เพราะอะไรกัน?ทำไมเขาจึงรู้ละเอียดขนาดนี้?องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเองก็มองเซียวเหยียนจิ่งอย่างตกตะลึง ทั้งสองคนสีหน้าดำทมึนไปแล้วเพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย"เด็กคนนั้นพวกเจ้าแน่นอนว่าต้องรับไว้ ข้าจำได้ จวนชินอ๋องเซียวเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ซื้อตัวคนใช้ไปสองคน ฮูหยินคนนั้นตอนนั้นก็เพิ่งจะคลอดเด็กออกมา บอกว่าที่บ้านจนเพราะคลอดเด็ก จึงขายตัวเข้าไปในจวนชินอ๋องเซียว แต่ตัวเด็กให้คนแก่ที่บ้านดูแล บางครั้งพวกเขาก็ยังอุ้มเด็กไปเดินวนเวียนอยู่ที่จวนชินอ๋องเซียว บอกกับภายนอกว่าเป็นเด็กจากบ้านพวกเขา แต่อันที่จริงเด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า"เซียวหลันยวนพูดจบเหล่านี้ ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าสายตาตนเองแต่ก่อนมันแย่เสียเหลือเกิน?คนเช่นนี้ ผู้ชายเช่นนี้ นางกลับเอาแต่ไล่ตามจะเอามาให้ได้หรือ?พอคิดถึงเรื่องนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าในใจตนเองอึดอัดไปหมดฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบนางมองเห็นความดูถูกจากสายตาของเขาเอาล่ะๆๆ นางตาบอดไปเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นางเสียด้วย"รัฐทายาทยังไม่รับพระชายาเลย แต่กลับมีลูกเสียแล้ว ตอนนี้มารดาของลูกชายคนโตก็ยังเป็นสาวใช้
เพราะอะไรกัน?ทำไมเขาจึงรู้ละเอียดขนาดนี้?องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเองก็มองเซียวเหยียนจิ่งอย่างตกตะลึง ทั้งสองคนสีหน้าดำทมึนไปแล้วเพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย"เด็กคนนั้นพวกเจ้าแน่นอนว่าต้องรับไว้ ข้าจำได้ จวนชินอ๋องเซียวเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านี้ซื้อตัวคนใช้ไปสองคน ฮูหยินคนนั้นตอนนั้นก็เพิ่งจะคลอดเด็กออกมา บอกว่าที่บ้านจนเพราะคลอดเด็ก จึงขายตัวเข้าไปในจวนชินอ๋องเซียว แต่ตัวเด็กให้คนแก่ที่บ้านดูแล บางครั้งพวกเขาก็ยังอุ้มเด็กไปเดินวนเวียนอยู่ที่จวนชินอ๋องเซียว บอกกับภายนอกว่าเป็นเด็กจากบ้านพวกเขา แต่อันที่จริงเด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า"เซียวหลันยวนพูดจบเหล่านี้ ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าสายตาตนเองแต่ก่อนมันแย่เสียเหลือเกิน?คนเช่นนี้ ผู้ชายเช่นนี้ นางกลับเอาแต่ไล่ตามจะเอามาให้ได้หรือ?พอคิดถึงเรื่องนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าในใจตนเองอึดอัดไปหมดฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบนางมองเห็นความดูถูกจากสายตาของเขาเอาล่ะๆๆ นางตาบอดไปเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นางเสียด้วย"รัฐทายาทยังไม่รับพระชายาเลย แต่กลับมีลูกเสียแล้ว ตอนนี้มารดาของลูกชายคนโตก็ยังเป็นสาวใช้
หมอเทวดาหลี่จ้องสีหน้าของเซียวเหยียนจิ่งเขม็งเขาเองก็มองออกแล้ว ปฏิกิริยานั่นของเซียวเหยียนจิ่ง ก็ถูกอ๋องเจวี้ยนพูดความจริงจี้ใจดำเรื่องนั้นเป็นความจริงเขามองไปทางลูกสาว"จื่อเหยา รัฐทายาทเซียว..."หลี่จื่อเหยากลับรับแรงกระแทกนี้ไม่ไหว ปิดปากร้องไห้โฮขึ้นมาการร้องไห้นี้ สายตาคนทั้งหมดจึงมองมาทางนางสีหน้าชินอ๋องเซียวกับเซียวเหยียนจิ่งดำทมึนขึ้นไปอีกหลี่จื่อเหยาจู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาในช่วงสำคัญเช่นนี้มันเกิดอะไรขึ้น?"พี่เซียวทำไมจึงเป็นเช่นนี้!"หลี่จื่อเหยายืนขึ้นมา ร้องไปทางเซียวเหยียนจิ่งอย่างเสียใจ จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งไปทางประตูตำหนักได้ยินเสียงร้องไห้ของนางห่างออกไป ทั่วทั้งลานก็เงียบงันคนทั้งหมดล้วนมองไปทางเซียวเหยียนจิ่งเรื่องนี้คงอธิบายได้ยากแล้วใช่ไหม?แม่นางหลี่ที่อยู่กับเซียวเหยียนจิ่งมาตลอดพอรู้ว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนพูดเป็นเรื่องจริง! ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางเช่นนี้ของแม่นางหลี่ ก็อธิบายได้แล้วใช่ไหมว่าระหว่างนางกับรัฐทายาทเซียวเองก็ยังไม่แน่ไม่นอน?ตอนนี้แม่นางหลี่รู้สึกว่าถูกหลอก จึงเสียอกเสียใจสินะรัฐทายาทเซียวยังล้อเล่นกับแม่นางอีกคนหรือ?"่จุ๊ๆๆ รู
อ๋องเจวี้ยนให้ความรู้สึกแปลกๆ กับนาง ที่แปลกก็คือฟู่จาวหนิงก็ให้ความรู้สึกเช่นนี้กับนางดื่มกินสุราอาหารกันแล้ว บรรยากาศเปลี่ยนกลับมาเสียทีจากนั้นก็มีนางรำขึ้นมาร่ายรำไปบทเพลงหนึ่ง ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วยฟู่จาวหนิงไม่ค่อยได้กินอาหารบนโต๊ะเท่าไรนักเซียวหลันยวนพบว่าในมือนางถือถุงผ้าใบเล็กไว้ ประเดี๋ยวประด๋าวก็หยิบเม็ดถั่วด้านในออกมากิน"อาหารไม่ถูกปากหรือ?" เขาถามนางขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"เย็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะน่าสนใจ" ฟู่จาวหนิงตอบกลับคำหนึ่ง "ท่านเองก็ไม่เห็นจะกินนี่?"นางชิมไปแล้วหลายคำ แต่เขากลับไม่แตะเลยแม้แต่น้อย"กระเพาะไม่ค่อยดี" เซียวหลันยวนตอบกลับมาคำหนึ่ง"เมื่อครู่เรื่องนั้นที่พูดมาเป็นเรื่องจริงไหม?" ฟู่จาวหนิงเขยิบชิดเข้าไป"แล้วเจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ตอบกลับดีดีหน่อยไม่ได้หรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ ไม่เดาแล้ว อันที่จริงที่นางรู้มาจะต้องเป็นเรื่องจริงแน่ เขาไม่จำเป็นต้องดึงคนอื่นลากลงน้ำไปด้วยเรื่องราวเดิมทีจะต้องเป็นเช่นนี้แน่ เขาก็แค่เปิดโปงออกมาฮองเฮาตอนนี้มองไปทางอันชิง"คุณหนูตระกูลอันเข้าวังมาเป็นครั้งแรกหรือ?"ถึงแม้ตอนที่นางพูดประโยคนี้น้ำเสียงจะดูอ
"บังอาจนัก!"ฮองเฮารู้สึกทนไม่ไหวแล้ว ตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงขึ้นมาคำหนึ่งมาบอกว่าฮองเฮาอย่างนางเอาแต่ฟังคนพูดเรื่องไร้สาระหรือ!ฟู่จาวหนิงเห็นนางเป็นฮองเฮาในสายตาหรือไม่กัน?"ฮองเฮา ข้าแค่อยากจะบอกความจริงกับท่านเท่านั้น ไม่ได้บังอาจอะไร เรื่องที่ฮองเฮาถามข้าเองก็เข้าใจมากกว่าจริงๆ จะบอกว่าข้าพูดไม่ได้หรือ?"ฟู่จาวหนิงย้อนถาม สีหน้าดูบริสุทธิ์ไม่มีความผิดคนทั้งหมดล้วนถูกยั่วน้ำลายกันหมดแล้วพวกเขาอันที่จริงก็อยากรู้ ว่าทำไมเรื่องของอันชิง ฟู่จาวหนิงจึงบอกว่านางเข้าใจชัดเจนกว่าตัวอันชิงไม่ใช่กำลังจะส่งตัวอันชิงไปหาอ๋องเจวี้ยนแล้วหรอกหรือ? ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนทำไมจึงดูไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย?"เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าพูดมา ข้าจะฟัง พระชายาอ๋องเจวี้ยน""อันที่จริงก็ง่ายดายมาก มีพวกสุนัขใจดำบางคน ใช้พิษที่รุนแรง ทำเรื่องที่ฟ้ายังต้องแค้นคนยังต้องเคืองขึ้นมา"ฟังถึงจุดนี้ อี้ไห่ก็รู้สึกว่าตนเองถูกด่ากราดไปแล้วโดยเฉพาะตอนที่ฟู่จาวหนิงกำลังด่าก็ยังเหลือบมองมาทางเขา คนทั้งหมดก็สังเกตเห็น ตอนนี้ทุกคนก็มองมาทางเขาเช่นกัน"พระชายาอ๋องเจวี้ยน! เจ้าต้องระวังหน่อยนะ!"ฮองเฮาตะค
ไม่ค่อยเหมือนกับที่เคยได้ยินข่าวลือมาแต่ก่อนเลย"ข้าพูดถึงไหนแล้วนะ?"ฟู่จาวหนิงขบคิดอย่างละบากขึ้นมาลู่ทงยกมือขึ้น "ข้ารู้ข้ารู้ พูดถึงคนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้น!""อ่าใช่ๆๆ"ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้เขา ลู่ทงเองก็ดูสนุกขึ้นมาเสียแล้วลูกพี่หนิงนี่สนุกดีจริงๆ!"คนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้นจะเอาภาระรับผิดชอบมาแบกไว้เอง เพียงแต่ทุกคนที่มีสมองเสียหน่อยก็จะรู้ว่า เรื่องนี้คนที่ได้ประโยชน์ตอนหลังสุด ถึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนที่อยู่หลังม่าน หลังจากเรื่องของแม่นางอันถูกลือไปในเมืองหลวง ทั่วทั้งเมืองมีใครสักคนพูดบ้างไหมว่านางสุดท้ายต้องออกเรือนกับต้วนจ้ง?ทุกคนฟังแล้วใจสั่นกึกขนาดอี้ไห่เองก็ยังได้สติขึ้นมาจริงด้วย ไม่มีเลย!ทิศทางการปล่อยข่าวลือ ล้วนตรงไปที่ตนเองกับอ๋องเจวี้ยนทั้งนั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงต้วนจ้งเลย!เพราะอี้ไห่ตนเองไม่เคยคิดจะให้อันชิงกับต้วนจ้งไปอยู่ด้วยกันนั่นไง เขามองอันชิงเป็นเหมือนสิ่งของที่ตนเองครอบครองไปแล้ว แล้วจะให้นางไปข้องเกี่ยวกับคนใช้ของตนเองทำไม?ตอนนี้จึงมีช่องโหว่ขึ้นมาแล้ว!เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงด้วยสายตาลึกหยั่งขนาดเขาก็ยังไม่ได้คิดถึงมุมมองนี้มาก่อ
ฮองเฮารู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกขึ้นมา แน่นเสียจนเกือบจะตาเหลือกหงายหลังสลบไปน่าโมโหมันน่าโมโหเสียจริง!ฟู่จาวหนิงนางกล้าดีอย่างไรกัน!นางเป็นฮองเฮานะ!เดิมทีก็เป็นพระมารดาแห่งใต้หล้า อยู่ใต้เพียงคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น คนอื่นเวลาพูดกับนางก็ยังต้องเคารพยำเกรง แล้วฟู่จาวหนิงมาบอกว่ายาที่นางรู้จักมันเป็นยาชั่วร้าย เป็นยาสกปรกที่เอาไว้ทำเรื่องเลวๆ!ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องจริง แต่ใครบ้างที่กล้าถามมาตรงๆ เช่นนี้?องค์จักรพรรดิเห็นฮองเฮาโมโหจนหน้าแดงก่ำ จึงรีบตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงคำหนึ่ง "พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้านี่พูดจาอย่างไรกัน?"องค์จักรพรรดิมาปกป้องภรรยาแล้ว เซียวหลันยวนก็หัวเราะเรียบๆ เอ่ยขึ้นบ้างแล้วเช่นกัน"หนิงหนิงพูดผิดหรือไรกัน? ยาที่ลือกันไปทั้งเมือง พรรณนากันว่าเป็นยาสกปรก""นี่ มันก็ใช่นั่นล่ะ"องค์จักรพรรดิตะลึงงันรู้สึกตัวขึ้นมา พวกเขาเพราะอะไรถึงเดินตามจังหวะของฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด?เขาหน้าขรึมลงอีกครั้ง "ตอนนี้พูดกันถึงแต่ยานี้ แล้วยังบอกว่าไม่สามารถถอนพิษได้ พระชายาอ๋องเจวี้ยนนางบอกว่าทำไม แต่ก็ยังพูดว่าพูดจนเหลวไหลหรือ?""ข้ากล้าพูดออกมา แน่นอนว่าเพราะข้ายืนยันได้น
"แน่นอนว่าไม่ใช่หาคนมาส่งเดช มีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่แล้ว ต้วนจ้ง เจ้าไม่ใช้คิดจะทำร้ายแม่นางอันหรอกหรือ?เจ้าทางนั้นยังมียาอยู่พอดี เดิมทีเขาก็มีความผิดอยู่แล้ว ตอนนี้ให้เขาทดลองชิมยาที่ตนเองซื้อมาสิ ข้าเชื่อว่าทุกคนคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?"คนที่ใช้วิธีสกปรกคิดจะพรากพรหมจรรย์ของเด็กสาวคนหนึ่งเช่นนี้ ใครจะกล้ามีความเห็นกัน?สีหน้าอี้ไห่เปลี่ยนไปอันที่จริงเขาก็คิดจะปกป้องต้วนจ้งเอาไว้ ไม่เช่นนั้นก็ให้ต้วนจ้งแบกความซวยแทนเขาไปเลย แต่ในเมื่อต้วนจ้งแบกความซวยไปแล้ว เช่นนั้นก็แสดงประโยชน์ออกมาเสีย ลากเซียวหลันยวนกับอชิงลงน้ำไปให้หมดถ้าทำให้ฟู่จาวหนิงพิสูจน์ได้ว่าพิษมันถอนได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้อะไรกลับมาเลยหรือ?"อ๋องเจวี้ยนคิดจะให้คนตั้งมากมายเห็นสภาพน่าเกลียดของต้วนจ้งหลังจากดื่มยาลงไปหรือ? คิดถึงเหล่าฮูหยินเหล่าคุณหนูกันบ้างไหม?"อี้ไห่เอ่ยเสียงขรึมมองเซียวหลันยวนคนอื่นเองก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนัก ต้องมาดูปฏิกิริยาของคนที่กินยาสกปรกพรรณนั้นลงไป แล้วหน้าบางๆ ของเหล่าหญิงสาวเหล่าฮูหยินจะรับไหวหรือ?ร่างกายของอันชิงกำลังสั่นเทาตอนนี้นางเองก็รู้แล้ว คนทั้งเมืองเองก็
พอได้ยินว่าคุกใต้ดินน้ำรั่ว หัวหน้าคุกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยทีเดียวทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงน้ำรั่วเข้ามากัน?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สาวงามเหล่านี้เป็นคนจากที่ไหน เขาเองก็รู้อยู่ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ถูกยัดเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ไม่มีทางที่จะมีใจปฏิพัทธ์กับอ๋องเจวี้ยนแต่ถ้าตอนนี้ให้พวกนางต้องมาเห็นว่าคุกอ๋องที่ขังอ๋องเจวี้ยนไว้เป็นเช่นไร คงจะยากที่พวกนางจะไม่พูดกันออกไปองค์จักรพรรดิแค่บอกว่าจะขังอ๋องเจวี้ยนสองเดือนให้เขาได้ไปนั่งทบทวนตนเอง แต่ไม่ได้บอกว่าอ๋องเจวี้ยนจะต้องถูกทรมานอยู่ในคุกเช่นนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหน้าอยู่เป็นแน่แท้"คุกใต้ดิน?"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "พวกเราเมื่อครู่ดูห้องขังพวกนี้แล้วแต่ไม่เจอท่านอ๋องของข้าเลย เจ้าคงไม่ได้ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินกระมัง? คุกใต้ดินที่น้ำรั่ว?"ยังไม่ทันที่หัวหน้าคุกจะพูดอะไร นางก็อุทานตกใจขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! สุขภาพท่านอ๋องของพวกเรายังไม่หายดีนะ ห้องขังปกติตรงนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วทำไมถึงเอาเขาไปขังไว้คุกใต้ดินกัน? สวรรค์โปรดพระโพธิสัตว์กวนอินเอ๋ย หรือความหมายขององค์จักรพรรดิ จะไม่ใช่ให้ท่านอ๋องไปคิดทบทวน แต่จะทรมานเขาอยู
"อ๊า!" อวิ๋นจูถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว จนไปกระแทกกับชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ นางชิวอวิ๋นถูกกระแทกจนไปโดนประตูห้องขังอีกห้อง เสียงดังปึงนางกำลังจะกรีดร้อง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมหายใจคาวๆ พ่นมาที่ต้นคอ ตกใจจนนางสะดุ้งโหยง ขนลุกชูชันไปทั้งตัวนางหันหน้าคอแข็งมองไป ก็เห็นว่าด้านหลังประตูห้องขังมีผู้เฒ่าคนหนึ่งประชิดเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง สูดลมหายใจอย่างเคลิบเคลิ้ม"หญิงสาวนี่ตัวหอมจริง...""อ๊า!"พริบตาเดียว ชิวอวิ๋นก็กรีดร้องแหลมขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดีดตัวออกห่างอย่างรวดเร็วผู้คุมพุ่งเข้ามา กระบองในมือก็ออกแรงฟาดไปที่ประตูห้องขัง"ถอยออกไป!""ทำอะไรน่ะ? ทำอะไร? อยากตายหรือไรกัน?"นักโทษเหล่านั้นล้วนถอยกลับไปในมุมของห้องขัง แต่ก็ยังมีคนที่จับจ้องมายังหญิงสาวเหล่านี้ ในดวงตามีประกายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้นขังอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นหญิงสาวมาตั้งนาน แล้วยังเป็นหญิงสาวแรกแย้มที่สวยขนาดนี้อีกพวกของอวิ๋นจูถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องจนตัวสั่น รู้สึกแย่ไปทั้งตัวแล้วพวกนางมองไปทางฟู่จาวหนิง แต่กลับเห็นฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้ว่าสวมหน้
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?" ผู้คุมถลึงตาโต สงสัยว่าหูของตนเองคงจะฝาดไป"ข้าแจ้นมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าแข็งขัน "ทำตามราชโองการ พวกเราก็รีบเข้ามาปรนนิบัติอ่องเจวี้ยนนี่อย่างไร อ๋องเจวี้ยนถ้าต้องอยู่ที่นี่สองเดือน พวกเราจะไปกเินดีอยู่ดีในจวนได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าต้องมาร่วมกันลำบากที่นี่ด้วยสิ""แต่ แต่ว่า..."ผู้คุมทั้งหมดล้วนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ละคนใบ้กินกันไปหมดอ๋องเจวี้ยนอยู่ในคุกใต้ดินนะ แล้วยังเป็นคุกใต้ดินที่สิ่งแวดล้อมแย่ที่สุดห้องนั้นด้วย"พวกเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามองค์จักรพรรดิเอา สายสวยพวกนี้ฝ่าบาทส่งมา บอกให้พวกนางดูแลอ๋องเจวี้ยนให้ดี ข้าจะให้พวกนางขัดราชโองการได้อย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก แสดงออกว่าตนเองเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังต่อราชโองการ"นี่นี่นี่ พวกนางควรจะรออยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนถึงจะถูกสิ...""เช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องพวกเราต้องอยู่ในคุกตั้งสองเดือนเชียวนะ นี่เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้วด้วย พวกเราจะปล่อยให้เขาติดคุกอยู่คนเดียว แต่ตนเองไปเสวยสุขอยู่ในจวนได้อย่างไ
เขาควรจะเขียนจดหมายบอกนายท่านหน่อยดีไหม ว่าจวนอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ถูกยัดหญิงสาวเข้ามาถึงสามคน? ถ้ารับสามคนนี้เข้ามา หลังจากนี้ก็คงจะมีคนที่สี่ห้าหกเจ็ดอีกถ้าหากหญิงสาวเหล่านี้วันวันเอาแต่ลอยชายอยู่ข้างกายคุณหนูกับอาเขย ร้อยเล่ห์มารยา จะช้าเร็วคงได้ส่งผลกระทบกับความรักของคุณหนูกับอาเขยแน่ๆผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยก็ได้ข่าวนี้แล้ว ปู่หลานทั้งสองคนก็รีบตรงเข้ามาและได้ยินคำพูดที่อวิ๋นจูกำลังเลือกเรือนกับฟู่จาวหนิงอยู่"พระชายา ข้าได้ยินว่าท่านอยู่ในเรือนเจียนเจีย เรือนนั้นห่างจากเรือนโยวหนิงไปหน่อย ข้าอยู่เรือนไหนถึงจะดีล่ะ? หรือให้ข้าเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อยดี? อีกหน่อยท่านอ๋องถ้าจะไปหาข้าก็ไม่ต้องเดินทางไกลแล้ว"นิ้วมืออวิ๋นจูกำชายเสื้อตนเองไว้ ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย ดูอ่อนโยนอ่อนแอ ทำให้คนอยากเข้ามาปกป้อง"ร่างกายของท่านอ๋องไม่ใช่เพิ่งดีขึ้นหรือ? หลังจากนี้หากจะต้องมาหาตอนกลางคืน ถ้าเดินไหกลมากคงไม่ดีกับสุขภาพเขาเท่าไร""หญิงสาวอย่างเจ้าไม่หน้าด้านไร้ยางอายไปหน่อยหรือ?!"ฟู่จาวเฟยพอได้ยินคำพูดนี้ก็ด่าลั่นออกมาอย่างโกรธเคืองยังไม่มีตัวตนฐานะอะไรกันเลย นี่คิดจะมาบีบคั้
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาที่นี่ยังไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าเครือญาติแต่งงานกันไม่ได้สินะแล้วเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันก็มีอยู่มากมายจริงๆเซียวหลันยวนกับอวิ๋นจูเองก็ไม่ถือว่าเป็นญาติใกล้ๆ กันแล้ว จากที่พวกเขาเห็นก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร"ท่านถามข้าว่าทำไมไม่เรียกเขาพี่ชาย ไม่ใช่คิดจะหยามหมิ่นข้าหรอกหรือ?" อวิ๋นจูเข้ามาใกล้นาง กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า "แม่ของข้าเป็นเมียน้อยที่ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ราชวงศ์ไม่ยอมรับตัวตนฐานะของข้า พ่อของข้าก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนข้าแล้วพาข้าไปพบเหล่าพี่น้องในราชวงศ์พวกนั้นอย่างผ่าเผย แล้วอ๋องเจวี้ยน จะมองข้าเป็นน้องสาวได้อย่างไรกัน?""ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะใช้ความสัมพันธ์ในชั้นนี้เข้าใกล้เขาตั้งแต่แรก"อวิ๋นจูดูแล้วเหมือนจะภูมิใจขึ้นมาหน่อย แต่พอฟังน้ำเสียงนางก็ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เหมือนกันคนแม่เป็นเมียน้อย เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด"ข้าเชื่อว่า ด้วยตัวของข้า ข้าเองก็สามารารถทำให้อ๋องเจวี้ยนเอียงตามองข้าต่างออกไปได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองพิจารณานางผาดหนึ่งท่ามกลางสายตาพิจารณาของนาง อวิ๋นจูก็ยืดอกขึ้นนางมั่นใจกับรูปร่างภายนอกของ
"องค์จักรพรรดิประกาศว่า...""โอ้ เจ้าพูดมา"คือเป็นพระราชโองการที่ไม่ค่อยจริงจังสินะ ฟู่จาวหนิงเอะใจขึ้นหน่อยๆขันทีกระแอม สายตาของพระชายาอ๋องเจวี้ยนเหมือนแสดงความหมายของนางออกมาอย่างชัดเจน"องค์จักรพรรดิมีรับสั่ง เห็นแก่อ๋องเจวี้ยนที่ร่างกายอ่อนแอโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เล็ก ไม่ค่อยได้รับความรักที่อบอุ่น ดังนั้นจึงเพาะบ่มนิสัยขี้อายและดื้อรั้นออกมา ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนสุขภาพกลังหันไปในทางที่ดี จึงต้องรีบปรับตัวกับชีวิตทั่วไปให้ไว้ที่สุด จวนอ๋องเองก็ควรจะมีคนให้มากขึ้น และในจวนอ๋องเองก็มีแม่นางหลายคนเข้าไปอยู่ใหม่พอดี ล้วนเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนเรียบร้อยเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สามารถแบ่งเบาภาระในจวนอ๋องแก่พระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ และสามารถคอยดูแลอ๋องเจวี้ยน ให้จวนอ๋องเต็มไปด้วยความรักที่อบอุ่น"พอฟังถึงจุดนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจความหมายขององค์จักรพรรดิขึ้นมานี่คิดจะใช้พระราชโองการมากดดันนาง ให้นางจำเป็นต้องเก็บแม่นางสามคนนี้เอาไว้เซียวหลันยวนมีความคิดจะเก็บข้าวของของพวกนางแล้วโยนออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนไปด้วยกัน มันก็ดูเรียบง่ายและหยาบคายอยู่ ทว่าตอนนี้องค์จักรพรรดิก็จะทำตรงข้ามกับเขาแล้วขันทีเองก
ฟู่จาวหนิงมาถึงโถงหน้าสาวงามทั้งสามคนเองก็อยู่ที่นี่ชิวอวิ๋น อวิ๋นจู และยังมีคนนั้นที่ชื่อซือหรูและเป็นไปตามคาด คนที่ชื่อซือหรูก็ยังเป็นแม่นางที่หน้าตาดีชิวอวิ๋นหน้าตาสะสวย ดูมีความหยิ่งยโสที่สง่าผ่าเผยหน่อยๆ ซือหรูกลับเป็นพวกดูอ่อนโยนเรียบร้อยอวิ๋นจูเป็นคนที่โดดเด่นสุดในสามคนนี้ คิ้วตาคมชัดวิจิตร โดยเฉพาะผิวที่ขาวผ่องนั่นยิ่งไปกว่านั้น อวิ๋นจูยังเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่ดีที่สุดในสามคนนี้ด้วย แม้นางจะเป็นลูกสาวนอกสมรส แต่บิดาก็เป็นถึงอ๋องฉยงนางยืนอยู่คนเดียวห่างจากชิวอวิ๋นกับซือหรูออกมาหน่อย ดูแล้วเหมือนจะรังเกียจที่ต้องยืนอยู่ด้วยักนกับสองคนนั้นตรงหน้าพวกนางยังมีขันทีคนหนึ่งเข้ามาประกาศราชโองการ กำลังยืนรออย่างกระวนกระวายพอเห็นฟู่จาวหนิงเดินมา เขาก็รีบโค้งตัวคารวะ เดินเข้ามาต้อนรับ"เจ้าคนรับใช้" อวิ๋นจูแอบส่งสายตาเหยียดๆ ใส่ขันทีคนนี้นี่เป็นถึงคนข้างกายองค์จักรพรรดิเลยนะ แล้วยังเป็นคนแจ้งราชโองการอีก ทำไมถึงต้องพะเน้าพะนอพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียขนาดนั้น?นางไม่รู้ ว่าต่อให้ไม่มีอ๋องเจวี้ยน ตอนที่ฟู่จาวหนิงเข้าวังสมัยก่อนก็ไม่ได้ไว้หน้าองค์จักรพรรดิเท่าไรนัก ยิ่งไ
"ท่านอ๋องของพวกเจ้าเตรียมการไว้นานแล้วสินะ?"พอได้ยินนางถามเช่นนี้ องครักษ์ลับก็ใจเต้นขึ้นมา ทำไมจึงรู้สึกว่าคำพูดนี้ของพระชายาทำเอาใจลนลานไปหมดกันนะ?"ท่านอ๋องหลายวันก่อนจัดคนไปไว้ในคุกใหญ่แล้ว แต่ว่า ท่านอ๋องคาดการณ์ไว้ว่าวันที่เข้าคุกน่าจะเป็นหลายวันหลังจากนี้ ยิ่งไปกว่านั้นห้องคุกก็ยังเป็นอีกที่หนึ่งด้วย..."ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ"วางแผนไว้แล้วจริงๆ? หรือก็คือ เขาตอนนี้ไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องคุกที่เตรียมเอาไว้สินะ?"เซียวหลันยวนผู้ชายคนนี้ มีอย่างที่ไหน คิดเอาไว้นานแล้วว่าองค์จักรพรรดิจะจับเขาขังคุก แล้วตนเองก็จัดเตรียมไว้ดิบดี แต่กลับไม่ยอมบอกให้นางรู้แม้แต่น้อย!เขาเคยคิดไหมว่านางจะเป็นห่วงเขา?จดหมายนางก็ไม่ได้รีบร้อนเอามาอ่าน แต่นางกลับอยากจะถามก่อน!องครักษ์ลับก้มหน้าต่ำ "ขอรับ ท่านอ๋องถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดิน...""คุกใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง?""ก็...พอไหวอยู่กระมัง?""เหอะๆ" ฟู่จาวหนิงหัวเราะเย็นชาในใจองครักษ์ลับลนลานกว่าเดิมแล้ว ท่านอ๋องกำชับไว้ ว่าอย่าบอกสถาพในห้องคุก แต่ตอนนี้พระชายาทำท่านเหมือนจะถามให้ละเอียดเสียแล้ว แล้วเขาไม่พูดได้หรือ?"เจ้าจะไม่พูดก็ได้" ฟู่จาวหนิง
"กลับไปแจ้งพระชายา ว่าไม่ต้องกังวล"ในห้องคุกมืด เซียวหลันยวนกำลังนั่งอยู่บนกองฟาง หลับตา น้ำเสียงฟังแล้วนิ่งสงบมาก"ท่านอ๋อง พระชายาจะต้องถามสถานการณ์ในคุกแน่นอน ถ้าหากพระชายาต้องการจะรู้ องค์จักรพรรดิถึงกับจับท่านส่งมาในคุกที่มืดอับชื้นเช่นนี้..."แล้วพระชายาจะไม่เป็นห่วงแย่หรือ?องครักษ์ลับพิจารณาคุกใหญ่แห่งนี้พวกเขาเดิมทีคิดว่า องค์จักรพรรดิจะให้คนพาท่านอ๋องส่งไปที่ห้องคุกด้านบนซึ่งสะอาดกว่าแห้งกว่าหน่อย ห้องคุกด้านบนอย่างน้อยก็ยังมีเตียง ยิ่งไปกว่านั้นยังสะอาดกว่านี้ มีหน้าต่างสามารถรับแสงได้ ตอนกลางวันยังสว่างขึ้นหน่อยคิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิจะพาคนมาขังเอาไว้ในคุกใต้ดินที่มืดที่สุดเสียอย่างนั้นคุกใต้ดินนี้แต่ก่อนมีไว้ขังพวกนักโทษหนักที่สังหารคนเป็นผักปลา ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสง ขุดเอาไว้ใต้ดิน อับชื้นมากๆยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังไม่มีเตียง ที่มุมหนึ่งก็วางไว้แค่กองฟาง มุมกำแพงมีตะไคร่ขึ้นเนื่องจากอับชื้น กลิ่นของที่นี่ก็แย่เอามากๆขังไว้ที่นี่คือไม่รู้เดือนรู้ตะวันเลยทีเดียวถ้าหากท่านอ๋องยังมีสุขภาพแบบก่อนหน้านี้ อยู่ในนี้แค่คืนเดียวก็คงป่วยพับไปแล้วตอนนี้ร่างกายขอ