พอคนคู่นี้เดินเข้ามา ครู่หนึ่งก็ดึงสายตาคนทั้งหมดไปทันทีในนี้มีคนไม่น้อยที่ตั้งอกตั้งใจแต่งหน้าแต่งตัวมา และยังมีหญิงสูงศักดิ์อีกลหายคนที่อยากจะเข้าวัง ดังนั้นวันนี้จึงแข่งกันสวยแข่งกันงามเดิมทีพวกนางล้วนกำลังแอบพิจารณาการแต่งกายของคนอื่น ต่างฝ่ายต่างมีความคิดขึ้นมาแต่ว่าขณะที่คู่สามีภรรยาอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา ความคิดเหล่านี้ก็ถูกสั่นสะเทือนลอยไปทั้งหมด คนอื่นๆ แต่งตัวกันอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจแล้วอ๋องเจวี้ยนมาในชุดจักรพรรดิสีม่วง บนสีม่วงเข้มปักอินทรีเงิน คอปกสีดำ แขนเสื้อสีดำ เข็มขัดเอวสีดำรองเท้าสีดำ ทำให้คนล้วนต้องศิโรราบ ต่อให้เขาสวมหน้ากากเงินครึ่งหน้าอยู่ ก็ไม่ได้ทำลายท่วงท่าของเขาเลย ซ้ำยังทำให้เขาดูแล้วยิ่งเพิ่มความลึกลับขึ้นไปอีกฟู่จาวหนิงที่อยู่ข้างๆ เขาก็อยู่ในชุดชาววังสีม่วง ในสีม่วงมีประกายสีเงิน ขณะที่เดินก็ราวกับจันทราบนฟ้าราตรี ด้นบนปักโบตั๋นสีเงินไว้ ดูสูงส่งเรียบสงบและรูปร่างของนางก็สวยสง่า เรียวคอยาวราวหงส์ฟ้า ไหล่กลึงกลมเกลี้ยงทั้งสอง เอวที่โอบได้รอบ กระโปรงยาวลากพื้น ทรงสง่ามีระดับผมสีดำขลับของนางถูกรวบเป็นมวย เสียบเอาไว้ด้วยปิ่นไข่มุกสองเล่ม และยังมีด
ช่วงนี้นางก็ยังไปหาเซียวเหยียนจิ่งอยู่ตลอด แต่ว่าเขาก็ไม่เออไม่ออกับตนเองสักเท่าไร นางเดิมทีก็รู้สึกไม่วางใจอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นเซียวเหยียนจิงเป็นแบบนี้ หลี่จื่อเหยาในใจจึงดำดิ่งอยู่ตลอด"องค์จักรพรรดิ"ฮองเฮากว่าจะหาเสียงตนเองเจอ หันหน้าไปมององค์จักรพรรดิ แต่กลับเห็นว่าในตาขององค์จักรพรรดิก็เผยความเคลิบเคลิ้มออกมาด้วย ใจก็ปะทุไฟโกรธขึ้นมาทันทีเจ้าผู้ชายต่ำช้า!นั่นมันน้องสะใภ้ของเจ้านะ!ก่อนหน้านี้เขาเห็นๆ อยู่ว่าไม่ชอบฟู่จาวหนิง ตอนนี้กลับมาเคลิบเคลิ้มเสียอย่างนั้น?ฟู่จาวหนิงนี่มันภัยพิบัติจริงๆ!นางจะต้องกำจัดฟู่จาวหนิงออกไปให้ได้!ถ้าหากหลังจากนี้อ๋องเจวี้ยนป่วยจนตาย ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยน ก็คงจะมีโอกาสมากเลยทีเดียวที่จะต้องเข้าวัง พอถึงตอนนั้นใครจะรู้ว่านางจะอยากปีนตัวจักรพรรดิ ไปยั่วยวนองค์จักรพรรดิเพราะความเหงาหรือไม่?ตอนนี้ฮองเฮาเกลียดฟู่จาวหนิงแล้วจริงๆฟู่จาวหนิงไม่สนใจสายตาคนทั้งหมด เดินตามอ๋องเจวี้ยนไปหาที่นั่งด้านหน้าอ๋องเจวี้ยนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"เจ้าดูนิ่งมากจริงๆ"เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงทำนางเกินคาดจริงๆเดิมทีคิดว่าในฐานะคุณหนูตกอับคนหนึ
"ไม่หรอก ข้าไม่มีอะไรที่ไม่ยินดี เดิมทีข้าก็หน้าตาดีอยู่แล้ว"ฟู่จาวหนิงก็เหมือนฟังไม่ออกว่าอะไรไม่ถูกต้อง ยิ้มตาหยีเอ่ยออกมาคำหนึ่ง แต่ว่าก็เหมือนรู้สึกว่าชมตัวเองแบบนี้ดูไม่ค่อยดี ก็เลยเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง "ก็แค่ดูดีกว่าฮองเฮาแค่นิดเดียวเท่านั้น"พูดถึงจุดนี้ นางยังใช้มือวาดเปรียบเทียบ แต่ก็วาดขนาดที่ใหญ่ขนาดแตงโมใหญ่ลูกหนึ่งออกมา ไม่ได้นิดเดียวเลยจริงๆนี่เหมือนกับตบฉาดไปที่หน้าฮองเฮาตรงๆเลยฮองเฮาลมหายใจเร่งถี่ขึ้นมาแล้ว"แต่ว่า ความงามเดิมทีก็มีอยู่นับพันรูปแบบ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเอกภาพ เหล่าคุณหนูฮูหยินก็ล้วนมีคุณค่าของตน ข้าแค่ชนะเพราะจันทราโน้มเมืองชุดนี้ที่ท่านอ๋องของข้าเตรียมไว้ก็เท่านั้น"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน หมุนตัวเบาๆนางหมุนเช่นนี้ ชายกระโปรงก็หมุนพริ้ว จนส่องแสงระยับจับตา ทำให้คนสัมผัสได้ถึงภาพฉาก "จันทราโน้มเมือง" จริงๆพอชมหญิงสาวที่อยู่ในลานทั้งหมด แล้วยังสาดความรักออกมาอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังขานชื่อชุดกระโปรงทั้งตัวนี้ของนางออกมาอีกเหล่าหญิงสาวในลานพอได้ยินคำพูดของนางก็ล้วนชื่นชมเห็นด้วย ความงามมีอยู่นับพันแบบ ดังนั้นพวกนางเองก็งดงามเช่นกัน ฟู่จาวหนิงพูดได้ถู
พระชายาที่อภิเษกอย่างฉุกละหุกขนาดนั้น จะได้รับของดีมาตั้งมากมายได้อย่างไร?"อายวน เจ้าดูจะมีความรู้สึกให้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยนลึกซึ้งจริงๆ ของขนาดนี้ก็ยังมอบให้นางได้ พวกเจ้าคงไม่ได้รู้จักกันมาก่อนใช่ไหม?" องค์จักรพรรดิอดถามอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาไม่ได้เซียวเหยียนจิ่งจ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิงเขาตอนนี้ก็สงสัยเช่นกัน!ฟู่จาวหนิงอาจจะไปยั่วยวนอ๋องเจวี้ยนเอาไว้ตั้งนานแล้วไหม? หลังจากถูกเขาปฏิเสธ นางก็พุ่งเข้าไปหาอ้อมกอดของอ๋องเจวี้ยนทันที!ก่อนหน้านี้เห็นๆ อยู่ว่านางเอาแต่ไล่ตามเขา นางอยากจะแต่งงานกับเขา หรือว่านางหลอกเขามาตลอดกัน?"จาวหนิงเป็นพระชายาของข้า ถ้าข้าไม่นำสิ่งของให้นาง แล้วจะเอาไปให้ใครกัน" อ๋องเจวี้ยนถามขึ้นมาคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยื่นมือมาจับมือฟู่จาวหนิงเอาไว้ เอ่ยขึ้นกับนางอย่างอ่อนโยน "จาวหนิง นั่งเถอะ ยืนแล้วเหนื่อยนะ"เขาพานางนั่งลงมา ด้วยท่าทีเหมือนรักกันอย่างลึกซึ้งฟู่จาวหนิงยิ้มให้เขา ในดวงตากลับมีสายตาเย้ยหยันแสดง เขากำลังแสดง!ในจวนอ๋อง ตอนเขาให้คนเอาชุดนี้ออกมาก็บอกกับนางเอาไว้อย่างชัดเจน"ชุดกระโปรงนี้ให้เจ้ายืมใส่หนึ่งครั้ง คอยสนับสนุนสถานการณ์ ถึงอย่างไรตร
นี่ไม่ใช่การชม แต่ว่าแม่นางคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเออออกันพวกนางยอมรับคำพูดของฟู่จาวหนิง และเชื่อด้วยเพราะว่าพวกนางตอนนี้เห็นอ๋องเจวี้ยน แต่ในใจพวกนางก็ล้วนวาดโครงกันออกมาจนใจเต้นปึงปังถ้าสามารถสัมผัสระยะใกล้ได้ จากนั้นยังได้ยินอ่องเจวี้ยนใช้น้ำเสียงที่น่าดึงดูดนั่นพูดกับพวกนางอย่างอ่อนโยน พวกนางก็คงถูกทำให้เคลิบเคลิ้มอย่างแน่นอนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนเลยเหล่าชายหนุ่มกลับมีไฟโกรธกันขึ้นมาพวกเขาถูกชายที่สวมหน้ากากคนหนึ่งแซงขึ้นหน้าไปเสียแล้วหลายวันนี้ ในเมืองหลวงล้วนมีคนไม่น้อยที่เดาว่าใบหน้าอ๋องเจวี้ยนน่าจะพิกลพิการไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมปลดหน้ากากลงมา แล้วยังมีคนที่แอบถากถางประชะประชันเขารับหลังอีกด้วยจะเป็นอ๋องเจวี้ยนได้อย่างไร? เจวี้ยนคำนี้ไม่ได้เหมาะกับเขาที่ใบหน้าพิกลพิการหรอก น่าจะเรียกว่าอ๋องพิการไปเลยดีกว่าพอบวกกับร่างกายของเขาที่ย่ำแย่ขนาดนี้ คอยชุบเลี้ยงอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาตลอดหลายปี นั่นคือป่วยหนักแล้วจริงๆแต่ว่าตอนนี้พอเห็นสายตาของเหล่าคณหนูที่นี่ พวกนางล้วนรู้สึกเหมือนถูกตบฉาดเข้ามา"ทำไมข้าถึงจำได้ ว่าแต่ก่อ
ก็จริงนะรัฐทายาทเซียวตอนนั้นเป็นคู่หมั้นของนางนี่นางไล่ตามคู่หมั้นของตนเอง แม้จะเปิดกว้างไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดประเพณีนี่? ไม่ถือว่าหน้าไม่อายด้วย?"ยิ่งไปกว่านั้น ท่านปู่ของข้าตอนนั้นสุขภาพร่างกายก็ไม่ดี คนเราไม่ใช่มีคำว่าเติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้ายหรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงประโยคนี้พอพูดออกมา พวกของลู่ทงก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"เติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้าย?""ถูกต้อง ข้าก็คิดว่าจะเชื่อมันเสียหน่อย จึงไล่ตามคู่หมั้นของข้า อยากจะเติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้ายออกไป ถ้าทำให้อาการป่วยของปู่ข้าดีขึ้น มีอะไรไม่ถูกต้องกัน?"ฟู่จาวหนิงมององค์จักรพรรดิ "องค์จักรพรรดิ การกตัญญูเป็นสิ่งผิดหรือ? บิดามารดาข้าไม่อยู่ ท่านปู่เองก็ล้มป่วย ไม่มีผู้อาวุโสอยู่เลย เช่นนั้นข้าก็ต้องไปจัดการหารือเรื่องแต่งงานเอง มันไม่ถูกหรือ?"เอ่อองค์จักรพรรดิกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาตอนนี้ยังกล้าพูดว่าไม่ถูกได้หรือ?"ถูกสิ ฮะๆ ถูกต้อง"นี่มีอะไรที่ไม่ถูกต้องอีก?ก็แค่พฤติกรรมตรงไปตรงมาไปหน่อยเท่านั้น แต่อันที่จริงก็ไม่ถึงกับระดับที่คนต้องมาเย้ยหยันกันเสียหน่อย กลับกัน นางก็คิดถึงแต่ท่านปู่ พวกเขาเองที
องค์จักรพรรดิเข้าไกล่เกลี่ย ชินอ๋องเซียวรู้สึกขุ่นเคือง"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสของจิ่งเอ๋อร์ แต่ว่าเด็กก็แค่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปชั่วขณะ พอถูกคนอื่นทำให้หัวเราะก็โมโหขึ้นมา และไม่จำเป็นต้องมาเลาะฟันเาออกซี่นึงเช่นนี้นี่"ชินอ๋องเซียวมองเซียวหลันยวนมันน่าโกรธไหม? เขาโตกว่าเซียวหลันยวนถึงยี่สิบกว่าปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา กระทั่งฐานะยังต่ำกว่าเซียวหลันยวนหน่อยๆ อีกด้วยตอนที่เซียวหลันยวนยังเล็กมากในสมัยก่อน ตอนที่อายุสามขวบ เขาก็ต้องนอบน้อมคารวะต่อเด็กตัวเล็กคนหนึ่งไปแล้วตอนนี้เจ้าเด็กในตอนนั้นเติบโตมาแล้วยังแบกตัวตนฐานะอาวุโสมารังแกลูกชายเขาอีกนี่มันน่าโมโหจริงๆ"เด็ก?"เซียวหลันยวนเหล่พิจารณาตัวเซียวเหยียนจิ่งเรียบๆ"เขาเห็นโลกมากว่ายี่สิบปีแล้ว โตมาสูงกว่าเจ้าเสียอีก คนที่ทำให้สาวใช้ในห้องนอนมีลูกลับๆ ไปทั้งจวนเนี่ยนะ เรียกว่าเด็ก?"ประโยคนี้ของเซียวหลันยวนพอออกไป คนทั้งหมดในลานก็ครึกโครมขึ้นมา"อะไรนะ?""ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? " รัฐทายาทเซียวบุกห้องในจวน? แล้วยังมีลูกด้วย?ลูกขุนนางอย่างพวกเขา ล้วนปิดบังสายเลือดกันอย่างพิถีพิถัน ก่อนหน้าที่ภรรยาต
เพราะอะไรกัน?ทำไมเขาจึงรู้ละเอียดขนาดนี้?องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเองก็มองเซียวเหยียนจิ่งอย่างตกตะลึง ทั้งสองคนสีหน้าดำทมึนไปแล้วเพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย"เด็กคนนั้นพวกเจ้าแน่นอนว่าต้องรับไว้ ข้าจำได้ จวนชินอ๋องเซียวเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ซื้อตัวคนใช้ไปสองคน ฮูหยินคนนั้นตอนนั้นก็เพิ่งจะคลอดเด็กออกมา บอกว่าที่บ้านจนเพราะคลอดเด็ก จึงขายตัวเข้าไปในจวนชินอ๋องเซียว แต่ตัวเด็กให้คนแก่ที่บ้านดูแล บางครั้งพวกเขาก็ยังอุ้มเด็กไปเดินวนเวียนอยู่ที่จวนชินอ๋องเซียว บอกกับภายนอกว่าเป็นเด็กจากบ้านพวกเขา แต่อันที่จริงเด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า"เซียวหลันยวนพูดจบเหล่านี้ ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าสายตาตนเองแต่ก่อนมันแย่เสียเหลือเกิน?คนเช่นนี้ ผู้ชายเช่นนี้ นางกลับเอาแต่ไล่ตามจะเอามาให้ได้หรือ?พอคิดถึงเรื่องนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าในใจตนเองอึดอัดไปหมดฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบนางมองเห็นความดูถูกจากสายตาของเขาเอาล่ะๆๆ นางตาบอดไปเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นางเสียด้วย"รัฐทายาทยังไม่รับพระชายาเลย แต่กลับมีลูกเสียแล้ว ตอนนี้มารดาของลูกชายคนโตก็ยังเป็นสาวใช้
เหล่าคุณหนูพวกนี้พอเอ่ยถึงผู้ประสบภัย ก็มีสีหน้าหวาดกลัวและดูถูกพวกนางล้วนมีอำนาจในเมืองหลวง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผุ้ประสบภัยน่ะห่างจากพวกนางไกลโขเลยกระทั่งจินตนาการ พวกนางก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้ประสบภัยเป็นอย่างไรด้วยซ้ำคุณหนูเหล่านี้ไม่กล้าไปสถานที่วุ่นวายมาก่อน ในเมื่อเมืองเจ้อเต้มไปด้วยผู้ประสบภัย แล้วพวกนางจะกล้าไปได้อย่างไรกัน?"จริงด้วย ต่อให้มีผู้ประสบภัยหญิงมากแค่ไหน พวกเราเองจะไปช่วยอะไรได้? หรือว่าพวกเรายังต้องรับพวกนางกลับมาเมืองหลวงด้วย?""นั่นไม่ได้หรอก เมืองหลวงไม่มีทางให้ผู้ประสบภัยเข้ามาแน่""แล้วก็ ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ผู้ประสบภัยก็ยังเป็นผู้ประสบภัย ล้วนเป็นประชาชนชั้นต่ำทั้งนั้น" มีหญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าดุร้ายขึ้นมาหน่อยๆคำพูดนี้มีหลายคนที่ยอมรับ เพียงแต่ว่า ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเฉินฮ่าวปิงหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้เป็นคุณหนูจากตระกูลดังนะ แต่เรื่องใหญ่พวกนี้ก็ทำกันไม่ได้หรือ!แต่ว่านางต้องการเรื่องใหญ่สักเรื่องเพื่อสร้างความนิยมให้ตนเอง ให้คนทั้งแคว้นเจารู้จักท่านหญิงปิงอวี้ในทันทีถึงตอนที่นางมีชื่อเสียง มีบารมี องค์จักรพรรดิก็จะตบรางวัลให้นางอ
คนเหล่านี้ล้วนดูถูกนาง!ขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมานางสูดลมหายใจลึก ทำให้ตนเองสงบลงมาหน่อย จากนั้นจึงพูดเป้าหมายของวันนี้ออกมา"ข้าเองช่วงนี้ก็เพิ่งถูกท่านพ่อยอมรับ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ตัวตนฐานะของตัวเอง แต่ท่านพ่อก็บอกข้าแล้ว เขาจะให้ท่านแม่เป็นพระชายารอง องค์จักรพรรดิเองก็เห็นด้วย ข้ารู้ว่าทุกคนล้วนคิดว่าท่านแม่ข้าเป็นบ้านน้อย แต่หลังจากนี้ไม่ใช่แล้ว ข้าเองก็หวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกับทุกคน"ทุกคนเองก็คิดไม่ถึงว่านางจะพูดออกมาตรงๆ ว่าฮูหยินเฉินเป็นบ้านน้อย"เฮอะ อ๋องฉยงบอกจะให้แม่ของเจ้าเป็นพระชายารอง แล้วพระชายาอ๋องเจวี้ยนเห็นด้วยหรือยัง?" องค์หญิงหนานฉือเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจเฉินฮ่าวปิงข่มตัวเองไว้"องค์จักรพรรดิเห็นด้วยแล้ว เชื่อว่าพระชายาอ๋องฉยงคงไม่ขัดราชโองการแน่""เจ้านี่ชอบงัดองค์จักรพรรดิออกมาเหลือเกิน ว่ามา เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับที่เจ้าเรียกพวกเรามาวันนี้?""เป็นเช่นนี้ ข้าได้ยินว่าช่วงนี้แต่ละพื้นที่ล้วนประสบภัย มีผู้ประสบภายมากมาย คนมากมายพลัดพรากจากบ้าน ดังนั้นในใจคงลำบากมาก" เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้น"ชิ" องค์หญิงเจ็ดร้องเชอะขึ้นมาอย่าอดไม่อยู่นางม
การปักสองด้านของอันชิงโดดเด่นมากการปักสองด้านของฟางซือฉิงก็ดีมากพวกนางล้วนลงมือปักชุดแต่งงานของตนเองกันเอง ก่อนที่จะตกลงแต่งงานก็เริ่มปักกันแล้วตอนนี้จู่ๆ พอได้ยินว่ามีคนด้อยค่าการปักสองด้าน พวกนางจึงไม่ค่อยสบายใจนักแต่ว่า เมื่อครู่ได้เห็นโคมไฟวังงานปักที่ด้านนอกแล้ว พวกนางเองก็รู้เรื่องฝีมืองานปักของเฉินฮ่าวปิงมาระดับหนึ่ง และรู้ว่าพวกนางนั้นเทียบไม่ได้จริงๆประโยคเมื่อครู่นี้ คนที่พูดคือองค์หญิงหนานฉือองค์หญิงหนานฉือชอบการปักสองด้านอยู่โคมไฟวังงานปักเมื่อครู่เหล่านั้นก็ยังไม่ได้ดูดีดี แต่รู้สึกรำคาญหูและไม่ชอบในความอวดดีของเฉินฮ่าวปิงลูกสาวบ้านน้อยคนหนึ่ง จะมาอวดดีที่นี่ทำไมกัน? แล้วก็ เอางานปักพวกนี้ออกมาแสดงอย่างภาคภูมิใจ จะหยิ่งยโสขึ้นมาก็ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ถือดีอย่างไรมาด้อยค่าคนอื่นเขา? ต่อให้มันด้อยค่าจริง แต่ใช้สิ่งที่นางต้องมาพูดไหม?"คารวะองค์หญิงหนานฉือ"มีคนลุกขึ้นยืน คารวะไปทางองค์หญิงหนานฉือแต่ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิง ก็มีคนที่เยอะกว่าลุกขึ้นมา และล้วนคารวะให้แก่นาง "คารวะพระชายาอ๋องเจวี้ยน"ก่อนหน้านี้คนไม่น้อยในเมืองหลวงยังคิดจะย่ำฟู่จาวหนิงอยู่เลย แต่พ
"ท่านพ่อในเมื่อให้องค์จักรพรรดิแต่งตั้งข้าเป็นท่านหญิง นั่นก็คือ แน่นอนว่าให้สถานะกับแม่ข้าด้วย องค์หญิงเจ็ด หลังากนี้คำพูดอย่างลูกสาวบ้านน้อย ได้โปรดอย่าเอ่ยขึ้นอีกเลย" เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้นอย่างอย่างอดกลั้นเกินพอแล้ว!นางเป็นท่านหญิงแล้ว แล้วทำไมตัวตนลูกสาวบ้านน้อยถึงยังมากดอยู่บนตัวนางอีก?เดิมทีนางยังคิดจะแสดงออกถึงความสูงส่งความหยิ่งยโสสักหน่อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นท่านหญิงแล้ว แต่ถูกองค์หญิงเจ็ดพูดเช่นนี้ เกียรติของนางก็หล่นร่วงมาบนพื้นจนหมดชั่วขณะหนึ่ง เฉินฮ่าวปิงรู้สึกว่าสายตาคนทั้งหมดที่มองนางผิดปกติไป"ชิ"องค์หญิงเจ็ดไม่ใส่ใจถ้าไม่เห็นแก่หน้าพระชายาเยว่ นางไม่มีทางมาหรอกชิวอวิ๋นเดิมทีเป็นคนของพระชายาเยว่ ตอนนี้พอเห็นจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย"องค์หญิงเจ็ด องค์จักรพรรดิกับพระชายาเยว่ล้วนชื่นชอบงานปักของท่านหญิงมาก ท่านหญิงของพวกเราเองก็เตรียมของขวัญให้กับองค์หญิงเจ็ดและคุณหนูทุกท่านด้วย เป็นงานปักด้วยมือทั้งหมด หวังว่าทุกท่านจะชอบ"นางรีบไปนำของขวัญออกมาทุกคนล้วนได้รับผ้าไหมผืนหนึ่ง"ผ้าไหมประกายหิมะ?"มีแม่นางรับผ้าไหมไปแล้วจำได้ขึ้นมาผ้าไหมประกายหิมะยอดเยี่ยมกว
ดังนั้นคนไม่น้อยจึงหัวเราะเยาะนาง อยากจะดูว่านางจะใช้ชีวิตเวทนาแค่ไหนตอนนี้พอได้เห็น องค์หญิงหนานฉือก็เหมือนจะงดงามกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด สายตาพริ้วไหวดูมีเสน่ห์ดึงใจอย่างมาก"ดูจากสภาพขององค์หญิงหนานฉือ น่าจะได้รับความโปรดปรานน่าดูเลยกระมัง?""ผู้ตรวจการอันเป็นอัจฉริยะลือชื่อในเมืองหลวงเราเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังหล่อเหลามากด้วย"ใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้านี้ยังมีแม่นางตั้งมากมายชอบผู้ตรวจการอันเถอะ น่าเสียดายที่ผู้ตรวจการอันไม่ค่อยออกไปเที่ยว คนที่รู้จึงมีไม่เยอะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยบอกว่าไม่อยากรีบแต่งงานไม่เช่นนั้นจะวนมาถึงองค์หญิงหนานฉือได้อย่างไรกัน?ตอนนี้พอเห็นองค์หญิงหนานฉือดูดีราศีจับเหมือนเลี้ยงดูมาอย่างมีความสุขเช่นนี้ ก็มีแม่นางหลายคนอดรวดร้าวขึ้นมาไม่ได้ผู้ตรวจการอันต้องดีกับนางมากแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางไม่มีทางดูมีความสุขขนาดนี้"ตระกูลของผู้ตรวจการอันก็มีคุณธรรมด้วย ไม่มีการรับอนุภรรยา ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านั้นของพวกเรือนหลัง ดูท่าองค์หญิงหนานฉือกับน้องสะใภ้อันชิงก็น่าจะเข้ากันได้ดีด้วย"ฮือๆๆ มองพวกนางแล้วก็อิจฉาถ้ารู้ว่าจะมีความสุขแบบนี้ พวกนางคงหน้าด้านให้
แม่ลูกฮูหยินเฉินหลังจากมาถึงเมืองหลวงแคว้นเจา ตอนแรกสุดไม่มีที่จะอยู่ด้วยซ้ำ ยังต้องอาศัยอยู่กับต่งฮ่วนจืออยู่เลยดังนั้นถ้าบอกว่าพวกนางมีเงิน ฟู่จาวหนิงยิ่งไม่เชื่อฟางซือฉิงดูไปพักหนึ่งจึงเข้ามา บอกกับนางเสียงแผ่วว่า "โคมไฟวังพวกนี้ใช้ผ้าไหมวาวระยับของต้าชื่อมาปัก ผ้าไหมวาวระยับแพงมากเลยนะ ปกติต้งจะเอามาทำฉากกั้นลม พัดกลม หรือพวกหน้าต่างอะไรพวกนั้น คนปกติทั่วไปไม่มีทางได้ใช้""เจ้ารู้จักผ้าไหมวาวระยับด้วยหรือ?""พ่อข้าเปิดร้านผ้านี่นา ไม่ใช่แค่ขายแต่ผ้าที่บ้านพวกเราทำออกมาเท่านั้น ยังมีผ้าไหมชั้นดีที่หาจากแคว้นต่างๆที่แคว้นเจาไม่มีด้วย บางครั้งก็มีคนมาหาซื้อของที่โดดเด่นไม่มีใครซ้ำ ผ้าไหมวาวระยับนี่พวกเราก็มีอยู่หลายม้วน แพงมาก"ตระกูลฟางทำการค้ากว้างไกล รู้จักข้าวของก็กว้างตาม ฟางซือฉิงจึงรู้จึกมากขึ้นหน่อย"ถ้าอย่างนั้นโคมไฟวังมากขนาดนี้ ดูท่าแต่ละใบราคาคงไม่ธรรมดาเลย""ใช่ เดิมทีแค่ผ้าไหมวาวระยับก็แพงแล้ว บวกกับงานปักชั้นสูงนี่อีก ใบละร้อยตำลึงยังถือว่าถูกไปเลย" ฟางซือฉิงเอ่ยขึ้นพอนางพูดจบก็ยังประหลาดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีโคมไฟวังอยู่อย่างน้อยสิบหกใบแล้ว นี่ถือว่าไ
ยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่ฟู่จาวหนิงมาก่อนหน้านี้ประดับประดาเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างเช่น โคมไฟสลักงานปักที่เป็นเอกลักษณ์พวกนั้นตอนนี้แม้จะเป็นกลางวัน ดคมไฟวังยังไม่จุดสว่าง แต่ตอนกลางวันก็ยังมองเห็นงานเย็บปักด้านบนนั้นอย่างชัดเจน แต่ละชิ้นล้วนวิจิตรประณีต ฝีมือไม่ธรรมดามีคุณหนูหลายคนกำลังชื่นชมโคมไฟวังเหล่านั้น ดูชอบกันมาก แต่ละคนดูหลงใหลจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียว"ข้าอยากจะเอากลับไปสักใบจัง สวยกมากเลย เมืองหลวงของพวกเราไม่มีปรากฏโคมไฟงานปักแบบนี้มาก่อนเลย""สวยมากจริงๆ นั่นล่ะ ท่านหญิงปิงอวี้กับฮูหยินเฉินเอาแค่ฝีมือด้านนี้ ก็ทำให้พวกนางเป็นที่สนใจในเมืองหลวงได้แล้ว"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำวิจารณ์ของเหล่าแม่นางพวกนั้น ฟางซือฉิงเองก็ดูสนใจกับโคมไฟวังเหล่านั้นเหมือนกัน มองๆ ฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ประหลาดใจหน่อยๆ"ทำไมหรือ? เจ้าอยากไปดูโคมไฟวังพวกนั้นหรือ? อยากดูก็ไปดูสิ""เจ้าไม่ใช่ไม่ชอบเฉินฮ่าวปิงหรือ? เจ้าไม่ชอบ ข้าก็ไม่ชอบ" เฉินฮ่าวปิงบอกฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่"ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้น ถึงข้าจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับเฉินฮ่าวปิงนัก แต่ว่า งานปักของพวกนางก็ประณีตสวยง
ฟู่จาวหนิงหัวเราะ"ความสัมพันธ์มันก่อตัวขึ้นมานั่นล่ะ ก่อหนน้านี้ก็มีช่วงที่เขาทำให้ข้าโมโหแทบคลั่งตายเหมือนกัน"ยิ่งไปกว่านั้นตอนแรกสุด พวกเขายังมีความสัมพันธ์แบบจะฆ่ากันตายจริงๆ ด้วยก่อนหน้านางนี้นางแอบด่าเซียวหลันยวนว่าเป็นผู้ชายหมาๆ น้อยเสียที่ไหน"จริงหรือ? ตอนนี้มองไม่ออกเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะทำให้เจ้าโมโหได้"ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะเชื่อว่าอ๋องเจวี้ยนที่ถูกือกันว่าเย็นชาอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไร จะโปรดปรานฟู่จาวหนิงเสียขนาดนี้?น้ำเสียงเวลาพูดจาก็หวานหยดย้อย"ตอนนี้ดีมากจริงๆ"โดยเฉพาะเมื่อคือน หลังจากที่พูดว่าไม่อยากให้นางมีโอกาสต้องดื่มยาน้ำเลี่ยงตั้งครรภ์ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนหล่อเหลากว่าแต่ก่อนเยอะเลยชายหนุ่มที่สามารถสะกดความบุ่มบ่ามของตนเองเพื่อสุขภาพร่างกายของนางได้ ต้องบวกคะแนนให้จริงๆ"แต่ว่า จาวหนิง อ๋องเจวี้ยนยังคงสวมหน้ากากอยู่ หน้าของเขายังไม่ดีขึ้นหรือ?"หลังจากฟางซือฉิงเข้ามา เซียวหลันยวนก็สวมหน้ากากไว้แล้วเมื่อวานนางไม่กล้ามองหน้าเขา วันนี้ก็มองไม่เห็นหน้าเขาแล้วฟางซือฉิงเดิมทีรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดมาก กลัวว่าถ้าไปสาดเกลือใส่แผลฟู่จาวหน
"พรวด" ฟู่จาวหนิงสนุกขึ้นมาแล้ว "มองมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่เบื่ออีกหรือ?"ได้ยินว่าชายหนุ่มรักความสดใหม่ ไม่ว่าภรรยาจะสวยแค่ไหน ดอกไม้ป่าข้างนอกที่แตกต่างก็ย่อมดึงดูดพวกเขาได้"ไม่มีทางเบื่อ" เซียวหลันยวนกอดนาง"ท่านรักข้าแค่เปลือกนอกจริงๆ ด้วย" ฟู่จาวหนิงจงใจพูดขึ้น"รักหมดนั่นล่ะ รูปลักษณ์ของเจ้าข้าชอบหมด แต่ถ้ามีแต่รูปลักษณ์ภายนอก คงชอบได้ไม่นานนัก ทว่าพอมีเจ้าอยู่ด้านใน ความชอบนี้จึงยั่งยืนยาวนาน"ใครไม่รักความสวยความงามบ้างล่ะ? แต่ความงามก็เป็นแค่ความประทับใจแรกพบ หากจะทำให้ยั่งยืน ก็ต้องมีจิตวิญญาณด้วยเขาโชคดีแค่ไหน ที่มีภรรยาแบบนี้ ภายนอกกับจิตวิญญาณเขารักมันทั้งหมด"เซียวหลันยวน ท่านตอนนี้ยิ่งปากหวานขึ้นทุกวันแล้วนะ"ฟู่จาวหนิงเพิ่งเงยหน้า ริมฝีปากก็ถูกเขากดลงมา"ประทินปาก..." ของข้าประทินปากของฟู่จาวหนิงนางทำขึ้นมาเอง ใส่แต่วัตถุดิบที่ไม่มีพิษอย่างพวกน้ำผึ้งดอกไม้เข้าไป ดังนั้นจึงดูมันวาวเป็นพิเศษ แล้วยังเป็นสีธรรมชาติ ไม่เหมือนกับที่ด้านนอกขายกัน ที่มีแต่แดงก่ำ แดงดอกท้อ แดงเลือดดันั้นหลังจากทาแล้วจึงดูน่าดึงดูดพอเห็นนาง เซียวหลันยวนก็อดเข้ามาจูบไม่ได้แล้วจู