เมี่ยวตงถลึงตาโต จ้องมองมู่หว่านหรงด้วยความโมโห “ท่านพูดจาเหลวไหลอะไร!”“ข้าไม่ได้พูดจาเหลวไหล ทั้งหมดเป็นนายหญิงของเจ้ารนหาที่ตายเอง” มู่หว่านหรงยิ้มอย่างได้ใจ หันไปมองนักพรตที่อยู่ด้านหลังนักพรตคนนั้นอายุสามสิบปี ใบหน้าซูบผอม โหนกแก้มสูง ดวงตาเรียวเล็ก สวมชุดคลุมสีเทา เดินโงนเงนไปข้างหน้าสองสามก้าวดวงตาเรียวเล็กของเขาแหงนมองท้องฟ้า ยื่นมือออกไปนับนิ้ว กล่าวพึมพำ “อาตมานับนิ้วทำนายดวงชะตา ลัคนาของพระชายามีดาวหายนะ จะประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ วันพรุ่งนี้——จะต้องประสบกับหายนะที่คาดไม่ถึง”เสิ่นหรูโจวยิ้มพร้อมกับจิบชา เหลือบตามองไปคนผู้นี้มีนามว่าโจวอี๋เจี่ยน เรียกตัวเองว่านักพรตเต๋าหลิงเซียว เป็นสุนัขรับใช้ของมู่หว่านชิง พี่สาวของมู่หว่านหรง โลดแล่นอยู่ในพระราชวัง ราชวงศ์ไว้วางใจและเชื่อถือผู้แสวงหาทางเซียนแห่งเต๋า ชอบการบวงสรวงเหล่าทวยเทพ โจวอี๋เจี่ยนผู้นี้มีมู่หว่านชิงคอยหนุนหลัง กลายเป็นคนบุคคลมีชื่อเสียงแนวหน้าที่ราชวงศ์ ไว้ใจเป็นอย่างยิ่งแต่ว่าเมื่อชาติก่อนเขาไม่ได้ปรากฏตัวเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะฟังคำสั่งของมู่หว่านหรง แต่แท้จริงแล้วเขาฟังคำสั่งของมู่หว่านชิง มักจ
พี่สาวของนางได้เตรียมทุกอย่างไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว รอให้พรุ่งนี้นางพานักพรตเต๋าเข้าวังหลวง จะหักหน้าเสิ่นหรูโจว!แต่กระนั้น นางก็ไม่เห็นถึงสีหน้าที่ลนลานของเสิ่นหรูโจวเลยแม้แต่น้อย ในใจยิ่งทวีความโมโห แค่นเสียงหัวเราะ“เจ้าเลิกทำท่าทางใจเย็นได้แล้ว รีบเขียนหนังสือสั่งลาไว้แต่เนิ่น ๆ คนของจวนแม่ทัพจะได้ง่ายต่อการไว้ทุกข์”เมี่ยวตงกับชุนซิ่วจ้องมู่หว่านหรงด้วยความโมโห ในใจก็มีความกังวลบางอย่าง ไม่รู้ว่าพวกนางจะเตรียมแผนร้ายอะไรเอาไว้ เพื่อมาจัดการคุณหนูดวงตาของเสิ่นหรูโจวมีแสงประหลาดปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในไม่ช้า สายตาที่เย็นชาของนางเคลื่อนจากหน้ามู่หว่านหรง แล้วก็ย้ายไปยังโจวอี๋เจี่ยนโจวอี๋เจี่ยนก็จะเข้าวังหลวงเช่นกัน วิธีการน่าจะไม่ต่างจากเมื่อชาติก่อนสักเท่าไหร่ ทำให้โจวอี๋เจี่ยนพูดจาเร้นลับซับซ้อนสองสามประโยค สาดโคลนใส่นาง ถ้าหากโจวอี๋เจี่ยนก่อกวนอยู่ข้าง ๆ วันพรุ่งนี้ที่นางรักษากุ้ยเฟย ทุกอย่างจะต้องไม่ราบรื่น แล้วก็จัดการอย่างยากลำบากเมื่อเห็นสีหน้านางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในใจของมู่หว่านหรงก็สบายใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวเยาะเย้ย “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”
มู่หว่านหรงโมโหจนตัวสั่น ยกมือขึ้นกะจะตบคืนสักฉาดแต่ปฏิกิริยาของชุนซิ่วรวดเร็วกว่า คว้าข้อมือของนางเอาไว้ แล้วผลักนางอย่างแรงมู่หว่านหรงโดนผลักจนเซ ถอยหลังไปหลายก้าว ถ้าหากไม่ใช่เพราะโจวอี๋เจี่ยนประคองนางเอาไว้ ก้นของนางคงกระแทกพื้นไปแล้วนางเคียดแค้นเสียจนดวงตาแทบจะมีควันลอยออกมา สะบัดมือของนักพรตคนนั้นออก สายตาที่ดุร้ายจ้องไปที่ใบหน้าของเสิ่นหรูโจว กัดฟันพร้อมกล่าว“ดี พวกเจ้าคนเยอะได้เปรียบ คอยดูพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ว่าพวกเจ้ายังจะอวดดีได้อีกหรือไม่!”พูดจบ นางหันหน้าแล้วเดินจากไป โจวอี๋เจี่ยนเดินตามไป ก่อนหน้าที่จะเดินออกจากประตู ยังหันหน้ากลับมา หรี่ตามองเสิ่นหรูโจวแวบหนึ่งเสิ่นหรูโจวก็มองเขาเช่นกัน พร้อมกับแสยะยิ้ม มองทั้งสองคนเดินจากไปจนลับสายตาเมี่ยวตงขมวดคิ้ว “คุณหนู นักพรตคนนั้นแลดูโหดเหี้ยมนะเจ้าคะ”เสิ่นหรูโจวยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นอะไร ข้าโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเขา”ชุนซิ่วเก็บสายตาดุร้าย หันมองเสิ่นหรูโจวอย่างกังวล “คุณหนู เกรงว่าพวกเขาจะใช้แผนร้ายบางอย่างมาจัดการกับท่าน ท่านจะต้องระวังนะเจ้าคะ”เสิ่นหรูโจวดวงตาเต็มไปด้วยความสงบนิ้ง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับห้อง “ไม่ต้องกังว
“ซี้ด——” รู้สึกปวดที่บริเวณท้ายทอย เสิ่นหรูโจวสูดลมหายใจเข้า เมื่อได้สติ นางเบิกตาโพลงทันที ใบหน้าอันหล่อเหลา แต่กลับทำให้นางเกลียดแค้นเป็นที่สุดอยู่ใกล้มาก ๆ “เซียวเฉินเหยี่ยน?”นางนอนอยู่บนเตียง และเซียวเฉินเหยี่ยนนั่งอยู่ข้างเตียง จ้องมองนางเงียบ ๆ ดวงตาเรียวยาวทั้งสองเต็มไปด้วยความดำมืด ราวกับว่ามีเมฆดำลอยอยู่หลังจากหันมองด้านข้างแวบหนึ่ง เสิ่นหรูโจวก็พบว่าตนเองถูกจับตัวกลับมาที่จวนอ๋อง แล้วก็กลับมายังในเรือนของพระชายานางลุกขึ้นนั่งทันที น้ำเสียงโกรธแค้นอย่างชัดเจน “เซียวเฉินเหยี่ยน ท่านทำอะไร!”เซียวเฉินเหยี่ยนแค่นเสียงหัวเราะ “แน่นอนว่าต้องจับเจ้าขังไว้น่ะซิ เพื่อให้เจ้าเข้าไปก่อเรื่องในวังไม่ได้!”สีหน้าของเสิ่นหรูโจวเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “ท่านกล้า!”“เหตุใดข้าถึงไม่กล้า!” เซียวเฉินเหยี่ยนตะคอกเสียงทุ้ม ดวงตาที่ดำมืดกำลังจดจ้องเสิ่นหรูโจว “สาวใช้พวกนั้นของเจ้า ข้าจับขังเอาไว้แล้ว ไม่อยากให้พวกนางตายละก็ ก็อยู่ที่นี่แล้วประพฤติตัวดี ๆ !”ดวงตาหงส์อันเย็นเยือกของเสิ่นหรูโจวเกิดเพลิงโทสะขึ้นมาทันที โมโหจนหน้าแดงก่ำนางเตรียมตัวมานานถึงขนาดนี้ เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญที่ต้
เซียวเฉินเหยี่ยนซุกเข้าไปที่ข้างหูของนาง กล่าวเสียงเย็นชา “หนีสิ ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้!”หัวใจของเสิ่นหรูโจวสั่นสะท้านทันที นางขยับเขยื้อนไม่ได้ ทำได้แค่เพียงยอมให้เซียวเฉินเหยี่ยนอุ้มนางกลับไปที่เตียงอีกครั้ง“ของบ้า ๆ นี่มาจากไหน” เซียวเฉินเหยี่ยนดึงหลอดฉีดยาที่ปักอยู่บนแขนออก หลังจากมองสำรวจด้วยสายตาประหลาดใจ ก็โยนทิ้งไป จากนั้นหันไปมองเสิ่นหรูโจวด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกล่าว“เอากลอุบายสกปรกต่าง ๆ นา ๆมาจัดการกับข้า ใช่หรือไม่?”เสิ่นหรูโจวขยับลูกตา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดแค้น“ข้าใช้กลอุบายสกปรกอะไรกัน ตอนที่ท่านทรมานข้า ถึงจะเรียกว่าใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุความต้องการ!”นางลืมไปว่าเซียวเฉินเหยี่ยนมีวรยุทธ์ที่สูงส่ง จับตัวนางนั้นเป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ น่าเสียดายที่คนผู้นี้เก่งทั้งบุ๋นบู๊แต่กลับตาบอดเสียได้ เอาแต่รังแกนาง ไม่เคยลงมือกับนางอย่างอ่อนข้อ!เซียวเฉินเหยี่ยนไม่โต้แย้ง “เจ้ารู้ก็ดี ถ้าหากประพฤติตัวดีเสียหน่อย ก็จะได้รับความทุกข์ทรมานน้อยลง”เสิ่นหรูโจวพยายามจะขยับแขนขาอย่างสุดแรงเกิด แต่ร่างกายไม่ฟังคำสั่งนางเลยสักนิด นางร้อนใจจนเหงื่อท่ว
วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การรักษากุ้ยเฟยเท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือหลังจากรักษากุ้ยเฟยเรียบร้อย เติมเต็มความเสียใจของชาติก่อนแล้ว คือการทำให้เซียวเฉินเหยี่ยนมีโอกาสได้สัมผัสกับยาของนาง ยังร้องขอเรื่องการหย่าร้างได้อีกด้วย เรื่องการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว นางจะละทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้!“ท่านจะไปไหน? คลายจุดลมปราณของข้าก่อน ข้ารู้สึกแย่ ท่านสงสารข้าเถอะ”นางร้องขออย่างไม่ยอมรับชะตากรรม จากนั้น ทว่านางกลับได้ยินเสียงปิดประตูดัง “ปัง” แทนคำตอบเสิ่นหรูโจวเงียบไปทันที รีบเก็บท่าทางที่อ่อนโยนลงไป กัดฟันกล่าวเสียงต่ำ “เซียวเฉินเหยี่ยน! ไอ้สารเลว!”นางเสแสร้งจนน่าสะอิดสะเอียดขนาดนี้ ผลสุดท้ายเขากลับดื้อรั้น!ด้านนอกมีเสียงของเซียวเฉินเหยี่ยนดังลอยเข้ามา “เฝ้านางไว้ให้ดี ๆ ไม่ว่านางจะพูดอะไร ก็ห้ามเปิดประตู”“ข้าน้อยรับทราบ”เสิ่นหรูโจวที่อยู่ด้านในโมโหเสียจนควันออกหู ทั้งขยับไม่ได้ แม้กระทั่งระบายอารมณ์ก็ยังทำไม่ได้ ทำได้แค่เพียงนอนมองเพดานอย่างเหม่อลอย ด่าทอเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างเอาเป็นเอาตายในใจเวลาสามวันมาถึงแล้ว วันนี้ฝ่าบาททรงจัดงานเลี้ยงในวังขึ้นเป็นพิเศษ ก่อนหน้าที่กุ้ยเฟยจะได้รับการรักษา
สีหน้าของฮ่องเต้หย่งอันเคร่งขรึมเสียจนหน้ากลัว เหลือบตามองเฉาเต๋อไห่ กล่าวถามเสียงดุดัน “พระชายาอ๋องอู่เฉิงอยู่ที่ใด?”เฉาเต๋อไห่ตอบอย่างสัตย์จริง “พระชายาอ๋องอู่เฉิงยังไม่มาพ่ะย่ะค่ะ”“มันเวลาใดแล้ว ยังไม่มา!” ฮ่องเต้หย่งอันตบโต๊ะ ถ้วยเหล้าถูกแรงสั่นสะเทือนจนล้มคว่ำ เหล้าสาดกระเซ็น “รีบไปนำตัวนางมาตอบคำถามต่อหน้าเราเดี๋ยวนี้!”เมื่อเห็นพระพักตร์ที่ทรงกริ้ว ดวงตาทั้งสองข้างของเฉาเต๋อไห่สั่นเครือ รีบกล่าวตอบ “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะให้คนไปตามาเดี๋ยวนี้”ลู่หวายหนิงเพิ่งตระหนักได้ถึงความรุนแรงของปัญหา ถ้าหากฝ่าบาทกับกุ้ยเฟยทรงเชื่อคำพูดของนักพรตเต๋า ก็จะไม่มีทางให้พี่สาวรักษาอาการป่วยแก่กุ้ยเฟย ยังจะลงโทษพี่สาวอีกด้วย!นักพรตเต๋าผู้นี้ช่างน่ารังเกียจ!เขาจ้องโจวอี๋เจี่ยนอย่างโมโห “ฝ่าบาท หวายหนิงคิดว่าคำพูดของนักพรตเต๋าไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีคนไม่น้อยที่กำลังใช้นามแฝงของนักบวชเต๋า แสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน ต้มตุ๋นหลอกลวงพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันไม่ได้ตรัสอะไร แต่กวาดสายตามองเป่ยซิวเยี่ยนราวกับมีอะไรบางอย่างโจวอี๋เจี่ยนเหลือบตามอง กล่าวเย้ยหยัน “ความหมายของนา
บนใบหน้าอ่อนวัยของลู่หวายหนิง แข็งชะงักไปทันที มองเห็นสายฝนที่ด้านนอกตำหนัก หัวใจก็รู้สึกผิดหวังทันที หันหน้ากลับไปมองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย“ท่านอาจารย์...”จบเห่ เขาประเมินนักพรตผู้นี้ต่ำไปจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของพี่สาวคนสวยก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว!ใบหน้าของเป่ยซิวเยี่ยนเย็นชาฉาบไปด้วยความทุกข์ สีหน้าแววตาอึมครึมยิ่งกว่าท้องฟ้าด้านนอกเสียงฝนดังเป็นระยะ ข้าราชบริพารในวังต่างพากันมองโจวอี๋เจี่ยนด้วยสีหน้าประหลาดใจมู่หว่านหรงข่มรอยยิ้มลงไป สีหน้าตื่นตะลึง“คิดไม่ถึงว่าฝนจะตกจริง ๆ นักพรตหลิงเซียวเก่งกาจอย่างที่คิดไว้ ดูสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดคงเป็นเรื่องจริง พระนางกุ้ยเฟยจะคลอดวันนี้ไม่ได้ โชคดีที่มีท่านเตือนสติ ไม่เช่นนั้นเชื่อคำของพระชายา ก็คงจะแย่!”สีหน้าของกุ้ยเฟยเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด โมโหเสียจนหายใจหอบนางหันมองฮ่องเต้หย่งอัน น้ำเสียงโมโหปนไปด้วยความน้อยใจ “ฝ่าบาท เสิ่นหรูโจวเกือบจะทำร้ายหม่อมฉันกับเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์แล้วเพคะ!”“สารเลว!” ฮ่องเต้หย่งอันโมโหเป็นอย่างยิ่ง ดวงตามีแสงแห่งความดุร้ายฉายแววออกมา “ต