ซุนฉงหมิงพอพูดออกมา สีหน้าของพวกต่งฮ่วนจือก็ดูไม่ดีเสียแล้ว"คำพูดคำจาของผู้เฒ่ารองซุนหนักข้อกว่าปีก่อนๆ นี้อีกนะ" ผู้อาวุโสจี้ร้องเฮอะขึ้นมา"สหายจี้ควรจะฟังคำแนะนำที่ดีด้วยนะ พวกเจ้าลองดูสิ วัตถุดิบยาชั้นดีอย่างแมลงผีเสื้อกลางคืนเหล็กนั่น เจ้าก็ยังไม่รู้จักเลยกระมัง?"ซุนฉงหมิงตอนที่พูด คนหนุ่มเหล่านั้นของตระกูลซุนก็จัดการลดวงล้อมเข้ามา ค่อยๆ เดินเข้าไปยังต้นไม้ใหญ่ที่แมลงผีเสื้อกลางคืนเหล็กตัวนั้นเกาะอยู่ชายหนุ่มที่หยิบถุงคนนั้นตอนที่เดินไม่มีเสียงเลย การเคลื่อนไหวแผ่วเบาเอามากๆ สองคือเขาจับถุงเอาไว้ชายหนุ่มอีกด้านหนึ่งในมือหยิบกระบอกไม้ไผ่ ตอนที่เข้าใกล้จู่ๆ ก็ยกกระบอกไม้ไผ่ไว้ข้างปาก เป่าควันกลุ่มหนึ่งออกไปใส่แมลงผีเสื้อกลางคืนเหล็กตัวนั้นพรึ่บแมลงผีเสื้อกลางคืนตัวนั้นบินทะยานขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตอนที่เจอเข้ากับควันความเร็วของมันก็ชะงักไป พริบตานี้เอง ถุงในมือของชายหนุ่มก็ครอบลงไปที่ตัวมันจัดการเก็บมันเข้าไปในถุงอย่างรวดเร็ว"จับได้แล้ว!"เขามัดปากถุงแน่นอย่างไว ส่วนชายหนุ่มอีกคนก็รีบเป่าควันไปทางถุงอีกสองฟอดการบินกระแทกในถุงอย่างรุนแรงด้านใน เพียงไม่นานก็หยุดลง ท้า
"เจ้าคือ?"ซุนฉงหมิงมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่สวมผ้าบางไว้บนหัว"ข้าคือ..."ซือถูไป๋เดินขึ้นขวางนางไว้"ได้ยินชื่อเสียงของผู้เฒ่ารองซุนมานาน ซือถูไป๋แห่งโรงยาทงฝูขอคารวะ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจู่ๆ ถูกเขาบังไว้ด้านหลัง จึงมองแผ่นหลังซือถูไป๋อย่างประหลาดใจ แต่นางก็ยังปิดปากลงไม่พูดต่อ และก็ไม่คิดจะอ้อมตัวเขาเดินขึ้นไปอีก แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างหลังเขา"คุณชายน้อยโรงยาทงฝูหรือ? เคยได้ยินมาเหมือนกัน"ซุนฉงหมิงพิจารณาตัวซือถูไป๋ แต่ก็พูดแค่คำเดียวเท่านั้น ไม่รู้สึกสนใจจะพูดอะไรต่อ"สหายจี้ ถึงอย่างไรข้าก็เล่าสถานการณ์หมู่บ้านเล็กนั้นแล้ว ตอนนี้พวกชาวบ้านน่าจะย้ายบ้านกันหมดและตรงไปยังแคว้นหมิ่นเรียบร้อย พวกเจ้ายังจะเข้าไปในหมู่บ้านอีกหรือ?"พูดจบก็ไม่รอให้ผู้อาวุโสจี้ตอบ เขากวักมือ พาคนหนุ่มในตระกูลเหล่านั้นออกไป "พวกเราขอตัวก่อน ไปเจอกันที่เมืองจี้แล้วกัน"แล้วพวกเขาก็ออกไปรอจนไม่เห็นร่างของพวกเขา ไม่ได้ยินเสียงพวกเขาแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจึงยื่นมือมาสะกิดแผ่นหลังซือถูไป๋"ทำไมท่านไม่ให้ข้าพูด?""ผู้เฒ่ารองซุนไม่ใช่แค่วิชาแพทย์ร้ายกาจ แต่ยังถนัดใช้พิษอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม
ซือถูไป๋เดินออกไปข้างๆ สองก้าว ออกห่างจากนางหน่อย"องค์หญิงใหญ่อันที่จริงสามารถไปถามฝ่าบาทอีกครั้งหลังกลับไปได้ เชื่อว่าฝ่าบาทจะต้องเล่าให้ท่านฟังอย่างละเอียดแน่"พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ สายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจึงหม่นลงมาเล็กน้อยซือถูไป๋ปฏิเสธนางอย่างชัดเจนนี่มันเพราะอะไรกัน?นางรู้ว่าซือถูไป๋จะเว้นระยะห่างกับนาง เพื่อไม่ให้ฟู่จาวหนิงเข้าใจผิดแต่ฟู่จาวหนิงมีอะไรต้องเข้าใจผิดล่ะ? นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนแคว้นเจานี่ แต่งงานไปแล้ว ยังจะมาสนใจว่าซือถูไป๋อยู่ใกล้ใครด้วยหรือ?ยิ่งไปกว่านั้นซือถูไป๋ทำไมต้องทุ่มเทสุดใจกับฟู่จาวหนิงเช่นนี้ด้วย?แน่นอนว่า ฟู่จาวหนิงหน้าตาดีเอามากๆ แต่นางเองก็ไม่ได้แย่นี่ ฟุ่จาวหนิงวิชาแพทย์ยอดเยี่ยมเกินใคร แต่นางก็ยังมีโชคดีอยู่กับตัวนะฟู่จาวหนิงแต่งงานแล้ว ร่างกายก็น่าจะไม่บริสุทธิ์แล้วไหม แต่นางยังสะอาดผุดผ่อง ตัวตนฐานะก็ยังสูงส่งพอมาดูนิสัย นางรู้สึกว่านิสัยตนเองก็ยังดีกว่าฟู่จาวหนิงเยอะ นางทั้งเกรงใจและอ่อนโยนกับซือถูไป๋มาตลอด พูดจาอ่อนหวาน แต่ฟู่จาวหนิงมีแต่เย็นชาใส่ซือถูไป๋เห็นๆ อยู่ว่าซือถูไป๋มีใจให้นาง แต่ฟู่จาวหนิงก็ไม่ไว้หน้ามาตลอดพอ
คำพูดนี้แปลกๆ หน่อยยิ่งไปกว่านั้นพอนางพูดจบยังเหลือบมองต่งฮ่วนจือผาดหนึ่งด้วย สายตาเหมือนมีความเห็นใจต่งฮ่วนจือมองออกว่านางเห็นใจตนเอง จึงนิ่งขรึมไม่พูดจาฟู่จาวหนิงเองก็เหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่งนางไม่รู้ว่าเพราะอะไรองค์หญิงใหญ่จู่ๆ ก็ไม่คิดจะอำพรางร่องรอยตนเอง วิ่งแจ้นออกมาปรากฏต่อหน้านางเพื่ออะไรกัน?"ไปเถอะ กลับกัน"ผู้อาวุโสจี้พอตัดสินใจกลับ ก็ไม่ชักช้าอีกตอนที่พวกเขากำลังจะออกไป องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับมองไปทางสองคนที่อยู่ใต้ต้นไม้นั่น"แล้วสองคนนี้จะทำอย่างไรดี?"นางยื่นมือไปทางชายคนที่ยังอยู่ในท่าเดิมเช่นนั้น ปากก็ยังอ้าค้างอยู่"ระวัง..."องครักษ์ของนางรีบเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังคงยื่นมือเข้าไปวัดลมหายใจของชายคนนั้น นางอุทานร้องออกมา"เอ๊! คนคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่!"คำพูดนี้ทำให้คนทั้งหมดหยุดลงมาคนคนนั้นยังคงแข็งทื่ออยู่ท่าเดิม ดูเหมือนจะตายไปแล้ว แต่ยังมีลมหายใจอยู่หรือ?"แม่นางฟู่ ท่านเป็นหมอ ท่านรีบมาดูอาการเร็ว ท่านไปแบบนี้ไม่ได้นะ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหันหน้ามองไปทางฟู่จาวหนิงสีหน้าและน้ำเสียงของนางมีเชิงตำหนิหน่อยๆ เพรา
"เมื่อครู่ผู้เฒ่ารองซุนก็บอกแล้ว ท่านไม่ได้ยินหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิงไม่อยากพูดอะไรมากจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ดูท่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่ยอมให้พวกเขาออกไปด้วย"เขายังไม่ได้มาดูเลย" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่เชื่อแม้แต่น้อยนางยื่นมือออกไปอีกครั้ง นิ้วจับไปที่ลมหายใจของชายอีกคน สัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็อุทานออกมาอีกครั้ง "จริงๆ นะ คนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่! ท่านไม่เชื่อก็เข้ามาดูสิ"สองคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่แท้ๆ ฟู่จาวหนิงทำไมจึงไม่คิดจะช่วยพวกเขา?"ศิษย์น้องหญิง ถ้าอย่างไรให้ข้าเข้าไปดูหน่อยเถอะ ถ้าช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ ค่อยว่ากัน" ต่งฮ่วนจือเองก็ร้อนรนขึ้นมาแล้วถ้านี่เป็นคนในตระกูลใหญ่ของเมืองจี้ ถึงตอนนั้นรู้ว่าพวกเขาเจอแล้วแต่กลับนิ่งดูดาย เกรงว่าคงกระเทือนไปถึงพันธมิตรโอสถแน่"ท่านอาจารย์เองก็อยู่ที่นี่นะ อย่าทำให้ต้องกระเทือนไปถึงชื่อเสียงท่านอาจารย์เลย" ต่งฮ่วนจือกดเสียงต่ำ เขากำลังเตือนฟู่จาวหนิงด้วยความหวังดี"ถ้าอย่างนั้น ให้ข้าเข้าไปดูก่อน ข้าจะลองดูว่าเขายังมีลมหายใจจริงไหม จากนั้นจะวางพวกเขานอนลง แบกห่างออกมาจากใต้ต้นไม้หน่อย แล้วเจ้าค่อยไปจับชีพจรพวกเขาแล้วกัน ดีไหม?""ท่าน
เมื่อครู่ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาล้วนถอยออกมาอีกตามสัญชาตญาณ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ถอยมาหลายก้าวตอนนนี้พวกเขามองสี่ศพตรงหน้า แต่ละคนล้วนรู้สึกสันหลังวาบ ชั่วขณะหนึ่งไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาสักคำต่งฮ่วนจือรู้สึกหวาดผวาหลังเกิดเรื่องเมื่อครู่นี้ถ้าเขาเข้าไปตรวจสอบสองคนนั้นจริงๆ ...ตอนนี้เขาเองก็คงตายอยู่ตรงนั้นแล้วไหม?โชคดีที่ศิษย์น้องหญิงห้ามเขาไว้!ต่งฮ่วนจือหันหน้ามามองฟู่จาวหนิง เห็นเพียงฟู่จาวหนิงเม้มปาก สีหน้าเคร่งขรึมเขาผิดที่ไปตำหนิศิษย์น้องหญิงเสียแล้ว เขาเมื่อครู่พอได้ยินคำพูดขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้วยังรู้สึกว่าศิษย์น้องหญิงเย็นชาไร้น้ำใจเหลือเกินศิษย์น้องหญิงบอกว่าสองคนนั้นช่วยไม่ได้แล้ว ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงนางไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจก็รู้แล้วฟู่จาวหนิงเหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่งจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าโชคขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนี่ดีจริงๆ นางตอนแรกไปแตะสองคนนั้น แล้วยังยื่นมือเข้าไปด้วย แต่สองคนนั้นก็ไม่สำรอกออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าขาตนเองอ่อนยวบไปแล้วกลิ่นที่นี้ทำเอาท้องของนางปั่นป่วน"ฮ่วนจือ หลังจากนี้เจอเรื่องอะไรก็ต้องคิด
ศิษย์ที่พันธมิตรให้รออยู่ที่นี่บอกพวกเขาว่า "หมอเทวดาซุนพาพวกรุ่นหลังตระกูลซุนออกไปแล้ว บอกกับทุกคนว่าชาวบ้านย้ายไปหมดแล้ว วัตถุดิบยาเองก็เอาไปหมดแล้วเช่นกัน ดังนั้นทุกคนจึงเชื่อแล้วกลับเมืองหลวงไปหมด"ส่งสัญญาณว่าจะกลับเมืองหลวง คนในป่าก็ออกมาหมดแล้ว"แต่ว่าน่าจะยังมีคนส่วนน้อยที่อยู่ในนั้นแล้วไม่ได้ยินสัญญาณ"ผู้อาวุโสจี้ถอนใจ "ดูท่าทุกคนจะเชื่อผู้เฒ่ารองซุนมาก"ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางกลับไปหลังจากไ้ดยินคำพูดของเขาหรอก"คนของสมาคมหมอใหญ่เองก็คุ้นเคยกับผู้เฒ่ารองซุนมาก และล้วนรู้จักแคว้นหมิ่นกัน รู้ถึงพลังตระกูลซุนของเขา" ต่งฮ่วนจือเอ่ยขึ้นซือถูไป๋เดินอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง "คนของสมาคมหมอใหญ่ล้วนเชื่อมั่นตัวผู้เฒ่ารองซุนขนาดนี้ แล้วในการแลกเปลี่ยนวิชาแพทย์ถัดจากนี้ เจ้าจะถูกกีดกันออกมาไหม?""น่าจะไม่หรอกกระมัง ผู้เฒ่ารองซุนเองก็ไม่รู้จักข้าเสียหน่อย เขาไม่จำเป็นต้องมาจับจ้องข้า" ฟู่จาวหนิงไม่ได้เอามาใส่ใจต่อให้ถูกกีดกัน นางก็ไม่ได้อยากจะเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่เสียหน่อย การไปเป็นเพื่อนกับคนทั้งหมด มันสำคัญอะไรตรงไหน?"เจ้ามองขาดดีจริงๆ" ซือถูไป๋มองสีหน้านางที่ไม่กังวลไม่ได้วิตกอะไร
นี่อยากจะบอกว่าเขาเสียเวลาไปสิบกว่าปีอย่างนั้นหรือ? แล้วยังแค้นผิดคนอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับหรือเติบโตขึ้นเลยด้วย?เขาตอนนี้ดูซีดเซียวไม่มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดหรือรู้สึกว่าเขาจะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว?แค่ถามถึงแคว้นหมิ่นกับซุนฉงหมิง เขาก็ไม่ได้รู้อะไรสักเท่าไร..."หนิงหนิงตอนนี้อยจะไปถามซือถูไป๋ดูไหม ไปฟังเขาเล่าเสียหน่อย?" เขาหดแขนเข้ามา นดวงตาหม่นลงเล็กน้อย ถ้านางอยากจะไปคุยกับซือถูไป๋จริง เขาก็คง...ฟู่จาวหนิงตอนนี้ฟังออกถึงความผิดปกติหน่อยๆ แล้วนางเงยหน้าขึ้นในอ้อมกอดเขา โน้มคอของอีกฝ่าย ให้เขาก้มหน้าลงมาเช่นนี้นางจึงจะเห็นดวงตาและสีหน้าของเขาพอมองเช่นนี้ สีหน้าท่านอ๋องก็ขรึมไปจริงๆฟู่จาวหนิงพอคิด ก็หัวเราะพรืดออกมา"เจ้ายังจะหัวเราะอีก?" เซียวหลันยวนน้ำเสียงขรึมๆ "กำลังหัวเราะที่ข้าความรู้ตื้นเขินหรือ?""ฮ่าๆๆ"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำพูดเหมือนหึงหวงเช่นนี้ของเขา ก็อดหัวเราะเสียงดังขึ้นมาไม่ได้เซียวหลันยวนกอดนางแน่นขึ้น ก้มหน้าลงกดริมฝีปากบนนางเบาๆ "ใช่ไหม?""ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าท่านจะพูดจาหึงหวงแบบนี้" ฟู่จาวหนิงแนบชิดขึ้นไป จูบไปบนริมฝีปากเขาเอง