ก็จริงนะรัฐทายาทเซียวตอนนั้นเป็นคู่หมั้นของนางนี่นางไล่ตามคู่หมั้นของตนเอง แม้จะเปิดกว้างไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดประเพณีนี่? ไม่ถือว่าหน้าไม่อายด้วย?"ยิ่งไปกว่านั้น ท่านปู่ของข้าตอนนั้นสุขภาพร่างกายก็ไม่ดี คนเราไม่ใช่มีคำว่าเติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้ายหรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงประโยคนี้พอพูดออกมา พวกของลู่ทงก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"เติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้าย?""ถูกต้อง ข้าก็คิดว่าจะเชื่อมันเสียหน่อย จึงไล่ตามคู่หมั้นของข้า อยากจะเติมความสุขเพื่อขับไล่โชคร้ายออกไป ถ้าทำให้อาการป่วยของปู่ข้าดีขึ้น มีอะไรไม่ถูกต้องกัน?"ฟู่จาวหนิงมององค์จักรพรรดิ "องค์จักรพรรดิ การกตัญญูเป็นสิ่งผิดหรือ? บิดามารดาข้าไม่อยู่ ท่านปู่เองก็ล้มป่วย ไม่มีผู้อาวุโสอยู่เลย เช่นนั้นข้าก็ต้องไปจัดการหารือเรื่องแต่งงานเอง มันไม่ถูกหรือ?"เอ่อองค์จักรพรรดิกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาตอนนี้ยังกล้าพูดว่าไม่ถูกได้หรือ?"ถูกสิ ฮะๆ ถูกต้อง"นี่มีอะไรที่ไม่ถูกต้องอีก?ก็แค่พฤติกรรมตรงไปตรงมาไปหน่อยเท่านั้น แต่อันที่จริงก็ไม่ถึงกับระดับที่คนต้องมาเย้ยหยันกันเสียหน่อย กลับกัน นางก็คิดถึงแต่ท่านปู่ พวกเขาเองที
องค์จักรพรรดิเข้าไกล่เกลี่ย ชินอ๋องเซียวรู้สึกขุ่นเคือง"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสของจิ่งเอ๋อร์ แต่ว่าเด็กก็แค่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปชั่วขณะ พอถูกคนอื่นทำให้หัวเราะก็โมโหขึ้นมา และไม่จำเป็นต้องมาเลาะฟันเาออกซี่นึงเช่นนี้นี่"ชินอ๋องเซียวมองเซียวหลันยวนมันน่าโกรธไหม? เขาโตกว่าเซียวหลันยวนถึงยี่สิบกว่าปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา กระทั่งฐานะยังต่ำกว่าเซียวหลันยวนหน่อยๆ อีกด้วยตอนที่เซียวหลันยวนยังเล็กมากในสมัยก่อน ตอนที่อายุสามขวบ เขาก็ต้องนอบน้อมคารวะต่อเด็กตัวเล็กคนหนึ่งไปแล้วตอนนี้เจ้าเด็กในตอนนั้นเติบโตมาแล้วยังแบกตัวตนฐานะอาวุโสมารังแกลูกชายเขาอีกนี่มันน่าโมโหจริงๆ"เด็ก?"เซียวหลันยวนเหล่พิจารณาตัวเซียวเหยียนจิ่งเรียบๆ"เขาเห็นโลกมากว่ายี่สิบปีแล้ว โตมาสูงกว่าเจ้าเสียอีก คนที่ทำให้สาวใช้ในห้องนอนมีลูกลับๆ ไปทั้งจวนเนี่ยนะ เรียกว่าเด็ก?"ประโยคนี้ของเซียวหลันยวนพอออกไป คนทั้งหมดในลานก็ครึกโครมขึ้นมา"อะไรนะ?""ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? " รัฐทายาทเซียวบุกห้องในจวน? แล้วยังมีลูกด้วย?ลูกขุนนางอย่างพวกเขา ล้วนปิดบังสายเลือดกันอย่างพิถีพิถัน ก่อนหน้าที่ภรรยาต
เพราะอะไรกัน?ทำไมเขาจึงรู้ละเอียดขนาดนี้?องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเองก็มองเซียวเหยียนจิ่งอย่างตกตะลึง ทั้งสองคนสีหน้าดำทมึนไปแล้วเพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย"เด็กคนนั้นพวกเจ้าแน่นอนว่าต้องรับไว้ ข้าจำได้ จวนชินอ๋องเซียวเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ซื้อตัวคนใช้ไปสองคน ฮูหยินคนนั้นตอนนั้นก็เพิ่งจะคลอดเด็กออกมา บอกว่าที่บ้านจนเพราะคลอดเด็ก จึงขายตัวเข้าไปในจวนชินอ๋องเซียว แต่ตัวเด็กให้คนแก่ที่บ้านดูแล บางครั้งพวกเขาก็ยังอุ้มเด็กไปเดินวนเวียนอยู่ที่จวนชินอ๋องเซียว บอกกับภายนอกว่าเป็นเด็กจากบ้านพวกเขา แต่อันที่จริงเด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า"เซียวหลันยวนพูดจบเหล่านี้ ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าสายตาตนเองแต่ก่อนมันแย่เสียเหลือเกิน?คนเช่นนี้ ผู้ชายเช่นนี้ นางกลับเอาแต่ไล่ตามจะเอามาให้ได้หรือ?พอคิดถึงเรื่องนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าในใจตนเองอึดอัดไปหมดฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบนางมองเห็นความดูถูกจากสายตาของเขาเอาล่ะๆๆ นางตาบอดไปเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นางเสียด้วย"รัฐทายาทยังไม่รับพระชายาเลย แต่กลับมีลูกเสียแล้ว ตอนนี้มารดาของลูกชายคนโตก็ยังเป็นสาวใช้
เพราะอะไรกัน?ทำไมเขาจึงรู้ละเอียดขนาดนี้?องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเองก็มองเซียวเหยียนจิ่งอย่างตกตะลึง ทั้งสองคนสีหน้าดำทมึนไปแล้วเพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย"เด็กคนนั้นพวกเจ้าแน่นอนว่าต้องรับไว้ ข้าจำได้ จวนชินอ๋องเซียวเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ซื้อตัวคนใช้ไปสองคน ฮูหยินคนนั้นตอนนั้นก็เพิ่งจะคลอดเด็กออกมา บอกว่าที่บ้านจนเพราะคลอดเด็ก จึงขายตัวเข้าไปในจวนชินอ๋องเซียว แต่ตัวเด็กให้คนแก่ที่บ้านดูแล บางครั้งพวกเขาก็ยังอุ้มเด็กไปเดินวนเวียนอยู่ที่จวนชินอ๋องเซียว บอกกับภายนอกว่าเป็นเด็กจากบ้านพวกเขา แต่อันที่จริงเด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า"เซียวหลันยวนพูดจบเหล่านี้ ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าสายตาตนเองแต่ก่อนมันแย่เสียเหลือเกิน?คนเช่นนี้ ผู้ชายเช่นนี้ นางกลับเอาแต่ไล่ตามจะเอามาให้ได้หรือ?พอคิดถึงเรื่องนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าในใจตนเองอึดอัดไปหมดฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบนางมองเห็นความดูถูกจากสายตาของเขาเอาล่ะๆๆ นางตาบอดไปเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นางเสียด้วย"รัฐทายาทยังไม่รับพระชายาเลย แต่กลับมีลูกเสียแล้ว ตอนนี้มารดาของลูกชายคนโตก็ยังเป็นสาวใช้
หมอเทวดาหลี่จ้องสีหน้าของเซียวเหยียนจิ่งเขม็งเขาเองก็มองออกแล้ว ปฏิกิริยานั่นของเซียวเหยียนจิ่ง ก็ถูกอ๋องเจวี้ยนพูดความจริงจี้ใจดำเรื่องนั้นเป็นความจริงเขามองไปทางลูกสาว"จื่อเหยา รัฐทายาทเซียว..."หลี่จื่อเหยากลับรับแรงกระแทกนี้ไม่ไหว ปิดปากร้องไห้โฮขึ้นมาการร้องไห้นี้ สายตาคนทั้งหมดจึงมองมาทางนางสีหน้าชินอ๋องเซียวกับเซียวเหยียนจิ่งดำทมึนขึ้นไปอีกหลี่จื่อเหยาจู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาในช่วงสำคัญเช่นนี้มันเกิดอะไรขึ้น?"พี่เซียวทำไมจึงเป็นเช่นนี้!"หลี่จื่อเหยายืนขึ้นมา ร้องไปทางเซียวเหยียนจิ่งอย่างเสียใจ จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งไปทางประตูตำหนักได้ยินเสียงร้องไห้ของนางห่างออกไป ทั่วทั้งลานก็เงียบงันคนทั้งหมดล้วนมองไปทางเซียวเหยียนจิ่งเรื่องนี้คงอธิบายได้ยากแล้วใช่ไหม?แม่นางหลี่ที่อยู่กับเซียวเหยียนจิ่งมาตลอดพอรู้ว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนพูดเป็นเรื่องจริง! ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางเช่นนี้ของแม่นางหลี่ ก็อธิบายได้แล้วใช่ไหมว่าระหว่างนางกับรัฐทายาทเซียวเองก็ยังไม่แน่ไม่นอน?ตอนนี้แม่นางหลี่รู้สึกว่าถูกหลอก จึงเสียอกเสียใจสินะรัฐทายาทเซียวยังล้อเล่นกับแม่นางอีกคนหรือ?"่จุ๊ๆๆ รู
อ๋องเจวี้ยนให้ความรู้สึกแปลกๆ กับนาง ที่แปลกก็คือฟู่จาวหนิงก็ให้ความรู้สึกเช่นนี้กับนางดื่มกินสุราอาหารกันแล้ว บรรยากาศเปลี่ยนกลับมาเสียทีจากนั้นก็มีนางรำขึ้นมาร่ายรำไปบทเพลงหนึ่ง ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วยฟู่จาวหนิงไม่ค่อยได้กินอาหารบนโต๊ะเท่าไรนักเซียวหลันยวนพบว่าในมือนางถือถุงผ้าใบเล็กไว้ ประเดี๋ยวประด๋าวก็หยิบเม็ดถั่วด้านในออกมากิน"อาหารไม่ถูกปากหรือ?" เขาถามนางขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"เย็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะน่าสนใจ" ฟู่จาวหนิงตอบกลับคำหนึ่ง "ท่านเองก็ไม่เห็นจะกินนี่?"นางชิมไปแล้วหลายคำ แต่เขากลับไม่แตะเลยแม้แต่น้อย"กระเพาะไม่ค่อยดี" เซียวหลันยวนตอบกลับมาคำหนึ่ง"เมื่อครู่เรื่องนั้นที่พูดมาเป็นเรื่องจริงไหม?" ฟู่จาวหนิงเขยิบชิดเข้าไป"แล้วเจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ตอบกลับดีดีหน่อยไม่ได้หรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ ไม่เดาแล้ว อันที่จริงที่นางรู้มาจะต้องเป็นเรื่องจริงแน่ เขาไม่จำเป็นต้องดึงคนอื่นลากลงน้ำไปด้วยเรื่องราวเดิมทีจะต้องเป็นเช่นนี้แน่ เขาก็แค่เปิดโปงออกมาฮองเฮาตอนนี้มองไปทางอันชิง"คุณหนูตระกูลอันเข้าวังมาเป็นครั้งแรกหรือ?"ถึงแม้ตอนที่นางพูดประโยคนี้น้ำเสียงจะดูอ
"บังอาจนัก!"ฮองเฮารู้สึกทนไม่ไหวแล้ว ตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงขึ้นมาคำหนึ่งมาบอกว่าฮองเฮาอย่างนางเอาแต่ฟังคนพูดเรื่องไร้สาระหรือ!ฟู่จาวหนิงเห็นนางเป็นฮองเฮาในสายตาหรือไม่กัน?"ฮองเฮา ข้าแค่อยากจะบอกความจริงกับท่านเท่านั้น ไม่ได้บังอาจอะไร เรื่องที่ฮองเฮาถามข้าเองก็เข้าใจมากกว่าจริงๆ จะบอกว่าข้าพูดไม่ได้หรือ?"ฟู่จาวหนิงย้อนถาม สีหน้าดูบริสุทธิ์ไม่มีความผิดคนทั้งหมดล้วนถูกยั่วน้ำลายกันหมดแล้วพวกเขาอันที่จริงก็อยากรู้ ว่าทำไมเรื่องของอันชิง ฟู่จาวหนิงจึงบอกว่านางเข้าใจชัดเจนกว่าตัวอันชิงไม่ใช่กำลังจะส่งตัวอันชิงไปหาอ๋องเจวี้ยนแล้วหรอกหรือ? ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนทำไมจึงดูไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย?"เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าพูดมา ข้าจะฟัง พระชายาอ๋องเจวี้ยน""อันที่จริงก็ง่ายดายมาก มีพวกสุนัขใจดำบางคน ใช้พิษที่รุนแรง ทำเรื่องที่ฟ้ายังต้องแค้นคนยังต้องเคืองขึ้นมา"ฟังถึงจุดนี้ อี้ไห่ก็รู้สึกว่าตนเองถูกด่ากราดไปแล้วโดยเฉพาะตอนที่ฟู่จาวหนิงกำลังด่าก็ยังเหลือบมองมาทางเขา คนทั้งหมดก็สังเกตเห็น ตอนนี้ทุกคนก็มองมาทางเขาเช่นกัน"พระชายาอ๋องเจวี้ยน! เจ้าต้องระวังหน่อยนะ!"ฮองเฮาตะค
ไม่ค่อยเหมือนกับที่เคยได้ยินข่าวลือมาแต่ก่อนเลย"ข้าพูดถึงไหนแล้วนะ?"ฟู่จาวหนิงขบคิดอย่างละบากขึ้นมาลู่ทงยกมือขึ้น "ข้ารู้ข้ารู้ พูดถึงคนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้น!""อ่าใช่ๆๆ"ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้เขา ลู่ทงเองก็ดูสนุกขึ้นมาเสียแล้วลูกพี่หนิงนี่สนุกดีจริงๆ!"คนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้นจะเอาภาระรับผิดชอบมาแบกไว้เอง เพียงแต่ทุกคนที่มีสมองเสียหน่อยก็จะรู้ว่า เรื่องนี้คนที่ได้ประโยชน์ตอนหลังสุด ถึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนที่อยู่หลังม่าน หลังจากเรื่องของแม่นางอันถูกลือไปในเมืองหลวง ทั่วทั้งเมืองมีใครสักคนพูดบ้างไหมว่านางสุดท้ายต้องออกเรือนกับต้วนจ้ง?ทุกคนฟังแล้วใจสั่นกึกขนาดอี้ไห่เองก็ยังได้สติขึ้นมาจริงด้วย ไม่มีเลย!ทิศทางการปล่อยข่าวลือ ล้วนตรงไปที่ตนเองกับอ๋องเจวี้ยนทั้งนั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงต้วนจ้งเลย!เพราะอี้ไห่ตนเองไม่เคยคิดจะให้อันชิงกับต้วนจ้งไปอยู่ด้วยกันนั่นไง เขามองอันชิงเป็นเหมือนสิ่งของที่ตนเองครอบครองไปแล้ว แล้วจะให้นางไปข้องเกี่ยวกับคนใช้ของตนเองทำไม?ตอนนี้จึงมีช่องโหว่ขึ้นมาแล้ว!เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงด้วยสายตาลึกหยั่งขนาดเขาก็ยังไม่ได้คิดถึงมุมมองนี้มาก่อ