คนอื่นๆ มุมปากล้วนกระตุก สีหน้าเหมือนยากจะอธิบายได้ด้วยคำเดียว"เจ้าเปลี่ยนเสียหน่อยไม่ได้หรือ?""ไม่เปลี่ยน เอาเช่นนี้ล่ะ" ลู่ทงยืนหยัด"เอาล่ะ พวกเราขอลั่นคำสาบาน" พวกของเจิ้งหยางล้วนสาบานขึ้นมาฟู่จาวหนิงพยักหน้า"เช่นนั้นก็เท่านี้เถิด ข้าจะไปแล้ว""ฟู่จาวหนิง ท่านจะขึ้นเขาหรือ?" ลู่ทงรีบร้อนเรียกนาง จากนั้นก้ตบลงที่ศีรษะของตนเอง "ข้านี่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ท่านตอนนี้เป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของพวกเรา พวกเตาต้องนอบน้อมต่อท่านสิ!"ลู่ทงคนนี้ดูแล้วอายุก็น่าจะเพิ่งสิบเจ็ดสิบแปดปี คนอื่นๆ เองก็อายุใกล้เคียงเขา ฟู่จาวหนิงดูแล้วอายุน้อยกว่าพวกเขาหน่อยหนึ่งแต่พวกเขาคงไม่เรียกว่าน้องหญิงหรอกกระมัง?นี่มันนอบน้อมตรงไหน? เอาเปรียบนางชัดๆลู่ทงก็เฉลียวฉลาด "พวกเราหลังจากนี้จะเรียนท่านพี่ใหญ่! ชีวิตของพวกเราล้วนเป็นของท่านแล้ว หลังจากนี้ท่านมีเรื่องอะไรก็มาหาพวกเราได้เลย!"ฟู่จาวหนิงเหงื่อตกพี่ใหญ่?นางคิดถึงชื่อเรียกที่มีคนเรียกนางตอนอยู่ในกลุ่มก่อนหน้า บอกว่า "บางทีพวกเราสามารถเรียกท่านว่าลูกพี่หนิงได้""ลูกพี่หนิง?"พวกของลู่ทงล้วนไม่เข้าใจเอาเสียเลย นางเป็นหญิงสาวที่งดงามขน
ชิงอีตอนนี้มองอ๋องเจวี้ยนที่นั่งพิงใต้ต้นไม้อย่างกังวลเขาย่างขากระต่ายเสร็จแล้วขาหนึ่ง เดินตรงเข้าไป ยื่นส่งให้อ๋องเจวี้ยน"ท่านอ๋อง กินอะไรหน่อยเถิด"เซ๊ยวหลันยวนเบิกตาโพลง รับขากระต่ายไป ก้มหน้าลงมองผาดหนึ่ง"ข้าน้อยย่างมาไม่ค่อยดีนัก ท่านอ๋องอาจจะไม่ถูกใจ" ชิงอีเหงื่อตก ฝีมือการย่างของเขาปกติก็ธรรมดามากอยู่แล้ว"ท่านอ๋อง หรือไม่หลังจากเรากลับไปก็ให้โอกาศไป๋ซวงอีกสักครั้ง"เพราะไป๋ซวงย่างเนื้อได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวพวกเขาก่อนหน้านี้ที่ยอดเขาโยวชิง และระหว่างทางที่กลับมาเมืองหลวง เนื้อที่ไป๋ซวงย่างล้วนหอมกรุ่น สดนุ่มน้ำในเนื้อเต็มเปี่ยม และไม่รู้ว่าเขาใช้เครื่องปรุงอะไร รสชาติถึงได้ดีกว่าคนอื่นอยู่มากโขชาที่จินเสวี่ยกับนางต้มก็ดีมากอาจจะเพราะเรื่องราวล้วนพัวพันอยู่แต่กับท่านอ๋อง จึลวนรู้ถึงรสนิยมของท่านอ๋อง ดังนั้นจึงบอกว่าพวกนางดูแลได้ดีมากข้างกายท่านอ๋องถ้าไม่มีสาวใช้สองนี้ เช่นนั้นเขาก็เสียหายหลายแสนเลยเซียวหลันยวนเงยหน้าเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง"ข้าเหมือนพวกที่ยอมให้คนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะของกินแค่เล็กน้อยหรือ?"พูดจนเขาเหมือนเป็นพวกกินดะอย่างไรอย่างนั้นเพื่อ
"ลูกพี่หนิง ท่าฝีมือเด็ดเสียจริง! พวกเราย่างเนื้อกันมาตั้งหลายปี ก็ยังไม่เคยกินที่อร่อยเท่าครั้งนี้เลย""มันอร่อยจนลิ้นข้าห้อยแล้ว! อร่อยจนไม่มีเวลาว่างมาพูดจาเลย"หลายคนราวกับลมพัดพายุคลั่ง กินกันจนไม่สนภาพพจน์แล้วถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเรียกลูกพี่หนิงเพราะฟู่จาวหนิงเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิต อยู่ในความหมายการตอบแทนบุญคุณ จะมากน้อยก็ยังอยู่ในส่วนนั้นทว่าตอนนี้ที่พวกเขาเรียกลูกพี่หนิง นั่นเป็นการศิโรราบออกมาอย่างแท้จริงแล้วช่วยชีวิตพวกเขามา แล้วยังทำให้กระเพาะพวกเขายอมยกธงให้อีก!ไม่มีครอีกแล้วฟู่จาวหนิงหลังจากกินแล้วก็ค้นหายาสมุนไพรต่อไปรอบๆไม่คิดเลยว่าที่นี่จะทำให้นางหาเป้าหมายของนางได้ครบหมดในการขึ้นเขาครั้งนี้สมุนไพรพิษทั้งสองอย่างหาได้ครบแล้วแต่ตอนนี้นางก็ยังไม่รีบร้อนกลับไปลู่ทงบอกว่าพวกของจ้าวเฉินตรงไปหาราชันกวาง ยิ่งไปกว่านั้นยังถือเป็นคู่มือของโหวอาวุโสน้อยอี้อีกด้วย โหวอาวุโสน้อยอี้ก็พาเจ้าพวกเพื่อนหมาๆ ของเขาเหล่านั้นมาอยู่ในภูเขาด้วยราชันกวางนางเองก็จะเอาด้วย!แทนที่จะให้ราชันกวางตกไปอยู่ในมือสองคนนั้น สู้นางแย่งมาเลยดีกว่า!นางค้นหาร่องรอยสัตว์อย่าง
เซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงมองเห็นอีกฝ่ายพร้อมกันสายตาทั้งสองคนปะทะกันกลางอากาศครู่หนึ่ง และหันความสนใจไปที่กวางตัวนั้นพร้อมกันกวางได้ยินการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้ว ดิ้นจนคิดจะวิ่งหนี แต่พอยืนขึ้นก็ล้มลงไปมันหนีมาถึงนี่ก็หมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ซ้ำยังบาดเจ็บหนักขนาดนั้น แค่ยืนก็ยังยืนไม่ไหว แล้วจะวิ่งหนีได้อย่างไร?เซียวหลันยวนใช้กำลังภายใน ความเร็วเร็วกว่าฟู่จาวหนิง ตัวคนก็มาถึงข้างกวางตัวนั้นแล้ว เขายกมือขึ้นจะฟาดลงไปกวางตัวนี้ดูจะช่วยไว้ไม่ได้แล้ว ซ้ำยังบาดเจ็บหนักอีก เลือดก็ไหลมาตั้งเยอะสู้ให้มันไปสบายเสียจะดีกว่า"หยุด!"ฟู่จาวหนิงร้องขึ้นมาฉับพลัน ตัวคนก็รีบเข้ามา เข็มเงินในมือก็ยิงมาทางเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนฉากหลบอย่างรวดเร็ว เลี่ยงออกจากเข็มเงินเล่มนั้น สีหน้าก็นิ่งลงมา"เพื่อจะแย่งกวางตัวนี้ เจ้าถึงกับลงมือกับข้าเลยหรือ?"เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองนางฟู่จาวหนิงยืนคั่นด้วยลำธาร มองไปรอบๆ ว่าจุดไหนพอข้ามไปได้ พอได้ยินเขาพูด นางก็ร้องเฮอะใส่ "เอาอะไรมาบอกว่าข้าแย่งท่าน? ท่านต่างหากที่มาแย่งข้า? ข้าเห็นกวางตัวนี้ก่อนนะ""ข้าตามมันมานานแล้ว""แล้วใครไม่ใช่บ้างล่ะ? ข้าเ
"ขอรับ""อืม ไม่ต้องมากพิธี เจ้าโตมาแข็งแรงล่ำสันเสียจริง"ฟู่จาวหนิงไม่เข้าใจเล็ก เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้โตกว่าเจิ้งหยางเท่าไรเลย แล้วสายตาเหมือนผู้อาวุโสมองเด็กน้อยกับน้ำเสียงที่ชื่นชมนี้มันอะไรกัน?แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาถาม"พวกเจ้าดูเขาเอาไว้"ฟู่จาวหนิงใช้คางงัดชี้ไปทางอ๋องเจวี้ยน ให้พวกของลู่ทงขวางไว้ ส่วนตนเองเตรียมจะเดินไปทางกวางตัวนั้นพอเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่าดวงตาของกวางตัวนี้เปล่งประกายอย่างมาก มันเงยหน้ามองนาง ดวงตาทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอน"ลูกพี่หนิง พวกข้า"เจิ้งหยางมองไปทางอ๋องเจวี้ยนอย่างลำบากใจพวกของลู่ทงตอนนี้เองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีหรือว่าพวกเขาจะต้องตั้งแง่กับอ๋องเจวี้ยนจริงหรือ?แต่คำพูดของลูกพี่หนิงพวกเขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้นี่นานี่มันอึดอัดทั้งซ้ายขวาเลยไม่ใช่หรือชิงอีพอเห็นฟู่จาวหนิงเดินไปที่ราชันกวางก็ร้อนรนขึ้นมาแล้วแต่เขาก็ร้องออกมาตรงๆ ไม่ได้ ว่าท่านอ๋องต้องการเลือดราชันกวาง"พระชายา..."พอเรียกเช่นนี้ พวกของลู่ทงก็สงสัยขึ้นมาว่าหูตนเองฝาดไปหรือไม่พวกเขามองชิงอีอย่างตกตะลึง มองตามสายตาเขาไปชิงอีเรียกลูกพี่หนิงว่าพระชายาจริงๆ
"นางคือลูกพี่ใหญ่ของพวกข้า"ลู่ทงตอบกลับอย่างซื่อตรงลูกพี่ใหญ่?ฟู๋จาวหนิงถ้าหากรับพวกนี้ไว้ได้ แสดงว่าก่อนหน้านี้น่าเวทนามากเลยหรือ?นายท่านเจิ้งเป็นถึงข้าราชการระดับสี่เลยนะ"หลบไป"เซียวหลันยวนขี้เกียจจะพูดมากกับพวกเขา ยื่นมือออกแหวก พวกของลู่ทงยื่นให้นิ่งยังไม่ไหว พอโดนกำลังภายในเข้าวูบหนึ่งก็ถูกแหวกออกไปเสียแล้ว"ซ่า!""อ๋องเจวี้ยนกำลังภายในแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?"พวกของลู่ทงประคองร่างจนอยู่ แต่ก็ล้วนไม่อยากเชื่อพวกเขาจะเข้าไปอีก แต่ชิงอีก็มาขวางพวกเขาไว้แล้ว"พวกเจ้าทางที่ดีรออย่างว่าง่ายดีกว่า" อย่าไปวุ่นวายเลยฟู่จาวหนิงกำลังนั่งยองอยู่ข้างกวางตัวนั้น ยื่นมือไปดึงมันขึ้นมาหน่อย ไม่เช่นนั้นตัวมันครึ่งตัวก็จมอยู่ในน้ำ ถูกน้ำในลำธารคอยซัดไม่หยุด ทั้งเจ็บทั้งหนาว"เพียงแต่กวางตัวนี้ขนาดไม่เล็กเลย หนักมาก นางดึงไม่ไหว""ข้าแค่ต้องการเลือดราชันกวาง"เซียวหลันยวนเดินมาข้างกายนางฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขา มึนงง"โอ้ จริงสิ เลือดกวางตัวนี้น่าจะมีประโยชน์กับร่างกายของท่าน"ดังนั้นเขาถึงได้มาทที่นี่เพื่อราชันกวางหรือ?"มาช่วยหน่อย ดึงมันขึ้นมาก่อน" นางชี้นิ้วสั่งเขาอย่างไ
"ว่าง่ายหน่อย ข้าจะรักษาแผลให้เจ้า"นางจัดการบาดแผลไปด้วย พลางเอ่ยแผ่วเบากับกวางเซียวหลันยวนยืนมองนางอยู่ข้างๆ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้มุ่งมั่นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ใบหน้านางก็เหมือนจะมีแสงอยู่ชั้นหนึ่ง ทำให้นางยิ่งดูสวยงามตกตะลึงไปอีกพูดกับกวางตัวหนึ่งยังอ่อนโยนขนาดนี้ แต่ตอนพูดกับเขาอย่างกับคีบน้ำค้างแข็งเอาไว้เขายังสู้กวางตัวหนึ่งไม่ได้เลยหรือ?ฟู่จาวหนิงจัดการบาดแผลเสร็จก็คิดๆ จากนั้นก็เงยหน้ามองเซียวหลันยวน "หยิบของมารองเลือดกวางสิ"นี่ใช้เขาจนติดใจไปแล้วสินะ?เซียวหลันยวนถอนใจ หันไปเรียกชิงอี"ชิงอี กระบอกไม้ไผ่"พวกเขาเดิมทีก็มีเตรียมการไว้แล้วฟู่จาวหนิงลูบหัวกวางเบาๆ "ขอโทษด้วยนะ พวกเราต้องเอาเลือดของเจ้าไปเสียหน่อย เจ้าที่บาดเจ็บและเสียเลือดไปขนาดนี้แล้ว"คำพูดนางนางรู้สึกว่าขยะแขยงหน่อยๆ จึงเปลี่ยนไปพูดว่า "อีกเดี๋ยวข้าจะชดเชยเลือดให้เจ้าเอง ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงฟื้นตัวยากหน่อย"กวางตัวนี้บาดเจ็บหนักมากแล้ว อีกเดี๋ยวนางยังต้องเย็บแผลให้มัน จัดการบาดแผลให้ดี ไม่ใช่นั้นมันคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้วเซียวหลันยวนฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ไม่เคยเห็นคนล่าสัตว์กลับมาช่ว
ฟู่จาวหนิงหยิบยวดยาใบหนึ่งออกมา สาดลงไปบนแผลของกวางตัวนี้เลือดแทบจะหยุดไหลไปทันทีเซียวหลันยวนหลังจากเห็นดวงตาก็ลึกดิ่งเขาถามฟู่จาวหนิง "ยานี้เจ้าเป็นคนทำเองหรือ?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้าพอเห็นว่ายังยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิงก็เอ่ยขึ้นอย่างรังเกียจเล็กๆ "ตอนนี้ข้าจะจัดการบาดแผลของกวางตัวนี้ วิะีจัดการค่อนข้างพิเศษ ไม่อยากให้พวกท่านมองเช่นนี้ พวกท่านหลีกออกไปหน่อยได้ไหม?"นางหยิบเข็มเย็บออกมาเย็บปิดแผลวิชาเย็บปิดเช่นนี้ ในแคว้นเจายังไม่มีใครเคยใช้และคิดว่าทั้งใต้หล้าคงยังไม่มีหมอคนไหนเป็นด้วยเซียวหลันยวนไม่ค่อยเข้าใจ "ถ้าเจ้าจะให้ข้าออกไป หรือจะให้พวกเจิ้งหยางทั้งหมดออกไปด้วย?""ดีที่สุดคือออกไปทั้งหมดหรือพวกท่านเดินออกไปห่างๆ หน่อยก็พอ"เซียวหลันยวนพอได้ยินว่านางไม่ได้มีการปฏิบัติด้วยเป็นพิเศษ ในใจก็เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแต่ว่าเขาก็อดพูดคำหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ "ทำเสียลึกลับ มีหมอที่ไหนบ้างตอนที่รักษาไม่ยอมให้คนอื่นได้เห็น?"ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขาเงียบๆ ไม่พูดอะไรอีกเซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "เอาล่ะเอาล่ะเอาล่ะ ข้าจะบอกพวกเจาทั้งหมดให้ถอยออกไป"รอจนเขาเดินออกไปและเรี