หมอเทวดาหลี่จ้องสีหน้าของเซียวเหยียนจิ่งเขม็งเขาเองก็มองออกแล้ว ปฏิกิริยานั่นของเซียวเหยียนจิ่ง ก็ถูกอ๋องเจวี้ยนพูดความจริงจี้ใจดำเรื่องนั้นเป็นความจริงเขามองไปทางลูกสาว"จื่อเหยา รัฐทายาทเซียว..."หลี่จื่อเหยากลับรับแรงกระแทกนี้ไม่ไหว ปิดปากร้องไห้โฮขึ้นมาการร้องไห้นี้ สายตาคนทั้งหมดจึงมองมาทางนางสีหน้าชินอ๋องเซียวกับเซียวเหยียนจิ่งดำทมึนขึ้นไปอีกหลี่จื่อเหยาจู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาในช่วงสำคัญเช่นนี้มันเกิดอะไรขึ้น?"พี่เซียวทำไมจึงเป็นเช่นนี้!"หลี่จื่อเหยายืนขึ้นมา ร้องไปทางเซียวเหยียนจิ่งอย่างเสียใจ จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งไปทางประตูตำหนักได้ยินเสียงร้องไห้ของนางห่างออกไป ทั่วทั้งลานก็เงียบงันคนทั้งหมดล้วนมองไปทางเซียวเหยียนจิ่งเรื่องนี้คงอธิบายได้ยากแล้วใช่ไหม?แม่นางหลี่ที่อยู่กับเซียวเหยียนจิ่งมาตลอดพอรู้ว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนพูดเป็นเรื่องจริง! ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางเช่นนี้ของแม่นางหลี่ ก็อธิบายได้แล้วใช่ไหมว่าระหว่างนางกับรัฐทายาทเซียวเองก็ยังไม่แน่ไม่นอน?ตอนนี้แม่นางหลี่รู้สึกว่าถูกหลอก จึงเสียอกเสียใจสินะรัฐทายาทเซียวยังล้อเล่นกับแม่นางอีกคนหรือ?"่จุ๊ๆๆ รู
อ๋องเจวี้ยนให้ความรู้สึกแปลกๆ กับนาง ที่แปลกก็คือฟู่จาวหนิงก็ให้ความรู้สึกเช่นนี้กับนางดื่มกินสุราอาหารกันแล้ว บรรยากาศเปลี่ยนกลับมาเสียทีจากนั้นก็มีนางรำขึ้นมาร่ายรำไปบทเพลงหนึ่ง ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วยฟู่จาวหนิงไม่ค่อยได้กินอาหารบนโต๊ะเท่าไรนักเซียวหลันยวนพบว่าในมือนางถือถุงผ้าใบเล็กไว้ ประเดี๋ยวประด๋าวก็หยิบเม็ดถั่วด้านในออกมากิน"อาหารไม่ถูกปากหรือ?" เขาถามนางขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"เย็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะน่าสนใจ" ฟู่จาวหนิงตอบกลับคำหนึ่ง "ท่านเองก็ไม่เห็นจะกินนี่?"นางชิมไปแล้วหลายคำ แต่เขากลับไม่แตะเลยแม้แต่น้อย"กระเพาะไม่ค่อยดี" เซียวหลันยวนตอบกลับมาคำหนึ่ง"เมื่อครู่เรื่องนั้นที่พูดมาเป็นเรื่องจริงไหม?" ฟู่จาวหนิงเขยิบชิดเข้าไป"แล้วเจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ตอบกลับดีดีหน่อยไม่ได้หรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ ไม่เดาแล้ว อันที่จริงที่นางรู้มาจะต้องเป็นเรื่องจริงแน่ เขาไม่จำเป็นต้องดึงคนอื่นลากลงน้ำไปด้วยเรื่องราวเดิมทีจะต้องเป็นเช่นนี้แน่ เขาก็แค่เปิดโปงออกมาฮองเฮาตอนนี้มองไปทางอันชิง"คุณหนูตระกูลอันเข้าวังมาเป็นครั้งแรกหรือ?"ถึงแม้ตอนที่นางพูดประโยคนี้น้ำเสียงจะดูอ
"บังอาจนัก!"ฮองเฮารู้สึกทนไม่ไหวแล้ว ตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงขึ้นมาคำหนึ่งมาบอกว่าฮองเฮาอย่างนางเอาแต่ฟังคนพูดเรื่องไร้สาระหรือ!ฟู่จาวหนิงเห็นนางเป็นฮองเฮาในสายตาหรือไม่กัน?"ฮองเฮา ข้าแค่อยากจะบอกความจริงกับท่านเท่านั้น ไม่ได้บังอาจอะไร เรื่องที่ฮองเฮาถามข้าเองก็เข้าใจมากกว่าจริงๆ จะบอกว่าข้าพูดไม่ได้หรือ?"ฟู่จาวหนิงย้อนถาม สีหน้าดูบริสุทธิ์ไม่มีความผิดคนทั้งหมดล้วนถูกยั่วน้ำลายกันหมดแล้วพวกเขาอันที่จริงก็อยากรู้ ว่าทำไมเรื่องของอันชิง ฟู่จาวหนิงจึงบอกว่านางเข้าใจชัดเจนกว่าตัวอันชิงไม่ใช่กำลังจะส่งตัวอันชิงไปหาอ๋องเจวี้ยนแล้วหรอกหรือ? ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนทำไมจึงดูไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย?"เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าพูดมา ข้าจะฟัง พระชายาอ๋องเจวี้ยน""อันที่จริงก็ง่ายดายมาก มีพวกสุนัขใจดำบางคน ใช้พิษที่รุนแรง ทำเรื่องที่ฟ้ายังต้องแค้นคนยังต้องเคืองขึ้นมา"ฟังถึงจุดนี้ อี้ไห่ก็รู้สึกว่าตนเองถูกด่ากราดไปแล้วโดยเฉพาะตอนที่ฟู่จาวหนิงกำลังด่าก็ยังเหลือบมองมาทางเขา คนทั้งหมดก็สังเกตเห็น ตอนนี้ทุกคนก็มองมาทางเขาเช่นกัน"พระชายาอ๋องเจวี้ยน! เจ้าต้องระวังหน่อยนะ!"ฮองเฮาตะค
ไม่ค่อยเหมือนกับที่เคยได้ยินข่าวลือมาแต่ก่อนเลย"ข้าพูดถึงไหนแล้วนะ?"ฟู่จาวหนิงขบคิดอย่างละบากขึ้นมาลู่ทงยกมือขึ้น "ข้ารู้ข้ารู้ พูดถึงคนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้น!""อ่าใช่ๆๆ"ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้เขา ลู่ทงเองก็ดูสนุกขึ้นมาเสียแล้วลูกพี่หนิงนี่สนุกดีจริงๆ!"คนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้นจะเอาภาระรับผิดชอบมาแบกไว้เอง เพียงแต่ทุกคนที่มีสมองเสียหน่อยก็จะรู้ว่า เรื่องนี้คนที่ได้ประโยชน์ตอนหลังสุด ถึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนที่อยู่หลังม่าน หลังจากเรื่องของแม่นางอันถูกลือไปในเมืองหลวง ทั่วทั้งเมืองมีใครสักคนพูดบ้างไหมว่านางสุดท้ายต้องออกเรือนกับต้วนจ้ง?ทุกคนฟังแล้วใจสั่นกึกขนาดอี้ไห่เองก็ยังได้สติขึ้นมาจริงด้วย ไม่มีเลย!ทิศทางการปล่อยข่าวลือ ล้วนตรงไปที่ตนเองกับอ๋องเจวี้ยนทั้งนั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงต้วนจ้งเลย!เพราะอี้ไห่ตนเองไม่เคยคิดจะให้อันชิงกับต้วนจ้งไปอยู่ด้วยกันนั่นไง เขามองอันชิงเป็นเหมือนสิ่งของที่ตนเองครอบครองไปแล้ว แล้วจะให้นางไปข้องเกี่ยวกับคนใช้ของตนเองทำไม?ตอนนี้จึงมีช่องโหว่ขึ้นมาแล้ว!เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงด้วยสายตาลึกหยั่งขนาดเขาก็ยังไม่ได้คิดถึงมุมมองนี้มาก่อ
ฮองเฮารู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกขึ้นมา แน่นเสียจนเกือบจะตาเหลือกหงายหลังสลบไปน่าโมโหมันน่าโมโหเสียจริง!ฟู่จาวหนิงนางกล้าดีอย่างไรกัน!นางเป็นฮองเฮานะ!เดิมทีก็เป็นพระมารดาแห่งใต้หล้า อยู่ใต้เพียงคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น คนอื่นเวลาพูดกับนางก็ยังต้องเคารพยำเกรง แล้วฟู่จาวหนิงมาบอกว่ายาที่นางรู้จักมันเป็นยาชั่วร้าย เป็นยาสกปรกที่เอาไว้ทำเรื่องเลวๆ!ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องจริง แต่ใครบ้างที่กล้าถามมาตรงๆ เช่นนี้?องค์จักรพรรดิเห็นฮองเฮาโมโหจนหน้าแดงก่ำ จึงรีบตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงคำหนึ่ง "พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้านี่พูดจาอย่างไรกัน?"องค์จักรพรรดิมาปกป้องภรรยาแล้ว เซียวหลันยวนก็หัวเราะเรียบๆ เอ่ยขึ้นบ้างแล้วเช่นกัน"หนิงหนิงพูดผิดหรือไรกัน? ยาที่ลือกันไปทั้งเมือง พรรณนากันว่าเป็นยาสกปรก""นี่ มันก็ใช่นั่นล่ะ"องค์จักรพรรดิตะลึงงันรู้สึกตัวขึ้นมา พวกเขาเพราะอะไรถึงเดินตามจังหวะของฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด?เขาหน้าขรึมลงอีกครั้ง "ตอนนี้พูดกันถึงแต่ยานี้ แล้วยังบอกว่าไม่สามารถถอนพิษได้ พระชายาอ๋องเจวี้ยนนางบอกว่าทำไม แต่ก็ยังพูดว่าพูดจนเหลวไหลหรือ?""ข้ากล้าพูดออกมา แน่นอนว่าเพราะข้ายืนยันได้น
"แน่นอนว่าไม่ใช่หาคนมาส่งเดช มีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่แล้ว ต้วนจ้ง เจ้าไม่ใช้คิดจะทำร้ายแม่นางอันหรอกหรือ?เจ้าทางนั้นยังมียาอยู่พอดี เดิมทีเขาก็มีความผิดอยู่แล้ว ตอนนี้ให้เขาทดลองชิมยาที่ตนเองซื้อมาสิ ข้าเชื่อว่าทุกคนคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?"คนที่ใช้วิธีสกปรกคิดจะพรากพรหมจรรย์ของเด็กสาวคนหนึ่งเช่นนี้ ใครจะกล้ามีความเห็นกัน?สีหน้าอี้ไห่เปลี่ยนไปอันที่จริงเขาก็คิดจะปกป้องต้วนจ้งเอาไว้ ไม่เช่นนั้นก็ให้ต้วนจ้งแบกความซวยแทนเขาไปเลย แต่ในเมื่อต้วนจ้งแบกความซวยไปแล้ว เช่นนั้นก็แสดงประโยชน์ออกมาเสีย ลากเซียวหลันยวนกับอชิงลงน้ำไปให้หมดถ้าทำให้ฟู่จาวหนิงพิสูจน์ได้ว่าพิษมันถอนได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้อะไรกลับมาเลยหรือ?"อ๋องเจวี้ยนคิดจะให้คนตั้งมากมายเห็นสภาพน่าเกลียดของต้วนจ้งหลังจากดื่มยาลงไปหรือ? คิดถึงเหล่าฮูหยินเหล่าคุณหนูกันบ้างไหม?"อี้ไห่เอ่ยเสียงขรึมมองเซียวหลันยวนคนอื่นเองก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนัก ต้องมาดูปฏิกิริยาของคนที่กินยาสกปรกพรรณนั้นลงไป แล้วหน้าบางๆ ของเหล่าหญิงสาวเหล่าฮูหยินจะรับไหวหรือ?ร่างกายของอันชิงกำลังสั่นเทาตอนนี้นางเองก็รู้แล้ว คนทั้งเมืองเองก็
ต้วนจ้งมือเท้าแม้จะถูกตีจนหัก แต่นั่งบนถื้นบิดไปมาก็ยังทำได้อยู่เขาไม่ถูกอนุญาตให้เข้าตำหนัก แต่ถูกกรอกยาอยู่ในสวนด้านนอกคนทั้งหมดล้วนออกจากตำหนัก และเห็นว่าไม่ห่างออกไปนัก ต้วนจ้งยังไม่รู้ว่าตนเองถูกกรอกอะไรลงไป แต่เขารู้ว่านี่เข้าวังมาแล้ว อี้ไป่จะต้องอยู่แน่นอนองค์จักรพรรดิฮองเฮาเองก็อยู่ด้วยเขารู้สึกว่าถ้าตนเองแสดงท่าทีออกมาได้ดีหน่อย บางทีอี้ไห่อาจจะช่วยเหลือเขาได้เพราะในจวนอ๋องเจวี้ยน เขาประเดี๋ยวก็ถูกกรอกน้ำประหลาดๆ ไปบางส่วน หลังจากดื่มแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรพิเศษดังนั้นตอนนี้ต้วนจ้งเองก็คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นยาใจละเมอเขารู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนน่าจะทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว กระทั่งยังรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาด้วย"เมื่อครู่หมอหลวงเองก็ตรวจสอบยาแก้วนั้นแล้ว นั่นเป็นแก้วน้ำขนาดที่แม่นางอันดื่มไปในเขาเมฆอรุณ ดังนั้นปริมาณยาก็น่าจะใกล้เคียงกัน"ฟู่จาวหนิงมองมองอันชิง ส่งสายตาปลอบประโลมให้กับนางอันชิงตอนนี้กลับมั่นคงขึ้นมากแล้ว นางเชื่อว่าฟู่จาวหนิงจะต้องล้างความอัปยศบนตัวนางได้แน่นอน"พวกท่านลองดูกันเลย ลองดูว่าต้วนจ้งจะทำท่าทางน่าเกลียดอย่าที่พวกท่านคิดหรือไม่"เมื่อครู
จะว่าไป ต้วนจ้งกรอกยานั้นไป เขาไม่มีทางให้ต้วนจ้งมีโอกาสแตะต้องตัวของฟู่จาวหนิงเด็ดขาดมีคนนำถังออกมาเตรียมไว้ และยังหิ้วน้ำมาอีกต้วนจ้งเห็นฟู่จาวหนิงที่งดงามสวยสง่า สองตาก็แดงก่ำขึ้นทันที จ้องนางราวกับหมาป่าตัวหนึ่งที่จะฉีกท้องของนางออกกิน"ปิดตาเขาไว้" เซียวหลันยวนพอเห็นสายตาเขาเช่นนี้ สีหน้าก็ขรึมลง สั่งคนในวังให้เอาผ้าดำเข้ามาถ้าไม่ใช่ตอนนี้ไม่เหมาะสม เขายังคิดจะควักดวงตาทั้งสองของต้วนจ้งออกมาด้วย!สายตาของเขาที่มองฟู่จาวหนิง เขาล้วนรู้สึกว่าค่อยสบายทั้งนั้นฟู่จาวหนิงมองเขานี่กำลังทำอะไรกัน?ต้วนจ้งแค่มองนางก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับนางนี่ แต่ว่านางเองก็ไม่ได้เสนอความเห็นอะไร ไม่ได้ห้ามด้วยต้วนจ้งถูกผูกดวงตาไว้ ถ้ามองไม่เห็นแล้ว แต่เขาก็ยังได้กลิ่นหอมรางๆ ของหญิงสาวอยู่ จึงดิ้นไปมาอย่างเอาเป็นเอาตายเหล่าเจ้าหน้าที่เองก็มองอย่างไม่ค่อยเป็นสุขนักฟู่จาวหนิงหยิบเข็มออกมา ให้คนกดต้วนจ้งไว้ และผู้คนก็เห็นว่าวิธีของนางรวดเร็วมาก ยกมือปักเข็ม ไม่ได้แตะโดนตัวต้วนจ้งเลย ก็จัดการแทงเข็มลงไปเต็มตัวเขาแล้วและเข็มทุกเล่มนางก็ดีดๆ อยู่ครู่หนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งจึงดึงเก็บเข็มลงมา
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าองค์หญิงหนานฉือจะเอาแบบนี้"มีอะไรต้องอายกัน?" องค์หญิงหนานฉือโยนสายตาให้นาง ไม่ค่อยจะใส่ใจนัก "ตอนนั้นข้าก็หาสามีไปทั่วเมืองหลวง อ๋องเจวี้ยนที่เงื่อนไขดีขนาดนั้น ต้องอยู่ในกลุ่มตัวเลือกของข้าอยู่แล้ว""พี่สะใภ้..." อันชิงดึงแขนเสื้อนางองค์หญิงหนานฉือนี่ก็กล้าพูดไปเรื่อยจริงๆ"แต่ว่า อ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้สนใจข้า ยังดีที่ตอนนี้สามีดีกับข้ามาก พวกเราสองคนรักกันอย่างมั่นคง ไม่เหมือนคู่อ๋องเจวี้ยนหรอก"องค์หญิงหนานฉือพูดอย่างตรงไปตรงมา แล้วยังแสดงความรักให้คนต้องอิจฉาด้วยผู้ตรวจการชิงคนนั้น เอาใจภรรยาได้ด้วยหรือ? ไม่ใช่คนที่เย็นชามากหรอกหรือ?องค์หญิงเจ็ดถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ผู้ตรวจการอันกับเจ้าอย่างมากสุดก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยความนับถือเท่านั้นกระมัง แบบเย็นชาๆ หน่อย!"คนที่ดูทื่อๆ บื้อๆ แบบนั้นน่ะนะ จะรักภรรยาปานจะกลืนกิน?องค์หญิงหนานฉือเองก็เหลือบมององค์หญิงเจ็ด นั่นเรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจ"นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? คนเขารักกันแนบแน่นเหมือนกาว คงไม่ต้องมาอธิบายกับพวกเจ้าอย่างละเอียดหรอกกระมัง? พวกเจ้าก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน เล่าไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจ"
"เจ้าชอบเซียวหลันยวนหรือ? ขอโทษด้วย มีข้าอยู่ เจ้าแค่จะไปเป็นสาวใช้ในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มี""นี่เจ้า!"ตาของคุณหนูหลินสี่แดงก่ำขึ้นมาถูกฟู่จาวหนิงกดไว้แบบนี้ นางทำได้แค่แหงนหน้า รู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ทำให้นางดูไร้เกียรตินางคิดจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่แรงของฟู่จาวหนิงก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมากขนาดนี้ นางดิ้นรนไม่ได้เลย"แล้วก็ ไม่ใช่ว่าข้าหยิ่งทะนง ข้าพูดคำไหนคำนั้น คนแบบเจ้าน่ะ มาหิ้วรองเท้าข้าก็ยังไม่คู่ควร"หาเรื่องนางมาตั้งนาน มีเจตนาไม่ดีมากเสียขนาดนี้ แต่ก็ยังมาหาเรื่องเจ็บตัว ฟู่จาวหนิงจะมีเมตตาด้วยได้อย่างไร?ถ้าด่านางจนเงยหน้าไม่ขึ้นได้ นางจะได้ไม่ไปหาเรื่องคนอื่นอีก"ข้าสวยกว่าเจ้า สูงกว่าเจ้า กำลังก็มากกว่าเจ้า วิชาแพทย์ก็ดี ร่างกายปราดเปรียว กล้าหาญเกินใคร โอ้ คำชมนี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็เอาแต่ชมข้า ข้าไม่ได้พูดเองนะ แล้วเจ้ามันมีอะไร? ใครให้เจ้าเสนอหน้ามาริษยาตรงหน้าข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงก้มมองนางจากที่สูง "แค่ให้เจ้าไปสารภาพรักต่อหน้าเซียวหลันยวนก็ยังไม่กล้าเลยกระมัง? แล้วเจ้าก็รู้ว่าพระชายาตัวจริงอยู่ที่นี่ ก็ยังแสดงออกถึงความอยากเข้าหาสามีคนอื่นอย่างหน้าด้านแบบนี้น่ะนะ? เจ้
"นี่คือแผนของพวกท่านหรือ?"ฟุ่จาวหนิงที่เงียบมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น ฟังไม่ออกถึงไฟโกรธใดๆ"พูดจบแล้วสินะ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน ยังมีภารกิจของท่านอีก" เฉินฮ่าวปิงยังพูดไม่จบ "ท่านเป็นหมอเทวดา นอกจากรวบรวมวัตถุดิบยาแล้ว ท่านยังมีภารกิจที่ใหญ่ที่สุดอีก ก็คือไปเมืองเจ้อพร้อมกับขบวนพ่อค้าตระกูลฟาง ผู้ประสบภัยที่นั่นังรอท่านไปช่วยรักษาอยู่""ใช่" ชิวอวิ๋ฯพูดตามขึ้นมา "เรื่องนี้พวกเราเองก็หารือกับพระชายาเยว่แล้ว พระชายาบอกว่าเรื่องนี้ต้องทำให้สำเร็จ นั่นเป็นมหากุศลใหญ่ พวกเราจะเลือกหญิงรับใช้สิบคนไปกับท่านด้วย ให้พวกนางคอยฟังการกำชับจากท่าน ช่วยเหลือเป็นลูกมือท่าน ดังนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีคนช่วยเหลือ""พูดแบบนี้แล้วข้าต้องขอบคุณพวกท่านไหม?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน เผชิญหน้ากับเรื่องสำคัญ ขอให้ท่านพิจารณาในภาพรวมด้วย ภัยพิบัติหนักหนา ผู้ประสบภัยน่าสงสาร หรือว่าท่านจะใจดำ มีวิชาแพทย์ชั้นสูงอยู่ในมือ แต่กลับไม่สนใจชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?"เฉินฮ่าวปิงสะบัดภาระหนักสุดใส่นางทันที"ใช่เลย พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็ถือว่าอยู่ในราชวงศ์นะ แบ่งเบาภาระองค์จ
คำพูดของฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงเมื่อครู่นางได้ยินแล้ว ตอนนี้นางก็คิดเหมือนฟู่จาวหนิง จะลองฟังพวกนางพูดให้จบก่อน ดูว่าหน้าพวกนางจะใหญ่สักแค่ไหนอันชิงกัดริมฝีปากล่างการจะออกสามร้อยตำลึงเพื่อผู้ประสบภัยอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่านางไม่ยินยอม แต่ทำไมถึงต้องมาถูกเฉินฮ่าวปิงจัดแจงให้กัน?"พวกเราทางนี้มีสิบสองคน พอคำนวณแล้วก็น่าจะมีเงินที่สามพันกว่าตำลึง ถือเป็นเงินก้อนใหญ่มากแล้ว"เฉินฮ่าวปิงดูตื่นเต้น ถ้าหากเงินสามพันตำลึงอยู่กับนางได้ก็คงดี อันที่จริงให้นางเอาออกมาสามร้อยตำลึงก็เจ็บปวดอยู่แต่ถ้าจะทำเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเลือก หลังจากทำสำเร็จ นางก็จะได้รับประโยชน์ที่มากกว่าสามร้อยตำลึง ตอนนี้จึงจ่ายออกไปได้"นี่ยังไม่นับของพระชายาอ๋องเจวี้ยนกับแม่นางฟางนะ"เฉินฮ่าวปิงมองไปทางฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิง "พวกนางก็ไม่ต้องบริจาคเงินแล้ว สามพันกว่าตำลึงนี้ก็ส่งให้แม่นางฟาง จากนั้นแม่นางฟางก็จะเปลี่ยนพวกมันเ็นเสื้อผ้า รองเท้า เสบียงอาหารแล้วก็วัตถุดิบยา แล้วให้ขบวนพ่อค้าของตระกูลฟางส่งไปยังเมืองเจ้อ"องค์หญิงเจ็ดถาม "ต้องจำนวนเท่าไรล่ะ""ข้าได้ยินว่าเมืองเจ้อมีผู้ประสบภัยเกือบหมื่น พวกเราเลยคำนวณไปว
ฟางซือฉิงอ้าปากพะงาบ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้ ขยิบตาให้นาง"ไหนๆ ก็มาแล้ว ฟังพวกนางต่อไปอีกหน่อยเถอะว่าจะจัดการอย่างไร พวกเราก็ถือเสียว่าเปิดโลกทัศน์ก็แล้วกัน"อันที่จริงนางก็อยากจะลองฟังแผนของเฉินฮ่าวปิงต่อจริงๆในเมื่อเฉินฮ่าวปิงเตรียมตัวมาตั้งหลายวัน ทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสนางพูดให้จบกันล่ะ?นางเองก็ชอบที่จะรอให้คนอื่นที่กำลังตื่นเต้นดีอกดีใจ แล้วค่อยจัดการทำลายความหวังของคนๆ นั้นทิ้งแค่คิดก็สนุกแล้วถึงอย่างไรก็มาแล้วนี่นะฟางซือฉิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็สงบลงมา นางฟังฟู่จาวหนิงก็พอแล้วดังนั้นพวกนางจึงไม่รีบร้อนพูดอะไรอีกพวกของเฉินฮ่าวปิงก็ไม่เหมือนไม่ต้องการท่าทีอะไรของฟางซือฉิง พวกนางยังพูดต่ออย่างเบิกบาน เฉินฮ่าวปิงยังวาดฝันต่อ แล้วก็ทำให้เหล่าองค์หญิงคุณหนูพวกนี้หวั่นไหวกันขึ้นมา"ถ้าหากพวกเราสร้างผลงานอะไรได้ ผู้อาวุโสในตระกูลก็จะมองพวกเราสูงขึ้น หลังจากนี้พวกเราก็สามารถช่วงชิงความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ก็อาจจะได้รับความชื่นชมจากองค์จักรพรรดิก้ได้""ตอนที่ข้าไปว่าเรื่องแต่งงาน ผู้อาวุโสของอี
แต่ว่าพระชายาเยว่ในเมื่อเลือกนาง ส่งนางมาจวนอ๋องเจวี้ยน นางก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดีในการกระโจนขึ้นกิ่งไม้ถึงอย่างไรก็อ๋องเจวี้ยนเลยนะ นั่นอ๋องเจวี้ยนนะ!ไม่มีชื่อเสียง แต่สามารถเป็นหญิงสาวของอ๋องเจวี้ยนได้ก็ยังดี มีค่ำคืนเหล่านั้นที่ได้ใกล้ชิดกับอ๋องเจวี้ยน เป็นความฝันของผู้หญิงตั้งมากมาย!อ๋องเจวี้ยนหล่อเหลา สง่างาม ยิ่งไปกว่านั้นยังรักพวกพ้อง บางที ถ้าต้องต่อสู้กับองค์จักรพรรดิ จวนอ๋องเจวี้ยนอาจจะไม่พ่ายแพ้ไปจริงๆ ก็ได้สู้เสียหน่อย ก็ยังพอมีอนาคตแต่เป็นเพราะฟู่จาวหนิงนางกับพวกอวิ๋นจูล้วนไม่สามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนได้ ฟู่จาวหนิงคือหยิงสาวที่ขี้เหนียวขี้หึง คิดจะครองอ๋องเจวี้ยนแค่คนเดียว!นางไม่มีความสามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน พระชายาเยว่ก็ไม่ค่อยพอใจกับความสามารถนาง จึงส่งนางมาให้กับเฉินฮ่าวปิงนี่เท่ากับลดระดับลงเสียแล้วเฉินฮ่าวปิงถึงแม้จะเป็นท่านหญิง แต่ชิวอวิ๋นมองไม่ออกเลย ว่าอยู่กับท่านหญิงคนนี้แล้วจะดีได้ จะไปเทียบกับอ๋องเจวี้ยนก็ไม่มีคุณสมบัติ เทียบกับพระชายาเยว่ก็เทียบไม่ได้หลังจากนี้นางต้องติดตามเฉินฮ่าวปิง อย่างมากสุดก็แค่ต้องดูว่าเฉินฮ่าวปิงจะแต่งงานกับ
"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอเทวดานี่นะ คนเป็นหมอไม่ใช่ควรรักษาคนเจ็บหรือ?"องค์หญิงเจ็ดพอได้ยินว่าหาเรื่องให้ฟู่จาวหนิง ตอนนี้ก็มีแรงขึ้นมาทันที เรื่องนี้นางว่าได้อยู่!"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเก่งกาจมาก ไม่ใช่คนที่พวกเราจะเทียบได้ นางมีความกล้าความสามารถ มีไหวพริบ มีวิชาแพทย์ พวกเราไม่กล้าไปเมืองเจ้อ พวกเรากลัวผู้ประสบภัย แต่นางไม่กลัวแน่ๆ"คุณหนูสี่หลินคนนั้นก็เปลี่ยนท่าทีไปสิ้นเชิง กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีสายตาฟู่จาวหนิงเหลือบมองหน้านาง คุณหนูสี่หลินคนนี้นางก็ไม่รู้จัก ทำไมถึงมีเจตนาร้ายกับนางขนาดนี้"ก็คือว่า พระชายาอ๋องเจวี้ยนเพิ่งเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่นี่นะ? แล้วการมีตัวตนฐานะแบบนี้ การรักษาคนเจ็บก็เป็นเร่งที่สมควรนี่ ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังได้ยินว่าหมอของสมาคมหมอใหญ่ล้วนเป็นชายหมด แล้วยังมีอายุมากด้วย พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอหญิงคนหนึ่ง แล้วอายุก็ยังน้อยที่สุดด้วย ก็ควรจะรีบออกไปสร้างคุณความดีสิ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้หยั่งเท้าไม่มั่นคงในสมาคมหมอใหญ่แล้วจะทำอย่างไรกัน?"มีแม่นางที่อายุมากขึ้นมาหน่อยอีกคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงเรียบสงบหญิงสาวที่อยู่ด้วยกันกับคุณหนูสี่หลินท
พอถูกนางพูดออกมา มีทั้งคนที่ตกตะลึง มีทั้งคนที่แอบโกรธ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จะมากน้อยก็ยังรู้สึกหวั่นไหวกับข้อเสนอนางถ้าหากพวกนางสามารถทำเรื่องใหญ่นี้ได้สำเร็จ จะได้มีชื่อเสียงระบือในเมืองหลวงจริงไหม ได้รับการชื่นชมยกย่องจริงไหม"พวกท่านจะกังวลอะไรกัน? ข้าได้ยินว่า เมืองหลวงก่อนหน้านี้ก็มีคุณหนูฮูหยินไม่น้อยมาตั้งเพิงโรงทานแจกข้าวต้ม แล้วงานนี้แตกต่างกับการแจกข้าวต้มตรงไหนกัน เป็นเรื่องได้บุญทั้งนั้น ทำเรื่องได้กุศล สำหรับสายตาผู้อาวุโสในตระกูล ก็ถือว่าเป็นรุ่นหลังที่ฉลาดมีความสามารถไหม?"นี่ก็จริง!ช่วงหน้าหนาว อันที่จริงก็มีฮูหยินคุณหนูไม่น้อยที่ไปแจกข้าวต้มไม่ใช่แค่เพื่อเอาใจผู้อาวุโสในตระกูล การทำเรื่องกุศลเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ใครก็แข่งกันทำด้วยก่อนหน้านี้ทุกคนยังแก่งแย่งชิงดีกัน เทียบกันว่าเพิงโรงทานแจกข้าวต้มของตระกูลไหนทำได้ดีกว่า เพิไหนที่มีคนจนมาเข้าแถวรอข้าวต้มเยอะกว่านี่เป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อเพิ่มชื่อเสียงพูดแบบนี้ ทุกคนเองก็หวั่นไหวขึ้นมาแล้ว รู้สึกว่าข้อเสนอของเฉินฮ่าวปิงนี้เหมือนจะไม่ใช่ไร้สาระ"ท่านหญิงปิงอวี้ดูเหมือนจะไปหาข่าวมาละเอียดเชียว" ฟางซือฉ
เหล่าคุณหนูพวกนี้พอเอ่ยถึงผู้ประสบภัย ก็มีสีหน้าหวาดกลัวและดูถูกพวกนางล้วนมีอำนาจในเมืองหลวง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผุ้ประสบภัยน่ะห่างจากพวกนางไกลโขเลยกระทั่งจินตนาการ พวกนางก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้ประสบภัยเป็นอย่างไรด้วยซ้ำคุณหนูเหล่านี้ไม่กล้าไปสถานที่วุ่นวายมาก่อน ในเมื่อเมืองเจ้อเต้มไปด้วยผู้ประสบภัย แล้วพวกนางจะกล้าไปได้อย่างไรกัน?"จริงด้วย ต่อให้มีผู้ประสบภัยหญิงมากแค่ไหน พวกเราเองจะไปช่วยอะไรได้? หรือว่าพวกเรายังต้องรับพวกนางกลับมาเมืองหลวงด้วย?""นั่นไม่ได้หรอก เมืองหลวงไม่มีทางให้ผู้ประสบภัยเข้ามาแน่""แล้วก็ ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ผู้ประสบภัยก็ยังเป็นผู้ประสบภัย ล้วนเป็นประชาชนชั้นต่ำทั้งนั้น" มีหญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าดุร้ายขึ้นมาหน่อยๆคำพูดนี้มีหลายคนที่ยอมรับ เพียงแต่ว่า ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเฉินฮ่าวปิงหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้เป็นคุณหนูจากตระกูลดังนะ แต่เรื่องใหญ่พวกนี้ก็ทำกันไม่ได้หรือ!แต่ว่านางต้องการเรื่องใหญ่สักเรื่องเพื่อสร้างความนิยมให้ตนเอง ให้คนทั้งแคว้นเจารู้จักท่านหญิงปิงอวี้ในทันทีถึงตอนที่นางมีชื่อเสียง มีบารมี องค์จักรพรรดิก็จะตบรางวัลให้นางอ