ชิงอีเดินเข้ามาแล้ว พอเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกอย่างกับอยู่ในสนามรบแต่เพื่อให้ท่านอ๋องดีขึ้น ตอนนี้ทิ้งไป๋ซวงไว้ที่นี่คอยปรนนิบัติก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง"พระชายา ไป๋ซวงบอกว่าท่านอ๋องเวลานี้ห้ามห่มผ้าห่มหลายชั้น เขาจะหายใจไม่ออกเอา"ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา"เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่ที่นี่ปรนนิบัติแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเตรียมลุกออกไปตอนนี้เองเซียวหลันยวนก็ฟื้นขึ้นมา ยื่นมือคว้าฟู่จาวหนิงไว้ จับมือนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงถูกมือเย็นเฉียบของเขาจับจนสะดุ้งโหยง คิดจะสะบัดมือเขาออก แต่ว่าเขาก็กำเอาไว้แน่น"ห้ามไป"เซียวหลันยวนแม้จะตื่นแล้ว แต่แค่ลืมตาเล็กน้อยก็หมดแรงจนต้องปิดลงไปอีก"ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่ที่นี่ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าน้อยจะรับใช้ท่านอย่างดี"ไป๋ซวงเห็นเซียวหลันยวนกำมือฟู่จาวหนิงไม่ปล่อย ในใจก็ริษยาเหลือแสนก่อนหน้านี้แม้ว่านางจะคอยปรนนิบัติท่านอ๋อง แต่อย่างมากก็แค่ตอนที่ท่านอ๋องไม่อยู่บนเตียงนางคอยช่วยจัดปูผ้าห่มแทนเขาให้เท่านั้น ไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้เลยแต่ก่อนเวลาที่ท่านอ๋องอาการกำเริบไม่เคยอนุญาตให้พวกนางเข้าใกล้ กระทั่งพอพวกนางปูเตียงให้เสร็จก็ให้พวกนางออกไปทัน
เซียวหลันยวนกอดนางไว้แน่น"ทำไมเจ้าถึงได้อุ่นขนาดนี้?" เสียงของเขาดึงทุ้มต่ำที่ข้างหูนางกอดนางไว้ ดีกว่าผ้าห่มเป็นไหนๆเขากอดนางไว้แน่น ผ่อนลมหายใจออกช้าๆฟู่จาวหนิงจู่ๆ กลับคิดเรื่องหนึ่งออก น่าจะห้าหกปีที่แล้ว นางเข้าไปหายาในภูเขา หลงเข้าไปอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ถูกขังอยู่ในนั้นสามวันในถ้ำมีภูเขามีถ้ำหินที่มีน้ำหยดอยู่แห่งหนึ่ง หินก้อนหนึ่งถูกหยดเซาะจนกลายเป็นภาชนะเหมือนชามใบหนึ่ง ใส่น้ำเอาไว้จนเต็มชามนางตอนนั้นอาศัยชามหินนั่นบรรจุน้ำ และสามวันนั่นก็ดื่มน้ำนั้น หลังจากออกมา ร่างกายกลับไม่มีอะไรผิดปกติ แถมยังกระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นร้อยเท่าเลยด้วยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา อาการกลัวหนาวตอนที่ฤดูหนาวมาถึงแต่เดิมก็หายไปแล้ว ตอนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ อีกแล้วตอนนี้เซียวหลันยวนรู้สึกว่านางอุ่น จะเกี่ยวกับสิ่งนั้นหรือเปล่านะ?น้ำที่นางดื่มไปในครั้งนั้น จะสามารถระงับพิษอาการกำเริบหนาวเหย็นของเขาได้ไหม?นั่นแม้จะเป็นความทรงจำของคุณหนูฟู่ แต่นางก็ยัจำได้ว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ใด"เซียวหลันยวน ข้าจู่ๆ ก็คิดถึงสถานที่หนึ่งที่มีน้ำแร่ภูเขาหยดลงมาออ
ฟู่จาวหนิงหลังจากตื่นขึ้นมาก็ทุบหัวตัวเองอย่างอดไม่อยู่นางต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!อยู่ดีดีทำไมถึงไปนอนอยู่กับเจ้าก้อนน้ำแข็งนั่นกัน?ยิ่งไปกว่านั้นยังหลับไปตั้งชั่วยามกว่า!นางเดิมทีตอนที่ตื่นมาเซียวหลันยวนยังไม่ตื่น แต่ว่าหลับสนิทมาก จึงไม่ได้กอดนางไว้แน่นมากแล้ว ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตอนนี้พอเผชิญหน้ากับเขารู้สึกขายหน้าหน่อยๆ ก้าวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา จัดระเบียบเสื้อผ้าตนเอง หันหน้ากลับมามองเขาผาดหนึ่ง""ผู้ชายน่าเกลียดตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติแล้วหรือ?" นางขบเขี้ยวเคีั้ยวฟันเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วในเมื่อเขาไม่เป็นไรแล้ว นางก็รีบหนีดีกว่าฟู่จาวหนิงรีบหนีออกมาเสี่ยวเถารอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้วนางมาจวนอ๋องเจวี้ยนเป็นครั้งแรก รู้สึกแค่ว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเสียเลย หงจั๋วพานางมาที่เรือนเจียนเจีย นางเห็นว่าคุณหนูอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนกลับต้องมาพักอยู่ในเรือนแบบนี้ ไม่ใช่การสิ่งที่พระชายาต้องได้รับเลย ในใจตุ้มต่อมอย่างมากแต่หลังจากหงจั๋วกลับมาก็ยิ้มตาหยีบอกกับนางว่า ท่านอ๋องกับพระชายาเหนื่อยจนพักผ่อนไปแล้ว ทำให้นางรออย่างวางใจ แล้วนางจะวางใจลงได้อย่างไรกัน?"พระชายา"
ฟู่จาวหนิงแม้จะรู้ว่าเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ธรรมดา เป็นของจากในวังแน่นอน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนักหนาขนาดนี้แต่นางไม่ได้กลับมาไถ่ของคืนนี้ แล้วเป็นใครกัน?ถ้าเซียวหลันยวนถึงตอนนั้นทวงนางกลับ นางจะเอาของสองชิ้นนั้นจากไหนมาคืนเขากันล่ะ?ฟู๋จาวหนิงกลับมาบ้าน แต่กลับมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนมาแล้วหรือ?นางรีบเดินออกไป ฟู่รั่วเสวี่ยกับหลินอี๋เจินกลับอยู่ข้างรถม้าสองคนนี้ทำไมจึงมาอยู่ด้วยกัน?"จาวหนิง!""ท่านพี่"ทั้งสองคนมองฟู่จาวหนิงเข้ามา ก็ล้วนรีบทักทายนาง และแอบมองรถม้าไปด้วย"พี่เขยมาหาเจ้าน่ะ" หลินอี๋เจินพูดขึ้นฟู่จาวหนิงไม่สนใจพวกนาง มองไปทางรถม้าเซียวหลันยวนเลิกม่านรถม้า"ข้ามาส่งเงินให้น่ะ""ส่งเงิน? ส่งเงินอะไร?" เซียวรั่วเสวี่ยประหลาดใจฟู่จาวหนิงพอเห็นสีหน้าเซ๊ยวหลันยวนก็รู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง เขาต้องไม่พูดอะไรดีดีออกมาแน่!"ท่านอย่าบอกนะว่า..."นางยังพูดไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ยิ้มขึ้นมา ยื่นแท่งเงินสองก้อนออกมา เอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน "วันก่อนที่เจ้านอนอยู่กับข้า ข้ารับปากว่าจะมอบเงินให้ พอเจ้าตื่นมายังไม่ทันได้เงินก็ออกมาเสียแล้ว ข้าเลยเดินมาทาง
เซียวหลันยวนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ไม่ได้ตอบคำถามของชิงอีเพราะอะไรกัน?เพราะหลังจากวันนั้นที่ตื่นขึ้นมา เขารู้สึกตกตะลึงกับตนเองขึ้นมาหลายปีนี้เขาคอยค้นหาสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อมาโดยตลอด และมองพวกเขาเป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตของตนเอง ต่อให้พิษจะไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเป็นคนวาง แต่นางก็อาจจะเป็นคนที่ช่วยคนร้ายหรือบางที แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับนาง แต่ตอนนั้นนางจะต้องรู้อะไรแน่ แต่นางก็ไม่ได้เรียกใครและไม่ได้หยุด ยังคงให้เขาวางยามา ดังนั้นจึงหนีจากความรับผิดชอบไม่พ้นฟุ่จาวหนิงเป็นลูกสาวของพวกเขาเป้าหมายที่เขารับปากแต่งงานกับนางก็เพื่อระบายความโกรธ และเพือ่รอให้ฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วทำร้ายจิตใจพวกเขายิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงกลายเป็นภรรยาของเขา ตัวตนฐานะนี้พอถึงเวลาก็จะมาจำกัดสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินเอาไว้ พวกเขาก็เหมือนมีจุดอ่อนอยู่บนมือเขา คิดจะบีบถามมเรื่องในอดีตก็สะดวกขึ้นเยอะสิ่งที่เขาต้องการคือควบคุมฟู่จาวหนิงให้อยู่ตอนนี้เพราะอะไรทิศทางของเรื่องราวจึงดูไม่ค่อยถูกต้องเสียแล้ว?เขาเป็นคนที่ไม่ชอบให้หญิงสาวมาอยู่ข้างๆ แต่กลับกอดฟู่จาวหนิงหลับไปถึงหนึ่งชั่วยาม!ยิ่งไปกว่านั้น ก
"ท่านพี่ ท่านอยากรู้ข่าวคราวของท่านป้าข้าไหม? มีคนส่งจดหมายมายังบ้านตระกูลหลิน บอกถึงข่าวคราวของท่านป้า!"ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังนึกไม่ทันว่าป้าที่นางพูดถึงคือใคร รอจนตอนที่หลินอี๋เจินคาดหวังคำตอบของนาง นางจึงคิดออกขึ้นมาป้าของหลินอี๋เจิน ก็คือฟู่หลินซื่อมารดาของนางนั่นเองฟู่หลินซื่อยังไม่ตายหรอกหรือ?"ทำไม ให้ข้าเดา เจ้าคิดเอาข่าวนี้มาพูดเงื่อนไขกับข้าสินะ" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว มองนางออกหมด"ในเมื่อท่านพี่เดาได้แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปิดบังท่านแล้ว" หลินอี๋เจินยิ้มขึ้นมา "ถูกต้อง ขอแค่ท่านรับปากข้าเรื่องเดียว ข้าจะนำเรื่องของท่านป้าบอกกับท่าน!"นางไม่เชื่อ ว่าจะมีคนไม่อยากรู้ชะตากรรมของคนในครอบครัวฟู่จาวหนิงหลายปีมานี้ไม่มีพ่อแม่มาโดยตลอด ถูกคนของบ้านสองบ้านสามของบ้านตระกูลรังแกจนน่าเวทนา ไม่แน่ว่าทุกวันตอนกลางคืนอาจจะแอบร้องไห้อยู่ในผ้าห่มก็เป็นได้พอมีข่าวคราวของมาร ก็เป็นไปได้ว่าจะรู้ถึงชะตากรรมของบิดาด้วย"เจ้าอยากจะให้ข้ารับปากเรื่องอะไร?" ฟู่จาวหนิงถาม"ให้ข้าพักในบ้านตระกูลฟู่ หลังจากนี้หากท่านกลับจวนอ๋องเจวี้ยนก็พาข้าไปด้วย อ๋องเจวี้ยนให้ท่านออกไปไหนก็พาข้าไปด้วย แล้วก็
มือปราบเจียงเองก็ไม่รู้ว่า "ท่านหมอหนิง" คนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฟู่แต่วหลังจากที่หลายวันนี้เขาสืบเรื่องของตระกูลฟู่ มือปราบเจียงก็รู้สึกว่าคนในตระกูลฟู่พวกนั้นไม่ได้เรื่องเลย นี่มันนกพิราบครองรังนกกางเขนชัดๆ!บ้านตระกูลฟู่เป็นของท่านผู้เฒ่าฟู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พวกเขากลับจะขายบ้านตระกูลฟู่ทิ้งเสียอย่างนั้นถ้าบ้านตระกูลฟู่ถูกขายทิ้ง แล้วผู้เฒ่าฟู่จะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ?ตอนนี้มีคนมาช่วยดูแลเรื่องนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท่านหมอหนิงยังรักษาอาการป่วยของลูกสาวเขาอีก มือปราบเจียงจึงยินดีช่วยเหลือธุระนี้คุณชายใหญ่ฟู่ก็คือฟู่จิ้นเชินตอนนั้นฟู่จิ้นเชินเองก็เป็นอัจฉริยะที่เลื่องชื่อในเมืองหลวงแคว้นเจา นอกจากพรสวรรค์ด้านโคลงกลอนแล้ว ยังใช้กระบี่ล่าสัตว์ ยิงธนูได้อีกด้วย หลังจากมีชื่อเสียงช่วงหนึ่งยังสามารถเข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวังได้ด้วยคนทั้งหมดล้วนคิดว่าเส้นทางอนาคตของเขาก้าวไปได้อีกไกล ใครจะรู้ว่าครั้งนั้นพอเข้าวังก็เกิดเรื่องมีคนไม่น้อยพอพูดถึงฟู่จิ้นเชินขึ้นมาก็รู้สึกว่าน่าเสียดายต่มาพอเห็นฟู่จาวหนิงโง่ขนาดนั้น เรียนรู้อะไรไม่ได้เลย ทั้งวันเอาแต่ไล่ตามรัฐทายาทเซียว ผู้คนเองก็ยิ่งด
"พอมีความคิดนี้ พวกเขาถ้าไม่ได้โลภขนาดนี้ บ้านตระกูลฟู่คงจะถูกขายไปแล้ว""เช่นนั้นพวกเขามีโฉนดบ้านของบ้านตระกูลฟู่หรือ?""นั่นข้ายังไม่เห็น แต่ว่าข่าวจากผู้เฒ่าสองทางนั้นบอกออกมาว่าไม่มีปัญหา"สิ่งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้มาอย่างไร"มือปราบเจียง ใบยืมหนี้นี้"มือปราบเจียงรีบพูดเถอะ "ท่านหมอหนิง ใบยืมหนี้ครั้งนี้ไม่ได้มอบให้ท่าน ข้านำออกมาจากท่านอาจารย์ของข้าทางนั้น อีกเดี๋ยวต้องนำกลับไปแล้ว ท่านอาจารย์ยังต้องคืนให้แก่คนของบ้านตระกูลฟู่พวกนั้น"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สร้างความลำบากใจให้เขาที่แอบนำใบยืมหนี้มาให้นางดู ก็ถือว่ามีคุณธรรมน้ำมิตรมากแล้วยิ่งไปกว่านั้นมือปราบเจียงเองเองก็ช่วยนางตรวจสอบเรื่องที่คนพวกนั้นเตรียมจะขายบ้านตระกูลฟู่อย่างไรนางคืนใบยืมหนี้ให้กับมือปราบเจียง หลังจากกลับถึงก็ไปหาลุงจง"ลุงจง วันที่ข้าแต่งงาน ในกล่องสินสอดที่ท่านปู่มอบให้ข้า มีโฉนดบ้านตระกูลฟู่อยู่ด้วยใช่ไหม?"ลุงจงยังไม่รู้ว่ากล่องสินสอดของฟู่จาวหนิงหายไป พอได้ยินนางถามก็รู้สึกประหลาดใจมาก"ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่โฉนดบ้านนะ ยังมีร้านสองร้านกับเครื่องประดับอีกหลายชุดที่ฮูหยินเหลือไว้ให้ ท่านผู้เฒ่าใ