Share

บทที่ 224

Author: จุ้ยหลิงซู
"เมื่อครู่อ๋องเจวี้ยนผลักเจ้าออกชัดๆ เขาไม่ได้สนใจตัวเจ้าแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเจ้าจงใจอีกด้วย"

หญิงสาวชุดเขียวข้างๆ ร้องเชอะขึ้นมา

"เจ้าก็แค่ริษยา" หลินหว่านซินกลับมั่นอกมั่นใจ

"ใครริษยาเจ้ากัน? อ๋องเจวี้ยนตัวตนฐานะสูงส่งกว่าเหล่าพระโอรสองค์หญิงเสียอีก แล้วองค์หญิงในวังตั้งหลายคนก็เป็นเพื่อนสนิทเจ้า อ๋องเจวี้ยนถ้ารู้ก็คงมองเจ้าเป็นแค่ผู้น้อย แต่ข้านั้นต่างกับเจ้า ข้ามีตัวตนสูงกว่า พี่สาวข้าเป็นสนม และนับศักดิ์เป็นอาสะใภ้อ๋องเจวี้ยนได้เลย ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจึงอยู่ระดับเดียวกัน"

"หูจู เจ้าไม่ใช่ว่าชอบรัฐทายาทเจียงหรอกหรือ? เมื่อครู่รัฐทายาทเจียงก็อยู่ด้วยนี่ นี่เจ้าจิตใจไม่มั่นคงต่อหน้าเขาเลยหรือ?"

หลินหว่านซินหัวเราะเย้ยหยันหูจูหญิงสาวชุดเขียว

หูจูหน้าเปลี่ยนสี

"ใครบอกเจ้าว่าข้าชอบรัฐทายาทเซียว? ข้าไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น!"

นางเพิ่งจะสิบห้า ถ้าบอกว่ามาเที่ยวที่เขาเมฆอรุณ หากลือกันออกไปว่านางชอบใครเข้า ถึงตอนนั้นพ่อนางคงตีขานางหักแน่

แม้พวกนางอันที่จริงส่วนใหญ่จะมาที่นี่ด้วยเป้าหมายนี้ แต่ใครก็คงไม่พูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งหรอก

หลินหว่านซีหน้าไม่อายเสียจริง

ขอแค่บิดานางเผยคว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 225

    "ไม่ได้ ท่านอ๋องพวกข้าไม่ไปแน่"ก่อนหน้านี้โรคก็กำเริบมาแล้ว นี่ยังนั่งรถม้าเร่งเดินทางมาเขาเมฆอรุณอีกตั้งวันหนึ่ง ท่านอ๋องจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ แล้วจะออกไปล่าสัตว์ได้อย่างไร?"ไม่ได้จริงหรือ?" เจียงอวี้ผิดหวัง "แต่ว่าพวกเราสองวันนี้ได้ยินว่าในป่ามีเสียงร้องประหลาด ทุกคนล้วนเดากันว่าน่าจะเป็นสัตว์ป่าอะไรตัวหนึ่ง ถ้าล่าได้สัตว์พิเศษมา ยังสามารถส่งไปที่วังมอบให้องค์จักรพรรดิได้ด้วย"พวกเขาเตรียมจะใช้สิ่งนี้มาแข่งขันแล้ว ไม่แข่งแล้วว่าใครล่าได้มากกว่า แต่จะดูว่าใครที่ล่าสัตว์ป่าเสียงประหลาดนั่นไดถือว่าชนะไปแทน"เสียงร้องประหลาด?"อ๋องเจวี้ยนเปิดประตูเดินออกมา"ใช่แล้ว อ๋องเจวี้ยน มีคนพูดว่าอาจจะเป็นราชันกวางที่ร้อยปีจะพบเห็นสักครั้งหนึ่ง ได้ถ้ารับราชันกวางมา เลือดกวางเองก็เป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว"เจียงอวี้อันที่จริงก็อยากจะเห็นวิชายิงธนูของอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน"เลือดราชันกวางหรือ?"สีหน้าของชิงอีเปลี่ยนไปเล็กน้อยเลือดราชันกวาง ท่านอ๋องพวกเขาต้องการมันมาก!เพราะว่าเลือดราชันกวางเป็นยาบำรุงชั้นยอด แล้วยังทำให้อบอุ่นได้ด้วย เหมาะกับท่านอ๋องของพวกเขามากที่สุดแล้ว!ตอนนั้นพวกเขาไปยังพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 226

    "ข้ารู้จักบิดาของท่าน"ผู้เฒ่าซุนบอกคำตอบที่ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดมากออกมาพอเห็นว่าฟู่จาวหนิงได้ยินคำนี้ก็พิจารณาตัวเขาผาดหนึ่ง ผู้เฒ่าซุนเองก็รู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเล็กน้อย "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอย่าเห็นว่าข้าดูเป็นคนซื่อๆ นะ อันที่จริงปีนี้ข้าเพิ่งจะสี่สิบเท่านั้น ในอดีตข้ารู้จักบิดาของท่านจริงๆ""คุณชายฟู่เป็นผู้มีบุคลิกดีมาก ช่วยเหลือผู้คนอยู่เนืองนิจ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าฟู่เองก็เป็นคนเมตตาเปี่ยมคุณธรรม ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าคนจากตระกูลฟู่คือคนที่มีคุณธรรม"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คนจากตระกูลฟู่? ผู้เฒ่าซุนหลังจากนี้จะใช้ความประทับใจนี้มาตัดสินไม่ได้แล้วนะ คนจากตระกูลฟู่มีพวกละโมบหน้าไม่อายอยู่เยอะเลย"นี่ด่าตนเองไปด้วยเลยหรือ?"เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะช่วยข้าดูสมุนไพรชนิดนี้ให้ได้หรือไม่?""ข้าขอดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงดูสมุนไพรนี้อย่างละเอียดหญ้าสมุนไพรหลายกอนี้น่าจะถูกดูแลไว้อย่างดี อาจจะเพราะเดิมทีมันเติบโตขึ้นในภูเขา ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าซุนเองก็ยังใช้ดินจากสถานที่เดียวกันด้วย ที่นั่นมีตะไคร่เขียวอยู่ เขากระทั่งขุดเอาตะไคร่เขียวกลับมาด้วยกันเลย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่227

    คลังวัตถุดิบยาแบ่งออกเป็นหลายคลังใหญ่ ในนี้มีพืชวัตถุดิบยาประเภทหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ยาชนิดที่ว่าก็อยู่ในกลุ่มใหญ่นี้!ในยุคสมัยของนางไม่มีพืชสมุนไพรนี้แล้ว"เยื่อคลุมคะนิ้ง?""เยื่อคลุมคะนิ้ง กลางคืนและช่วงเช้าตรูสามารถกระจายกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นหอมนี้มีส่วนช่วยให้หลับสบาย ในใบมีส่วนประกอบที่สามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ตายไปแล้วได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาภาวะสมองตายและลิ่มเลือดอุดตันได้ด้วย"ฟู่จาวหนิงหลังจากอ่านสรรพคุณจบ ก็สูดปากยาชนิดนี้ถ้าเพิ่มเข้าไปในตำรับยาโบราณที่นางเข้าใจ สรรพคุณจะน่าตกตะลึงมากเลยทีเดียว สามารถดึงผู้ป่วยที่ตายลงฉับพลันกลับมาจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ นี่มันยาศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตอย่างแท้จริงเลย!ถ้ายายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจก่อนหน้านี้ของนางเพิ่มสิ่งนี้เข้าไป ตอนนี้เอาไปขายหลักหมื่นก็คงจะถูกกว้านซื้อหมดแน่ยังไม่พูดเรื่องอื่น นางสกัดออกมาก่อน แล้วให้ท่านปู่กินไปเม็ดหนึ่ง กำลังวังชาของท่านปู่ก็ยังดีขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นสมองที่มึนงงมาตลอดก็ยังตื่นขึ้นได้ฟู่จาวหนิงพอเห็นยาก็ลิงโลด ร้อนรนจนอดไม่อยู่ นางจึงแช่ตัวอยู่แต่ในห้องเภสัชไม่ยอมออกมาแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 228

    เสี่ยวเถาหลังจากฟังคำพูดพวกเขาก็ตึงเครียดจนไม่ไหวแล้ว"ท่านอ๋องทำไมจึงทำเช่นนี้?"นางกังวลมาก ท่านอ๋องถ้าไปอยู่กับคุณหนูคนอื่น แล้วคุณหนูของบ้านนางจะทำอย่างไรกัน?พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นานเองแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะอยากให้พวกเขาหย่ากัน แต่นางรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูก็ดูเหมาะสมกันดี หลังจากนี้บางทีพวกเขาอาจจะพบว่าเรื่องในอดีตเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้แล้วหรือ?จะว่าไป อ๋องเจวี้ยนก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับการหย่าอีก ด้วยตัวตนฐานะของเขา ถ้าคุณหนูกับเขาไปกันไม่ได้จริงๆ จะต้องถูกอ๋องเจวี้ยนไล่ออกไปแน่นอน!หญิงสาวที่ถูกสามีไล่ออกมา หลังจากนี้จะน่าเวทนามาก คุณหนูจะอยู่ต่อไปอย่างไรกันล่ะ!เสี่ยวเถาแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วประตูมีเสียงเอี๊ยดเปิดขึ้น ฟู่จาวหนิงเดินออกมา มองที่นาง และมองที่ซุนกุ้ยซุนกุ้ยรีบเข้ามาขอโทษขอโพย"พระชายาอ๋องเจวี้ยนโปรดระงับความโกรธด้วย ข้าน้อยพลั้งปากไปแล้ว!"เขาทำไมถึงได้หน้ามึนมาพูดเรื่องอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูที่นี่กันนะ จะต้องเป็นเพราะพระชายาดูแล้วแสนดีเกินไปแน่นๆ ทำให้เขารู้สึกว่าสามารถพูดเรื่อยเปื่อยได้"คุณหนู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 229

    ฟู่จาวหนิงกลับไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าเซียวหลันยวนมาหานาง ด้วยความสามารถของเขา การจะหาว่านางพักอยู่ที่ไหนมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเลยไม่ใช่หรือไรกัน?ยิ่งไปกว่าเขาไม่ควรรู้ว่านางมาแล้ว ด้วยนิสัยของจงเจี้ยน เรื่องที่นางไม่อนุญาต เขาก็จะไม่เปิดเผยกับจวนอ๋อง"เช่นนั้นพวกเราตอนนี้ไป ท่านอ๋องก็รู้แล้วนี่"ฟู่จาวหนิงมองเสี่ยวเถายิ้มๆ "บางทีเขาอาจจะมาที่นี่เพื่อหาแม่นางที่ชอบกระมัง? เช่นนั้นข้าไปจะไม่เป็นการรบกวนเขาหรือ?""ท่านเป็นพระชายาของเขานะ!"เสี่ยวเถาร้องเสียงเล็ก ร้อนรนขึ้นมาแล้ว"ถึงจะเป็นพระชายาของเขาแต่ก็ไปวุ่นกับหัวใจที่อยากจะมีภรรยาหลายคนของชายหนุ่มไม่ได้หรอกนะ"ฟู่จาวหนิงพูดออกมา และรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้น่าสนใจเอาเสียเลยตอนนั้นที่นางเข้าไปขวางรถม้าถามเซียวหลันยวนว่ามีภรรยาหรือยังมีหญิงในดวงใจหรือจะแต่งงานหรือยัง ก็เพราะจะหาผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ เลยสักคนเท่านั้นแต่ว่าตอนนี้นางคิดแล้วกลับรู้สึกว่า ตนเองมองข้ามเรื่องหลังจากแต่งงานไปตอนนี้ถ้าเซียวหลันยวนคิดจะรับพระชายารอง คิดจะรับภรรยาเพิ่ม นางก็คงจะไปยุ่งไม่ได้เพียงแต่ว่า ถ้าหากข้างกายเขามีหญิงสาวคนอื่นขึ้นมา น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 230

    "คุณหนู นั่นแม่นางฟางนี่!"เสี่ยวเถาเห็นหญิงสาวที่รีบวิ่งเข้ามาคนนั้น ก็ร้องบอกฟู่จาวหนิงอย่างตกใจแม่นางฟาง?ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังมึนๆ อยู่ พอเห็นหญิงสาวคนนั้นจึงมีความทรงจำคืบคลานออกมานี่ไม่ใช่คนที่นางยืมตัวตนฐานะปลอมขึ้นมาเป็นที่รองเป้าให้กับจงเจี้ยนหรอกหรือ?ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มีเพื่อนแค่คนเดียว ลูกสาวของเศรษฐีใหญ่เจ้าของที่ดินนอกเมือง ฟางซือฉิงนางตอนนั้นพูดโกหกกับผู้เฒ่าฟู่ไป ว่าจงเจี้ยนเป็นคนใช้ของฟางซือฉิงที่ยืมนางมา คือฟางซือฉิงคนนี้นั่นเองฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอนางที่นี่ฟางซือฉิงหน้าตาค่อนไประดับบน ถือว่าเป็นหญิงงามเลยทีเดียว ตระกูลฟางมีเงิน ดังนั้นเสื้อผ้าของนางจึงดูตระการตา ทั่วทั้งหัวเต็มไปด้วยเครื่องประดับ ดูแล้วสูงส่งเหลือเกินอันที่จริงความตระการตาเช่นนี้กับความงามของนางแต่เดิมไม่ค่อยจะเข้ากันนัก ดังนั้น เพื่อนเหล่านั้นของฟางซือชิงจึงรังเกียจรสนิยมของนางในจุดนี้ บางครั้งก็เย็นชาประชดประชันใส่นางครั้งนั้นมีแค่ฟู่จาวหนิงที่มีเข้ามาคุยกับนางด้วยสีหน้าอิจฉาจริงๆ มีเงินแล้วเป็นเรื่องแย่ตรงไหน? ถ้าตระกูลฟู่มีเงิน ข้าเองก็จะสวมทองสวมเงินด้วยเหมือนกัน ถึงอย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 231

    แม่นางที่พูดกับฟางซือฉิงเมื่อครู่มองพิจารณาตัวฟู่จาวหนิง เผยสายตารังเกียจออกมา"นี่คือฟู่จาวหนิงเพื่อนของข้าเอง"รอยยิ้มบนใบหน้าฟางซือฉิงก็หม่นจางลงมาอย่างเห็นได้ชัด"อ๋า?" แม่นางคนนั้นทำสีหน้าเกินจริงออกมา เสียงเองก็ยกสูง "ไม่ใช่กระมัง? คงไม่ใช่คุณหนูฟู่ที่วันวันเอาแต่ไล่ตามรัฐทายาทเซียวคนนั้นหรอกกระมัง?"เพื่อนของนางหัวเราะร่าขึ้นมา"น่าจะใช่อยู่ นอกจากคุณหนูฟู่คนนั้นแล้ว ยังจะมีใครหน้าด้านขนาดนี้อีกล่ะ วันวันไม่มองฐานะของตัวเอง แต่จะบีบให้รัฐทายาทาเซียวยอมรับการการตกลงหมั้นหมายที่ล้อเล่นเอาไว้ในอดีต""ก็จริง ตระกูลฟู่ข้าเองก็เคยได้ยิน เห็นว่าเป็นเหมือนไก่ที่ขนร่วงลงพื้นหมดแล้ว นี่คิดจะเชิดหน้าบินขึ้นเป็นพญาหงส์หรือ?"คนพวกนี้พอเข้ามาก็หัวเราะเย้ยหยันฟู่จาวหนิงอย่างไม่เกรงใจเฉินซานกับเสี่ยวเถาเองก็หน้าเปลี่ยนสีไปแล้วผู้เฒ่าซุนที่อยู่ข้างๆ ก็อยากจะเปิดปากพูด แต่ก็ตะลึงจนสอดปากเข้าไปไม่ได้"คุณหนูคุณชายทุกท่าน นั่นน่ะ""เมื่อครู่ข้าได้ยินมาว่า รัฐทายาทเซียวไม่ได้รับปากว่าจะแต่งด้วยนี่นา?" หญิงสาวคนนั้นหัวเราะร่าขึ้นมาอีก พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงบนล่าง "หรือว่าเจ้าถูกรัฐทายาทเซ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที 232

    "ใครก็ได้!"จ้าวหรูร้องขึ้นมาอีกครั้งเพียงไม่นานก็มีทหารหลายคนพุ่งเข้ามายืนอยู่ข้างๆ นาง ดูแล้วองอาจน่าตกตะลึง"เจ้าก็แค่คนขับรถจนๆ คนหนึ่ง ถือดีอย่างไรจะมาสู้กับทหารของขุนนางผู้บัญชาการกัน?" จ้าวหรูหัวเราะเย้ยขณะพิจารณาตัวเฉินซานสีหน้าเฉินซานเปลี่ยนไปแล้วคุณหนูจ้าวคนนี้เป็นลูกสาวของขุนนางผู้บัญชาการหรือ?ทหารหลายคนนั่นดูแล้วก็น่าตกตะลึงจริง เฉินซานรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของพวกเขา แต่พอเขาหันหน้ากลับไปมองฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเถาผาดหนึ่ง ก็กัดฟัน ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว"ไม่ยอมให้พวกเจ้าได้แตะต้องคุณหนูของข้าแม้แต่ผมสักเส้นหรอก!"เฉินซานก่อนหน้านี้ตอนเป็นนักเลงหัวไม้ที่ตลาดก็ทะเลาะเบาะแว้งอยู่บ่อยๆ หลายครั้งที่ใช้วิธีไม่คิดชีวิต สละตัวเอง กระดูกกระเดี้ยวจะหักไปกี่ท่อนก็เข้าขวางพวกเขาไว้ รั้งพวกเขาไว้ไม่ให้ผ่านไป"น่าขันเหลือเกิน"จ้าวหรูเห็นว่าเขาไม่ยอมปล่อยวาง ยังคิดว่าตนเองสามารถปกป้องฟู่จาวหนิงได้ จึงหัวเราะร่าขึ้นมา"เช่นนั้นก็จะทำให้เจ้าสมหวัง ให้คุณหนูของเจ้าเห็นเจ้าถูกตีจนปางตายก่อนก็แล้วกัน จากนั้นพวกเราค่อยโกนหัวของนางทิ้ง!"จ้าวหรูจู่ๆ ก็รู้สึกว่าความคิดนี้ใช้ได้

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status