ไม่มีคนกล้ารับไม่มีใครกล้าขึ้นมาหมอเทวดาหลี่มองทางนี้มองทางนั้น จากนั้นก็ส่งสายตากับศิษย์ที่ตนเองภาคภูมิใจ แต่ว่าศิษย์ก็ส่ายหัวอย่างดูไม่ได้ เขายอมรับว่ามองออกได้ไม่มากขนาดนั้นตัวเขาเองก็มองออกขนาดนั้นไม่ได้!หมอเทวดาหลี่ยังดิ้นรนกระเสือกกระสนต่อ "เป็นชื่อยาที่เจ้าแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า""มา ข้าอธิบายคุณสมบัติยาให้ท่านฟังได้ทีละอย่างทีละอย่างเลย" ฟู่จาวหนิงเอียงหัวยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อมาว่า "แต่ว่าถือดีอะไร?"เขาไม่ใช่เจ้าของทั้งพิธีเดิมพันโอสถเสียหน่อยผู้ดูแลเจียงมองหมอเทวดาหลี่ รู้สึกว่าเขาทำลายหน้าตาโรงหมอเมตตาเสียจนป่นปี้ไปแล้วผู้อาวุโสจี้เองก็ร้องเชอะอย่างโกรธเคือง "มาๆๆ ถ้ามีฝีมือเจ้าให้ซือถูไป๋ไปดูด้วยก็ได้ ไม่ต้องวัตถุดิบยาทั้งหมดหรอก เขามองออกสักสามสี่อย่างก็พอแล้ว เจ้าเด็กน้อยซือถู เจ้าลองว่ามา เมื่อครู่ที่ศิษย์ของข้าพูดชื่อยามาเหล่านั้นใช่แต่งขึ้นมาเองไหม?"ซือถูไป๋ส่ายหัว"ไม่ใช่ วัตถุดิบยามากขนาดนี้ ข้าเองก็มองออกแค่เจ็ดอย่าง และเจ็ดอย่างนี้ คุณหนูฟู่ก็พูดออกมาถูกต้อง"ผู้อาวุโสจี้มองหมอเทวดาหลี่ "ได้ยินแล้วหรือยัง? เจ้าหนูซือถูเป็นศัตรูคู่แค้นกับพันธมิตรโอส
ที่แท้เขาก็กลัวว่านางจะทำเขาขายหน้าเท่านั้นหรือ?ชิงอีตามอยู่ด้านหลังพอได้ยินก็อยากจะถอนหายใจออกมาเสียจริงท่านอ๋อง ตอนที่พระชายาเอาชนะไห่ฉางจวิ้นเมื่อครู่ ข้าน้อยก็เห็นว่ามุมปากของท่านแทบจะฉีกยิ้มขึ้นฟ้าอยู่แล้ว ตอนที่พระชายาบอกชื่อวัตถุดิบยาออกมาเก้าชนิด สายตาของท่านใต้หน้ากากนั่นเปล่งแสงแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาพูดจาเย็นชาใส่พระชายากันล่ะ?"เฮอะ ในเมื่อท่านอ๋องกังวลที่จะถูกข้าทำให้ขายหน้าขนาดนี้ เช่นนั้นก็พิจารณาเรื่องหย่าเสียหน่อยไหม?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"หย่า? ข้าก็แค่ไม่ต้องการภรรยาแล้วเท่านั้น ไม่ได้คิดจะหย่าเสียหน่อย"พอได้ยินว่านางเอาคำว่าหย่ามาแขวนไว้ข้างปาก น้ำเสียงของอ๋องเจวี้ยนก็ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก"เช่นนั้นข้าไม่ต้องการท่านแค่นี้ก็ได้" ฟู่จาวหนิงปะทะกลับเข้ามา"แล้วเจ้าถือดีอย่างไรถึงจะไม่ต้องการสามีได้?"ฟู่จาวหนิงรีบเดินออกไป ขี้เกียจจะพล่ามไร้ประโยชน์กับเขาแล้วพูดดีดีกับเซียวหลันยวนไม่ได้เอาเสียเลย!อ๋องเจวี้ยนมองแผ่นหลังนาง เดินตามนางอย่างไม่เร่งไปช้าไป"ตอนนี้ผู้นำตระกูลหลายคนอยู่ระหว่างทางมาเมืองหลวงแล้ว ตอนที่พวกเขามอบสิ่งยืนยันเจ้ายังต้องอยู่ด้วย
เซียวหลันยวนต่อต้านไม่ได้จริงๆสูบเลือด? พอได้ยินก็รู้สึกว่าน่ากลัว เพราะเขานั้นไม่ดีามาตั้งแต่ในครรภ์แล้ว หลายปีมานี้ร่างกายก็อ่อนแอมาตลอด เลือดลมไม่เพียงพอครั้งนั้นหลังจากบาดเจ็บติดพิษมาเลือดลมทั้งสองอย่างก็พังลงจนแทบจะใช้ชีวิตต่อไม่ไหว หลังจากนั้นเลือดทุกหยดบนตัวเขาก็ล้ำค่าอย่างมากทุกครั้งที่ไอจนเลอืดออกก็แทบจะทำให้คนข้างๆ ตกใจแทบแย่ตอนนี้ฟู่จาวหนิงจะสูบเลือดของเขาออกมาหรือชิงอีเองก็กังวลขึ้นมา "พระชายา ต้องสูบเลือดออกมาแค่ไหน?""อืม ก็น่าจะซักเจ็ดถึงแปดส่วนของแก้วใบนั้นกระมัง" ฟู่จาวหนิงตัดสินใจจะสูบออกมาสักหกหลอดพิษของเซียวหลันยวนแปลกประหลาดเหลือเกิน นางยังไม่รู้ว่าพิษอะไรกันแน่ที่ทำให้ตอนที่เขาอาการกำเริบแล้วจะเย็นไปทั้งตัวจนเหมือนคนตายเช่นนี้ต่อให้ไม่ใช่เพื่อรักษาเขา นางก็ยังรู้สึกสนใจต่อพิษชนินี้มาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องค้นคว้าออกมาให้ได้ว่ามันคืออะไร"มากขนาดนั้นเลยหรือ?!" ชิงอีมองถ้วยชาใบนั้น ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า..." เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง "เจ้าคิดจะล้างแค้นหรือ?"ปกติเขาไอเป็นเลือดหนึ่งครั้งร่างกายก็อ่อนแอลงมามาก ตอนนี้นางกลับจะสูบเลือดมากขนาดนั้นเชี
ฟู่จาวหนิงพอมองเห็นสีหน้าเขาก็ยิ้มประชดขึ้นมา "ทำไม ไม่กล้าเชื่อใจข้าหรือ?"ชิงอี รีบหมุนตัวออกไป "ไม่ใช่! ข้าน้อยจะออกไปเดี๋ยวนี้"ถ้าเผื่อพระชายาไม่รักษาให้ท่านอ๋องคงยุ่งยากแน่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังหาหมอที่เก่งกาจกว่าไม่ได้ ท่านอ๋องทำได้แค่พึ่งพาพระชายาเสียแล้วชิงอีออกประตูไป ปิดประตูลง ส่วนตนเองคุ้มกันอยู่ที่หน้าประตูฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงเพิ่งล้วงเอาเข็มฉีดยาออกมาจากในห้องเภสัช สูบเลือดออกมาหกหลอดเต็มอย่างไม่เกรงใจ พอสูบเลือดออกมาไม่ทันไรก็เห็นสีหน้าเซียวหลันยวนขาวซีดกว่าเดิมตอนที่นางใช้สำลีห้ามเลือดกดลงไปโดนผิวหนังของเขา ก็เย็นเฉียบเสียจนนางสั่นขึ้นมา"เซียวหลันยวนเจ้าตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งรูปคนไปแล้วหรือ!"นางเองก็รู้สึกว่าประหลาดมาก ทำไมจึงได้เย็นขนาดนี้กัน?มองร่างกายของเขาสั่นระริก นางก็ขมวดคิ้วขึ้น เก็บของเข้าไปในห้องเภสัช หลังจากนั้นจึงเรียกชิงอีกเข้ามา"จุดถ่านไหมเงินขึ้นมาอีกสักหน่อยเถอะ เพิ่มผ้าห่มให้เขาอีกหน่อยด้วย" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ขอรับ"ชิงอีรีบเรียกคนเข้ามาจุดถ่านจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเองก็ได้ยินเรื่องที่เรือนหลักจะจุดถ่าน ก็รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนพาฟู่จาวหนิงก
ชิงอีเดินเข้ามาแล้ว พอเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกอย่างกับอยู่ในสนามรบแต่เพื่อให้ท่านอ๋องดีขึ้น ตอนนี้ทิ้งไป๋ซวงไว้ที่นี่คอยปรนนิบัติก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง"พระชายา ไป๋ซวงบอกว่าท่านอ๋องเวลานี้ห้ามห่มผ้าห่มหลายชั้น เขาจะหายใจไม่ออกเอา"ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา"เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่ที่นี่ปรนนิบัติแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเตรียมลุกออกไปตอนนี้เองเซียวหลันยวนก็ฟื้นขึ้นมา ยื่นมือคว้าฟู่จาวหนิงไว้ จับมือนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงถูกมือเย็นเฉียบของเขาจับจนสะดุ้งโหยง คิดจะสะบัดมือเขาออก แต่ว่าเขาก็กำเอาไว้แน่น"ห้ามไป"เซียวหลันยวนแม้จะตื่นแล้ว แต่แค่ลืมตาเล็กน้อยก็หมดแรงจนต้องปิดลงไปอีก"ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่ที่นี่ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าน้อยจะรับใช้ท่านอย่างดี"ไป๋ซวงเห็นเซียวหลันยวนกำมือฟู่จาวหนิงไม่ปล่อย ในใจก็ริษยาเหลือแสนก่อนหน้านี้แม้ว่านางจะคอยปรนนิบัติท่านอ๋อง แต่อย่างมากก็แค่ตอนที่ท่านอ๋องไม่อยู่บนเตียงนางคอยช่วยจัดปูผ้าห่มแทนเขาให้เท่านั้น ไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้เลยแต่ก่อนเวลาที่ท่านอ๋องอาการกำเริบไม่เคยอนุญาตให้พวกนางเข้าใกล้ กระทั่งพอพวกนางปูเตียงให้เสร็จก็ให้พวกนางออกไปทัน
เซียวหลันยวนกอดนางไว้แน่น"ทำไมเจ้าถึงได้อุ่นขนาดนี้?" เสียงของเขาดึงทุ้มต่ำที่ข้างหูนางกอดนางไว้ ดีกว่าผ้าห่มเป็นไหนๆเขากอดนางไว้แน่น ผ่อนลมหายใจออกช้าๆฟู่จาวหนิงจู่ๆ กลับคิดเรื่องหนึ่งออก น่าจะห้าหกปีที่แล้ว นางเข้าไปหายาในภูเขา หลงเข้าไปอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ถูกขังอยู่ในนั้นสามวันในถ้ำมีภูเขามีถ้ำหินที่มีน้ำหยดอยู่แห่งหนึ่ง หินก้อนหนึ่งถูกหยดเซาะจนกลายเป็นภาชนะเหมือนชามใบหนึ่ง ใส่น้ำเอาไว้จนเต็มชามนางตอนนั้นอาศัยชามหินนั่นบรรจุน้ำ และสามวันนั่นก็ดื่มน้ำนั้น หลังจากออกมา ร่างกายกลับไม่มีอะไรผิดปกติ แถมยังกระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นร้อยเท่าเลยด้วยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา อาการกลัวหนาวตอนที่ฤดูหนาวมาถึงแต่เดิมก็หายไปแล้ว ตอนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ อีกแล้วตอนนี้เซียวหลันยวนรู้สึกว่านางอุ่น จะเกี่ยวกับสิ่งนั้นหรือเปล่านะ?น้ำที่นางดื่มไปในครั้งนั้น จะสามารถระงับพิษอาการกำเริบหนาวเหย็นของเขาได้ไหม?นั่นแม้จะเป็นความทรงจำของคุณหนูฟู่ แต่นางก็ยัจำได้ว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ใด"เซียวหลันยวน ข้าจู่ๆ ก็คิดถึงสถานที่หนึ่งที่มีน้ำแร่ภูเขาหยดลงมาออ
ฟู่จาวหนิงหลังจากตื่นขึ้นมาก็ทุบหัวตัวเองอย่างอดไม่อยู่นางต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!อยู่ดีดีทำไมถึงไปนอนอยู่กับเจ้าก้อนน้ำแข็งนั่นกัน?ยิ่งไปกว่านั้นยังหลับไปตั้งชั่วยามกว่า!นางเดิมทีตอนที่ตื่นมาเซียวหลันยวนยังไม่ตื่น แต่ว่าหลับสนิทมาก จึงไม่ได้กอดนางไว้แน่นมากแล้ว ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตอนนี้พอเผชิญหน้ากับเขารู้สึกขายหน้าหน่อยๆ ก้าวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา จัดระเบียบเสื้อผ้าตนเอง หันหน้ากลับมามองเขาผาดหนึ่ง""ผู้ชายน่าเกลียดตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติแล้วหรือ?" นางขบเขี้ยวเคีั้ยวฟันเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วในเมื่อเขาไม่เป็นไรแล้ว นางก็รีบหนีดีกว่าฟู่จาวหนิงรีบหนีออกมาเสี่ยวเถารอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้วนางมาจวนอ๋องเจวี้ยนเป็นครั้งแรก รู้สึกแค่ว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเสียเลย หงจั๋วพานางมาที่เรือนเจียนเจีย นางเห็นว่าคุณหนูอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนกลับต้องมาพักอยู่ในเรือนแบบนี้ ไม่ใช่การสิ่งที่พระชายาต้องได้รับเลย ในใจตุ้มต่อมอย่างมากแต่หลังจากหงจั๋วกลับมาก็ยิ้มตาหยีบอกกับนางว่า ท่านอ๋องกับพระชายาเหนื่อยจนพักผ่อนไปแล้ว ทำให้นางรออย่างวางใจ แล้วนางจะวางใจลงได้อย่างไรกัน?"พระชายา"
ฟู่จาวหนิงแม้จะรู้ว่าเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ธรรมดา เป็นของจากในวังแน่นอน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนักหนาขนาดนี้แต่นางไม่ได้กลับมาไถ่ของคืนนี้ แล้วเป็นใครกัน?ถ้าเซียวหลันยวนถึงตอนนั้นทวงนางกลับ นางจะเอาของสองชิ้นนั้นจากไหนมาคืนเขากันล่ะ?ฟู๋จาวหนิงกลับมาบ้าน แต่กลับมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนมาแล้วหรือ?นางรีบเดินออกไป ฟู่รั่วเสวี่ยกับหลินอี๋เจินกลับอยู่ข้างรถม้าสองคนนี้ทำไมจึงมาอยู่ด้วยกัน?"จาวหนิง!""ท่านพี่"ทั้งสองคนมองฟู่จาวหนิงเข้ามา ก็ล้วนรีบทักทายนาง และแอบมองรถม้าไปด้วย"พี่เขยมาหาเจ้าน่ะ" หลินอี๋เจินพูดขึ้นฟู่จาวหนิงไม่สนใจพวกนาง มองไปทางรถม้าเซียวหลันยวนเลิกม่านรถม้า"ข้ามาส่งเงินให้น่ะ""ส่งเงิน? ส่งเงินอะไร?" เซียวรั่วเสวี่ยประหลาดใจฟู่จาวหนิงพอเห็นสีหน้าเซ๊ยวหลันยวนก็รู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง เขาต้องไม่พูดอะไรดีดีออกมาแน่!"ท่านอย่าบอกนะว่า..."นางยังพูดไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ยิ้มขึ้นมา ยื่นแท่งเงินสองก้อนออกมา เอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน "วันก่อนที่เจ้านอนอยู่กับข้า ข้ารับปากว่าจะมอบเงินให้ พอเจ้าตื่นมายังไม่ทันได้เงินก็ออกมาเสียแล้ว ข้าเลยเดินมาทาง
ชายคนนั้นเองก็ถลึงตาโตมองฟู่จาวหนิงด้วยแน่นอนว่าเขาเองก็ได้ยินชื่อเสียงของฟู่จาวหนิงมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะมีวันหนึ่งได้มานั่งอยู่ตรงหน้าฟู่จาวหนิงใกล้ๆ แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังจับชีพจรให้ตนเองอีกด้วยนอกจากนี้ สีหน้าของฟู่จาวหนิงก็เคร่งขรึม แต่ไม่ใช่ความรังเกียจหรือหวาดกลัวแบบที่คนอื่นเห็นเขา ไม่มีความไม่สงบไม่มีความกลัวลนลานเอาแค่จุดนี้ ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงมีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆปากของเขาขยับ อยากจะพูดอะไร ต่อให้หมอเทวดาหลี่มาดูอาการให้เขา หมอเทวดาหลี่ตอนนี้ก็น่าจะสีหน้าไม่สู้ดีนักใครจะไม่รังเกียจเขาบ้าง"คลายจุดใบ้ของเขาเสีย" ฟู่จาวหนิงบอกกับสืออีสืออีไม่ลังเล หนึ่งนิ้วกดหนึ่งการเคลื่อนไหว จัดการคลายจุดใบ้ของชายหนุ่มคนนี้ทันทีไม่รอให้ชายคนนี้เอ่ยปาก ฟู่จาวหนิงก็พูดขึ้นว่า "ในเมื่อเจ้ามาที่นี่เพื่อยา เช่นนั้นก็หมายความว่าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ อยากจะรักษาโรคใช่ไหม?"ชายหนุ่มออกแรงพยักหน้าทันทีนี่ก็แน่นอนอยู่แล้ว ถ้ามีชีวิตต่อได้ใครจะอยากตายกัน? ถ้ารักษาโรคได้ ใครจะไม่อยากรักษา?"ในเมื่ออยากจะรักษาโรค เช่นนั้นก็ห้ามอาละวาดอีก ถ้าถามอะไรเจ้าก็ตอบม
ฟู่จาวหนิงเดินมาถึงตรงหน้าเขา เห็นผ้าคลุมหน้าของเขาดึงลงมาปิดปากอีกครั้ง นางพลิกมือ แล้วก็ไม่รู้ว่าในมือปรากฏมีดเล็กเปล่งประกายเล่มหนึ่งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรพอนางโบกมือ ก็ใช้มีดเล็กจัดการกรีดผ้าปิดหน้าของชายคนนั้นออก พอผ้าร่วงลงมาก็เผยสภาพของชายคนนี้ให้เห็นใบหน้าเขา ข้างจมูก มีหลายตำแหน่งเน่าไปแล้วจริงๆ ใบหน้าเองก็บวมแดงขึ้นหน่อยๆมีคนเห็นสภาพเขาก็ร้องตกใจออกมา"หน้าของเขาเน่าไปแล้วจริงๆ!""คนคนนี้ติดโรคระบาดไปแล้ว!"ชั่วขณะหนึ่ง คนทั้งหมดล้วนตกตะลึงถอยห่างอีกครั้ง มีบางส่วนขี้ขลาดกลัวตาย กระทั่งหมุนตัวตั้งท่าจะวิ่งหนีน่ากลัว ที่นี่มีคนป่วยอยู่!ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะถูกระบาดเข้าหรือเปล่า! พวกเขากล้าอยู่ต่อกันเสียที่ไหน?ฟู่จาวหนิงก็เหมือนร้ว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ตอนนี้ถึงอย่างไรก็ให้แขกเหล่านี้ทั้งหมดวิ่งออกไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาเอาออกไปลือกัน ก็ไม่รู้ว่าพันธมิตรโอสถจะถูกลือกันไปแบบไหนดังนั้น นางจึงเอ่ยขึ้นมาว่า"คนผู้นี้ใบหน้าเน่าไปแล้ว แต่พวกเจ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นโรคเดียวกับชินอ๋องเซียวหรือไม่ใช่ไหม? ตอนนี้ข้าจะตรวจอาการเขา ข้ายังไม่หนีเลย แล้วพวกเจ้ากลัวอะไรกั
"พระชายา มีคนมาอาละวาดที่นี่"สืออีสือซานวันนี้ตามมาด้วย ไป๋หู่วันนี้พักผ่อนฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็รู้ว่าตนเองออกมาข้างนอก ในเมืองหลวงก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย ดังนั้นพอพาสืออีสือซานออกมา นางก็ยังพาเฝิ่นซิงมาด้วยเฝิ่นซิงพอเข้ามาก็ได้ยินชายคนนั้นเอะอะโวยวาย หน้าก็ขรึมลงไปทันทีจากที่นางเห็น พระชายาลงแรงปรุงยาเหล่านี้ คิดเอาไว้อย่างรอบคอบ การให้คนในพันธมิตรมาต้ม ถือว่าพิจารณาเอาไว้รอบด้านแล้ววัตถุดิบยาบวกกับฟืนไฟ แล้วยังมีเงินค่าแรงที่เหล่าพนักงานมาทำให้ หนึ่งชามสิบเหวิน พูดได้ว่าถูกมากแล้วเหล่าประชาชนควรจะรู้สึกว่า่โชคดีจึงจะถูก ทำไมถึงมีคนเข้ามาอาละวาดได้กัน?"สืออีสือซาน เข้าไปดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็เห็นชายคนนั้นแล้ว ตอนที่นางหันหน้ามา นางก็เห็นชายคลุมหน้าคนนั้นแล้วนางรีบเสริมเข้ามาให้คำหนึ่ง "ระวังหน่อย อย่าให้ถูกเขาข่วน แล้วก็อย่าโดนเลือดเขาด้วย"ถึงแม้ชายคนนี้พันหน้าไว้อาจจะไม่มีเรื่องอะไร แต่ถึงอย่างไรก็มาซื้อยา แล้วยังแต่งตัวเสียขนาดนี้ นางระวังไว้ก่อนดีกว่า"ขอรับ พระชายา" สืออีกกับสือซานช่วงนี้ตามติดฟู่จาวหนิง แน่นอนว่าเข้าใจความหมายของนางอยู่ทั้งสองคนรีบขึ้นหน้าไปแ
เสียงของชายคนนั้นทุ้มต่ำ ดวงตาก็กวาดมองไปทั่ว ไม่กล้าสบตากับพนักงานตรงๆพนักงานเองก็บอกกฏกับเขาแล้ว"ถ้าท่านคิดจะซื้อ ตอนนี้ก็เอาไปก่อนสามชาม""สามชามจะไปพออะไร? ชามของข้านี่อย่างน้อยก็ใส่ได้ยี่สิบชามเลยนะ! เจ้ารีบเติมให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เกรงใจกับเจ้าแล้วนะ!""คุณลูกค้า ที่นี่เป็นพันธมิตรโอสถ ขอเตือนท่านอย่ามาก่อเรื่องที่นี่เลย" พนักงานหน้าเริ่มดำขึ้นมาแล้วเขาเห็นที่นี่เป็นร้านขายยาธรรมดา เลยคิดจะทำตัวแบบนี้ได้หรือ?"ข้าก็ไม่ใช่ว่าไม่ให้เงินเสียหน่อย! พวกเจ้าถือดีอะไรไม่ขายให้ข้า?""ข้าบอกกฏกับท่านไปแล้ว นี่คือกฏที่หมอเทวดาฟู่วางไว้!""หมอเทวดาฟู่? ก็แค่หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่หรือ? ข้าได้ยินว่าผู้จัดการใหญ่ที่นี่สกิลต่ง ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะตัดสินใจได้เสียหน่อย! นางถือดียังไงมากำหนดกฏเกณฑ์ในพันธมิตรโอสถ?"น้ำเสียงชายพันหน้าฟังแล้วเริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว"ยานี้เป็นหมอเทวดาฟู่ที่ปรุงออกมา ถ้าท่านมาดูถูกหมอเทวดาฟู่ เช่นนั้นก็อย่ามาซื้อยาสิ" พนักงานหัวเราะเย็นชาขึ้นมาคนผู้นี้น่าขำเสียจริง มาซื้อยาที่ฟู่จาวหนิงปรุง แต่กลับดูหมิ่นฟูจาวหนิงหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น ใครไม่รู้บ้างว่า
ฟู่จาวหนิงปรับปรุงสูตรยา ใช้วัตถุดิบยาที่หาได้ทั่วไปบางส่วน แล้วตนเองก็ปรับปริมาณให้ จากนั้นทุกวันก็ให้คนของพันธมิตรต้มออกมาสามหม้อใหญ่ แล้วอุ่นบนเตาเอาไว้ตลอดคนที่มาซื้อยาเหล่านั้น สามารถใช้ชามของพันธมิตรโอสถ ตอนที่ดื่มเสร็จแล้ว ก็เอาชามกลับมาได้ตอนแรก ต่งฮ่วนจือรู้สึกว่ายาน้ำเช่นนี้ไม่น่าจะขายออก แล้วยังตั้งสามหม้อใหญ่แน่ะ หม้อนั้นก็ใบมโหฬารเลยทีเดียว เป็นหม้อใหญ่ที่เอาไว้ต้มข้าวต้มให้ผู้ประสบภัยตอนช่วงเกิดภัยพิบัติสมัยก่อนยาน้ำสามหม้อใหญ่เต็ม สามารถขายได้หลายร้อยชามแล้ววันเดียวจะขายออกได้หรือ? มีคนมากมายจะมาดื่มยาน้ำขนาดนี้เลยหรือ? ถึงอย่างไรเจ้านี่ก็ไม่ใช่ของดีอะไรมากถ้าขายไม่หมดก็ต้องเททิ้ง สิ้นเปลืองวัตถุดิบยาแย่แต่ผู้อาวุโสจี้ก็ตัดสินใจทันที ให้ผู้ดูแลของพันธมิตรโอสถจัดการเรื่องนี้ผลคือพอปล่อยชื่อเสียงของฟู่จาวหนิงออกไป คนที่มาดื่มยาก็ยังมากกว่าตามโรงน้ำชาหอสุราเสียอีกยาน้ำสามหม้อใหญ่ ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียววันถัดมา ก็ขายขายหมดเหมือนเดิม กระทั่งมีคนไม่ได้ดื่มด้วยซ้ำ มาถามพวกเขาว่าขายยาไปต้มกินเองเลยได้ไหมแต่ฟู่จาวหนิงก็มีวิธีของนางอยู่ยาชนิดนี้ทำได้แค่ป้
ต่อมาหมอเทวดาหลี่ก็ทำหน้าขรึมคุกคามสาวใช้สองคนนั้น ถ้ายังไม่รับใช้ปรนนิบัติดีดี ก็จะขายพวกนางทั้งสองคนไปที่ซ่องโสเภณีเสียสาวใช้สองคนจึงร้องไห้ฟูมฟายเข้ามารับใช้ปรนนิบัติองค์จักรพรรดิเองก้ได้ยินเรื่องเลห่านี้ของจวนชินอ๋องเซียวแล้ว"บอกไปแล้วว่าจวนชินอ๋องเซียวต้องคอยระวังไม่ให้เข้าออก หมอเทวดาหลี่กับชินอ๋องเซียวนี่มัน..."เขาทำหน้าขรึม รู้สึกว่าตนเองไม่มีบารมีเอาเสียเลย จวนอ๋องเจวี้ยนก็ไม่เชื่อฟัง ตอนนี้จวนชินอ๋องเซียวเองก็ด้วยหรือ? ใครให้หน้าพวกเขากันถ้าไม่ใช่เพราะเขาอันที่จริงก็กลัวเจ้าโรคนั้น ตอนนี้คงเรียกเซียวเหยียนจิ่งมาด่ากราดให้เลือดซิบไปแล้ว"ตอนนี้หลี่จื่อเหยาในเมื่อถูกหมอเทวดาหลี่รับไปแล้ว เช่นนั้นก็ให้เขาไปรักษาให้ดี ข้าเองก็อยากจะเห็นว่าเขาจะรักษาเจ้าโรคนี้ได้หรือเปล่า!""องค์จักรพรรดิ พระชายาอ๋องเจวี้ยนทางนั้นต้มยาน้ำออกมา ตอนนี้สามารถป้องกันล่วงหน้าได้แล้ว หาซื้อได้ในพันธมิตรโอสถ หนึ่งชามสิบเหวิน" มีคนเข้ามารายงานกับองค์จักรพรรดิ"หนึ่งชามสิบเหวิน?" องค์จักรพรรดิใจสั่นกึก "แล้วได้ผลจริงไหม?""นี่ก็ยังไม่รู้ แต่คนที่ไปซื้อยานั้นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่เคยสัมผัสกั
จวนชินอ๋องเซียวกลายเป็นขี้ปากคนทั้งเมืองไปแล้วเซียวเหยียนจิ่งอยากจะปิดเรื่องนี้ไว้ แต่ยิ่งปิดกลับยิ่งรุนแรงขึ้นกระทั่งเพราะเขาไปพยายามปิดข่าวลือ เลยมีคนบอกว่าเขาถูกพ่อสวมเขาให้เสียแล้ว หน้าตาป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี และเพราะกลัวคนจะมาล้อเลียนว่าบ้า ดังนั้นจึงพยายามอย่างหนักที่จะหยุดข่าวลือนี้ข่าวลือคาวๆ แบบนี้ ลือกันได้ไวที่สุด และลือกกันไปอย่างพิลึกพิลั่นที่สุดด้วยหลี่จื่อเหยาตอนนั้นมาพัวพันเซียวเหยียนจิ่ง ทำทุกทางเพื่อทำลายพิธีแต่งงานของเซียวเหยียนจิ่งกับฟู่จาวหนิง นางตอนนั้นเอาแต่เรียกเขาว่า "พี่เซียว" ปาวๆ แต่ตอนนี้เพิ่งผ่านไปสองปี ทำไมจึงปีนไปถึงเตียงของพ่อพี่เซียวแล้วกัน?"ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้หลี่จื่อเหยาเป็นโรคระบาดนั่น รัฐทายาทเซียวก็คงจะยังไม่รู้เรื่องรู้ราว""เมื่อเป็นแบบนี้ จวนชินอ๋องเซียวคงจะวุ่นวายขึ้นจริงๆ แล้ว""แล้วไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็โชคดีแล้วที่พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนั้นไม่ได้แต่งงานเข้าจวนชินอ๋องเซียว นี่ถือว่าแคล้วคลาดเลยสินะ?"ในเมืองหลวงทุกที่มีแต่คนกระซิบกระซาบกันเช่นนี้ แต่คนที่พูดถึงฟู่จาวหนิงก็มีแค่ส่วนน้อยถึงอย่างไรตอนนี้ฟู่จาวหนิงก็เป็นพระชายาอ๋องเจว
เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าตอนนี้ถ้าให้คนนอกรู้เรื่องที่หลี่จื่อเหยาเป็นโรคนี้เข้า คงจะน่าอับอายมากโดยเฉพาะหลี่จื่อเหยาที่ติดโรคระบาดนั้นดังนั้นเรื่องนี้จะต้องเก็บให้สนิท ห้ามเผยแพร่ออกไปเด็ดขาดแต่คนอื่นกลับไม่คิดแบบเขาอย่างเช่นเซียวหลันยวนจังหวะที่หมอเทวดาหลี่กลับมาถึงเมืองหลวง เซียวหลันยวนก็ได้รับข่าวแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งไปรับหมอเทวดาหลี่เลยถึงแม้จะผ่านไปสามปีแล้ว แต่เรื่องที่หลี่จื่อเหยากับเซียวเหยียนจิ่งทำกับฟู่จาวหนิง เซียวหลันยวนไม่เคยปล่อยผ่านโดยเฉพาะที่ช่วงนี้เซียวเหยียนจิ่งเริ่มหันมาสนใจฟู่จาวหนิงอีกครั้งหลังจากสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกลับมา เซียวเหยียนจิ่งก็ยังแอบคิดจะทำอะไรอีก สิ่งนี้เซียวหลันยวนจะทนได้อย่างไร?ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาหลี่รับลูกสาวออกไปจากจวนชินอ๋องเซียว เซียวหลันยวนก็ได้รับข่าวแล้ว"ท่าน อ๋อง จากที่หญิงรับใช้ร่างใหญ่ในเรือนหลี่จื่อเหยาบอก หลี่จื่อเหยาไปรื้อเตียงของชินอ๋องเซียวเข้า..."องครักษ์ลับมารายงานข่าวที่ได้รับมากับเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงนั่งฟังอยู่ข้างๆ พอได้ยินเช่นนี้นางก็หัวเราะพรวดออกมานี่มันช่าง...นางยังอยากจะพ
ต่อให้ชินอ๋องเซียวติดโรคระบาด ถ้าตอนนี้ฟู่จาวหนิงเป็นภรรยาเขา พวกเขาก็คงไม่ต้องมากลัวแบบนี้!ไม่เห็นว่าเซียวหลันยวนที่ถูกส่งไปขังในคุกใหญ่ตั้งหลายวัน จนป่านนี้ก็ยังเรียบร้อยดีไม่เป็นอะไรหรือ?จวนอ๋องเจวี้ยนก็ถูกองค์จักรพรรดิบอกว่าห้ามออกไปข้างนอกส่งเดชเหมือนกัน แล้วดูตอนนี้สิ?ฟู่จาวหนิงไม่ใช่ว่าอยากออกไปไหนก็ออกได้หรือ?ฟู่จาวหนิงแบบนั้น เขาอยากได้มาจริงๆ!ถ้าตอนนั้นไม่มีหลี่จื่อเหยา ตอนนี้ฟู่จาวหนิงก็เป็นพระชายารัฐทายาทของเขาแล้ว ไม่ใช่ขยะอย่างหลี่จื่อเหยาคนนี้!พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ในสายตาเซียวเหยียนจิ่งที่มองหลี่จื่อเหยาก็มีแต่ความเกลียดชังหลี่จื่อเหยาสบกับสายตาของเขา ก็เหมือนสัมผัสได้ถึงความเย็นเยือก ใจนางเย็นวาบไปทันทีนี่คือพี่เซียวที่นางรักมาหลายปีหรือ? ถึงแม้สองปีนี้จะทะเลาะกับเขาอย่างหนัก แต่ตอนนี้เอง นางเพิ่งรู้สึกถึงความหนาวเย็นจนเสียดกระดูกหลี่จื่อเหยาเองก็เกลียดเซียวเหยียนจิ่งขึ้นมาทันทีเช่นกัน"ท่านอยากจะส่งข้าออกไป ข้าจะไม่..." ออกไปหรอกนางยังพูดไม่ทันจบ เซียวเหยียนจิ่งก็ตัดบทนางแล้ว มองไปทางหมอเทวดาหลี่ "ถัดจากนี้ในเมืองหลวงอาจจะเกิดการแตกตื่นกลัวกันเพร