ต้วนจ้งมือเท้าแม้จะถูกตีจนหัก แต่นั่งบนถื้นบิดไปมาก็ยังทำได้อยู่เขาไม่ถูกอนุญาตให้เข้าตำหนัก แต่ถูกกรอกยาอยู่ในสวนด้านนอกคนทั้งหมดล้วนออกจากตำหนัก และเห็นว่าไม่ห่างออกไปนัก ต้วนจ้งยังไม่รู้ว่าตนเองถูกกรอกอะไรลงไป แต่เขารู้ว่านี่เข้าวังมาแล้ว อี้ไป่จะต้องอยู่แน่นอนองค์จักรพรรดิฮองเฮาเองก็อยู่ด้วยเขารู้สึกว่าถ้าตนเองแสดงท่าทีออกมาได้ดีหน่อย บางทีอี้ไห่อาจจะช่วยเหลือเขาได้เพราะในจวนอ๋องเจวี้ยน เขาประเดี๋ยวก็ถูกกรอกน้ำประหลาดๆ ไปบางส่วน หลังจากดื่มแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรพิเศษดังนั้นตอนนี้ต้วนจ้งเองก็คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นยาใจละเมอเขารู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนน่าจะทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว กระทั่งยังรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาด้วย"เมื่อครู่หมอหลวงเองก็ตรวจสอบยาแก้วนั้นแล้ว นั่นเป็นแก้วน้ำขนาดที่แม่นางอันดื่มไปในเขาเมฆอรุณ ดังนั้นปริมาณยาก็น่าจะใกล้เคียงกัน"ฟู่จาวหนิงมองมองอันชิง ส่งสายตาปลอบประโลมให้กับนางอันชิงตอนนี้กลับมั่นคงขึ้นมากแล้ว นางเชื่อว่าฟู่จาวหนิงจะต้องล้างความอัปยศบนตัวนางได้แน่นอน"พวกท่านลองดูกันเลย ลองดูว่าต้วนจ้งจะทำท่าทางน่าเกลียดอย่าที่พวกท่านคิดหรือไม่"เมื่อครู
จะว่าไป ต้วนจ้งกรอกยานั้นไป เขาไม่มีทางให้ต้วนจ้งมีโอกาสแตะต้องตัวของฟู่จาวหนิงเด็ดขาดมีคนนำถังออกมาเตรียมไว้ และยังหิ้วน้ำมาอีกต้วนจ้งเห็นฟู่จาวหนิงที่งดงามสวยสง่า สองตาก็แดงก่ำขึ้นทันที จ้องนางราวกับหมาป่าตัวหนึ่งที่จะฉีกท้องของนางออกกิน"ปิดตาเขาไว้" เซียวหลันยวนพอเห็นสายตาเขาเช่นนี้ สีหน้าก็ขรึมลง สั่งคนในวังให้เอาผ้าดำเข้ามาถ้าไม่ใช่ตอนนี้ไม่เหมาะสม เขายังคิดจะควักดวงตาทั้งสองของต้วนจ้งออกมาด้วย!สายตาของเขาที่มองฟู่จาวหนิง เขาล้วนรู้สึกว่าค่อยสบายทั้งนั้นฟู่จาวหนิงมองเขานี่กำลังทำอะไรกัน?ต้วนจ้งแค่มองนางก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับนางนี่ แต่ว่านางเองก็ไม่ได้เสนอความเห็นอะไร ไม่ได้ห้ามด้วยต้วนจ้งถูกผูกดวงตาไว้ ถ้ามองไม่เห็นแล้ว แต่เขาก็ยังได้กลิ่นหอมรางๆ ของหญิงสาวอยู่ จึงดิ้นไปมาอย่างเอาเป็นเอาตายเหล่าเจ้าหน้าที่เองก็มองอย่างไม่ค่อยเป็นสุขนักฟู่จาวหนิงหยิบเข็มออกมา ให้คนกดต้วนจ้งไว้ และผู้คนก็เห็นว่าวิธีของนางรวดเร็วมาก ยกมือปักเข็ม ไม่ได้แตะโดนตัวต้วนจ้งเลย ก็จัดการแทงเข็มลงไปเต็มตัวเขาแล้วและเข็มทุกเล่มนางก็ดีดๆ อยู่ครู่หนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งจึงดึงเก็บเข็มลงมา
ออกมาจากในวังอันเหนียนพาอันชิงมาถึงเบื้องหน้ารถม้าอ๋องเจวี้ยนพี่น้องสองคนคารวะอย่างลึกซึ้งกับฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยน พระชายา หลังจากนี้หากมีอะไรที่จะเรียกใช้ตระกูลอัน ขอโปรดกำชับมา อันเหนียนเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ"เป็นอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ช่วยน้องสาวของนาง ช่วยตระกูลอันเอาไว้"ล้วนเป็นคุณความงามของนางทั้งสิ้น"เซียวหลันยวนมองไปทางฟู่จาวหนิง"ถ่อมตัวขนาดนี้เลยหรือ? ถ้าไม่ใช่เจ้าพาต้วนจ้งมา แล้วยังหาใจละเมอมาได้ แล้วยังเป็นธุระลากเขาเข้ามาในวังอีก เรื่องคงไม่ได้ราบรื่นเช่นนี้"ฟู่จาวหนิงเองก็คงไม่เอาคุณความดีทั้งหมดแบกเอาไว้บนบ่าตัวเองหรอกเรื่องนี้ ก็เป็นเพราะเขาช่วยจริงๆเซียวหลันยวนกล้าแบกแรงคุกคามที่มาจากองค์จักรพรรดิและฮองเฮา คนอื่นทำไม่ได้หรอกถ้าหากไม่มีเขา เรื่องราวคงไม่ราบรื่นเช่นนี้"ท่านอ๋องกับพระชายาเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องแยกกันขนาดนี้หรอก สรุปคือ บุญคุณของทั้งสองคน อันเหนียนจดจำไว้ในใจแล้ว"อันเหนียนมองพวกเขาสองสามีภรรยา ยิ้มแผ่วเบาขึ้นมา"ขอบคุณอ๋องเจวี้ยน ขอบคุณพระชายา" อันชิงมองฟู่จาวหนิง ดวงตาแดงก่ำ"ไม่ต้องขอบคุณแล้ว พวกเจ้าไม่ใช่มาส่งขอ
"แน่นอนว่าต้องมาจากที่ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์มาน่ะสิ แต่ว่าอาจารย์ข้าเป็นพวกชีพจรลงเท้า แล้วยังเคยบอกกับข้าว่า ถ้ายังไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์กันจริงๆ ก็ห้ามให้ข้าเปิดเผยเรื่องที่รู้เรื่องแพทย์นี้"ฟู่จาวหนิงกลอกตา ปั้นเรื่องขึ้นมานางรู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไปตรวจสอบนาง แต่คงตรวจสอบมาไม่ได้หรอกว่านางเรียนแพทย์มาจากใคร ดังนั้นนางจึงพูดให้ลึกลับหน่อย เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"ดังนั้นก่อนหน้านี้เจ้าคือเอาแต่เสแสร้งหรือ?""เสแสร้ง? บางส่วนใช่แต่บางส่วนก็ไม่ใช่""ก่อนหน้านี้ที่พูดไว้ในตำหนัก เป็นเรื่องจริงหรือ?""ท่านถามเรื่องไหนล่ะ?""ที่บอกว่าเจ้ารู้สึกดูถูกเรื่องของเซียวเหยียนจิ่ง" เซียวหลันยวนยังรู้สึกสนใจกับเรื่องที่นางก่อนหน้านี้ไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งเพื่อจะแต่งงานกับเขาเขารู้สึกว่า น่าจะเพราะเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าฟู่จาวหนิงสมัยก่อนสายตาย่ำแย่ขนาดนั้นตอนนี้ดูแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนที่จะลุ่มหลงในตัวเซียวเหยียนจิ่งเลยนี่ต่อให้นางชอบ ถึงอย่างไรก็ยังต้องชอบผู้ชายอย่างเขาสิถึงจะถูก"เรื่องนี้ต้องให้พูดอยู่ตลอดด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงปิดปากหาว ขี้เกียจจนไม่อยากจะพูดคุยแล้ว นางง่วงส
"พวกเจ้ารู้ไหม? ว่าผ้าที่นำมาทอกระโปรงตัวนั้นมันยิ่งใหญ่แค่ไหน คิดว่าเซียวหลันยวนจะต้องมอบให้คนในดวงใจเขาแน่ๆ หรือก็คือเตรียมไว้สำหรับพระชายาที่แท้จริงของพวกเจ้าหลังจากนี้"ฟู่จาวหนิงคิดถึงสายตาริษยาตอนที่พวกของฮองเฮาเห็นจันทราโน้มเมืองอยู่บนตัวนางขึ้นมาเนื้อผ้าที่นำมาทอชุดกระโปรงนั้นได้มาอย่างยากลำบากมาก เป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงส่งต่อมาให้เซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตัดทอชุดนี้ตามรูปร่างของแม่นางบางคน คิดแล้วน่าจะเป็นคนในใจเขากระมังเพียงแต่เขาซ่อนนางผู้นั้นเอาไว้มิดชิดมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้บางที อาจจะเป็นซ่งอวิ๋นเหยา?ครั้งนี้นางอยู่ในงานเลี้ยงไม่เห็นซ่งหยวนหลินเลย แต่ซ่งหยวนหลินก็น่าจะเจ้าคิดเจ้าแค้นนางอยู่ตลอด รอจนซ่งอวิ๋นเหยากลับมาถึงเมืองหลวง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาหาเรื่องนางไหมฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ไม่จริงไม่ปลอมแบบนี้ดูยุ่งยากเสียเหลือเกินนางเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปเด็ดดอกท้อของเซียวหลันยวนหรอก แต่ว่าถ้าไปแตะเข้ากับดอกท้อของเขาเข้า นางก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญมาก"พระชายา ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงถามฟู่จาวหนิงขึ้นอย่างระม
"รู้ว่าคุณงามความดีของเจ้ามีไม่น้อย ค่ายาเจ้าก็คิดมาเลย จะคืนให้เจ้าแน่ ไม่จำเป็นต้องแวะมาเตือนเช้าขนาดนี้""ท่านอ๋อง พระชายาไม่ได้มาด้วยเหตุผลนี้แน่นอน" ชิงอีรีบร้อนอธิบายท่านอ๋องเข้าใจผิดว่าพระชายามาท่วงค่ายาได้อย่างไรกัน?ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ไม่ ข้ามาทวงหนี้นั่นล่ะ นอกจากค่ายาแล้วยังมีอีก ท่านบอกว่าจะเอาเรื่องของผู้เฒ่าฟู่สี่ท่าตรวจสอบมาบอกกับข้า ตอนนี้ยังไม่ได้บอกเลย"หญิงสาวคนนี้ไม่เคยจำเรื่องดีดีของเขาเลย เมื่อคืนนี้เขาก็อุ้มนางเข้าไปจริงๆ หลังจากนางตื่นขึ้นมาก็ต้องมาบอกขอบคุณเขาหน่อยสิ ไม่ใช่คิดแต่จะมาทวงนั่นนี่เสียชัดเจนแบบนี้"เข้ามา"เซียวหลันยวนเหลือบมองเสื้อผ้าของนาง"กระโปรงชุดนั้นล่ะ"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ เขาเครียดกับชุดนั้นมากจริงๆ ด้วย ในเมื่อเป็นห่วงเสียขนาดนั้น เมื่อวานเอามาให้นางสวมทำไมกัน?"วางใจเถอะ เมื่อวานตอนที่ท่านบอกให้หงจั๋วกับเฝิ่นซิงถอดออกมาไม่ใช่กำชับให้ระมัดระวังแล้วหรือ? กระโปรงชุดนั้นไม่มีแม้แต่รอยยับกับรอยเกี่ยวขาดเลย ข้าให้พวกนางเก็บให้ดีแล้ว พอตากจนแห้งก็จะส่งมาให้ท่านเอง แล้วท่านค่อยเก็บเอาไว้ให้ดี"เมื่อคืนเขายังจงใจกำชับให้หงจั๋วระมั
เซียวหลันยวนยกตะเกียบขึ้นมองนาง "ไร้เดียงสา""ข้าสนุก"ฟู่จาวหนิงรีบแย่งคีบเสี่ยวทังเปาที่แย่งเขามาก่อนหน้าชิ้นนั้นยัดเข้าปากลงไปชิงอีเห็นท่านอ๋องกับพระชายาสองคนเล่นแย่งของกินกันเหมือนเด็กๆ อยู่ข้างๆ ก็อดยิ้มจนมุมปากแทบจะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ดีเสียจริงหลายปีมานี้ท่านอ๋องกินข้าวอยู่คนเดียว เขากินไปแค่ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงแล้ว กินต่อไม่ลง และกินอย่างไม่ค่อยจะเบิกบานใจด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่านอ๋องกินได้ผ่อนคลายและเบิกบานได้ขนาดนี้กระทั่งท่านอ๋องยังมีหลายครั้งที่แย่งคีบจากตะเกียบขอพระชายาอีกด้วย จงใจแหย่พระชายาที่กำลังกินอย่างมีความสุขท่านอ๋องยังพูดว่าพระชายาไร้เดียงสาเสียด้วย ทั้งที่เขาเองก็ไร้เดียงสาเช่นกันหนึ่งมือเช้ากินเสร็จ ฟู่จาวหนิงอดลูบท้องของตนเองขึ้นมาไม่ได้ ถอนหายใจออกมา"เฮ้อ แน่นไปหมดแล้ว"นี่ไม่ใช่นิสัยที่ดีนักกินจนแน่นไม่ใช่เรื่องดี"นี่เป็นถึงหมอเลยนะ เป็นหมอแต่ไม่รู้ขีดจำกัดการกินหรือ?" เซียวหลันยวนรินน้ำชาพลางหัวเราะ "ยิ่งไปกว่านั้น คุณหนูสูงศักดิ์ที่รู้กาลเทศะ จะไม่ทำกิริยาไม่งามเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ"ฟู่จาวหนิงเหยียดเขาผาดหนึ่ง "อะไรคือก
"ตายหมดหรือ?""ใช่ จับไปเจ็ดคน ตายไปห้าคน ยิ่งไปกว่านั้นยังตรวจไม่ได้ด้วยว่าตายอย่างไร จวนทางการต่อมาปิดคดีไป บอกว่าเด็กเหล่านั้นหวาดกลัวคิดจะหลบหนี ทำให้พวกโจรสังหารพวกเขา แล้วยังโยนพวกเขาลงไปจากเขาด้วย ผู้เฒ่าฟู่สี่ตอนนั้นถูกโยนลงไปด้านล่างเขา ตอนช่วยกลับมาก็บาดเจ็บหนัก จนกลายมาเป็นสภาพในตอนนี้ แต่ว่าเขาตกใจมากเกินไป นับตั้งแต่นั้นจึงพูดจาน้อยลงและไม่ค่อยออกไปพบปะผู้คน"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว"ท่านปู่ของข้าไม่เคยบอกว่าเพราะอะไรถึงให้หลายบ้านพวกนั้นเข้ามาอยู่ในตระกูลฟู่""ตอนนั้นพวกเขาเข้ามาอยู่ในตระกูลฟู่แล้ว แต่ว่าต่อมาให้ปู่ของเจ้าทำเป็นปิดตาข้างหนึ่งต่อพวกเขา น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ปู่ของเจ้าอาจจะรู้สึกผิดต่อผู้เฒ่าฟู่สี่อยู่ เพราะตอนที่พบพวกเขา ผู้เฒ่าฟู่สี่ปกป้องบิดาของเจ้าอยู่ บนตัวของบิดาเจ้ามีแผลถลอกบางส่วน หลังจากกลับมาบ้านก็ป่วยไปรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พิกลพิการ"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ฟู่จาวหนิงคิดถึงเรื่องในช่วงหลายปีนี้ มิน่าพวกบ้านอื่นเหล่านั้นทำเรื่องที่เกินเหตุมาหลายครั้ง แต่ท่านปู่ก็เอาแต่ถอนใจพูดว่า ช่างมันเถอะช่างมันเถอะแต่ว่าเรื่องที่ผู้เฒ่าฟู่สี่ทำ ไปเกี่ยวข้อ
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าองค์หญิงหนานฉือจะเอาแบบนี้"มีอะไรต้องอายกัน?" องค์หญิงหนานฉือโยนสายตาให้นาง ไม่ค่อยจะใส่ใจนัก "ตอนนั้นข้าก็หาสามีไปทั่วเมืองหลวง อ๋องเจวี้ยนที่เงื่อนไขดีขนาดนั้น ต้องอยู่ในกลุ่มตัวเลือกของข้าอยู่แล้ว""พี่สะใภ้..." อันชิงดึงแขนเสื้อนางองค์หญิงหนานฉือนี่ก็กล้าพูดไปเรื่อยจริงๆ"แต่ว่า อ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้สนใจข้า ยังดีที่ตอนนี้สามีดีกับข้ามาก พวกเราสองคนรักกันอย่างมั่นคง ไม่เหมือนคู่อ๋องเจวี้ยนหรอก"องค์หญิงหนานฉือพูดอย่างตรงไปตรงมา แล้วยังแสดงความรักให้คนต้องอิจฉาด้วยผู้ตรวจการชิงคนนั้น เอาใจภรรยาได้ด้วยหรือ? ไม่ใช่คนที่เย็นชามากหรอกหรือ?องค์หญิงเจ็ดถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ผู้ตรวจการอันกับเจ้าอย่างมากสุดก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยความนับถือเท่านั้นกระมัง แบบเย็นชาๆ หน่อย!"คนที่ดูทื่อๆ บื้อๆ แบบนั้นน่ะนะ จะรักภรรยาปานจะกลืนกิน?องค์หญิงหนานฉือเองก็เหลือบมององค์หญิงเจ็ด นั่นเรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจ"นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? คนเขารักกันแนบแน่นเหมือนกาว คงไม่ต้องมาอธิบายกับพวกเจ้าอย่างละเอียดหรอกกระมัง? พวกเจ้าก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน เล่าไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจ"
"เจ้าชอบเซียวหลันยวนหรือ? ขอโทษด้วย มีข้าอยู่ เจ้าแค่จะไปเป็นสาวใช้ในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มี""นี่เจ้า!"ตาของคุณหนูหลินสี่แดงก่ำขึ้นมาถูกฟู่จาวหนิงกดไว้แบบนี้ นางทำได้แค่แหงนหน้า รู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ทำให้นางดูไร้เกียรตินางคิดจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่แรงของฟู่จาวหนิงก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมากขนาดนี้ นางดิ้นรนไม่ได้เลย"แล้วก็ ไม่ใช่ว่าข้าหยิ่งทะนง ข้าพูดคำไหนคำนั้น คนแบบเจ้าน่ะ มาหิ้วรองเท้าข้าก็ยังไม่คู่ควร"หาเรื่องนางมาตั้งนาน มีเจตนาไม่ดีมากเสียขนาดนี้ แต่ก็ยังมาหาเรื่องเจ็บตัว ฟู่จาวหนิงจะมีเมตตาด้วยได้อย่างไร?ถ้าด่านางจนเงยหน้าไม่ขึ้นได้ นางจะได้ไม่ไปหาเรื่องคนอื่นอีก"ข้าสวยกว่าเจ้า สูงกว่าเจ้า กำลังก็มากกว่าเจ้า วิชาแพทย์ก็ดี ร่างกายปราดเปรียว กล้าหาญเกินใคร โอ้ คำชมนี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็เอาแต่ชมข้า ข้าไม่ได้พูดเองนะ แล้วเจ้ามันมีอะไร? ใครให้เจ้าเสนอหน้ามาริษยาตรงหน้าข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงก้มมองนางจากที่สูง "แค่ให้เจ้าไปสารภาพรักต่อหน้าเซียวหลันยวนก็ยังไม่กล้าเลยกระมัง? แล้วเจ้าก็รู้ว่าพระชายาตัวจริงอยู่ที่นี่ ก็ยังแสดงออกถึงความอยากเข้าหาสามีคนอื่นอย่างหน้าด้านแบบนี้น่ะนะ? เจ้
"นี่คือแผนของพวกท่านหรือ?"ฟุ่จาวหนิงที่เงียบมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น ฟังไม่ออกถึงไฟโกรธใดๆ"พูดจบแล้วสินะ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน ยังมีภารกิจของท่านอีก" เฉินฮ่าวปิงยังพูดไม่จบ "ท่านเป็นหมอเทวดา นอกจากรวบรวมวัตถุดิบยาแล้ว ท่านยังมีภารกิจที่ใหญ่ที่สุดอีก ก็คือไปเมืองเจ้อพร้อมกับขบวนพ่อค้าตระกูลฟาง ผู้ประสบภัยที่นั่นังรอท่านไปช่วยรักษาอยู่""ใช่" ชิวอวิ๋ฯพูดตามขึ้นมา "เรื่องนี้พวกเราเองก็หารือกับพระชายาเยว่แล้ว พระชายาบอกว่าเรื่องนี้ต้องทำให้สำเร็จ นั่นเป็นมหากุศลใหญ่ พวกเราจะเลือกหญิงรับใช้สิบคนไปกับท่านด้วย ให้พวกนางคอยฟังการกำชับจากท่าน ช่วยเหลือเป็นลูกมือท่าน ดังนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีคนช่วยเหลือ""พูดแบบนี้แล้วข้าต้องขอบคุณพวกท่านไหม?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน เผชิญหน้ากับเรื่องสำคัญ ขอให้ท่านพิจารณาในภาพรวมด้วย ภัยพิบัติหนักหนา ผู้ประสบภัยน่าสงสาร หรือว่าท่านจะใจดำ มีวิชาแพทย์ชั้นสูงอยู่ในมือ แต่กลับไม่สนใจชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?"เฉินฮ่าวปิงสะบัดภาระหนักสุดใส่นางทันที"ใช่เลย พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็ถือว่าอยู่ในราชวงศ์นะ แบ่งเบาภาระองค์จ
คำพูดของฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงเมื่อครู่นางได้ยินแล้ว ตอนนี้นางก็คิดเหมือนฟู่จาวหนิง จะลองฟังพวกนางพูดให้จบก่อน ดูว่าหน้าพวกนางจะใหญ่สักแค่ไหนอันชิงกัดริมฝีปากล่างการจะออกสามร้อยตำลึงเพื่อผู้ประสบภัยอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่านางไม่ยินยอม แต่ทำไมถึงต้องมาถูกเฉินฮ่าวปิงจัดแจงให้กัน?"พวกเราทางนี้มีสิบสองคน พอคำนวณแล้วก็น่าจะมีเงินที่สามพันกว่าตำลึง ถือเป็นเงินก้อนใหญ่มากแล้ว"เฉินฮ่าวปิงดูตื่นเต้น ถ้าหากเงินสามพันตำลึงอยู่กับนางได้ก็คงดี อันที่จริงให้นางเอาออกมาสามร้อยตำลึงก็เจ็บปวดอยู่แต่ถ้าจะทำเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเลือก หลังจากทำสำเร็จ นางก็จะได้รับประโยชน์ที่มากกว่าสามร้อยตำลึง ตอนนี้จึงจ่ายออกไปได้"นี่ยังไม่นับของพระชายาอ๋องเจวี้ยนกับแม่นางฟางนะ"เฉินฮ่าวปิงมองไปทางฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิง "พวกนางก็ไม่ต้องบริจาคเงินแล้ว สามพันกว่าตำลึงนี้ก็ส่งให้แม่นางฟาง จากนั้นแม่นางฟางก็จะเปลี่ยนพวกมันเ็นเสื้อผ้า รองเท้า เสบียงอาหารแล้วก็วัตถุดิบยา แล้วให้ขบวนพ่อค้าของตระกูลฟางส่งไปยังเมืองเจ้อ"องค์หญิงเจ็ดถาม "ต้องจำนวนเท่าไรล่ะ""ข้าได้ยินว่าเมืองเจ้อมีผู้ประสบภัยเกือบหมื่น พวกเราเลยคำนวณไปว
ฟางซือฉิงอ้าปากพะงาบ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้ ขยิบตาให้นาง"ไหนๆ ก็มาแล้ว ฟังพวกนางต่อไปอีกหน่อยเถอะว่าจะจัดการอย่างไร พวกเราก็ถือเสียว่าเปิดโลกทัศน์ก็แล้วกัน"อันที่จริงนางก็อยากจะลองฟังแผนของเฉินฮ่าวปิงต่อจริงๆในเมื่อเฉินฮ่าวปิงเตรียมตัวมาตั้งหลายวัน ทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสนางพูดให้จบกันล่ะ?นางเองก็ชอบที่จะรอให้คนอื่นที่กำลังตื่นเต้นดีอกดีใจ แล้วค่อยจัดการทำลายความหวังของคนๆ นั้นทิ้งแค่คิดก็สนุกแล้วถึงอย่างไรก็มาแล้วนี่นะฟางซือฉิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็สงบลงมา นางฟังฟู่จาวหนิงก็พอแล้วดังนั้นพวกนางจึงไม่รีบร้อนพูดอะไรอีกพวกของเฉินฮ่าวปิงก็ไม่เหมือนไม่ต้องการท่าทีอะไรของฟางซือฉิง พวกนางยังพูดต่ออย่างเบิกบาน เฉินฮ่าวปิงยังวาดฝันต่อ แล้วก็ทำให้เหล่าองค์หญิงคุณหนูพวกนี้หวั่นไหวกันขึ้นมา"ถ้าหากพวกเราสร้างผลงานอะไรได้ ผู้อาวุโสในตระกูลก็จะมองพวกเราสูงขึ้น หลังจากนี้พวกเราก็สามารถช่วงชิงความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ก็อาจจะได้รับความชื่นชมจากองค์จักรพรรดิก้ได้""ตอนที่ข้าไปว่าเรื่องแต่งงาน ผู้อาวุโสของอี
แต่ว่าพระชายาเยว่ในเมื่อเลือกนาง ส่งนางมาจวนอ๋องเจวี้ยน นางก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดีในการกระโจนขึ้นกิ่งไม้ถึงอย่างไรก็อ๋องเจวี้ยนเลยนะ นั่นอ๋องเจวี้ยนนะ!ไม่มีชื่อเสียง แต่สามารถเป็นหญิงสาวของอ๋องเจวี้ยนได้ก็ยังดี มีค่ำคืนเหล่านั้นที่ได้ใกล้ชิดกับอ๋องเจวี้ยน เป็นความฝันของผู้หญิงตั้งมากมาย!อ๋องเจวี้ยนหล่อเหลา สง่างาม ยิ่งไปกว่านั้นยังรักพวกพ้อง บางที ถ้าต้องต่อสู้กับองค์จักรพรรดิ จวนอ๋องเจวี้ยนอาจจะไม่พ่ายแพ้ไปจริงๆ ก็ได้สู้เสียหน่อย ก็ยังพอมีอนาคตแต่เป็นเพราะฟู่จาวหนิงนางกับพวกอวิ๋นจูล้วนไม่สามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนได้ ฟู่จาวหนิงคือหยิงสาวที่ขี้เหนียวขี้หึง คิดจะครองอ๋องเจวี้ยนแค่คนเดียว!นางไม่มีความสามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน พระชายาเยว่ก็ไม่ค่อยพอใจกับความสามารถนาง จึงส่งนางมาให้กับเฉินฮ่าวปิงนี่เท่ากับลดระดับลงเสียแล้วเฉินฮ่าวปิงถึงแม้จะเป็นท่านหญิง แต่ชิวอวิ๋นมองไม่ออกเลย ว่าอยู่กับท่านหญิงคนนี้แล้วจะดีได้ จะไปเทียบกับอ๋องเจวี้ยนก็ไม่มีคุณสมบัติ เทียบกับพระชายาเยว่ก็เทียบไม่ได้หลังจากนี้นางต้องติดตามเฉินฮ่าวปิง อย่างมากสุดก็แค่ต้องดูว่าเฉินฮ่าวปิงจะแต่งงานกับ
"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอเทวดานี่นะ คนเป็นหมอไม่ใช่ควรรักษาคนเจ็บหรือ?"องค์หญิงเจ็ดพอได้ยินว่าหาเรื่องให้ฟู่จาวหนิง ตอนนี้ก็มีแรงขึ้นมาทันที เรื่องนี้นางว่าได้อยู่!"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเก่งกาจมาก ไม่ใช่คนที่พวกเราจะเทียบได้ นางมีความกล้าความสามารถ มีไหวพริบ มีวิชาแพทย์ พวกเราไม่กล้าไปเมืองเจ้อ พวกเรากลัวผู้ประสบภัย แต่นางไม่กลัวแน่ๆ"คุณหนูสี่หลินคนนั้นก็เปลี่ยนท่าทีไปสิ้นเชิง กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีสายตาฟู่จาวหนิงเหลือบมองหน้านาง คุณหนูสี่หลินคนนี้นางก็ไม่รู้จัก ทำไมถึงมีเจตนาร้ายกับนางขนาดนี้"ก็คือว่า พระชายาอ๋องเจวี้ยนเพิ่งเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่นี่นะ? แล้วการมีตัวตนฐานะแบบนี้ การรักษาคนเจ็บก็เป็นเร่งที่สมควรนี่ ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังได้ยินว่าหมอของสมาคมหมอใหญ่ล้วนเป็นชายหมด แล้วยังมีอายุมากด้วย พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอหญิงคนหนึ่ง แล้วอายุก็ยังน้อยที่สุดด้วย ก็ควรจะรีบออกไปสร้างคุณความดีสิ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้หยั่งเท้าไม่มั่นคงในสมาคมหมอใหญ่แล้วจะทำอย่างไรกัน?"มีแม่นางที่อายุมากขึ้นมาหน่อยอีกคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงเรียบสงบหญิงสาวที่อยู่ด้วยกันกับคุณหนูสี่หลินท
พอถูกนางพูดออกมา มีทั้งคนที่ตกตะลึง มีทั้งคนที่แอบโกรธ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จะมากน้อยก็ยังรู้สึกหวั่นไหวกับข้อเสนอนางถ้าหากพวกนางสามารถทำเรื่องใหญ่นี้ได้สำเร็จ จะได้มีชื่อเสียงระบือในเมืองหลวงจริงไหม ได้รับการชื่นชมยกย่องจริงไหม"พวกท่านจะกังวลอะไรกัน? ข้าได้ยินว่า เมืองหลวงก่อนหน้านี้ก็มีคุณหนูฮูหยินไม่น้อยมาตั้งเพิงโรงทานแจกข้าวต้ม แล้วงานนี้แตกต่างกับการแจกข้าวต้มตรงไหนกัน เป็นเรื่องได้บุญทั้งนั้น ทำเรื่องได้กุศล สำหรับสายตาผู้อาวุโสในตระกูล ก็ถือว่าเป็นรุ่นหลังที่ฉลาดมีความสามารถไหม?"นี่ก็จริง!ช่วงหน้าหนาว อันที่จริงก็มีฮูหยินคุณหนูไม่น้อยที่ไปแจกข้าวต้มไม่ใช่แค่เพื่อเอาใจผู้อาวุโสในตระกูล การทำเรื่องกุศลเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ใครก็แข่งกันทำด้วยก่อนหน้านี้ทุกคนยังแก่งแย่งชิงดีกัน เทียบกันว่าเพิงโรงทานแจกข้าวต้มของตระกูลไหนทำได้ดีกว่า เพิไหนที่มีคนจนมาเข้าแถวรอข้าวต้มเยอะกว่านี่เป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อเพิ่มชื่อเสียงพูดแบบนี้ ทุกคนเองก็หวั่นไหวขึ้นมาแล้ว รู้สึกว่าข้อเสนอของเฉินฮ่าวปิงนี้เหมือนจะไม่ใช่ไร้สาระ"ท่านหญิงปิงอวี้ดูเหมือนจะไปหาข่าวมาละเอียดเชียว" ฟางซือฉ
เหล่าคุณหนูพวกนี้พอเอ่ยถึงผู้ประสบภัย ก็มีสีหน้าหวาดกลัวและดูถูกพวกนางล้วนมีอำนาจในเมืองหลวง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผุ้ประสบภัยน่ะห่างจากพวกนางไกลโขเลยกระทั่งจินตนาการ พวกนางก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้ประสบภัยเป็นอย่างไรด้วยซ้ำคุณหนูเหล่านี้ไม่กล้าไปสถานที่วุ่นวายมาก่อน ในเมื่อเมืองเจ้อเต้มไปด้วยผู้ประสบภัย แล้วพวกนางจะกล้าไปได้อย่างไรกัน?"จริงด้วย ต่อให้มีผู้ประสบภัยหญิงมากแค่ไหน พวกเราเองจะไปช่วยอะไรได้? หรือว่าพวกเรายังต้องรับพวกนางกลับมาเมืองหลวงด้วย?""นั่นไม่ได้หรอก เมืองหลวงไม่มีทางให้ผู้ประสบภัยเข้ามาแน่""แล้วก็ ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ผู้ประสบภัยก็ยังเป็นผู้ประสบภัย ล้วนเป็นประชาชนชั้นต่ำทั้งนั้น" มีหญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าดุร้ายขึ้นมาหน่อยๆคำพูดนี้มีหลายคนที่ยอมรับ เพียงแต่ว่า ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเฉินฮ่าวปิงหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้เป็นคุณหนูจากตระกูลดังนะ แต่เรื่องใหญ่พวกนี้ก็ทำกันไม่ได้หรือ!แต่ว่านางต้องการเรื่องใหญ่สักเรื่องเพื่อสร้างความนิยมให้ตนเอง ให้คนทั้งแคว้นเจารู้จักท่านหญิงปิงอวี้ในทันทีถึงตอนที่นางมีชื่อเสียง มีบารมี องค์จักรพรรดิก็จะตบรางวัลให้นางอ