เช้าสดใส หิมะโปรยปรายบางเบา แพรวาขยับกายเบาๆ ภายใต้อ้อมกอดอบอุ่น คนกอดยังหลับตาพริ้มอยู่เหมือนเปี่ยมสุข แพรวายก แขนข้างที่กอดออกเบาเบาภายใต้ผ้าห่มแพรอุ่นสบายอาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรหนอการที่อยากให้เขาสบายอยากให้เขามีความสุขกลัวเขาตื่นอยากให้เขานอนต่อนานๆ ภายใต้การดูแลของเรา แพรวาคิดก่อนจะลุก สำรวจตัวเองไม่มีอะไรบุบสลาย และยังมี สิ่งอื่นเพิ่มเติมขึ้นมาคือ จิตใจที่อิ่มเอมเป็นสุขเดินสำรวจรอบๆห้องบรรทมก่อนจะหยุดอยู่ที่ โต๊ะถวายงานที่มีฎีกาวางอยู่ระเกะระกะบ่อยไปที่แพรวาต้องจัดห้องหับให้พี่กันต์เมื่อครั้งที่อยู่บ้านสมัยนั้น เพราะความที่พี่กันต์งานยุ่งจนไม่มีเวลาทำความสะอาดคอนโด แม้จะมีแม่บ้านที่จ้างมาแต่พวกกองเอกสารหรือของใช้ส่วนตัวแม่บ้านก็ไม่กล้ายุ่มย่าม นี่เองเป็นเหตุให้แพรวามีกุญแจคอนโดของพี่เขาที่ให้ไว้เมื่อเธอว่างมักจะแวะเวียนมาจัดระเบียบในห้องสักครั้ง บางครั้งก็เผลอหลับไปบนเตียงนุ่มๆที่มีกลิ่นโคโลญน์หอมอ่อนๆ ก่อนจะถูกปลุกด้วยจุมพิตหวานทุกครั้งเมื่อนึกถึงตอนนี้แพรวาใจหายวาบก่อนจะกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอมอง ผ่านไปยังคนนอนบนแท่นบรรทมเขาเหมือนจะอ่อนโยนกว่าพี่กันต์ด้วยซ้ำหากไม่ติดที่ว่าเ
“ข้า จะกลับไปได้อย่างไรในเมื่อถูกนำมาแทนที่ใครบางคน”น้ำเสียงเศร้าสลด“อาจเป็นนาง มากกว่าที่ถูกนำไปแทนที่เจ้า เจ้าอาจเป็นคนที่อยู่นี่ตั้งแต่ทีแรก”แพรวาสะดุดใจกับคำพูดหมอหลวงเมื่อนึกถึงความฝันที่เห็นตัวเองยังเล็กนั้นวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของหญิงนางหนึ่งที่ถึงกับต้องเรียกว่า ...แม่...“ถ้าไม่ได้กลับ ไปก็อย่าเสียใจเลย แม่นาง ...แพรวา เจ้ายังคงอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตที่นี่กับคนที่สมควรเป็นคนที่คอยปกป้องเจ้า เจ้าเองก็ต้องมอบความภักดีและต้องช่วยเหลือเขาเมื่อถึงเวลาอันควร”“เวลาอันควร ท่านหมายความว่าอย่างไร”“เมื่อถึงเวลานั้น มันก็จะเป็นลิขิตฟ้าเจ้าก็จะเข้าใจ ได้โดยไม่มีข้อกังขา”เอะอะอะไรก็ลิขิตฟ้า แพรวาชักฉุน“แม่นางเฟยลี่ ท่านชินอ๋องได้ส่งเครื่องบรรณาการและ และโสมชั้นดีจากฮันกึลให้ข้านำมันมามอบแก่ แม่นาง”หมอหลวงพยักหน้าแพรวารับเอาไปอย่างงงงง อันเก่าก็ยังไม่หมดขยันให้กันจริงวุ้ย“ชินอ๋องมีรับสั่งให้ท่านร่วมดื่มชา ที่จวน" แพรวานิ่วหน้าทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย พยักหน้าอย่างขอไปที“ได้ เดี๋ยวข้าจะรีบไป”จวนอ๋องถูกจัดไว้อย่างสวยงามเหมือนต้อนรับบุคคลสำคัญ หรือแขกต่างบ้านต่างเมือง“แม่นางเฟยลี่เกรงใจเจ้
อย่าทำแบบนี้เลย แบบนี้เลยเหมือนฉันไม่เคยมีความหมาย เธอไม่เคยสนใจไม่เคยเห็นก็เป็นแค่เพียงอากาศ แค่ลมที่พัดไม่มีตัวตนT_Tเสี่ยวโอเขย่งเท้ามอง ก่อน จะนิ่วหน้า แสดงการสงสัยใคร่รู้ แพรวา เดินหลบออกไปยังห้องของตัวเอง อย่างไม่สนใจ ใคร่ดีใคร แต่กลับต้องดีใจอย่างที่สุดเมื่อพบกับ ลี่มี่ ที่กำลังจัดเก็บของในห้องอยู่เพียงลำพัง แพรวา กระโดดเข้าคว้ามือลี่มี่เขย่าเบาๆ“เจ้าหายดีแล้ว ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบตาย”รู้สึกเหมือนที่พึ่งพิงกลับมาแล้ว ลี่มี่ยิ้มบางๆ“ข้าก็คิดถึงท่านแทบแย่ หมอหลวงอนุญาตให้กลับมารับใช้ท่านข้าดีใจแทบตายนายหญิง”“เจ้าอยู่กลับหมอหลวงข้าก็เบาใจ”แพรวาพูดจากใจจริงอย่างน้อยในวังแห่งนี้ สองคนนี้ก็เป็นที่พึ่งพิงทางใจได้อย่างดี“แล้วนายหญิงไม่ต้องอยู่ปรนนิบัติ ฝ่าบาทหรือวันนี้”แพรวาสีหน้า เศร้าสลดลงทันที“ฝ่าบาท ทรงมีหญิงงามนางใหม่”“หาแสดงว่าข้าน้อยตกข่าว ทำไมได้ยินแต่เรื่องที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานนายหญิงยิ่งกว่าหญิงใด”“ผ้าแพรผืนเก่าสีไม่สวยถูกใจ เท่า ผ้าไหมผืนใหม่ หรอกลี่มี่”“แล้วนายหญิงยอมรึเจ้าค่ะ”มองหน้าลี่มี่แบบไม่เชื่อสายตายามที่แพรวาท้อ อย่างน้อยก็มี ลี่มี่นี่แหละที่ ปลุก สกิลเทพใ
“ความเจ็บช้ำเปรียบดั่งหิมะ ไม่คงทนอีกไม่นานก็มลายหายไป”“ความเจ็บช้ำใจ เปรียบดั่งหินผา ไม่มีทางมลายหายไป”แพรวาต่อปากต่อคำ“ท่านมาพอดี ข้ากำลังหาคนร่วมดื่ม”แพรวากอดแขนชินอ๋องด้วยความเมามาย ไม่ทันระวังคนโดนกอดแขนสะดุ้งกับอาการสนิทสนมนั้นใจหนุ่มวาบไหวมองมือที่เกาะกุมไม่วางตา“นั่งๆ ๆ”ฉุดแขนชินอ๋องที่ทำท่าทางเก้อเขินให้นั่งลง คว้าไหเหล้ารินเหล้าใส่ถ้วยกระเบื้องเคลือบจนหกเลอะ ชินอ๋องจับมือบางที่ถือไหก่อนจะสบตาสีน้ำตาลเข้มของแพรวาพยายามค้นคว้าหาคำตอบ“เจ้าโศกเศร้าเสียใจ ถึงเพียงนี้เชียวหรือจึงดื่มจนเมามายเพื่อท่านพี่”มองแพรวาด้วยสายตาลึกซึ้งปนสงสาร ลี่มี่ขยับตัวออกห่าง“เปล่าววววว ข้าแค่อยากดื่มไม่ได้ดื่มมานานแล้ว”“เป็นข้าที่ทำร้ายเจ้า ถ้าหากข้าไม่พาเหมยหลิวมา”“อย่าซีเรียส น่าข้าไม่แคร์ คนแบบนั้นหรอกมาดื่มกันดีกว่า”ชินอ๋องจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็พอเข้าใจ แพรวายกถ้วยสุราจ่อริมฝีปากชินอ๋องชินอ๋องรับมาถือไว้ในมือแพรวายกจอกสุราของตัวเองขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจอก เช็ดริมฝีปากที่เต็มไปด้วยหยดเหล้าเรี่ยราด ก่อนจะฟุบลงหมดสติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์เต็มพิกัด ชินอ๋องเขย่าร่างเล็กที่นอนฟุบหน้าไ
“เจ้าอย่าได้แสดง ออกแบบนี้อีกเป็นอันขาด ข้าขอเตือนการที่ข้ายังให้เจ้าอยู่ไม่ต้องรับโทษตายเป็นเพราะอย่างน้อยเจ้า ก็ยังทำประโยชน์ให้แก่ข้าได้บ้างเท่านั้น เจ้าก็รู้ลี่มี่ว่าข้าไม่ละเว้นใครง่ายๆ หากทำให้ข้าไม่พอใจ”ลี่มี่นั่งพับเพียบกับพื้นนิ่ง มือกำชายกระโปรงแน่น ไม่อาจหักห้ามใจน้ำตาร่วงพรูชินอ๋องย่อตัวลงข้างๆ ปาดน้ำตาจุมพิตบดขยี้รุนแรงก่อนจะกระซิบที่ข้างหู“ถ้ายังอยากเป็นคนของข้า อย่าให้เฟยลี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนของข้าชินอ๋อง เจ้าต้องดูแลนางและคอยช่วยเหลือนาง งานสำคัญของเจ้าอีกอย่างที่ข้าสั่งเจ้าคอยจับตาฝ่าบาทอย่าลืม"สะบัดมือจนคางเล็กๆ ไหวตามแรงมือลี่มี่เช็ดตัวให้แพรวาอย่างเบามือ ความคิดสับสนวุ่นวายจะภักดีหรือว่าเกลียดชังหญิงคนที่นอนต่อหน้าคนนี้ดี ไม่ว่าจะรักหรือชังลี่มี่ก็เจ็บช้ำไม่แพ้กันแพรวาปวดหัวแทบระเบิด ตื่นขึ้นมาเมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้นมาบ้างมองไปข้างเตียงลี่มี่นอนฟุบหน้าอยู่ใกล้ๆ เอื้อมมือเขย่าตัวลี่มี่“นายหญิง โอ้ ลี่มี่ต้องขออภัยท่านเมื่อคืนเฝ้าเช็ดตัวให้ท่านจนดึกดื่น เพิ่งจะได้งีบหลับตอนรุ่งสาง”“ไม่เป็นไรลี่มี่ เจ้าช่างดีกับข้าจริงๆ ขนาดเพิ่งจะหายป่วย แทนที่เป็นข้าจะต้องดูแล
คนที่ไม่ยอมมานู้นแล้วสนมฮุ่ยกับขบวนเสด็จ ที่ถือวิสาสะเข้าไปโดยไม่ได้เชื้อเชิญ“ฮุ่ยเหนียง ถวายพระพร ฝ่าบาท”น้ำเสียยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แพรวาคิดดัดเสียงได้อ่อนหวานนัก ชายตามองเหมยหลิวเหมือนเป็นสิ่งปฏิกูลเหมยหลิวขยับตัวรวดเร็วยืนขึ้น ถวายพระพรสนมฮุ่ยดวงแววตาใสซื่อเช่นเดิม“วันนี้ฮุ่ยเหนียง ตุ๋นรากบัวมาถวายฝ่าบาท”รากบัวอีกแล้วแพรวาคิดคงไม่เหมือนวันนั้นนะฮ่องเต้ชำเลืองตามอง เพียงแวบเดียวสนมฮุ่ย พาหุ่นสะโอดสะองเดินเข้าไปนั่งใกล้ฝ่าบาทจนเกือบกลายเป็นนั่งตัก“เหมยหลิวลองชิม ตุ๋นรากบัว”ฮ่องเต้เอ่ยปากชวนรอยยิ้ม สว่างใสก่อเกิดขึ้นบนใบหน้าสวยหวาน“หวังว่าคงไม่ได้เหมือนครานั้น”สนมฮุ่ยหน้างอแต่ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นแช่มชื่น“ไม่เพคะ วันนี้ฮุ่ยเหนียงรู้ว่าฝ่าบาททรงงานหนักฮุ่ยเหนียงไม่อาจดูดาย”สายตาไม่ต่างจากคำพูด สาวใช้ติดตามสนมฮุ่ยยกโถรากบัวตุ๋นเข้ามาวางลงตรงหน้าตักใส่ถ้วยกระเบื้องใบเล็ก เหมยหลิวท่าทีนอบน้อมรับถ้วยมาถือไว้ ก่อนจะละเมียดในการชิมสนมฮุ่ยตวาดแว้ดทันที“ใครให้เจ้าลิ้มรสก่อนฝ่าบาท”เหมยหลิวคุกเข่าลงกับพื้น“เหมยหลิวไม่กล้าพระสนมอย่าได้ถือสาเพียงเพราะเหมยหลิว คิดว่าฝ่าบาทเชิญชวน”
ฮ่องเต้เอ่ยปาก“นาง โดนพิษเข้าไปเพียงน้อยนิด พิษไม่สามารถทำอันตรายนางจนถึงชีวิตได้ ข้าน้อยได้ให้ยาถอนพิษกับนางแล้ว ตอนนี้นางฟื้นคืนสติ ดังเดิม”เสียงถอนหายใจรวมทั้งแพรวาที่ถอนหายใจโล่งอกเสียยกใหญ่ ฮ่องเต้และชินอ๋องเดินเข้าไปในตำหนัก ตอนนี้เองที่สนมฮุ่ยได้ยินคำพูดของหมอหลวงชัดเจน ถลาเข้าไปในห้องพร้อมกับทุกๆ คนแพรวาจึงเร่งฝีเท้าตามไปทั้งหมดสี่คนรวมทั้งแพรวา จึงเดินเข้าไปดูอาการเหมยหลิวเหมยหลิวใบหน้าซีดจาง แทบไม่มีสีเลือดนอนอยู่บนเตียงนอน ฮ่องเต้ทรุดตัวลงนั่งปลายข้างแท่นนอนยิ้มบางๆอย่างที่แพรวามองว่ามันสวยหวานของเหมยหลิวทำไมกลายเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งไปในตอนนี้ขยับตัวลุกขึ้นยากเย็นก่อนจะ ทำท่าทางเหมือนจะล้มให้ฮ่องเต้ประคอง ทำเอาใจของแพรวาไหวยวบ สนมฮุ่ยขมวดคิ้วเก็บกดอารมณ์ไว้“ฝ่าบาท เหมยหลิว ขอร้องฝ่าบาทอย่าได้กล่าวโทษพระสนมเลย อาจจะไม่ใช่พระสนมที่เป็นคนลงมือ ทรงสอบสวนก่อน”ท่าทีอ่อนน้อมน่าสงสารนั้นทำให้ฮ่องเต้ถึงกับรวบมือทั้งสองข้างมากุมไว้แต่ สนมฮุ่ยและแพรวาที่เข้ามาพร้อมกันกับตะลึงในคำพูดของเหมยหลิวไม่ คาดคิดว่านางจะใช้ไม้นี้ไม่ตีโพยตีพาย แต่มาแบบเหนือเมฆ ความสงสารสยบทุกสิ่งจริงๆ“เจ้
“ตามหมอหลวง ฝ่าบาท ทรง ต้องคมมีด"เป็นเสียงชินอ๋องอีกเหมือนเดิมเหมยหลิวจ้องมองที่แพรวาและฮ่องเต้ด้วยแววตาที่อยากจะคาดเดาความคิดของนางสนมฮุ่ยดิ้นสุดแรง เพื่อให้หลุดจากการควบคุมตัวเมื่อองครักษ์สองสามคนเข้ามาจับตัว“ฝ่าบาท อย่าจองจำฮุ่ยเหนียงเลย ฮุ่ยเหนียงไม่ได้ตั้งใจทำให้ฝ่าบาทต้องบาดเจ็บ เห็นแก่ความเป็นผัวเมียของเราด้วยเถิดฝ่าบาท...ฝ่าบาท..ฝ่าบาท”เสียงตะโกนดังห่างออกไปเรื่อยๆแพวาถลาเข้าจับท่อนแขนที่มีรอยเลือดเป็นด่างดวงน้ำตาไหลริน“อย่าร้องเลย ...ข้าไม่เจ็บ..ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง อย่าร้องไห้คนดีของข้า”น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แพรวากลับติดลมเสียแล้วร้องไห้ขี้มูกโป่ง มือใหญ่บรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือแล้วก็สวมกอดเมื่อยังได้ยินเสียงสะอื้น หนักขึ้นกว่าเดิมชินอ๋องเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เหมยหลิวกัดเม้มริมฝีปากแน่น“ปล่อยข้านะ ข้าจะขอความเป็นธรรมกับฝ่าบาทท่านพ่อช่วยข้าด้วยพวกเจ้าปล่อยข้านะไม่อย่างนั้นพ่อข้าใต้เท้าจางต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่”สนมฮุ่ยโวยวายเสียงดังจนถึงห้องขังหมอหลวงพันแผลให้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวแพรวานั่งมองอยู่ใกล้ๆ“เพียงแค่เฉี่ยวๆแผลไม่ลึกนักไม่เหมือนคราวก่อน ข้าน้อยจะเฝ้าดูอากา
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ
ลี่มี่ก้มลงกระซิบเบาๆ“ชินอ๋องข้าหมายถึงเหอหลงที่พยายามจะเตือนฝ่าบาทเรื่องสนมฮุ่ยและใต้เท้าจาง ไม่เพียงแต่ชินอ๋องเท่านั้น ท่านโหวเองก็ไม่พอใจใต้เท้าจางนักที่อาศัยความที่เป็นพ่อตาวางอำนาจบาตรใหญ่คุมกองกำลังทหารองครักษ์และสามเหล่าทัพจนเป็นที่เกรงขามไปทั่วเพียงเพราะฝ่าบาทโปรดปรานสนมฮุ่ยเรียกหาทุกค่ำคืน”เป็นไปได้อย่างไรไม่น่าเชื่อสิ่งที่ได้ยินทุกอย่างกลับตารปัดไปหมดเช่นนี้“แล้วชินอ๋อง ...เหอหลงเล่าอยู่ที่ไหน”“ชินอ๋องทนความเหิมเกริมของใต้เท้าจางโดยที่ฝ่าบาทเพิกเฉยมาตลอดนำกำลังเข้าล้อมวังหลวงสามพันนาย แต่ใต้เท้าจางกับนำทหารทัพหน้าสามเหล่า ทัพตีตลบทัพหน้าของใต้เท้าจางเกือบพ่ายแพ้เพราะชินอ๋องมีแต่กำลังทหารที่ยอมพลีชีพคนเขาลือกันว่าท่านหมอ ทำนายทายทักไว้จนท่านโหวนำกำลังอีกส่วนมาช่วยใต้เท้าจางทัน ....แต่ความจริงเขาลือกันว่าโหวหยางจื้อไปช่วย..ชินอ๋องเสียมากกว่าเพราะกำลังทหารสามพันหรือจะสู้กำลังทหารหมื่นนายของใต้เท้าจาง เขายังพูดกันอีกว่าทหารองครักษ์บางส่วน หันกระบี่เข้าใส่ทหารสามเหล่าทัพปกป้องชินอ๋อง” แพรวาตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินคราวนี้เป็นแพรวาเสียเองที่ใช้มือปิดปากตัวเอง“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม
ก้มหน้านิ่งกลัวว่าหยาดน้ำตาจะร่วงรินให้ใครเห็น ความจริงแพรวากลับมาเพื่อหยางหลงแต่สิ่งที่ต้องเผชิญ ทำให้จิตใจไร้เรี่ยวแรง“ฝ่าบาทให้นางพำนักที่จวนข้าเถิด เพราะท่านหมอได้ฝากฝังนางไว้แก่ข้า”โหวหยางจื้อยังไม่ยอมแพ้ อ๋อนี่หลังจากสร้างเรื่องแล้วคงรู้ดีว่าแพรวาต้องเจอกับอะไรบางอย่างนั้นสิ ถึงได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้“อย่างไรเสียนางก็เป็นเพียงหญิงนางหนึ่ง ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในวังหลวงที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ข้าไม่อาจวางใจให้นางอยู่ห่างไกลสายตาของข้าเจ้าอย่าห่วงเลยโหวหยางจื้ออย่างไรเสียข้าคงไม่สั่งประหารนางตอนนี้หากต้องมีเรื่องใหญ่ขนาดนั้นคงต้องหารือเจ้าอย่างแน่นอน”แพรวาได้แต่ทอดถอนใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาวะเป็นอย่างไรเป็นกันต้องสู้ดูสักตั้งใช่ว่าแผ่นดินจะสิ้นไร้เท่าใบซานซา (พุทรา) อย่างน้อย ถ้าไม่ไหวจริงๆ แพรวาจะขอให้หมอหลวงหาทางให้กลับบ้านจะดีกว่าเงยหน้ายิ้มสู้“ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวข้าให้มากนัก ท่านทั้งสองข้าเป็นหญิงตัวคนเดียวเพียงแค่ได้ที่พักพิงอาศัย ไม่ว่าจะที่ใดก็ดีใจเหลือเกินแล้ว ปลาย่อมพึ่งสายน้ำ ทั้งฝ่าบาทและ ท่านโหวเป็นห่วงเป็นใยข้าเพียงนี้ข้าน้อยเฟยลี่ไม่อาจดื้อรั้นอีกต่อไปจะขออาศัย
เผลอหลับไปข้างๆ แพรวาโดยไม่รู้ตัวแพรวาหลับสนิทเผลอคว้าหาหมอนข้างด้วยความเคยชินเพื่อมาก่ายกอดกับคว้าเอาร่างใหญ่มากอดไว้ซุกหน้ากับอกอุ่น อีกคนก็นอนหลับใหลเพราะความง่วง ใจกระหวัดคิดไปว่าเป็นสนมฮุ่ยที่เคยข้างกายมาตลอดแสงเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างเคยไม่มีบิดพลิ้ว คนนอนก่อนตื่นก่อนสนมฮุ่ยนอนบิดขี้เกียจอยู่บนแท่นนอนก่อนจะมองสอดส่ายสายตาหาฝ่าบาทที่เคยอยู่ข้างกายสายตาหยุดลงที่ภาพบาดตา แพรวานอนกอดก่ายร่างของฮ่องเต้ไว้แน่นทั้งคู่หลับสนิทไม่รู้เรื่องราว“กรี๊ดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่น ฮ่องเต้หนุ่มสะดุ้งตื่นจากบรรทม แพรวายังนอนไม่รู้ไม่ชี้ก็เมื่อคืนนอนดึกเหลือกำลังร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นแพรวากับคว้าคอไว้แน่น เสี่ยวโอวิ่งรวดเดียวเข้ามาถึงในห้องทำหน้าตาพิกล จะว่าตกใจก็ไม่ใช่จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่“ฝ่าบาท ฝ่าบาท”สนมฮุ่ยพูดได้เพียงแค่นั้น ฮ่องเต้หนุ่มพยายามแกะมือแพรวาที่เหนียวเหมือนปลาหมึกที่โอบรอบลำคอแพรวางัวเงียลืมตาตื่นยังลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ดีนักเอ่ยปากถามทันที“อ้าว เช้าแล้วเหรอยังนอนไม่อิ่มเลย”ปล่อยมือจากลำคอบิดขี้เกียจเหมือนแกล้ง แล้วทิ้งตัวลงนอนตะแคงตามเดิมสนมฮุ่ยมองหน้าตาเขียวปั๊ด“เจ้าใยไร้ย
ยกมือประสานกันโค้งคำนับก่อนจะถอยห่างแต่ช้าไปฮ่องเต้หนุ่มคว้าแขน มากำไว้แน่น“ข้ายังไม่อนุญาตห้ามเจ้าไป”แพรวาหันหน้ามาส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทท่านช่าง ไม่มีความกระดากหรืออย่างไรท่านไม่เห็นหรือว่าสนมของท่าน ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยออกเพียงนั้นยังจะให้ข้า...อยู่ทำไม” แล้วจะยังความมั่นคงในรักของเขาอีก แพรวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าหึงวะ“ไม่ได้ในเมื่อไม่อนุญาตใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดกล้าขัดบัญชาข้าได้”แพรวาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าอย่างประชดประชัน บ่นงึมงำเมื่อเริ่มง่วงจริงๆเสียแล้ว“จะได้นอนไหมคืนนี้”“ใครให้นอนตอบคำถามข้ามาเจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงได้สมคบคิดกับหมอหลวงข้าไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างเป็น ลิขิตของสวรรค์ใยช่างเหมาะเจาะเช่นนี้”“ตามนั้นเลยฝ่าบาทข้าพระองค์มาเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง”อยากบอกว่าเหลือเกินเพราะคิดถึงเขา“พูดมาจุดประสงค์ใด หรือเหอหลงส่งเจ้ามา”แพรวาเริ่มสะกิดใจ คงต้องหาคำตอบเรื่องเหอหลงให้จนได้“.....................”“คงต้อง ทรมานด้วยม้าแยกร่างเจ้าถึงจะยอมพูดสิ่งที่ข้าอยากรู้”“เหอ.... นอกจากจะไม่ฟังเหตุผลแล้วยังชอบทรมานคนอื่น”เอาวะเ
ความมืดปกคลุมไปทั่วเสียงต่างๆเงียบเชียบ แพรวาเดินลัดเลาะตามกำแพงสูงใหญ่ด้วยความคล่องแคล่วและมั่นใจอย่างน้อยแพรวาก็ไม่กลัวผี แต่ที่แย่คือไม่ได้หยิบเสื้อคลุมมามีเพียงชุดฮั่นฟูบางเบาทำเอาความหนาวแทรกซึมเข้าสู่ผิวกายเดินกอดอกห่อไหล่เสียงฝีเท้าหนักๆ แพรวนึกภาพทหารยาม ที่เดินยามค่ำคืน แต่ช้าไปเสียแล้วหาทางหลบก็ไม่รอด หลับตาปี๋เป็นอย่างไรเป็นกันฉับพลันร่างบางก็ถูกคว้าตัวจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม้หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลายมือออกจากปากแพรวา“บอกมา เจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป็นใครบงการให้เจ้าเข้ามาในนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือว่าจะเป็นเหอหลง”เสียงเข้มของหยางหลงดุดันอยู่ข้างหูแพรวาตะลึงงันไม่คิดว่าจะเป็นหยางหลง เขาเข้าใจเธอผิดอย่างแรงจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม่หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลาย มือออกจากปากแพรวา“บอกมาเจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป
อย่างน้อยสนมฮุ่ยก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน“เจ้ามาจากไหนทำมาสำออยอยู่หน้าตำหนักฝ่าบาท แล้วไหนจะข่าวลือเรื่องฉลองพระองค์เสื้อคลุมมังกรที่ฝ่าบาททรง ใช้คลุมร่างกายเปียกปอนของเจ้าอีกเล่าบอกข้ามาเจ้าเป็นใครมาจากไหน”แพรวายหุบยิ้ม มาแปลกตามปกติต้องไม่ช่างซักขนาดนี้“ข้าน้อยเฟยลี่ บังเอิญหลงเข้ามาในเขตวังหลวงขอพระสนมโปรดอภัย”มือประสานกัน ด้วยความเคารพสนมฮุ่ยยิ้มในหน้าอย่างสาใจ“รู้จักที่สูงที่ต่ำข้ามิอาจกล่าวโทษเจ้า ได้เมื่อร่างกายแข็งแรงข้าหวังว่าเจ้าจะจากไปโดยเร็ว”โอ้โหนี่ยังไม่ทันไรไล่กันเสียแล้วแพรวาคิด“เพคะ”ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่มีทางกว่าที่แพรวาจะมาถึงนี่ได้กว่าจะหาทางกลับมาได้ช่างยากเย็นเข็ญใจ เรื่องอะไรจะจากไปง่ายๆ“ฮ่องเต้เสด็จ"เสียงตะโกนก้องของเสี่ยวโอดังเข้ามาครั้งในห้อง แพรวาน้ำตาปริ่มขอบตาคิดถึงเสี่ยวโอเหลือเกิน ประตูถูกเปิดกว้างออกโดยเร็ว ชายเสื้อยาวสะบัดพรึบพับแสดงความเคารพ“ถวายพระพรฝ่าบาท" หลายคนในนั้้นคุกเข่าด้วยความเคารพเสี่ยวโอเดินตามเข้ามาติดๆแพรวาเกือบจะกระโดดเข้าไปทักทายเสี่ยวโอ“ฮุ่ยเหนียงลำบากเจ้าแล้วเจ้านี่ช่างมีน้ำใจห่วงใยดูแลหลายเรื
รีบหาคำแก้ตัวไม่คิดว่าพลอยจะโกรธแทนแพรวาได้ขนาดนี้ หนุ่มจีนหันหน้ามามองทั้งคู่แบบงงๆแต่ สาวเจ้าที่อยู่ข้างกายกลับออกอาการโมโหสุดขีด ส่งภาษาจีน โวยวายออกมาคล้ายกับทั้งสองคนกำลังจะแย่งคนรักไปด้วยร่างที่สูงใหญ่ของหญิงสาวชาวจีนทั่วไป เอื้อมมือมาผลักพลอยอย่างแรงร่างของพลอยเซถลามาชนแพรวา ที่ไม่ทันระวังตัวราวสะพาน ด้านล่างที่ทอดต่ำลงมากกว่าด้านบน แพรวาหงายหลังลงจากราวสะพานหล่นตูมลงไปในน้ำเย็นยะเยือกความเย็นแทรกบาดผิวหนังจนเจ็บไปทั่วสรรพร่างกาย เสียงพลอยตะโกนไล่หลังด้วยความห่วงใยแพรวาพยายามตะเกียกตะกายเพื่อพาตัวเองโผล่ขึ้นจากน้ำแต่ ด้วยความที่น้ำลึกสุดลึก แพรวาไม่สามารถช่วยตัวเองได้เสียง กระโดดน้ำตามตูมตาม คงมีคนคิดช่วยเธอ กินน้ำเข้าไปหลายอึก ลมหายใจแผ่วเบาจนกระทั่งหยุดหายใจในที่สุด สติดับวูบไปในทันทีกลิ่นหอมขจรขจาย โชยมาอ่อนๆความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวากวาดสายตามองรอบๆตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจากอ่างสีทองใบใหญ่ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง (บทนำ) กรวดสายตามองจนรอบ ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องได
“แม่นาง ท่านจำคำพูดของข้าไว้ให้ดี”“เชิญท่านพูดมาข้าจะจำไว้”“หากต้องเลือก ท่านจะเลือกการมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งหยางหลง หรือว่าท่านต้องการหมดลมหายใจในอ้อมแขนของหยางหลง ขอให้ท่านตัดสินใจให้ดีแต่ท่านไม่มีทางเลือกเพราะสวรรค์เป็นฝ่ายเลือกให้แม่นางแล้ว”“หมายความว่า ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นเฟยลี่ได้อีกแล้ว”“ท่านแลกชีวิตกับการกลับมามีชีวิตอีกครั้งที่นี่”แพรวาน้ำตาหยดริน เข้าใจคำพูดของหมอหลวงเป็นอย่างดี อย่างนี้นี้เองแพรวากลับมาก่อนกำหนดในช่วงสิบสองปีนักษัตร จึงไม่สามารถกลับไปได้อีก“แล้วทำอย่างไรข้าถึงจะกลับไปได้”"ไม่มีทางแม่นางเคยคิดไหมว่าทำไมเหมยเจียงนางยังอยู่ที่นี่”แพรวาพยักหน้า เหมยเจียงเองก็ไม่ต้องกลับไปเช่นกันเป็นกรณีพิเศษ ความรู้สึก คิดถึงทวีความรุนแรงต่อไปแพรวาไม่อาจให้ความหวังแก่ตัวเองอีกแล้ว ว่าจะสามารถย้อนเวลากลับไปพบหยางหลงอยู่เคียงข้างเขาแบบนั้น“ฝ่าบาทสบายดีไหมเมื่อไม่มีข้า”“ฝ่าบาท ทรงยอมแลกเพียงเพื่อให้แม่นางมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะภพไหนก็ตาม ข้าพยายามเต็มที่แล้วแต่มันฝืนกฎสวรรค์ ไม่สามารถนำพาท่านกลับไปได้ จึงได้แต่เพียงส่งข่าว ฝ่าบาทรอท่านผู้เดียวเหมือนกับคำจารึกบนราวสะพานที่ท่