"จินเสวี่ย ไม่รู้ว่าท่านอ๋องช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้ากังวัลเหลือเกิน"หญิงสาวที่พูดหน้าตาสะสวย สวมชุดกระโปรงชมพูม่วงพื้นขาว ท่วงท่าสง่างาม ถ้าบอกว่าเป็นลูกคุณหนูจากบ้านใดบ้านหนึ่งก็ไม่มีคนสงสัยและหญิงสาวใบหน้ากลมที่นั่งอยู่ตรงข้ามนาง มีลักยิ้ม ดวงตามีแววขบขัน มองนางแล้วดูน่าคบหา เพียงแต่คิ้วคู่นั้นดูองอาจไปหน่อย ทำให้ความน่าคบหาของนางเป็นกลางไป ตอนที่นางไม่ยิ้มกลับดูเหมือนโกรธหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำแต่แม่นางสองคนนี้ล้วนหน้าตาดีอย่างไม่ต้องสงสัย"ข้าเองก็กังวลท่านอ๋องเหมือนกัน ไม่รู้จากไปตั้งนานหลายปี ผู้ดูแลจงจะดูแลพวกคนใช้ในจวนได้ดีไหม จะปล่อยให้พวกเขาทำงานลวกๆ ไม่ได้ จะดูแลท่านอ๋องไม่ดีเอา""ถ้าไม่ใช่มีคนส่งจดหมายไปแจ้งให้ท่านอ๋องรีบกลับเข้าวังหลวงด่วน ท่านอ๋องคงไม่ทิ้งพวกเราสองคนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เร่งเดินทางกลับมา ร่างกายท่านอ๋องจะรับไหวได้อย่างไร""ถูกต้อง ท่านพี่ไป๋ซวง ท่านรู้ไหมว่ใครเขียนจดหมายถึงท่านอ๋อง? ทำไมท่านอ๋องของพวกเราถึงได้เชื่อคนที่เขียนจดหมายนั่น?"สาวใช้สองคนนี้ คือสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งของจวนอ๋องเจวี้ยน จินเสวี่ยกับไป่ซวงพวกของชิงอีทำงานอย่างซักผ้าปะชุด
รีบขนาดนั้นเลยหรือ?เขายังไม่ทันได้บอกพวกนาง ว่าตอนนี้ในจวนอ๋องมีพระชายาแล้วนะแต่ว่า ผู้ดูแลจงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร สาวใช้สองคนนี้ติดตามท่านอ๋องมาโดยตลอด น่าจะรู้จักวางตัวนั่นล่ะพวกนางพอกลับมาก็ไม่สนที่จะพักผ่อน รีบร้อนตรงไปรับใช้ท่านอ๋องก่อน นี่ก็เป้นการแสดงออกในการดูแลท่านอ๋องด้วยล่ะนะมิน่าท่านอ๋องจึงพานางทั้งสองไปด้วยกันฟู่จาวหนิงแทบแทงเซียวหลันยวนจนเป็นเม่นไปแล้วนอกจากหน้าอกยังมีแขนทั้งสองขาและที่ขาด้วย"พวกเจ้าไปดูหน่อยว่าชิงเตรียมเสร็จหรือยัง ถ้าเตรียมเสร็จแล้ว ก็เอาเจ็ดส่วนลงจากหม้อเตรียมอาบให้กับเซียวหลันยวน ส่วนอีกสามส่วนนำไปต้มยาสักหนึ่งเค่อแล้วใส่เปลือกส้มหลายแผ่นกับเป้ยหมู่อีกช้อนหนึ่งลงไปด้วย จากนั้นต้มอีกหนึ่งเค่อแล้วพักใส่ชามไว้"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงไม่กล้ามองไปทางอ๋องเจวี้ยนเลยพอได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิงก็รีบรับคำแล้วออกไปทันที แง้มประตูไว้สาวใช้สองคนเพิ่งจะออกไป จินเสวี่ยกับไป๋ซวงก็เข้ามาพอดีองครักษ์ลับที่คอยคุ้มกันเรือนพอเห้นจินเสวี่ยกับไป๋ซวง ก็ไม่ได้ปรากฎตัวออกมาขวางพวกเขาล้วนรู้ว่า สองคนนี้เป็นสาวใช้ที่ท่านอ๋องพาไปไหนมาไหนตลอดจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเข้
สาวใช้สองคนพุ่งเข้ามา เห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างเตียงหลังจากนั้นทั้งสองคนก็มองไปยังอ๋องเจวี้ยนที่อยู่บนเตียงที่เจ็บปวดก็คือ ตอนนี้เสื้อผ้าอ๋องเจวี้ยนไม่เรียบร้อย ขากางเกงม้วนขึ้นไปสูง เสื้อคลุมเปิดกางออก นอนแผ่อยู่ที่นั่นทั้งดูเปราะบางและอ่อนแอฟู่จาวหนิงที่ยืนอยู่ข้างเตียงเนื่องจากตนเองฝังเข็มและบีบนวดให้เขา เมื่อครู่หน้าผากจึงเหงื่อออกดังนั้นจึงเช็ดๆ ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยนางยืนอยู่ที่นั่น โน้มตัวลงราวกับเพิ่งลุกออกจากเตียงจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเห็นภาพนี้ ทั้งสองคนรู้สึกหัวใจถูกกระหน่ำทุบจนเสียงดังปึงๆ จนทำนางสมองขาวโพลน เหลืออยู่เพียงแค่ความเดือดดาลร้อนรน"ท่านอ๋อง!"ไป๋ซวงรีบพุ่งเข้ามา"นังหญิงสารเลวสมควรตาย เอาชีวิตมาเสีย!"จินเสวี่ยกลับถลึงตาโต ชักกระบี่ข้างเอวดังเคร้ง ปลายกระบี่ชี้แทงไปทางฟู่จาวหนิงอ๋องเจวี้ยนผู้ที่ราวกับเป็นเทพบุตรเดินดิน กลับต้องมาถูกหญิงสาวคนนี้ทำให้แปดเปื้อนเสียแล้ว!"ช้าก่อน"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของนางเช่นนี้ก็รู้แล้ว ว่าสาวใช้สองคนนี้น่าจะยังไม่รู้เรื่องของอ๋องเจวี้ยนกับนาง ตอนนี้จึงเข้าใจผิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นแม้จินเสวี่ยจะพุ่งมาโจมตีนา
จินเสวี่ยเดิมทีก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะร้ายกาจขนาดนี้ หน้าเปลี่ยนสี ตอนนี้จึงเพิ่งจะคิดร้องเรียกคนให้ช่วยแต่ในใจนางรู้สึกแปลกประหลาด เพราะอะไรชิงอีถึงไม่อยู่? ทหารด้านนอกทำไมจึงไม่บุกเข้าา"ใครก็ได้!"ฟู่จาวหนิงใช้ปลายเท้าเตะเข้าไปที่จุดชีพจรนางอีกครั้งตอนที่นางร้องเรียก จินเสวี่ยพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งนางทำได้แค่จ้องอย่างเคืองๆ ไปทางฟู่จาวหนิงนางจะสังหารนางทิ้งเสีย!นังหญิงสารเลวนี่ ถึงกับกล้าเรียกคนเลยหรือ?"พระชายา!"ตอนนี้เององครักษ์ลับด้านนอกก้เพิ่งจะพุ่งตัวเข้ามาจินเสวี่ยพอได้ยินพวกเขาเรียกฟู่จาวหนิงว่าพระชายา ตาทั้งสองก็ถลึงโตเหมือนระฆังอย่างไรอย่างนั้นนี่เรียกนางว่าอะไรนะ?บ้ากันไปแล้วหรือ?หรือว่าจะเป็นภรรยาของอ๋องคนอื่นกัน?ฟู่จาวหนิงมององครักษ์ลับเหล่านี้อย่างเย็นชา "ข้ารู้สึกว่าหูของพวกเจ้าตัดทิ้งไปได้แล้วกระมัง ถึงอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้วนี่"ในห้องนี้อาละวาดกันไปพักหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน พวกเขาต้องได้ยินแน่นอน แต่กลับไม่ยอมเข้ามาโดยตลอดพวกเขาไม่ใช่ไม่กังวลเซียวหลันยวนแน่ๆ แต่ฟังออกว่าจินเสวี่กับไป๋ซวงกำลังโจมตีนางกระมัง?องครักษ์ลับหลา
ฟู่จาวหนิงพูดจบก็ยื่นมือดึงเข็มเงินที่แทงตัวไป๋ซวงกับจินเสวี่ยกลับมา จากนั้นก็เดินออกไปหน้าเย็นชารอจนหงจั๋วกับเฝิ่นซิงเข้ามา อ๋องเจวี้ยนก็ตื่นขึ้นแล้ว"เกิดอะไรขึ้น?"ตอนที่อ๋องเจวี้ยนตื่นขึ้น ชิงอีเองก็เพิ่งจะปลดจุดชีพจรของจินเสวี่ยกับไป๋เสวี่ยอย่างยากลำบากจุดชีพจรที่ฟู่จาวหนิงแทงลงไปแปลกมาก ไม่ใช่จุดที่พวกเขาใช้งานกันปกติ เขาตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้สาวใช้ทั้งสองฟื้นคืนกลับมา พยายามจนเหงื่อแตกพลั่กแต่ต่อให้เขาคลายจุดชีพจรให้กับสาวใช้ทั้งสองแล้ว หลังจากพวกนางทั้งสองคนนั่งขึ้นมา ก็ยังปฎิกิริยาช้าไปบ้าง ดูแล้วอ่อนแอพอสมควรไป๋ซวงหนักกว่าหน่อย เพราะนางล้มลงไปข้างหน้า จมูกบวมแดงจนเลือดออก สาวใช้ที่เดิมทีใบหน้าสะสวย ตอนนี้ดูน่าเวทนาเหลือเกินไป๋ซวงยกมือขึ้นลูบไปที่จมูกและเลือดของตนเอง น้ำตาพรั่งพรูออกมานางไม่กล้าที่จะเงยหน้า กลัวว่าท่านอ๋องจะเห็นสภาพนี้แล้วรังเกียจนาง"ท่านอ๋อง" จินเสวี่ยนกลับร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่ "ข้าน้อยกับไป๋ซวงไม่ได้ปกป้องท่านอ๋องให้ดี!"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเมื่อครู่ชิงอีปลดจุดชีพจรให้สองสาวใช้ก็จัดการคลุมผ้าห่มขึ้นให้เขาแล้วแต่ว่าเขาตอนนี้
หงจั๋วพูดออกมาอย่างทนไม่ไหวประโยคหนึ่งจินเสวี่ยกับไป๋ซวงขณะเดียวกันก็มองมาทางนางสาวใช้ระดับสองสองคนนี้เบื่อโลกแล้วหรือไรกัน?นางพูดแทนฟู่จาวหนิงมารอบที่สองแล้ว ยังไม่รู้อีกหรือว่าพวกนางควรอยู่ฝั่งไหน?หงจั๋วยืดหลังตรงนางตอนนี้ก็เป็นสาวใช้ใหญ่แล้ว เป็นสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งข้างกายพระชายา เช่นนั้นตัวตนฐานะก็ระดับเดียวกับแล้ว นางทำไมจะต้องกลัวจินเสวี่ยกับไป๋ซวงด้วย?เฝิ่นซิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาด้วยว่า "ข้าน้อยเองก็มีความคิดเดียวกันกับหงจั๋ว""พวกเจ้า"จินเสวี่ยโมโหจัด ยกมือขึ้นจะชี้หน้าพวกนาง แต่กลับพบว่าแขนยกขึ้นมาลำบากมากนางก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนอย่างทนไม่ไหวอีกครั้ง ร้องห่มร้องไห้เอ่ยขึ้นมา "ท่านอ๋อง คุณหนูฟู่ไม่รู้ใช้เข็มพิษอะไร ตอนนี้แขนของขข้าน้อยยกไม่ขึ้นเลย"อ๋องเจวี้ยนมองพวกนาง หรุบตาลงต่ำ "พวกเจ้าลงมือกับพระชายา นางไม่เอาชีวิตพวกเจ้าก็ถือว่าเมตตาแล้ว ถอยไปเถอะ""ท่านอ๋อง?"จินเสวี่ยกับไป๋ซวงงงงันไปท่าน๋องไม่คิดจะเรียกคืนความยุติธรรมให้พวกนางหน่อยหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องยังรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงมีคุณสมบัติที่จะสังหารพวกนางด้วย?"ถอยไป" ชิงอีรีบตะคอกเสียงต่อ
ฟู่จาวหนิงกลับมายังบ้านตระกูลฟู่ ยังไม่ทันจะเข้าประตูก็ได้ยินเสียงเอะอะกับเสียงตะโกน แล้วยังมีเสียงม้าร้องขึ้นมาจากด้านในด้วยม้าป่าตัวนั้นหรือ?นางรู้สึกแย่แล้วขึ้นฉับพลัน รีบผลักประตูเข้าไปเรือนหลังทางนี้มีคนกลุ่มใหย่มารวมตัวกัน "คึกคัก" เสียเหลือเกิน พวกเขามีคนที่ถือเชื่องบ่วงอยู่ มีคนถือไม้กระบอง มีคนถือมีดดาบ และยังมีคนกอดฟางหญ้าเอาไว้ จังจ้องไปที่ม้าตัวนั้น"เร็ว เอ้อร์โก่ว เจ้าไม่ใช่ว่าขว้างหินแม่นหรือ? รีบขว้างใส่ขามันเสีย!"ชายหนุ่มอายุราวสิบสามสิบสี่หมอบคลานอยู่บนภูเขาจำลอง หมอบชี้นิ้วสั่งการคนนั้นคนนี้อยู่"อย่าขว้างจนเสียของล่ะ ไม่เช่นนั้นข้าจะขี่มันออกไปได้อย่างไร?""คุณชายหก หรือว่าจะเป่าลูกดอกพิษ?"มีคนหยิบกระบอกลูกดอกออกมาท่อนหนึ่ง กระเหี้ยนกระหือรืออยากลองม้าตัวนั้นถูกคนทั้งหมดล้อมไว้ตรงกลาง บนพื้นสาดเข็มเหล็กเอาไว้ มันก็เหมือนสัมผัสได้ถึงอันตราย จึงหมุนตัวอยู่แต่ในวงเล็กๆ จมูกกระฟัดกระเฟียด เหมือนว่าก่อนหน้านี้เพิ่งผ่านการวิ่งอย่างดุเดือดมา"อู้ๆๆ!"ฟู่จาวหนิงพอเห็นฉากตรงหน้านี้ก็หัวฟัดหัวเหวี่ยง จากนั้นตอนที่เห็นเสี่ยวเถาถูกคนใช้คนหนึ่งจับไว้แล้วยังออกแร
"เสี่ยวเถาบอกว่า นี่เป็นม้าที่เจ้าขี่กลับมาหรือ?" ฟู่หย่งหนิงเงยหน้าถลึงตาใส่ฟู่จาวหนิงเขาทำไมรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเหมือนจะแปลกไปจากเดิมนะ"เป็นม้าที่ข้าขี่กลับมา ดังนั้นพวกเจ้าตอนนี้คิดจะมาจับม้าของข้า หรือว่ามาสังหารม้าของข้ากันล่ะ?" ฟู่จาวหนิงดึงเสี่ยวเถาไปไว้ด้านหลัง"เจ้าเอาอานม้ากับเชือกไปใส่กับม้าตัวนั้นหน่อย แล้วยกม้าตัวนั้นให้ข้า!" ฟู่หย่งหนิงพูดอย่างองอาจมั่นใจถึงอย่างในในบ้านตระกูลฟู่ คนทั้งหมดก็ล้วนยอมให้เขา เขาเคยชินกับการพูดจาแบบนี้ไปแล้วฟู่จาวหนิงมองชายหนุ่มใบหน้ากำเริบเสิบสานคนนี้ จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นตบหัวไปที่หัวของเขาฟู่หย่งหนิงถูกนางตบจนมึน"เจ้าพากคนมารังแกคนของข้า แล้วยังคิดจะแย่งม้าของข้า เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหรือไรกัน?" ฟู่จาวหนิงในมือก็ไม่รู้คีบเข็มเงินเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไร ตอนที่ฟู่หย่งหนิงยังไม่ทันตั้งตัวก็แทงลงไปที่คอของเขาอย่างรวดเร็วแล้ว"อ๊า..."ฟู่หย่งหนิงร้องลั่นคิดจะโบกมือไปข่วนหน้าของนาง แต่ฟู่จาวหนิงก็ชักเข็มออก ยกเท้าถีบหัวเข่าเขาไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ถอยออกมาสองก้าวอย่างรวดเร็วฟู่หย่งหนิงทิ้งตัวคุกเข่าลงพื้นดังตุบเขาถลึงตามองอ้าปากค้าง