“ฮะ?!!! ยูแอลลาออกจากทีม?!!” เกรซและซาซ่าพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกันอย่างไม่อยากเชื่อคำพูดของหัวหน้าทีมอย่างแจ็คกี้เท่าไหร่นัก วันนี้อุตส่าห์ได้มาเจอกับวงบียอนด์แต่จู่ๆ เธอก็ลาออกกะทันหันเสียอย่างนั้น ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือเป็นไปไม่ได้ที่ยูแอลจะไม่บอกพวกเธอเลย ถ้าไม่รู้เรื่องจากจีเซลพวกเธอคงจะโกรธเพื่อนสาวไม่น้อย
“เพื่อนเธอได้ดีแล้ว แฟนไม่ให้ทำงานแล้วก็ถือว่าสบายแล้วนี่ จะทำเสียงตกใจอะไรกันขนาดนั้น” แจ็คกี้เอ่ยพร้อมทำท่าตกใจที่ทั้งสองคนตะโกนขึ้นมา เกรซและซาซ่าหันมองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนที่ซาซ่าจะเอ่ยถามขึ้นเพราะทนความสงสัยในใจไม่ไหว
“แล้ว...ยัยแอลของพวกฉันมาบอกพี่แจ็คเองเลยเหรอ??”
“ก็...เปล่านะ คุณเจซีเป็นคนมาบอก เพราะไม่อยากให้ยูแอลทำงานแล้ว”
“แล้วสัญญานักเต้นล่ะ?” เกรซถามต่อ
“คุณเจซีจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังให้ค่าผิดสัญญามาตั้งก้อนนึง”
แจ็คกี้พูดพร้อมกับตาแวววาวเป็นประกายเมื่อนึกถึงเงินก้อนนั้น เขาตั้งใจที่จะเอามาพัฒนาทีมเต้นของตนเอง ถึงแจ็คกี้จะหน้าเง
“กูจะลาออกจากวง” จีเซลเอ่ยขึ้นหลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนๆ เรื่องเดิมคือเรื่องของยูแอลมาได้สักพัก เขาตั้งใจไว้อย่างนั้นก็เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปได้ดีให้มาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขา การกระทำที่จีเซลคิดว่าตัวเองคิดดีแล้วทำให้เพื่อนๆ ในวงถึงกับช็อกค้างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง“กูไม่อนุมัติ” ดีนขยับแว่นตาใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด ราวกับว่าเขาได้คำนวณไว้แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและเขาเองในฐานะหัวหน้าก็ได้คิดแผนการที่ช่วยเพื่อนร่วมวงของตนไว้อยู่แล้ว ...ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปมันก็จะเป็นวงบียอนด์ต่อไปไม่ได้“ดีน กูคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว...กูก็รักในงานนี้ แต่กูรักพวกมึงมากกว่า อย่าให้กูเป็นตัวปัญหาของพวกมึงเลย” จีเซลเอ่ย“แล้วมึงคิดว่ารักพวกกูอยู่ฝ่ายเดียวเหรอวะ?” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย“มีอะไรมึงก็ไม่ค่อยบอกพวกกู มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้” วินซ์เอ่ยเสริมด้วยท่าทีจริงจังผิดกับนิสัยขี้เล่นของเขา รอบ
แม้เรื่องราวกำลังจะแก้ไขได้มันก็ต้องกลับตอกย้ำถึงปัญหาใหม่อีกครั้ง เรื่องที่กำลังจะคลี่คลายกลายเป็นปมหนักและใหญ่กว่าเดิม ความสุขที่มีนั้นอยู่ไม่ได้นานจริงๆ จีเซลจ้องมองชายหญิงที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารของครอบครัวเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเฉี่ยวยังคงจ้องมองผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของพี่ชายตัวเอง...“แอลคะ? ทานอันนี้ไหม? เดี๋ยวพี่ตักให้”“...ขอบคุณค่ะ...”“ดูรักกันดีจังเลยนะลูก คบกับยูแอลมานานหรือยังล่ะเจซี”“ปีนี้ก็เข้าปีที่ 11แล้วครับแม่” เจซีตอบพร้อมกับปรายสายตามองจีเซลอย่างยิ้มๆ จีเซลได้แต่จบกรามแน่นจ้องมองเจซีอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ดูเหมือนว่าเจซีจะรู้เรื่องมาแต่แรกแล้วจากท่าทางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างนั้น“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไอดอลทั้งคู่ จีเซลไม่รู้จักพี่เขาหรือลูก” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยถามตาใสมองลูกทั้งสองสลับกัน“ไม่...”“รู้จักสิครับ ผมกำลังจะร่วมงานกับน้องชายอย่างจีเซลพอดี” เจซีเอ่ยขัดจีเซลขึ้นมาทันทีและยังหันไปยิ้
“อื้ม....”ร่างสูงป้อนจูบที่แสนเร่าร้อนบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม สองแขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กตั้งแต่หน้าประตูห้อง...ลิ้นเล็กไม่ยอมแพ้ยังคงหยอกล้อดูดดึงลิ้นหนาอย่างชำนาญ สองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมาทั่วห้อง ทุกการย่างก้าวเข้าห้องเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกปลดเปลื้องเหวี่ยงไปคนละทิศละทางทั่วพื้น ข้าวของกระจัดกระจายในทุกๆ ที่ที่พวกเขาพักผ่าน ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกอุ้มมาวางไว้บนเตียงนุ่มอย่างทะนุถนอมต่างจากการกระทำที่หิวกระหายโดยสิ้นเชิงร่างหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเรียงสวยเข้าทาบทับหญิงสาวร่างเล็กในทันที รูปร่างที่พอดิบพอดีนั้นชวนให้หลงใหลเมื่อได้มอง... เขาป้อนจูบอย่างดูดดื่มให้เธออีกครั้ง และเธอเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้จูบนั้นของเขาเลยสักครั้งผลัดรับผลัดสู้กันอยู่อย่างนั้น สองแขนเรียวเล็กโอบรั้งคอหนาของเขาด้วยอารมณ์ที่คลุกรุ่น กลิ่นแอลกอฮอล์คลุกเคล้าในโพรงปากของทั้งคู่...ทั้งหวานทั้งขม... ก่อนที่ร่างเล็กจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างหนาของเขาไว้พร้อมกับพรมจูบไล่ลงไปยังกล้ามหน้าท้องและขบเม้มมันพอหยอกเย้าให้คนร่างหนาสะดุ้ง...ปากรูปกระจับครอบครองตัวตนใหญ่ยักษ์ของเขาทันที“ซี้ดดดดดส์
ในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงสลัวๆ เล็ดลอดผ่านม่านบานเกร็ดเข้ามาเพียงเล็กน้อย บนโซฟาสีน้ำตาลอ่อนเรียบหรูชายหนุ่มหน้าคมหล่อเหลานั่งเท้าแขนกุมขมับ ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ที่ไรผมไปมา ผมดำขลับถูกเซ็ตอย่างดีไปด้านหลังจนหมดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาเด่นชัด อีกมือถือบุหรี่มวนใหญ่สายตาจ้องมองโต๊ะทำงานของตนอย่างเหม่อลอย“ยังไม่ไปตามเมียกลับมาอีกหรือวะไอ้เจซี...ถ้านั่งทำหน้าเครียดขนาดนี้”“........”“ปากบอกไม่รัก แต่ท่าทีของมึงมันไม่ใช่”ท็อปเปอร์พูดขึ้นกับเพื่อนรักของตนพร้อมกับยกไวน์แบรนด์ตัวเองขึ้นมาจิบ รอบกายรายล้อมด้วยหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยอัวเอียอยู่ข้างกาย เจซีปรายสายตามองท็อปเปอร์นิ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ของตนเชิดหน้าขึ้นมองเพื่อนหนุ่มของเขาอีกครั้ง“เธอหนีไม่ไหนไม่รอดหรอก...เดี๋ยวก็กลับมา”“นี่มันจะหกเดือนแล้วนะเพื่อน”“.........”“กูว่าคงไม่กลับมาแล้วล่ะ...มึงเล่นทำกับเธอขนาดนั้น”&ldqu
“โผล่มาได้แล้วเหรอครับไอ้หน้าหล่อ”หนึ่งในสมาชิกของวงเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นจีเซลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ดีมากผิดจากปกติ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจเพราะช่วงสองเดือนมานี้ ตั้งแต่ที่รับนักเต้นอิสระกลุ่มหนึ่งเข้ามาพวกเขาก็พอจะรู้เรื่องจีเซลที่ตามขายขนมจีบให้แดนเซอร์คนสวยคนดังอยู่ ขนาดพวกเขาเองตอนที่เห็นเธอครั้งแรกยังคิดว่าเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าแฟนเก่าของรุ่นพี่ในวงการบันเทิงที่พวกเขาชื่นชอบจะสวยขนาดนี้ สวยกว่าในรูปเป็นไหนๆ แต่เพราะว่าจีเซลออกตัวแรงตั้งแต่วันแรกคนอื่นๆ ในวงจึงไม่ได้ยุ่งกับเธอคนนั้นเลย ถือว่าเพื่อนของเขาจองแล้วกัน...อีกอย่างพวกเขาไม่ชอบที่จะมีปัญหากันเองในวงด้วย“พูดเหมือนมึงไม่หล่อเนอะไอ้ชาย” จีเซลหันไปตอบกลับกวนๆ“ผมชื่อซันชายน์ครับไอ้จีเซล ขอร้องเถอะ...เรียกเต็มๆ ชื่ออ่ะ อีกอย่างกูพี่มึงนะ”ซันชายน์พูดตอบพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่เพื่อนของเขาชอบเรียกว่าไอ้ชาย (น์) มันดูเก่าแก่เข้มขลังเหมือนอยู่ในยุค80ยังไงอย่างนั้น เพื่อนคนอื่นๆ ต่างหัวเราะก
การซ้อมดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง แม้ยูแอลจะพยายามมองที่กระจกและตั้งใจซ้อมแค่ไหนแต่ก็ต้องสบตากับจีเซลผ่านกระจกทุกครั้ง หรือไม่ก็จีเซลตั้งใจหันมองเธอโดยที่เธอมองเห็นสายตาของเขาผ่านกระจกบานใหญ่นั้น และแน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็เห็นเหมือนกันว่าจีเซลไม่ค่อยมีสมาธิซ้อมเท่าไหร่นัก“ผิดแล้ว!จีเซล!นายตั้งใจซ้อมหน่อยสิวะ!” ซันชายน์อดที่จะหันไปดุเพื่อนรุ่นน้องร่วมวงของเขาไม่ได้ ในขณะที่เขาสอนท่าเต้นอยู่แต่จีเซลกลับไม่ได้สนใจมองที่เขาสอนจนเต้นผิดไปหมด จีเซลเองก็ยืนหน้าสลดหลังจากโดนเพื่อนร่วมวงว่า...เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีสมาธิเลยจริงนั่นแหละ“ขอโทษครับ...”“เอาล่ะๆ พักสักหน่อยเถอะ”ดีนเลือกที่จะตัดบท ถึงคนอื่นๆ ในวงจะไม่รู้ว่าจีเซลไปมีเรื่องอะไรมา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะให้พักซ้อมเผื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น เมื่อได้ยินอย่างนั้นคนอื่นๆ ก็ต่างพากันไปดื่มน้ำนั่งพัก ยูแอลเองก็ถูกซาซ่าและเกรซลากออกไปยังมุมห้องซ้อมเหมือนกัน“ยัยแอล!เกิดอะไรขึ้น? คนที่มาหาแกคือซีอีโอใช่ไหม?&rdq
“แล้วให้เริ่มงานวันไหนดีครับคุณเจซี?”“วันนี้ทีมเลิกซ้อมห้าโมงเย็นใช่ไหมครับ? เริ่มหนึ่งทุ่มวันนี้เลยครับ”เจซีตอบแจ็คกี้อย่างยิ้มแย้มแต่สายตากับไม่ได้อยู่ที่คู่สนทนาด้วยเสียเท่าไหร่ เขากลับเอาแต่มองไปทางยูแอลไม่วางตา และเธอเองก็จ้องมองเขากลับด้วยสายตาบ่งบอกว่าไม่อยากคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เธอเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะเธอ...อาจจะเป็นแค่เกมที่เขาอยากจะเอาชนะชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น...ทุกอย่างมันดูกะทันหันไปหมด ยูแอลอดไม่ได้ที่จะหันไปมองจีเซลผู้ที่นัดเธอไว้ก่อนแล้ว ซึ่งตอนนี้สายตาของจีเซลมองไปยังเจซีอย่างไม่เป็นมิตร แล้วเขาจะพูดแย้งอะไรได้ล่ะ...เวลาที่ยูแอลไม่อยากให้มาถึง...มันก็ได้มาถึง...ยูแอลมองนาฬิกาที่อยู่เหนือกระจกบานใหญ่ด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ใบหน้าสวยดูเรียบนิ่งไร้อารมณ์ก็จริง แต่แววตาของเธอกลับดูเศร้าซึมเหมือนครั้งแรกที่จีเซลได้พบเธอ ไม่ได้มีแค่จีเซลที่มองไปทางยูแอล สมาชิกวงบียอนด์ต่างก็มองไปทางเธอทุกคน...ตั้งแต่ที่พวกเขายังไม่มีชื่อเสียงพวกเขาก็ได้ยินข่าวของรุ่นพี่อย่างเจซีอยู่บ้าง ทุกคนรู้ดีว
เป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วจึงเห็นใจ...หรือว่ารู้สึกสงสารหลังจากที่เห็นแววตาเศร้าผ่านนัยน์ตาคมของเขา...หรือว่าเป็นเพราะยังรักและห่วงเขากันแน่ ถึงได้พาตัวเองมาอยู่ข้างๆ เขาตามที่เขาร้องขอในตอนนี้ ทั้งที่ความจริงเธอจะกลับเลยก็ได้ จะปฏิเสธก็ได้...ทำไมถึงไม่ทำ...ยูแอลนั่งอยู่ในสตูดิโอส่วนตัวของเจซีในตึกสูงที่ประดับป้ายหน้าตึกว่า JC Entertainment บรรยากาศที่เจซีพยายามสร้างขึ้นเหมือนเมื่อก่อนที่พวกเขาเคยรักกัน...แต่ยูแอลกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม ในตอนนี้เธอกลับไร้ความรู้สึกใดๆ เพียงแค่ต้องการจะอยู่เป็นเพื่อนให้เขาดีขึ้นจากความรู้สึกแย่ๆ เท่านั้น ภายในใจของเธอตอนนี้กลับคิดถึงจีเซลเสียมากกว่า เธอก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าแต่...ก็ไม่เห็นสายเรียกเข้าหรือข้อความใดๆ ส่งมาเลย...เขายังไม่เลิกงานหรือเปล่านะ...“หนูลองมาฟังเพลงที่พี่แต่งสิ เพลงนี้พี่ตั้งใจจะแต่งขึ้นโชว์เลยนะ...หนูว่าดีไหม?”เจซีหันมาพูดกับยูแอลที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆ ยูแอลหันไปทางเขาเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เป็นการบอกว่าเธอจะฟ
แม้เรื่องราวกำลังจะแก้ไขได้มันก็ต้องกลับตอกย้ำถึงปัญหาใหม่อีกครั้ง เรื่องที่กำลังจะคลี่คลายกลายเป็นปมหนักและใหญ่กว่าเดิม ความสุขที่มีนั้นอยู่ไม่ได้นานจริงๆ จีเซลจ้องมองชายหญิงที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารของครอบครัวเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเฉี่ยวยังคงจ้องมองผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของพี่ชายตัวเอง...“แอลคะ? ทานอันนี้ไหม? เดี๋ยวพี่ตักให้”“...ขอบคุณค่ะ...”“ดูรักกันดีจังเลยนะลูก คบกับยูแอลมานานหรือยังล่ะเจซี”“ปีนี้ก็เข้าปีที่ 11แล้วครับแม่” เจซีตอบพร้อมกับปรายสายตามองจีเซลอย่างยิ้มๆ จีเซลได้แต่จบกรามแน่นจ้องมองเจซีอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ดูเหมือนว่าเจซีจะรู้เรื่องมาแต่แรกแล้วจากท่าทางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างนั้น“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไอดอลทั้งคู่ จีเซลไม่รู้จักพี่เขาหรือลูก” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยถามตาใสมองลูกทั้งสองสลับกัน“ไม่...”“รู้จักสิครับ ผมกำลังจะร่วมงานกับน้องชายอย่างจีเซลพอดี” เจซีเอ่ยขัดจีเซลขึ้นมาทันทีและยังหันไปยิ้
“กูจะลาออกจากวง” จีเซลเอ่ยขึ้นหลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนๆ เรื่องเดิมคือเรื่องของยูแอลมาได้สักพัก เขาตั้งใจไว้อย่างนั้นก็เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปได้ดีให้มาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขา การกระทำที่จีเซลคิดว่าตัวเองคิดดีแล้วทำให้เพื่อนๆ ในวงถึงกับช็อกค้างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง“กูไม่อนุมัติ” ดีนขยับแว่นตาใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด ราวกับว่าเขาได้คำนวณไว้แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและเขาเองในฐานะหัวหน้าก็ได้คิดแผนการที่ช่วยเพื่อนร่วมวงของตนไว้อยู่แล้ว ...ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปมันก็จะเป็นวงบียอนด์ต่อไปไม่ได้“ดีน กูคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว...กูก็รักในงานนี้ แต่กูรักพวกมึงมากกว่า อย่าให้กูเป็นตัวปัญหาของพวกมึงเลย” จีเซลเอ่ย“แล้วมึงคิดว่ารักพวกกูอยู่ฝ่ายเดียวเหรอวะ?” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย“มีอะไรมึงก็ไม่ค่อยบอกพวกกู มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้” วินซ์เอ่ยเสริมด้วยท่าทีจริงจังผิดกับนิสัยขี้เล่นของเขา รอบ
“ฮะ?!!! ยูแอลลาออกจากทีม?!!” เกรซและซาซ่าพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกันอย่างไม่อยากเชื่อคำพูดของหัวหน้าทีมอย่างแจ็คกี้เท่าไหร่นัก วันนี้อุตส่าห์ได้มาเจอกับวงบียอนด์แต่จู่ๆ เธอก็ลาออกกะทันหันเสียอย่างนั้น ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือเป็นไปไม่ได้ที่ยูแอลจะไม่บอกพวกเธอเลย ถ้าไม่รู้เรื่องจากจีเซลพวกเธอคงจะโกรธเพื่อนสาวไม่น้อย“เพื่อนเธอได้ดีแล้ว แฟนไม่ให้ทำงานแล้วก็ถือว่าสบายแล้วนี่ จะทำเสียงตกใจอะไรกันขนาดนั้น” แจ็คกี้เอ่ยพร้อมทำท่าตกใจที่ทั้งสองคนตะโกนขึ้นมา เกรซและซาซ่าหันมองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนที่ซาซ่าจะเอ่ยถามขึ้นเพราะทนความสงสัยในใจไม่ไหว“แล้ว...ยัยแอลของพวกฉันมาบอกพี่แจ็คเองเลยเหรอ??”“ก็...เปล่านะ คุณเจซีเป็นคนมาบอก เพราะไม่อยากให้ยูแอลทำงานแล้ว”“แล้วสัญญานักเต้นล่ะ?” เกรซถามต่อ“คุณเจซีจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังให้ค่าผิดสัญญามาตั้งก้อนนึง”แจ็คกี้พูดพร้อมกับตาแวววาวเป็นประกายเมื่อนึกถึงเงินก้อนนั้น เขาตั้งใจที่จะเอามาพัฒนาทีมเต้นของตนเอง ถึงแจ็คกี้จะหน้าเง
ย้อนกลับไปในคืนแรกที่วงบียอนด์เริ่มที่จะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง การได้รับรางวัลแรกทำให้พวกเขาเลือกที่จะมาฉลองที่คลับของสมาชิกวงต้นแบบที่พวกเขาชื่นชมมาตลอด และแน่นอนว่าหัวหน้าวงอย่างดีนเลือกที่จะจองโต๊ะวีไอพีด้านบนชั้นสองเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วย ในสถานการณ์ที่วงกำลังจะไปได้ดีเพื่อนร่วมวงของเขาอย่างจีเซลก็ดันมาโดนหักอกจากเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอีก ทั้งยืนดีทั้งมาเพื่อปลอบประโลมเพื่อนร่วมวงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา“ไอ้จีเซลยังไม่โผล่หัวมาอีกเรอะ?” ซันชายน์ที่นั่งซดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปหลายแก้วถึงกับออกปากบ่นเพื่อนรุ่นน้องที่แทบจะเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างจีเซล เพราะพวกเขาสนิทกันมากเลยไม่ได้ถือเรื่องอายุกันเท่าไหร่ อยู่ด้วยกันมาก็เหมือนเพื่อนรุ่นๆ กันจึงไม่แปลกที่คำพูดคำจานั้นแทบจะตบหัวกันได้ ซันชายน์เป็นคนสดใสร่าเริง ติดตลกแต่..ขี้กลัวไปนิด“เออ ให้มันได้สงบสติตัวเองแป๊บนึงก่อน เดี๋ยวมันก็มา” ดีนเอ่ยขึ้นพลางส่ายหน้า มืออีกข้างยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มดับกระหายจ้องมองลงไปยังฟลอร์ด้านล่าง หนุ่มแว่นที่ว
“อิ่มแล้วใช่ไหม?” จีเซลพูดขึ้นหลังจากที่นั่งมองไอดอลสาวรุ่นน้องตรงหน้ากินเนื้อย่างอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นาน ยังดีที่ร้านเชฟโซจูนั้นมีห้องสำหรับแขกวีไอพีและเคยทำงานร่วมรายการกับเขาจึงคุยง่ายหน่อย ยูจินยกโคล่าขึ้นมาดื่มก่อนจะตบหน้าท้องตัวเองด้วยท่าทางน่ารักพร้อมกับมองเขาด้วยรอยยิ้มเริงร่า“ค่ะ ดีจังที่ได้มานั่งกินเนื้อย่างกับพี่จีเซล”“.........”“เจริญอาหารขึ้นเยอะเลย”พูดไปยิ้มไปสองแขนเท้าโต๊ะมือเล็กเท้าคางส่งรอยยิ้มหวานให้คนตรงหน้า แต่จีเซลกลับจ้องมองเธอนิ่งไม่ได้รู้สึกยินดีที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะปฏิเสธไปอย่างชัดเจนแต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ยอมรามือที่จะเดินหน้าหว่านเสน่ห์ให้เขา“อิ่มแล้วก็กลับ”“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเองค่ะ ถือว่าเป็นการขอบคุณ”“ไม่ต้อง ผมจ่ายไปแล้ว”จีเซลพูดจบก็ลุกขึ้นเตรียมตัวจะส่งเธอกลับ แต่ยูจินกลับนั่งนิ่งเท้าคางจ้องมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย จีเซลหลุบตามองเธอที่จ้องมอง
“พะ...พี่พูดเรื่องอะไรน่ะ” ยูแอลถึงกับหายใจติดขัดเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจความหมายแต่แค่เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะกล้ามัดมือชกแบบนี้ ดวงตาสวยจ้องมองเขาอย่างหวาดหวั่น“พี่ว่า...พี่คงไม่ต้องอธิบาย” เจซีพูดพร้อมปรายนิ้วที่ลูบไล้มายังซอกคอสวย สายตาคมหลุบมองตามมือของตนก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้าที่เอียงหลบสัมผัสของเขา ยูแอลหายใจถี่รัวตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว...ที่กลัวเพราะเธอไม่อยากตกเป็นของเขา...ทั้งตัวและหัวใจได้ยกให้คนเพียงคนเดียวไปแล้วเจซีเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มอย่างได้ใจที่เห็นท่าทีของยูแอลดูตื่นตระหนก เขาจับข้อมือของเธอแล้วลากให้เดินตามเขาไปแม้ว่าเธอจะพยายามรั้งตัวเองไว้แต่เขากลับดึงกระชากไปโดยไม่สนใจว่าเธอเจ็บหรือไม่...จะร้องออกมาก็ร้องไม่ออก...ก้อนสะอื้นมันติดอยู่ที่คอ ทำได้แค่พยายามแกะมือของเขาออก“อย่าดื้อกับพี่นะคะ...แอลก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบเด็กดื้อ”เจซีหันมาเตือนเธอก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาลากเธอขึ้นบันไดต่อไป มีหรือที่เธอจะยอมฟังแม้เธอจะกลัวจนพูดไม่ออกแต่ก็พยายามท
“ปล่อยได้แล้วค่ะ ฉันจะกลับไปเตรียมตัว” ยูแอลพูดขึ้นหลังจากที่เจซีเดินโอบไหล่เธอมาถึงหน้าห้องแต่งตัวของนักเต้น เจซีหันทั้งตัวมาทางเธอพร้อมกับจับไหล่เธอไว้ทั้งสองข้างโน้มหน้าเข้าไปใกล้จ้องมองเธอนิ่งด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิด“ทำไมต้องวิ่งไปหามันด้วย? คิดถึงจนทนไม่ไหวเลยเหรอ?” เจซีเค้นน้ำเสียงพูดขึ้นพยายามข่มใจให้ใจเย็นแต่ยังไงสีหน้าของเขาก็แสดงออกชัดเจนว่าเขาหัวเสียแค่ไหน“ฉันยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ ให้ฉันได้กลับไปทำงานเถอะค่ะ” ยูแอลเลือกที่จะเลี่ยงตอบคำถามของเขาและตั้งท่าว่าจะเดินเข้าห้องแต่งตัวไปโดยไม่สนใจเจซีเลยสักนิด แต่เจซีกลับคว้าข้อมือเล็กไว้แน่นกำข้อมือของเธอไว้อย่างแรงพร้อมกระชากเธอให้กลับมาที่เดิมใกล้ๆ ตัวเขา“พี่เจซี!ฉันเจ็บนะ!”“เจ็บเหรอ? พี่สิเจ็บกว่า!แอลไปทำอะไรที่ห้องมืดๆ กับมันสองต่อสองเหรอ?!”“........”ยูแอลขมดคิ้วและเม้มปากแน่น จะกล้าที่จะตอบคำถามของเขาเพราะว่าเธอทำจริงๆ จะให้บอกได้ยังไงว่าจูบกัน เพราะความไ
“ยูแอลไปไหน?” เจซีเดินเข้ามาถามเพื่อนสาวทั้งสองของยูแอล ซาซ่าและเกรซมองหน้ากันไปมาก่อนจะหันไปส่ายหน้าให้เจซี ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็เงียบแล้วเดินหันหลังกลับไป ในหัวคิดแค่ว่าเธอต้องไปหาจีเซลแน่ๆ เพราะพึ่งเจอกันบนเวทีเมื่อครู่หรือไม่ก็จีเซลเป็นคนลากเธอไปที่ไหนสักแห่งในตึกนี้ เจซีคิดพลางเดินออกไปเพื่อตามหายูแอลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของเขาด้วยสีหน้าที่ดูดุดันตลอดทางจนสต๊าฟหรือคนอื่นๆ ที่เดินผ่านไม่กล้าที่ทัก“แอลเอ้ย...ไปไหนไม่บอกเพื่อนเลยนะ” ซาซ่าเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดที่เพื่อนสาวจะไปไหนมาไหนไม่ยอมบอกยอมกล่าว นี่มันก็ใกล้เวลาที่ต้องขึ้นแสดงแล้วด้วย“แอลมันจะกลับมาเปลี่ยนชุดทันไหมเนี่ย” เกรซเอ่ยขึ้นอย่างกระวนกระวายใจพลางยกข้อมือดูนาฬิกาที่ใส่ติดตัวอย่างร้อนใจ เพื่อนสาวทั้งสองมองออกไปทางประตูห้องแต่งตัวเป็นระยะๆ ...เจซียังคงเดินตามหายูแอลจนไปหยุดหน้าห้องเก็บของของสต๊าฟ เขาได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากในห้องจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อความแน่ใจว่าใช่เสียงที่เขาคุ้นเคยหรือไม่...และมันก็เป็นไปตามคาด...&
ตั้งแต่วันนั้น...จีเซลก็ไม่ได้มาเจอเธออีกเลย อาจจะเพราะงานที่ช่วงนี้ยุ่งๆ หลังจากเกิดข่าวอื้อฉาวของเธอและเขา แต่ก็มีข่าวใหม่เกิดขึ้นคือข่าวของจีเซลกับหัวหน้าวงเกิร์ลกรุ๊ปจากค่ายเจซีที่โด่งดังมาในขณะนี้...ภาพหลุดจากหลายๆ แหล่งข่าวที่จีเซลไปส่งยูจินที่บริษัทและตอนที่ทำงานร่วมกันโดยที่แฟนคลับของพวกเขาแอบถ่ายได้ ยูแอลได้แต่เห็นภาพข่าวเหล่านั้นซ้ำๆ ทุกวันเป็นดือน...นี่ก็สามเดือนแล้วที่เธอและเขาไม่ได้เจอกันเลย ยูแอลเองก็ต้องออกงานกับเจซีปล่อยๆจนตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องเป็นแดนเซอร์ให้กลับเจซีและวงในค่ายของเขา...เธอเองก็แทบจะไม่ว่างเลยต้องตะเวนเต้นให้กับวงอื่นๆ ด้วยจากการเช่ายืมนักเต้นของแต่ละค่ายไม่ว่าค่ายเล็กค่ายใหญ่ต่างต้องการทีมของเธอ ผลพลอยได้จากข่าวอื้อฉาวนั้น...แต่ไม่คิดว่าหลังจากผ่านไปแล้วสามเดือนที่ไม่เจอกับวงบียอนด์เลย เนื่องจากเขาต้องไปทัวร์ต่างประเทศและได้นักเต้นจากต่างประเทศเป็นแดนเซอร์แทน เป็นการตลาดที่จะต้องใช้นักเต้นประเทศนั้นๆ ที่ไปทัวร์คอนเสิร์ต แต่วันนี้วงบียอนด์ต้องกลับมารับรางวัลขึ้นเวทีโดยมีนักเต้นอีกทีม เพราะทีมเธอนั้นต้องเต้นให้เจซีและวงWINGS