ข้างนอกต่อหน้าคนอื่น ยังไม่เคยเห็นฟู่จาวหนิงมีท่าทีสาวน้อยแบบนี้กับเขามาก่อนเลย แต่ว่าเขาก็ชอบอยู่นะ ถูกนางกอดแขนเดินแบบนี้ รู้สึกเหมือนเป็นที่พึ่งและเป็นที่รักของเธอทั้งดวงใจเลยใจของเซียวหลันยวนร้อนวูบขึ้นมาฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงลมหายใจของเขาหนักขึ้นอย่างชัดเจน เงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ และสบเข้ากับสายตาลึกซึ้งของเขาไม่หรอกกระมัง? แค่คล้องแขนเดินก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์แล้วหรือ?สายตาข้างหลังนางลืมไปเลยทันทีผู้อาวุโสจี้มองไปยังสาวน้อยคนนั้น เหล่มองศิษย์คนรองอีกครั้งต่งฮ่วนจือพูดเสียงต่ำกับเขาสองคำ "ท่านอาจารย์ นี่คือคนที่ข้าเคยบอกท่านเมื่อครั้งนั้นไง เฉินฮ่าวจู""นี่เจ้าบอกว่าเป็นฮูหยินที่ปักภาพดอกโบตั๋นแล้วดึงดูดผีเสื้อเข้ามาได้ คนที่ตัวตนลึกลับคนนั้นน่ะหรือ?""อันนั้นเป็นแม่ของนาง"ท่านอาจารย์จงใจใช่ไหมเนี่ย นั่นมันฮูหยินเลยนะ เฉินฮ่าวจูตรงนี้เพิ่งจะอายุสิบห้าสิบหกเอง"ตอนนั้นเจ้ารับพวกนางแม่ลูกเข้ามา ข้าเองก็เตือนเจ้าแล้วว่าให้ระวังเรื่องขอบเขตไว้ เจ้ารับแม่ลูกของใครเข้ามาแต่ดันดึงไว้ข้างกายตั้งสี่ปีเลยหรือ?"ต่งฮ่วนจือเขียนจดหมายเล่าถึงแม่ลูกคู่นี้ คือเมื่อสี่ปีก่อน
เซียวหลันยวนสองมือกดเบาๆ บนบ่าฟู่จาวหนิง มองนาง"ถ้าหากบอกว่าข้าไปหลอกใครให้หลงได้ คนที่ข้าอยากหลอกให้หลงที่สุดก็คือเจ้า อยากให้เจ้ารักใบหน้านี้ หลงใหลใบหน้านี้จนถอนตัวไม่ขึ้น"เสียงเขาทุ้มลึกมีเสน่ห์ดึงดูด พร้อมความเย้ายวนเล็กน้อย ฟังจนหูฟู่จาวหนิงคันยุบยิบ"ท่านคิดตื้นไปแล้ว!"นางยื่นมือดันไว้บนหน้าอกเขา ขยับตัวเข้าไปหา เงยหน้ามองเขา ยิ้มจนตาเป็นเส้นโค้ง"ท่านไม่รู้สินะว่าหน้าตามันแก่ง่าย ความงามรักษาให้คงอยู่นั้นแสนยาก? ความคิดที่จะใช้หน้าตามาปฏิบัติกับคนนะมันใช้ไม่ได้หรอกนะ พี่ชาย..."คำเรียกสุดท้าย นางยังยกเสียงขึ้นสูงลากยาว แผ่วเบาออดอ้อน"เรียกข้าว่าอะไรนะ?"รางของเซียวหลันยวนเกร็งขึ้นมาทันที รู้สึกความร้อนหลั่งทะลักเขาไม่เคยรู้เลยว่าแค่ลูกไม้เล็กๆ ของฟู่จาวหนิงก็ทำเขาแทบจะรับมือไม่อยู่"พี่ชาย~"ฟู่จาวหนิงเงยหน้าขึ้นในอ้อมกอดเขา กระพริบตาปริบๆคำเรียกไร้สาระนี่!เขาชอบแฮะเซียวหลันยวนก้มหน้าลงทันควัน จูบประทับลงไปบนปากนางอีกครั้งฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าครั้งนี้เขาไม่เหมือนตอนปกติ รุนแรงเหลือเกินจนลมหายใจของนางสับสน ความรู้สึกแทบจะจมดิ่ง เขาจึงปล่อยนางออก กดนางไว้ใ
"ทราบ"ไป๋หูแม้จะสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ยังหมุนตัวเดินออกไป"ดื่มชาหน่อยไหม?" เซียวหลันยวนมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงรีบไปนั่งลงข้างโต๊ะ ขายหน้า ขายหน้าจริงๆ นี่นางถูกจูบจนมึนหัวควบคุมไม่ได้เลยหรือนี่เซียวหลันยวนมองสภาพนางแล้วอดหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ไม่ได้อีกด้านหนึ่ง ในเรือนเล็กหลังหนึ่งข้างๆ พันธมิตรโอสถ เฉินฮ่าวปิงยกเท้าเดินเข้าไปในห้องอุ่น และเจอกับแม่ของนางที่กำลังเย็บปักถักร้อยอยู่ริมหน้าต่างฮูหยินเฉินอายุสามสิบต้นๆ ผมดำราวกับเมฆเบา ถูกกดไว้ด้วยปิ่นไข่มุกงาม ดูอ่อนหวานทรงสง่า มองแล้วเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนมากคนหนึ่งเข็มในมือนางเหมือนกำลังเริงระบำ ยกขึ้นปักลง เต็มไปด้วยความงามบทกรอบปักเย็บ รูปดอกบ๊วยกลางหิมะประณีตที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ ดอกบ๊วยแต่ละดอกนั้นก็ดูราวกับมีชีวิต จนแทบจะได้กลิ่นหอมของดอกบ๊วยเลยอย่างไรอย่างนั้น"ท่านแม่ ไม่ใช่ว่าบอกท่านไปแล้วหรือ? ว่าอย่านั่งปักนานนัก ท่านต้องลุกออกไปเดินบ้าง ไม่ใช่นั่นสุขภาพท่านจะรับไม่ไหวเอานะ"เฉินฮ่าวปิงรีบเดินเข้ามา กดมือของนางลง ไม่ยอมให้นางปักต่อฮูหยินเฉินเงยหน้ามองนาง ยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น "ได้ได้ได้ ข้าฟังเจ้าก็แล้วกัน""
ผู้อาวุโสจี้พักผ่อนไปครู่หนึ่ง พอได้ยินต่งฮ่วนจือรายงานถึงสถานการณ์ของสาขาเมืองจี้ในช่วงหนึ่งปีนี้แล้วยังพูดถึงวัตถุดิบยาที่พ่อค้ายาเหล่านั้นได้รับมาด้วย"พ่อค้ายาพวกนั้นมักจะไปหมู่บ้านรอบๆ นี้รวบรวมวัตถุดิบยา แล้วช่วงนี้จู่ๆ ก็เข้าไปในหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งโดยที่ไม่ตั้งใจ แล้วยังพูดถึงหมู่บ้านแห่งนั้นจนน่าขนลุกขึ้นมาอีก""โอ๋?""ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อหมู่บ้านนั้นมาก่อน จึงยังไม่เคยมีใครเข้าไป ครั้งนี้พ่อค้ายาพวกนั้นเนื่องจากหลงทางในภูเขาเพราะหมอกลวงตา พอเดินไปเดินมา จู่ๆ ก็ว่าที่นั่นมีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งซ่อนอยู่ ในหมู่บ้านมีวัตถุดิบยาล้ำค่าอยู่มากมาย ทุกคนล้วนดีใจกันยกใหญ่ จึงซื้อมาทั้งหมดเลย"ต่งฮ่วนจือนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็เสียดายหน่อยๆ"น่าเสียดายที่คนของพันธมิตรโอสถไม่ได้ไป แต่ว่า หลังจากพ่อค้าเหล่านัน้กลับมาวัตถุดิบยาส่วนใหญ่ก็ยังมาขายให้พวกเรา เพียงแต่มีวัตถุดิบยาบางอย่างข้าไม่รู้วิธีจัดการ จึงเขียนจดหมายไปหาเจ้าพันธมิตร เจ้าพันธมิตรเห็นด้วยที่จะให้คนในสมาคมหมอใหญ่มาลองดู ผลคือคนของสมาคนหมอใหญ่พอดูวัตถุดิบยาเหล่านั้น ก็ตัดสินใจเปลี่ยนให้งานประชุมหมอใหญ่มาจัดที
"มามามา ให้ศิษย์พี่รองของเจ้าเล่าสถานการณ์ในเมืองจี้ให้เจ้าฟังอีกรอบ"ต่งฮ่วนจือจึงเล่าเรื่องเมื่อครู่นี้อีกรอบฟู่จาวหนิงหลังจากได้ยินก็สนใจขึ้นมาตามคาด"อาจารย์ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดูกันไหม?""ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าอยากไป!" ผู้อาวุโสจี้พอใจมาก "พวกเราไปดูกัน ขากลับค่อยพาเจ้าไปที่คลังยา แล้วให้เข้าไปดูวัตถุดิบยาทั้งหมด"มีอะไรที่นางไม่รู้จัก เขาจะสอนนางอย่างดีเลยทีเดียว"พวกหมอของสมาคมหมอใหญ่ก็ไปกัน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนด้านวิชาแพทย์ของพวกเขาก็คงจะต้องถอยออกไปแล้ว คนที่ไปในภูเขามีมาก ศิษย์น้องหญิงเล็ก เจ้าอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่คล่องตัวหน่อย"ต่งฮ่วนจือเห็นว่าฟู่จาวหนิงอายุยังน้อยอยู่ จึงอดกำชับขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้"ขอบคุณมากศิษย์พี่รอง ข้าทราบแล้ว""เจ้าคิดว่าศิษย์น้องหญิงเล็กของเจ้าไม่รู้อะไรเลยหรือไง? นางรุ้ทั้งหมดนั่นล่ะ" ผู้อาวุโสจี้คิดๆ "จาวหนิง เจ้าลองดุว่าจะพาอ๋องเจวี้ยนไปด้วยไหม?"ถ้าหากบอกว่าคนมากมายล้วนไปกัน เช่นนั้นก็คงจะอันตรายหน่อยๆ วิชายุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนสูงขนาดนั้น มีเขาอยู่ด้วยคงปกป้องฟู่จาวหนิงได้ เขาก็วางใจได้หน่อย"ข้าจะไปถามเขาดู ท่านอาจารย์ ถ้าอย่
เซียวหลันยวนมองเห็นจุดปักหลายแห่งแค่เหลือบดูก็มองออกแล้วว่าฝีมือการปักนั้นประณีตยอดเยี่ยมปลอกแขนสีดำปักลายค้างคาวแดงเข้ม ดูสูงส่งล้ำค่า มองแล้วไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไปเลยสาเหตที่ทำให้สายตาของเขามองไป เพราะเขารู้สึกว่าลักษณะเช่นนี้ดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน ไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้บ่อยในแคว้นเจาหรือต้าชื่อ แต่เป็นความงามประณีตและยังสูงส่งเขาคิดๆ ในใจก็สั่นกึกขึ้นมาเพราะลักษณะเช่นนี้ ดูคล้ายกับของตงฉิงมากสิ่งของของตงฉิงที่เขาได้รับมาจากเขาอวี้เหิง บนชุดชาววังเหล่านั้น ก็มีลักษณะงานปักเช่นนี้ปลอกแขนเองก็แบบเดียวกันและเพราะเหตุนี้ สายตาของเขาจึงหยุดอยู่บนปลอกแขนคู่นี้นานพอควรเฉินฮ่าวจูพอเห็น ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาเขาชอบหรือเปล่านะ?ชอบปลอกแขนคู่นี้ที่นางปักเย็บเองกับมือหรือเปล่านะ?ถ้าหากปลอกแขนนี้สวมอยู่บนข้อมือเขา น่าจะดูดีเลยกระมัง"นี่เจ้าปักเองหรือ?"ฟู่จาวหนิงได้ยินเซียวหลันยวนถามคำนี้ เท้าก็หยุดชะงัก รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเซียวหลันยวนเดิมทีเป็นพวกนิสัยเย็นชามาก แล้วการบุกมาหาถึงหน้าประตูเช่นนี้ ด้วยสมองของเขาก็น่าจะเข้าใจเป้าหมายของอีกฝ่ายอยู่นะนางเดิมทีคิดว่าภายใต้สถานการณ
เซียวหลันยวนตอนนี้ไม่กลัวแม่นางคนอื่นจะใจสลายแล้วสินะ นี่มันน่าโมโหหน่อยๆ หรือเปล่า? คนอื่นเขาเอามามอบให้ตัวเองแท้ๆ"หนิงหนิง"สายตาของเซียวหลันยวนมองเข้ามา ร้องเรียกนางขึ้นฟู่จาวหนิงสาวเท้าเดินเข้ามาเฉินฮ่าวจูหันกลับไปมองนาง ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิง หน้าของนางก็แดงก่ำ รีบหันไปคารวะให้นาง "ข้า ข้าขอตัวก่อน"พูดจบนางก็หนีออกไปเหมือนวิ่งหนี"ข้ากำลังจะแนะนำเจ้าเลย แต่นางวิ่งไวเหลือเกิน" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงมองเขา เกิดความคิดจะเย้าแหย่ขึ้น "ท่านคิดจะแนะนำข้า?""ฮูหยินของข้า" เซียวหลันยวนพูดต่อ"เช่นนี้หรือ?""ไม่อย่างนั้นล่ะ" เซียวหลันยวนก้มหน้าต่ำ แนบเข้ามาข้างหูนาง กระซิบเสียงต่ำ "ดวงใจของข้า?""พรวด!"ฟู่จาวหนิงทนไม่ไหวหัวเราะก๊ากขึ้นมาคนผู้นี้! ไปเรียนวิธีแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน?ชิงอียกของอยู่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร "ท่านอ๋อง พระชายา นี่ให้ข้าจริงหรือ?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมอง "ไม่อย่างนั้นล่ะ เจ้าอยากให้สามีของข้าสวมปลอกแขนที่แม่นางคนอื่นเย็บขึ้นด้วยตนเองหรือไรกัน?""ไม่ๆๆ ได้อย่างไรกัน! ข้าน้อยจะเก็บไว้!" ชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง"ท่านรับของไว้เพราะอะไร
หมู่บ้านนั้น ไม่มีชื่อหลักๆ คือก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน ตอนนั้นหลังจากที่พวกพ่อค้ายาเข้าไปก็ไม่ได้ถามชื่อหมู่บ้าน ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเวลาเรียกขึ้นมาจึงเรียกว่าหมู่บ้านนิรนามว่ากันว่าหมู่บ้านนิรนามอยู่บนหน้าผาเล็กแห่งหนึ่ง ถ้าจะไปก็ต้องปีนทางเนินชัน แล้วบนทางเนินชั้นนั้นยังมีวัชพืชรกครึ้มรวมถึงหินแหลมคมอีกไม่น้อย ดังนั้นคนของหมู่บ้านนี้จึงไม่ค่อยจะลงมานัก และไม่มีคนขึ้นไปด้วยตอนนี้พวกเขากระทั่งหน้าผาเล็กนั่นก็ยังหาไม่เจอ"ป่าผืนนี้อุดมสมบูรณ์จริงๆ แล้วยังแปลกอีกด้วย ข้าในน่าจะมีต้นน้ำอยู่ ชื้นเอามากๆ แล้วยังเย็นอีกด้วย พอตกค่ำลมหนาวนั่นก็จะพัดเข้าไปถึงในกระดูกเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหลงทางอยู่ด้านในก็ลำบากแน่"ต่งฮ่วนจือไปด้วยกันกับพวกเขาระหว่างทางเขาก็บอกถึงข่าวที่ตนเองไปหามาให้พวกเขาฟัง"ตอนนี้ยังไม่มีใครบอกว่าเจอทางเข้า พวกเขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปค้างคืนในป่า เพียงแค่ทิ้งคนไว้ด้านนอกป่า ก่อไฟ พอฟ้าตะวันตกเริ่มมืดแล้วยังหาไม่เจอ ก็จะรีบกลับออกมากัน จะค้างแรมในป่าไม่ได้"พ่อค้ายาหลายคนนั้นตอนแรกได้เข้าไปจากทางนี้ พวกเขาวนไปเวียนมาในเขาลึกหลายวัน ถึงไปเจอกับชาวบ้านของหมู