด้วยความคาดหวังยิ่ง “เป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

ฉินหมิงสีหน้ายากจะอธิบายเล็กน้อย นวดคลึงแขนของตนเอง ขมวดคิ้วกล่าว “เหมือนชาเล็กน้อย”

ลู่หวายหนิงโยนหลอดฉีดยาทิ้ง หยิกฉินหมิงทีหนึ่ง

ฉินหมิงกำลังจะร้องว่าเจ็บ แต่กลับประหลาดใจที่แขนของตนเองกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บ!

ลู่หวายหนิงเงยหน้าถาม “เจ็บหรือไม่?”

ฉินหมิงส่ายหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง “นายน้อย ท่านลองดูอีกครั้ง”

ลู่หวายหนิงจึงออกแรงมากกว่าเดิม หยิกเขาแรง ๆ ทีหนึ่ง

“ยังคงไม่มีความรู้สึก” ฉินหมิงกล่าวอย่างตกตะลึง

ลู่หวายหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าประสิทธิภาพของยาจะดีถึงเพียงนี้ เขาออกแรงถึงเพียงนั้นแล้ว ฉินหมิงยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บ!

“เป็นเพราะแรงของข้าน้อยเกินไปใช่หรือไม่?” ทันใดนั้นเขามองไปที่กระบี่ติดตัวที่อยู่บริเวณเอวของฉินหมิง

ฉินหมิงเข้าใจทันทีว่าเข้าคิดจะทำอะไร กล่าวอย่างลังเล “นายน้อย ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรอกกระมัง?”

“เป
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 188

    ลู่หวายหนิงดวงตาเปล่งประกาย มองเป่ยซิวเยี่ยนพร้อมกับกล่าว “พี่สาวมาแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นท่านอาจารย์ท่านลองถามนางอย่างละเอียดดีหรือไม่?”เป่ยซิวเยี่ยนจ้องมองขวดและหลอดฉีดยาที่หน้าตาแปลกประหลาดนั่น กล่าวเย็นชา “เก็บของพวกนี้ไปก่อน”จากนั้นหันไปมองฉินหมิงกล่าว “ให้นางเข้ามา”ไม่นานนัก เสิ่นหรูโจวก็ถูกพาเข้ามานางเห็นว่าลู่หวายหนิงก็อยู่ด้วย คิดในใจว่าเขาต้องนำยาแก้ปวดให้เป่ยซิวเยี่ยนดูแล้วเป็นแน่ ต่อจากนี้เป่ยซิวเยี่ยนก็น่าจะต้องถามถึงเรื่องของยาแก้ปวด จากนั้นนางก็จะสามารถเอ่ยปากเรื่องความร่วมมือได้แล้ว!นางมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเป่ยซิวเยี่ยนยังคงเย็นชา “เรื่องการรักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟย เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วหรือไม่? ขาดยาอะไร ก็รีบบอก ข้าจะให้คนไปจัดเตรียม”รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นหรูโจวจืดจางลงไปไม่น้อย เหตุใดจึงไม่เอ่ยถึงยาแก้ปวดกันนะ?“ไม่ขาดอะไร ข้าเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว”เป่ยซิวเยี่ยนสีหน้าไร้อารมณ์ กล่าว“อืม”ด้วยน้ำเสียงเมินเฉยเพียงคำเดียวเสิ่นหรูโจวเห็นเขาไม่เอ่ยถามเรื่องยาเลยสักคำ ก็เข้าใจแล้วเกรงว่าเป่ยซิวเยี่ย

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 189

    เป่ยซิวเยี่ยนเหลือบตาเล็กน้อย จ้องมองเสิ่นหรูโจวใบหน้าอันงดงามราวกับภาพวาดของเสิ่นหรูโจวเงียบสงบ น้ำเสียงเย็นยะเยือกแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว“ในสนามรบถูกฟันได้ง่าย การบาดเจ็บเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง ท่านพ่อกับท่านพี่ของข้าก็อยู่ในสนามรบเช่นกัน ในฐานะที่ข้าเป็นคนในครอบครัว ย่อมหวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย และในสนามรบไม่ได้มีเพียงท่านพ่อกับท่านพี่ของข้า ยังมีท่านพ่อ พี่น้อง ลูกหลานของคนอีกนับแสน ชีวิตของพวกเขาก็จะถูกจดจำเช่นกัน”“ในเมื่อการศึกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เหล่าทหารได้ถูกกำหนดว่าต้องเผชิญกับการบาดเจ็บ เช่นนั้นข้าหวังว่าจะพยายามช่วยชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็อย่าได้เป็นโรคเรื้อรัง หรือแม้แต่การเสียชีวิตเนื่องจากขาดยารักษา”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของเสิ่นหรูโจวก็หดหู่ลงเล็กน้อง เมื่อนึกถึงเรื่องการตายในสนามรบของท่านพ่อกับท่านพี่เมื่อชาติก่อนขึ้นมามีชาติถึงมีบ้าน ตระกูลเสิ่นของพวกเขาจงรักภักดีทั้งครอบครัว ป้องปกชาติ แต่การเสียสละชีวิต กลับทำให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของพวกเขาต้องแตกสาแหรกขาดชาตินี้นางไม่ต้องการความจงรักภักดีอะไรทั้งสิ้น นางเพียงแค่อยากให้คนในครอบครัว

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 190

    ยังมีคนแก่สองคนที่เดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้ามา ก็คือพ่อแม่สามีของผู้หญิงคนนั้นเดิมทีเมื่อเห็นว่ามีคนจะพาตัวลูกสะใภ้มาที่เมืองหลวง ให้ตายยังไงพวกเขาก็ไม่ยอม เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นระหว่างทาง จะเป็นอันตรายต่อหลานทั้งสามคนของพวกเขาแต่ทันทีที่เห็นเงินที่จวนอุปราชให้ ก็ตอบตกลงทันทีหลังจากที่ทั้งสองคนเดินเข้ามาก็มองซ้ายแลขวา จนลูกตาแทบจะถลนออกมา เห็นได้ชัดว่าตกตะลึงเพราะความมั่งคั่งของจวนอ๋องหลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เห็นชายหนุ่มชุดดำที่อยู่ตรงกลางท่านนั้น ผู้ที่มีโฉมหน้าหล่อเหลายิ่ง รอบ ๆ ตัวเต็มไปด้วยแรงกดดันและลมหายใจเย็นยะเยือก ท่านนี้จะต้องเป็นท่านอุปราชผู้มีอำนาจทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนอย่างแน่นอนนางเฉินสองสามีภรรยาสบตากันแวบหนึ่ง รีบคุกเข่าคารวะทันที “กระหม่อมคาระวะท่านอุปราช”หญิงสาวที่นอนอยู่บนเปลเองก็ขยับเช่นเดียวกัน นำมือข้างหนึ่งประคองเอวเพื่อจะลุกขึ้นมาทำความเคารพ “หม่อมฉันนางหลัวอวิ๋น...”“ไม่ต้องมากพิธี” ไม่รอให้นางลุกขึ้น เป่ยซิวเยี่ยนส่งเสียงห้ามนางเอาไว้ สายตาที่เฉยชาหยุดอยู่ที่นางครู่หนึ่ง จากนั้นหันหน้ามองเสิ่นหรูโจว “ตรวจชีพจรก่อนเถอะ”“ได้” เสิ่นหรูโจวสี

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 191

    ยายเฒ่าเฉินกระทืบเท้า กล่าวอย่างร้อนใจ “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ตั้งท้องลูกอยู่ดี ๆ จะให้คลอดก่อนกำหนดได้อย่างไร? คลอดตอนนี้สิถึงจะต้องตาย!”ตาเฒ่าเฉินรู้ตัวตนของเสิ่นหรูโจว จึงไม่กล้าพูดจาจาบจ้วง แต่เต็มไปด้วยความเดือดดาล“ต่อให้เป็นพระชายา ก็จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ จากสามคนพูดเหลือหนึ่งคน จากเป็นก็พูดว่าตาย จะเกิดไปหน่อยแล้วกระมัง!”เสิ่นหรูโจวกล่าว “ตอนนี้หญิงตั้งครรภ์ขยับไม่ได้แล้ว น้ำที่สะสมในท้องของนางรุนแรงมาก หากดึงดันต่อไปอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิต”สองสามีภรรยาเฒ่าต่างพูดโต้แย้งเป็นเสียงเดียวกันว่า“เป็นไปไม่ได้” ท่ามกลางเสียงทะเลาะเบาะแว้ง นางหลัวอวิ๋นสีหน้าตื่นตระหนก กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พระชายา ที่ท่านกล่าวมาเป็นความจริงงั้นหรือ?”เสิ่นหรูโจวหันไปมองนาง ดวงตาหงส์คู่นั้นใสแจ๋วราวกับน้ำ“จริงแท้แน่นอน ดังนั้นเจ้าจะต้องได้รับการรักษาโดยด่วน”สำหรับหญิงตั้งครรภ์แล้ว เป็นการยากที่จะตัดสินใจเรื่องการคลอดก่อนกำหนด นางหลัวอวิ๋นกัดริมฝีปาก พูดไม่ออกไปครู่หนึ่งร่างกายของนางย่อมรู้ตัวเองดี อันที่จริงนางรู้สึกมานานแล้วว่าท้องของตนผิดปกติ ไม่ง่ายดายเหมือนกับคนท้องทั่วไป

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 192

    นางรู้ดีว่า นางเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา การได้รับความช่วยเหลือเช่นนี้ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้จะได้รับแค่เพียงครั้งเดียว ถ้าหากไปแล้ว นางอาจจะได้ไปยมโลกจริง ๆ !เสิ่นหรูโจวพยักหน้า “ได้!”“ไม่ได้!” ยายเฒ่าเฉินตบต้นขาอย่างร้อนใจ “เจ้าไม่คิดถึงตนเองก็คิดถึงลูกบ้าง เด็กที่คลอดออกมาก่อนกำหนดจะมาพร้อมกับโรคร้าย!”เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วทันที น้ำเสียงเย็นยะเยือกเล็กน้อย “ข้าบอกแล้ว ว่าถ้าดึงดันไปจนครบกำหนดจะอันตรายมาก อาจจะถึงแก่ชีวิตของผู้ใหญ่!”ตาเฒ่าเฉินกล่าวขึ้นมาทันควัน “เช่นนั้นเด็กจะปลอดภัยหรือไม่?”ดวงตาของเสิ่นหรูโจวเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที นางกวาดสายตามองสองสามีภรรยา ตาเฒ่าเฉินทำหน้าตา“ข้ายอมถอยให้แล้ว” ขอเพียงแค่สามารถช่วยชีวิตหลานเอาไว้ได้ก็จะไม่เอาความยายเฒ่าเฉินจ้องมองนางด้วยไปหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง รอคอยคำตอบของนางนางแสยะยิ้ม “พวกเจ้า...ไม่เข้าใจเหตุผลเอาเสียเลย!”ลู่หวายหนิงกล่าวอย่างรู้สึกไม่ยุติธรรม “คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าเพื่อหลานแล้ว ไม่สนใจแม้กระทั่งชีวิตของลูกสะใภ้?”นางหลัวอวิ๋นไม่ได้ส่งเสียง สีหน้าทุกข์ทรมานตาเฒ่าเฉินไม่พอใจที่ถูกเด็กน้อยคนหนึ่งสั่งสอน “เรื่องใน

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 193

    ภายในเรือนรับรองแขก นางหลัวอวิ๋นนอนอยู่บนตั่ง ยื่นมือออกไปเพื่อให้ท่านหมอจับชีพจรตลอดบ่าย หมอที่ออกไปจากจวนอุปราช ต่างก็พูดถึงเรื่องที่นางหลัวอวิ๋นตั้งครรภ์แฝดสาม บรรดาชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์แต่ว่า เรื่องที่ชาวบ้านรู้นั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือจะต้องให้คนในวังหลวงรู้ ว่ามีสตรีคนหนึ่งที่อาการเหมือนกันกับกุ้ยเฟยเสิ่นหรูโจวกล่าวกำชับเป็นพิเศษ ว่าวันพรุ่งนี้ให้คนตามหาท่านหมอมาสักสองสามคน ทางที่ดี ควรเป็นหมอหลวงจากในวังหลวง ลู่หวายหนิงเข้าใจ และไปลงมือทำและเสิ่นหรูโจวก็ควรจะกลับบ้านได้แล้ว นางหลัวอวิ๋นนอนอยู่บนตั่ง สายตามองตามนางไป กล่าวอย่างสงสัย “พระชายา...”เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของนาง เสิ่นหรูโจวเดินตรงไปหานาง กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “มีความกังวลใจอยู่เล็กน้อยใช่หรือไม่?”นางหลัวอวิ๋นเม้มริมฝีปาก พยักหน้าเสิ่นหรูโจวกุมมือของนาง กล่าวปลอบโยนนางเบา ๆ “เจ้าไม่ต้องกลัว ข้ามีความมั่นใจว่าจะรักษาเจ้ากับลูกเอาไว้ได้”น้ำเสียงของนางใสกังวานน่าฟัง แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ นางหลัวอวิ๋นที่ตื่นเต้นก็สงบใจลงนางจ้องมองเสิ่นหรูโจวด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 194

    เสิ่นหรูโจวนึกถึงแหวนหยกวงนั้นขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกเกิดความไม่พอใจขึ้นมาในใจอีกครั้ง เหตุใดช่วงนี้ถึงได้นึกถึงเรื่องการหายตัวไปขึ้นมาบ่อย ๆ ?จิตใจของนางว้าวุ่นเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้ถามเรื่องราวของเป่ยซิวเยี่ยนอย่างละเอียดอีก“พระชายา ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ” นางหลัวอวิ๋นจ้องมองสีท้องฟ้าด้านนอก ตระหนักได้ว่าตนเองยื้อเวลาของชาวบ้านนานถึงเพียงนี้แล้ว รู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ เสิ่นหรูโจวพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้าก็พักผ่อนให้ดี ๆ วันพรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าอีก”ยุ่งมาทั้งวัน เสิ่นหรูโจวรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากกลับจวน นางกินอะไรง่าย ๆ เล็กน้อย หลังจากอาบน้ำแล้ว ก็รีบนอนบนเตียงแล้วก็หลับไปทันใดนั้นคิ้วของนางก็ขมวดเข้าหากัน การหายใจยุ่งเหยิงขึ้นไม่น้อยในฝัน ในระหว่างที่นางกำลังเคลิ้มก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง กดนางเอาไว้ใต้ล่าง ลมหายใจที่หนักหน่วงอยู่ข้างหู แฝงไปด้วยความร้อนพ่นใส่หูของนาง นางเอียงหัวเพราะจั๊กจี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวไปบนร่างกายของนางอย่างไร้ระเบียบ ดึงเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของนาง ลูบคลำที่ใต้กระโปรงของนางหัวสมองของนางเต็มไปด้วยความมึนงง แต่เข้าใ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 195

    แหงนหน้ามองดวงจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้า นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงท่านพ่อและท่านพี่ที่อยู่ชายแดนไกลเมื่อนับเวลาแล้ว เรื่องที่ท่านพ่อได้รับบาดเจ็บน่าจะเป็นเวลาอีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ นางยังมีเวลา รอให้จัดการเรื่องของกุ้ยเฟยเรียบร้อย นางก็จะได้ร่วมมือกับเป่ยซิวเยี่ยน แล้วก็นำยาส่งไปที่ชายแดนนางภาวนาในใจ “หวังว่าท่านพ่อกับท่านพี่จะปลอดภัยทุกอย่าง รีบกลับมาในเร็ววัน”เช้าตรู่ เสิ่นหรูโจวเพิ่งจะตื่นนอน หลังจากล้างหน้าแล้ว กำลังหวีผมเมี่ยวตงหยิบปิ่นหยกสีขาวลายหงส์อันหนึ่งออกมา กำลังจะปักลงไปบนผมของเสิ่นหรูโจว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่ด้านนอก นางเกือบจะทำหลุดมือ มุ่ยปากกล่าวอย่างไม่พอใจ“ผู้ใดมาเอะอะโวยวายข้างนอก แต่เช้าตรู่เช่นนี้กัน?”ไม่นานนัก ชุนซิ่วก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี“คุณหนู พระชายารองมาเจ้าค่ะ จะเข้ามาให้ได้ เสี่ยวเถาเสี่ยวเวยขวางนางไว้อยู่ด้านนอกเจ้าค่ะ”ก่อนหน้านี้เสิ่นหรูโจวเคยพูด ห้ามปล่อยให้ใครเข้ามาตามอำเภอใจ ชุนซิ่วและอีกสองคนจดจำกฎข้อนี้ได้ เฝ้าประตูอย่างเข้มงวด ไม่ให้ผู้ใดเข้ามาโดยพลการอย่างเด็ดขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่น่ารำคาญเช่นมู่หว่านหร

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 264

    ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 263

    ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 262

    เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status