“อื้ม....”
ร่างสูงป้อนจูบที่แสนเร่าร้อนบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม สองแขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กตั้งแต่หน้าประตูห้อง...ลิ้นเล็กไม่ยอมแพ้ยังคงหยอกล้อดูดดึงลิ้นหนาอย่างชำนาญ สองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมาทั่วห้อง ทุกการย่างก้าวเข้าห้องเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกปลดเปลื้องเหวี่ยงไปคนละทิศละทางทั่วพื้น ข้าวของกระจัดกระจายในทุกๆ ที่ที่พวกเขาพักผ่าน ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกอุ้มมาวางไว้บนเตียงนุ่มอย่างทะนุถนอมต่างจากการกระทำที่หิวกระหายโดยสิ้นเชิง
ร่างหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเรียงสวยเข้าทาบทับหญิงสาวร่างเล็กในทันที รูปร่างที่พอดิบพอดีนั้นชวนให้หลงใหลเมื่อได้มอง... เขาป้อนจูบอย่างดูดดื่มให้เธออีกครั้ง และเธอเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้จูบนั้นของเขาเลยสักครั้งผลัดรับผลัดสู้กันอยู่อย่างนั้น สองแขนเรียวเล็กโอบรั้งคอหนาของเขาด้วยอารมณ์ที่คลุกรุ่น กลิ่นแอลกอฮอล์คลุกเคล้าในโพรงปากของทั้งคู่...ทั้งหวานทั้งขม... ก่อนที่ร่างเล็กจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างหนาของเขาไว้พร้อมกับพรมจูบไล่ลงไปยังกล้ามหน้าท้องและขบเม้มมันพอหยอกเย้าให้คนร่างหนาสะดุ้ง...ปากรูปกระจับครอบครองตัวตนใหญ่ยักษ์ของเขาทันที
“ซี้ดดดดดส์...อ๊าส์...เธอครับ...ใจเย็นก่อน...”
ร่างหนาหลุบตาคมมองเบื้องล่างที่ร่างเล็กกำลังกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่คิดจะพักจนเขาตัวเกร็งไปหมด ลิ้นเล็กในโพรงปากไล้วนตัวตนของเขาทั้งที่ยังครอบครองมันอยู่ เขาเงยใบหน้าหล่อๆ ของตนขึ้นอย่างข่มใจ...
“อืมมมม...”
ปากกระจับยังคงทำงานได้อย่างดี แต่มือเล็กกลับฉีกซองสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กพร้อมกับใช้ปลายนิ้วคีบมันไว้ ดวงตาสวยเหลือบมองร่างหนาก่อนจะละริมฝีปากจากตัวตนของเขา ริมฝีปากกระจับงับคอนดอมที่ปลายนิ้วของตนแล้วสวมมันให้กับตัวตนยักษ์ด้วยปากของเธอเอง
“...อา...ไม่ใส่มันไม่ได้เหรอครับ? ...”
“...ไม่ได้....”
“กับพี่คนเดียวเลยนะที่ผมไม่อยากป้องกัน..”
“ยังไงก็ไม่ได้หรอกจีเซล ถ้าไม่ใส่ก็ไม่ต้อง...”
“เข้าใจแล้วครับคนสวย...ใจแข็งจังเลยนะครับ”
พูดจบแขนแกร่งก็ลุกขึ้นมาคว้าเอวเล็กเข้าหาตัวก่อนจะขบเม้มปลายยอดสวย ร่างเล็กแอ่นร่างรับอย่างเสียไม่ได้พร้อมกับเปล่งเสียงครางหวานออกมา สองมือเล็กเกาะไหล่แกร่งไว้แน่นก่อนจะค่อยนั่งทับแก่นกายยักษ์ที่ตั้งชันจ่อปากทางเข้า
“อ๊า...อ๊ะ”
“เสียงหวานเชียวนะครับ...อืมมมม...ช้าๆ ก่อนก็ได้นะครับคนสวย”
ร่างเล็กขย่มตัวขึ้นลงรัวๆ เพราะความกระสันซ่านจนไม่อาจจะอยู่เฉยได้ ถึงปากจะบอกว่าใจเย็นๆ แต่ร่างหนาเองก็สวนขึ้นไม่พักเช่นกัน ปลายยอดถันโยกโยนไปตามแรงสั่นของร่าง ก่อนที่แขนแกร่งที่กอดรัดเอวเล็กของเธอไว้ตวัดพลิกตัวเธอลงไปนอนกองกับเตียงทั้งที่ไม่มีอะไรหลุดออกจากกัน
“รุนแรงจังเลยนะครับ...”
“ก็...อ๊ะ!อื้อ...”
“ถ้าชอบแบบนั้น...พี่ก็แค่นอนอ้าขาให้ผมกว้างๆ และเตรียมเสียงไว้ให้ดีก็พอ”
ใบหน้าสวยจ้องมองคนบนร่างเหมือนจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่ก็ต้องเปลี่ยนเสียงพูดเป็นเสียงครางกระเส่าแทน เมื่อคนด้านบนเริ่มโยกสะโพกเข้าหนักเน้นจนรู้สึกจุกไปหมด ความเสียวกระสันวิ่งผ่านร่างเป็นระยะตามจังหวะกระแทกกระทั้นของเขา มือหนาไม่อยู่เฉยขย้ำอกใหญ่สวยพร้อมกับเร่งจังหวะสะโพกขึ้นไปอีก
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า...”
“อืมมมม....พี่ครับ...อย่ารัดแน่นหนักสิ...”
ร่างหนาครางเสียงต่ำขบกรามแน่นเมื่อภายในร่างกายของหญิงสาวตอดรัดตัวตนของเขาไม่หยุด ยิ่งเขารัวสะโพกเร็วขึ้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งบีบรัดดูดกลืนตัวตนของเขา นั่นมันทำให้เขาแทบคลั่ง...
“พี่จะทำให้ผมหลง...ฮึ่มมม...เกินไปแล้วนะครับ”
ในขณะที่พูดเขาก็ยังคงซอยสะโพกไม่หยุดทั้งหนักหน่วงและถี่รัวพร้อมกับจับสะโพกมนให้แอ่นขึ้นรับแรงกระแทกกระทั้นของเขา ความรุนแรงนั้นมันทำให้ร่างเล็กสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน แต่ร่างหนากลับไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น เขาจับข้อเท้าของเธอพลิกตัวคว่ำลงก่อนจะจับจับสะโพกของเธอให้ยกขึ้นพอดีองศา
สะโพกสอบสาวออกสุดแล้วกระแทกเข้าไปสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสลับกับเสียงเฉอะแฉะ สองแขนเรียวที่ค้ำยันเตียงในท่าคลานเข่าสั่นสะท้านแทบจะทรงตัวไม่อยู่ มือหนาจับท้ายทอยของเธอกดลงให้เธอแอ่นกระดกบั้นท้ายขึ้นก่อนจะดันเจ้าตัวตนยักษ์เข้าไปลึกมากกว่าเดิม
“อ๊า อ๊า...จะ...จีเซล...อ๊ะ!!”
ร่างบางสั่นเทิ่มเพราะความเสียว เธอถึงฝั่งฝันแต่เขายัง...ก็ต้องรับแรงกระแทกนั้นทั้งที่ภายในบีบรัดแน่นกว่าเดิม ความเสียวซ่านพลุ่งพล่านจนร่างกายร้อนไปหมด...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขากับเธอ...ทั้งสองมีอะไรกันมาสองเดือนเต็มโดยที่ไม่มีสถานะ แค่วันนี้ดันมาดื่มที่คลับแล้วบังเอิญเจอกัน...
“อ้าส์...พี่...รัดแน่นเกินไปแล้ว...”
“ฉัน...ไม่ไหวแล้ว อ๊า...อ๊ะ!!...จะเสร็จ...อ๊า!!”
“อื้มมมม!ซี้ดดดดด....”
ร่างหนาเงยหน้าขึ้นครางกระเส่าก่อนจะเกร็งกระตุกไปพร้อมๆ กับร่างเล็ก กระแทกเข้าออกทีสองทีปลดปล่อยน้ำรักเข้าเต็มถุงป้องกัน ทั้งสองหอบหายใจไม่ต่างกัน...แต่จีเซลกลับรีบถอดถอนแก่นกายแล้วดึงถุงป้องกันออกคว้าทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดจ่อปากทางเข้าอีกครั้ง ทั้งที่ร่างเล็กยังก้มหน้าหอบเหนื่อยอยู่และไม่ทันสังเกต....
“อ๊ะ!!! จะ..จีเซล...นาย...อื้อ!!”
ความเสียวซ่านมากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่แทรกเข้ามาในตัวของเธอ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าหนุ่มรุ่นน้องนั้นดื้อด้านไม่ใส่เครื่องป้องกันเสียแล้ว ไม่หนำซ้ำเขายังโน้มตัวลงมาพรมจูบทั่วหลังและไล่มายังคอของเธอ ลมหายใจร้อนพ่นรดใบหูเล็กก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ฮ้า...ในที่สุดพี่ก็เป็นของผมจริงๆ แล้วนะครับ...พี่ยูแอล...”
“จีเซล!นายบ้าไปแล้วเหรอไง!อื้อออ!!”
“รู้สึกดีชะมัด...อืมมมม...ผมครอบครองพี่หมดแล้วนะครับ”
สิ้นเสียงของเขาบทเพลงรักก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งอย่างดุเดือด จะห้ามตอนนี้ก็คงไม่หยุดแน่ๆ เพราะอารมณ์ที่คุกรุ่นมากกว่าเดิม...สัมผัสที่แนบชิดโดยที่ไม่มีอะไรมากั้นเขาทั้งคู่อีกต่อไป...นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด...
ยูแอลค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากสลบเหมือดไปเพราะบทเพลงรักร้อนหลายต่อหลายยกที่เขามอบให้อย่างถึงใจ เธอขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงความหนักพาดที่เอวของตัวเองซ้ำยังเจ็บสะโพกระบมไปหมด แขนแกร่งพาดกอดเธอไว้แน่นยูแอลมองแขนนั้นพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ จะมีสักกี่คนที่จะหันมากอดคู่นอนหลังเสร็จกิจ ส่วนมากคู่นอนจะไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่นัก ที่คนชอบพูดว่าน้ำแตกแล้วแยกทางไม่เกินจริง แต่กับเขา...ทั้งที่เป็นไอดอลที่กำลังดังตอนนี้....
“หือ? ...ตื่นแล้วเหรอครับ?”
“อืม...ฉันจะไปอาบน้ำและจะกลับแล้ว”
สายตาคมจ้องมองเธอนิ่งพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้บางๆ จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นมากอดเธอและประทับจูบลงบนไหล่เพรียวและรอยสักข้างลำตัวของเธอเบาๆ ความรู้สึกแปลกที่คอเรียวทำให้เธอก้มลงจ้องมองสร้อยเส้นหนึ่งที่ดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะใส่ให้ ยูแอลมองหน้าจีเซลอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรจนจีเซลต้องเป็นคนพูดเอง
“ล็อกไว้แล้วนะครับ...หัวใจของพี่ยูแอล”
“หมายความว่าไง? ...”
“คบกับผมนะครับ...พี่ยูแอล”
“...จีเซล...”
“ผมจริงจังกับพี่ตั้งแต่สองเดือนก่อนที่เราเจอกัน...ถึงพี่จะจำผมไม่ได้ก็เถอะ”
ยิ่งจีเซลพูดเธอก็ยิ่งสงสัย เธอถามต่อและไม่ได้ให้คำตอบกับหหนุ่มรุ่นน้องตรงหน้าอีกด้วย เขาอายุห่างกับเธอแค่ปีเดียวแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยไม่สุภาพกับเธอเลย แม้จะแปลกใจที่ทำไมอยู่ๆ เขาถึงขอคบทั้งที่เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจขนาดที่จะจับต้นชนปลายไม่ถูก ในเมื่อเธอเป็นแดนเซอร์ให้กับเขามาตั้งแต่สองเดือนก่อน แค่บังเอิญเมาทั้งคู่เลยได้เข้าโรงแรมด้วยกันในตอนนั้น...และยาวมาถึงปัจจุบัน ถึงเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเข้าใจดีเรื่องสถานะที่เขาเป็นคนมีชื่อเสียงและไม่ได้เรียกร้องให้รับผิดชอบ จนกลายเป็นคู่ขาในตอนนี้เวลาที่อยากเท่านั้น...
“ผมรู้ว่าพี่ยูแอลไม่จริงจัง...แต่ผมคิดจริงจังไปแล้ว...”
“......”
“และผม....ชอบพี่จริงๆ ...”
“คือฉันไม่....”
“นะครับ...ถึงผมจะมีข่าวเรื่องผู้หญิงหนาหูแต่...ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ แค่ผิดหวังบ่อยๆ ...เลยเปลี่ยนแฟนบ่อย....”
“จีเซล ฟังนะ....”
ยูแอลเอื้อมมือไปจับที่ไหล่หนาพร้อมกับจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เหมือนกับว่าเตรียมพร้อมกับที่จะรับความผิดหวังในครั้งนี้แล้ว ใบหน้าของยูแอลดูจริงจังจนเขาแอบหวาดหวั่นในใจกับคำตอบของเธอ
“ฉันขอบใจนายมากที่ชอบฉัน...”
“.......”
“และฉันดีใจมากที่นายขอคบ...แต่ว่า....”
“ว่า? ....”
“ฉันยัง...ลืมเขาคนนั้นไม่ได้....”
“ผมพร้อมจะรักษาแผลนั้น...ให้โอกาสผม”
“ฉันไม่มั่นใจ...”
“ผมจะทำให้พี่รักผมให้ได้”
จีเซลตอบอย่างหนักแน่นและจริงจังจนยูแอลปฏิเสธความตั้งใจของเขาไม่ลง ใครๆ ก็รู้เรื่องที่เธอเคยเป็นคนรักของประธานค่ายเพลงคู่แข่งของจีเซล เขาเป็นถึงซีอีโอ...แถมยังเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิงของจีเซลอีกด้วย และแน่นอนว่าจีเซลและเพื่อนๆ ของเขานับถือแฟนเก่าเธอแค่ไหน
“คบกับผมนะครับ”
“...ขอเวลาหน่อยนะจีเซล...แต่...ฉันไม่ติดถ้าเราจะคุยกันแบบมากกว่าคู่ขา...”
รอยยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อของจีเซลเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า เธอจะนึกออกเมื่อไหร่นะว่าเคยเจอเขามาก่อนหน้านั้น...ก่อนหน้าที่เธอจะมาเป็นแดนเซอร์ให้วงเขาเสียอีก แต่ถึงนึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร เพราะเขาตั้งใจจะจีบเธอเธอเต็มที่อยู่แล้วไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมาก็ตาม เขาพร้อมที่จะยอมรับเธอได้ทุกอย่าง... เขาตามหามาตลอดคนที่จะทำให้เขารักจริงๆ โดยไม่ใช่เพราะชื่อเสียงและทรัพย์สินอื่นๆ แต่ถึงยูแอลจะเป็นแบบนั้นเขาก็พร้อมทุ่มเทเพื่อให้เธอไม่จากเขาไปไหนเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา....ไม่ว่าจะต้องทุ่มเทต้องทรัพย์สินเงินทองมากมายแค่ไหนหรือแม้แต่แลกชื่อเสียงที่มีก็ตาม...
ในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงสลัวๆ เล็ดลอดผ่านม่านบานเกร็ดเข้ามาเพียงเล็กน้อย บนโซฟาสีน้ำตาลอ่อนเรียบหรูชายหนุ่มหน้าคมหล่อเหลานั่งเท้าแขนกุมขมับ ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ที่ไรผมไปมา ผมดำขลับถูกเซ็ตอย่างดีไปด้านหลังจนหมดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาเด่นชัด อีกมือถือบุหรี่มวนใหญ่สายตาจ้องมองโต๊ะทำงานของตนอย่างเหม่อลอย“ยังไม่ไปตามเมียกลับมาอีกหรือวะไอ้เจซี...ถ้านั่งทำหน้าเครียดขนาดนี้”“........”“ปากบอกไม่รัก แต่ท่าทีของมึงมันไม่ใช่”ท็อปเปอร์พูดขึ้นกับเพื่อนรักของตนพร้อมกับยกไวน์แบรนด์ตัวเองขึ้นมาจิบ รอบกายรายล้อมด้วยหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยอัวเอียอยู่ข้างกาย เจซีปรายสายตามองท็อปเปอร์นิ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ของตนเชิดหน้าขึ้นมองเพื่อนหนุ่มของเขาอีกครั้ง“เธอหนีไม่ไหนไม่รอดหรอก...เดี๋ยวก็กลับมา”“นี่มันจะหกเดือนแล้วนะเพื่อน”“.........”“กูว่าคงไม่กลับมาแล้วล่ะ...มึงเล่นทำกับเธอขนาดนั้น”&ldqu
“โผล่มาได้แล้วเหรอครับไอ้หน้าหล่อ”หนึ่งในสมาชิกของวงเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นจีเซลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ดีมากผิดจากปกติ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจเพราะช่วงสองเดือนมานี้ ตั้งแต่ที่รับนักเต้นอิสระกลุ่มหนึ่งเข้ามาพวกเขาก็พอจะรู้เรื่องจีเซลที่ตามขายขนมจีบให้แดนเซอร์คนสวยคนดังอยู่ ขนาดพวกเขาเองตอนที่เห็นเธอครั้งแรกยังคิดว่าเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าแฟนเก่าของรุ่นพี่ในวงการบันเทิงที่พวกเขาชื่นชอบจะสวยขนาดนี้ สวยกว่าในรูปเป็นไหนๆ แต่เพราะว่าจีเซลออกตัวแรงตั้งแต่วันแรกคนอื่นๆ ในวงจึงไม่ได้ยุ่งกับเธอคนนั้นเลย ถือว่าเพื่อนของเขาจองแล้วกัน...อีกอย่างพวกเขาไม่ชอบที่จะมีปัญหากันเองในวงด้วย“พูดเหมือนมึงไม่หล่อเนอะไอ้ชาย” จีเซลหันไปตอบกลับกวนๆ“ผมชื่อซันชายน์ครับไอ้จีเซล ขอร้องเถอะ...เรียกเต็มๆ ชื่ออ่ะ อีกอย่างกูพี่มึงนะ”ซันชายน์พูดตอบพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่เพื่อนของเขาชอบเรียกว่าไอ้ชาย (น์) มันดูเก่าแก่เข้มขลังเหมือนอยู่ในยุค80ยังไงอย่างนั้น เพื่อนคนอื่นๆ ต่างหัวเราะก
การซ้อมดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง แม้ยูแอลจะพยายามมองที่กระจกและตั้งใจซ้อมแค่ไหนแต่ก็ต้องสบตากับจีเซลผ่านกระจกทุกครั้ง หรือไม่ก็จีเซลตั้งใจหันมองเธอโดยที่เธอมองเห็นสายตาของเขาผ่านกระจกบานใหญ่นั้น และแน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็เห็นเหมือนกันว่าจีเซลไม่ค่อยมีสมาธิซ้อมเท่าไหร่นัก“ผิดแล้ว!จีเซล!นายตั้งใจซ้อมหน่อยสิวะ!” ซันชายน์อดที่จะหันไปดุเพื่อนรุ่นน้องร่วมวงของเขาไม่ได้ ในขณะที่เขาสอนท่าเต้นอยู่แต่จีเซลกลับไม่ได้สนใจมองที่เขาสอนจนเต้นผิดไปหมด จีเซลเองก็ยืนหน้าสลดหลังจากโดนเพื่อนร่วมวงว่า...เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีสมาธิเลยจริงนั่นแหละ“ขอโทษครับ...”“เอาล่ะๆ พักสักหน่อยเถอะ”ดีนเลือกที่จะตัดบท ถึงคนอื่นๆ ในวงจะไม่รู้ว่าจีเซลไปมีเรื่องอะไรมา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะให้พักซ้อมเผื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น เมื่อได้ยินอย่างนั้นคนอื่นๆ ก็ต่างพากันไปดื่มน้ำนั่งพัก ยูแอลเองก็ถูกซาซ่าและเกรซลากออกไปยังมุมห้องซ้อมเหมือนกัน“ยัยแอล!เกิดอะไรขึ้น? คนที่มาหาแกคือซีอีโอใช่ไหม?&rdq
“แล้วให้เริ่มงานวันไหนดีครับคุณเจซี?”“วันนี้ทีมเลิกซ้อมห้าโมงเย็นใช่ไหมครับ? เริ่มหนึ่งทุ่มวันนี้เลยครับ”เจซีตอบแจ็คกี้อย่างยิ้มแย้มแต่สายตากับไม่ได้อยู่ที่คู่สนทนาด้วยเสียเท่าไหร่ เขากลับเอาแต่มองไปทางยูแอลไม่วางตา และเธอเองก็จ้องมองเขากลับด้วยสายตาบ่งบอกว่าไม่อยากคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เธอเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะเธอ...อาจจะเป็นแค่เกมที่เขาอยากจะเอาชนะชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น...ทุกอย่างมันดูกะทันหันไปหมด ยูแอลอดไม่ได้ที่จะหันไปมองจีเซลผู้ที่นัดเธอไว้ก่อนแล้ว ซึ่งตอนนี้สายตาของจีเซลมองไปยังเจซีอย่างไม่เป็นมิตร แล้วเขาจะพูดแย้งอะไรได้ล่ะ...เวลาที่ยูแอลไม่อยากให้มาถึง...มันก็ได้มาถึง...ยูแอลมองนาฬิกาที่อยู่เหนือกระจกบานใหญ่ด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ใบหน้าสวยดูเรียบนิ่งไร้อารมณ์ก็จริง แต่แววตาของเธอกลับดูเศร้าซึมเหมือนครั้งแรกที่จีเซลได้พบเธอ ไม่ได้มีแค่จีเซลที่มองไปทางยูแอล สมาชิกวงบียอนด์ต่างก็มองไปทางเธอทุกคน...ตั้งแต่ที่พวกเขายังไม่มีชื่อเสียงพวกเขาก็ได้ยินข่าวของรุ่นพี่อย่างเจซีอยู่บ้าง ทุกคนรู้ดีว
เป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วจึงเห็นใจ...หรือว่ารู้สึกสงสารหลังจากที่เห็นแววตาเศร้าผ่านนัยน์ตาคมของเขา...หรือว่าเป็นเพราะยังรักและห่วงเขากันแน่ ถึงได้พาตัวเองมาอยู่ข้างๆ เขาตามที่เขาร้องขอในตอนนี้ ทั้งที่ความจริงเธอจะกลับเลยก็ได้ จะปฏิเสธก็ได้...ทำไมถึงไม่ทำ...ยูแอลนั่งอยู่ในสตูดิโอส่วนตัวของเจซีในตึกสูงที่ประดับป้ายหน้าตึกว่า JC Entertainment บรรยากาศที่เจซีพยายามสร้างขึ้นเหมือนเมื่อก่อนที่พวกเขาเคยรักกัน...แต่ยูแอลกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม ในตอนนี้เธอกลับไร้ความรู้สึกใดๆ เพียงแค่ต้องการจะอยู่เป็นเพื่อนให้เขาดีขึ้นจากความรู้สึกแย่ๆ เท่านั้น ภายในใจของเธอตอนนี้กลับคิดถึงจีเซลเสียมากกว่า เธอก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าแต่...ก็ไม่เห็นสายเรียกเข้าหรือข้อความใดๆ ส่งมาเลย...เขายังไม่เลิกงานหรือเปล่านะ...“หนูลองมาฟังเพลงที่พี่แต่งสิ เพลงนี้พี่ตั้งใจจะแต่งขึ้นโชว์เลยนะ...หนูว่าดีไหม?”เจซีหันมาพูดกับยูแอลที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆ ยูแอลหันไปทางเขาเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เป็นการบอกว่าเธอจะฟ
ค่ำคืนที่แสนอบอุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ร่างสูงเดินถือดอกกุหลาบสีขาวเดินไปหยุดตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าหล่อคมเงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างชั้นสองที่ยังคงเปิดไฟสว่างไสวอยู่ เขาก้มลงดอมดมดอกกุหลายที่ตั้งใจซื้อมาก่อนจะเงยหน้ามองตรงไปยังหน้าต่างบานเดิมอีกครั้ง“ยูแอล!”โฮ่งๆ โฮ่งๆ ...ในขณะที่เสียงทุ้มเรียกชื่อแฟนสาวของเขา น้องหมาน่าตาน่ารักก็ยังคอยส่งเสียงเห่าช่วยราวกับว่าคุ้นชินกับเขามานาน หรืออาจจะเป็นเพราะเขามาที่นี่บ่อยๆ ไม่นานนักผ้าม่านของหน้าต่างบานนั้นก็เปิดออกพร้อมกับชะโงกหน้าลงไปมองคนที่มายืนเรียกชื่อตน ก่อนใบหน้าสวยจะยิ้มร่าออกมาและรีบวิ่งลงมาจากชั้นสองเพื่อมาหาคนที่ยืนรอเธออยู่หน้าบ้านอย่างดีใจทั้งสองยืนอยู่ไม่ไกลกันนักมีเพียงรั้วไม้ระดับเอวกั้นเอาไว้ ชายหนุ่มในชุดเสื้อกล้ามสีขาวใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวตัวใหญ่สีเทาคลุม กางเกงวอร์มสีเทาเข้ากับเสื้อนอกของเขา ชายหนุ่มยื่นดอกกุหลาบในมือให้เธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม...มันเป็นรอยยิ้มที่มองแล้วดูอบอุ่นใจและดูมีเสน่ห์ สายตาคมของเขาจ้องมองเธอด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม&nbs
สายตาเฉี่ยวยืนจ้องมองหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่นานเหมือนต้องมนต์สะกด ไหนจะผิวขาวเนียนที่ต่างจากคนปกติธรรมดาในชุดสายเดี่ยวนั่นอีก มองดูก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่ดูแลตัวเองและเขาก็คิดว่าเธออาจจะเป็นดารานักแสดงไม่ก็นักร้องวงใดวงหนึ่งก็ได้ ดูจากใบหน้าสวยที่เงยขึ้นมาปาดน้ำตานั้น...ผู้หญิงอะไรขนาดร้องไห้ยังสวยเลย แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาชื่นชมเธอตอนนี้ มันน่าแปลกที่เห็นเธอร้องไห้เขากลับเศร้าใจตามไปด้วย“ใบหน้าสวยๆ แบบนี้ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะครับ”ชายหนุ่มในเสื้อฮู้ดใส่หมวกเบสบอลปิดบังใบหน้าหล่อๆ อีกทั้งยังใส่แมสทำให้ยูแอลที่เงยหน้าขึ้นมาถึงกับผงะและจ้องมองเขาอย่างระแวง แม้ว่าชายหนุ่มจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอก็ตาม...กลางดึกแบบนี้ใครจะไปคิดดีได้ล่ะ ...เขาอาจจะเป็น...“ผมไม่ใช่โจรหรอกครับ...ผมแค่มาพักผ่อนแล้วบังเอิญผ่านมาได้ยินเสียงคุณ”“...พักผ่อน? ...ตอนกลางคืนน่ะหรือคะ?”เหมือนว่าเขาจะรู้ความคิดของหญิงสาวจึงได้รีบชิงพูดขึ้นก่อน แต่ก็ยังไม่คลายความระแวงของหญิงสาว เธอยั
“จะมาเที่ยวที่นี่ทำไมหนูไม่บอกพี่คะ?”เจซีเดินเข้ามาหายูแอลที่โต๊ะข้างๆ หลังจากที่เธอเดินมาเข้ามาหาเพื่อนๆ ของเธอ ใบหน้าของเขายังคงยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตีหน้าซื่อจนทำให้ยูแอลที่จ้องมองเขานิ่งนึกระอาที่เขาเป็นแบบนี้ เป็นแบบที่เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็น...โกหกได้อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่ทำกับเธอแบบนั้นรวมถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนของเธอก็เช่นกัน และไหนจะคนทั้งวงของเขาที่ปิดเรื่องนี้มิดราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าโง่ ยูแอลเลื่อนสายตาไปยังโต๊ะที่เจซีพึ่งจากมาก็เห็นว่าคนในวงของเขาอยู่ครบ แต่กลับไม่เห็นเพื่อนสาวคนสนิทที่หักหลังเธอแล้ว“หืม? อะไรหรือคะ? อยากย้ายไปนั่งกับพวกพี่ไหมล่ะ?”“ไม่เป็นไรค่ะ แอลอยากจอยกับเพื่อน”“ไม่ใช่ว่าจะมาแอบเหล่มองผู้ชายคนอื่นใช่ไหมคะ? พี่หวงนะ”ยูแอลได้แต่ทำหน้านิ่งตอบคนที่พูดหยอกล้อเธออย่างเริงร่าไม่รู้สึกรู้สาอะไร แม้แต่ความรู้สึกผิดยังไม่มีนัยน์ตาของเขาเลยสักนิด ยิ่งมองคนตรงหน้าปั้นหน้าโกหกเธอยิ้มแป้นออกมาแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเ
จากการออกไปเดทดินเนอร์หลายๆ ที่ด้วยกัน จากที่ขอทำงานเต้นก็ได้ทำและเธอก็ได้สร้างทีมนักเต้นทีมใหม่ขึ้นมาโดยมีซาซ่าและเกรซเป็นผู้ร่วมทีม แถมยังเปิดรับสมัครนักเต้นคนอื่นๆ ที่อยากร่วมงานอีกด้วย จากการกดดันของวงบียอนด์ที่ให้ประธานค่ายอย่างคริสต้องเซ็นสัญญารับทีมของยูแอลเข้ามาเป็นนักเต้นหลักในค่าย แต่ยังคงมีวงอื่นจากค่ายอื่นมาจ้างงานได้และมันต้องผ่านการแสกนจากวงบียอนด์ก่อนยูแอลได้กลับมาเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้ง และแน่นอนมาเธอเป็นที่สนใจของไอดอลหนุ่มหน้าใหม่อีกหลายวงๆ จนจีเซลต้องตามไปคุมแทบจะทุกงาน จากที่ยุ่งๆ อยู่แล้วยุ่งกว่าเดิมเสียอีก ไอดอลที่ว่างานเยอะยังไม่เท่ายูแอลตอนนี้เลย...เธอไม่ได้งานเยอะแต่เธอบ้างานจนแทบจะไม่มีเวลาให้เขา...มันน่าน้อยใจจริงๆ ...“เย็นนี้ไป...ดินเนอร์กันไหม? ผมจองร้านไว้แล้ว”“อ๋อ โทษทีนะจีเซล วงไซบอกซ์มีกินเลี้ยงขอบคุณหลังจบงานน่ะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมด้วยสิ”“.........”“ไปก่อนนะ ไว้วันอื่นนะคะ จุ๊บ!” ยูแอลเดินเข้ามาจุ๊บที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่
“จีเซล!!!” ยูแอลถึงกับอึ้งหันไปมองชาร์วีที่ตอนนี้เขาแค่ยกยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าจีเซลจะกลับมาเร็วขนาดนี้และสีหน้าของเขาที่เข้ามาเห็นดูเหมือนว่าเขาเข้ามาเห็นตั้งแต่ก่อนที่ชาร์วีจะปล่อยมือจากเธอเสียอีกแน่ๆ ยูแอลรีบเดินเข้าไปหาจีเซลที่ขบเคี้ยวเขี่ยวฟันอย่างหงุดหงิด“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ...ฉันก็แค่จะล้มแล้วชาร์วีก็..”“มาช่วยไว้สินะครับ....”“ใช่ๆ แค่นั้นจริงๆ ...”“สงสัยผมคงต้องล่ามพี่ไว้บ้างแล้วล่ะครับ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวล้มที่ไหนอีก” จีเซลพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเดินออกจากห้องฟิตเน็ตไปทันที ชาร์วีมองตามอ้าปากค้างก่อนจะแบะปากยักไหล่แล้วเดินกลับไปออกกำลังกายต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง“ไอ้จีเซลขี้หึงเป็นบ้าเลยแฮะ...คลั่งรักอะไรขนาดนั้น” พูดไปพลางยกน้ำหนักไปอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก (อย่าให้ถึงทีนายนะนายชาร์วี!)จีเซลลากยูแอลให้เดินตามเขาไปยังห้องรับแขกก่อนจะหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันมาทางเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่
“สวัสดีครับ...ผมเป็นหมอที่คุณชาร์วีส่งมาครับ” ชายหน้าประตูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัววิชาชีพโชว์หน้ากล้อง จีเซลเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกก่อนจะตอบรับเขา“ครับ...เชิญครับ” จีเซลกดเปิดประตูอัตโนมัติให้คุณหมอเข้ามาก่อนจะเดินนำไปที่ที่ยูแอลนั่งอยู่ ยูแอลลุกขึ้นหวังจะกล่าวสวัสดีแต่คุณหมอกลับรีบบอกให้เธอนั่งลง“ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนเถอะครับคนไข้”“อ๋อ ค่ะ” ยูแอลพูดจบก็หย่อนตัวนั่งโดยมีจีเซลคอยพยุงอยู่ข้างๆ และจับมือเธอไว้ ก่อนจะยกข้อเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา คุณหมอที่ถืออุปกรณ์การแพทย์เข้ามาก็เริ่มล้างแผลทำความสะอาดอย่างเบามือและพันแผลให้เธอ“อย่าให้แผลโดนพวกเครื่องสำอางอีกนะครับ...ไม่อย่างนั้นติดเชื้อแน่หรือแผลอาจจะเป็นเชื้อรา”“ค่ะ”“ช่วงอาทิตย์แรกหมอจะเข้ามาล้างแผลให้นะครับ และอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาจนหมดแผงที่หมอให้ไป”“ได้ค่ะ”“อ๋อ แล้วก็คุณจีเซลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ยังไงผมก็เป็นหมอประจำบ้านของคุ
เวลาผ่านล่วงเลยไปจนต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เจซี ยูแอลและจีเซลได้เข้ามาถ่ายทำเอ็มวีอย่างที่เจซีคอยลั่นปากไว้กับแฟนคลับเพื่อแก้ข่าวให้ยูแอลด้วย จึงได้ไปถ่ายงานสถานที่ที่คล้ายกันกับบ้านของยูแอลแทน เพราะเจซีไม่อยากให้ยูแอลเข้าไปเจอยายด้วยสภาพที่ผอมโซกว่าเดิมอย่างนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมายูแอลก็พยายามที่จะไม่ทำให้เจซีโกรธแม้จะต้องแสดงให้เขาเชื่อก็ตาม...เพื่อรอวันที่จะเจอจีเซลอย่างเช่นวันนี้...ทุกคนต่างเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำกันหมดแล้ว เจซีและยูแอลเองก็มาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าลองเข้าฉากหามุมกล้องที่ถูกใจ และจีเซลดันมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก...แต่เขาแค่ลอบมองเธอเป็นระยะเท่านั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเท่าไหร่นัก ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี...ตามเนื้อหาเอ็มวีคือเธอต้องเป็นผู้หญิงที่เดินจากเจซีไปเพื่อไปหาจีเซลเมื่อเพลงเปิดขึ้นยูแอลถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนจะทำงานเข้ากันได้ดีถึงขนาดอัดเพลงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แค่ฟังก็รู้ว่าจะต้องติดหูมากแค่ไหน ใครจะไปรับรู้ว่าเบื้องหลังเวทีที่มีการร่วมงานกันมันคือการแข่งขันที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะมันจะมีก
หลังจากที่จีเซลแอบขับรถตามเจซีไปก็ได้รู้ที่อยู่ของเจซีและยูแอล แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเหมือนก่อนหน้านี้เคยเป็น เขาเพียงแค่จ้องมองคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นพร้อมกับเชิดหน้าเอามือเท้าหน้าต่างรถที่เปิดกระจกอยู่และยกยิ้มขึ้น... ก่อนจะกลับรถตรงไปยังบริษัทเพื่อที่จะทำงานต่อในช่วงเช้าเกรซและซาซ่าเดินทางมายังค่ายเพลงบีคริส ค่ายที่วงบียอนด์สังกัดอยู่เพราะช่วงบ่ายมีซ้อมเต้นกับวงพวกเขา แต่ทั้งสองสาวเลือกที่จะมาก่อนเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อดักรอจีเซล ตั้งใจว่าจะส่งข่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนสาวของตน...ยังไงจีเซลก็ต้องได้รับรู้ และทั้งสองก็รอได้ไม่นานก็เห็นวงบียอนด์เดินเข้าบริษัทมากันครบวง แต่จะรอช้ากว่านี้คงจะไม่ได้ ทั้งสองจึงพยักหน้าให้กันแล้วรีบวิ่งไปยังจีเซลทันที“คุณจีเซล!” เกรซเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก จีเซลหันมองเกรซและซาซ่าด้วยสีหน้าสงสัยแต่...เพื่อนรุ่นพี่อย่างซันชายน์รีบเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน“มีอะไรหรือครับคนสวย คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซันชายน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มร่า เกรซหันไปมองเขาตาขวางก่อนจะผลั
สองร่างกอดกันแน่นบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้ม ชุดนอนถูกร่นออกอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นเพียงชุดกระโปรงยาวสีขาวตัวบาง ชุดชั้นในนั้นไม่มีให้เกะกะเนื่องจากคิดว่าต้องนอนแล้วถึงไม่ได้ใส่มัน...อีกอย่างไม่ใช่บ้านของเธอจึงไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ร่างบางบิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนากัดปากตัวเองแน่นเมื่อคนด้านบนเลื่อนมือไปไปกอบกำเต้าสวยพอดีมือก่อนจะเลื่อนลงไปดูดกลืนปลายยอดนั้นอย่างไม่ลดละ รุนแรงจนตัวเกร็งไปหมด..“อึ๊..อื้ม” เสียงครางออกมาผ่านลำคอจากการสกัดกลั้นมันเอาไว้ด้วยความทรมาน แอ่นอกรับริมฝีปากนั้นอย่างลืมตัวแม้ว่ามือเล็กจะพยายามดันไหล่ไล่เขาออกไปก็ตาม แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งไหล่แกร่งนั้นแน่น...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย...มือหนาอีกข้างจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกพอที่จะแทรกร่างของตัวเองเข้าไปอยู่ระหว่างขานั้น ทั้งที่ปากยังคงไม่ว่างคอยปรนเปรอพรมจูบไปทั่วบริเวณอกสวย ก่อนจะเลื่อนใบหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าท้องแบนราบจยไปถึงส่วนนูน... มือหนาข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าตึงอีกข้างหนึ่งบดขยี้จุดอ่อนไหวจนร่างบางสะดุ้งโหยงและเบือนหน้าหนี แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาหลุบตามองส่วนล่างเม
แม้เรื่องราวกำลังจะแก้ไขได้มันก็ต้องกลับตอกย้ำถึงปัญหาใหม่อีกครั้ง เรื่องที่กำลังจะคลี่คลายกลายเป็นปมหนักและใหญ่กว่าเดิม ความสุขที่มีนั้นอยู่ไม่ได้นานจริงๆ จีเซลจ้องมองชายหญิงที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารของครอบครัวเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเฉี่ยวยังคงจ้องมองผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของพี่ชายตัวเอง...“แอลคะ? ทานอันนี้ไหม? เดี๋ยวพี่ตักให้”“...ขอบคุณค่ะ...”“ดูรักกันดีจังเลยนะลูก คบกับยูแอลมานานหรือยังล่ะเจซี”“ปีนี้ก็เข้าปีที่ 11แล้วครับแม่” เจซีตอบพร้อมกับปรายสายตามองจีเซลอย่างยิ้มๆ จีเซลได้แต่จบกรามแน่นจ้องมองเจซีอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ดูเหมือนว่าเจซีจะรู้เรื่องมาแต่แรกแล้วจากท่าทางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างนั้น“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไอดอลทั้งคู่ จีเซลไม่รู้จักพี่เขาหรือลูก” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยถามตาใสมองลูกทั้งสองสลับกัน“ไม่...”“รู้จักสิครับ ผมกำลังจะร่วมงานกับน้องชายอย่างจีเซลพอดี” เจซีเอ่ยขัดจีเซลขึ้นมาทันทีและยังหันไปยิ้
“กูจะลาออกจากวง” จีเซลเอ่ยขึ้นหลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนๆ เรื่องเดิมคือเรื่องของยูแอลมาได้สักพัก เขาตั้งใจไว้อย่างนั้นก็เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปได้ดีให้มาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขา การกระทำที่จีเซลคิดว่าตัวเองคิดดีแล้วทำให้เพื่อนๆ ในวงถึงกับช็อกค้างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง“กูไม่อนุมัติ” ดีนขยับแว่นตาใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด ราวกับว่าเขาได้คำนวณไว้แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและเขาเองในฐานะหัวหน้าก็ได้คิดแผนการที่ช่วยเพื่อนร่วมวงของตนไว้อยู่แล้ว ...ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปมันก็จะเป็นวงบียอนด์ต่อไปไม่ได้“ดีน กูคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว...กูก็รักในงานนี้ แต่กูรักพวกมึงมากกว่า อย่าให้กูเป็นตัวปัญหาของพวกมึงเลย” จีเซลเอ่ย“แล้วมึงคิดว่ารักพวกกูอยู่ฝ่ายเดียวเหรอวะ?” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย“มีอะไรมึงก็ไม่ค่อยบอกพวกกู มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้” วินซ์เอ่ยเสริมด้วยท่าทีจริงจังผิดกับนิสัยขี้เล่นของเขา รอบ
“ฮะ?!!! ยูแอลลาออกจากทีม?!!” เกรซและซาซ่าพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกันอย่างไม่อยากเชื่อคำพูดของหัวหน้าทีมอย่างแจ็คกี้เท่าไหร่นัก วันนี้อุตส่าห์ได้มาเจอกับวงบียอนด์แต่จู่ๆ เธอก็ลาออกกะทันหันเสียอย่างนั้น ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือเป็นไปไม่ได้ที่ยูแอลจะไม่บอกพวกเธอเลย ถ้าไม่รู้เรื่องจากจีเซลพวกเธอคงจะโกรธเพื่อนสาวไม่น้อย“เพื่อนเธอได้ดีแล้ว แฟนไม่ให้ทำงานแล้วก็ถือว่าสบายแล้วนี่ จะทำเสียงตกใจอะไรกันขนาดนั้น” แจ็คกี้เอ่ยพร้อมทำท่าตกใจที่ทั้งสองคนตะโกนขึ้นมา เกรซและซาซ่าหันมองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนที่ซาซ่าจะเอ่ยถามขึ้นเพราะทนความสงสัยในใจไม่ไหว“แล้ว...ยัยแอลของพวกฉันมาบอกพี่แจ็คเองเลยเหรอ??”“ก็...เปล่านะ คุณเจซีเป็นคนมาบอก เพราะไม่อยากให้ยูแอลทำงานแล้ว”“แล้วสัญญานักเต้นล่ะ?” เกรซถามต่อ“คุณเจซีจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังให้ค่าผิดสัญญามาตั้งก้อนนึง”แจ็คกี้พูดพร้อมกับตาแวววาวเป็นประกายเมื่อนึกถึงเงินก้อนนั้น เขาตั้งใจที่จะเอามาพัฒนาทีมเต้นของตนเอง ถึงแจ็คกี้จะหน้าเง