"ข้ารู้จักบิดาของท่าน"ผู้เฒ่าซุนบอกคำตอบที่ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดมากออกมาพอเห็นว่าฟู่จาวหนิงได้ยินคำนี้ก็พิจารณาตัวเขาผาดหนึ่ง ผู้เฒ่าซุนเองก็รู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเล็กน้อย "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอย่าเห็นว่าข้าดูเป็นคนซื่อๆ นะ อันที่จริงปีนี้ข้าเพิ่งจะสี่สิบเท่านั้น ในอดีตข้ารู้จักบิดาของท่านจริงๆ""คุณชายฟู่เป็นผู้มีบุคลิกดีมาก ช่วยเหลือผู้คนอยู่เนืองนิจ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าฟู่เองก็เป็นคนเมตตาเปี่ยมคุณธรรม ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าคนจากตระกูลฟู่คือคนที่มีคุณธรรม"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คนจากตระกูลฟู่? ผู้เฒ่าซุนหลังจากนี้จะใช้ความประทับใจนี้มาตัดสินไม่ได้แล้วนะ คนจากตระกูลฟู่มีพวกละโมบหน้าไม่อายอยู่เยอะเลย"นี่ด่าตนเองไปด้วยเลยหรือ?"เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะช่วยข้าดูสมุนไพรชนิดนี้ให้ได้หรือไม่?""ข้าขอดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงดูสมุนไพรนี้อย่างละเอียดหญ้าสมุนไพรหลายกอนี้น่าจะถูกดูแลไว้อย่างดี อาจจะเพราะเดิมทีมันเติบโตขึ้นในภูเขา ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าซุนเองก็ยังใช้ดินจากสถานที่เดียวกันด้วย ที่นั่นมีตะไคร่เขียวอยู่ เขากระทั่งขุดเอาตะไคร่เขียวกลับมาด้วยกันเลย
คลังวัตถุดิบยาแบ่งออกเป็นหลายคลังใหญ่ ในนี้มีพืชวัตถุดิบยาประเภทหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ยาชนิดที่ว่าก็อยู่ในกลุ่มใหญ่นี้!ในยุคสมัยของนางไม่มีพืชสมุนไพรนี้แล้ว"เยื่อคลุมคะนิ้ง?""เยื่อคลุมคะนิ้ง กลางคืนและช่วงเช้าตรูสามารถกระจายกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นหอมนี้มีส่วนช่วยให้หลับสบาย ในใบมีส่วนประกอบที่สามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ตายไปแล้วได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาภาวะสมองตายและลิ่มเลือดอุดตันได้ด้วย"ฟู่จาวหนิงหลังจากอ่านสรรพคุณจบ ก็สูดปากยาชนิดนี้ถ้าเพิ่มเข้าไปในตำรับยาโบราณที่นางเข้าใจ สรรพคุณจะน่าตกตะลึงมากเลยทีเดียว สามารถดึงผู้ป่วยที่ตายลงฉับพลันกลับมาจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ นี่มันยาศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตอย่างแท้จริงเลย!ถ้ายายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจก่อนหน้านี้ของนางเพิ่มสิ่งนี้เข้าไป ตอนนี้เอาไปขายหลักหมื่นก็คงจะถูกกว้านซื้อหมดแน่ยังไม่พูดเรื่องอื่น นางสกัดออกมาก่อน แล้วให้ท่านปู่กินไปเม็ดหนึ่ง กำลังวังชาของท่านปู่ก็ยังดีขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นสมองที่มึนงงมาตลอดก็ยังตื่นขึ้นได้ฟู่จาวหนิงพอเห็นยาก็ลิงโลด ร้อนรนจนอดไม่อยู่ นางจึงแช่ตัวอยู่แต่ในห้องเภสัชไม่ยอมออกมาแล้ว
เสี่ยวเถาหลังจากฟังคำพูดพวกเขาก็ตึงเครียดจนไม่ไหวแล้ว"ท่านอ๋องทำไมจึงทำเช่นนี้?"นางกังวลมาก ท่านอ๋องถ้าไปอยู่กับคุณหนูคนอื่น แล้วคุณหนูของบ้านนางจะทำอย่างไรกัน?พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นานเองแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะอยากให้พวกเขาหย่ากัน แต่นางรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูก็ดูเหมาะสมกันดี หลังจากนี้บางทีพวกเขาอาจจะพบว่าเรื่องในอดีตเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้แล้วหรือ?จะว่าไป อ๋องเจวี้ยนก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับการหย่าอีก ด้วยตัวตนฐานะของเขา ถ้าคุณหนูกับเขาไปกันไม่ได้จริงๆ จะต้องถูกอ๋องเจวี้ยนไล่ออกไปแน่นอน!หญิงสาวที่ถูกสามีไล่ออกมา หลังจากนี้จะน่าเวทนามาก คุณหนูจะอยู่ต่อไปอย่างไรกันล่ะ!เสี่ยวเถาแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วประตูมีเสียงเอี๊ยดเปิดขึ้น ฟู่จาวหนิงเดินออกมา มองที่นาง และมองที่ซุนกุ้ยซุนกุ้ยรีบเข้ามาขอโทษขอโพย"พระชายาอ๋องเจวี้ยนโปรดระงับความโกรธด้วย ข้าน้อยพลั้งปากไปแล้ว!"เขาทำไมถึงได้หน้ามึนมาพูดเรื่องอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูที่นี่กันนะ จะต้องเป็นเพราะพระชายาดูแล้วแสนดีเกินไปแน่นๆ ทำให้เขารู้สึกว่าสามารถพูดเรื่อยเปื่อยได้"คุณหนู
ฟู่จาวหนิงกลับไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าเซียวหลันยวนมาหานาง ด้วยความสามารถของเขา การจะหาว่านางพักอยู่ที่ไหนมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเลยไม่ใช่หรือไรกัน?ยิ่งไปกว่าเขาไม่ควรรู้ว่านางมาแล้ว ด้วยนิสัยของจงเจี้ยน เรื่องที่นางไม่อนุญาต เขาก็จะไม่เปิดเผยกับจวนอ๋อง"เช่นนั้นพวกเราตอนนี้ไป ท่านอ๋องก็รู้แล้วนี่"ฟู่จาวหนิงมองเสี่ยวเถายิ้มๆ "บางทีเขาอาจจะมาที่นี่เพื่อหาแม่นางที่ชอบกระมัง? เช่นนั้นข้าไปจะไม่เป็นการรบกวนเขาหรือ?""ท่านเป็นพระชายาของเขานะ!"เสี่ยวเถาร้องเสียงเล็ก ร้อนรนขึ้นมาแล้ว"ถึงจะเป็นพระชายาของเขาแต่ก็ไปวุ่นกับหัวใจที่อยากจะมีภรรยาหลายคนของชายหนุ่มไม่ได้หรอกนะ"ฟู่จาวหนิงพูดออกมา และรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้น่าสนใจเอาเสียเลยตอนนั้นที่นางเข้าไปขวางรถม้าถามเซียวหลันยวนว่ามีภรรยาหรือยังมีหญิงในดวงใจหรือจะแต่งงานหรือยัง ก็เพราะจะหาผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ เลยสักคนเท่านั้นแต่ว่าตอนนี้นางคิดแล้วกลับรู้สึกว่า ตนเองมองข้ามเรื่องหลังจากแต่งงานไปตอนนี้ถ้าเซียวหลันยวนคิดจะรับพระชายารอง คิดจะรับภรรยาเพิ่ม นางก็คงจะไปยุ่งไม่ได้เพียงแต่ว่า ถ้าหากข้างกายเขามีหญิงสาวคนอื่นขึ้นมา น
"คุณหนู นั่นแม่นางฟางนี่!"เสี่ยวเถาเห็นหญิงสาวที่รีบวิ่งเข้ามาคนนั้น ก็ร้องบอกฟู่จาวหนิงอย่างตกใจแม่นางฟาง?ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังมึนๆ อยู่ พอเห็นหญิงสาวคนนั้นจึงมีความทรงจำคืบคลานออกมานี่ไม่ใช่คนที่นางยืมตัวตนฐานะปลอมขึ้นมาเป็นที่รองเป้าให้กับจงเจี้ยนหรอกหรือ?ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มีเพื่อนแค่คนเดียว ลูกสาวของเศรษฐีใหญ่เจ้าของที่ดินนอกเมือง ฟางซือฉิงนางตอนนั้นพูดโกหกกับผู้เฒ่าฟู่ไป ว่าจงเจี้ยนเป็นคนใช้ของฟางซือฉิงที่ยืมนางมา คือฟางซือฉิงคนนี้นั่นเองฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอนางที่นี่ฟางซือฉิงหน้าตาค่อนไประดับบน ถือว่าเป็นหญิงงามเลยทีเดียว ตระกูลฟางมีเงิน ดังนั้นเสื้อผ้าของนางจึงดูตระการตา ทั่วทั้งหัวเต็มไปด้วยเครื่องประดับ ดูแล้วสูงส่งเหลือเกินอันที่จริงความตระการตาเช่นนี้กับความงามของนางแต่เดิมไม่ค่อยจะเข้ากันนัก ดังนั้น เพื่อนเหล่านั้นของฟางซือชิงจึงรังเกียจรสนิยมของนางในจุดนี้ บางครั้งก็เย็นชาประชดประชันใส่นางครั้งนั้นมีแค่ฟู่จาวหนิงที่มีเข้ามาคุยกับนางด้วยสีหน้าอิจฉาจริงๆ มีเงินแล้วเป็นเรื่องแย่ตรงไหน? ถ้าตระกูลฟู่มีเงิน ข้าเองก็จะสวมทองสวมเงินด้วยเหมือนกัน ถึงอย
แม่นางที่พูดกับฟางซือฉิงเมื่อครู่มองพิจารณาตัวฟู่จาวหนิง เผยสายตารังเกียจออกมา"นี่คือฟู่จาวหนิงเพื่อนของข้าเอง"รอยยิ้มบนใบหน้าฟางซือฉิงก็หม่นจางลงมาอย่างเห็นได้ชัด"อ๋า?" แม่นางคนนั้นทำสีหน้าเกินจริงออกมา เสียงเองก็ยกสูง "ไม่ใช่กระมัง? คงไม่ใช่คุณหนูฟู่ที่วันวันเอาแต่ไล่ตามรัฐทายาทเซียวคนนั้นหรอกกระมัง?"เพื่อนของนางหัวเราะร่าขึ้นมา"น่าจะใช่อยู่ นอกจากคุณหนูฟู่คนนั้นแล้ว ยังจะมีใครหน้าด้านขนาดนี้อีกล่ะ วันวันไม่มองฐานะของตัวเอง แต่จะบีบให้รัฐทายาทาเซียวยอมรับการการตกลงหมั้นหมายที่ล้อเล่นเอาไว้ในอดีต""ก็จริง ตระกูลฟู่ข้าเองก็เคยได้ยิน เห็นว่าเป็นเหมือนไก่ที่ขนร่วงลงพื้นหมดแล้ว นี่คิดจะเชิดหน้าบินขึ้นเป็นพญาหงส์หรือ?"คนพวกนี้พอเข้ามาก็หัวเราะเย้ยหยันฟู่จาวหนิงอย่างไม่เกรงใจเฉินซานกับเสี่ยวเถาเองก็หน้าเปลี่ยนสีไปแล้วผู้เฒ่าซุนที่อยู่ข้างๆ ก็อยากจะเปิดปากพูด แต่ก็ตะลึงจนสอดปากเข้าไปไม่ได้"คุณหนูคุณชายทุกท่าน นั่นน่ะ""เมื่อครู่ข้าได้ยินมาว่า รัฐทายาทเซียวไม่ได้รับปากว่าจะแต่งด้วยนี่นา?" หญิงสาวคนนั้นหัวเราะร่าขึ้นมาอีก พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงบนล่าง "หรือว่าเจ้าถูกรัฐทายาทเซ
"ใครก็ได้!"จ้าวหรูร้องขึ้นมาอีกครั้งเพียงไม่นานก็มีทหารหลายคนพุ่งเข้ามายืนอยู่ข้างๆ นาง ดูแล้วองอาจน่าตกตะลึง"เจ้าก็แค่คนขับรถจนๆ คนหนึ่ง ถือดีอย่างไรจะมาสู้กับทหารของขุนนางผู้บัญชาการกัน?" จ้าวหรูหัวเราะเย้ยขณะพิจารณาตัวเฉินซานสีหน้าเฉินซานเปลี่ยนไปแล้วคุณหนูจ้าวคนนี้เป็นลูกสาวของขุนนางผู้บัญชาการหรือ?ทหารหลายคนนั่นดูแล้วก็น่าตกตะลึงจริง เฉินซานรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของพวกเขา แต่พอเขาหันหน้ากลับไปมองฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเถาผาดหนึ่ง ก็กัดฟัน ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว"ไม่ยอมให้พวกเจ้าได้แตะต้องคุณหนูของข้าแม้แต่ผมสักเส้นหรอก!"เฉินซานก่อนหน้านี้ตอนเป็นนักเลงหัวไม้ที่ตลาดก็ทะเลาะเบาะแว้งอยู่บ่อยๆ หลายครั้งที่ใช้วิธีไม่คิดชีวิต สละตัวเอง กระดูกกระเดี้ยวจะหักไปกี่ท่อนก็เข้าขวางพวกเขาไว้ รั้งพวกเขาไว้ไม่ให้ผ่านไป"น่าขันเหลือเกิน"จ้าวหรูเห็นว่าเขาไม่ยอมปล่อยวาง ยังคิดว่าตนเองสามารถปกป้องฟู่จาวหนิงได้ จึงหัวเราะร่าขึ้นมา"เช่นนั้นก็จะทำให้เจ้าสมหวัง ให้คุณหนูของเจ้าเห็นเจ้าถูกตีจนปางตายก่อนก็แล้วกัน จากนั้นพวกเราค่อยโกนหัวของนางทิ้ง!"จ้าวหรูจู่ๆ ก็รู้สึกว่าความคิดนี้ใช้ได้
"คิดจะหนีหรือ ไม่มีทาง"พวกเขาล้วนกำลังเอาอกเอาใจจ้าวหรู ตอนนี้จึงพยายามแสดงออกอย่างเต็มที่"คุณหนูจ้าว บิดาของท่านเคยมาเรือนรับรองพินิศทิวเขาของพวกเราแล้ว ข้ากับเขาเองก็เคยดื่มชาด้วยกัน" ผู้เฒ่าซุนโผล่ออกมา คิดจะเตือนห้ามจ้าวหรูไว้เดิมทีนางก็อยากพูดเรื่องที่ฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ยินเรื่องอ๋องเจวี้ยนกับหลินหว่านซิน พอบวกกับที่ฟู่จาวหนิงไม่ให้เรียกนางว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยน ดังนั้นตอนนี้ผู้เฒ่าซุนล้วนไม่กล้ายืนยันความสัมพันธ์ของนางกับอ๋องเจวี้ยนยังดีอยู่หรือไม่ถ้าเผื่ออ๋องเจวี้ยนไม่ยืนอยู่ฝ่ายนางล่ะ เช่นนั้นถ้าพูดตัวตนฐานพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกไป ไม่แน่ว่าจะยิ่งยั่วโมโหคุณหนูจ้าวเข้าไปอีกจ้าวหรูถลึงตาใส่นาง"เจ้าหุบปากไป เคยดื่มชากับพ่อข้าแล้วยอดเยี่ยมนักหรือ เจ้ามันเป็นใครกัน?"ถ้าไม่ใช่เพราะนางช่วงนี้ทะเลาะกับพวกของหลินหว่านซินล่ะก็ จึงไม่อยากจะพักอยู่กับพวกหลินหว่านซิน นางถึงต้องมาพักอยู่ในเรือนรับรองที่ไม่คู่ควรกับตัวตนฐานะนางเช่นนี้ไม่ใช่หรือไรกัน?ผู้เฒ่าซุนถูกนางจนโมโหใส่จนหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาวไปแล้วคุณหนูจ้าวคนนี้เกะกะระรานเสี