แชร์

บทที่ 337

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
จะว่าไป ต้วนจ้งกรอกยานั้นไป เขาไม่มีทางให้ต้วนจ้งมีโอกาสแตะต้องตัวของฟู่จาวหนิงเด็ดขาด

มีคนนำถังออกมาเตรียมไว้ และยังหิ้วน้ำมาอีก

ต้วนจ้งเห็นฟู่จาวหนิงที่งดงามสวยสง่า สองตาก็แดงก่ำขึ้นทันที จ้องนางราวกับหมาป่าตัวหนึ่งที่จะฉีกท้องของนางออกกิน

"ปิดตาเขาไว้" เซียวหลันยวนพอเห็นสายตาเขาเช่นนี้ สีหน้าก็ขรึมลง สั่งคนในวังให้เอาผ้าดำเข้ามา

ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ไม่เหมาะสม เขายังคิดจะควักดวงตาทั้งสองของต้วนจ้งออกมาด้วย!

สายตาของเขาที่มองฟู่จาวหนิง เขาล้วนรู้สึกว่าค่อยสบายทั้งนั้น

ฟู่จาวหนิงมองเขา

นี่กำลังทำอะไรกัน?

ต้วนจ้งแค่มองนางก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับนางนี่ แต่ว่านางเองก็ไม่ได้เสนอความเห็นอะไร ไม่ได้ห้ามด้วย

ต้วนจ้งถูกผูกดวงตาไว้ ถ้ามองไม่เห็นแล้ว แต่เขาก็ยังได้กลิ่นหอมรางๆ ของหญิงสาวอยู่ จึงดิ้นไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

เหล่าเจ้าหน้าที่เองก็มองอย่างไม่ค่อยเป็นสุขนัก

ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มออกมา ให้คนกดต้วนจ้งไว้ และผู้คนก็เห็นว่าวิธีของนางรวดเร็วมาก ยกมือปักเข็ม ไม่ได้แตะโดนตัวต้วนจ้งเลย ก็จัดการแทงเข็มลงไปเต็มตัวเขาแล้ว

และเข็มทุกเล่มนางก็ดีดๆ อยู่ครู่หนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งจึงดึงเก็บเข็มลงมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 338

    ออกมาจากในวังอันเหนียนพาอันชิงมาถึงเบื้องหน้ารถม้าอ๋องเจวี้ยนพี่น้องสองคนคารวะอย่างลึกซึ้งกับฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยน พระชายา หลังจากนี้หากมีอะไรที่จะเรียกใช้ตระกูลอัน ขอโปรดกำชับมา อันเหนียนเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ"เป็นอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ช่วยน้องสาวของนาง ช่วยตระกูลอันเอาไว้"ล้วนเป็นคุณความงามของนางทั้งสิ้น"เซียวหลันยวนมองไปทางฟู่จาวหนิง"ถ่อมตัวขนาดนี้เลยหรือ? ถ้าไม่ใช่เจ้าพาต้วนจ้งมา แล้วยังหาใจละเมอมาได้ แล้วยังเป็นธุระลากเขาเข้ามาในวังอีก เรื่องคงไม่ได้ราบรื่นเช่นนี้"ฟู่จาวหนิงเองก็คงไม่เอาคุณความดีทั้งหมดแบกเอาไว้บนบ่าตัวเองหรอกเรื่องนี้ ก็เป็นเพราะเขาช่วยจริงๆเซียวหลันยวนกล้าแบกแรงคุกคามที่มาจากองค์จักรพรรดิและฮองเฮา คนอื่นทำไม่ได้หรอกถ้าหากไม่มีเขา เรื่องราวคงไม่ราบรื่นเช่นนี้"ท่านอ๋องกับพระชายาเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องแยกกันขนาดนี้หรอก สรุปคือ บุญคุณของทั้งสองคน อันเหนียนจดจำไว้ในใจแล้ว"อันเหนียนมองพวกเขาสองสามีภรรยา ยิ้มแผ่วเบาขึ้นมา"ขอบคุณอ๋องเจวี้ยน ขอบคุณพระชายา" อันชิงมองฟู่จาวหนิง ดวงตาแดงก่ำ"ไม่ต้องขอบคุณแล้ว พวกเจ้าไม่ใช่มาส่งขอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 339

    "แน่นอนว่าต้องมาจากที่ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์มาน่ะสิ แต่ว่าอาจารย์ข้าเป็นพวกชีพจรลงเท้า แล้วยังเคยบอกกับข้าว่า ถ้ายังไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์กันจริงๆ ก็ห้ามให้ข้าเปิดเผยเรื่องที่รู้เรื่องแพทย์นี้"ฟู่จาวหนิงกลอกตา ปั้นเรื่องขึ้นมานางรู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไปตรวจสอบนาง แต่คงตรวจสอบมาไม่ได้หรอกว่านางเรียนแพทย์มาจากใคร ดังนั้นนางจึงพูดให้ลึกลับหน่อย เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"ดังนั้นก่อนหน้านี้เจ้าคือเอาแต่เสแสร้งหรือ?""เสแสร้ง? บางส่วนใช่แต่บางส่วนก็ไม่ใช่""ก่อนหน้านี้ที่พูดไว้ในตำหนัก เป็นเรื่องจริงหรือ?""ท่านถามเรื่องไหนล่ะ?""ที่บอกว่าเจ้ารู้สึกดูถูกเรื่องของเซียวเหยียนจิ่ง" เซียวหลันยวนยังรู้สึกสนใจกับเรื่องที่นางก่อนหน้านี้ไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งเพื่อจะแต่งงานกับเขาเขารู้สึกว่า น่าจะเพราะเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าฟู่จาวหนิงสมัยก่อนสายตาย่ำแย่ขนาดนั้นตอนนี้ดูแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนที่จะลุ่มหลงในตัวเซียวเหยียนจิ่งเลยนี่ต่อให้นางชอบ ถึงอย่างไรก็ยังต้องชอบผู้ชายอย่างเขาสิถึงจะถูก"เรื่องนี้ต้องให้พูดอยู่ตลอดด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงปิดปากหาว ขี้เกียจจนไม่อยากจะพูดคุยแล้ว นางง่วงส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 340

    "พวกเจ้ารู้ไหม? ว่าผ้าที่นำมาทอกระโปรงตัวนั้นมันยิ่งใหญ่แค่ไหน คิดว่าเซียวหลันยวนจะต้องมอบให้คนในดวงใจเขาแน่ๆ หรือก็คือเตรียมไว้สำหรับพระชายาที่แท้จริงของพวกเจ้าหลังจากนี้"ฟู่จาวหนิงคิดถึงสายตาริษยาตอนที่พวกของฮองเฮาเห็นจันทราโน้มเมืองอยู่บนตัวนางขึ้นมาเนื้อผ้าที่นำมาทอชุดกระโปรงนั้นได้มาอย่างยากลำบากมาก เป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงส่งต่อมาให้เซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตัดทอชุดนี้ตามรูปร่างของแม่นางบางคน คิดแล้วน่าจะเป็นคนในใจเขากระมังเพียงแต่เขาซ่อนนางผู้นั้นเอาไว้มิดชิดมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้บางที อาจจะเป็นซ่งอวิ๋นเหยา?ครั้งนี้นางอยู่ในงานเลี้ยงไม่เห็นซ่งหยวนหลินเลย แต่ซ่งหยวนหลินก็น่าจะเจ้าคิดเจ้าแค้นนางอยู่ตลอด รอจนซ่งอวิ๋นเหยากลับมาถึงเมืองหลวง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาหาเรื่องนางไหมฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ไม่จริงไม่ปลอมแบบนี้ดูยุ่งยากเสียเหลือเกินนางเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปเด็ดดอกท้อของเซียวหลันยวนหรอก แต่ว่าถ้าไปแตะเข้ากับดอกท้อของเขาเข้า นางก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญมาก"พระชายา ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงถามฟู่จาวหนิงขึ้นอย่างระม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 341

    "รู้ว่าคุณงามความดีของเจ้ามีไม่น้อย ค่ายาเจ้าก็คิดมาเลย จะคืนให้เจ้าแน่ ไม่จำเป็นต้องแวะมาเตือนเช้าขนาดนี้""ท่านอ๋อง พระชายาไม่ได้มาด้วยเหตุผลนี้แน่นอน" ชิงอีรีบร้อนอธิบายท่านอ๋องเข้าใจผิดว่าพระชายามาท่วงค่ายาได้อย่างไรกัน?ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ไม่ ข้ามาทวงหนี้นั่นล่ะ นอกจากค่ายาแล้วยังมีอีก ท่านบอกว่าจะเอาเรื่องของผู้เฒ่าฟู่สี่ท่าตรวจสอบมาบอกกับข้า ตอนนี้ยังไม่ได้บอกเลย"หญิงสาวคนนี้ไม่เคยจำเรื่องดีดีของเขาเลย เมื่อคืนนี้เขาก็อุ้มนางเข้าไปจริงๆ หลังจากนางตื่นขึ้นมาก็ต้องมาบอกขอบคุณเขาหน่อยสิ ไม่ใช่คิดแต่จะมาทวงนั่นนี่เสียชัดเจนแบบนี้"เข้ามา"เซียวหลันยวนเหลือบมองเสื้อผ้าของนาง"กระโปรงชุดนั้นล่ะ"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ เขาเครียดกับชุดนั้นมากจริงๆ ด้วย ในเมื่อเป็นห่วงเสียขนาดนั้น เมื่อวานเอามาให้นางสวมทำไมกัน?"วางใจเถอะ เมื่อวานตอนที่ท่านบอกให้หงจั๋วกับเฝิ่นซิงถอดออกมาไม่ใช่กำชับให้ระมัดระวังแล้วหรือ? กระโปรงชุดนั้นไม่มีแม้แต่รอยยับกับรอยเกี่ยวขาดเลย ข้าให้พวกนางเก็บให้ดีแล้ว พอตากจนแห้งก็จะส่งมาให้ท่านเอง แล้วท่านค่อยเก็บเอาไว้ให้ดี"เมื่อคืนเขายังจงใจกำชับให้หงจั๋วระมั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 342

    เซียวหลันยวนยกตะเกียบขึ้นมองนาง "ไร้เดียงสา""ข้าสนุก"ฟู่จาวหนิงรีบแย่งคีบเสี่ยวทังเปาที่แย่งเขามาก่อนหน้าชิ้นนั้นยัดเข้าปากลงไปชิงอีเห็นท่านอ๋องกับพระชายาสองคนเล่นแย่งของกินกันเหมือนเด็กๆ อยู่ข้างๆ ก็อดยิ้มจนมุมปากแทบจะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ดีเสียจริงหลายปีมานี้ท่านอ๋องกินข้าวอยู่คนเดียว เขากินไปแค่ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงแล้ว กินต่อไม่ลง และกินอย่างไม่ค่อยจะเบิกบานใจด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่านอ๋องกินได้ผ่อนคลายและเบิกบานได้ขนาดนี้กระทั่งท่านอ๋องยังมีหลายครั้งที่แย่งคีบจากตะเกียบขอพระชายาอีกด้วย จงใจแหย่พระชายาที่กำลังกินอย่างมีความสุขท่านอ๋องยังพูดว่าพระชายาไร้เดียงสาเสียด้วย ทั้งที่เขาเองก็ไร้เดียงสาเช่นกันหนึ่งมือเช้ากินเสร็จ ฟู่จาวหนิงอดลูบท้องของตนเองขึ้นมาไม่ได้ ถอนหายใจออกมา"เฮ้อ แน่นไปหมดแล้ว"นี่ไม่ใช่นิสัยที่ดีนักกินจนแน่นไม่ใช่เรื่องดี"นี่เป็นถึงหมอเลยนะ เป็นหมอแต่ไม่รู้ขีดจำกัดการกินหรือ?" เซียวหลันยวนรินน้ำชาพลางหัวเราะ "ยิ่งไปกว่านั้น คุณหนูสูงศักดิ์ที่รู้กาลเทศะ จะไม่ทำกิริยาไม่งามเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ"ฟู่จาวหนิงเหยียดเขาผาดหนึ่ง "อะไรคือก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 343

    "ตายหมดหรือ?""ใช่ จับไปเจ็ดคน ตายไปห้าคน ยิ่งไปกว่านั้นยังตรวจไม่ได้ด้วยว่าตายอย่างไร จวนทางการต่อมาปิดคดีไป บอกว่าเด็กเหล่านั้นหวาดกลัวคิดจะหลบหนี ทำให้พวกโจรสังหารพวกเขา แล้วยังโยนพวกเขาลงไปจากเขาด้วย ผู้เฒ่าฟู่สี่ตอนนั้นถูกโยนลงไปด้านล่างเขา ตอนช่วยกลับมาก็บาดเจ็บหนัก จนกลายมาเป็นสภาพในตอนนี้ แต่ว่าเขาตกใจมากเกินไป นับตั้งแต่นั้นจึงพูดจาน้อยลงและไม่ค่อยออกไปพบปะผู้คน"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว"ท่านปู่ของข้าไม่เคยบอกว่าเพราะอะไรถึงให้หลายบ้านพวกนั้นเข้ามาอยู่ในตระกูลฟู่""ตอนนั้นพวกเขาเข้ามาอยู่ในตระกูลฟู่แล้ว แต่ว่าต่อมาให้ปู่ของเจ้าทำเป็นปิดตาข้างหนึ่งต่อพวกเขา น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ปู่ของเจ้าอาจจะรู้สึกผิดต่อผู้เฒ่าฟู่สี่อยู่ เพราะตอนที่พบพวกเขา ผู้เฒ่าฟู่สี่ปกป้องบิดาของเจ้าอยู่ บนตัวของบิดาเจ้ามีแผลถลอกบางส่วน หลังจากกลับมาบ้านก็ป่วยไปรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พิกลพิการ"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ฟู่จาวหนิงคิดถึงเรื่องในช่วงหลายปีนี้ มิน่าพวกบ้านอื่นเหล่านั้นทำเรื่องที่เกินเหตุมาหลายครั้ง แต่ท่านปู่ก็เอาแต่ถอนใจพูดว่า ช่างมันเถอะช่างมันเถอะแต่ว่าเรื่องที่ผู้เฒ่าฟู่สี่ทำ ไปเกี่ยวข้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 344

    เซียวหลันยวนพอเห็นภาพนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาดีดตัวลุกขึ้นยืน แขนเสื้อยังพลิกแก้วชาจนคว่ำ จนน้ำชาหกลงมาวินาทีที่ภาพนั้นเกือบจะเปียก ฟู่จาวหนิงก็มือไวกวาดขึ้นมานางเงยหน้ามองเซียวหลันยวนปฎิกิริยาไวขนาดนี้เชียวไม่ต้องถามเลย เขาต้องเคยเห็นรูปนี้มาก่อนแน่นอนเดิมทีนางเมื่อคืนนี้ก็คิดจะหาโอกาสถามคนอื่นดูเหมือนกัน แต่ว่าสถานการณ์ในวังเมื่อคืนนี้ พอนางยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามคนทั้งหมด มันก็หาใครสักคนมาถามไม่ได้เลยจริงๆฟู่จาวหนิงก็แอบตรวจสอบตราหยกและตราปักบนเสื้อผ้าของคนเหล่านั้นแล้ว แต่ก็ไม่เห็นที่คล้ายกันเลยคิดแล้วอีกเดี๋ยวกลับไปแล้วยังต้องไปตอบเฮ่อเหลียนเฟยอีก นางจึงเพิ่งคิดจะถามเซียวหลันยวน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของเซียวหลันยวนจะมากขนาดนี้"ท่านเคยเห็นหรือ?"นางถึงแม้จะไม่ถาม แต่กลับมั่นใจมาก ว่าเขาต้องรู้แน่ๆ"เจ้าเชื่อไหมว่าเด็กน้อยก็มีความทรงจำอยู่ระดับหนึ่ง?"เซียวหลันยวนสูดลมหายใจลึก จากนั้นก็นั่งลง หยิบผ้ามาเช็ดน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะ"ท่านอย่าบอกข้านะ ว่าท่านเห็นสิ่งนี้ตอนที่ถูกกรอกยาเมื่อครั้งนั้น ตอนนั้นท่านเพิ่งจะอายุไม่ถึงสองขวบนี่?"ฟู่จาวหนิงเดาออกมาแต่ก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 345

    ผู้ชายคนนี้ มิน่าถึงต่อให้เขาจะเจ็บป่วย แต่องค์จักรพรรดิก็ยังหวาดกลัวเขา!ถ้าเขาไม่ได้ป่วยอ่อนแอ ถ้าไม่ใช่บนใบหน้าเขามีบาดแผล บัลลังก์มังกรเองก็ยังไม่แน่ใจว่าใครจะได้ขึ้นไปนั่ง!"ตราหยกชิ้นนั้น""เจ้าคิดว่าทำไมข้าถึงต้องรอให้บิดามารดาเจ้ากลับมากัน?"พอพูดถึงเรื่องนี้ ระหว่างพวกนางก็เหมือนมีกำแพงอุปสรรคลอยขึ้นมาแล้วตราหยกนี้ ตอนนี้มาเตือนพวกเขา ระหว่างพวกเขายังคั่นเอาไว้ด้วยความแค้นลึกหยั่งที่อาจจะมีอยู่จริงฟู่จาวหนิงรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมารอยยิ้มในดวงตาเซียวหลันยวนเหมือนจะสลายหายไปแล้ว"ตราหยกชิ้นนี้แม้ว่าจะสลักคำว่าฟู่เอาไว้ นั่นจะเป็นไปได้ไหมว่าเกี่ยวกับบ้านตระกูลฟู่ของเจ้า? หลังจากกลับไปแล้ว เจ้าลองถามปู่ของเจ้าดู""ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย""เจ้าไม่เคยเห็นไม่ได้แสดงว่ามันไม่ใช่ของตระกูลฟู่""เอาล่ะ ข้าจะกลับไปถามท่านปู่ดู" ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน"เฮ่อเหลียนเฟยให้เจ้ามาหรือ?"เซียวหลันยวนเรียกนางเอาไว้"ใช่""เช่นนั้น บิดามารดาเจ้าก็อาจจะเคยไปที่เผ่าเฮ่อเหลียน หรือก็คือ พวกเขายังมีชีวิตอยู่""ท่านคิดว่า คนสกุลฟู่ที่เฮ่อเหลียนเฟยหาตัวอยู่คือบิดาของข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงใน

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1875

    ฟู่จาวหนิงพอได้ข่าว ก็เตรียมยาเสร็จแล้วผงยามีทั้งหมดสิบห้าห่อ พอพวกเขาคำนวณทิศทางลมดีแล้ว ก็ให้อาศัยต้นไม้สูงใหญ่ จากนั้นก็ใช้ปีกสายลมกับวิชาตัวเบา ก็สามารถโปรยผงยาออกไปในบริเวณกว้างได้"ผงยาเหล่านี้มียาแก้อยู่ พวกเจ้าต้องกินยาแก้ไว้ก่อน ถึงตอนนั้นถ้าเผื่อสูดเข้าไปจะได้ไม่เกิดเรื่อง"ฟู่จาวหนิงส่งยาแก้ให้กับพวกเขาฟู่จิ้นเชินดูทิศทางลมไว้แล้ว คนหาตำแหน่งเหมาะๆ ที่จะลงมือจนตอนที่พวกเขาเตรียมการเสร็จ ก็ถึงเวลาหนึ่งชั่วยามที่โจวติ้งเจินให้ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอดีโจวติ้งเจินส่งคนมาตะโกนที่ใต้หอเมือง"ใต้เท้าโหยว! หนึ่งชั่วยามแล้ว รีบเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!"ทางนั้น ภายใต้การชี้แนะของฟู่จิ้นเชิน เหล่าองครักษ์ที่สวมปีกสายลมก็แฝงตัวออกไปอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนยืนอยู่บนหอเมืองเขาปรากฏตัวตรงนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของพวกโจวติ้งเจินได้พอดี ให้พวกเขามองข้ามสิ่งอื่น เพื่อให้เหล่าองครักษ์ปีกสายลมทำงานได้"ใต้หอเมืองเจ้อนี้ล้วนเป็นอิฐดำ โจวติ้งเจิน เจ้าคิดจะใช้ไฟโจมตี หัวสมองถูกไม้กระดานหนีบไว้หรืออย่างไร?" เซียวหลันยวนส่งเสียงลอดออกไปไกล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1874

    อ๋องเจวี้ยนจงใจดูถูกเขาหมิ่นเขาเพิกเฉยเขา จงใจแน่ๆ กลัวเขาเสียที่ไหนกัน?อ๋องเจวี้ยนยังจงใจแสดงวิชาตัวเบาที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกมาต่อหน้าเขาอีก นี่มันตบฉาดหน้าเขาชัดๆระหว่างทางที่มาโจวติ้งเจินคิดแผนการเอาไว้ดิบดี แต่ปฏิกิริยาของอ๋องเจวี้ยนกลับทำแผนของเขาวุ่นวายไปหมดใครจะรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมีนิสัยแบบนี้?ทำเอาคนทั้งชิงชังทั้งจนใจเลยจริงๆ"อ๋องเจวี้ยน โจวติ้งเจินเอาแต่เรียกพระชายาให้ออกไป จะต้องคิดใช้พระชายา ล่อท่านออกไปแน่" อันเหนียนบอกกับเซียวหลันยวน "แต่พระชายาถ้ายังไม่ออกไปอีก ถึงตอนนั้นโจวติ้งเจินอาจจะผลักภาระทั้งหมดมาบนตัวพระชายาได้นะ องค์จักรพรรดิคงถือโอกาสนี้จัดการพระชาแน่"ถึงตอนนั้น โจวติ้งเจินแค่บอกกับองค์จักรพรรดิว่า พระชายาไม่ยอมออกมาพบหน้าเพื่ออธิบายอาการป่วยของเมืองเจ้อ ทำให้เขาไม่แน่ใจในสถานการณ์ การรักษาคนป่วยเหล่านั้นผิดพลาด ความรับผิดชอบนั้นทั้งหมดจะไปอยู่บนตัวพระชายาอันเหนียนถึงอย่างไรก็เป็นแค่ขุนนาง เขาไม่อาจต่อต้านจักรพรรดิได้ ดังนั้นตอนนี้จึงกังวลว่าจักรพรรดิจะคาดโทษฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินมองเซียวหลันยวน"จาวหนิงไม่ออกไป องค์จักรพรรดิก็คาดโทษนางไม่ได้" เซี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1873

    และถ้าสู้ชนะ...เอ่อ ต่อให้รองขุนพลของโจวติ้งเจินจะไม่ค่อยมั่นใจ ว่าท่านขุนพลจะสู้ชนะอ๋องเจวี้ยนได้ไหม?พวกเขาไม่เคยสู้กัน แต่ก็ลือกันว่าวรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนแข็งแกร่งมาก...แค่ที่อ๋องเจวี้ยนลงมือเมื่อครู่ พวกเขาก็เห็นกับตากันแล้วกระโจนลงมาจากหอเมืองยังไม่เท่าไร แต่หลังจากร่อนลงมาแล้วก็ยังสามารถยืนอยู่บนหลังม้าได้ ทำให้ม้าตัวนั้นไม่กล้าจะขยับ พวกเขาเองทำไม่ได้แน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่กลางอากาศก็ยังเตะขุนพลน้อยคนนั้นปลิวมาไกลขนาดนี้ กำลังภายในลึกล้ำแค่ไหนกัน?"ข้าต้องกลัวเขาด้วยเรอะ?"โจวติ้งเจินถูกยั่วยุง่ายมาก เขาอยากจะประลองกับเซียวหลันยวนมาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีโอกาส"ท่านขุนพลไม่ต้องกลัวเขาอยู่แล้วขอรับ แต่ว่าเขาเป็นถึงอ๋องเจวี้ยน ท่านขุนพลไม่มีเหตุผลต้องไปลงมือกับเขานี่ขอรับ"รองขุนพลขวางโจวติ้งเจินเอาไว้ถ้าตอนนี้เขาออกไปสู้กับอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา เดี๋ยวจะอธิบายลำบากเปล่าๆองค์จักรพรรดิเกรงว่าก็อยากจะจัดการอ๋องเจวี้ยนอยู่ แต่ยังไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้งนักถ้าหากลงมือกับอ๋องเจวี้ยนไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นถ้าองค์จักรพรรดิต้องหาคำอธิบายกับเหล่าพระญาติและอ๋องเจวี้ยน คงได้หันมาลงโท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1872

    "หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status