"บังอาจ!"อ๋องเจวี้ยนตะคอกเสียงขรึม จงเจี้ยนข้างๆ ก็ลงมือแล้วแต่ว่าพวกเขายังอยู่ห่างออกมาค่อนข้างไกล ตอนที่จงเจี้ยนพุ่งออกไป ฟู่จาวหนิงเท้าสลับ จังหวะก้าวเดินแปลกประหลาด ฉากหลบฝ่ามือไห่ฉางจวิ้นไปเรียบร้อยและการหลบครั้งนี้ จงเจี้ยนก็เข้ามาถึงพอดี จงเจี้ยนชักกระบี่ออกจากฝักแล้ว แทงเข้าหาไห่ฉางจวิ้นอย่างไม่ปราณีฟู่จาวหนิงเพิ่งยืนมั่นคง ซือถูไป๋ก็มาถึงข้างตัวนางแล้ว ถามขึ้นอย่างกังวล "ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?""ไม่เป็นไร"ฟู่จาวหนิงรู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงกวาดเข้ามา พอมองออกไป รู้สึกว่าเซียวหลันยวนกำลังมองขรึมหานาง"โรงหมอเมตตากับพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกท่านจัดพิธีนี้ขึ้น แล้วอนุญาตให้มีคนมาทำตัวมาดร้ายในนี้ได้ด้วยหรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยกับหมอเทวดาหลี่กับผู้อาวุโสจี้เสียงขรึม"แน่นอนว่าไม่อนุญาต! มีเหตผลเช่นนี้เสียที่ไหนกัน! แพ้แล้วไม่ยอมรับหรือ?" ผู้อาวุโสจี้กระทืบเท้าร้องขึ้น "องครักษ์!"พันธมิตรโอสถใต้หล้าเองก็มีองครักษ์อยู่ด้วย มีคนหลายคนพุ่งเข้ามาทันที"หยุดมือ!" ผู้ดูแลเจียงเองก็โมโหแล้ว โบกมือเป็นสัญญาณให้องครักษ์ออกไปไห่ฉางจวิ้นไม่สนใจพวกเขาเลย วิทยายุทธ์ของนางอยู่เหนือ
"เจ้าจงใจยั่วโมโหนางหรือ?""นี่เป็นสิ่งที่คนทั้งหมดล้วนได้ยินมา คุณหนูฟู่ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?" หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะ จากนั้นมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ผู้อาวุโสจี้ เจ้าจะช่วยคนรู้จักโดยไม่สนเหตุผลเพราะฟู่จาวหนิงเป็นศิษย์ของเจ้าไม่ได้หรอกนะ"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามา เดินมาอยู่ข้างๆฟู่จาวหนิง คว้ามือของนางไว้ ถามขึ้นเสียงเย็นชา "ใครกันแน่ที่ยั่วโมโหใครก่อน? ไห่ฉางจวิ้นพอเจอหน้ากันก็คิดจะแย่งสามีพระชายาอ๋องเจวี้ยนของข้า นี่มันแค่การยั่วโมโหเสียที่ไหน? นี่มันเป็นการหยามหมิ่นไม่ใช่หรือ?"หา?ฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักออกมาแล้วนางไม่คิดเลยว่าเซียวหลันยวนจะเดินเข้ามาพูดประโยคนี้"ดังนั้น พระชายาของข้าก็แค่พูดอะไรที่น่าโมโหสักคำสองคำแล้วเป็นอะไรไป?" อ๋องเจวี้ยนเสียงขรึม สายตาที่มองไห่ฉางจวิ้นมีจิตสังหารอยู่ด้วยแต่ว่าจิตสังหารนี้กลับมีแค่ไห่ฉางจวิ้นที่มองออก ในใจนางตื่นเต้นขึ้นมา"พูดอีกก็ถูกนะ เมื่อครู่ข้าฟังคำพูดของไห่ฉางจวิ้น ไม่ใช่แค่อ๋องเจวี้ยนนะ นางยังอยากจะได้คุณชายซือถูอีกด้วย หน้าไม่อายเสียจริง!""ตอนที่ข้าได้ยินก็ตกใจแทบแย่"คนรอบๆ ล้วนเริ่มซุบซิบนินทาขึ้นมาแล้วไห่ฉางจวิ้นเดิมท
ไม่มีคนกล้ารับไม่มีใครกล้าขึ้นมาหมอเทวดาหลี่มองทางนี้มองทางนั้น จากนั้นก็ส่งสายตากับศิษย์ที่ตนเองภาคภูมิใจ แต่ว่าศิษย์ก็ส่ายหัวอย่างดูไม่ได้ เขายอมรับว่ามองออกได้ไม่มากขนาดนั้นตัวเขาเองก็มองออกขนาดนั้นไม่ได้!หมอเทวดาหลี่ยังดิ้นรนกระเสือกกระสนต่อ "เป็นชื่อยาที่เจ้าแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า""มา ข้าอธิบายคุณสมบัติยาให้ท่านฟังได้ทีละอย่างทีละอย่างเลย" ฟู่จาวหนิงเอียงหัวยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อมาว่า "แต่ว่าถือดีอะไร?"เขาไม่ใช่เจ้าของทั้งพิธีเดิมพันโอสถเสียหน่อยผู้ดูแลเจียงมองหมอเทวดาหลี่ รู้สึกว่าเขาทำลายหน้าตาโรงหมอเมตตาเสียจนป่นปี้ไปแล้วผู้อาวุโสจี้เองก็ร้องเชอะอย่างโกรธเคือง "มาๆๆ ถ้ามีฝีมือเจ้าให้ซือถูไป๋ไปดูด้วยก็ได้ ไม่ต้องวัตถุดิบยาทั้งหมดหรอก เขามองออกสักสามสี่อย่างก็พอแล้ว เจ้าเด็กน้อยซือถู เจ้าลองว่ามา เมื่อครู่ที่ศิษย์ของข้าพูดชื่อยามาเหล่านั้นใช่แต่งขึ้นมาเองไหม?"ซือถูไป๋ส่ายหัว"ไม่ใช่ วัตถุดิบยามากขนาดนี้ ข้าเองก็มองออกแค่เจ็ดอย่าง และเจ็ดอย่างนี้ คุณหนูฟู่ก็พูดออกมาถูกต้อง"ผู้อาวุโสจี้มองหมอเทวดาหลี่ "ได้ยินแล้วหรือยัง? เจ้าหนูซือถูเป็นศัตรูคู่แค้นกับพันธมิตรโอส
ที่แท้เขาก็กลัวว่านางจะทำเขาขายหน้าเท่านั้นหรือ?ชิงอีตามอยู่ด้านหลังพอได้ยินก็อยากจะถอนหายใจออกมาเสียจริงท่านอ๋อง ตอนที่พระชายาเอาชนะไห่ฉางจวิ้นเมื่อครู่ ข้าน้อยก็เห็นว่ามุมปากของท่านแทบจะฉีกยิ้มขึ้นฟ้าอยู่แล้ว ตอนที่พระชายาบอกชื่อวัตถุดิบยาออกมาเก้าชนิด สายตาของท่านใต้หน้ากากนั่นเปล่งแสงแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาพูดจาเย็นชาใส่พระชายากันล่ะ?"เฮอะ ในเมื่อท่านอ๋องกังวลที่จะถูกข้าทำให้ขายหน้าขนาดนี้ เช่นนั้นก็พิจารณาเรื่องหย่าเสียหน่อยไหม?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"หย่า? ข้าก็แค่ไม่ต้องการภรรยาแล้วเท่านั้น ไม่ได้คิดจะหย่าเสียหน่อย"พอได้ยินว่านางเอาคำว่าหย่ามาแขวนไว้ข้างปาก น้ำเสียงของอ๋องเจวี้ยนก็ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก"เช่นนั้นข้าไม่ต้องการท่านแค่นี้ก็ได้" ฟู่จาวหนิงปะทะกลับเข้ามา"แล้วเจ้าถือดีอย่างไรถึงจะไม่ต้องการสามีได้?"ฟู่จาวหนิงรีบเดินออกไป ขี้เกียจจะพล่ามไร้ประโยชน์กับเขาแล้วพูดดีดีกับเซียวหลันยวนไม่ได้เอาเสียเลย!อ๋องเจวี้ยนมองแผ่นหลังนาง เดินตามนางอย่างไม่เร่งไปช้าไป"ตอนนี้ผู้นำตระกูลหลายคนอยู่ระหว่างทางมาเมืองหลวงแล้ว ตอนที่พวกเขามอบสิ่งยืนยันเจ้ายังต้องอยู่ด้วย
เซียวหลันยวนต่อต้านไม่ได้จริงๆสูบเลือด? พอได้ยินก็รู้สึกว่าน่ากลัว เพราะเขานั้นไม่ดีามาตั้งแต่ในครรภ์แล้ว หลายปีมานี้ร่างกายก็อ่อนแอมาตลอด เลือดลมไม่เพียงพอครั้งนั้นหลังจากบาดเจ็บติดพิษมาเลือดลมทั้งสองอย่างก็พังลงจนแทบจะใช้ชีวิตต่อไม่ไหว หลังจากนั้นเลือดทุกหยดบนตัวเขาก็ล้ำค่าอย่างมากทุกครั้งที่ไอจนเลอืดออกก็แทบจะทำให้คนข้างๆ ตกใจแทบแย่ตอนนี้ฟู่จาวหนิงจะสูบเลือดของเขาออกมาหรือชิงอีเองก็กังวลขึ้นมา "พระชายา ต้องสูบเลือดออกมาแค่ไหน?""อืม ก็น่าจะซักเจ็ดถึงแปดส่วนของแก้วใบนั้นกระมัง" ฟู่จาวหนิงตัดสินใจจะสูบออกมาสักหกหลอดพิษของเซียวหลันยวนแปลกประหลาดเหลือเกิน นางยังไม่รู้ว่าพิษอะไรกันแน่ที่ทำให้ตอนที่เขาอาการกำเริบแล้วจะเย็นไปทั้งตัวจนเหมือนคนตายเช่นนี้ต่อให้ไม่ใช่เพื่อรักษาเขา นางก็ยังรู้สึกสนใจต่อพิษชนินี้มาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องค้นคว้าออกมาให้ได้ว่ามันคืออะไร"มากขนาดนั้นเลยหรือ?!" ชิงอีมองถ้วยชาใบนั้น ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า..." เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง "เจ้าคิดจะล้างแค้นหรือ?"ปกติเขาไอเป็นเลือดหนึ่งครั้งร่างกายก็อ่อนแอลงมามาก ตอนนี้นางกลับจะสูบเลือดมากขนาดนั้นเชี
ฟู่จาวหนิงพอมองเห็นสีหน้าเขาก็ยิ้มประชดขึ้นมา "ทำไม ไม่กล้าเชื่อใจข้าหรือ?"ชิงอี รีบหมุนตัวออกไป "ไม่ใช่! ข้าน้อยจะออกไปเดี๋ยวนี้"ถ้าเผื่อพระชายาไม่รักษาให้ท่านอ๋องคงยุ่งยากแน่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังหาหมอที่เก่งกาจกว่าไม่ได้ ท่านอ๋องทำได้แค่พึ่งพาพระชายาเสียแล้วชิงอีออกประตูไป ปิดประตูลง ส่วนตนเองคุ้มกันอยู่ที่หน้าประตูฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงเพิ่งล้วงเอาเข็มฉีดยาออกมาจากในห้องเภสัช สูบเลือดออกมาหกหลอดเต็มอย่างไม่เกรงใจ พอสูบเลือดออกมาไม่ทันไรก็เห็นสีหน้าเซียวหลันยวนขาวซีดกว่าเดิมตอนที่นางใช้สำลีห้ามเลือดกดลงไปโดนผิวหนังของเขา ก็เย็นเฉียบเสียจนนางสั่นขึ้นมา"เซียวหลันยวนเจ้าตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งรูปคนไปแล้วหรือ!"นางเองก็รู้สึกว่าประหลาดมาก ทำไมจึงได้เย็นขนาดนี้กัน?มองร่างกายของเขาสั่นระริก นางก็ขมวดคิ้วขึ้น เก็บของเข้าไปในห้องเภสัช หลังจากนั้นจึงเรียกชิงอีกเข้ามา"จุดถ่านไหมเงินขึ้นมาอีกสักหน่อยเถอะ เพิ่มผ้าห่มให้เขาอีกหน่อยด้วย" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ขอรับ"ชิงอีรีบเรียกคนเข้ามาจุดถ่านจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเองก็ได้ยินเรื่องที่เรือนหลักจะจุดถ่าน ก็รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนพาฟู่จาวหนิงก
ชิงอีเดินเข้ามาแล้ว พอเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกอย่างกับอยู่ในสนามรบแต่เพื่อให้ท่านอ๋องดีขึ้น ตอนนี้ทิ้งไป๋ซวงไว้ที่นี่คอยปรนนิบัติก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง"พระชายา ไป๋ซวงบอกว่าท่านอ๋องเวลานี้ห้ามห่มผ้าห่มหลายชั้น เขาจะหายใจไม่ออกเอา"ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา"เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่ที่นี่ปรนนิบัติแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเตรียมลุกออกไปตอนนี้เองเซียวหลันยวนก็ฟื้นขึ้นมา ยื่นมือคว้าฟู่จาวหนิงไว้ จับมือนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงถูกมือเย็นเฉียบของเขาจับจนสะดุ้งโหยง คิดจะสะบัดมือเขาออก แต่ว่าเขาก็กำเอาไว้แน่น"ห้ามไป"เซียวหลันยวนแม้จะตื่นแล้ว แต่แค่ลืมตาเล็กน้อยก็หมดแรงจนต้องปิดลงไปอีก"ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่ที่นี่ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าน้อยจะรับใช้ท่านอย่างดี"ไป๋ซวงเห็นเซียวหลันยวนกำมือฟู่จาวหนิงไม่ปล่อย ในใจก็ริษยาเหลือแสนก่อนหน้านี้แม้ว่านางจะคอยปรนนิบัติท่านอ๋อง แต่อย่างมากก็แค่ตอนที่ท่านอ๋องไม่อยู่บนเตียงนางคอยช่วยจัดปูผ้าห่มแทนเขาให้เท่านั้น ไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้เลยแต่ก่อนเวลาที่ท่านอ๋องอาการกำเริบไม่เคยอนุญาตให้พวกนางเข้าใกล้ กระทั่งพอพวกนางปูเตียงให้เสร็จก็ให้พวกนางออกไปทัน
เซียวหลันยวนกอดนางไว้แน่น"ทำไมเจ้าถึงได้อุ่นขนาดนี้?" เสียงของเขาดึงทุ้มต่ำที่ข้างหูนางกอดนางไว้ ดีกว่าผ้าห่มเป็นไหนๆเขากอดนางไว้แน่น ผ่อนลมหายใจออกช้าๆฟู่จาวหนิงจู่ๆ กลับคิดเรื่องหนึ่งออก น่าจะห้าหกปีที่แล้ว นางเข้าไปหายาในภูเขา หลงเข้าไปอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ถูกขังอยู่ในนั้นสามวันในถ้ำมีภูเขามีถ้ำหินที่มีน้ำหยดอยู่แห่งหนึ่ง หินก้อนหนึ่งถูกหยดเซาะจนกลายเป็นภาชนะเหมือนชามใบหนึ่ง ใส่น้ำเอาไว้จนเต็มชามนางตอนนั้นอาศัยชามหินนั่นบรรจุน้ำ และสามวันนั่นก็ดื่มน้ำนั้น หลังจากออกมา ร่างกายกลับไม่มีอะไรผิดปกติ แถมยังกระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นร้อยเท่าเลยด้วยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา อาการกลัวหนาวตอนที่ฤดูหนาวมาถึงแต่เดิมก็หายไปแล้ว ตอนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ อีกแล้วตอนนี้เซียวหลันยวนรู้สึกว่านางอุ่น จะเกี่ยวกับสิ่งนั้นหรือเปล่านะ?น้ำที่นางดื่มไปในครั้งนั้น จะสามารถระงับพิษอาการกำเริบหนาวเหย็นของเขาได้ไหม?นั่นแม้จะเป็นความทรงจำของคุณหนูฟู่ แต่นางก็ยัจำได้ว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ใด"เซียวหลันยวน ข้าจู่ๆ ก็คิดถึงสถานที่หนึ่งที่มีน้ำแร่ภูเขาหยดลงมาออ