สมัยก่อนที่เขาเห็นคือฟู่จาวหนิงที่ถูกลือว่าชื่อเสียงไม่ค่อยจะดีนักแต่เมื่อวานพอได้ยินท่านผู้เฒ่าเล่า คุณหนูฟู่คนนั้นตอนนี้กลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวิชาแพทย์กับหลักการโอสถก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย เขาเองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน"ท่านผู้เฒ่าของพวกเรารีบมายังเรือนรับรอง อันที่จริงก็เพราะจะเอาหญ้าสมุนไพรหลายช่อในเรือนรับรองนี้กลับไปเมืองหลวง เขาอยากให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนช่วยดูให้หน่อยว่านั่นเป็นวัตถุดิบยาอะไร ไม่คิดเลยว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมายังเขาเมฆอรุณนี้เสียแล้ว""วัตถุดิบยา?""ใช่ๆๆ ไม่ทราบว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนสะดวกช่วยเหลือหรือไม่?""ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่ว่าข้าเพิ่งจะมาถึงเขาเมฆอรุณนี้ยังหาที่พักไม่ได้เลย ขอให้ได้พักก่อนแล้วค่อยว่ากัน""ถ้าเช่นนั้นก็ขอท่านพระชายาพักที่เรือนรับรองของพวกเราเถิด! ข้าน้อยจะจัดการให้ทันที"ฟู่จาวหนิงมองเฉินซานเฉินซานเองก็ไม่คิดว่ามีเรื่องเช่นนี้ที่ซุนกุยจัดหาให้คือห้องที่ดีที่สุดของเรือนรับรอง ทิวทัศน์งดงามมาก ว่ากันว่าที่นี่เดิมทีซุนกุ้ยจัดเตรียมไว้ให้ซุนหยวนไว่เรือนเล็กเรือนหนึ่ง มีห้องสามห้องและห้องปีกอีกห้องหนึ่ง เหลือเฟือ
"ท่านอ๋อง ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวออกมา"เมื่อครู่รถม้าเพิ่งจะผ่านประตูภูเขา ชิงอีก็เห็นคนส่วนหนึ่งเดินตรงมาทางนี้ สายตาจับจ้องไปบนตัวอ๋องเจวี้ยนอย่างเห็นได้ชัดในใจเขาขรึมลงเล็กน้อย คนเหล่านี้ตรงมาหาอ๋องเจวี้ยนหรือ?พวกเขาตัดสินใจมาที่เขาเมฆอรุณชั่วคราว นอกจากผู้ตรวจการอันแล้ว ก็ไม่น่าจะมีคนรู้ถึงจะถูก ตอนนี้ทำไมจึงมีคนมากมายมาชมอ๋องเจวี้ยนเช่นนี้?ชิงอีเดิมทียังคิดว่าพวกเขาเข้ามาเงียบๆ เข้าพักเงียบๆ แล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้คนตั้งมากมายมารุมล้อมท่านอ๋อง แล้วจะทำเงียบๆ ได้อย่างไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้นสุขภาพของท่านอ๋องก็ยังไม่ค่อยดีด้วย ถ้าคนเหล่านี้จะเข้ามาพูดคุยกับท่านอ๋องมาคารวะท่านอ๋อง ได้เหนื่อยตายกันพอดี"ไม่เป็นไร"อ๋องเจวี้ยนกลับไม่ใส่ใจเขาทำตัวเงียบๆ มาหลายปี ตอนนี้ในเมื่อกลับมาเมืองหลวงแล้ว ก็ต้องเผยหน้าตนเองออกมาให้คนอื่นรู้จักเขาบ้างไม่เช่นนั้น ผู้หญิงบางคนจะอวดอ้างตัวตนฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมาขู่คนได้อย่างไร?แล้วถ้าเขาไม่มีพลังสยบด้วยอาณุภาพนี้ ไม่แน่ว่าหญิงสาวคนนั้นอาจจะหัวเราะเยาะเขาว่าเป็นท่านอ๋องประสาอะไร ทำไมจึงไม่มีใครรู้จัก แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ชิงอีร
"ขอรับ!"เจียงอวี้เคยได้ยินเรื่องวัยเด็กของอ๋องเจวี้ยนมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชื่นชมศรัทธาตัวเขามาตลอด แต่อ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงไม่กลับเมืองหลวงมาหลายปี เขาจึงไม่เคยพบหน้าเลยคนหลายคนที่อยู่ด้วยกันกับเจียงอวี้ก็น่าจะมีความสัมพันธ์กันดีมาก"อ๋องเจวี้ยน ท่านมาที่เขาเมฆอรุณครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมการแข่งล่าสัตว์หรือ?" เจียงอวี้ติดตามอยู่ข้างๆ อ๋องเจวี้ยน เชิญเขาไปพักยังเรือนรับรองตะวันออกอย่างอบอุ่น พวกเขาเองก็พักอยู่ที่เรือนรับรองตะวันออก"แข่งล่าสัตว์ สนุกหรือ?"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินไปเบื้องหน้าพลางถามไปด้วยเจียงอวี้ใบหน้าแดงเล็กน้อย พูดออกมาอย่างกระดากอายเล็กๆ"อันที่จริงแข่งล่าสัตว์ก็สนุกอยู่ แต่ว่า จุดที่น่าสนใจที่สุดของการเข้าร่วมแข่งล่าสัตว์ก็คือผู้ที่ชนะจะสามารถไปเที่ยวเล่นกับแม่นางคนใดก็ได้หนึ่งวันในเขาเมฆอรุณแห่งนี้"หืม?อ๋องเจวี้ยนหยุดยืน"แม่นางคนใดก็ได้?""ถูกต้อง หญิงสาวที่เข้าพักในเขาเมฆอรุณทั้งหมดล้วนถูกบันทึกไว้แล้ว พอถึงเวลาถ้าถูกผู้ชนะเลือก หญิงสาวคนนั้นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้"เจียงอวี้พูดถึงจุดนี้ก็ยิ้มๆ "แต่ว่า ไม่มีแม่นางคนใดปฏิเสธหรอก เพราะการที่
"เมื่อครู่อ๋องเจวี้ยนผลักเจ้าออกชัดๆ เขาไม่ได้สนใจตัวเจ้าแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเจ้าจงใจอีกด้วย"หญิงสาวชุดเขียวข้างๆ ร้องเชอะขึ้นมา"เจ้าก็แค่ริษยา" หลินหว่านซินกลับมั่นอกมั่นใจ"ใครริษยาเจ้ากัน? อ๋องเจวี้ยนตัวตนฐานะสูงส่งกว่าเหล่าพระโอรสองค์หญิงเสียอีก แล้วองค์หญิงในวังตั้งหลายคนก็เป็นเพื่อนสนิทเจ้า อ๋องเจวี้ยนถ้ารู้ก็คงมองเจ้าเป็นแค่ผู้น้อย แต่ข้านั้นต่างกับเจ้า ข้ามีตัวตนสูงกว่า พี่สาวข้าเป็นสนม และนับศักดิ์เป็นอาสะใภ้อ๋องเจวี้ยนได้เลย ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจึงอยู่ระดับเดียวกัน""หูจู เจ้าไม่ใช่ว่าชอบรัฐทายาทเจียงหรอกหรือ? เมื่อครู่รัฐทายาทเจียงก็อยู่ด้วยนี่ นี่เจ้าจิตใจไม่มั่นคงต่อหน้าเขาเลยหรือ?"หลินหว่านซินหัวเราะเย้ยหยันหูจูหญิงสาวชุดเขียวหูจูหน้าเปลี่ยนสี"ใครบอกเจ้าว่าข้าชอบรัฐทายาทเซียว? ข้าไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น!"นางเพิ่งจะสิบห้า ถ้าบอกว่ามาเที่ยวที่เขาเมฆอรุณ หากลือกันออกไปว่านางชอบใครเข้า ถึงตอนนั้นพ่อนางคงตีขานางหักแน่แม้พวกนางอันที่จริงส่วนใหญ่จะมาที่นี่ด้วยเป้าหมายนี้ แต่ใครก็คงไม่พูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งหรอกหลินหว่านซีหน้าไม่อายเสียจริงขอแค่บิดานางเผยคว
"ไม่ได้ ท่านอ๋องพวกข้าไม่ไปแน่"ก่อนหน้านี้โรคก็กำเริบมาแล้ว นี่ยังนั่งรถม้าเร่งเดินทางมาเขาเมฆอรุณอีกตั้งวันหนึ่ง ท่านอ๋องจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ แล้วจะออกไปล่าสัตว์ได้อย่างไร?"ไม่ได้จริงหรือ?" เจียงอวี้ผิดหวัง "แต่ว่าพวกเราสองวันนี้ได้ยินว่าในป่ามีเสียงร้องประหลาด ทุกคนล้วนเดากันว่าน่าจะเป็นสัตว์ป่าอะไรตัวหนึ่ง ถ้าล่าได้สัตว์พิเศษมา ยังสามารถส่งไปที่วังมอบให้องค์จักรพรรดิได้ด้วย"พวกเขาเตรียมจะใช้สิ่งนี้มาแข่งขันแล้ว ไม่แข่งแล้วว่าใครล่าได้มากกว่า แต่จะดูว่าใครที่ล่าสัตว์ป่าเสียงประหลาดนั่นไดถือว่าชนะไปแทน"เสียงร้องประหลาด?"อ๋องเจวี้ยนเปิดประตูเดินออกมา"ใช่แล้ว อ๋องเจวี้ยน มีคนพูดว่าอาจจะเป็นราชันกวางที่ร้อยปีจะพบเห็นสักครั้งหนึ่ง ได้ถ้ารับราชันกวางมา เลือดกวางเองก็เป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว"เจียงอวี้อันที่จริงก็อยากจะเห็นวิชายิงธนูของอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน"เลือดราชันกวางหรือ?"สีหน้าของชิงอีเปลี่ยนไปเล็กน้อยเลือดราชันกวาง ท่านอ๋องพวกเขาต้องการมันมาก!เพราะว่าเลือดราชันกวางเป็นยาบำรุงชั้นยอด แล้วยังทำให้อบอุ่นได้ด้วย เหมาะกับท่านอ๋องของพวกเขามากที่สุดแล้ว!ตอนนั้นพวกเขาไปยังพ
"ข้ารู้จักบิดาของท่าน"ผู้เฒ่าซุนบอกคำตอบที่ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดมากออกมาพอเห็นว่าฟู่จาวหนิงได้ยินคำนี้ก็พิจารณาตัวเขาผาดหนึ่ง ผู้เฒ่าซุนเองก็รู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเล็กน้อย "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอย่าเห็นว่าข้าดูเป็นคนซื่อๆ นะ อันที่จริงปีนี้ข้าเพิ่งจะสี่สิบเท่านั้น ในอดีตข้ารู้จักบิดาของท่านจริงๆ""คุณชายฟู่เป็นผู้มีบุคลิกดีมาก ช่วยเหลือผู้คนอยู่เนืองนิจ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าฟู่เองก็เป็นคนเมตตาเปี่ยมคุณธรรม ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าคนจากตระกูลฟู่คือคนที่มีคุณธรรม"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คนจากตระกูลฟู่? ผู้เฒ่าซุนหลังจากนี้จะใช้ความประทับใจนี้มาตัดสินไม่ได้แล้วนะ คนจากตระกูลฟู่มีพวกละโมบหน้าไม่อายอยู่เยอะเลย"นี่ด่าตนเองไปด้วยเลยหรือ?"เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะช่วยข้าดูสมุนไพรชนิดนี้ให้ได้หรือไม่?""ข้าขอดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงดูสมุนไพรนี้อย่างละเอียดหญ้าสมุนไพรหลายกอนี้น่าจะถูกดูแลไว้อย่างดี อาจจะเพราะเดิมทีมันเติบโตขึ้นในภูเขา ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าซุนเองก็ยังใช้ดินจากสถานที่เดียวกันด้วย ที่นั่นมีตะไคร่เขียวอยู่ เขากระทั่งขุดเอาตะไคร่เขียวกลับมาด้วยกันเลย
คลังวัตถุดิบยาแบ่งออกเป็นหลายคลังใหญ่ ในนี้มีพืชวัตถุดิบยาประเภทหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ยาชนิดที่ว่าก็อยู่ในกลุ่มใหญ่นี้!ในยุคสมัยของนางไม่มีพืชสมุนไพรนี้แล้ว"เยื่อคลุมคะนิ้ง?""เยื่อคลุมคะนิ้ง กลางคืนและช่วงเช้าตรูสามารถกระจายกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นหอมนี้มีส่วนช่วยให้หลับสบาย ในใบมีส่วนประกอบที่สามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ตายไปแล้วได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาภาวะสมองตายและลิ่มเลือดอุดตันได้ด้วย"ฟู่จาวหนิงหลังจากอ่านสรรพคุณจบ ก็สูดปากยาชนิดนี้ถ้าเพิ่มเข้าไปในตำรับยาโบราณที่นางเข้าใจ สรรพคุณจะน่าตกตะลึงมากเลยทีเดียว สามารถดึงผู้ป่วยที่ตายลงฉับพลันกลับมาจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ นี่มันยาศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตอย่างแท้จริงเลย!ถ้ายายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจก่อนหน้านี้ของนางเพิ่มสิ่งนี้เข้าไป ตอนนี้เอาไปขายหลักหมื่นก็คงจะถูกกว้านซื้อหมดแน่ยังไม่พูดเรื่องอื่น นางสกัดออกมาก่อน แล้วให้ท่านปู่กินไปเม็ดหนึ่ง กำลังวังชาของท่านปู่ก็ยังดีขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นสมองที่มึนงงมาตลอดก็ยังตื่นขึ้นได้ฟู่จาวหนิงพอเห็นยาก็ลิงโลด ร้อนรนจนอดไม่อยู่ นางจึงแช่ตัวอยู่แต่ในห้องเภสัชไม่ยอมออกมาแล้ว
เสี่ยวเถาหลังจากฟังคำพูดพวกเขาก็ตึงเครียดจนไม่ไหวแล้ว"ท่านอ๋องทำไมจึงทำเช่นนี้?"นางกังวลมาก ท่านอ๋องถ้าไปอยู่กับคุณหนูคนอื่น แล้วคุณหนูของบ้านนางจะทำอย่างไรกัน?พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นานเองแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะอยากให้พวกเขาหย่ากัน แต่นางรู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูก็ดูเหมาะสมกันดี หลังจากนี้บางทีพวกเขาอาจจะพบว่าเรื่องในอดีตเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้แล้วหรือ?จะว่าไป อ๋องเจวี้ยนก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับการหย่าอีก ด้วยตัวตนฐานะของเขา ถ้าคุณหนูกับเขาไปกันไม่ได้จริงๆ จะต้องถูกอ๋องเจวี้ยนไล่ออกไปแน่นอน!หญิงสาวที่ถูกสามีไล่ออกมา หลังจากนี้จะน่าเวทนามาก คุณหนูจะอยู่ต่อไปอย่างไรกันล่ะ!เสี่ยวเถาแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วประตูมีเสียงเอี๊ยดเปิดขึ้น ฟู่จาวหนิงเดินออกมา มองที่นาง และมองที่ซุนกุ้ยซุนกุ้ยรีบเข้ามาขอโทษขอโพย"พระชายาอ๋องเจวี้ยนโปรดระงับความโกรธด้วย ข้าน้อยพลั้งปากไปแล้ว!"เขาทำไมถึงได้หน้ามึนมาพูดเรื่องอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูที่นี่กันนะ จะต้องเป็นเพราะพระชายาดูแล้วแสนดีเกินไปแน่นๆ ทำให้เขารู้สึกว่าสามารถพูดเรื่อยเปื่อยได้"คุณหนู