Share

บทที่ 241

Author: จุ้ยหลิงซู
คนอื่นๆ มุมปากล้วนกระตุก สีหน้าเหมือนยากจะอธิบายได้ด้วยคำเดียว

"เจ้าเปลี่ยนเสียหน่อยไม่ได้หรือ?"

"ไม่เปลี่ยน เอาเช่นนี้ล่ะ" ลู่ทงยืนหยัด

"เอาล่ะ พวกเราขอลั่นคำสาบาน" พวกของเจิ้งหยางล้วนสาบานขึ้นมา

ฟู่จาวหนิงพยักหน้า

"เช่นนั้นก็เท่านี้เถิด ข้าจะไปแล้ว"

"ฟู่จาวหนิง ท่านจะขึ้นเขาหรือ?" ลู่ทงรีบร้อนเรียกนาง จากนั้นก้ตบลงที่ศีรษะของตนเอง "ข้านี่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ท่านตอนนี้เป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของพวกเรา พวกเตาต้องนอบน้อมต่อท่านสิ!"

ลู่ทงคนนี้ดูแล้วอายุก็น่าจะเพิ่งสิบเจ็ดสิบแปดปี คนอื่นๆ เองก็อายุใกล้เคียงเขา ฟู่จาวหนิงดูแล้วอายุน้อยกว่าพวกเขาหน่อยหนึ่ง

แต่พวกเขาคงไม่เรียกว่าน้องหญิงหรอกกระมัง?

นี่มันนอบน้อมตรงไหน? เอาเปรียบนางชัดๆ

ลู่ทงก็เฉลียวฉลาด "พวกเราหลังจากนี้จะเรียนท่านพี่ใหญ่! ชีวิตของพวกเราล้วนเป็นของท่านแล้ว หลังจากนี้ท่านมีเรื่องอะไรก็มาหาพวกเราได้เลย!"

ฟู่จาวหนิงเหงื่อตก

พี่ใหญ่?

นางคิดถึงชื่อเรียกที่มีคนเรียกนางตอนอยู่ในกลุ่มก่อนหน้า บอกว่า "บางทีพวกเราสามารถเรียกท่านว่าลูกพี่หนิงได้"

"ลูกพี่หนิง?"

พวกของลู่ทงล้วนไม่เข้าใจเอาเสียเลย นางเป็นหญิงสาวที่งดงามขน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 242

    ชิงอีตอนนี้มองอ๋องเจวี้ยนที่นั่งพิงใต้ต้นไม้อย่างกังวลเขาย่างขากระต่ายเสร็จแล้วขาหนึ่ง เดินตรงเข้าไป ยื่นส่งให้อ๋องเจวี้ยน"ท่านอ๋อง กินอะไรหน่อยเถิด"เซ๊ยวหลันยวนเบิกตาโพลง รับขากระต่ายไป ก้มหน้าลงมองผาดหนึ่ง"ข้าน้อยย่างมาไม่ค่อยดีนัก ท่านอ๋องอาจจะไม่ถูกใจ" ชิงอีเหงื่อตก ฝีมือการย่างของเขาปกติก็ธรรมดามากอยู่แล้ว"ท่านอ๋อง หรือไม่หลังจากเรากลับไปก็ให้โอกาศไป๋ซวงอีกสักครั้ง"เพราะไป๋ซวงย่างเนื้อได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวพวกเขาก่อนหน้านี้ที่ยอดเขาโยวชิง และระหว่างทางที่กลับมาเมืองหลวง เนื้อที่ไป๋ซวงย่างล้วนหอมกรุ่น สดนุ่มน้ำในเนื้อเต็มเปี่ยม และไม่รู้ว่าเขาใช้เครื่องปรุงอะไร รสชาติถึงได้ดีกว่าคนอื่นอยู่มากโขชาที่จินเสวี่ยกับนางต้มก็ดีมากอาจจะเพราะเรื่องราวล้วนพัวพันอยู่แต่กับท่านอ๋อง จึลวนรู้ถึงรสนิยมของท่านอ๋อง ดังนั้นจึงบอกว่าพวกนางดูแลได้ดีมากข้างกายท่านอ๋องถ้าไม่มีสาวใช้สองนี้ เช่นนั้นเขาก็เสียหายหลายแสนเลยเซียวหลันยวนเงยหน้าเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง"ข้าเหมือนพวกที่ยอมให้คนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะของกินแค่เล็กน้อยหรือ?"พูดจนเขาเหมือนเป็นพวกกินดะอย่างไรอย่างนั้นเพื่อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 243

    "ลูกพี่หนิง ท่าฝีมือเด็ดเสียจริง! พวกเราย่างเนื้อกันมาตั้งหลายปี ก็ยังไม่เคยกินที่อร่อยเท่าครั้งนี้เลย""มันอร่อยจนลิ้นข้าห้อยแล้ว! อร่อยจนไม่มีเวลาว่างมาพูดจาเลย"หลายคนราวกับลมพัดพายุคลั่ง กินกันจนไม่สนภาพพจน์แล้วถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเรียกลูกพี่หนิงเพราะฟู่จาวหนิงเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิต อยู่ในความหมายการตอบแทนบุญคุณ จะมากน้อยก็ยังอยู่ในส่วนนั้นทว่าตอนนี้ที่พวกเขาเรียกลูกพี่หนิง นั่นเป็นการศิโรราบออกมาอย่างแท้จริงแล้วช่วยชีวิตพวกเขามา แล้วยังทำให้กระเพาะพวกเขายอมยกธงให้อีก!ไม่มีครอีกแล้วฟู่จาวหนิงหลังจากกินแล้วก็ค้นหายาสมุนไพรต่อไปรอบๆไม่คิดเลยว่าที่นี่จะทำให้นางหาเป้าหมายของนางได้ครบหมดในการขึ้นเขาครั้งนี้สมุนไพรพิษทั้งสองอย่างหาได้ครบแล้วแต่ตอนนี้นางก็ยังไม่รีบร้อนกลับไปลู่ทงบอกว่าพวกของจ้าวเฉินตรงไปหาราชันกวาง ยิ่งไปกว่านั้นยังถือเป็นคู่มือของโหวอาวุโสน้อยอี้อีกด้วย โหวอาวุโสน้อยอี้ก็พาเจ้าพวกเพื่อนหมาๆ ของเขาเหล่านั้นมาอยู่ในภูเขาด้วยราชันกวางนางเองก็จะเอาด้วย!แทนที่จะให้ราชันกวางตกไปอยู่ในมือสองคนนั้น สู้นางแย่งมาเลยดีกว่า!นางค้นหาร่องรอยสัตว์อย่าง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 244

    เซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงมองเห็นอีกฝ่ายพร้อมกันสายตาทั้งสองคนปะทะกันกลางอากาศครู่หนึ่ง และหันความสนใจไปที่กวางตัวนั้นพร้อมกันกวางได้ยินการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้ว ดิ้นจนคิดจะวิ่งหนี แต่พอยืนขึ้นก็ล้มลงไปมันหนีมาถึงนี่ก็หมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ซ้ำยังบาดเจ็บหนักขนาดนั้น แค่ยืนก็ยังยืนไม่ไหว แล้วจะวิ่งหนีได้อย่างไร?เซียวหลันยวนใช้กำลังภายใน ความเร็วเร็วกว่าฟู่จาวหนิง ตัวคนก็มาถึงข้างกวางตัวนั้นแล้ว เขายกมือขึ้นจะฟาดลงไปกวางตัวนี้ดูจะช่วยไว้ไม่ได้แล้ว ซ้ำยังบาดเจ็บหนักอีก เลือดก็ไหลมาตั้งเยอะสู้ให้มันไปสบายเสียจะดีกว่า"หยุด!"ฟู่จาวหนิงร้องขึ้นมาฉับพลัน ตัวคนก็รีบเข้ามา เข็มเงินในมือก็ยิงมาทางเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนฉากหลบอย่างรวดเร็ว เลี่ยงออกจากเข็มเงินเล่มนั้น สีหน้าก็นิ่งลงมา"เพื่อจะแย่งกวางตัวนี้ เจ้าถึงกับลงมือกับข้าเลยหรือ?"เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองนางฟู่จาวหนิงยืนคั่นด้วยลำธาร มองไปรอบๆ ว่าจุดไหนพอข้ามไปได้ พอได้ยินเขาพูด นางก็ร้องเฮอะใส่ "เอาอะไรมาบอกว่าข้าแย่งท่าน? ท่านต่างหากที่มาแย่งข้า? ข้าเห็นกวางตัวนี้ก่อนนะ""ข้าตามมันมานานแล้ว""แล้วใครไม่ใช่บ้างล่ะ? ข้าเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 245

    "ขอรับ""อืม ไม่ต้องมากพิธี เจ้าโตมาแข็งแรงล่ำสันเสียจริง"ฟู่จาวหนิงไม่เข้าใจเล็ก เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้โตกว่าเจิ้งหยางเท่าไรเลย แล้วสายตาเหมือนผู้อาวุโสมองเด็กน้อยกับน้ำเสียงที่ชื่นชมนี้มันอะไรกัน?แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาถาม"พวกเจ้าดูเขาเอาไว้"ฟู่จาวหนิงใช้คางงัดชี้ไปทางอ๋องเจวี้ยน ให้พวกของลู่ทงขวางไว้ ส่วนตนเองเตรียมจะเดินไปทางกวางตัวนั้นพอเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่าดวงตาของกวางตัวนี้เปล่งประกายอย่างมาก มันเงยหน้ามองนาง ดวงตาทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอน"ลูกพี่หนิง พวกข้า"เจิ้งหยางมองไปทางอ๋องเจวี้ยนอย่างลำบากใจพวกของลู่ทงตอนนี้เองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีหรือว่าพวกเขาจะต้องตั้งแง่กับอ๋องเจวี้ยนจริงหรือ?แต่คำพูดของลูกพี่หนิงพวกเขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้นี่นานี่มันอึดอัดทั้งซ้ายขวาเลยไม่ใช่หรือชิงอีพอเห็นฟู่จาวหนิงเดินไปที่ราชันกวางก็ร้อนรนขึ้นมาแล้วแต่เขาก็ร้องออกมาตรงๆ ไม่ได้ ว่าท่านอ๋องต้องการเลือดราชันกวาง"พระชายา..."พอเรียกเช่นนี้ พวกของลู่ทงก็สงสัยขึ้นมาว่าหูตนเองฝาดไปหรือไม่พวกเขามองชิงอีอย่างตกตะลึง มองตามสายตาเขาไปชิงอีเรียกลูกพี่หนิงว่าพระชายาจริงๆ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 256

    "นางคือลูกพี่ใหญ่ของพวกข้า"ลู่ทงตอบกลับอย่างซื่อตรงลูกพี่ใหญ่?ฟู๋จาวหนิงถ้าหากรับพวกนี้ไว้ได้ แสดงว่าก่อนหน้านี้น่าเวทนามากเลยหรือ?นายท่านเจิ้งเป็นถึงข้าราชการระดับสี่เลยนะ"หลบไป"เซียวหลันยวนขี้เกียจจะพูดมากกับพวกเขา ยื่นมือออกแหวก พวกของลู่ทงยื่นให้นิ่งยังไม่ไหว พอโดนกำลังภายในเข้าวูบหนึ่งก็ถูกแหวกออกไปเสียแล้ว"ซ่า!""อ๋องเจวี้ยนกำลังภายในแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?"พวกของลู่ทงประคองร่างจนอยู่ แต่ก็ล้วนไม่อยากเชื่อพวกเขาจะเข้าไปอีก แต่ชิงอีก็มาขวางพวกเขาไว้แล้ว"พวกเจ้าทางที่ดีรออย่างว่าง่ายดีกว่า" อย่าไปวุ่นวายเลยฟู่จาวหนิงกำลังนั่งยองอยู่ข้างกวางตัวนั้น ยื่นมือไปดึงมันขึ้นมาหน่อย ไม่เช่นนั้นตัวมันครึ่งตัวก็จมอยู่ในน้ำ ถูกน้ำในลำธารคอยซัดไม่หยุด ทั้งเจ็บทั้งหนาว"เพียงแต่กวางตัวนี้ขนาดไม่เล็กเลย หนักมาก นางดึงไม่ไหว""ข้าแค่ต้องการเลือดราชันกวาง"เซียวหลันยวนเดินมาข้างกายนางฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขา มึนงง"โอ้ จริงสิ เลือดกวางตัวนี้น่าจะมีประโยชน์กับร่างกายของท่าน"ดังนั้นเขาถึงได้มาทที่นี่เพื่อราชันกวางหรือ?"มาช่วยหน่อย ดึงมันขึ้นมาก่อน" นางชี้นิ้วสั่งเขาอย่างไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 247

    "ว่าง่ายหน่อย ข้าจะรักษาแผลให้เจ้า"นางจัดการบาดแผลไปด้วย พลางเอ่ยแผ่วเบากับกวางเซียวหลันยวนยืนมองนางอยู่ข้างๆ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้มุ่งมั่นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ใบหน้านางก็เหมือนจะมีแสงอยู่ชั้นหนึ่ง ทำให้นางยิ่งดูสวยงามตกตะลึงไปอีกพูดกับกวางตัวหนึ่งยังอ่อนโยนขนาดนี้ แต่ตอนพูดกับเขาอย่างกับคีบน้ำค้างแข็งเอาไว้เขายังสู้กวางตัวหนึ่งไม่ได้เลยหรือ?ฟู่จาวหนิงจัดการบาดแผลเสร็จก็คิดๆ จากนั้นก็เงยหน้ามองเซียวหลันยวน "หยิบของมารองเลือดกวางสิ"นี่ใช้เขาจนติดใจไปแล้วสินะ?เซียวหลันยวนถอนใจ หันไปเรียกชิงอี"ชิงอี กระบอกไม้ไผ่"พวกเขาเดิมทีก็มีเตรียมการไว้แล้วฟู่จาวหนิงลูบหัวกวางเบาๆ "ขอโทษด้วยนะ พวกเราต้องเอาเลือดของเจ้าไปเสียหน่อย เจ้าที่บาดเจ็บและเสียเลือดไปขนาดนี้แล้ว"คำพูดนางนางรู้สึกว่าขยะแขยงหน่อยๆ จึงเปลี่ยนไปพูดว่า "อีกเดี๋ยวข้าจะชดเชยเลือดให้เจ้าเอง ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงฟื้นตัวยากหน่อย"กวางตัวนี้บาดเจ็บหนักมากแล้ว อีกเดี๋ยวนางยังต้องเย็บแผลให้มัน จัดการบาดแผลให้ดี ไม่ใช่นั้นมันคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้วเซียวหลันยวนฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ไม่เคยเห็นคนล่าสัตว์กลับมาช่ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 248

    ฟู่จาวหนิงหยิบยวดยาใบหนึ่งออกมา สาดลงไปบนแผลของกวางตัวนี้เลือดแทบจะหยุดไหลไปทันทีเซียวหลันยวนหลังจากเห็นดวงตาก็ลึกดิ่งเขาถามฟู่จาวหนิง "ยานี้เจ้าเป็นคนทำเองหรือ?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้าพอเห็นว่ายังยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิงก็เอ่ยขึ้นอย่างรังเกียจเล็กๆ "ตอนนี้ข้าจะจัดการบาดแผลของกวางตัวนี้ วิะีจัดการค่อนข้างพิเศษ ไม่อยากให้พวกท่านมองเช่นนี้ พวกท่านหลีกออกไปหน่อยได้ไหม?"นางหยิบเข็มเย็บออกมาเย็บปิดแผลวิชาเย็บปิดเช่นนี้ ในแคว้นเจายังไม่มีใครเคยใช้และคิดว่าทั้งใต้หล้าคงยังไม่มีหมอคนไหนเป็นด้วยเซียวหลันยวนไม่ค่อยเข้าใจ "ถ้าเจ้าจะให้ข้าออกไป หรือจะให้พวกเจิ้งหยางทั้งหมดออกไปด้วย?""ดีที่สุดคือออกไปทั้งหมดหรือพวกท่านเดินออกไปห่างๆ หน่อยก็พอ"เซียวหลันยวนพอได้ยินว่านางไม่ได้มีการปฏิบัติด้วยเป็นพิเศษ ในใจก็เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแต่ว่าเขาก็อดพูดคำหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ "ทำเสียลึกลับ มีหมอที่ไหนบ้างตอนที่รักษาไม่ยอมให้คนอื่นได้เห็น?"ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขาเงียบๆ ไม่พูดอะไรอีกเซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "เอาล่ะเอาล่ะเอาล่ะ ข้าจะบอกพวกเจาทั้งหมดให้ถอยออกไป"รอจนเขาเดินออกไปและเรี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 249

    ฟู่จาวหนิงชาไปแล้วจริงๆ พิงเขาแค่ชั่วคราวเท่านั้น"ขอบคุณ"เซียวหลันยวนเหลือบมองกวางตัวนั้น บาดแผลพันเอาไว้เสร็จแล้ว"มันยังรอดหรือ?""แค่ไม่ถูกคนมาทารุณกรรม หรือว่าถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บอีกก็น่าจะไม่มีปัญหา" ฟู่จาวหนิงไม่ได้บอกนางว่าตนเองครั้งหน้าจะกลับมาหากวางตัวนี้อีก"แล้วก็มีคนไม่น้อยที่คิดจะจับมัน" เซียวหลันยวนเตือนนาง"เช่นั้นพวกเราก็ช่วยมันอีกสักหน่อยดีไหม?""ช่วยอย่างไร?"ฟู่จาวหนิงคิดๆ "แยกกันไปหาคนเหล่านั้น ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม จัดการล่อพวกเขาไปอีกด้านหนึ่งเสีย!"พอเป็นเช่นนี้ คนเหล่านั้นก็จะหาทิศทางที่ถูกต้องไม่พบ และจะหากวางตัวนั้นไม่เจอมันสามารถรอดชีวิตในภูเขามาได้ตั้งหลายปี ก่อนหน้านี้ก็ยังซ่อนตัวได้อยู่ ครั้งนี้คิดแล้วก็น่าจะเพราะโชคไม่ดีเท่านั้นเซียวหลันยวนพูดไม่ออก"เข้าเองก็มาล่าสัตว์นะ ผลลัพธ์กลายเป็นต้องมาไล่คนแทนแล้วหรือ?"ล่อคนออกไป เรื่องนี้มันเหมาะมาให้เขาทำหรือ?"ท่านจะไม่ทำก็ได้นะ" ฟู่จาวหนิงแหงนตามองเขา ร้องเชอะขึ้น "แต่เชิญท่านอ๋องที่สูงส่งคิดดูด้วย ท่านเพิ่งจะเอาเลือดของราชันกวางมากระบอกหนึ่งนะ เป็นคนแล้วไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณได้หรือ?"รู

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status