Share

บทที่ 206

Penulis: จุ้ยหลิงซู
เซียวหลันยวนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ไม่ได้ตอบคำถามของชิงอี

เพราะอะไรกัน?

เพราะหลังจากวันนั้นที่ตื่นขึ้นมา เขารู้สึกตกตะลึงกับตนเองขึ้นมา

หลายปีนี้เขาคอยค้นหาสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อมาโดยตลอด และมองพวกเขาเป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตของตนเอง ต่อให้พิษจะไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเป็นคนวาง แต่นางก็อาจจะเป็นคนที่ช่วยคนร้าย

หรือบางที แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับนาง แต่ตอนนั้นนางจะต้องรู้อะไรแน่ แต่นางก็ไม่ได้เรียกใครและไม่ได้หยุด ยังคงให้เขาวางยามา ดังนั้นจึงหนีจากความรับผิดชอบไม่พ้น

ฟุ่จาวหนิงเป็นลูกสาวของพวกเขา

เป้าหมายที่เขารับปากแต่งงานกับนางก็เพื่อระบายความโกรธ และเพือ่รอให้ฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วทำร้ายจิตใจพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงกลายเป็นภรรยาของเขา ตัวตนฐานะนี้พอถึงเวลาก็จะมาจำกัดสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินเอาไว้ พวกเขาก็เหมือนมีจุดอ่อนอยู่บนมือเขา คิดจะบีบถามมเรื่องในอดีตก็สะดวกขึ้นเยอะ

สิ่งที่เขาต้องการคือควบคุมฟู่จาวหนิงให้อยู่

ตอนนี้เพราะอะไรทิศทางของเรื่องราวจึงดูไม่ค่อยถูกต้องเสียแล้ว?

เขาเป็นคนที่ไม่ชอบให้หญิงสาวมาอยู่ข้างๆ แต่กลับกอดฟู่จาวหนิงหลับไปถึงหนึ่งชั่วยาม!

ยิ่งไปกว่านั้น ก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 207

    "ท่านพี่ ท่านอยากรู้ข่าวคราวของท่านป้าข้าไหม? มีคนส่งจดหมายมายังบ้านตระกูลหลิน บอกถึงข่าวคราวของท่านป้า!"ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังนึกไม่ทันว่าป้าที่นางพูดถึงคือใคร รอจนตอนที่หลินอี๋เจินคาดหวังคำตอบของนาง นางจึงคิดออกขึ้นมาป้าของหลินอี๋เจิน ก็คือฟู่หลินซื่อมารดาของนางนั่นเองฟู่หลินซื่อยังไม่ตายหรอกหรือ?"ทำไม ให้ข้าเดา เจ้าคิดเอาข่าวนี้มาพูดเงื่อนไขกับข้าสินะ" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว มองนางออกหมด"ในเมื่อท่านพี่เดาได้แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปิดบังท่านแล้ว" หลินอี๋เจินยิ้มขึ้นมา "ถูกต้อง ขอแค่ท่านรับปากข้าเรื่องเดียว ข้าจะนำเรื่องของท่านป้าบอกกับท่าน!"นางไม่เชื่อ ว่าจะมีคนไม่อยากรู้ชะตากรรมของคนในครอบครัวฟู่จาวหนิงหลายปีมานี้ไม่มีพ่อแม่มาโดยตลอด ถูกคนของบ้านสองบ้านสามของบ้านตระกูลรังแกจนน่าเวทนา ไม่แน่ว่าทุกวันตอนกลางคืนอาจจะแอบร้องไห้อยู่ในผ้าห่มก็เป็นได้พอมีข่าวคราวของมาร ก็เป็นไปได้ว่าจะรู้ถึงชะตากรรมของบิดาด้วย"เจ้าอยากจะให้ข้ารับปากเรื่องอะไร?" ฟู่จาวหนิงถาม"ให้ข้าพักในบ้านตระกูลฟู่ หลังจากนี้หากท่านกลับจวนอ๋องเจวี้ยนก็พาข้าไปด้วย อ๋องเจวี้ยนให้ท่านออกไปไหนก็พาข้าไปด้วย แล้วก็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 208

    มือปราบเจียงเองก็ไม่รู้ว่า "ท่านหมอหนิง" คนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฟู่แต่วหลังจากที่หลายวันนี้เขาสืบเรื่องของตระกูลฟู่ มือปราบเจียงก็รู้สึกว่าคนในตระกูลฟู่พวกนั้นไม่ได้เรื่องเลย นี่มันนกพิราบครองรังนกกางเขนชัดๆ!บ้านตระกูลฟู่เป็นของท่านผู้เฒ่าฟู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พวกเขากลับจะขายบ้านตระกูลฟู่ทิ้งเสียอย่างนั้นถ้าบ้านตระกูลฟู่ถูกขายทิ้ง แล้วผู้เฒ่าฟู่จะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ?ตอนนี้มีคนมาช่วยดูแลเรื่องนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท่านหมอหนิงยังรักษาอาการป่วยของลูกสาวเขาอีก มือปราบเจียงจึงยินดีช่วยเหลือธุระนี้คุณชายใหญ่ฟู่ก็คือฟู่จิ้นเชินตอนนั้นฟู่จิ้นเชินเองก็เป็นอัจฉริยะที่เลื่องชื่อในเมืองหลวงแคว้นเจา นอกจากพรสวรรค์ด้านโคลงกลอนแล้ว ยังใช้กระบี่ล่าสัตว์ ยิงธนูได้อีกด้วย หลังจากมีชื่อเสียงช่วงหนึ่งยังสามารถเข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวังได้ด้วยคนทั้งหมดล้วนคิดว่าเส้นทางอนาคตของเขาก้าวไปได้อีกไกล ใครจะรู้ว่าครั้งนั้นพอเข้าวังก็เกิดเรื่องมีคนไม่น้อยพอพูดถึงฟู่จิ้นเชินขึ้นมาก็รู้สึกว่าน่าเสียดายต่มาพอเห็นฟู่จาวหนิงโง่ขนาดนั้น เรียนรู้อะไรไม่ได้เลย ทั้งวันเอาแต่ไล่ตามรัฐทายาทเซียว ผู้คนเองก็ยิ่งด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 209

    "พอมีความคิดนี้ พวกเขาถ้าไม่ได้โลภขนาดนี้ บ้านตระกูลฟู่คงจะถูกขายไปแล้ว""เช่นนั้นพวกเขามีโฉนดบ้านของบ้านตระกูลฟู่หรือ?""นั่นข้ายังไม่เห็น แต่ว่าข่าวจากผู้เฒ่าสองทางนั้นบอกออกมาว่าไม่มีปัญหา"สิ่งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้มาอย่างไร"มือปราบเจียง ใบยืมหนี้นี้"มือปราบเจียงรีบพูดเถอะ "ท่านหมอหนิง ใบยืมหนี้ครั้งนี้ไม่ได้มอบให้ท่าน ข้านำออกมาจากท่านอาจารย์ของข้าทางนั้น อีกเดี๋ยวต้องนำกลับไปแล้ว ท่านอาจารย์ยังต้องคืนให้แก่คนของบ้านตระกูลฟู่พวกนั้น"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สร้างความลำบากใจให้เขาที่แอบนำใบยืมหนี้มาให้นางดู ก็ถือว่ามีคุณธรรมน้ำมิตรมากแล้วยิ่งไปกว่านั้นมือปราบเจียงเองเองก็ช่วยนางตรวจสอบเรื่องที่คนพวกนั้นเตรียมจะขายบ้านตระกูลฟู่อย่างไรนางคืนใบยืมหนี้ให้กับมือปราบเจียง หลังจากกลับถึงก็ไปหาลุงจง"ลุงจง วันที่ข้าแต่งงาน ในกล่องสินสอดที่ท่านปู่มอบให้ข้า มีโฉนดบ้านตระกูลฟู่อยู่ด้วยใช่ไหม?"ลุงจงยังไม่รู้ว่ากล่องสินสอดของฟู่จาวหนิงหายไป พอได้ยินนางถามก็รู้สึกประหลาดใจมาก"ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่โฉนดบ้านนะ ยังมีร้านสองร้านกับเครื่องประดับอีกหลายชุดที่ฮูหยินเหลือไว้ให้ ท่านผู้เฒ่าใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 210

    ฟู่จาวหนิงทิ้งจงเจี้ยนไว้ที่บ้านตระกูลฟู่ดีกว่าเขาคอยคุ้มกันบ้านตระกูลฟู่ นางถึงจะออกไปได้อย่างวางใจเพราะได้ยินว่าเขาเมฆอรุณอยู่ไกลมาก ต่อให้ไม่โดนทำให้เสียเวลา ไปกลับสักรอบหนึ่งก็ยังต้องใช้เวลาสามสี่วันก่อนที่นางจะออกมาก็ยังฝังเข็มให้กับผู้เฒ่าฟู่อีกรอบหนึ่ง ทิ้งยาเอาไว้ให้อย่างเพียงพอ เสบียงของกินในบ้านก็ตระเตรียมไว้เรียบร้อยป้าจงเองก็กำลังเริ่มเย็บเสื้อผ้าฤดูหนาวขาของหู่จือก็ดีขึ้นมากแล้ว จงเจี้ยนยังช่วงเหลาไม้เท้ามา เขาใช้ไม้ค้ำตนเองลุกขึ้นยืนเดินไปมา อย่างน้อยทุกวันก็ยังมานั่งในห้องท่านผู้เฒ่าเป็นเพื่อนคุยกับเขา และคอยดูแลเขาได้ด้วยผู้เฒ่าฟู่ถามนางว่าจะไปทำอะไร ฟู่จาวหนิงก็พูดตามความจริงแต่ว่า แม้ว่าจะบอกว่าไปเขาเมฆอรุณ แต่นางก็ไม่ได้บอกว่าจะไปหาตัวฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจิน แต่บอกว่าอาจารย์บอกนางว่าเขาเมฆอรุ่นมียาดีอยู่ นางจะไปหาวัตถุดิบยาก่อนหน้าที่ยังไม่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้อะไรเลย มักจะวิ่งแจ้นออกไปขุนยา ตอนนี้ฟู่จาวหนิงที่เฉิดฉายแจ่มจรัสอยู่ในพันธมิตรโอสถใต้หล้าบอกว่าจะไปขุดยา ไม่มีใครสักคนที่ไม่เชื่อฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวเถาไปด้วย เตรียมจะไปตล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 211

    "เจ้านี่เอง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยปากขึ้นก่อน "ที่แท้เจ้าก็ชื่อเฉินซาน"วันนั้นตอนที่ขุดยาที่เขาจันทร์ลับฟ้า พวกนักเลงหัวไม้ที่สาวใช้ซ่งหยวนหลินซื้อตัวขึ้นมาหาเรื่องเขา ที่บอกว่าสังหารนางได้คือดีที่สุด แต่ถ้าสังหารไม่ได้ก็เอาเสื้อในของนางกลับมา คิดจะทำลายชื่อเสียงของนางและคนผู้นี้ก็วิ่งไวเสียเหลือเกินเฮ่าจื่อกับคนเหล่านั้นเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเพิ่งจะรู้ว่านางชื่อเฉินซาน"เรื่องของพวกเฮ่าจื่อข้าไม่รู้เรื่องเลย!"เฉินซานหางตามีรอยช้ำ ที่มุมปากก็มีตุ่มพอง ดูท่าจะซมซานจริงๆ เขาถูกฟู่จาวหนิงบีบมาจนถึงมุมหนึ่งของซอย แล้วรีบร้องขึ้นมาอย่างร้อนรน"ถ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าเจ้ารู้ว่าพวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นสินะ" ฟู่จาวหนิงย้อนถาม"ข้า ข้ารู้แค่ว่าหลังจากวันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาอีก" เฉินซานมองฟู่จาวหนิงอย่างหวาดกลัว "ภายหลังข้าก็ขึ้นเขาไปที่สะพานแขวนเพื่อหาพวกเขาแล้ว พวกเขา"พวกเขาตายไปกันหมดเฉินซานเองตอนนั้นก็กลัวอย่างมากและไม่รู้ว่าวันนั้นหลังจากเขาลงเขาไปเกิดเรื่องอะไรขึ้น เฮ่าจื่อพวกนั้นตายกันไปหมดในภูเขาแล้วแต่ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นนักเลงหัวไม้ คนที่บ้านก็ชินกับการที่พวกเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 212

    ตอนแรกสุด รถม้าก็ขับได้มั่นคงดี แต่ค่อนข้างช้าเฉินซานกลัวมือกลัวเท้าไปหมด ยังผวาฟู่จาวหนิงอยู่อีก กลัวว่าถ้าไม่ระวังจะเอียงจนไปยั่วโมโหนางเข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นคุณหนูของเจ้าบ้านที่พ่อแม่ของเขาเคยทำงานอยู่!ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ถูกขายขาด ตอนที่ตระกูลฟู่ปล่อยคนออกมา ผู้เฒ่าฟู่ก็ให้อิสระแก่พวกเขา ตอนนั้นเขาเหมือนจะเพิ่งสองสามขวบเพียงแต่ต่อมาบิดาของเขาก็ตายไป มารดาของเขาร่างกายก็แย่ลงทุกวัน เขาจึงไม่สนใจไปศึกษาเล่าเรียนหาความสามารถ แต่ไปตะวันออกก็ทำงาน มาตะวันตก็หางานทำ หลังจากมาพบกับพวกเฮ่าจื่อก็ยิ่งแย่หนักลงไปอีกก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงให้เขาขับรถม้ากลับจวนฟู่ รับป้าจงไปบ้านของเขา ป้าจงพอเจอกับมารดาของนาง พี่น้องสองสาวก็จำกันได้ขึ้นมากอดกันกลมร้องห่มร้องไห้ฟู่จาวหนิงคอยสังเกตเฉินซานอยู่ตลอด หลังจากนั้นก็ถามเขาว่าจะขายตัวเข้ามาในจวนตระกูลฟู่ไหมเฉินซานช่วงนี้เพื่อจะซื้อยามารักษาแม่ของเขาก็ติดคนคนอื่นไปไม่น้อย เกือบจะไร้ซึ่งหนทางแล้ว พอนางถาม เขาก็ไม่ลังเลเลย รีบร้อนพยักหน้าตอบรับทันทีหลังจากลงชื่อสัญญาขายตัว เขาก็กลายมาเป็นคนขับรถของฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงยังฝังเข็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 213

    ผู้ตรวจการอันอายุสามสิบกว่าใบหน้าหล่อเหลาสูงโปร่ง เพียงแต่เต็มไปด้วยเศร้าหมองผู้ตรวจการอันครั้งนั้นคือเพื่อนเรียนของอ๋องเจวี้ยน นั่นเป็นตอนช่วงที่อ๋องเจวี้ยนเพิ่งอายุไม่กี่ขวบ ที่บอกว่าเพื่อเรียน อันที่จริงก็เป็นคนที่จักรพรรดิองค์ที่แล้วส่งเข้ามาดูแลอ๋องเจวี้ยนนั่นเองแต่หลังจากที่อ๋องเจวี้ยนไปยังยอดเขาโยวชิงก็ไม่ได้พบอีกเลย ไม่ได้ไปมาหาสู่ครั้งนั้นที่เล่าเรียนด้วยกันก็ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการ"อันเหนียนคารวะอ๋องเจวี้ยน" อันเหนียนพอเห็นอ๋องเจวี้ยนก็ทำการคารวะอย่างเป็นการเป็นงานเขาเองก็พิจารณาอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งก่อนหน้านี้พระโอรสอ่อนแอมาก ตอนนี้ก็เติบโตสูงใหญ่ขึ้นมา ท่วงท่าดูเหนือล้ำ"ไม่ต้องมากพิธี"อ๋องเจวี้ยนส่งสัญญาณให้เขานั่งลง รอจนคนรับใช้นำน้ำชาเข้ามา "ดื่มชาก่อน"อันเหนียนยกชาขึ้นจิบ ตอนที่วางลงก็เอ่ยขึ้นว่า"อ๋องเจวีย้น ข้ารู้ว่าที่บุกมาหาท่านเป็นการรบกวนท่านและไม่เหมาะสม แต่ว่า..."ถ้าเขามีวิธี ก็คงไม่แบกหน้ามาหาอ๋องเจวี้ยนแล้ว"พูดเถอะ มีเรื่องอะไร"อ๋องเจวี้ยนไม่ได้เขากังวลมากเกินไป ถามขึ้นมาตรงๆ"ข้ามีน้องสาวคนหนึ่ง อายุน้อยกว่าข้าสิบกว่าปี ปีนี้เพิ่งอายุ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 214

    "ท่านอ๋อง?"หลังจากทหารถอยออกไป อ๋องเจวี้ยนก็ยังเหม่อไปครู่หนึ่งอันเหนียนเองก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดหรือไม่ จึงเรียกเขาขึ้นมาอีกครั้งอ่องเจวี้ยนได้สติกลับมา มองไปที่เขา"ข้าจำได้มาตลอด ว่าตอนนั้นมีครั้งหนึ่งที่ข้าป่วย ปวดหัว แต่ตอนนั้นราชครูก็ยังมอบงานมา ให้ข้าเขียนบทความบทหนึ่ง"อันเหนียนรู้สึกเกินคาด อ๋องเจวี้ยนยังจำเรื่องในตอนได้หรือ?เพียงแต่ตอนนี้จู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกัน?"ข้าตอนนั้นเดิมทีก็ไม่อยากทำ ถึงอย่างไรก็ป่วยอยู่ จึงพูดกับราชครูไป เขาควรจะเข้าใจ แต่เจ้าตอนนั้นบอกกับข้าว่า การเรียนรู้จะปล่อยวางด้วยอาการป่วยเล็กน้อยไม่ได้ เจ้าบอกว่าร่างกายข้าไม่ดี เดี๋ยวก็ป่วยนั่นนี่ไม่หยุด ถ้าหากทุกครั้งไม่สบายก็ปล่อยให้ตนเองสบาย เช่นนั้นอย่างไรก็ตามคนอื่นเขาไม่ทัน"อ๋องเจวี้ยนยินดีออกมาพบอันเหนียน อันที่จริงก็เพราะเรื่องในอดีต"เจ้าพูดกับข้า เพียงเพราะร่างกายข้าแข็งแกร่งสู้คนอื่นไม่ได้ เจ้าก็ห้ามแพ้ต่อสิ่งอื่นอีก"อ่องเจวี้ยนพูดถึงจุดนี้ มองไปยังอันเหนียนอันเหนียนรู้สึกละอายตอนนั้นเขายังเล็กไม่รู้ความ ถ้าเป็นตอนนี้ บางทีเขาก็ไม่แน่ว่าจะสามารถพูดตรงๆ แบบสมัย

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status