แชร์

บทที่ 209

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"พอมีความคิดนี้ พวกเขาถ้าไม่ได้โลภขนาดนี้ บ้านตระกูลฟู่คงจะถูกขายไปแล้ว"

"เช่นนั้นพวกเขามีโฉนดบ้านของบ้านตระกูลฟู่หรือ?"

"นั่นข้ายังไม่เห็น แต่ว่าข่าวจากผู้เฒ่าสองทางนั้นบอกออกมาว่าไม่มีปัญหา"

สิ่งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้มาอย่างไร

"มือปราบเจียง ใบยืมหนี้นี้"

มือปราบเจียงรีบพูดเถอะ "ท่านหมอหนิง ใบยืมหนี้ครั้งนี้ไม่ได้มอบให้ท่าน ข้านำออกมาจากท่านอาจารย์ของข้าทางนั้น อีกเดี๋ยวต้องนำกลับไปแล้ว ท่านอาจารย์ยังต้องคืนให้แก่คนของบ้านตระกูลฟู่พวกนั้น"

ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สร้างความลำบากใจให้เขา

ที่แอบนำใบยืมหนี้มาให้นางดู ก็ถือว่ามีคุณธรรมน้ำมิตรมากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นมือปราบเจียงเองเองก็ช่วยนางตรวจสอบเรื่องที่คนพวกนั้นเตรียมจะขายบ้านตระกูลฟู่อย่างไร

นางคืนใบยืมหนี้ให้กับมือปราบเจียง หลังจากกลับถึงก็ไปหาลุงจง

"ลุงจง วันที่ข้าแต่งงาน ในกล่องสินสอดที่ท่านปู่มอบให้ข้า มีโฉนดบ้านตระกูลฟู่อยู่ด้วยใช่ไหม?"

ลุงจงยังไม่รู้ว่ากล่องสินสอดของฟู่จาวหนิงหายไป พอได้ยินนางถามก็รู้สึกประหลาดใจมาก

"ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่โฉนดบ้านนะ ยังมีร้านสองร้านกับเครื่องประดับอีกหลายชุดที่ฮูหยินเหลือไว้ให้ ท่านผู้เฒ่าใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 210

    ฟู่จาวหนิงทิ้งจงเจี้ยนไว้ที่บ้านตระกูลฟู่ดีกว่าเขาคอยคุ้มกันบ้านตระกูลฟู่ นางถึงจะออกไปได้อย่างวางใจเพราะได้ยินว่าเขาเมฆอรุณอยู่ไกลมาก ต่อให้ไม่โดนทำให้เสียเวลา ไปกลับสักรอบหนึ่งก็ยังต้องใช้เวลาสามสี่วันก่อนที่นางจะออกมาก็ยังฝังเข็มให้กับผู้เฒ่าฟู่อีกรอบหนึ่ง ทิ้งยาเอาไว้ให้อย่างเพียงพอ เสบียงของกินในบ้านก็ตระเตรียมไว้เรียบร้อยป้าจงเองก็กำลังเริ่มเย็บเสื้อผ้าฤดูหนาวขาของหู่จือก็ดีขึ้นมากแล้ว จงเจี้ยนยังช่วงเหลาไม้เท้ามา เขาใช้ไม้ค้ำตนเองลุกขึ้นยืนเดินไปมา อย่างน้อยทุกวันก็ยังมานั่งในห้องท่านผู้เฒ่าเป็นเพื่อนคุยกับเขา และคอยดูแลเขาได้ด้วยผู้เฒ่าฟู่ถามนางว่าจะไปทำอะไร ฟู่จาวหนิงก็พูดตามความจริงแต่ว่า แม้ว่าจะบอกว่าไปเขาเมฆอรุณ แต่นางก็ไม่ได้บอกว่าจะไปหาตัวฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจิน แต่บอกว่าอาจารย์บอกนางว่าเขาเมฆอรุ่นมียาดีอยู่ นางจะไปหาวัตถุดิบยาก่อนหน้าที่ยังไม่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้อะไรเลย มักจะวิ่งแจ้นออกไปขุนยา ตอนนี้ฟู่จาวหนิงที่เฉิดฉายแจ่มจรัสอยู่ในพันธมิตรโอสถใต้หล้าบอกว่าจะไปขุดยา ไม่มีใครสักคนที่ไม่เชื่อฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวเถาไปด้วย เตรียมจะไปตล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 211

    "เจ้านี่เอง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยปากขึ้นก่อน "ที่แท้เจ้าก็ชื่อเฉินซาน"วันนั้นตอนที่ขุดยาที่เขาจันทร์ลับฟ้า พวกนักเลงหัวไม้ที่สาวใช้ซ่งหยวนหลินซื้อตัวขึ้นมาหาเรื่องเขา ที่บอกว่าสังหารนางได้คือดีที่สุด แต่ถ้าสังหารไม่ได้ก็เอาเสื้อในของนางกลับมา คิดจะทำลายชื่อเสียงของนางและคนผู้นี้ก็วิ่งไวเสียเหลือเกินเฮ่าจื่อกับคนเหล่านั้นเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเพิ่งจะรู้ว่านางชื่อเฉินซาน"เรื่องของพวกเฮ่าจื่อข้าไม่รู้เรื่องเลย!"เฉินซานหางตามีรอยช้ำ ที่มุมปากก็มีตุ่มพอง ดูท่าจะซมซานจริงๆ เขาถูกฟู่จาวหนิงบีบมาจนถึงมุมหนึ่งของซอย แล้วรีบร้องขึ้นมาอย่างร้อนรน"ถ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าเจ้ารู้ว่าพวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นสินะ" ฟู่จาวหนิงย้อนถาม"ข้า ข้ารู้แค่ว่าหลังจากวันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาอีก" เฉินซานมองฟู่จาวหนิงอย่างหวาดกลัว "ภายหลังข้าก็ขึ้นเขาไปที่สะพานแขวนเพื่อหาพวกเขาแล้ว พวกเขา"พวกเขาตายไปกันหมดเฉินซานเองตอนนั้นก็กลัวอย่างมากและไม่รู้ว่าวันนั้นหลังจากเขาลงเขาไปเกิดเรื่องอะไรขึ้น เฮ่าจื่อพวกนั้นตายกันไปหมดในภูเขาแล้วแต่ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นนักเลงหัวไม้ คนที่บ้านก็ชินกับการที่พวกเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 212

    ตอนแรกสุด รถม้าก็ขับได้มั่นคงดี แต่ค่อนข้างช้าเฉินซานกลัวมือกลัวเท้าไปหมด ยังผวาฟู่จาวหนิงอยู่อีก กลัวว่าถ้าไม่ระวังจะเอียงจนไปยั่วโมโหนางเข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นคุณหนูของเจ้าบ้านที่พ่อแม่ของเขาเคยทำงานอยู่!ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ถูกขายขาด ตอนที่ตระกูลฟู่ปล่อยคนออกมา ผู้เฒ่าฟู่ก็ให้อิสระแก่พวกเขา ตอนนั้นเขาเหมือนจะเพิ่งสองสามขวบเพียงแต่ต่อมาบิดาของเขาก็ตายไป มารดาของเขาร่างกายก็แย่ลงทุกวัน เขาจึงไม่สนใจไปศึกษาเล่าเรียนหาความสามารถ แต่ไปตะวันออกก็ทำงาน มาตะวันตก็หางานทำ หลังจากมาพบกับพวกเฮ่าจื่อก็ยิ่งแย่หนักลงไปอีกก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงให้เขาขับรถม้ากลับจวนฟู่ รับป้าจงไปบ้านของเขา ป้าจงพอเจอกับมารดาของนาง พี่น้องสองสาวก็จำกันได้ขึ้นมากอดกันกลมร้องห่มร้องไห้ฟู่จาวหนิงคอยสังเกตเฉินซานอยู่ตลอด หลังจากนั้นก็ถามเขาว่าจะขายตัวเข้ามาในจวนตระกูลฟู่ไหมเฉินซานช่วงนี้เพื่อจะซื้อยามารักษาแม่ของเขาก็ติดคนคนอื่นไปไม่น้อย เกือบจะไร้ซึ่งหนทางแล้ว พอนางถาม เขาก็ไม่ลังเลเลย รีบร้อนพยักหน้าตอบรับทันทีหลังจากลงชื่อสัญญาขายตัว เขาก็กลายมาเป็นคนขับรถของฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงยังฝังเข็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 213

    ผู้ตรวจการอันอายุสามสิบกว่าใบหน้าหล่อเหลาสูงโปร่ง เพียงแต่เต็มไปด้วยเศร้าหมองผู้ตรวจการอันครั้งนั้นคือเพื่อนเรียนของอ๋องเจวี้ยน นั่นเป็นตอนช่วงที่อ๋องเจวี้ยนเพิ่งอายุไม่กี่ขวบ ที่บอกว่าเพื่อเรียน อันที่จริงก็เป็นคนที่จักรพรรดิองค์ที่แล้วส่งเข้ามาดูแลอ๋องเจวี้ยนนั่นเองแต่หลังจากที่อ๋องเจวี้ยนไปยังยอดเขาโยวชิงก็ไม่ได้พบอีกเลย ไม่ได้ไปมาหาสู่ครั้งนั้นที่เล่าเรียนด้วยกันก็ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการ"อันเหนียนคารวะอ๋องเจวี้ยน" อันเหนียนพอเห็นอ๋องเจวี้ยนก็ทำการคารวะอย่างเป็นการเป็นงานเขาเองก็พิจารณาอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งก่อนหน้านี้พระโอรสอ่อนแอมาก ตอนนี้ก็เติบโตสูงใหญ่ขึ้นมา ท่วงท่าดูเหนือล้ำ"ไม่ต้องมากพิธี"อ๋องเจวี้ยนส่งสัญญาณให้เขานั่งลง รอจนคนรับใช้นำน้ำชาเข้ามา "ดื่มชาก่อน"อันเหนียนยกชาขึ้นจิบ ตอนที่วางลงก็เอ่ยขึ้นว่า"อ๋องเจวีย้น ข้ารู้ว่าที่บุกมาหาท่านเป็นการรบกวนท่านและไม่เหมาะสม แต่ว่า..."ถ้าเขามีวิธี ก็คงไม่แบกหน้ามาหาอ๋องเจวี้ยนแล้ว"พูดเถอะ มีเรื่องอะไร"อ๋องเจวี้ยนไม่ได้เขากังวลมากเกินไป ถามขึ้นมาตรงๆ"ข้ามีน้องสาวคนหนึ่ง อายุน้อยกว่าข้าสิบกว่าปี ปีนี้เพิ่งอายุ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 214

    "ท่านอ๋อง?"หลังจากทหารถอยออกไป อ๋องเจวี้ยนก็ยังเหม่อไปครู่หนึ่งอันเหนียนเองก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดหรือไม่ จึงเรียกเขาขึ้นมาอีกครั้งอ่องเจวี้ยนได้สติกลับมา มองไปที่เขา"ข้าจำได้มาตลอด ว่าตอนนั้นมีครั้งหนึ่งที่ข้าป่วย ปวดหัว แต่ตอนนั้นราชครูก็ยังมอบงานมา ให้ข้าเขียนบทความบทหนึ่ง"อันเหนียนรู้สึกเกินคาด อ๋องเจวี้ยนยังจำเรื่องในตอนได้หรือ?เพียงแต่ตอนนี้จู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกัน?"ข้าตอนนั้นเดิมทีก็ไม่อยากทำ ถึงอย่างไรก็ป่วยอยู่ จึงพูดกับราชครูไป เขาควรจะเข้าใจ แต่เจ้าตอนนั้นบอกกับข้าว่า การเรียนรู้จะปล่อยวางด้วยอาการป่วยเล็กน้อยไม่ได้ เจ้าบอกว่าร่างกายข้าไม่ดี เดี๋ยวก็ป่วยนั่นนี่ไม่หยุด ถ้าหากทุกครั้งไม่สบายก็ปล่อยให้ตนเองสบาย เช่นนั้นอย่างไรก็ตามคนอื่นเขาไม่ทัน"อ๋องเจวี้ยนยินดีออกมาพบอันเหนียน อันที่จริงก็เพราะเรื่องในอดีต"เจ้าพูดกับข้า เพียงเพราะร่างกายข้าแข็งแกร่งสู้คนอื่นไม่ได้ เจ้าก็ห้ามแพ้ต่อสิ่งอื่นอีก"อ่องเจวี้ยนพูดถึงจุดนี้ มองไปยังอันเหนียนอันเหนียนรู้สึกละอายตอนนั้นเขายังเล็กไม่รู้ความ ถ้าเป็นตอนนี้ บางทีเขาก็ไม่แน่ว่าจะสามารถพูดตรงๆ แบบสมัย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 215

    อ๋องเจวี้ยนพูดกับชิงอี ชิงอียังตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เพื่อผู้ตรวจการอัน ข้าจะไปที่เขาเมฆอรุณสักรอบหนึ่งให้แล้วกัน" อ๋องเจวี้ยนยืนขึ้นมาอันเหนียนตกตะลึง และลุกตามขึ้นมาทันที"ท่านอ๋องจะไปเองเลยหรือ?""อืม ตระกูลอี๋มีคุณงามความดีในการคุ้มกันองค์จักรพรรดิอยู่ ตอนนี้จึงวางก้ามน่าดู คนอื่นคงจะเอาไม่อยู่ ถ้าข้าไม่ไปเอง แล้วจะปกป้องน้องสาวเจ้าได้อย่างไร?""ขอบคุณท่านอ๋อง!"อันเหนียนทั้งตกตะลึงทั้งยินดี คารวะให้กับเขายกใหญ่อ๋องเจวี้ยนออกหน้าให้ ชิงชิงคงรอดแน่รถม้าจวนอ๋องเจวี้ยนเพียงไม่นานก็ทะยานออกจาเมืองหลวงตลอดทาง อ๋องเจวี้ยนนัยงเร่งมาสองรอบว่าให้ไวหน่อย ชิงอีรู้สึกไม่เข้าใจเลยจริงๆ"ท่านอ๋อง เพื่อคุณหนูอัน ก้ไม่จำเป็นต้องเร่งขนาดนี้กระมัง?"หลักๆ คือก่อนหน้านี้ท่านอ๋องเพิ่งจะอาการป่วยกำเริบ ถ้ารีบเร่งเกินไป ร่างกายของเขาไม่รู้ว่าจะทนไหวไหม"คนจากตระกูลอี๋ทำตัวอหังการแค่ไหนเจ้าเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง ยังไม่รู้ว่าคุณหนูอันจะเป็นอย่างไร ข้าพูดไปแล้วจะคืนคำไม่ได้"เสียงอ๋องเจวี้ยนสงบนิ่งอย่างมากชิงอีไม่รู้เลยว่าจะพูดอย่างไรดีถ้าบอกว่าโหวซุ่นหยางคนนี้ดวงดี ก่อน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 216

    ฟู่จาวหนิงมองออกไปคนพวกนั้นนั่งอยู่บนบันไดสิบกว่าขั้น ท่าทางเกียจคร้าน คนที่นั่งอยู่หลายคนนั้นสวมเสื้อผ้าหรูหรา อายุอานามก็ประมาณสิบห้าสิบหกจนถึงยี่สิบปี ข้างๆ ยังมีคนที่ใส่ชุดของคนรับใช้อยู่ด้วย คนหนึ่งในนี้หิ้วตะกร้าไม้ไผ่เก่าๆ เอาไว้แค่คิดก็รู้ว่าตะกร้าไม้ไผ่นั้นใส่อะไรเอาไว้ไม่ใช่ขี้ม้าที่เอาไว้ขว้างใส่คนหรือไรกันด้านบนขั้นบันไดสิบกว่าขั้นนั้นเป็นประตูภูเขาแห่งหนึ่ง ด้านบนเขียนเอาไว้ว่าเขาเมฆอรุณพอเข้าประตูภูเขาก็ยังเป็นบันไดลดเลี้ยวเคี้ยวคด มองขึ้นไปทิวทัศน์ยอดเยี่ยมมาก ด้านหลังเงาต้นไม้มีกำแพงบัวเรือนอยู่ด้วย"ใครเป็นคนขว้างลงมากัน?"ฟู่จาวหนิงเอ่ยถามขึ้นคุณชายเหล่านั้นพอเห็นหน้านางชัด ดวงตาก็เป็นประกาย"เอ๋? คนที่มาดันเป็นแม่นางภูตวารีหรือ?""นี่ใครกันน่ะ?"มีคุณชายที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งกวักมือให้กับฟู่จาวหนิง เรียกนางขึ้นมาอย่างไม่อยู่กับร่องกับรอย "นี่ น้องสาว มานี่มานี่ มารู้จักกับพี่ชายหน่อยเถอะ"ในสภาพอากาศก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนเป็นหนาวเย็น เขาเมฆอรุณมีงานประชันโคลงและแข่งล่าสัตว์ ทุกปีก็จะดึงดูดเอาพวกเหล่าคุณชายที่กำลังวังชาดีเข้ามาทุกครั้งจะมีคนไม่น้อยมาม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 217

    แต่มือของเขายังไม่ทันได้แตะฟู่จาวหนิง ระหว่างนิ้วฟู่จาวหนิงก็มีประกายแสง เข็มเงินเล่มหนึ่งปักลงไปบนหลังมือของเขา"อ๊า!"ฟางรุ่งกรีดร้อง หดมือกลับทันควัน"เจ้ากล้าแทงข้าหรือ?"เขายกมือข้างนั้นขึ้นดู ฉับพลันก็ถลึงตาโตรู้สึกว่าร่างทั้งร่างแย่เสียแล้วเวลาสั้นๆ แค่นี้ มือของเขากลับบวมขึ้นมา!ตอนนี้หลังมือบวมไปหมดแล้ว แต่ยังพอมองออก ว่านิ้วก็กำลังเริ่มบวม"เข็มมีพิษ!" คุณชายคนอื่นพอเห็นสภาพก็ล้วนกระโดดเหยงขึ้นมา มองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"นังโสเภณีเอ๊ย! หาเรื่องตายหรือไรกัน? ต่อหน้าพวกเรายังกล้ากำเริบเสิบสานหรือ?""เจ้ารู้ไหมว่าพ่อของฟางรุ่ยคือใคร? ขุนนางซื่อหลางฟางเลยนะ ตอนนี้เป็นคนโปรดขององค์จักรพรรดิ! ฟางรุ่ยชอบเจ้าเจ้าก็ควรจะแอบดีใจ จนรีบเอาตัวเองไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดแล้วขึ้นเตียงกับเขาถึงจะถูก แต่นี่ยังกล้าทำร้ายคนหรือ?"คุณชายเหล่านี้ล้วนทยอยกันก่นด่าฟู่จาวหนิง"เฮอะ"ฟู่จาวหนิงขยับมือ ย่างกรายเข้าไปหาพวกเขาช้าๆ ให้พวกเขาเห็นว่าระหว่างนิ้วของตนเองยังคับเข็มเงินอยู่อีกหลายเล่ม"ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่กล้า ข้าสนใจที่ไหนว่าเขาจะเป็นหมาป่าหรือไม่(หลาง) จะฟางหมาป่า(ซื่อหลา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2055

    ทางที่ไปแท่นชมดาวค่อนข้างคดเคี้ยว สองข้างทางก็ปลูกต้นเหมยอยู่ไม่น้อย พอถูกแสงจันทร์ส่องกระทบ เงาทอดจากกิ่งไม้ก็นาบไปบนกำแพงขาว ราวกับเป็นภาพหมึกลายน้ำที่เย็นชาภาพหนึ่งรอบด้านนิ่งสงัดเอามากๆหากมีแค่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคนเดียว นางรู้สึกว่าตนเองคงไม่กล้าเดินถนนเส้นนี้ แม้จะไม่ได้มืดครึ้มนัก แต่มันเงียบเกินไปคืนนี้มีแสงจันทร์ยังพอไหว ถ้าหากไม่มีแสงจันทร์ ที่นี่คงจะมืดมากนางกระทั่งเคยได้ยินฮูหยินเฉิงเล่าถึงแท่นชมดาวมาแล้ว ระหว่างทางที่มาเขาโยวชิง พวกนางว่างกันมาก ฮูหยินเฉิงจึงเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับยอดเขาโยวชิงมามากมาย แล้วก็บังเอิญเสียจริง เรื่องของแท่นชมดาวเองก็เล่าให้นางฟังด้วยฮูหยินเฉิงพูดออกมาละเอียดกว่าเซียวหลันยวนเสียอีก ศิษย์คนนั้นไปแท่นชมดาวอย่างไร ทำอะไรบนนั้น แล้วพลัดตกลงไปได้อย่างไร ตกลงมาเป็นอย่างไรบ้าง เล่าออกมาอย่างละเอียดดังนั้นตอนนี้พอคิดถึงว่าต้องไปสถานที่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจึงรู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมานางมองไปยังคู่สามีภรรยาที่เดินเคียงบ่าไหล่ตรงหน้า ฝีเท้าก็ไม่กล้าผ่อนช้าลง แต่รีบเดินตามไปแต่ว่าเซียวหลันยวนก็ไม่ให้นางตามมาใกล้นัก แต่พอนางเข้ามาใกล้หน่อย เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2054

    กลางดึกทั้งยอดเขาโยวชิงถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์เย็นเยียบพอเดินออกมาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นดาวถร่างเต็มฟ้า ส่องแสงระยิบระวับ ทั้งสว่างทั้งใหญ๋เพราะยอดเขาโยวชิงอยู่สูง เหมือนใกล้ชิดท้องฟ้ามากอย่างไรอย่างนั้น ดวงดาวเหล่านั้นก็ราวกับอยู่ตรงหน้า ยื่นมือไปเด็ดลงมาได้เลยแสงจันทร์สว่างไสว สายตาของพวกฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องถือตะเกียงก็มองเห็นทางได้ชัดเจนเซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิงอารามโยวชิงเองก็เงียบมาก ในที่แบบนี้แค่แมลงร้องก็ยังได้ยินสายลมกลางคืนพัดเข้ามา ได้กลิ่นเครื่องหอมในอาราม เสียงฝีเท้าการเดินของพวกเขาดังขึ้นอย่างชัดเจนในกลางดึกนี้ฟู่จาวหนิงพอนึกถึงสิบกว่าปีก่อนเซียวหลันยวนพักอยู่ในสถานที่หนาวเย็นแบบนี้ ผ่านไปทีละวันทีละคืน ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ "แต่ก่อนตอนที่ท่านอยุ่ที่นี่ อยากจะลงเขากลับเมืองหลวงบ้างไหม?"สำหรับเด็กอายุสิบกว่าขวบคนหนึ่ง ความคึกคักทางโลกก็มีแรงดึงดูดมากอยู่กระมัง เขาเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน การออกจากในเมืองหลวงที่คึกคักมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ ความรู้สึกมันแตกต่างกันมากเกินไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครมาอยู่คุยกับเขา เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2053

    ถึงตอนนั้นถ้ามีใครไม่เจียมตัว เขาจะลงมือเอง ไม่มีเกรงใจ"ขอแค่ศิษย์น้องหญิงออกไปตรวจได้ วัตถุดิบยาทุกอย่างบนเขาชิงถง ศิษย์น้องเลือกขุดได้ตามสะดวกทุกเวลาเลย ขอแค่ศิษย์น้องหญิงต้องการ ส่งจดหมายหาข้าได้ ข้าจะจัดการส่งคนออกไปหาไปขุดวัตถุดิบยามาให้"ถังอู๋เจวี้ยนหยิบป้ายตราชิ้นหนึ่งออกมาจากในอก ยื่นส่งมาตรงหน้าฟู่จาวหนิง"ป้ายตรานี้เจ้าเก็บเอาไว้ เห็นป้ายตรานี้ก็เหมือนเจอข้า หลังจากนี้ถ้าเจอคนเขาชิงถงข้างนอก เจ้าก็หยิบป้ายตรานี้มาสั่งพวกเขาทำงานได้เลย"ถังอู๋เจวี้ยนก็จริงใจพอเหมือนกันเขาเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไร พูดออกมาตรงๆว่านางกับลุงของเขามีความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์กัน ดังนั้นคนตระกูลถังจึงถือว่านางเป็นพวกเดียวกัน"ถ้าไปถึงเขาชิงถง เหล่าผู้อาวุโสก็คงจะมอบของขวัญต้อนรับเจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าเก็บไว้ก็พอแล้ว อย่างเกรงใจกับพวกเขาเด็ดขาด" ถังอู๋เจวี้ยนบอกกับฟู่จาวหนิงผู้อาวุโสพวกนั้นของเขาชิงถง ของดีดีในมือมีอยู่ไม่น้อย แต่ละคนรวยล้นฟ้ากันทั้งนั้นเขาออกมาครั้งนี้ ก็เอาคำกำชับของพวกเขามาด้วย ผู้อาวุโสเหล่านั้นให้เขาคอยสังเกตนิสัยของฟู่จาวหนิงเดิมทีถังอู๋เจวี้ยนรู้สึกว่าตนเองอาจจะไม่ชอบฟู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2052

    ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไปครู่หนึ่งนางพบว่า คนเหล่านี้น่าจะเกี่ยวข้องกับนางอยู่บ้างไม่มากก็น้อยน่าจะเพราะแบบนี้ นางถึงได้มาถึงที่นี่?"ขอถามหน่อยนะ น้องชายท่านตอนนี้อายุเท่าไรแล้ว?" ความสนใจของนางยังคงอยู่บนตัวคนไข้"ยี่สิบพอดี" ถังอู๋เจวี้ยนชะงักไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยต่อว่า "ส่วนข้ายี่สิบสี่""ไม่ได้ถามเจ้า" เซียวหลันยวนตอบเขามาคำถังอู๋เจวี้ยนหัวเรา แต่รอยยิ้มนี้ดูขมขื่นหน่อยๆ"ถ้าหากพวกเจ้าเห็นน้องชายข้า จะต้องมองไม่ออกแน่ เขาเด็กกว่าข้าสี่ปี แต่ภายนอกดูแล้วเหมือนโตกว่าข้าสิบปีเลย ถ้าโรคนี้ไม่ได้รับการยับยั้งบรรเทาลง เขาคงจะแก่อย่างรวดเร็วต่อไปแน่"และเท่ากับเขาเดินเข้าหาความตายไวขึ้นคำนี้เขาทนพูดออกมาไม่ได้ แต่ฟู่จาวหนิงรู้ตอนนี้นางกำลังคิด เพื่อนออนไลน์ถังอู๋เจวี้ยนในอดีตจู่ๆ ก็หายตัวไปไม่ออนไลน์ จะเป็นเพราะแก่ชราลงอย่างรวดเร็วจนถึงบั้นปลายชีวิตหรือเปล่านะ?โรคแก่ชราอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนนางก็เคยเข้าใจมาบ้าง และเคยมีการค้นคว้าไว้บ้าง แต่ถังอู๋เจวี้ยนสุดท้ายก็อยู่ไม่ถึงฟู่จาวหนิงตอนนั้นเองก็ขาดวัตถุดิบยาอยู่ไม่น้อยนางเตรียมใช้การผสานกันของจีนและตะวันตก แต่ในตัวยาของจีน มีวัต

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status