เซียวหลันยวนตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"ใครกันแน่ที่บังอาจ?"เขากับฟู่จาวหนิงแม้เป้าหมายที่แต่งงานกันจะไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ฐานะของนางก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ยืนอยู่ข้างกายเขาตัวเขาเองไปรังแกนั้นได้อยู่ แต่คนนอกจะมาหน้าใหญ่เช่นนี้ได้ด้วยหรือ?"ที่นี่คือจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าเองก็ยืนอยู่ที่นี่ ฮูหยินชรากำลังมาอวดเบ่งบารมีอะไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป มองไปทางเซียวหลันยวนนางคิดไม่ถึง ว่าเขาจะงัดกับฮูหยินชราคนนี้ตรงๆคนที่ไท่ซ่างหวงไหว้วานให้มาส่งของขวัญให้เขา ไม่ใช่ว่าควรจะต้องเคารพนอบน้อมหรือไรกัน?ฮูหยินชราเองก็นิ่งแข็งไป นางไม่อยากจะเชื่อ "อ๋องเจวี้ยน?""ฮูหยินชราก็ยังรู้จักอ๋องเจวี้ยนอย่างข้านี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงฟู่จาวหนิงเดินมายังที่นั่งหลักของโถงใหญ่ เข้ามานั่งลงด้วยกันกับเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน"ฮูหยินชิงเหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กกัน? อามิตตาพุทธ" ปรมาจารย์ฉือเชินพนมสองมือ ก่อนหน้าที่ฮูหยินชิ่งจะเอ่ยปากก็แย่งพูดมาก่อน "โยมน้อยฟู่เองก็ไม่รู้จักพวกเราจริงๆ""เด็กหรือ? นางแต่งงานกับคนอื่นแล้วยังเป็นเด็กอีกหรือ?" ฮูหยินชิ่งร้องเชอะ จากนั้นเลิกหนังตากวาดไปยังฟู่
ชิงอีหน้าดำเป็นเส้น แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร แต่ยืดหลังตรงยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีสีหน้าที่มากเกินไปอีกท่าน่องเดิมทีไม่คิดจะให้หน้าคนเหล่านี้อยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นลูกน้องก็จะทำให้ท่านอ๋องขายหน้าไม่ได้ก็แค่ตระกูลฮู่กับตระกูลชิ่งไม่ใช่หรือ?"อา แต่ข้าไม่เคยได้ยิน" ฟู่จาวหนิงกลับถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น "เป็นตระกูลที่สูงส่งกว่าและมีอำนาจเหนือกว่าราชวงศ์หรือ? ควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?""ไร้สาระ!""อย่าพูดเหลวไหล!"ฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์ชราหน้าเปลี่ยนสีตะคอกเสียงขึ้นพร้อมกันเอาบาปใหญ่ขนาดนี้วางลงมา พวกเขากล้าแบกเสียที่ไหน?ใครจะกล้าพูดว่าควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?นี่มันการก่อกบฎแล้ว?ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ในเมื่อไม่ใช่ เช่นนั้นพวกท่านจะมาทำท่าทางราวกับพวกท่านใหญ่โตที่สุดในฟ้าดินนี้ต่อหน้าท่านอ๋องเจวี้ยนทำไมกัน? ถุด"นางยิ้มประชดประชันเดิมทีฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์เฒ่าที่อวดดีเสียเหลือเกินก็ถูกแทงปล่อยลมออกพร้อมกัน"โยมน้อยฟู่ อาตมาฉือเชิน" ปรมาจารย์ฉือเชินยิ้มๆ ยังอยู่ในท่าทีใจดี"ท่านปรมาจารย์ ท่านปรมาจารย์" ฟู่จาวหนิงโบกมือให้อย่างมีไมตรีจิตการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยิ่
ฟู่จาวหนิงคิดๆ จากนั้นก็โยนกล่องไปให้กับชิงอีชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง รับเอาไว้แน่น"ข้าออกไปส่งท่านปรมาจารย์แล้วกัน พวกท่านคุยกันไปนะ"ถึงอย่างไรภารกิจของนางก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้วกระมัง? ถัดจากนี้เซียวหลันยวนจะไปงัดอย่างไรกับสองคนนั้น นางก็จะไม่ฟังแล้วไม่ว่าท้ายสุดเขาจะได้รับของอะไร ก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับนางฟู่จาวหนิงส่งปรมาจารย์ฉือเชินออกมาด้านนอก ใต้ต้นกานพลูในสวนต้นหนึ่ง ปรมาจารย์ฉือเชินยืนนิ่งอยู่ เขามองฟู่จาวหนิง จู่ๆ ก็ยื่นมือออกมา นิ้วมือยังกำลูกประคำไว้ ตบลงไปที่กระหม่อมฟู่จาวหนิงทีหนึ่ง"!"ฟู่จาวหนิงเกือบจะลงมือแล้ว แต่พอประสานกับสายตาใจดีของปรมาจารย์ฉือเชิน นางก็ควบคุมเอาไว้นางยืนอยู่ที่นั่น ยอมให้ปรมาจารย์ฉือเชินตบลงไปที่กระหม่อมถึงสามทีก๊องก๊องก๊องฟู่จาวหนิงราวกับได้ยินเสียงสามเสียงดังขึ้นแว่วๆ ห่างไกล คล้ยกับระฆังโบราณ และดูคล้ายกับทำนองพุทธบางอย่างนางมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ลืมไปหมดว่าตนเองอยู่ที่ใด ข้างกายคือใคร เสียงรอบๆ ก็ราวกับสลายหายไปไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เสียงของปรมาจารย์ฉือเชินก็ดังขึ้นมา"โยมน้อย"หลังจากได้ยินเสียงของเขา เบื้องหน้าฟู่จาวหนิงก
"ในเมื่อไม่หย่ากันแล้วชั่วคราว เช่นนั้นท่านก็ต้องมีชีวิตไว้ก่อน ข้าไม่อยากเพิ่งแต่งงานสามีก็ตาย"ฟู่จาวหนิงคิดเข้าใจแล้ว ตัวตนฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้มีทั้งคุณและโทษ ในเมื่อตอนนี้หย่าร้างไม่ได้ นางก็ทำให้มั่นคงเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันแต่ถ้าหากหลังจากแต่งงานกับพวกเขาไปได้ไม่กี่วันอ๋องเจวี้ยนก็มาตายลง เช่นนั้นทั่วทั้งเมืองหลวงคงได้มีข่าวลือที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวนางมากมายแน่ๆคงมีคนมาพูดว่านางสังหารสามีของเธอแน่ยิ่งไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจ้องเขม็งที่ตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรในมืออ๋องเจวี้ยนตาเป็นมันอย่างเห็นได้ชัด หากเขาตายไป ของเหล่านั้นจะให้ไปอยู่กับองค์จักรพรรดิอย่างราบรื่นไม่ได้ หญิงสาวตัวเล็กอ่อนแอที่แขวนตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนไว้ที่คอ อย่างนางจะต้องเจอกับพายุฝนกระหน่ำแน่นอนดังนั้น ตอนนี้เขาจึงยังตายไม่ได้เด็ดขาดแต่เมื่อครู่เขาเป็นลมเลือดกำเดาไหลแล้ว ตอนนี้ยังตัวเย็นจนเป็นน้ำแข็งอีก ตอนนางจับชีพจรให้เขาก็พบว่าเขาเหยียบเท้าข้างหนึ่งไปที่ประตูยมโลกแล้วเรียบร้อยเซียวหลันยวนถูกนางพูดจนใจตื้อไปหมดไม่อยากแต่งงานใหม่สามีก็มาตาย?แต่ว่าเขาเองก็ทนไม่ไหวแ
"จินเสวี่ย ไม่รู้ว่าท่านอ๋องช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้ากังวัลเหลือเกิน"หญิงสาวที่พูดหน้าตาสะสวย สวมชุดกระโปรงชมพูม่วงพื้นขาว ท่วงท่าสง่างาม ถ้าบอกว่าเป็นลูกคุณหนูจากบ้านใดบ้านหนึ่งก็ไม่มีคนสงสัยและหญิงสาวใบหน้ากลมที่นั่งอยู่ตรงข้ามนาง มีลักยิ้ม ดวงตามีแววขบขัน มองนางแล้วดูน่าคบหา เพียงแต่คิ้วคู่นั้นดูองอาจไปหน่อย ทำให้ความน่าคบหาของนางเป็นกลางไป ตอนที่นางไม่ยิ้มกลับดูเหมือนโกรธหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำแต่แม่นางสองคนนี้ล้วนหน้าตาดีอย่างไม่ต้องสงสัย"ข้าเองก็กังวลท่านอ๋องเหมือนกัน ไม่รู้จากไปตั้งนานหลายปี ผู้ดูแลจงจะดูแลพวกคนใช้ในจวนได้ดีไหม จะปล่อยให้พวกเขาทำงานลวกๆ ไม่ได้ จะดูแลท่านอ๋องไม่ดีเอา""ถ้าไม่ใช่มีคนส่งจดหมายไปแจ้งให้ท่านอ๋องรีบกลับเข้าวังหลวงด่วน ท่านอ๋องคงไม่ทิ้งพวกเราสองคนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เร่งเดินทางกลับมา ร่างกายท่านอ๋องจะรับไหวได้อย่างไร""ถูกต้อง ท่านพี่ไป๋ซวง ท่านรู้ไหมว่ใครเขียนจดหมายถึงท่านอ๋อง? ทำไมท่านอ๋องของพวกเราถึงได้เชื่อคนที่เขียนจดหมายนั่น?"สาวใช้สองคนนี้ คือสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งของจวนอ๋องเจวี้ยน จินเสวี่ยกับไป่ซวงพวกของชิงอีทำงานอย่างซักผ้าปะชุด
รีบขนาดนั้นเลยหรือ?เขายังไม่ทันได้บอกพวกนาง ว่าตอนนี้ในจวนอ๋องมีพระชายาแล้วนะแต่ว่า ผู้ดูแลจงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร สาวใช้สองคนนี้ติดตามท่านอ๋องมาโดยตลอด น่าจะรู้จักวางตัวนั่นล่ะพวกนางพอกลับมาก็ไม่สนที่จะพักผ่อน รีบร้อนตรงไปรับใช้ท่านอ๋องก่อน นี่ก็เป้นการแสดงออกในการดูแลท่านอ๋องด้วยล่ะนะมิน่าท่านอ๋องจึงพานางทั้งสองไปด้วยกันฟู่จาวหนิงแทบแทงเซียวหลันยวนจนเป็นเม่นไปแล้วนอกจากหน้าอกยังมีแขนทั้งสองขาและที่ขาด้วย"พวกเจ้าไปดูหน่อยว่าชิงเตรียมเสร็จหรือยัง ถ้าเตรียมเสร็จแล้ว ก็เอาเจ็ดส่วนลงจากหม้อเตรียมอาบให้กับเซียวหลันยวน ส่วนอีกสามส่วนนำไปต้มยาสักหนึ่งเค่อแล้วใส่เปลือกส้มหลายแผ่นกับเป้ยหมู่อีกช้อนหนึ่งลงไปด้วย จากนั้นต้มอีกหนึ่งเค่อแล้วพักใส่ชามไว้"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงไม่กล้ามองไปทางอ๋องเจวี้ยนเลยพอได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิงก็รีบรับคำแล้วออกไปทันที แง้มประตูไว้สาวใช้สองคนเพิ่งจะออกไป จินเสวี่ยกับไป๋ซวงก็เข้ามาพอดีองครักษ์ลับที่คอยคุ้มกันเรือนพอเห้นจินเสวี่ยกับไป๋ซวง ก็ไม่ได้ปรากฎตัวออกมาขวางพวกเขาล้วนรู้ว่า สองคนนี้เป็นสาวใช้ที่ท่านอ๋องพาไปไหนมาไหนตลอดจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเข้
สาวใช้สองคนพุ่งเข้ามา เห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างเตียงหลังจากนั้นทั้งสองคนก็มองไปยังอ๋องเจวี้ยนที่อยู่บนเตียงที่เจ็บปวดก็คือ ตอนนี้เสื้อผ้าอ๋องเจวี้ยนไม่เรียบร้อย ขากางเกงม้วนขึ้นไปสูง เสื้อคลุมเปิดกางออก นอนแผ่อยู่ที่นั่นทั้งดูเปราะบางและอ่อนแอฟู่จาวหนิงที่ยืนอยู่ข้างเตียงเนื่องจากตนเองฝังเข็มและบีบนวดให้เขา เมื่อครู่หน้าผากจึงเหงื่อออกดังนั้นจึงเช็ดๆ ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยนางยืนอยู่ที่นั่น โน้มตัวลงราวกับเพิ่งลุกออกจากเตียงจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเห็นภาพนี้ ทั้งสองคนรู้สึกหัวใจถูกกระหน่ำทุบจนเสียงดังปึงๆ จนทำนางสมองขาวโพลน เหลืออยู่เพียงแค่ความเดือดดาลร้อนรน"ท่านอ๋อง!"ไป๋ซวงรีบพุ่งเข้ามา"นังหญิงสารเลวสมควรตาย เอาชีวิตมาเสีย!"จินเสวี่ยกลับถลึงตาโต ชักกระบี่ข้างเอวดังเคร้ง ปลายกระบี่ชี้แทงไปทางฟู่จาวหนิงอ๋องเจวี้ยนผู้ที่ราวกับเป็นเทพบุตรเดินดิน กลับต้องมาถูกหญิงสาวคนนี้ทำให้แปดเปื้อนเสียแล้ว!"ช้าก่อน"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของนางเช่นนี้ก็รู้แล้ว ว่าสาวใช้สองคนนี้น่าจะยังไม่รู้เรื่องของอ๋องเจวี้ยนกับนาง ตอนนี้จึงเข้าใจผิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นแม้จินเสวี่ยจะพุ่งมาโจมตีนา
จินเสวี่ยเดิมทีก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะร้ายกาจขนาดนี้ หน้าเปลี่ยนสี ตอนนี้จึงเพิ่งจะคิดร้องเรียกคนให้ช่วยแต่ในใจนางรู้สึกแปลกประหลาด เพราะอะไรชิงอีถึงไม่อยู่? ทหารด้านนอกทำไมจึงไม่บุกเข้าา"ใครก็ได้!"ฟู่จาวหนิงใช้ปลายเท้าเตะเข้าไปที่จุดชีพจรนางอีกครั้งตอนที่นางร้องเรียก จินเสวี่ยพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งนางทำได้แค่จ้องอย่างเคืองๆ ไปทางฟู่จาวหนิงนางจะสังหารนางทิ้งเสีย!นังหญิงสารเลวนี่ ถึงกับกล้าเรียกคนเลยหรือ?"พระชายา!"ตอนนี้เององครักษ์ลับด้านนอกก้เพิ่งจะพุ่งตัวเข้ามาจินเสวี่ยพอได้ยินพวกเขาเรียกฟู่จาวหนิงว่าพระชายา ตาทั้งสองก็ถลึงโตเหมือนระฆังอย่างไรอย่างนั้นนี่เรียกนางว่าอะไรนะ?บ้ากันไปแล้วหรือ?หรือว่าจะเป็นภรรยาของอ๋องคนอื่นกัน?ฟู่จาวหนิงมององครักษ์ลับเหล่านี้อย่างเย็นชา "ข้ารู้สึกว่าหูของพวกเจ้าตัดทิ้งไปได้แล้วกระมัง ถึงอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้วนี่"ในห้องนี้อาละวาดกันไปพักหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน พวกเขาต้องได้ยินแน่นอน แต่กลับไม่ยอมเข้ามาโดยตลอดพวกเขาไม่ใช่ไม่กังวลเซียวหลันยวนแน่ๆ แต่ฟังออกว่าจินเสวี่กับไป๋ซวงกำลังโจมตีนางกระมัง?องครักษ์ลับหลา