“ถูกต้อง ขอเพียงแค่หาผู้ป่วยที่มีอาการทำนองเดียวกันได้สำเร็จ พระนางกุ้ยเฟย รวมถึงฝ่าบาท ก็คงยอมวางพระทัยได้”สีหน้าเรียบเฉยปรากฏอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเป่ยซิวเยี่ยน “เตรียมการรักษาก่อน การรักษากุ้ยเฟยถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”เสิ่นหรูโจวมองเป่ยซิวเยี่ยน รู้ว่าเป่ยซิวเยี่ยนกล่าวเช่นนี้เป็นเพราะกำลังเตือนสตินาง ผู้ที่นางต้องช่วยเหลือคือกุ้ยเฟย จะต้องระมัดระวังรอบคอบทุกฝีก้าว ถ้าหากทำผิดพลาดแม้แต่ก้าวเดียว ก็จะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรักษาอาการป่วยให้แก่เป่ยซิวเยี่ยน“อุปราชวางใจ ข้าจะเตรียมตัวให้ดี เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”เมื่อได้ยินว่านางจะกลับ ลู่หวายหนิงก็เดินออกมาส่งนางด้วยตนเองหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงก็ย้อนกลับมา“ท่านอาจารย์ พี่สาวกลับไปแล้ว” ลู่หวายหนิงเดินไปที่ข้างกายของเป่ยซิวเยี่ยน จ้องมองสีหน้าที่ไม่แยแสของเขา จึงกล่าวถามด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์ จะให้พี่สาวรักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟยจริงหรือ?”เขาเชื่อในความสามารถของพี่สาวคนสวย แต่กุ้ยเฟยไม่ใช่คนป่วยทั่วไป อย่างไรเขาก็คิดว่าเรื่องนี้อันตรายไปสักหน่อย ถ้าหากรักษาไม่ดี ก็อาจจะมีภัยมาถึง
“นายท่าน ด่านชายแดนส่งข่าวด่วน ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นกับท่านแม่ทัพน้อยได้เดินทางไปก่อนแล้ว”เป่ยซิวเยี่ยนดวงตาเย็นชาทันที “เป็นคนของแคว้นเซี่ย?”ฉินหมิงพยักหน้า “ขอรับ”ลู่หวายหนิงเองก็หุบยิ้มเช่นกัน ขมวดคิ้วเข้าหากัน สีหน้าไม่พอใจ“ก่อปัญหาอีกแล้ว! ท่านอาจารย์เคยทูลกับฝ่าบาทตั้งแต่แรกแล้วว่า คนของชายแดนแคว้นเซี่ยประพฤติตัวออกนอกลู่นอกทาง ต้องจัดการโจมตีโดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต แต่ฝ่าบาทก็ไม่ทรงเชื่อ ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ คนแคว้นเซี่ยกำเริบเสิบสานขึ้นมาอีกแล้ว!”ฉินหมิงถอนหายใจทีหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม“แคว้นเซี่ยถวายเครื่องราชบรรณาการทุกปี ทุกเทศกาลสำคัญ ยังส่งคณะทูตมาเข้าเฝ้า ฝ่าบาททรงคิดว่าพวกมันไม่มีใจเป็นอื่น จึงไม่ได้เข่นฆ่าให้สิ้นซาก”ลู่หวายหนิงอารมณ์เดือดดาลเล็กน้อย แอบด่าฝ่าบาทในใจว่าถือดีมากเกินไป คิดว่าเป็นแค้วนแข็งแกร่งก็จะดูถูกแคว้นเพื่อนบ้านได้ คิดว่าพวกมันจะยอมก้มหัวยอมแพ้จริง ๆ ตอนนี้เป็นอย่างไร เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!เขากล่าวเชิงตำหนิ “ตอนนั้นไม่ยอมรับข้อคิดเห็นของท่านอาจารย์ ตอนนี้ต้องการให้ท่านอาจารย์ไปช่วยเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์วุ่นว
“พระชายา ท่านกลับมาแล้ว!” สาวใช้กล่าวเสียงดังก้องกังวาน พร้อมกับทำความเคารพเสิ่นหรูโจวอึ้งไปทันที มีความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าแวบหนึ่งสาวใช้คนนี้มาจากไหนกัน หรือว่าเป็นคนที่เซียวเฉินเหยี่ยนส่งมาเพื่อคอยจับตาดูนาง?“เจ้าคือ?”ในขณะที่กำลังสงสัย เมี่ยวตงเดินเข้ามาหานาง ด้านหลังยังมีสาวใช้ติดตามมาด้วยอีกสองคน“คุณหนู พวกนางทั้งหมดเป็นสาวใช้ใหม่ที่ฮูหยินเฒ่าส่งมาเจ้าค่ะ”เมี่ยวตงยิ้มพร้อมกับแนะนำชื่อของพวกนางทั้งสามทีละคนที่แท้เป็นคนที่ท่านย่าส่งมานี่เองเสิ่นหรูโจวยิ้มทีหนึ่ง “มิน่าพวกเจ้าทั้งหลายถึงได้ดูคุ้นตายิ่งนัก”สาวใช้ที่มีนามว่าชุนซิ่ว ซึ่งอายุมากที่สุดในบรรดาทั้งสามคน ยิ้มพร้อมกล่าวตอบ“ฮูหยินเฒ่าเป็นห่วงที่พระชายาย้ายออกมา ข้างกายมีเมี่ยวตงที่คอยปรนนิบัติเพียงคนเดียวคงจะไม่สะดวก จึงส่งบ่าวทั้งสามคนมาเจ้าค่ะ พระชายาโปรดวางใจ บ่าวจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”ในใจของเสิ่นหรูโจวอบอุ่นขึ้นมาทันที อย่างไรเสียคนในครอบครัวของตนเองก็รักใครเอ็นดูนาง“ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าไปทำงานเถอะ”ทั้งสามคนกล่าวพร้อมโค้งตัวคำนับ “เจ้าค่ะ พระชายา”เสิ่นหรูโจวพูดจบกำลังจะเข้าห้อง ทันทีที
“เรื่องของกุ้ยเฟยข้าจะจัดการเอง เจ้าอย่าได้ก่อเรื่องอีกเลย กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าต่อไปเจ้าอยากจะหย่าหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้ เจ้ายังเป็นพระชายาของจวนอ๋องอู่เฉิงอยู่”ขอเพียงแค่เสิ่นหรูโจวกลับไปกับเขา เขาจะไม่ซักถามอีก นี่เป็นการยอมอ่อนข้อที่เขาสามารถทำได้มากที่สุดแล้วหลังจากเสิ่นหรูโจวได้ยินกลับทำหน้าเยาะหยัน จนถึงตอนนี้เซียวเฉินเหยี่ยนยังติดว่านางกำลังก่อเรื่อง ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้ได้ความสนใจของเขา ช่างน่าขันเสียจริง !นางไม่ใช่เสิ่นหรูโจว ผู้ที่ในดวงตามีเพียงแค่ความรักเช่นชาติก่อนอีกต่อไปแล้วนางแสยะยิ้ม จ้องมองเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างเย็นชา “ที่ท่านมาในวันนี้ก็เพื่อพูดเรื่องเหล่านี้?”เซียวเฉินเหยี่ยนสีหน้าเคร่งขรึมทันที จ้องมองนางโดยไม่พูดอะไร“ในเมื่ออยากจะเชิญข้ากลับ เช่นนั้นก็ต้องแสดงความจริงใจเสียหน่อย เพียงแค่คำพูดจะมีประโยชน์อันใด?” เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว “เมื่อใดที่ท่านจัดการลงโทษมู่หว่านหรง ค่อยมาพูดเรื่องเหล่านี้กับข้า”เซียวเฉินเหยี่ยนสายตาหม่นหมอง “เจ้าอยากจะบีบบังคับข้าให้ลงโทษหว่านหรง ดั่งที่คิดไว้จริง ๆ !”ดังนั้นถึงได้ไม่สนใจอะไร ย้ายออกมาจากในจวนอ๋อง ยัง
นางจ้องมองแผ่นหลังของเซียวเฉินเหยี่ยนด้วยสายที่ไม่แยแส กล่าวอย่างเย็นชา “เมี่ยวตง ปิดประตู!”ทันทีที่เซียวเฉินเหยี่ยนออกจากเรือน ด้านหลังก็มีเสียงปิดประตูอย่างไม่เกรงใจดังขึ้นทันทีประตูใหญ่ถูกปิดลงเสียงดัง“โครม” เขาที่อยู่ด้านนอกราวกับสุนัขที่ถูกไล่ออกมา!เพลิงโกรธปะทุขึ้นมาทันที เซียวเฉินเหยี่ยนกำหมัดแน่น จ้องมองประตูเรือนเขม็ง ดวงตามืดมนจนน่ากลัวเมื่อฉางหลินเห็นดังนั้นจึงรีบกล่าวเตือน “ท่านอ๋อง ท่านอย่าโมโหจะทำลายสุขภาพ”เขาพลางเตือน พลางบ่นพึมพำในใจเหตุใดเสิ่นหรูโจวถึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้?นิสัยแข็งกร้าวขึ้น คิดไม่ถึงว่ายังกล้าท้าทายท่านอ๋อง! นี่ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ทิ้งนางไว้สักสองวัน นางก็จะกลับมาเอง ตอนนี้ท่านอ๋องมาตามด้วยตนเอง นางยังไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ช่างน่าประหลาดจริง ๆ !อีกอย่าง ช่วงนี้ท่านอ๋องเหมือนกับว่าจะต่างจากเมื่อก่อนเมื่อก่อน ท่านอ๋องเห็นเสิ่นหรูโจวเป็นขยะ คร้านจะสนใจ แต่ตอนนี้ ท่านอ๋องกลับถูกนางยั่วโมโหได้ง่ายดาย นี่หมายความว่า ท่านอ๋องเริ่มสนใจเสิ่นหรูโจวขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่?เซียวเฉินเหยี่ยนหันหลังกลับทันควัน กล่าวด้วยสีหน้าน่ากลัว “กลับจวน!”“ข
เช้าตรู่วันต่อมา เมี่ยวตงกลับมาจากหมู่บ้านเฉินเจีย นำข่าวมาด้วย“คุณหนู คิดไม่ถึงเลยว่าที่หมู่บ้านเฉินเจียนั่นจะมีผู้หญิงตั้งครรภ์แบบนั้นอยู่คนหนึ่งจริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะ” เมี่ยวตงเบิกดวงตากว้าง รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเสิ่นหรูโจวมองด้านหลังของนางแวบหนึ่ง แต่กลับไม่เห็นใครเมี่ยวตงกล่าวถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่ แต่บ่าวช้าไปหนึ่งก้าว เหมือนกับว่านางถูกใครพาตัวไปแล้ว”เสิ่นหรูโจวสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย กล่าวน้ำเสียงประหลาดใจ “ถูกใครพาตัวไปแล้ว?”เมี่ยวตง “ใช่แล้วเจ้าค่ะ”ผู้ใดจะพาตัวหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยไปกันนะ?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้หาตัวไม่เจอแล้ว นางจะต้องรีบคิดหาหนทางอื่น“ช่างเถอะ หาไม่เจอก็ช่างมันเถอะ ข้าจะลองหาผู้ป่วยคนอื่นดูแล้วกันนะ”ใบหน้าที่งดงามของเสิ่นหรูโจวแฝงไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ นางหยิบกล่องยาขึ้นมา กล่าวกับเมี่ยวตง “วันนี้จะต้องจัดการบาดแผลให้ฉินอวี่ใหม่ ข้าต้องไปตรวจเขาก่อน รอข้ากลับมาแล้วค่อยว่ากัน”“เจ้าค่ะ” เมี่ยวตงพยักหน้า ส่งนางออกนอกบ้านไปหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสิ่นหรูโจวมาถึงที่จวนอุปราช“พระชายาลำบา
อันที่จริงเมื่อชาติก่อนนางก็เป็นสตรีดังเช่นที่ฉินอวี่พูด ถูกตามใจ ถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตขึ้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่รอบตัวผู้ชายคนหนึ่งทั้งวันเมื่อนึกถึงเรื่องทุกอย่างที่ตนเองทอดทิ้งเมื่อชาติก่อน ท่าทางที่ลุ่มหลงเซียวเฉินเหยี่ยน นางก็อยากจะด่าตัวเองว่านังโง่จริง ๆ !นางคิดอย่างใจลอย ไม่ได้ระวังน้ำหนักบนมือ ตอนพันผ้าพันแผลจึงดึงแน่น จนฉินอวี่ร้อง“ซี้ด”ด้วยความเจ็บปวดนางสติกลับคืนมา รีบกล่าว “ขออภัยด้วย”ฉินอวี่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร”เสิ่นหรูโจวยิ้มด้วยความเก้อเขิน พันแผลอย่างระมัดระวังจนเสร็จ “พักผ่อนมาหลายวัน ตอนนี้บาดแผลยังเจ็บมากอยู่หรือไม่?”“ยาที่พระชายาให้ข้าน้อยได้ผลยิ่งนัก บาดแผลค่อย ๆ สนิทกันอย่างช้า ๆ ” ฉินอวี่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย กล่าวอย่างสบาย ๆ “บาดแผลเจ็บเล็กน้อย ก็คือตอนทำแผล”เสิ่นหรูโจวพยักหน้า ทำท่าครุ่นคิด “เช่นนี้เองหรือ”“แต่ว่าไม่เป็นไร เจ็บแค่นี้ข้าน้อยทนได้”เสิ่นหรูโจวไม่ได้พูด เปิดกล่องยาที่แบกมาออก หยิบอุปกรณ์ฉีดอันหนึ่งออกมาฉินอวี่มองสิ่งของในมือของนาง ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “พระชายา สิ่งนี้คืออะไร?”เสิ่นหรูโจวยิ้มออกมาทันที “นี่คือย
ในความทรงจำเมื่อชาติก่อน เป่ยซิวเยี่ยนไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเลยสักนิด เขาเป็นคนที่เย็นชาและห่างเหินถึงเพียงนั้น จะยื่นมือช่วยเหลือนาง ได้อย่างไรกัน?ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นลู่หวายหนิงก็สะกิดที่แขนของนาง ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองเข็มในมือของนางด้วยความเปล่งประกาย“พี่สาว เจ้าสิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เสิ่นหรูโจวยิ้ม “นี่คือยาแก้ปวด”“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นยา?” ลู่หวายหนิงกล่าวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ถูกกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น เขาจ้องมองเข็มในมือของนางอย่างจริงจัง“หน้าตาช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน”ฉินอวี่ผ่านการทดลองเมื่อครู่ รู้ดีว่าเจ้าของสิ่งนี้ใช้ดีมากขนาดไหน“นายน้อย ยาของพระชายาน่าอัศจรรย์จริง ๆ ข้าน้อยฉีดไปหนึ่งเข็ม ไม่นานบาดแผลก็หายปวด!”ลู่หวายหนิงเคยกินยาที่เสิ่นหรูโจวให้ รู้ดีว่าถึงแม้ว่ายาของนางจะแปลกประหลาด แต่ว่าได้ผลดีมากจริง ๆ ได้ยินฉินอวี่พูดเช่นนี้ จึงไม่รู้สึกประหลาดใจ ยอมรับว่าของสิ่งนั้นคือยาอย่างรวดเร็วจ้องมองเข็มที่เรียวยาวนั้น ในหัวสมองของเขาเกิดความคิดขึ้นมา ถ้าหากเจ้าสิ่งนี้สามารถแก้ปวดได้ ไม่ใช่ว่าสามารถนำไปใช้ ที่ในสนามรบ
เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก
เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ
เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก
เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้
สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้
ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห
ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ
เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่