Share

บทที่ 214

Penulis: จุ้ยหลิงซู
"ท่านอ๋อง?"

หลังจากทหารถอยออกไป อ๋องเจวี้ยนก็ยังเหม่อไปครู่หนึ่ง

อันเหนียนเองก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดหรือไม่ จึงเรียกเขาขึ้นมาอีกครั้ง

อ่องเจวี้ยนได้สติกลับมา มองไปที่เขา

"ข้าจำได้มาตลอด ว่าตอนนั้นมีครั้งหนึ่งที่ข้าป่วย ปวดหัว แต่ตอนนั้นราชครูก็ยังมอบงานมา ให้ข้าเขียนบทความบทหนึ่ง"

อันเหนียนรู้สึกเกินคาด อ๋องเจวี้ยนยังจำเรื่องในตอนได้หรือ?

เพียงแต่ตอนนี้จู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกัน?

"ข้าตอนนั้นเดิมทีก็ไม่อยากทำ ถึงอย่างไรก็ป่วยอยู่ จึงพูดกับราชครูไป เขาควรจะเข้าใจ แต่เจ้าตอนนั้นบอกกับข้าว่า การเรียนรู้จะปล่อยวางด้วยอาการป่วยเล็กน้อยไม่ได้ เจ้าบอกว่าร่างกายข้าไม่ดี เดี๋ยวก็ป่วยนั่นนี่ไม่หยุด ถ้าหากทุกครั้งไม่สบายก็ปล่อยให้ตนเองสบาย เช่นนั้นอย่างไรก็ตามคนอื่นเขาไม่ทัน"

อ๋องเจวี้ยนยินดีออกมาพบอันเหนียน อันที่จริงก็เพราะเรื่องในอดีต

"เจ้าพูดกับข้า เพียงเพราะร่างกายข้าแข็งแกร่งสู้คนอื่นไม่ได้ เจ้าก็ห้ามแพ้ต่อสิ่งอื่นอีก"

อ่องเจวี้ยนพูดถึงจุดนี้ มองไปยังอันเหนียน

อันเหนียนรู้สึกละอาย

ตอนนั้นเขายังเล็กไม่รู้ความ ถ้าเป็นตอนนี้ บางทีเขาก็ไม่แน่ว่าจะสามารถพูดตรงๆ แบบสมัย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 215

    อ๋องเจวี้ยนพูดกับชิงอี ชิงอียังตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เพื่อผู้ตรวจการอัน ข้าจะไปที่เขาเมฆอรุณสักรอบหนึ่งให้แล้วกัน" อ๋องเจวี้ยนยืนขึ้นมาอันเหนียนตกตะลึง และลุกตามขึ้นมาทันที"ท่านอ๋องจะไปเองเลยหรือ?""อืม ตระกูลอี๋มีคุณงามความดีในการคุ้มกันองค์จักรพรรดิอยู่ ตอนนี้จึงวางก้ามน่าดู คนอื่นคงจะเอาไม่อยู่ ถ้าข้าไม่ไปเอง แล้วจะปกป้องน้องสาวเจ้าได้อย่างไร?""ขอบคุณท่านอ๋อง!"อันเหนียนทั้งตกตะลึงทั้งยินดี คารวะให้กับเขายกใหญ่อ๋องเจวี้ยนออกหน้าให้ ชิงชิงคงรอดแน่รถม้าจวนอ๋องเจวี้ยนเพียงไม่นานก็ทะยานออกจาเมืองหลวงตลอดทาง อ๋องเจวี้ยนนัยงเร่งมาสองรอบว่าให้ไวหน่อย ชิงอีรู้สึกไม่เข้าใจเลยจริงๆ"ท่านอ๋อง เพื่อคุณหนูอัน ก้ไม่จำเป็นต้องเร่งขนาดนี้กระมัง?"หลักๆ คือก่อนหน้านี้ท่านอ๋องเพิ่งจะอาการป่วยกำเริบ ถ้ารีบเร่งเกินไป ร่างกายของเขาไม่รู้ว่าจะทนไหวไหม"คนจากตระกูลอี๋ทำตัวอหังการแค่ไหนเจ้าเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง ยังไม่รู้ว่าคุณหนูอันจะเป็นอย่างไร ข้าพูดไปแล้วจะคืนคำไม่ได้"เสียงอ๋องเจวี้ยนสงบนิ่งอย่างมากชิงอีไม่รู้เลยว่าจะพูดอย่างไรดีถ้าบอกว่าโหวซุ่นหยางคนนี้ดวงดี ก่อน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 216

    ฟู่จาวหนิงมองออกไปคนพวกนั้นนั่งอยู่บนบันไดสิบกว่าขั้น ท่าทางเกียจคร้าน คนที่นั่งอยู่หลายคนนั้นสวมเสื้อผ้าหรูหรา อายุอานามก็ประมาณสิบห้าสิบหกจนถึงยี่สิบปี ข้างๆ ยังมีคนที่ใส่ชุดของคนรับใช้อยู่ด้วย คนหนึ่งในนี้หิ้วตะกร้าไม้ไผ่เก่าๆ เอาไว้แค่คิดก็รู้ว่าตะกร้าไม้ไผ่นั้นใส่อะไรเอาไว้ไม่ใช่ขี้ม้าที่เอาไว้ขว้างใส่คนหรือไรกันด้านบนขั้นบันไดสิบกว่าขั้นนั้นเป็นประตูภูเขาแห่งหนึ่ง ด้านบนเขียนเอาไว้ว่าเขาเมฆอรุณพอเข้าประตูภูเขาก็ยังเป็นบันไดลดเลี้ยวเคี้ยวคด มองขึ้นไปทิวทัศน์ยอดเยี่ยมมาก ด้านหลังเงาต้นไม้มีกำแพงบัวเรือนอยู่ด้วย"ใครเป็นคนขว้างลงมากัน?"ฟู่จาวหนิงเอ่ยถามขึ้นคุณชายเหล่านั้นพอเห็นหน้านางชัด ดวงตาก็เป็นประกาย"เอ๋? คนที่มาดันเป็นแม่นางภูตวารีหรือ?""นี่ใครกันน่ะ?"มีคุณชายที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งกวักมือให้กับฟู่จาวหนิง เรียกนางขึ้นมาอย่างไม่อยู่กับร่องกับรอย "นี่ น้องสาว มานี่มานี่ มารู้จักกับพี่ชายหน่อยเถอะ"ในสภาพอากาศก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนเป็นหนาวเย็น เขาเมฆอรุณมีงานประชันโคลงและแข่งล่าสัตว์ ทุกปีก็จะดึงดูดเอาพวกเหล่าคุณชายที่กำลังวังชาดีเข้ามาทุกครั้งจะมีคนไม่น้อยมาม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 217

    แต่มือของเขายังไม่ทันได้แตะฟู่จาวหนิง ระหว่างนิ้วฟู่จาวหนิงก็มีประกายแสง เข็มเงินเล่มหนึ่งปักลงไปบนหลังมือของเขา"อ๊า!"ฟางรุ่งกรีดร้อง หดมือกลับทันควัน"เจ้ากล้าแทงข้าหรือ?"เขายกมือข้างนั้นขึ้นดู ฉับพลันก็ถลึงตาโตรู้สึกว่าร่างทั้งร่างแย่เสียแล้วเวลาสั้นๆ แค่นี้ มือของเขากลับบวมขึ้นมา!ตอนนี้หลังมือบวมไปหมดแล้ว แต่ยังพอมองออก ว่านิ้วก็กำลังเริ่มบวม"เข็มมีพิษ!" คุณชายคนอื่นพอเห็นสภาพก็ล้วนกระโดดเหยงขึ้นมา มองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"นังโสเภณีเอ๊ย! หาเรื่องตายหรือไรกัน? ต่อหน้าพวกเรายังกล้ากำเริบเสิบสานหรือ?""เจ้ารู้ไหมว่าพ่อของฟางรุ่ยคือใคร? ขุนนางซื่อหลางฟางเลยนะ ตอนนี้เป็นคนโปรดขององค์จักรพรรดิ! ฟางรุ่ยชอบเจ้าเจ้าก็ควรจะแอบดีใจ จนรีบเอาตัวเองไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดแล้วขึ้นเตียงกับเขาถึงจะถูก แต่นี่ยังกล้าทำร้ายคนหรือ?"คุณชายเหล่านี้ล้วนทยอยกันก่นด่าฟู่จาวหนิง"เฮอะ"ฟู่จาวหนิงขยับมือ ย่างกรายเข้าไปหาพวกเขาช้าๆ ให้พวกเขาเห็นว่าระหว่างนิ้วของตนเองยังคับเข็มเงินอยู่อีกหลายเล่ม"ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่กล้า ข้าสนใจที่ไหนว่าเขาจะเป็นหมาป่าหรือไม่(หลาง) จะฟางหมาป่า(ซื่อหลา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 218

    "แค่ขอโทษก็จบหรือ? แล้วเอาขี้ม้ามาป้ายหน้าเจ้าล่ะ?"สาวตาฟู่จาวหนิงกวาดไปยังตะกร้าไม้ไผ่พังๆ ข้างๆ นั้นคนเหล่านี้จะต้องขี่ม้าหรือนั่งรถม้ามาแน่ เก็บขี้ม้ามานิดหน่อยเป็นเรื่องง่ายดาย และดูเป็นความคิดแย่ๆ จากการที่พวกเขาเบื่อมากจริงๆตอนนี้ในตะกร้าไม้ไผ่พังๆ นั่นยังใส่อยู่ไมม่น้อยเลย ส่งกลิ่นเหม็นที่ทำให้คนถอยไปกันสามบ้านแปดบ้านออกมาฟางรุ่ยเกือบจะสำรอกออกมาเมื่อครู่ใช้ผ้าเก่ากำขึ้นมาก้อนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเอาไปปาคนเล่น เข้าจึงไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตอนนี้ต้องคว้าขึ้นมากำนึงละเลงหน้าตนเอง เขาล้วงมือลงไปไม่ได้จริงๆ"ข้าไม่ได้มีความอดทนนักหรอกนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นทางนั้น เฉินซานล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำในถุงหนังภายใต้การช่วยเหลือของเสี่ยวเถาแล้ว พอเห็นฟู่จาวหนิงเข้าไปงัดกับคนเหล่านี้เช่นนี้ เขาก็ตกใจจนมือทั้งสองเย็นวาบไปแล้ว"เสี่ยวเถา คุณหนูรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใครน่ะ?""เมื่อครู่ก็ไม่ใช่ว่ามีคนบอกมาแล้วหรือ?" เสี่ยวเถานั่งอยู่บนรถม้า คุณหนูเมื่อครู่ให้นางอย่าเพิ่งลงมา นางจึงไม่กล้าลงมาตอนนี้พอเห็นว่าฟู่จาวหนิงไม่กลัวคุณชายเหล่านี้เลย เสี่ยวเถาก็รู้สึกทั้งภูมิใจทั้งกังวลคุณหนู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 219

    ในดวงตาเขามีประกายแสงที่เหมือนสนใจในตัวนาง ราวกับหมาป่าอย่างไรอย่างนั้น ราวกับจะพุ่งออกมาขย้ำนางได้ตลอดเวลา เหมือนจะเข้ามากัดเส้นเลือดนางอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นยังคิดจะมาห้ามฟู่จาวหนิง แต่เขายื่นมือออกเป็นสัญญาณว่าพวกเขาอย่าขยับพูดได้ว่า ตอนนี้โหวอาวุโสน้อยอี้คนนี้ขวางพวกเขาไม่ให้ล้อมฟู่จาวหนิง ปล่อยให้นางกลับไปฟุ่จาวหนิงเก็บสายตาลงมา และไม่ได้สนใจเขา พาเฉินซานเดินจากไปเฉินซานขับรถม้ามึนๆ จนวนมมาถึงจุดจอดรถม้าที่ไม่ห่างมากนัก หลังจากผูกม้าแล้ว ก็ยื่นตั๋วเงินสิบสองตำลึงไปเบื้องหน้าฟู่จาวหนิง"คุณหนู อันนี้ให้ท่านขอรับ"ฟู่จาวหนิ่งรับมาแค่ก้อนเงิน"ตั๋วเงินเจ้าเก็บไว้เถอะ ถือว่าเป็นค่าทำขวัญเจ้า"เฉินซานถลึงตาค้างหลายปีมานี้แค่สิบตำลึงเขาก็ยังหามาไม่ได้ ขายตนเอง คนกลางก็ยังรังเกียจว่าเขาชื่อเสียงไม่ดีไม่อยากรับเขาไว้เลยด้วยซ้ำ ผลลัพธ์คือติดตามฟู่จาวหนิงมาแค่วันเดียว ก็ได้มาสิบตำลึงแล้ว?"คุณหนู ข้าเก็บไว้ไม่ได้ ตั๋วเงินนี้ไม่ก็คืนให้คุณชายฟางไปเถิด คุณหนูไม่รู้หรือว่าคุณชายฟางเป็นใคร? เขาวันนี้กล้ำกลืนฝืนทนไปเสียขนาดนี้จะต้องไม่ยอมเลิกราแน่ คุณหนูจะมีอันตรายเอานะ"เฉินซานเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 220

    โหวอาวุโสน้อยอี้คิดขึ้นมาได้ว่าสองวันก่อนซ่งหยวนหลินส่งข้อมูลปากเปล่าให้เขาคนอื่นอาจจะไม่รู้ อันที่จริงความสัมพันธ์ของซ่งหยวนหลินกับเขานั้นดีมาก ตอนเด้กๆ ซ่งหยวนหลินช่วยเขาเก็บกวาดเจ้าพวกที่เขาไม่ชอบขี้หน้า พวกเขายังเคยร่วมมือกันอีกหลายครั้งซ่งหยวนหลินให้เขาพอกลับไปเมืองหลวงแล้วจัดการสร้างความลำบากให้คนคนหนึ่งหน่อย แล้วยังให้รูปพรรณสันฐานของคนนั้นมาด้วยที่วาดมาคือหญิงสาวคนเมื่อครู่ฟู่จาวหนิง"ท่านหญิงหยวนหลินบอกว่า ฟู่จาวหนิงผิดใจกับนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังแย่งตัวผู้ชายที่ท่านหญิงอวิ๋นเหยาชอบไปอีก ดังนั้นจะต้องให้นางได้เห็นดี โหวอาวุโสน้อยถ้ากลับเมืองหลวงแล้ว ช่วยหาวิธีการให้หน่อย ดีที่สุดคือจัดการทำลายฟู่จาวหนิงไปเลย"ตอนนั้นลูกน้องของซ่งหยวนหลินพูดไว้เช่นนี้โหวอาวุโสอี้คิดไม่ถึงเลย ว่าตนเองยังไม่กลับเมืองหลวง ยังไม่ทันได้คิดว่าจะทำลายฟู่จาวหนิงอย่างไร นางกลับส่งตัวเองมาจนถึงที่นี่เสียแล้วเมื่อครู่พอเขาเห็นฟู่จาวหนิงก็จำนางได้แล้ว"โหวอาวุโสน้อยคงไม่ได้ต้องตานางเข้าแล้วหรอกกระมัง?"ข้างๆ มีคุณชายคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมาด้วยเจตนาไม่ดี"ถ้าต้องตาแล้วเป็นอย่างไรหรือ?""แล้วสาว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 221

    สมัยก่อนที่เขาเห็นคือฟู่จาวหนิงที่ถูกลือว่าชื่อเสียงไม่ค่อยจะดีนักแต่เมื่อวานพอได้ยินท่านผู้เฒ่าเล่า คุณหนูฟู่คนนั้นตอนนี้กลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวิชาแพทย์กับหลักการโอสถก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย เขาเองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน"ท่านผู้เฒ่าของพวกเรารีบมายังเรือนรับรอง อันที่จริงก็เพราะจะเอาหญ้าสมุนไพรหลายช่อในเรือนรับรองนี้กลับไปเมืองหลวง เขาอยากให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนช่วยดูให้หน่อยว่านั่นเป็นวัตถุดิบยาอะไร ไม่คิดเลยว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมายังเขาเมฆอรุณนี้เสียแล้ว""วัตถุดิบยา?""ใช่ๆๆ ไม่ทราบว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนสะดวกช่วยเหลือหรือไม่?""ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่ว่าข้าเพิ่งจะมาถึงเขาเมฆอรุณนี้ยังหาที่พักไม่ได้เลย ขอให้ได้พักก่อนแล้วค่อยว่ากัน""ถ้าเช่นนั้นก็ขอท่านพระชายาพักที่เรือนรับรองของพวกเราเถิด! ข้าน้อยจะจัดการให้ทันที"ฟู่จาวหนิงมองเฉินซานเฉินซานเองก็ไม่คิดว่ามีเรื่องเช่นนี้ที่ซุนกุยจัดหาให้คือห้องที่ดีที่สุดของเรือนรับรอง ทิวทัศน์งดงามมาก ว่ากันว่าที่นี่เดิมทีซุนกุ้ยจัดเตรียมไว้ให้ซุนหยวนไว่เรือนเล็กเรือนหนึ่ง มีห้องสามห้องและห้องปีกอีกห้องหนึ่ง เหลือเฟือ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 222

    "ท่านอ๋อง ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวออกมา"เมื่อครู่รถม้าเพิ่งจะผ่านประตูภูเขา ชิงอีก็เห็นคนส่วนหนึ่งเดินตรงมาทางนี้ สายตาจับจ้องไปบนตัวอ๋องเจวี้ยนอย่างเห็นได้ชัดในใจเขาขรึมลงเล็กน้อย คนเหล่านี้ตรงมาหาอ๋องเจวี้ยนหรือ?พวกเขาตัดสินใจมาที่เขาเมฆอรุณชั่วคราว นอกจากผู้ตรวจการอันแล้ว ก็ไม่น่าจะมีคนรู้ถึงจะถูก ตอนนี้ทำไมจึงมีคนมากมายมาชมอ๋องเจวี้ยนเช่นนี้?ชิงอีเดิมทียังคิดว่าพวกเขาเข้ามาเงียบๆ เข้าพักเงียบๆ แล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้คนตั้งมากมายมารุมล้อมท่านอ๋อง แล้วจะทำเงียบๆ ได้อย่างไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้นสุขภาพของท่านอ๋องก็ยังไม่ค่อยดีด้วย ถ้าคนเหล่านี้จะเข้ามาพูดคุยกับท่านอ๋องมาคารวะท่านอ๋อง ได้เหนื่อยตายกันพอดี"ไม่เป็นไร"อ๋องเจวี้ยนกลับไม่ใส่ใจเขาทำตัวเงียบๆ มาหลายปี ตอนนี้ในเมื่อกลับมาเมืองหลวงแล้ว ก็ต้องเผยหน้าตนเองออกมาให้คนอื่นรู้จักเขาบ้างไม่เช่นนั้น ผู้หญิงบางคนจะอวดอ้างตัวตนฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมาขู่คนได้อย่างไร?แล้วถ้าเขาไม่มีพลังสยบด้วยอาณุภาพนี้ ไม่แน่ว่าหญิงสาวคนนั้นอาจจะหัวเราะเยาะเขาว่าเป็นท่านอ๋องประสาอะไร ทำไมจึงไม่มีใครรู้จัก แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ชิงอีร

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status