สีหน้าของฮ่องเต้หย่งอันเคร่งขรึมเสียจนหน้ากลัว เหลือบตามองเฉาเต๋อไห่ กล่าวถามเสียงดุดัน “พระชายาอ๋องอู่เฉิงอยู่ที่ใด?”เฉาเต๋อไห่ตอบอย่างสัตย์จริง “พระชายาอ๋องอู่เฉิงยังไม่มาพ่ะย่ะค่ะ”“มันเวลาใดแล้ว ยังไม่มา!” ฮ่องเต้หย่งอันตบโต๊ะ ถ้วยเหล้าถูกแรงสั่นสะเทือนจนล้มคว่ำ เหล้าสาดกระเซ็น “รีบไปนำตัวนางมาตอบคำถามต่อหน้าเราเดี๋ยวนี้!”เมื่อเห็นพระพักตร์ที่ทรงกริ้ว ดวงตาทั้งสองข้างของเฉาเต๋อไห่สั่นเครือ รีบกล่าวตอบ “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะให้คนไปตามาเดี๋ยวนี้”ลู่หวายหนิงเพิ่งตระหนักได้ถึงความรุนแรงของปัญหา ถ้าหากฝ่าบาทกับกุ้ยเฟยทรงเชื่อคำพูดของนักพรตเต๋า ก็จะไม่มีทางให้พี่สาวรักษาอาการป่วยแก่กุ้ยเฟย ยังจะลงโทษพี่สาวอีกด้วย!นักพรตเต๋าผู้นี้ช่างน่ารังเกียจ!เขาจ้องโจวอี๋เจี่ยนอย่างโมโห “ฝ่าบาท หวายหนิงคิดว่าคำพูดของนักพรตเต๋าไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีคนไม่น้อยที่กำลังใช้นามแฝงของนักบวชเต๋า แสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน ต้มตุ๋นหลอกลวงพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันไม่ได้ตรัสอะไร แต่กวาดสายตามองเป่ยซิวเยี่ยนราวกับมีอะไรบางอย่างโจวอี๋เจี่ยนเหลือบตามอง กล่าวเย้ยหยัน “ความหมายของนา
บนใบหน้าอ่อนวัยของลู่หวายหนิง แข็งชะงักไปทันที มองเห็นสายฝนที่ด้านนอกตำหนัก หัวใจก็รู้สึกผิดหวังทันที หันหน้ากลับไปมองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย“ท่านอาจารย์...”จบเห่ เขาประเมินนักพรตผู้นี้ต่ำไปจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของพี่สาวคนสวยก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว!ใบหน้าของเป่ยซิวเยี่ยนเย็นชาฉาบไปด้วยความทุกข์ สีหน้าแววตาอึมครึมยิ่งกว่าท้องฟ้าด้านนอกเสียงฝนดังเป็นระยะ ข้าราชบริพารในวังต่างพากันมองโจวอี๋เจี่ยนด้วยสีหน้าประหลาดใจมู่หว่านหรงข่มรอยยิ้มลงไป สีหน้าตื่นตะลึง“คิดไม่ถึงว่าฝนจะตกจริง ๆ นักพรตหลิงเซียวเก่งกาจอย่างที่คิดไว้ ดูสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดคงเป็นเรื่องจริง พระนางกุ้ยเฟยจะคลอดวันนี้ไม่ได้ โชคดีที่มีท่านเตือนสติ ไม่เช่นนั้นเชื่อคำของพระชายา ก็คงจะแย่!”สีหน้าของกุ้ยเฟยเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด โมโหเสียจนหายใจหอบนางหันมองฮ่องเต้หย่งอัน น้ำเสียงโมโหปนไปด้วยความน้อยใจ “ฝ่าบาท เสิ่นหรูโจวเกือบจะทำร้ายหม่อมฉันกับเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์แล้วเพคะ!”“สารเลว!” ฮ่องเต้หย่งอันโมโหเป็นอย่างยิ่ง ดวงตามีแสงแห่งความดุร้ายฉายแววออกมา “ต
เป่ยซิวเยี่ยนราวกับไม่อยากจะโต้เถียงอะไรกับนาง เพียงแค่เก็บสายตากลับมาอย่างเรียบเฉย กล่าวกับลู่หวายหนิงที่กำลังโมโหอยู่ข้างกาย“หวายหนิง ต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท ห้ามเสียมารบาท รีบนั่งลง”ถึงแม้ว่าลู่หวายหนิงจะโมโห แต่ยังเชื่อฟังคำของท่านอาจารย์ หลังจากจ้องมองมู่หว่านหรงอย่างดุร้ายแวบหนึ่งก็นั่งลงโจวอี๋เจี่ยนที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่พูดจา ดวงตาเรียวเล็กแอบสังเกตสีหน้าของเป่ยซิวเยี่ยนแต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะมองเป่ยซิวเยี่ยนไม่ออก รู้สึกว่าดวงชะตาของเป่ยซิวเยี่ยนยากจะคาดเดา คนผู้นี้เป็นตัวแปรที่สำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน เป็นไปได้สูงที่จะมีอิทธิพลต่อนายหญิงและอ๋องอู่เฉิง ถึงขนาดเปลี่ยนแปลงแคว้นนี้ได้ เก็บเขาไว้ เกรงว่าจะเป็นหายนะในอนาคต!ไม่ได้ จะเก็บทั้งเสิ่นหรูโจวและเป่ยซิวเยี่ยนเอาไว้ไม่ได้!แสงแห่งความโหดร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาแวบหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างของโจวอี๋เจี่ยนเบิกกว้าง กล่าวน้ำเสียงดุดัน“ในดวงชะตาของท่านอุปราช ดาวทันหลาง[footnoteRef:1]ตกอยู่ในวังกระต่าย ไม่มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม เกรงว่าการวักระทำในวันนี้ท่านอุปราชจะแอบแฝงไปด้วยเจตนาชั่วร้าย สงสัยว่ามีแผนจะทำลายเลือ
ฉินหมิงพยักหน้า “ข้าน้อยรับคำสั่ง”ในเวลานี้ จวนอ๋องอู่เฉิง“ด้านนอกมีคนหรือไม่ เปิดประตูที!” จุดลมปราณของเสิ่นหรูโจวคลายออกแล้ว แต่มือทั้งสองข้างยังคงถูกมัดอยู่ นางนั่งลงนำมือที่ถูกมัดที่อยู่ด้านหลังสลับมาไว้ด้านหน้า ใช้ฟันแกะปมเชือกออกนางยืนอยู่ด้านหน้าประตูที่ปิดสนิท มองด้านนอกจากร่องประตู ตะโกนและทุบประตูต่อไป“ข้าเห็นเจ้าแล้ว เจ้าช่วยเปิดประตูให้ข้าเถอะ ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย!”นางมองเห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกแล้ว รีบขอร้องเขา แต่คนที่อยู่ด้านนอกกลับเห็นนางเป็นอากาศ ไม่สนใจนางเลยสักนิดเสิ่นหรูโจวร้อนใจจนถีบประตูอีกสองสามครั้ง มองไปรอบ ๆ ด้าน ประตูหน้าต่างทุกบานถูกปิดสนิท มีเพียงแสงเล็กน้อยที่สาดส่องเข้ามาผ่านลวดลายของหน้าต่างนางอยู่ภายในห้องอันคับแคบนี้เพียงลำพัง อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกขึ้นมาความรู้สึกที่ถูกขังอยู่ในวังหลวงเมื่อชาติก่อน ราวกับงูพิษเลื้อยอยู่ในหัวใจของนาง ท่ามกลางความเหม่อลอย ราวกับว่านางได้เห็นเซียวเฉินเหยี่ยนค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ปิดล้อมนางเอาไว้ที่หัวเตียง จากนั้นป้อนยาช่วยชีวิตให้นางด้วยตนเองเขากักขังนาง ควบคุมนาง ไม่ให้นางตาย นางตกลงสู่เหวลึกครั้งแ
“เสิ่นหรูโจว!” ตอนที่ประตูเปิดออก เขาก้าวเข้าประตูไป อยากจะเห็นร่างของเสิ่นหรูโจวอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วทันใดนั้นด้านหน้าก็มีผงจำนวนมากลอยเข้ามาที่หน้า เขาไม่ได้ป้องกัน จึงสูดดมเข้าไปไม่น้อย จากนั้นก็เห็นใบหน้างามของเสิ่นหรูโจว ก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของเขานางกำลังจะวิ่งออกไปด้านหน้า เซียวเฉินเหยี่ยนจับนางเอาไว้โดยสัญชาติญาณ เขาไม่ได้สนใจที่จะถามว่าเป็นผงอะไร เมื่อเห็นว่าเสิ่นหรูโจวสบายดี หัวใจที่ถูกความหวาดกลัวครอบงำจึงทรุดลงที่เดิม หลังจากนั้นก็รู้สึกเวียนหัว“เจ้าทำเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะหลอกลวงข้า? ผงที่สาดมาเมื่อครู่นี้คืออะไร?”เสิ่นหรูโจวเกลียดที่ตนเองไม่ใช่คนที่ฝึกวรยุทธ์ ออกแรงสะบัดมือของเขาออก “ผงพิษ”เซียวเฉินเหยี่ยนหน้าเปลี่ยนสีทันที มองเสิ่นหรูโจวด้วยดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเหลือเชื่อ“เจ้าจงใจล่อลวงให้ข้ามาที่นี่ จากนั้นก็วางยาข้า?”“ไม่ผิด ข้าขอเตือนให้ท่านไปถอนพิษ ไม่อย่างนั้นท่านจะน่าเวทนามาก!” เสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ ใช้เลือดที่อยู่ในกล่องยาผสมกับน้ำ เทที่ด้านนอก องครักษ์ตื่นตระหนกอย่างที่คิดไว้ และเขาก็มาอย่างที่คิดจริง ๆ นางยกเท้าขึ้นกำลังจะก้าวออกไปด้านน
“ท่านอุปราช!” เสิ่นหรูโจวเหลือบตามองไป สีหน้าดีใจมากทันที ความโกรธบนใบหน้ามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที พยายามออกแรงดิ้นรน “ท่านอุปราช ช่วยข้าหน่อย!”ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือแล้ว!เป่ยซิวเยี่ยนมองเห็นฉากนี้ สีหน้าของใบหน้าอันหล่อเหลาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาจ้องมองใบหน้าที่ร้อนใจของเสิ่นหรูโจว กลับอึมครึมขึ้นไม่น้อยฉินหมิงสองมือกอดอก ยืนอยู่ด้านหลังของเป่ยซิวเยี่ยนด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกเมื่อครู่เขาไม่ได้ที่อยู่ของเสิ่นหรูโจวจากปากของเซียวเฉินเหยี่ยน จึงแอบเฝ้าดูมาตลอด ก็พบว่าเซียวเฉินเหยี่ยนไม่ได้พูดความจริงอย่างที่คิดไว้ เสิ่นหรูโจวอยู่ในจวนอ๋องชัด ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบไปรายงานท่านอ๋อง ทันทีที่มาถึงก็เจอเข้ากับฉากนี้เข้าพอดีเซียวเฉินเหยี่ยนจ้องเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่อึมครึม แล้วก็ฉินหมิงที่อยู่ด้านหลังของเขา ดวงตาเย็นยะเยือก หญิงสาวในอ้อมกอดพยายามดิ้นรนสุดแรงเกิด เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น แรงที่กอดนางเอาไว้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ยินดีต้อนรับท่านอุปราช เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้าเสียหน่อย ข้าจะได้ไปต้อนรับเป็นอย่างดี” เซียวเฉินเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกแฝงไปด้วยเจต
เสิ่นหรูโจว นางถึงกับโจมตีจุดอ่อนของเขาต่อหน้าคนนอก!นางยังกล้าจากไปพร้อมชายอื่นต่อหน้าเขาโดยไม่แม้จะหันกลับมามอง!ส่วนฉินหมิงได้เหลือบตามองเขาอย่างเฉยเมยคราหนึ่ง เมื่อเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งแต่ไม่มีเจตนาจะไล่ตาม ก็หมุนกายจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดเช่นกันเซียวเฉิยเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม สองตาลุกโชนจนแดงก่ำ คิดถึงฝันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ในฝันล้วนเป็นภาพที่เสิ่นหรูโจวค่อยๆ จากเขาไปทีละก้าว ในสมองเกิดความมึนงงขึ้นเป็นระลอก ร่างของเขาโอนเอนอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังประคองเขาไว้อย่างรวดเร็ว“ท่านอ๋อง ท่านดูไม่สบายอย่างมาก พักก่อนสักครู่ดีหรือไม่ขอรับ?”“ไม่จำเป็น” เซียวเฉินเหยี่ยนหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ฝืนสงบสติอารมณ์ลง หลังยืนตรงขึ้นมาก็สาวเท้าไล่ตามพวกเขาไปในยามที่เขาเร่งฝีเท้าตามมาถึงหน้าประตู รถม้าของเป่ยซิวเยี่ยนก็ได้เคลื่อนออกไปไกลแล้ว เขาจึงอดกัดฟันอย่างแรงไม่ได้สมควรตาย!ครานี้ เรื่องต่างๆ ก็ยากจะอธิบายขึ้นมาจริงๆ แล้ว!……ในรถม้า เสิ่นหรูโจวมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ“ขอบพระคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาก หากไม่ใช่เพราะท่านมา
เป่ยซิวเยี่ยนกวาดตามองไปอย่างช้าๆ ในยามดวงตาที่เยียบเย็นราวน้ำค้างแข็งตกลงบนตัวของคนผู้นั้น คนผู้นั้นก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้ฮ่องเต้หย่งอันจับตามองการกระทำของเป่ยซิวเยี่ยน แววตาก็หรี่ลงเป่ยซิวเยี่ยนปล่อยองครักษ์ผู้นั้น จากนั้นมองฮ่องเต้หย่งอันด้วยสีหน้าสงบราบเรียบ “ฝ่าบาท มิสู้ลองฟังว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงจะอธิบายอย่างไร แล้วค่อยตัดสินโทษเถิดพ่ะย่ะค่ะ” กุ้ยเฟยเป็นคนอารมณ์ร้อน. จึงตำหนิออกมาโดยตรงว่า “ยังมีอะไรให้อธิบายอีก ที่นางไม่ยอมมาเสียที มิใช่ว่าหลบหนีความผิดไปอย่างนั้นหรือ!”เสิ่นหรูโจวมองฮ่องเต้หย่งอันและกุ้ยเฟยด้วยดวงตาสงบ จากนั้นคุกเข่าลง“ที่ลูกมาสายนั้น มีความผิดจริงๆ เพคะ แต่ลูกมิได้หลบหนีเพราะกลัวความผิดเพคะ!”ฮ่องเต้หย่งอันแค่นเสียงเย็นคราหนึ่ง “ถ้าเช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มาปรากฏตัวเสียที?!”มู่หว่านหรงและโจวอี๋เจี่ยนต่างก็มีรอยยิ้มเยาะหยัน รอชมละครสนุกของเสิ่นหรูโจวภายใต้สายตาไม่ประสงค์ดีแต่ละคู่ บนใบหน้าอันงดงามของเสิ่นหรูโจวเต็มไปด้วยความสงบราบเรียบ กล่าวด้วยความสงบว่า “เดิมลูกเตรียมตัวออกเดินทางเข้าวังแล้ว ทว่าระหว่างทางพบว่าลืมของบางอย่างไว้ จึงได้ย