เยว่ซินค่อย ๆ เดินโผเผไปที่หลังฉากกั้น แล้วเปิดหีบที่วางอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านั้น ค้นหาอาภรณ์ออกมาหนึ่งชุด แล้วผ้าสำหรับเช็ดตัวอีกหนึ่งผืืนนำไปพาดเอาไว้บนราวใกล้ ๆ ถังน้ำใบใหญ่
ขณะนั้นหย่งหลิวก็ก้าวเข้ามาในห้องนอน นางกระวีกระวาดรีบมาช่วยคุณหนูของนางอาบน้ำ “ คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวเข้ามาในห้องนี้หลายรอบแล้ว แต่ท่านยังไม่ตื่นบ่าวจึงไม่ได้ปลุกเจ้าค่ะ ” ขณะที่เอ่ยคำสนทนากับนายหญิงของตนเอง ดวงตาคู่กลมของนางก็เบิกกว้าง เมื่อเห็นร่องรอยแดงๆหลายจุดที่ร่างอวบอิ่มของนายสาว นางลงมือขัดถูอาบน้ำให้กับคุณหนูของนางดังเช่นปกติ
แต่เมื่ออดใจไม่ได้ก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเบา “ เมื่อคืน….” เยว่ซินพยักหน้ารับ “ เขามาเข้าหอเมื่อคืน กลางดึกแล้ว ไม่รู้ว่ากี่ยามเหมือนกัน ” ใบหน้างามของนางแดงระเรื่อเมื่อยามบอกเล่ากับสาวใช้คนสนิท แล้วหย่งหลิวก็ไม่ได้ถามนายหญิงของตนต่อไปอีก แม้นางจะเห็นร่องรอยรักแดงระเรื่อหลายจุดนักบนร่างของนายหญิงของตนเอง เพราะผิวพรรณของนายหญิงบอบบางนัก ทั้งยังขาวผ่องนวลเนียนทำให้เห็นร่องรอยน้อยใหญ่พวกนั้นเด่นชัด
นางก้มหน้าก้มตาอาบน้ำให้จนเสร็จดังเช่นปกติ แล้วก็เช็ดกายอวบอิ่มของคุณหนูจนแห้งสนิท ลงมือทาเครื่องประทินผิวให้จนทั่วร่างงามแล้ว ขณะนั้นก็ครุ่นคิดว่า หากบุรุษใดได้มาเห็นเรือนร่างแสนงามของคุณหนูจะไม่หลงไหลก็ให้มันรู้กันไป คุณหนูไม่จำเป็นต้องง้อคนที่ไม่ให้เกียรตินางเช่นนี้หรอก หากไม่เพราะแม่เลี้ยงของคุณหนูที่เห็นแก่สินสอดก้อนใหญ่มาก และนายท่านก็ไม่กล้าขัดฮูหยินของตนเองเช่นเคย
น่าสงสารคุณหนูของนางนัก รักท่านพ่อมาก ไม่อยากให้บิดาลำบากใจ นางจึงยอมแต่งกับชายที่ไม่เคยพบหน้ากันเลยสักครั้ง จึงต้องมาทนอยู่ในจวนที่ไม่น่าอยู่เลยสักนิดแห่งนี้ ผู้คนก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าที่หย่งหลิวไปพบเห็นมาทั้งในโรงครัวและตามรายทางเมื่อพบสาวใช้หรือบ่าวชายตามทางเดิน พวกเขาดูเฉยชา มึนตึงและไม่ค่อยอยากจะเสวนากับหย่งหลิวนัก แม้พูดด้วยก็พูดอย่างเสียไม่ได้ ยิ่งทำให้หย่งหลิวสงสารคุณหนูนักที่ต้องมาอยู่ในจวนที่ไม่ค่อยน่าอยู่เลยสักนิดแห่งนี้
เมื่อเครื่องประทินผิวที่ทาทั่วผิวกายของคุณหนูแห้งดีแล้ว หย่งหลิวก็หยิบอาภรณ์ที่พาดเอาไว้แล้วบนราวไม้ใกล้กับถังไม้ใบใหญ่ที่ใช้อาบน้ำ มาสวมให้นายหญิงของตนเองจนเสร็จเรียบร้อย ร่างงามจึงได้เดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้งที่มีเครื่องประทินผิวกระปุกเล็กกระปุกน้อยของนางวางเอาไว้จนเต็มบนโต๊ะ มีคันฉ่องบานที่นำติดตัวมาด้วยจากบ้านเดิมวางอยู่ตรงกลางโต๊ะ นางทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ แล้วหย่งหลิวก็ลงมือเช็ดผมเผ้าของนางหญิงของตนแล้วจึงค่อยๆใช้หวีสางผมสีดำนุ่มสลวยที่ยาวจนเต็มแผ่นหลังช้าๆ
ส่วนเยว่ซินก็ค่อยๆ ลงมือแต่งเติมใบหน้างามด้วยตนเองช้าๆ นางพิศดูใบหน้างามที่ นวลปลั่งสดใส ดูอิิ่มเอบมากกว่าที่นางเคยเห็น แต่ใจของนางกลับกำลังหวนคิดไปถึงเมื่อยามค่ำคืนที่ผ่านมาในห้องนี้ บนเตียงสี่เสาที่อยู่ถัดไปไม่ไกล ภาพความทรงจำที่แสนจะเร่าร้อนระหว่างเจ้าบ่าวหมาดๆ ผู้มีใบหน้าบึ้งตึงและคอยแต่จะเหยียดยามนางด้วยวาจาเจ็บแสบ แต่จังหวะรักของเขาช่างดุดัน และเร่าร้อนตรงข้ามกับวาจาที่คอยเสียดแทงใจของนางอยู่หลายครั้ง นางยังจำเสียงครวญครางผสานกันของทั้งสองได้ดี และนางแทบไม่เชื่อว่าเสียงร้องครางราวกับแมวน้อยนั่นคือนาง ใบหน้างามพลันแดงระเรื่อ ขณะที่่หย่งหลิวกำลังเกล้าผมให้กับนายหญิงของตนเองและสังเกตุเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของนางแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากกระเซ้า แต่แล้วก็พลันมีเสียงทุบประตูหน้าเสียงดัง
“ บ่าวไปดูก่อนจะเจ้าคะ ว่าใครมาร้องเรียกที่หน้าเรือน ” แล้วนางก็วางหวีลงบนโต๊ะ แล้วจึงได้เดินออกไปจากห้องนอนของนายตน ไม่นานหย่งหลิวก็กลับเข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึงยิ่งนัก “ คุณหนูเจ้าคะ แม่ทัพจางให้สาวใช้มาบอกว่าให้คุณหนูย้ายออกไปอยู่ที่เรือนทางตะวันตกเจ้าค่ะ นางยกอาหารเช้ามาให้ด้วยแล้วบอกว่าถ้าคุณหนูรับอาหารเช้าแล้วจะให้บ่าวชายมาช่วยกันยกข้าวของๆ เราไปไว้ที่เรือนตะวันตกที่ว่านั่นเจ้าค่ะ ” นายสาวของนางกลับรับฟังด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากินข้าวเสร็จแล้วก็ค่อยไปตามพวกเขามาช่วยย้ายข้าวของ ยังดีที่เรายังไม่ได้จัดข้าวของใส่ตู้ ” หย่งเอ๋อจ้องมองใบหน้างามที่เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่แสดงความขัดเคืองไม่พอใจอะไรออกมา ด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นแทนไม่น้อย “ ดูสิเจ้าคะ แต่งเข้ามายังไม่ทันไร ให้เราย้ายไปอยู่เสียไกล เจ้าบ่าวของคุณหนูนี่เป็นคนอย่างไรกันแน่ ” นางอดที่จะพูดไม่ได้ แม้ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่พูดมากเพราะเกรงนายหญิงของตนเองจะไม่สบายใจไปมากกว่านี้ เพราะแม้แต่หย่งเอ๋อก็มองออกว่าคนจวนนี้คล้ายไม่ต้อนรับพวกนางอย่างไรก็ไม่รู้ได้ เมื่อครู่ที่ไปที่โรงครัวพวกบ่าวในนั้นก็ทำท่าแปลกๆ
“ ช่างเขาเถอะ จวนของเขา จะให้เราอยู่ตรงไหนเราก็อยู่ไป เราเพิ่งเข้ามาอยู่ ยังไม่รู้ว่าจวนนี้เขาอยู่กันอย่างไร ส่วนเจ้าบ่าวของข้า เจ้าเองก็รู้เขาไม่ได้พึงใจจะแต่งงานกับข้า เมื่อคืนเขาก็บอกว่าข้าเองว่าเขาเกลียดข้า และข้าจะต้องถามเขาให้รู้เรื่องว่าเกลียดข้าแล้วมาแต่งงานกับข้าทำไมกัน ” เยวซินบอกกับสาวใช้ของตนเอง หย่งหลิวทำสีหน้างงงัน “ เกลียดคุณหนู เกลียดคุณหนูทำไมกันเจ้าคะ เราไม่เคยพบกันเสียหน่อย ทำไมจู่ๆ มาบอกว่าเกลียดคุณหนูได้ ” แม้แต่หย่งหลิวก็ยังไม่เข้าใจ
“ นั่นเป็นเรื่องที่ข้าคงจะต้องพูดกับเขาให้รู้เรื่องว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมเขาถึงได้อยากจะแต่งงานกับข้า ถึงกับยอมจ่ายค่าสินสอดที่ท่านน้าเสนอ ข้าเองก็รู้สึกว่าสินสอดที่นางเรียกมันแพงเกินไป แต่ที่ข้าไม่เข้าใจยิ่งไปกว่าก็คือทำไมเขาถึงได้ตกลง ” นางรำพึงเบาๆ เหมือนตั้งคำถามกับตนเองในสิ่งที่นางเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว หย่งหลิวก็ไปตามบ่าวมาช่วยกันขนย้ายข้าวของที่พวกนางนำติดตัวมาจากจวนเดิม ไปที่เรือนทางทิศตะวันตก และพวกนางก็พบว่าเรือนทิศตะวันตกที่ว่านั่น อยู่แทบจะท้ายจวน มันเป็นเรือนหลังเล็กที่ค่อนไปทางท้ายสุด ห่างจากเรือนหลังอื่นพอประมาณ อยู่เกือบจะชิดกำแพงอีกด้านของจวนแม่ทัพแล้ว แต่ก็เป็นสัดส่วนดี ไม่ต้องอยู่ปะปนกับผู้ใด เรือนหลังนี้ไม่ใช่เรือนใหม่ เป็นเรือนของทหารที่ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจวนแล้ว และยังไม่ได้รับการปรับปรุงอันใด
แค่เพียงให้บ่าวมาทำความสะอาดอย่างเร่งรีบเพราะเป็นคำสั่งด่วนของท่านแม่ทัพที่ให้ย้ายฮูหยินใหม่ของเขาไปอยู่ที่นั่น เพราะเรือนหลังนี้ไม่เหมาะกับตำแหน่งฮูหยินท่านแม่ทัพเลยสักนิด แล้วที่จริงแล้วถ้าเป็นฮูหยินเอกของท่านแม่ทัพจริิงๆแล้ว ก็ควรต้องเข้าไปอยู่ในเรือนหลักของท่านแม่ทัพ แต่นี่เพราะเป็นสตรีที่ท่านแม่ทัพมิได้เต็มใจแต่ง บ่าวไพร่ในจวนพากันซุบซิบกันเพราะต่างก็ได้ยินเรื่องของคุณหนูจางอี้หลานน้องสาวของท่านแม่ทัพที่เทียวมาหาพี่ชาย
มาร้องห่มร้องไห้และก็มีสาวใช้หลายๆคนได้ยินเรื่องราวที่นางมาพร่ำฟ้องพี่ชายของนางอยู่หลายครั้งแล้ว เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาสามสี่เดือนที่แล้ว และนางก็ยิ่งมาร่ำร้องไห้หนักขึ้น บ่อยๆขึ้น จนทำให้เรื่องนี้มีบ่าวไพร่ที่ต่างก็ได้ยินเรื่องราวของเจ้านายพากันนำไปซุบซิบว่า ท่านแม่ทัพจางที่ปกติไม่ใคร่จะสนใจสตรีใดนัก อยู่ๆก็เกิดไปสู่ขอสตรีนางหนึ่งมาเป็นฮูหยิน แต่เขาก็ไม่อยู่เข้าพิธีแต่งงานด้วยซ้ำ การจัดงานแต่งงานก็ทำเหมือนให้เสร็จๆไป แค่มีการจัดพิธีไหว้ฟ้าดินตามธรรมเนียมเท่านั้น เหมือนไม่ให้เกียรติเจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย
จึงเป็นที่มาของการปฏิบัติกับฮูหยินใหม่เช่นนี้ เริ่มจากเจ้าบ่าวไม่มาเข้าพิธีให้เจ้าสาวเข้าพิธีกับป้ายชื่่อของเขาและพออีกวันก็สั่งให้ย้ายเรือนไปอยู่เสียไกล เหมือนชิงชังรังเกียจนางนักหนา แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถามกับเจ้าของจวนว่าเหตุใดเขาจึงย้ายภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ไปอยู่เสียไกลเช่นนั้น บ่าวชายและสาวใช้สองสามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆเจ้าสาวหมาดๆ แล้วก็พากันกลับไปเยว่ซินและหย่งหลิวพากันเดินสำรวจเรือนน้อยหลังใหม่ที่พวกนางเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ เรือนนี้แม้ไม่ใช่เรือนใหม่นัก แต่ก็พออยู่ได้ ยังไม่ต้องซ่่อมแซมสิ่งใด พ่อบ้านของจวนก็สั่งให้คนมาทำความสะอาดเอาไว้แล้ว ตุ่มน้ำหลังบ้านก็มีบ่่าวไปตักน้ำมาใส่จนเต็มทุกตุ่มแล้ว ครัวเล็กด้านหลังก็สามารถใช้ทำอาหารได้หากพวกนางต้องการ ห้องสุขาที่อยู่ด้านหลังเรือนอีกฝั่งหนึ่งของครัวก็ยังใช้งานได้ดี แต่ในห้องนอนของคุณหนูไม่มีถังอาบน้ำใบใหญ่ กับฉากกั้นสำหรับไว้แต่งตัว“ คุณหนูเจ้าคะ แล้วคุณหนูจะอาบน้ำอย่างไร ในห้องไม่มีอ่างอาบน้ำนะเจ้าคะ หรือเราจะบอกให้พ่อบ้านนำมาให้ ” หย่งหลิวเมื่อเดินสำรวจจนทั่วเรือนแล้วก็หันมาถามนายหญิงของตนเอง“ ไม่เป็นไร ข้าอาบที
แม้ขณะนี้หน้านางก็ไม่อยากจะเห็น และซ้ำยังโกรธตนเองอย่างมากที่ไปหลงไหลนางเข้าอย่างบ้าคลั่งและเหมือนยังติดใจอยู่จนบัดนี้ จึงสั่งให้สาวใช้ไปบอกให้นางย้ายเรือนออกไปอยู่ที่ริมกำแพง ที่เป็นเรือนหลังสุดท้าย ให้ห่างจากเรือนหลักของเขาออกไปให้มากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดแต่อยากจะไปหานางเหมือนคนบ้าที่ต้องคอยหักห้ามใจของตนเองเอาไว้แม่ทัพหนุ่มเข้านอนเพราะเหนื่อยล้าไม่น้อยจากการร่วมรักที่เร่าร้อน ดุเดือด และสุขสมอย่างไม่เคยมาก่อนจนเขาตกใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับเขา แม้จะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย แต่ไม่อาจจะข่มตานอนหลับได้ เขานอนลืมตาโพลง ด้วยไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตนเองอย่างไรและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน เขาไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองเลยว่าติดใจนาง ติดใจเหลือเกิน ติดใจจนแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปที่เรือนเล็กซ่อมซ่อนั้นอีกในคืนต่อๆไป เจ้าใจของเขามันบ้านัก แม้จะรู้ว่าย้ายนางไปที่เรือนเล็กเกือบจะริมกำแพงจวนแล้ว แต่ก็ร่ำๆ แต่อยากจะไปหานาง เขาให้เหตุผลกับตนเองว่าเขาเพียงแค่ต้องไปทำตามหน้าที่ให้นางตั้งครรภ์อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าน้องเขยนั่นจะตัดใจจากนางได้อย่างเด็ดขา
ขณะที่เยว่ซินกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น ร่างหนาก็ชักรูดลำกายอวบใหญ่ของตนเองจนกระทั่งมันพรักพร้อมแล้ว เขาจึงได้ขึ้นไปนอนคร่อมร่างของภรรยาหมาดๆ ของเขาเอาไว้ แล้วจับเจ้าลูกชายแสนล่ำของตนเองสอดเข้าไปในร่องอวบของนางจากทางด้านหลังแทนที่นิ้วแกร่งนั่น เขาค่อยๆดันมันเข้าไปจนมิดลำกายช้าๆ แขนล่ำสัันและแข็งแกร่งยกขึ้นค้ำยันร่างหนาของตนเองเอาไว้ แล้วโยกบั้นเอวเร่งกระแทกนางจากทางด้านหลังทันที ด้วยจังหวะเนิบนาบ และถูไถบดขยี้นางไปมา ครูดผ่านเมล็ดดอกไม้อย่างจงใจ จนได้ยินเสียงนางร้องครวญครางเสียงกระเส่าออกมาอย่างทนต่อไปไม่ไหว เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นแรงขึ้นจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง “ อ๊าา อ๊ายย อ๊าาา อ๊าาา อ๊าา อ๊ะ อ๊าา ” เยว่ซินที่ทนเสียวต่อไปไม่ได้จึงได้เอาแต่ร้องครวญครางออกมาอย่างลืมอาย นางแอ่นก้นอวบอัดขึ้นหาเขาด้วยจังหวะเดียวกันดังเช่นนักเรียนที่หัวไวนัก เพราะเคยถูกเขาเคี่ยวกรำในคืนก่อนหน้านั้นมาแล้วแทบจะทั้งคืนขณะที่ร่างล่ำสันด้านบนก็เร่งกระแทกร่องอวบของนางอย่างเมามัน “ โอ้วววว โอ้วววว เสียว ข้าเสียว โอ้วววว โอ้ววว ” แม่ทัพหนุ่มร้องครวญครางในลำคอหนากระหึ่ม เขารู้สึกเสียวซ่านขึ้นตา
แล้วอยู่ๆ เตียงไม้เนื้อหยาบหลังเล็กนั่นก็หักกลางและทำให้ทั้งสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่บนเตียงนั้นหล่นร่วงลงมาพร้อมกับซากของเตียง แม่ทัพหนุ่มที่มีวรยุทธ์สูงส่ง เขารีบพลิกร่างหนาของตนเองลงนอนด้านล่างเพื่อรองรับแรงกระแทกอย่างรวดเร็ว และพลิกร่างอวบอิ่มในอ้อมกอดให้อยู่บนร่างหนาของเขา แขนล่ำสันกอดนางเอาไว้แนบอก และกลิ้งตัวอย่างรวดเร็วออกไปนอนที่บนพื้นห่างจากเศษซากของเตียงหลังเล็กนี้ และร่างนุ่มนุ่มของภรรยาสาวก็พลิกกลับมานอนอยู่บนอกล่ำสันแข็งแกร่งของสามี เยว่ซินที่ตกใจไม่น้อย นางเงยหน้าขึ้นสบตาของสามีที่บัดนี้ในดวงตาของเขามีเพียงความเสน่หาที่ยังเปี่ยมล้นอยู่ในดวงตาของเขา ใบหน้าคมของเขาก้มลงมาและประกบจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเยว่ซินทันที อย่างไม่ทันได้ห้ามตนเองอย่างเช่นทุกครั้ง และความเร่าร้อนก็ถูกสานต่ออย่างรวดเร็ว เสียงทั้งหมดในห้องนอนน้อยนั้นดังออกไปจนถึงหน้าเรือนเล็กซ่อมซ่อที่บัดนี้มีร่างของคนรับใช้เก่าแก่ที่ติดตามแม่ทัพหนุ่มมาจากจวนของท่านลุงของเขา ถูกอี้หลานใช้ให้มาสืบเรื่องของพี่ชายกับสตรีนางนั้นว่าคืบหน้าไปถึงไหนกันแล้ว สาวใช้เก่าแก่มายืนฟังเสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ครู่ใหญ่แล้
แม่นมหลิวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ ข้าคิดออกแล้วเจ้าค่ะ บุรุษย่อมจะโปรดปรานหญิงงาม หากเราหาหญิงอุ่นเตียงที่งดงามสักคนมาปรนนิบัติท่านแม่ทัพ ข้าคิดว่าคงจะพอป้องกันเรื่องที่ท่านแม่ทัพอาจจะพลาดพลั้งไปหลงไหลหญิงแพศยานั่นเข้าจนได้ ” อี้หลานเมื่อได้ฟังก็พยักหน้าช้าๆ “ นั่นสินะ บุรุษก็ย่อมต้องอดไม่ได้เมื่อได้ร่วมรักกับหญิงงามก็อาจจะเผลอติดใจเข้า ยิ่งหญิงแพศยาแซ่หนิงนั่นยิ่งงดงามปานนั้น แถมยังมีมารยาสาไถ หลอกลวงบุรุษให้หลงไหลเก่งยิ่งนัก ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่ต้องวิ่งมาให้ท่านพี่ช่วยแยกมันจากเว่ยหลงสามีของข้าหรอก หากเราหาหญิงงามที่พอใช้ได้สักคนมาปรนนิบัติท่านพี่ก็อาจจะพอช่วยไม่ให้เขาพลาดพลั้งไปหลงรักมันเข้า แต่ว่า…. แล้วเราจะหาหญิงที่ไว้ใจได้มาจากที่ไหนกัน ” แม่นมหลิวครุ่นคิดแล้วก็พลันนึกออก “ ข้าจะพูดกับสาวใช้นางหนึ่งในจวนนี้ นางงดงามหมดจดไม่น้อย มีทหารและบ่าวชายหลายๆคนเกี้ยวพานางอยู่ แต่นางไม่เคยสนใจใคร คงจะรู้ตัวว่างดงาม จึงคิดว่าจะหาสามีได้ดีกว่าบ่าวในเรือนเดียวกัน และนางก็ดูงดงามไม่น้อย หากจับมาแต่งกายดีๆเข้าหน่อยขี้คร้านจะงดงามไม่ต่างจากคุณหนูในห้องหอคนหนึ่ง และนางก็ดูหัวอ่อนคงจะพอ
แม่ทัพหนุ่มนั่งจิบชายามบ่ายอยู่ในเรือน อยู่ ๆ เว่ยหลงก็เข้ามาแล้วโวยวายทันที “ ท่านแม่ทัพ ท่านมีจุดประสงค์อะไรถึงไปสู่ขอเยว่ซิน ท่านกับนางไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ข้ารู้นะว่าท่านต้องการช่วยอี้หลาน แต่สิ่งที่ท่านกับนางทำมันเกินไปหรือไม่ ข้ากับเยว่ซินเป็นสหายเก่าแก่กันมาตั้งแต่ยังเด็ก สนิทกันมากและรู้จักกันมาก่อนที่ข้าจะพบอี้หลานด้วยซ้ำ ” มาถึงเขาก็เปิดฉากทันทีว่าเขามาที่นี่ด้วยเรื่องอันใดโม่โฉวนิ่งฟังน้องเขยที่เดินมาถึงก็โวยวายทันทีอย่างใจเย็น “ เจ้าไปตามฮูหยินมาพบข้าที่นี่ บอกนางว่าสหายเก่าของนางมาพบ ให้รีบมา ” แล้วสาวใช้ผู้นั้นก็รีบเดินออกไปทำตามคำสั่งทันที ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ปรากฏร่างของเยว่ซินเดินนวยนาดราวกับนางหงส์เข้ามาในห้องโถงหน้าเรือน บุรุษทั้งสองหันไปมองนางพร้อมกันและแทบจะหยุดหายใจพร้อมกันอีกด้วย โม่โฉวหันมาจ้องมองน้องเขยอย่างไม่วางใจ และเว่ยหลงก็หันไปจับผิดพี่ชายของภรรยาเช่นกันราวกับทั้งสองนัดกันเอาไว้ และเมื่อเยว่ซินเห็นเว่ยหลง ก็พลันเข้าใจเหตุการณ์ได้ในทันที ว่าเหตุใดสามีจำเป็นของนางถึงได้ให้สาวใช้ไปตามนางมาที่นี่ และเยว่ซินเองก็อยากให้เขาสบายใจว่านางเต็มใจแต่งงานกั
เมื่อลับกายเว่ยหลงแล้ว แต่มือหนาที่โอบเอวคอดของนางยังไม่ปล่อย ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดใบหูของนางยิ่งดูร้อนแรงขึ้น จนนางรู้สึกว่าเหมือนเขาหายใจเป่ารดใบหูของนางถี่ขึ้นและยิ่งดูลมหายใจนั้นอุ่นจัดขึ้นเรื่อยๆ มือหนาก็เริ่มซุกซนมันเคลื่อนสูงขึ้นทีละนิด จนแทบจะมาถึงอกอวบหยุ่นของนางแล้ว “ อุ๊ย !! ท่านแม่ทัพ ไม่นะ ปล่อยข้าก่อน เว่ยหลงไปแล้ว ข้าคิดว่าเขาเชื่อ และเขาคงจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับข้าอีก ท่านต้องการแค่นี้ใช่ไหม ข้าเป็นสหายของเขามาตั้งแต่เด็ก ข้าดูออกและคิดว่าต่อไปเขาจะไม่มายุ่งกับข้าอีกแล้ว ท่านคงจะปล่อยข้าไปได้แล้วใช่หรือไม่ ” เยว่ซินทวงถามเขาทันที เพราะนางรู้ว่าที่เขาแต่งงานกับนางก็เพราะต้องการแยกนางออกจากเว่ยหลง และบัดนี้มันก็ดูท่าว่าจะสำเร็จแล้ว เขาคงไม่ต้องการให้นางอยู่เกะกะสายตาของเขากับญาติผู้น้องของเขาในจวนนี้อีกแล้วริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เล็กน้อย “ เจ้าต้องอยู่ในจวนของข้า จนกว่าข้าจะแน่ใจว่าเว่ยหลงกลับไปทำตัวเป็นสามีที่ดีของน้องสาวของข้าและไม่มีทางจะหวนคืนกลับมาหาเจ้าอีก เมื่อข้าแน่ใจแล้ว ข้าถึงจะปล่อยเจ้าไป ” แม่ทัพหนุ่มบอกกับนางอย่างเป็นต่อ แต่แล้วเขาก็ร้อง "
หากเขาไปหลงไหลสตรีอื่นนางก็คงยินดี แม้ในใจลึกๆนางก็เริ่มหลงรักเขาขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะนางกับเขาได้กลายเป็นสามีภรรยากันจริงๆไปเสียแล้ว นางกับเขาสนิทชิดเชื้อกันจนไม่มีอะไรต้องปิดบังต่อกันแล้ว เริงรักกันอย่างเร่าร้อนมาสองค่ำคืนจนแทบไม่ได้หยุดพัก จนพอจะรู้ลีลารักของแต่ละคนว่าชอบให้แต่ละคนปรนเปรอตนเองเช่นไร แต่ความจริงเขาไม่ได้รักนาง และบุรุษก็ย่อมจะมีอะไรกับสตรีใดก็ได้ทั้งนั้น โดยที่ไม่ได้มีความรักให้แก่สตรีผู้นั้น และนางพยายามหักห้ามใจไม่ให้หลงไปคิดเกินเลยกับคนผู้นั้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ และนางไม่อยากจะเจ็บปวดกับเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นี้ จะไปหลงรักคนที่เกลียดชังนางเข้าไส้เช่นนี้ได้อย่างไร และโม่โฉวไม่มีทางจะเห็นนางดีกว่าน้องสาวของเขาอย่างแน่นอน ปลายทางมันมีแต่ความเจ็บปวดของนางเพียงเท่านั้น จึงพยายามปัดความรู้สึกพึงใจในตัวบุรุษผู้นี้ออกไป พยายามลืมเขา ไม่สนใจว่าเขาจะมาหรือไม่ หากเขาไม่มาก็เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ นางจะได้ลืมเขาไป และหาทางออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ยิ่งพวกเขาหลงลืมนางไปยิ่งจะทำให้หาทางออกไปที่นี่ได้ง่าย เยว่ซินคิดเช่นนั้นคืนนั้นแม่ทัพหนุ่มเดินไปเดินมาในห้องนอ
หลังจากเป่าเอ๋อลงมาจากรถม้าของว่าที่สามี แล้วนางก็ยืนรอส่งเขาจนรถม้าแล่นลับตาไป ในอกของนางพองฟูและเบ่งบานไปด้วยความสุขความสมหวัง นางไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่านางจะได้เป็นสตรีที่ชายที่มีฐานะสูงส่งกว่านางจะหันมามอง นางแทบไม่เคยคิดว่านางจะเป็นหญิงที่ร้องครวญครางอยู่บนตักของเขาอย่างเมื่อครู่ที่ในรถม้า เมื่อถูกเขาจูบมัดจำและฟอนเฟ้นร่างงามของนาง ว่าที่สามีจากไปพร้อมกับคำสัญญาว่าอีกสามวันเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างที่ปรารถนาแล้วหลังจากนั้นฮุ่ยหลินก็ต้องเป็นฝ่ายมาส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวในอีกสามวันต่อมา และไปร่วมพิธีแต่งงานเล็กๆที่จวนของรองแม่ทัพหนุ่มกับสามี เพราะท่านเจ้ากรมไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาไปที่จวนของรองแม่ทัพเหลียงโดยที่ไม่มีเขาไปด้วยอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เป็นอันว่าเป่าเอ๋ออดีตสาวใช้ของฮุ่ยหลินก็กลายเป็นอนุของรองแม่ทัพเหลียงอย่างเต็มตัวแล้ว และเขามีทีท่าว่าทั้งรักและหลงไหลนางมาก ถึงขนาดให้มาอยู่ที่เรือนเล็กข้างๆเรือนหลักของเขา ฮุ่ยหลินก็หวังว่าต่อไปชีวิตของเป่าเอ๋อจะราบรื่นสมหวังและมีความสุขกับชายที่นางรักเช่นนี้ตลอดไปหนึ่งปีต่อมา ฮุ่ยหลินคลอดบุตรชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของจวนสกุลฮั่ว เขาตัว
ท่านเจ้ากรมหนุ่มค่อยๆ ขยับเอวสอบของตนเองช้าๆ แล้วค่อยๆเร่งจังหวะ “ อื้อ… อะ อะ อ๊าาย อื้อ อู๊ยยย อู๊ยย อู๊ยยย….” แล้วค่อยๆ โยกขย่มนางอย่างรุนแรงจนกลายรัวบั้นเอวถี่ยิบ โถมเข้าไปในกายของนางอย่างรุนแรง ฮุ่ยหลินหอบหายใจกระชั้น นางเสียว เสียวเหลือเกิน แอ่นสะโพกอวบให้เขาทิ่มแทงเข้ามาอย่างไม่ยั้ง “ อ๊าา อู๊ยยย อู๊ยยย อาาา ซี๊ด … อู๊ยยย ” เสียงครางกระเส่าของนางยิ่งทำให้คนบนร่างแทบจะคลั่ง เขากัดฟันเอาไว้แน่น เพื่อห้ามตัวเองไม่ให้หลั่งออกมา เพราะร่องอวบของนางตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่งรุนแรง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ คุณชายหนุ่มก้มลงดูดผลอิงเถาของนางอีกครั้ง ขณะที่รัวบั้นเอวไม่ยั้งใส่ร่องรักของนาง แทงเข้าแทงออกอย่างรุนแรง เขาทั้งงัดทั้งเสย เข้าออกจนกระทั่งฮุ่ยหลินกระตุกเกร็งหลายๆครั้ง แล้วเสร็จสมไปก่อน นางหายใจแรงๆ หอบเหนื่อยยิ่งนักขณะที่เจ้าบ่าวหมาดๆ ยิ่งโหมกระหน่ำกระแทกร่องสวาทของนางอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะกระชั้นชิด เหงื่อไหลโทรมกาย ก่อนที่ทั้งสองจะกอดรัดกันแล้วร่องสวาทของฮุ่ยหลินก็ตอดรัดดูดกลื่นน้ำรักอุ่นของสามีของนางจนหมดสิ้นทุกหยาดหยดที่เขามี เจ้ากรมหนุ่มล้มตัวลงบนอกอวบของนางแล้วหายใจหอบอย่า
ยิ่งนางดิ้นรนและกรีดร้องบอกเขาว่าไม่อยากจะเป็นของเขา ฟู่เฉิงยิ่งออกแรงดูดผลอิงเถาของนางแรงยิ่งขึ้นส่งผลให้ฮุ่ยหลินเสียวซ่าน เสียวขึ้นมาอย่างรวดเร็วอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ ” อ๊าย อ๊าา อื้อ..อื้อ…" ฮุ่ยหลินครางเสียงสั่นระรัว นางรู้สึกวาบหวามอย่างห้ามตนเองเอาไว้ไม่ได้ นางรับรู้ว่าบัดนี้น้ำรักในร่องอวบของนางนั้นไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนตามง่ามขา ช่าง….น่าอาย น่าอับอายเหลือเกิน ไม่นะ นี่ร่างกายของข้า มันสยบยอมเขาอีกแล้ว ไม่นะ ไม่….ท่านเจ้ากรมหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนเจ้าสาวหมาดๆ เบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น เจ้ากรมหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อ แก้มนวลของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่า เขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้ฮุ่ยหลินร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ป
รองแม่ทัพหนุ่มหลงลืมฮุ่ยหลินไปจนหมดสิ้นเมื่อพบสตรีบริสุทธิ์ผุดผ่องที่แม้อ่อนหัดแต่นางเรียนรู้ได้รวดเร็วนัก แม้นางยังใหม่ในเกมรัก และนางก็มีทุกอย่างที่สตรีควรจะมี ผิวพรรณผุดผาดหน้าอกอวบใหญ่และสะโพกที่ผายกำลังดี เขาคิดว่าหากนางได้สวมอาภรณ์ชั้นดี นางก็คงไม่ต่างกับคุณหนูในห้องหอทั้งหลายในเมืองนี้ แม้นางไม่งามเท่าฮุ่ยหลินแต่นางกล้าและเร่าร้อนกว่ามาก นางกล้าทำทุกอย่างตามใจเขา นางไม่เขินอายยามเริงรัก ปล่อยใจและกายให้กับเขาอย่างเต็มที่ ทั้งสองพากันไปโยกขย่มกันในถังน้ำในห้องนอนของอดีตคุณหนูของนางที่บัดนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว เรือนนี้เป็นเรือนว่างที่ปิดเอาไว้ ไม่มีใครมาที่นี่อีก เพราะเก็บข้าวของไปหมดแล้ว ตลอดคืนเรือนหลังน้อยนี้กลายเป็นเรือนรักของรองแม่ทัพเหลียงและเป่าเอ๋ออนุหมาดๆของเขาที่ต่างก็หลงไหลในกันและกัน จนบทรักที่เร่าร้อนดำเนินไปตลอดค่ำคืน เพราะต่างก็ยังไม่อิ่มเอมในกันและกัน คนสนิทของรองแม่ทัพหนุ่มทั้งสองคนที่ติดตามมางานเลี้ยงในวันนี้ นั่งเฝ้าอยู่หน้าเรือนเพราะนายของเขายังอยู่ข้างใน เสียงเริงรักของทั้งสองได้ยินออกมาเป็นระยะตลอดทั้งคืน ทหารคนสนิทต่างยักคิ้วให้แก่กันอย่างร
นายท่านหนุ่มก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วอยู่ๆเขาก็จับร่างอวบพลิกคว่ำลงฟูกนอนหนานุ่มนั้น พร้อมกับดึงบั้นท้ายอวบอัดของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดเจ้าลูกชายที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าาย นายท่านเจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ กระแทกข้าเสียที อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ สาวใช้คนงามแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน แต่ทนไม่ไหวแล้ว นางร่าน ร่านเหลือเกินแล้ว และนางต้องการเขา ชายที่เป็นสามีของนาง ในใจของเป่าอันมันแอบมีเขาซุกซ่อนเอาไว้ ตั้งแต่พบเขาคราวแรกพร้อมกับคุณหนู แต่นางมิกล้าอาจเอื้อมได้แต่แอบเมียงมอง และเก็บเอาเขาไปฝันตามภาษาสาวรุ่นที่ต้องการไออุ่นจากคนรัก นางคิดว่าความรักครั้งนี้มัันไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะชายที่นางบังอาจแอบรัก เป็นคนรักของคุณหนูของนาง ” เป๋าเอ๋อ เจ้าร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะกระแทกเจ้าแล้ว กระแทกเจ้าให้มิดด้าม ขย่มแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ รองแม่ทัพหนุ่มที่บัดนี้อารมณ์รักพุ่งขึ้นสูงมาก จนพร่ำพูดคำ
สาวใช้ตัวน้อยครวญครางออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป จำต้องปล่อยเสียครางดังแมวที่ขู่ฟ่อเบาๆ แต่มันก็เบาบางมากจนคนใต้ร่างแทบไม่รู้สึกอะไร และยิ่งครางยิ่งถูกเขาบดจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ลิ้นสากหนาของเขานั้นเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กของเป่าเอ๋ออย่างดูดดื่ม เขาดื่มกินความหอมหวานราวกับน้ำผึ้งนั้นอย่างมัวเมา รู้สึกติดใจนัก นางเป็นเพียงสาวใช้แต่นางสดใหม่และหวานหอมยิ่งนัก ทำเอารองแม่ทัพหนุ่มติดใจนางเข้าแล้วส่วนหัวใจดวงน้อยของเป่าอันที่มันเคยแอบหลงรักเขา และแอบมองเขา แต่ไม่กล้าคิดเกินเลย บัดนี้มันรู้สึกวูบโหวงในใจอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรี่ยวแรงที่ควรจะมีเอาไว้ขัดขืนเขากลับเหือดหายไปที่ใดไม่รู้ได้ มือที่ควรจะผลักร่างหนาของเขาออกไป กลับไม่ยอมเคลื่อนไหวทำตามหน้าที่ของมันราวกับยอมให้เขาลงทัณฑ์บนเรือนกายของนาง แต่นางผิดอันใดเล่า เขาพร่ำบอกว่าเขาต้องการให้นางชดเชยให้เขา แต่ไม่ได้บอกว่าผิดอะไร แต่เขาดูแค้นเคืองมาก หรือเขาจะผิดหวังจากคุณหนูของนางเสียก็ไม่รู้ได้ จึงได้มาลงที่นางเช่นนี้ เป๋าเอ๋อครุ่นคิด ดวงตาของเขาที่จ้องมองที่นางในคราวแรกมันจึงเต็มไปด้วยไม่พอใจ แต่บัดนีี้คนที่ดูโกรธแค้นเหล
ร่างบางถูกกระชากจนนางเซหลุนๆตามแรงของบุรุษที่นางคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาคือท่านรองแม่ทัพเหลียงจงฮั่นนั่นเอง เป่าเอ๋อปลิวลงไปนั่งอยู่บนเตียงสี่เสาหลังใหญ่ในห้องนอนของคุณหนูของนางที่บัดนี้ข้าวของถูกขนย้ายไปหมดแล้วเหลือเพียงเครื่องเรือนที่ไม่จำเป็นต้องขนไปเพราะที่เรือนใหญ่ก็มีอยู่แล้ว จึงได้ทิ้งเอาไว้ที่เรือนหลังนี้เตียงสี่เสานั้นก็ไม่ได้ถูกยกไปเช่นกัน เมื่อร่างของสาวใช้ที่ก็มีความงามไม่น้อยของอดีตสตรีที่เขาหลงรักปักใจลงไปกองอยู่บนฟูกแล้ว “ เอาละถอดอาภรณ์ออกให้หมด ” รองแม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้น ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองเป่าเอ๋ออย่างบีบบังคับ เป่าเอ๋อไม่เคยเห็นท่าทางดุดันของรองแม่ทัพหนุ่มมาก่อน วันนี้เขาเปลี่ยนไปอย่างมาก นางเคยแต่เห็นเขาสุภาพ และนุ่มนวลกับคุณหนูของนาง แต่วันนี้เขาดูดุดันและดูกรุ่นโกรธอย่างมาก เป่าเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลานั้น “ ทำไมข้าจะต้องถอดด้วย ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ” เป่าเอ๋อก็ยังอดที่จะต่อว่าเขาไม่ได้แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางสู้ใดๆ เลย “ จะถอดดีๆ หรือว่าจะให้ข้าเรียกคนสนิทของข้าเข้ามาเป็นผัวของเจ้าด้วย จะยอมเป็นเมียข้าเพียงแค่คนเดียวหรืออยากจะได้ผัวทีเดียวห
“ แต่ท่านป้าเจ้าคะ ฮุ่ยหลินไม่ได้ตั้งครรภ์นะเจ้าคะ หากท่านเจ้ากรมฯต้องการรับผิดชอบฮุ่ยหลิน คงไม่จำเป็นหรอกเจ้าค่ะ ฮุ่ยหลินบอกกับเขาไปแล้วว่าให้เลิกแล้วต่อกัน ฮุ่ยหลินไม่ได้ติดใจอะไรอีก แต่ต่อไปท่านเจ้ากรมไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับฮุ่ยหลินอีก ” นางรีบเอ่ยคัดค้าน เพราะไม่อยากจะแต่งงานกับคนปากร้ายผู้นี้แล้ว “ จะได้อย่างไรกันเล่า ท่านพี่ของเจ้ากับเจ้าได้เสียกันแล้ว บ่าวไพร่รู้กันไปทั้งจวน พ่อบ้านฮั่วเพิ่งมาบอกกับย่าว่าบ่าวไพร่มันซุบซิบกันไปทั้งจวนแล้ว เจ้าไม่อายหรือ แต่งงานกับพี่เขาเสีย อย่าขัดคำท่านป้าของเจ้าเลย ” เมื่อท่านย่าออกโรงอีกคนฮุ่ยหลินจึงไม่กล้าปฏิเสธ ได้ก้มหน้านิ่งเงียบยอมจำนนแต่โดยดี ส่วนคนที่นั่งส่งสายตาวิบวับนั่นยกยิ้มอย่างสมใจหลังจากนั้นฮูหยินใหญ่ก็เริ่มวางแผนการจัดงานแต่งงานของบุตรชายอย่างวุ่นวาย และสั่งให้้ช่างจากร้้านขึ้นชื่อของเมืองมาวัดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวถึงจวน สั่งให้ตัดชุดที่ปราณีตและงดงามที่สุด เรื่องราคาไม่เกี่ย'อยู่แล้ว เพราะเป็นการแต่งงานของท่านเจ้ากรมอาญาบุตรชายคนเดียวของจวน ส่วนคนตัวโตที่นับจากแน่ใจว่าเขาจะได้เมียรักมาครอบครองอย่างถูกต้องแน่แล้ว ใบหน้าเ
“ ไม่เห็นจะเป็นไร เขากำลังจะหมั้นหมายจะแต่งงานกันแล้ว ผู้ใหญ่ก็พูดคุยตกลงกันแล้ว อีกไม่นานนางก็จะกลายเป็นฮูหยินของเขา พวกเขาออกไปด้วยกันคงจะอยากหาเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ให้ได้มีเวลาพลอดรักกันบ้าง คนกำลังจะหมั้นหมายกัน และรองแม่ทัพเหลียงก็ดูจะหลงไหลฮุ่ยหลินอย่างกับอะไร ช่างพวกเขาเถอะ ไม่ใช่เรื่องของลูก ” แล้วมารดาของท่านเจ้ากรมก็จะออกเดินต่อไปยังเรือนของท่านย่า แต่แล้วก็จำต้องชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดินอีกครั้ง “ ไม่ใช่เรื่องของข้าอย่างไรขอรับท่านแม่ นางเป็นเมียของข้า เป็นมาหลายครั้งแล้ว ป่านนี้ลูกของข้าก็อาจจะอยู่ในท้องของนางแล้วก็ได้ แล้วท่่านแม่จะให้นางแต่งงานออกไปกับชายอื่นได้ลงคอหรือขอรับ ข้าปลุกปล้ำนางที่สวนเพราะหึงหวงที่นางออกไปกับชายอื่น และไปนอนกับนางแทบจะทุกค่ำคืนหลังจากนั้นที่เรือนเล็ก ลูกย่องไปหานางและสั่งไม่ให้นางกับสาวใช้ของนางบอกใครในเรื่องนี้ และเมื่อตอนที่ท่านย่ากับท่านแม่ไม่อยู่ที่จวน ลูกก็หลอกนางว่าป่วย นางจึงได้ขึ้นมาดูอาการของลูกที่บนเรือน แล้วลูกก็ปล้ำนางอีก และนอนอยู่ด้วยกันในห้องของลูกมาตลอดจนถึงเมื่อคืนนี้ขอรับท่านแม่ นางเป็นเมียของลูกแล้ว ไ