แชร์

่บทที่ 90

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
หมอหลวงเฉินรู้สึกว่าสมองกับตาของตนเองมีปัญหาเสียแล้ว

สิ่งที่อาจารย์มอบให้เขาก่อนหน้า แทบจะส่งคืนอาจารย์ไปจนหมดแล้ว

เมื่อครู่ตอนที่เห็นอ๋องเจวี้ยนล้มลงไปเช่นนั้น จะท่าทางการเคลื่อนไหว ดูอย่างไรก็คือสภาพการล้มลงไปเพราะสิ้นสติสัมปชัญญะชัดๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ชิงอีกับหญิงสาวคนนั้นก็ยังส่งเสียงตกใจเลย

แล้วก็ ตอนที่เขามาก็เห็นอ๋องเจวี้ยนพิงอยู่บนตัวฟู่จาวหนิงตลอด เท้ายังบิดเอียงด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นสภาพที่มีสติแล้วยืนได้อย่างมั่นคง ไม่

ถ้าไม่ใช่เป็นลมแล้วจะเป็นอะไรกัน?

หมอหลวงเฉินรู้สึกว่าที่องค์จักรพรรดิเลือกเขา ส่งเขามาจวนอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเพราะเขาฉลาดมาก พลังการสังเกตแข็งแกร่ง ละเอียดละออ วิชแพทย์เองก็ยอดเยี่ยมที่สุด

แต่ตอนนี้เขารู้สึกเริ่มสงสัยชีวิตตนเองขึ้นมาเสียแล้ว

"อ๋องเจวี้ยนไม่รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างจริงหรือ?" หมอหลวงเฉินงัดกับแรงกดดันของอ๋องเจวี้ยน ปลุกความกล้าขึ้นย้อนถาม "ข้าน้อยกังวลต่อสุขภาพของท่านอ๋องจริงๆ ไทเฮาฮองเฮาในวังพวกนางก็ล้วนเชิญให้ข้ามาจับชีพจรให้ท่าน ให้ข้าน้อยตรวจชีพจรให้ท่านอ๋องดีไหม?"

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ยื่นมืออกมา ให้ข้าจับชีพจรเถอะท่านอ๋อง!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 91

    อ๋องเจวี้ยนตกตะลึงไปครู่ เท้าชะงักไปฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมกัน? พอได้ยินชื่อปรมาจารย์ฉือเชิน เขาก็เหมือนตกตะลึงไป?"เจ้าเคยได้ยินชื่อปรมาจารย์ฉือเชินไหม?" อ๋องเจวี้ยนถามนางฟู่จาวหนิงส่ายศีรษะ "ไม่เคย""พ่อของเจ้า เป็นศิษย์ฆราวาสของเขา" อ๋องเจวี้ยนพูดประโยคนี้ก็ปล่อยมือนางออก ตนเองสาวเท้าเข้าไปในโถงก่อนบิดานาง? ฟู่จิ้นเชิน?ฟู่จิ้นเชินเคยมีพระอาจารย์ด้วยหรือ?เรื่องเหล่านี้นางก็ไม่รู้เลยจริงๆ ผู้เฒ่าฟู่ไม่ได้พูดอะไรเลย และไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงไม่เคยเอ่ยถึงบิดามารดาของนาง"พระชายา ท่านก็เข้าไปเถิด" ผู้ดูแลทำสัญญาณมือ "ปรมาจารย์ฉือเชินเอ่ยถึงท่านอยู่""ได้เลย"ในเมื่อมาแล้วก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วกัน ฟู่จาวหนิงเองก็เดินเข้าไปในโถงมีคนนั่งอยู่หลายคน ข้างกายพวกเขาล้วนมีผู้ติดตาม เพิ่งเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความคึกคัก ฟู่จาวหนิงพอเข้ามา สายตาคนทั้งหมดก็กวาดมาบนตัวนางทันทีถ้าเป็นคนอื่น คงจะรู้สึกถึงแรงกดดันจนก้าวขาไม่ออกไปแล้วแต่ฟู่จาวหนิงแค่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเดินต่อไปทางเซียวหลันยวน ยืนอยู่ข้างกายเขาสิ่งแรกที่นางเห็นคือพระชราในชุดจีวร คิ้วและขนตาของพระล้วน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 92

    เซียวหลันยวนตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"ใครกันแน่ที่บังอาจ?"เขากับฟู่จาวหนิงแม้เป้าหมายที่แต่งงานกันจะไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ฐานะของนางก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ยืนอยู่ข้างกายเขาตัวเขาเองไปรังแกนั้นได้อยู่ แต่คนนอกจะมาหน้าใหญ่เช่นนี้ได้ด้วยหรือ?"ที่นี่คือจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าเองก็ยืนอยู่ที่นี่ ฮูหยินชรากำลังมาอวดเบ่งบารมีอะไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป มองไปทางเซียวหลันยวนนางคิดไม่ถึง ว่าเขาจะงัดกับฮูหยินชราคนนี้ตรงๆคนที่ไท่ซ่างหวงไหว้วานให้มาส่งของขวัญให้เขา ไม่ใช่ว่าควรจะต้องเคารพนอบน้อมหรือไรกัน?ฮูหยินชราเองก็นิ่งแข็งไป นางไม่อยากจะเชื่อ "อ๋องเจวี้ยน?""ฮูหยินชราก็ยังรู้จักอ๋องเจวี้ยนอย่างข้านี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงฟู่จาวหนิงเดินมายังที่นั่งหลักของโถงใหญ่ เข้ามานั่งลงด้วยกันกับเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน"ฮูหยินชิงเหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กกัน? อามิตตาพุทธ" ปรมาจารย์ฉือเชินพนมสองมือ ก่อนหน้าที่ฮูหยินชิ่งจะเอ่ยปากก็แย่งพูดมาก่อน "โยมน้อยฟู่เองก็ไม่รู้จักพวกเราจริงๆ""เด็กหรือ? นางแต่งงานกับคนอื่นแล้วยังเป็นเด็กอีกหรือ?" ฮูหยินชิ่งร้องเชอะ จากนั้นเลิกหนังตากวาดไปยังฟู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 93

    ชิงอีหน้าดำเป็นเส้น แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร แต่ยืดหลังตรงยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีสีหน้าที่มากเกินไปอีกท่าน่องเดิมทีไม่คิดจะให้หน้าคนเหล่านี้อยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นลูกน้องก็จะทำให้ท่านอ๋องขายหน้าไม่ได้ก็แค่ตระกูลฮู่กับตระกูลชิ่งไม่ใช่หรือ?"อา แต่ข้าไม่เคยได้ยิน" ฟู่จาวหนิงกลับถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น "เป็นตระกูลที่สูงส่งกว่าและมีอำนาจเหนือกว่าราชวงศ์หรือ? ควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?""ไร้สาระ!""อย่าพูดเหลวไหล!"ฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์ชราหน้าเปลี่ยนสีตะคอกเสียงขึ้นพร้อมกันเอาบาปใหญ่ขนาดนี้วางลงมา พวกเขากล้าแบกเสียที่ไหน?ใครจะกล้าพูดว่าควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?นี่มันการก่อกบฎแล้ว?ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ในเมื่อไม่ใช่ เช่นนั้นพวกท่านจะมาทำท่าทางราวกับพวกท่านใหญ่โตที่สุดในฟ้าดินนี้ต่อหน้าท่านอ๋องเจวี้ยนทำไมกัน? ถุด"นางยิ้มประชดประชันเดิมทีฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์เฒ่าที่อวดดีเสียเหลือเกินก็ถูกแทงปล่อยลมออกพร้อมกัน"โยมน้อยฟู่ อาตมาฉือเชิน" ปรมาจารย์ฉือเชินยิ้มๆ ยังอยู่ในท่าทีใจดี"ท่านปรมาจารย์ ท่านปรมาจารย์" ฟู่จาวหนิงโบกมือให้อย่างมีไมตรีจิตการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยิ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่94

    ฟู่จาวหนิงคิดๆ จากนั้นก็โยนกล่องไปให้กับชิงอีชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง รับเอาไว้แน่น"ข้าออกไปส่งท่านปรมาจารย์แล้วกัน พวกท่านคุยกันไปนะ"ถึงอย่างไรภารกิจของนางก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้วกระมัง? ถัดจากนี้เซียวหลันยวนจะไปงัดอย่างไรกับสองคนนั้น นางก็จะไม่ฟังแล้วไม่ว่าท้ายสุดเขาจะได้รับของอะไร ก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับนางฟู่จาวหนิงส่งปรมาจารย์ฉือเชินออกมาด้านนอก ใต้ต้นกานพลูในสวนต้นหนึ่ง ปรมาจารย์ฉือเชินยืนนิ่งอยู่ เขามองฟู่จาวหนิง จู่ๆ ก็ยื่นมือออกมา นิ้วมือยังกำลูกประคำไว้ ตบลงไปที่กระหม่อมฟู่จาวหนิงทีหนึ่ง"!"ฟู่จาวหนิงเกือบจะลงมือแล้ว แต่พอประสานกับสายตาใจดีของปรมาจารย์ฉือเชิน นางก็ควบคุมเอาไว้นางยืนอยู่ที่นั่น ยอมให้ปรมาจารย์ฉือเชินตบลงไปที่กระหม่อมถึงสามทีก๊องก๊องก๊องฟู่จาวหนิงราวกับได้ยินเสียงสามเสียงดังขึ้นแว่วๆ ห่างไกล คล้ยกับระฆังโบราณ และดูคล้ายกับทำนองพุทธบางอย่างนางมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ลืมไปหมดว่าตนเองอยู่ที่ใด ข้างกายคือใคร เสียงรอบๆ ก็ราวกับสลายหายไปไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เสียงของปรมาจารย์ฉือเชินก็ดังขึ้นมา"โยมน้อย"หลังจากได้ยินเสียงของเขา เบื้องหน้าฟู่จาวหนิงก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 95

    "ในเมื่อไม่หย่ากันแล้วชั่วคราว เช่นนั้นท่านก็ต้องมีชีวิตไว้ก่อน ข้าไม่อยากเพิ่งแต่งงานสามีก็ตาย"ฟู่จาวหนิงคิดเข้าใจแล้ว ตัวตนฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้มีทั้งคุณและโทษ ในเมื่อตอนนี้หย่าร้างไม่ได้ นางก็ทำให้มั่นคงเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันแต่ถ้าหากหลังจากแต่งงานกับพวกเขาไปได้ไม่กี่วันอ๋องเจวี้ยนก็มาตายลง เช่นนั้นทั่วทั้งเมืองหลวงคงได้มีข่าวลือที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวนางมากมายแน่ๆคงมีคนมาพูดว่านางสังหารสามีของเธอแน่ยิ่งไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจ้องเขม็งที่ตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรในมืออ๋องเจวี้ยนตาเป็นมันอย่างเห็นได้ชัด หากเขาตายไป ของเหล่านั้นจะให้ไปอยู่กับองค์จักรพรรดิอย่างราบรื่นไม่ได้ หญิงสาวตัวเล็กอ่อนแอที่แขวนตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนไว้ที่คอ อย่างนางจะต้องเจอกับพายุฝนกระหน่ำแน่นอนดังนั้น ตอนนี้เขาจึงยังตายไม่ได้เด็ดขาดแต่เมื่อครู่เขาเป็นลมเลือดกำเดาไหลแล้ว ตอนนี้ยังตัวเย็นจนเป็นน้ำแข็งอีก ตอนนางจับชีพจรให้เขาก็พบว่าเขาเหยียบเท้าข้างหนึ่งไปที่ประตูยมโลกแล้วเรียบร้อยเซียวหลันยวนถูกนางพูดจนใจตื้อไปหมดไม่อยากแต่งงานใหม่สามีก็มาตาย?แต่ว่าเขาเองก็ทนไม่ไหวแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 96

    "จินเสวี่ย ไม่รู้ว่าท่านอ๋องช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้ากังวัลเหลือเกิน"หญิงสาวที่พูดหน้าตาสะสวย สวมชุดกระโปรงชมพูม่วงพื้นขาว ท่วงท่าสง่างาม ถ้าบอกว่าเป็นลูกคุณหนูจากบ้านใดบ้านหนึ่งก็ไม่มีคนสงสัยและหญิงสาวใบหน้ากลมที่นั่งอยู่ตรงข้ามนาง มีลักยิ้ม ดวงตามีแววขบขัน มองนางแล้วดูน่าคบหา เพียงแต่คิ้วคู่นั้นดูองอาจไปหน่อย ทำให้ความน่าคบหาของนางเป็นกลางไป ตอนที่นางไม่ยิ้มกลับดูเหมือนโกรธหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำแต่แม่นางสองคนนี้ล้วนหน้าตาดีอย่างไม่ต้องสงสัย"ข้าเองก็กังวลท่านอ๋องเหมือนกัน ไม่รู้จากไปตั้งนานหลายปี ผู้ดูแลจงจะดูแลพวกคนใช้ในจวนได้ดีไหม จะปล่อยให้พวกเขาทำงานลวกๆ ไม่ได้ จะดูแลท่านอ๋องไม่ดีเอา""ถ้าไม่ใช่มีคนส่งจดหมายไปแจ้งให้ท่านอ๋องรีบกลับเข้าวังหลวงด่วน ท่านอ๋องคงไม่ทิ้งพวกเราสองคนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เร่งเดินทางกลับมา ร่างกายท่านอ๋องจะรับไหวได้อย่างไร""ถูกต้อง ท่านพี่ไป๋ซวง ท่านรู้ไหมว่ใครเขียนจดหมายถึงท่านอ๋อง? ทำไมท่านอ๋องของพวกเราถึงได้เชื่อคนที่เขียนจดหมายนั่น?"สาวใช้สองคนนี้ คือสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งของจวนอ๋องเจวี้ยน จินเสวี่ยกับไป่ซวงพวกของชิงอีทำงานอย่างซักผ้าปะชุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 97

    รีบขนาดนั้นเลยหรือ?เขายังไม่ทันได้บอกพวกนาง ว่าตอนนี้ในจวนอ๋องมีพระชายาแล้วนะแต่ว่า ผู้ดูแลจงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร สาวใช้สองคนนี้ติดตามท่านอ๋องมาโดยตลอด น่าจะรู้จักวางตัวนั่นล่ะพวกนางพอกลับมาก็ไม่สนที่จะพักผ่อน รีบร้อนตรงไปรับใช้ท่านอ๋องก่อน นี่ก็เป้นการแสดงออกในการดูแลท่านอ๋องด้วยล่ะนะมิน่าท่านอ๋องจึงพานางทั้งสองไปด้วยกันฟู่จาวหนิงแทบแทงเซียวหลันยวนจนเป็นเม่นไปแล้วนอกจากหน้าอกยังมีแขนทั้งสองขาและที่ขาด้วย"พวกเจ้าไปดูหน่อยว่าชิงเตรียมเสร็จหรือยัง ถ้าเตรียมเสร็จแล้ว ก็เอาเจ็ดส่วนลงจากหม้อเตรียมอาบให้กับเซียวหลันยวน ส่วนอีกสามส่วนนำไปต้มยาสักหนึ่งเค่อแล้วใส่เปลือกส้มหลายแผ่นกับเป้ยหมู่อีกช้อนหนึ่งลงไปด้วย จากนั้นต้มอีกหนึ่งเค่อแล้วพักใส่ชามไว้"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงไม่กล้ามองไปทางอ๋องเจวี้ยนเลยพอได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิงก็รีบรับคำแล้วออกไปทันที แง้มประตูไว้สาวใช้สองคนเพิ่งจะออกไป จินเสวี่ยกับไป๋ซวงก็เข้ามาพอดีองครักษ์ลับที่คอยคุ้มกันเรือนพอเห้นจินเสวี่ยกับไป๋ซวง ก็ไม่ได้ปรากฎตัวออกมาขวางพวกเขาล้วนรู้ว่า สองคนนี้เป็นสาวใช้ที่ท่านอ๋องพาไปไหนมาไหนตลอดจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 98

    สาวใช้สองคนพุ่งเข้ามา เห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างเตียงหลังจากนั้นทั้งสองคนก็มองไปยังอ๋องเจวี้ยนที่อยู่บนเตียงที่เจ็บปวดก็คือ ตอนนี้เสื้อผ้าอ๋องเจวี้ยนไม่เรียบร้อย ขากางเกงม้วนขึ้นไปสูง เสื้อคลุมเปิดกางออก นอนแผ่อยู่ที่นั่นทั้งดูเปราะบางและอ่อนแอฟู่จาวหนิงที่ยืนอยู่ข้างเตียงเนื่องจากตนเองฝังเข็มและบีบนวดให้เขา เมื่อครู่หน้าผากจึงเหงื่อออกดังนั้นจึงเช็ดๆ ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยนางยืนอยู่ที่นั่น โน้มตัวลงราวกับเพิ่งลุกออกจากเตียงจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเห็นภาพนี้ ทั้งสองคนรู้สึกหัวใจถูกกระหน่ำทุบจนเสียงดังปึงๆ จนทำนางสมองขาวโพลน เหลืออยู่เพียงแค่ความเดือดดาลร้อนรน"ท่านอ๋อง!"ไป๋ซวงรีบพุ่งเข้ามา"นังหญิงสารเลวสมควรตาย เอาชีวิตมาเสีย!"จินเสวี่ยกลับถลึงตาโต ชักกระบี่ข้างเอวดังเคร้ง ปลายกระบี่ชี้แทงไปทางฟู่จาวหนิงอ๋องเจวี้ยนผู้ที่ราวกับเป็นเทพบุตรเดินดิน กลับต้องมาถูกหญิงสาวคนนี้ทำให้แปดเปื้อนเสียแล้ว!"ช้าก่อน"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของนางเช่นนี้ก็รู้แล้ว ว่าสาวใช้สองคนนี้น่าจะยังไม่รู้เรื่องของอ๋องเจวี้ยนกับนาง ตอนนี้จึงเข้าใจผิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นแม้จินเสวี่ยจะพุ่งมาโจมตีนา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1875

    ฟู่จาวหนิงพอได้ข่าว ก็เตรียมยาเสร็จแล้วผงยามีทั้งหมดสิบห้าห่อ พอพวกเขาคำนวณทิศทางลมดีแล้ว ก็ให้อาศัยต้นไม้สูงใหญ่ จากนั้นก็ใช้ปีกสายลมกับวิชาตัวเบา ก็สามารถโปรยผงยาออกไปในบริเวณกว้างได้"ผงยาเหล่านี้มียาแก้อยู่ พวกเจ้าต้องกินยาแก้ไว้ก่อน ถึงตอนนั้นถ้าเผื่อสูดเข้าไปจะได้ไม่เกิดเรื่อง"ฟู่จาวหนิงส่งยาแก้ให้กับพวกเขาฟู่จิ้นเชินดูทิศทางลมไว้แล้ว คนหาตำแหน่งเหมาะๆ ที่จะลงมือจนตอนที่พวกเขาเตรียมการเสร็จ ก็ถึงเวลาหนึ่งชั่วยามที่โจวติ้งเจินให้ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอดีโจวติ้งเจินส่งคนมาตะโกนที่ใต้หอเมือง"ใต้เท้าโหยว! หนึ่งชั่วยามแล้ว รีบเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!"ทางนั้น ภายใต้การชี้แนะของฟู่จิ้นเชิน เหล่าองครักษ์ที่สวมปีกสายลมก็แฝงตัวออกไปอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนยืนอยู่บนหอเมืองเขาปรากฏตัวตรงนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของพวกโจวติ้งเจินได้พอดี ให้พวกเขามองข้ามสิ่งอื่น เพื่อให้เหล่าองครักษ์ปีกสายลมทำงานได้"ใต้หอเมืองเจ้อนี้ล้วนเป็นอิฐดำ โจวติ้งเจิน เจ้าคิดจะใช้ไฟโจมตี หัวสมองถูกไม้กระดานหนีบไว้หรืออย่างไร?" เซียวหลันยวนส่งเสียงลอดออกไปไกล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1874

    อ๋องเจวี้ยนจงใจดูถูกเขาหมิ่นเขาเพิกเฉยเขา จงใจแน่ๆ กลัวเขาเสียที่ไหนกัน?อ๋องเจวี้ยนยังจงใจแสดงวิชาตัวเบาที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกมาต่อหน้าเขาอีก นี่มันตบฉาดหน้าเขาชัดๆระหว่างทางที่มาโจวติ้งเจินคิดแผนการเอาไว้ดิบดี แต่ปฏิกิริยาของอ๋องเจวี้ยนกลับทำแผนของเขาวุ่นวายไปหมดใครจะรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมีนิสัยแบบนี้?ทำเอาคนทั้งชิงชังทั้งจนใจเลยจริงๆ"อ๋องเจวี้ยน โจวติ้งเจินเอาแต่เรียกพระชายาให้ออกไป จะต้องคิดใช้พระชายา ล่อท่านออกไปแน่" อันเหนียนบอกกับเซียวหลันยวน "แต่พระชายาถ้ายังไม่ออกไปอีก ถึงตอนนั้นโจวติ้งเจินอาจจะผลักภาระทั้งหมดมาบนตัวพระชายาได้นะ องค์จักรพรรดิคงถือโอกาสนี้จัดการพระชาแน่"ถึงตอนนั้น โจวติ้งเจินแค่บอกกับองค์จักรพรรดิว่า พระชายาไม่ยอมออกมาพบหน้าเพื่ออธิบายอาการป่วยของเมืองเจ้อ ทำให้เขาไม่แน่ใจในสถานการณ์ การรักษาคนป่วยเหล่านั้นผิดพลาด ความรับผิดชอบนั้นทั้งหมดจะไปอยู่บนตัวพระชายาอันเหนียนถึงอย่างไรก็เป็นแค่ขุนนาง เขาไม่อาจต่อต้านจักรพรรดิได้ ดังนั้นตอนนี้จึงกังวลว่าจักรพรรดิจะคาดโทษฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินมองเซียวหลันยวน"จาวหนิงไม่ออกไป องค์จักรพรรดิก็คาดโทษนางไม่ได้" เซี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1873

    และถ้าสู้ชนะ...เอ่อ ต่อให้รองขุนพลของโจวติ้งเจินจะไม่ค่อยมั่นใจ ว่าท่านขุนพลจะสู้ชนะอ๋องเจวี้ยนได้ไหม?พวกเขาไม่เคยสู้กัน แต่ก็ลือกันว่าวรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนแข็งแกร่งมาก...แค่ที่อ๋องเจวี้ยนลงมือเมื่อครู่ พวกเขาก็เห็นกับตากันแล้วกระโจนลงมาจากหอเมืองยังไม่เท่าไร แต่หลังจากร่อนลงมาแล้วก็ยังสามารถยืนอยู่บนหลังม้าได้ ทำให้ม้าตัวนั้นไม่กล้าจะขยับ พวกเขาเองทำไม่ได้แน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่กลางอากาศก็ยังเตะขุนพลน้อยคนนั้นปลิวมาไกลขนาดนี้ กำลังภายในลึกล้ำแค่ไหนกัน?"ข้าต้องกลัวเขาด้วยเรอะ?"โจวติ้งเจินถูกยั่วยุง่ายมาก เขาอยากจะประลองกับเซียวหลันยวนมาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีโอกาส"ท่านขุนพลไม่ต้องกลัวเขาอยู่แล้วขอรับ แต่ว่าเขาเป็นถึงอ๋องเจวี้ยน ท่านขุนพลไม่มีเหตุผลต้องไปลงมือกับเขานี่ขอรับ"รองขุนพลขวางโจวติ้งเจินเอาไว้ถ้าตอนนี้เขาออกไปสู้กับอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา เดี๋ยวจะอธิบายลำบากเปล่าๆองค์จักรพรรดิเกรงว่าก็อยากจะจัดการอ๋องเจวี้ยนอยู่ แต่ยังไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้งนักถ้าหากลงมือกับอ๋องเจวี้ยนไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นถ้าองค์จักรพรรดิต้องหาคำอธิบายกับเหล่าพระญาติและอ๋องเจวี้ยน คงได้หันมาลงโท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1872

    "หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status