จินเสวี่ยเดิมทีก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะร้ายกาจขนาดนี้ หน้าเปลี่ยนสี ตอนนี้จึงเพิ่งจะคิดร้องเรียกคนให้ช่วยแต่ในใจนางรู้สึกแปลกประหลาด เพราะอะไรชิงอีถึงไม่อยู่? ทหารด้านนอกทำไมจึงไม่บุกเข้าา"ใครก็ได้!"ฟู่จาวหนิงใช้ปลายเท้าเตะเข้าไปที่จุดชีพจรนางอีกครั้งตอนที่นางร้องเรียก จินเสวี่ยพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งนางทำได้แค่จ้องอย่างเคืองๆ ไปทางฟู่จาวหนิงนางจะสังหารนางทิ้งเสีย!นังหญิงสารเลวนี่ ถึงกับกล้าเรียกคนเลยหรือ?"พระชายา!"ตอนนี้เององครักษ์ลับด้านนอกก้เพิ่งจะพุ่งตัวเข้ามาจินเสวี่ยพอได้ยินพวกเขาเรียกฟู่จาวหนิงว่าพระชายา ตาทั้งสองก็ถลึงโตเหมือนระฆังอย่างไรอย่างนั้นนี่เรียกนางว่าอะไรนะ?บ้ากันไปแล้วหรือ?หรือว่าจะเป็นภรรยาของอ๋องคนอื่นกัน?ฟู่จาวหนิงมององครักษ์ลับเหล่านี้อย่างเย็นชา "ข้ารู้สึกว่าหูของพวกเจ้าตัดทิ้งไปได้แล้วกระมัง ถึงอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้วนี่"ในห้องนี้อาละวาดกันไปพักหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน พวกเขาต้องได้ยินแน่นอน แต่กลับไม่ยอมเข้ามาโดยตลอดพวกเขาไม่ใช่ไม่กังวลเซียวหลันยวนแน่ๆ แต่ฟังออกว่าจินเสวี่กับไป๋ซวงกำลังโจมตีนางกระมัง?องครักษ์ลับหลา
ฟู่จาวหนิงพูดจบก็ยื่นมือดึงเข็มเงินที่แทงตัวไป๋ซวงกับจินเสวี่ยกลับมา จากนั้นก็เดินออกไปหน้าเย็นชารอจนหงจั๋วกับเฝิ่นซิงเข้ามา อ๋องเจวี้ยนก็ตื่นขึ้นแล้ว"เกิดอะไรขึ้น?"ตอนที่อ๋องเจวี้ยนตื่นขึ้น ชิงอีเองก็เพิ่งจะปลดจุดชีพจรของจินเสวี่ยกับไป๋เสวี่ยอย่างยากลำบากจุดชีพจรที่ฟู่จาวหนิงแทงลงไปแปลกมาก ไม่ใช่จุดที่พวกเขาใช้งานกันปกติ เขาตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้สาวใช้ทั้งสองฟื้นคืนกลับมา พยายามจนเหงื่อแตกพลั่กแต่ต่อให้เขาคลายจุดชีพจรให้กับสาวใช้ทั้งสองแล้ว หลังจากพวกนางทั้งสองคนนั่งขึ้นมา ก็ยังปฎิกิริยาช้าไปบ้าง ดูแล้วอ่อนแอพอสมควรไป๋ซวงหนักกว่าหน่อย เพราะนางล้มลงไปข้างหน้า จมูกบวมแดงจนเลือดออก สาวใช้ที่เดิมทีใบหน้าสะสวย ตอนนี้ดูน่าเวทนาเหลือเกินไป๋ซวงยกมือขึ้นลูบไปที่จมูกและเลือดของตนเอง น้ำตาพรั่งพรูออกมานางไม่กล้าที่จะเงยหน้า กลัวว่าท่านอ๋องจะเห็นสภาพนี้แล้วรังเกียจนาง"ท่านอ๋อง" จินเสวี่ยนกลับร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่ "ข้าน้อยกับไป๋ซวงไม่ได้ปกป้องท่านอ๋องให้ดี!"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเมื่อครู่ชิงอีปลดจุดชีพจรให้สองสาวใช้ก็จัดการคลุมผ้าห่มขึ้นให้เขาแล้วแต่ว่าเขาตอนนี้
หงจั๋วพูดออกมาอย่างทนไม่ไหวประโยคหนึ่งจินเสวี่ยกับไป๋ซวงขณะเดียวกันก็มองมาทางนางสาวใช้ระดับสองสองคนนี้เบื่อโลกแล้วหรือไรกัน?นางพูดแทนฟู่จาวหนิงมารอบที่สองแล้ว ยังไม่รู้อีกหรือว่าพวกนางควรอยู่ฝั่งไหน?หงจั๋วยืดหลังตรงนางตอนนี้ก็เป็นสาวใช้ใหญ่แล้ว เป็นสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งข้างกายพระชายา เช่นนั้นตัวตนฐานะก็ระดับเดียวกับแล้ว นางทำไมจะต้องกลัวจินเสวี่ยกับไป๋ซวงด้วย?เฝิ่นซิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาด้วยว่า "ข้าน้อยเองก็มีความคิดเดียวกันกับหงจั๋ว""พวกเจ้า"จินเสวี่ยโมโหจัด ยกมือขึ้นจะชี้หน้าพวกนาง แต่กลับพบว่าแขนยกขึ้นมาลำบากมากนางก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนอย่างทนไม่ไหวอีกครั้ง ร้องห่มร้องไห้เอ่ยขึ้นมา "ท่านอ๋อง คุณหนูฟู่ไม่รู้ใช้เข็มพิษอะไร ตอนนี้แขนของขข้าน้อยยกไม่ขึ้นเลย"อ๋องเจวี้ยนมองพวกนาง หรุบตาลงต่ำ "พวกเจ้าลงมือกับพระชายา นางไม่เอาชีวิตพวกเจ้าก็ถือว่าเมตตาแล้ว ถอยไปเถอะ""ท่านอ๋อง?"จินเสวี่ยกับไป๋ซวงงงงันไปท่าน๋องไม่คิดจะเรียกคืนความยุติธรรมให้พวกนางหน่อยหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องยังรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงมีคุณสมบัติที่จะสังหารพวกนางด้วย?"ถอยไป" ชิงอีรีบตะคอกเสียงต่อ
ฟู่จาวหนิงกลับมายังบ้านตระกูลฟู่ ยังไม่ทันจะเข้าประตูก็ได้ยินเสียงเอะอะกับเสียงตะโกน แล้วยังมีเสียงม้าร้องขึ้นมาจากด้านในด้วยม้าป่าตัวนั้นหรือ?นางรู้สึกแย่แล้วขึ้นฉับพลัน รีบผลักประตูเข้าไปเรือนหลังทางนี้มีคนกลุ่มใหย่มารวมตัวกัน "คึกคัก" เสียเหลือเกิน พวกเขามีคนที่ถือเชื่องบ่วงอยู่ มีคนถือไม้กระบอง มีคนถือมีดดาบ และยังมีคนกอดฟางหญ้าเอาไว้ จังจ้องไปที่ม้าตัวนั้น"เร็ว เอ้อร์โก่ว เจ้าไม่ใช่ว่าขว้างหินแม่นหรือ? รีบขว้างใส่ขามันเสีย!"ชายหนุ่มอายุราวสิบสามสิบสี่หมอบคลานอยู่บนภูเขาจำลอง หมอบชี้นิ้วสั่งการคนนั้นคนนี้อยู่"อย่าขว้างจนเสียของล่ะ ไม่เช่นนั้นข้าจะขี่มันออกไปได้อย่างไร?""คุณชายหก หรือว่าจะเป่าลูกดอกพิษ?"มีคนหยิบกระบอกลูกดอกออกมาท่อนหนึ่ง กระเหี้ยนกระหือรืออยากลองม้าตัวนั้นถูกคนทั้งหมดล้อมไว้ตรงกลาง บนพื้นสาดเข็มเหล็กเอาไว้ มันก็เหมือนสัมผัสได้ถึงอันตราย จึงหมุนตัวอยู่แต่ในวงเล็กๆ จมูกกระฟัดกระเฟียด เหมือนว่าก่อนหน้านี้เพิ่งผ่านการวิ่งอย่างดุเดือดมา"อู้ๆๆ!"ฟู่จาวหนิงพอเห็นฉากตรงหน้านี้ก็หัวฟัดหัวเหวี่ยง จากนั้นตอนที่เห็นเสี่ยวเถาถูกคนใช้คนหนึ่งจับไว้แล้วยังออกแร
"เสี่ยวเถาบอกว่า นี่เป็นม้าที่เจ้าขี่กลับมาหรือ?" ฟู่หย่งหนิงเงยหน้าถลึงตาใส่ฟู่จาวหนิงเขาทำไมรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเหมือนจะแปลกไปจากเดิมนะ"เป็นม้าที่ข้าขี่กลับมา ดังนั้นพวกเจ้าตอนนี้คิดจะมาจับม้าของข้า หรือว่ามาสังหารม้าของข้ากันล่ะ?" ฟู่จาวหนิงดึงเสี่ยวเถาไปไว้ด้านหลัง"เจ้าเอาอานม้ากับเชือกไปใส่กับม้าตัวนั้นหน่อย แล้วยกม้าตัวนั้นให้ข้า!" ฟู่หย่งหนิงพูดอย่างองอาจมั่นใจถึงอย่างในในบ้านตระกูลฟู่ คนทั้งหมดก็ล้วนยอมให้เขา เขาเคยชินกับการพูดจาแบบนี้ไปแล้วฟู่จาวหนิงมองชายหนุ่มใบหน้ากำเริบเสิบสานคนนี้ จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นตบหัวไปที่หัวของเขาฟู่หย่งหนิงถูกนางตบจนมึน"เจ้าพากคนมารังแกคนของข้า แล้วยังคิดจะแย่งม้าของข้า เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหรือไรกัน?" ฟู่จาวหนิงในมือก็ไม่รู้คีบเข็มเงินเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไร ตอนที่ฟู่หย่งหนิงยังไม่ทันตั้งตัวก็แทงลงไปที่คอของเขาอย่างรวดเร็วแล้ว"อ๊า..."ฟู่หย่งหนิงร้องลั่นคิดจะโบกมือไปข่วนหน้าของนาง แต่ฟู่จาวหนิงก็ชักเข็มออก ยกเท้าถีบหัวเข่าเขาไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ถอยออกมาสองก้าวอย่างรวดเร็วฟู่หย่งหนิงทิ้งตัวคุกเข่าลงพื้นดังตุบเขาถลึงตามองอ้าปากค้าง
เล่าคนใช้แน่นอนว่าไม่กล้าพูดต่อแล้วคนใช้เมื่อครู่จริงๆ ก็แค่เห็นว่าจู่ๆ ฟู่จาวหนิงก็ไม่กลัวพวกเขาขึ้นมา ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ถูกพวกเขาไล่บี้เสียจนทั้งโกรธทั้งทำอะไรไม่ได้ รู้สึกว่าไม่ถึงใจ ดังนั้นจึงระงับไว้ไม่อยู่แต่พอถูกคนข้างๆ เหยียบไว้เขาจึงได้สติกลับมาเรื่องนี้บ้านสองบ้านสามของพวกเขารู้อยู่แล้ว แต่ระหว่างที่เรื่องยังทำไม่สำเร็จก็ปิดเอาไว้ไม่ให้บ้านใหญ่รู้ถ้าหากพวกเขาหลุดปากไปจนทำเสียเรื่อง ผู้เฒ่าสองผู้เฒ่าสามคงได้ถลกหนังพวกเขาแน่คนใช้ที่คางมีไฝคนนี้แอบตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จ้องมองฟู่จาวหนิงเขายังรู้สึกว่า ต่อให้ฟู่จาวหนิงรู้แล้วจะทำไม?หลายปีมานี้ บ้านใหญ่ไม่ใช่ว่าถูกบ้านสองบ้านสามอย่างพวกเขากดขี่มาตลอดหรอกหรือ?"ไม่มีอะไร คุณหนูใหญ่ยังไม่รีบตามพวกเราไปหาฮูหยินสามอีกหรือ?""อาๆ!"ฟู่หย่งหนิงออกแรงกระโจนอีกครั้ง นิ้วมือจะข่วนเข้ามาที่หน้าฟู่จาวหนิง หน้าของเขาเกร็งจนแดงก่ำ โมโหจนควันแทบออกจากหู แต่ก็ส่งเสียงออกมาไม่ได้เลย ปากทำได้แค่ออกแรงพะงาบๆ เท่านั้นพอเห็นเขาสภาพนี้ คนในลานก็เริ่มลนลานขึ้นมาเดิมทีคิดว่าฟู่หย่งหนิงจะถูกแทงไว้เพียงชั่วครู่ เพียงไม่นานก็กลับมาพูดได้
บนต้นไม้นั่นมีชายหนุ่มในชุดทหารจวนอ๋องเจวี้ยนคนหนึ่งกระโดดลงมาเขามองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"เซียวหลันยวนบอกว่าจะส่งคนเข้ามาช่วยข้าจับตาดูท่านปู่ ที่แท้ก็คือมาดูแบบนี้หรือ?"ฟู่จาวหนิงมองทหารคนนี้อย่างประชดประชัน"ท่านอ๋องสั่งให้ข้ามาคอยปกป้องผู้เฒ่าฟู่ แต่ตอนนี้ผู้เฒ่าฟู่ยังไม่เป็นอันตราย" ทหารจวนอ๋องอธิบายขึ้นเสียงอ่อยเมื่อครู่คนเหล่านั้นยังไม่ได้ลงมือกับผู้เฒ่าฟู่ ดังนั้นเขาจึงเพียงคุ้มกันอยู่เงียบๆ ไม่ลงมือท่านอ๋องพูดแล้ว นอกจากความปลอดภัยของผู้เฒ่าฟู่ เรื่องอื่นของตระกูลฟู่ไม่ต้องสอดมือเข้าไปยุ่งแต่ว่าเขาก็ตกตะลึงมาก ทำไมซ่อนตัวไว้ดิบดี ฟู่จาวหนิงก็ยังพบตัวเขาได้?"น่าขัน เจ้าไม่รู้ว่าม้าตัวนั้นเป็นของใครหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่ามันน่าประชดประชันเสียเหลือเกิน "นี่เป็นม้าล้ำค่าที่อ๋องเจวี้ยนของพวกเจ้าคิดจะทำให้เชื่องนะ"เซียวหลันยวนเจ้าผู้ชายต่ำช้าบอกว่าจะส่งคนมาดูแลบ้านนาง แล้วให้มาดูแลแบบนี้หรือยิ่งไปกว่านั้น ขนาดม้าที่เซียวหลันยวนเอากลับไปก็ยังไม่รู้ อธิบายได้ว่าทหารคนนี้ตำแหน่งทหารในจวนอ๋องเจวี้ยนคือต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากส่งคนแบบนี้มา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ให้ความ
ฟู่จาวหนิงช่วยเหลือเซียวหลันยวน รับปากเขาว่าจะนำไหมใจโลหิตมาให้ เซียวหลันยวนก็จะทำเพื่อนางสิบเรื่องแต่ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่านี่จะนับเป็นเรื่องที่หนึ่งแล้วดังนั้น ท่านอ๋องต่ำช้านี้ก็เป็นพวกคิดคำนวณเก่ง จิตใจคับแคบ"พระชายา ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร สามารถกำชับมาได้เลย" จงเจี้ยนพอเห็นฟู่จาวหนิงไม่ค่อยยินดีนัก ในใจคงกำลังก่นด่าท่านอ๋องอย่างชัดเจน จึงเอ่ยปากขึ้น "ข้าจะพาลูกน้องมาอีกสามคน สี่คนนี่พอใช้งานหรือไม่?""เอ๋? สี่คนหรือ?"ฟู่จาวหนิงลิงโลดขึ้นทันที "เซียวหลันยวนยอมให้คนมาถึงสี่คนเลยหรือ?""อา" จงเจี้ยนส่ายหัว "ไม่ใช่หรอก เวลาข้าออกปฏิบัติภารกิจจะสามารถจัดคนของตนเองได้""เจ้าเป็นหัวหน้าของพวกเขาหรือ?""จะพูดเช่นนั้นก็ได้" จงเจี้ยนพยักหน้าฟู่จาวหนิงเพิ่งจะรู้ว่าก่อนหน้าที่ตนเองบอกว่าต้องการตัวจงเจี้ยน ทหารคนนั้นเพราะอะไรจึงมีสีหน้าเช่นนั้นพนันได้เลยว่าเขาคงกำลังคิดว่า:นี่ถึงกับจะเอาหัวหน้าของพวกเข้ามาปกป้องท่านปู่ของบ้านท่านหรือ?นี่เป็นถึงหัวหน้าทหารจวนอ๋องเจวี้ยนเชียวนะมิน่าเซียวหลันยวนจึงบอกว่านี่เป็นเรื่องที่หนึ่ง หยิบยืมลูกน้องกำลังหลักของเขามาคนหนึ่ง มันก็ยังดูยุ