ฉินหมิงพยักหน้า “ข้าน้อยรับคำสั่ง”ในเวลานี้ จวนอ๋องอู่เฉิง“ด้านนอกมีคนหรือไม่ เปิดประตูที!” จุดลมปราณของเสิ่นหรูโจวคลายออกแล้ว แต่มือทั้งสองข้างยังคงถูกมัดอยู่ นางนั่งลงนำมือที่ถูกมัดที่อยู่ด้านหลังสลับมาไว้ด้านหน้า ใช้ฟันแกะปมเชือกออกนางยืนอยู่ด้านหน้าประตูที่ปิดสนิท มองด้านนอกจากร่องประตู ตะโกนและทุบประตูต่อไป“ข้าเห็นเจ้าแล้ว เจ้าช่วยเปิดประตูให้ข้าเถอะ ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย!”นางมองเห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกแล้ว รีบขอร้องเขา แต่คนที่อยู่ด้านนอกกลับเห็นนางเป็นอากาศ ไม่สนใจนางเลยสักนิดเสิ่นหรูโจวร้อนใจจนถีบประตูอีกสองสามครั้ง มองไปรอบ ๆ ด้าน ประตูหน้าต่างทุกบานถูกปิดสนิท มีเพียงแสงเล็กน้อยที่สาดส่องเข้ามาผ่านลวดลายของหน้าต่างนางอยู่ภายในห้องอันคับแคบนี้เพียงลำพัง อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกขึ้นมาความรู้สึกที่ถูกขังอยู่ในวังหลวงเมื่อชาติก่อน ราวกับงูพิษเลื้อยอยู่ในหัวใจของนาง ท่ามกลางความเหม่อลอย ราวกับว่านางได้เห็นเซียวเฉินเหยี่ยนค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ปิดล้อมนางเอาไว้ที่หัวเตียง จากนั้นป้อนยาช่วยชีวิตให้นางด้วยตนเองเขากักขังนาง ควบคุมนาง ไม่ให้นางตาย นางตกลงสู่เหวลึกครั้งแ
“เสิ่นหรูโจว!” ตอนที่ประตูเปิดออก เขาก้าวเข้าประตูไป อยากจะเห็นร่างของเสิ่นหรูโจวอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วทันใดนั้นด้านหน้าก็มีผงจำนวนมากลอยเข้ามาที่หน้า เขาไม่ได้ป้องกัน จึงสูดดมเข้าไปไม่น้อย จากนั้นก็เห็นใบหน้างามของเสิ่นหรูโจว ก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของเขานางกำลังจะวิ่งออกไปด้านหน้า เซียวเฉินเหยี่ยนจับนางเอาไว้โดยสัญชาติญาณ เขาไม่ได้สนใจที่จะถามว่าเป็นผงอะไร เมื่อเห็นว่าเสิ่นหรูโจวสบายดี หัวใจที่ถูกความหวาดกลัวครอบงำจึงทรุดลงที่เดิม หลังจากนั้นก็รู้สึกเวียนหัว“เจ้าทำเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะหลอกลวงข้า? ผงที่สาดมาเมื่อครู่นี้คืออะไร?”เสิ่นหรูโจวเกลียดที่ตนเองไม่ใช่คนที่ฝึกวรยุทธ์ ออกแรงสะบัดมือของเขาออก “ผงพิษ”เซียวเฉินเหยี่ยนหน้าเปลี่ยนสีทันที มองเสิ่นหรูโจวด้วยดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเหลือเชื่อ“เจ้าจงใจล่อลวงให้ข้ามาที่นี่ จากนั้นก็วางยาข้า?”“ไม่ผิด ข้าขอเตือนให้ท่านไปถอนพิษ ไม่อย่างนั้นท่านจะน่าเวทนามาก!” เสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ ใช้เลือดที่อยู่ในกล่องยาผสมกับน้ำ เทที่ด้านนอก องครักษ์ตื่นตระหนกอย่างที่คิดไว้ และเขาก็มาอย่างที่คิดจริง ๆ นางยกเท้าขึ้นกำลังจะก้าวออกไปด้านน
“ท่านอุปราช!” เสิ่นหรูโจวเหลือบตามองไป สีหน้าดีใจมากทันที ความโกรธบนใบหน้ามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที พยายามออกแรงดิ้นรน “ท่านอุปราช ช่วยข้าหน่อย!”ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือแล้ว!เป่ยซิวเยี่ยนมองเห็นฉากนี้ สีหน้าของใบหน้าอันหล่อเหลาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาจ้องมองใบหน้าที่ร้อนใจของเสิ่นหรูโจว กลับอึมครึมขึ้นไม่น้อยฉินหมิงสองมือกอดอก ยืนอยู่ด้านหลังของเป่ยซิวเยี่ยนด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกเมื่อครู่เขาไม่ได้ที่อยู่ของเสิ่นหรูโจวจากปากของเซียวเฉินเหยี่ยน จึงแอบเฝ้าดูมาตลอด ก็พบว่าเซียวเฉินเหยี่ยนไม่ได้พูดความจริงอย่างที่คิดไว้ เสิ่นหรูโจวอยู่ในจวนอ๋องชัด ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบไปรายงานท่านอ๋อง ทันทีที่มาถึงก็เจอเข้ากับฉากนี้เข้าพอดีเซียวเฉินเหยี่ยนจ้องเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่อึมครึม แล้วก็ฉินหมิงที่อยู่ด้านหลังของเขา ดวงตาเย็นยะเยือก หญิงสาวในอ้อมกอดพยายามดิ้นรนสุดแรงเกิด เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น แรงที่กอดนางเอาไว้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ยินดีต้อนรับท่านอุปราช เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้าเสียหน่อย ข้าจะได้ไปต้อนรับเป็นอย่างดี” เซียวเฉินเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกแฝงไปด้วยเจต
เสิ่นหรูโจว นางถึงกับโจมตีจุดอ่อนของเขาต่อหน้าคนนอก!นางยังกล้าจากไปพร้อมชายอื่นต่อหน้าเขาโดยไม่แม้จะหันกลับมามอง!ส่วนฉินหมิงได้เหลือบตามองเขาอย่างเฉยเมยคราหนึ่ง เมื่อเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งแต่ไม่มีเจตนาจะไล่ตาม ก็หมุนกายจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดเช่นกันเซียวเฉิยเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม สองตาลุกโชนจนแดงก่ำ คิดถึงฝันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ในฝันล้วนเป็นภาพที่เสิ่นหรูโจวค่อยๆ จากเขาไปทีละก้าว ในสมองเกิดความมึนงงขึ้นเป็นระลอก ร่างของเขาโอนเอนอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังประคองเขาไว้อย่างรวดเร็ว“ท่านอ๋อง ท่านดูไม่สบายอย่างมาก พักก่อนสักครู่ดีหรือไม่ขอรับ?”“ไม่จำเป็น” เซียวเฉินเหยี่ยนหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ฝืนสงบสติอารมณ์ลง หลังยืนตรงขึ้นมาก็สาวเท้าไล่ตามพวกเขาไปในยามที่เขาเร่งฝีเท้าตามมาถึงหน้าประตู รถม้าของเป่ยซิวเยี่ยนก็ได้เคลื่อนออกไปไกลแล้ว เขาจึงอดกัดฟันอย่างแรงไม่ได้สมควรตาย!ครานี้ เรื่องต่างๆ ก็ยากจะอธิบายขึ้นมาจริงๆ แล้ว!……ในรถม้า เสิ่นหรูโจวมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ“ขอบพระคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาก หากไม่ใช่เพราะท่านมา
เป่ยซิวเยี่ยนกวาดตามองไปอย่างช้าๆ ในยามดวงตาที่เยียบเย็นราวน้ำค้างแข็งตกลงบนตัวของคนผู้นั้น คนผู้นั้นก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้ฮ่องเต้หย่งอันจับตามองการกระทำของเป่ยซิวเยี่ยน แววตาก็หรี่ลงเป่ยซิวเยี่ยนปล่อยองครักษ์ผู้นั้น จากนั้นมองฮ่องเต้หย่งอันด้วยสีหน้าสงบราบเรียบ “ฝ่าบาท มิสู้ลองฟังว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงจะอธิบายอย่างไร แล้วค่อยตัดสินโทษเถิดพ่ะย่ะค่ะ” กุ้ยเฟยเป็นคนอารมณ์ร้อน. จึงตำหนิออกมาโดยตรงว่า “ยังมีอะไรให้อธิบายอีก ที่นางไม่ยอมมาเสียที มิใช่ว่าหลบหนีความผิดไปอย่างนั้นหรือ!”เสิ่นหรูโจวมองฮ่องเต้หย่งอันและกุ้ยเฟยด้วยดวงตาสงบ จากนั้นคุกเข่าลง“ที่ลูกมาสายนั้น มีความผิดจริงๆ เพคะ แต่ลูกมิได้หลบหนีเพราะกลัวความผิดเพคะ!”ฮ่องเต้หย่งอันแค่นเสียงเย็นคราหนึ่ง “ถ้าเช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มาปรากฏตัวเสียที?!”มู่หว่านหรงและโจวอี๋เจี่ยนต่างก็มีรอยยิ้มเยาะหยัน รอชมละครสนุกของเสิ่นหรูโจวภายใต้สายตาไม่ประสงค์ดีแต่ละคู่ บนใบหน้าอันงดงามของเสิ่นหรูโจวเต็มไปด้วยความสงบราบเรียบ กล่าวด้วยความสงบว่า “เดิมลูกเตรียมตัวออกเดินทางเข้าวังแล้ว ทว่าระหว่างทางพบว่าลืมของบางอย่างไว้ จึงได้ย
สีหน้าของนางแสร้งว่ากังวลอย่างมาก ทว่าคำพูดทั้งทางตรงและทางอ้อมล้วนกำลังฟ้องเรื่องของเสิ่นหรูโจวเมื่อเซียวเฉินเหยี่ยนได้ฟัง สีหน้าก็แข็งค้าง เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดเสิ่นหรูโจวจึงมาไม่ได้? แต่เขาคงไม่อาจบอกว่า เป็นเขาจงใจทำกระมัง?เสียงอันสงบและทุ้มต่ำของเป่ยซิวเยี่ยนดังขึ้น “ในยามที่ข้าไปถึงจวนอ๋องนั้น พระชายาของอ๋องอู่เฉิงได้นำของที่ลืมมาแล้ว กำลังจะออกจากจวนเร่งมาที่วังหลวง เวลานั้นท่านอ๋องอู่เฉิงก็อยู่ด้วย ใช่หรือไม่อ๋องอู่เฉิง” แววตาของเซียวเฉิยเหยี่ยนเย็นชาขึ้นสามส่วน มองไปยังเป่ยซิวเยี่ยน แต่สุดท้ายยังตอบคล้อยไปตามคำพูดของเขาว่า “ถูกต้อง” มู่หว่านหรงตะลึงไป “ท่านอ๋อง…”เขาช่วยรับประกันให้เสิ่นหรูโจวได้อย่างไร!เสิ่นหรูโจวไม่สนใจความคิดของเซียวเฉินเหยี่ยน รีบกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ลูกมิได้หนีความผิด เรื่องที่เกิดนี้มีที่มาจริงๆ เพคะ” “ต่อให้เป็นเยี่ยงนั้น” เสียงของฮ่องเต้หย่งอันสำแดงความน่าเกรงขาม “เรื่องที่เจ้าเกือบทำร้ายกุ้ยเฟยและครรภ์มังกร ก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปเช่นนี้ได้!”เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วเหลือบมองโจวอี๋เจี่ยนครั้งหนึ่ง พูดอย่างเย็นชาว่า “เรื่องที่นักพรตหลิงเซีย
กุ้ยเฟยขมวดคิ้วอันงดงาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”เสิ่นหรูโจวมิได้ตอบคำถาม นางหันสายตาไปที่เป่ยซิวเยี่ยน“คนทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันครั้งหนึ่ง เข้าใจอีกฝ่ายโดยไร้วาจา” เป่ยซิวเยี่ยนส่งเสียงเรียกทีหนึ่ง “นำตัวเข้ามาเถอะ” จากนั้น ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน นางหลัวอวิ๋นก็ถูกคนหามเข้ามา เมื่อมาถึงเบื้องหน้าของฮ่องเต้และกุ้ยเฟย นางหลัวอวิ๋นก็กำชายเสื้อแน่นด้วยความประหม่าที่ยากจะปิดบัง เสิ่นหรูโจวเดินไปอยู่ข้างกายนาง กุมมือของนางเบาๆ เป็นสัญญาณให้นางวางใจ“กุ้ยเฟยโปรดดู สตรีตั้งครรภ์นางนี้มีอาการเดียวกับท่าน ข้าสามารถทำการรักษาให้นางก่อนได้ หากนางกับลูกในท้องปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย ท่านก็จะสามารถวางใจ ให้ข้าทำการรักษาให้ท่านได้แล้ว” “หมอทุกคนต่างก็พูดว่า ที่นางท้องก็เป็นครรภ์แฝดสามเช่นเดียวกัน แต่ข้าคิดว่า อาการของนางเหมือนกับท่าน ในท้องของนาง ก็มีทารกเพียงคนเดียวเช่นเดียวกัน” กุ้ยเฟยยืดกายตรงขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นคอออกมาสังเกตอย่างละเอียด พบว่าคนผู้นั้นเหมือนนางจริงๆ ท้องใหญ่อย่างประหลาดเมื่อคิดอย่างละเอียด เมื่อวานนางได้ยินว่านอกวังมีสตรีตั้งครรภ์นางหนึ่ง ท้องใหญ่มาก หมอทั้งหลาย
เมื่อเป่ยซิวเยี่ยนเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยปากว่า “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ในเมื่อสตรีมีครรภ์นางนี้ก็เต็มใจจะลองด้วยตนเอง มิสู้ให้พระชายาของอ๋องอู่เฉิงทำการรักษาให้นางก่อน หากปลอดภัยทั้งมารดาและบุตร เช่นนั้น กุ้ยเฟยก็จะสามารถวางใจลองรับการรักษาได้”“ไม่ได้” เซียวเฉินเหยี่ยนกล่าวขัดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วิชาแพทย์ของพระชายาไม่ชำนาญ ไม่อาจปล่อยให้นางทำเรื่องเหลวไหลได้” แม้สตรีตั้งครรภ์นางนี้จะเต็มใจก็ตาม แต่จะผ่าท้องนำเด็กออกมาได้อย่างไร? วิธีการนี้หากสำเร็จแล้วยังพอพูดกันได้ หากล้มเหลว ไม่ต้องพูดถึงว่าจวนอ๋องจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพียงแค่ตัวเสิ่นหรูโจว ชั่วชีวิตนี้ก็จะต้องถูกคำครหานินทาประณามไปชั่วชีวิตมู่หว่านหรงรีบสนับสนุนว่า “นั่นสิเจ้าคะ วิธีการนี้เสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว พระชายาท่านอย่าได้ทำเรื่องเหลวไหลอีกเลย จะได้ไม่เป็นการทำลายชีวิตของผู้อื่นโดยเปล่าประโยชน์” เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับพวกท่านสองคนกระมัง?”สีหน้าของมู่หว่านหรงพลันแข็งค้างในทันที ก้นบึ้งของดวงตามีความอำมหิตวาบผ่าน จากนั้นก็แสร้งทำเป็นได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเซีย