"นายท่าน ฮูหยินคนนั้น คือคุณหนูเสิ่นเชี่ยวที่หายสาบสูญไปเมื่อตอนเด็กจริงหรือ?""คิดแล้วน่าจะใช่" เสิ่นเสวียนถอนหายใจ"เช่นนั้น เขาจะลืมท่านไปแล้วหรือเปล่า?""รอนางตื่นถึงจะรู้"ดูสภาพพวกเขาตอนนี้ ทั้งสองคนล้วนดูผิดปกติกันหมด นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่พวกเขาหายตัวไปตลอดหลายปี ไม่ได้กลับไปแคว้นเจาเพื่อดูผู้เฒ่าฟู่กับจาวหนิงมาโดยตลอดก็ได้บางที สาเหตุนี้ อาจจะทำให้พวกเขาจำกันไม่ได้ไปชั่วขณะแต่คนก็หาเจอแล้ว เรื่องหลังจากนี้ค่อยๆ ไปกันทีละก้าวก็ได้ เสิ่นเสวียนตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวกำลังสิ้นสุดลงแล้ว"เช่นนั้นหลังจากนี้พวกเราต้องเรียกนางว่าอะไร คุณหนูจาวหนิงกับคุณหนูเสิ่นเชี่ยว พวกเราคงไม่เรียกอยู่ในรุ่นเดียวกันหรอกกระมัง?"เสิ่นเสวียนเหลือบมองหลิวหั่วผาดหนึ่งตอนนี้ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ไหม?คนยังไม่ตื่นเลย เขาก็คิดไปถึงเรื่องชื่อเรียกแล้วหลิวหั่วถอยออกไปก้าวหนึ่ง "ข้าจะดูแลเอง จะดูแลแล้ว ไม่รบกวนท่านแล้ว"มองออกว่า อารมณ์ของนายท่านตอนนี้เหมือนจะซับซ้อนมาก หาตัวคุณหนูเสิ่นเชี่ยวพบแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีหรือไรกัน?เป็นเพราะเห็นความผิดปกติทางร่า
เสิ่นเสวียนไม่เคยเห็นอาการตกตะลึงของนางมาก่อน จึงยืนนิ่งหันกลับทันที "มีอะไรหรือ?""ท่านลุง!"ฟู่จาวหนิงชูวัตถุดิบยาในมือ "เจ้านี่!""มันคืออะไร?""เอ็นมังกรหยก!"ฟู่จาวหนิงตื่นเต้นจนหน้าแดง ดวงตาเปล่งประกาย"เอาไว้ใช้ทำอะไร?""วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายที่เซียวหลันยวนต้องการ หายากมากๆ!" ฟู่จาวหนิงดีใจจนเสียงสั่นพร่า "ถ้าแค่มีเจ้านี้ พิษของเขาก็สามารถขจัดได้อย่างหมดจด! ยิ่งไปกว่นั้นแผลเป็นบนหน้าเขาก็จะดีขึ้นอีกด้วย!""ในมือฟู่จิ้นเชินมีสิ่งนี้อยู่ด้วยหรือ?" เสิ่นเสวียนเองก็ตกตะลึงนี่มันวาสนาอะไรกัน?บังเอิญขนาดนี้เชียว?"ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อเลย"ฟู่จาวหนิงหม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ในความไม่น่าเชื่อนี้ ก็มอบโอกาสให้พวกเขาได้ชดใช้กับเซียวหลันยวนขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?ถ้ามีเอ็นมังกรหยกนี้ เรื่องนี้ก็เหมือนไม่ใช่จะไม่มีโอกาสได้คลี่คลายลงเสียแล้วฟู่จาวหนิงห่อมันอย่างดีทันที กอดไว้แนบอกนี่เป็นวัตถุดิบยาที่ล้ำค่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งของที่สำคัญมากในครั้งนี้!เสิ่นเสวียนเองก็เข้าใจแล้ว อดส่ายหัวขำขึ้นเบาๆ ไม่ได้"จาวหนิง อันที่จริงเจ้ามีโชคยิ่งกว่าเสียอีก เจ้าดูสิ เดิมทีน่าจะเป
รอจนยาชาหมดฤทธิ์ เซียวหลันยวนเริ่มรู้สึกว่าหน้าขอบตนเองเจ็บขึ้นมาเล็กๆแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็พันแผลให้เขาไว้ดีแล้ว นี่คือห้ามไปแตะต้องแน่นอน เขาทำได้แค่ทนไว้รออยู่ครู่หนึ่งผู้อาวุโสจี้ก็มาหาเขาพอเจอหน้า เห็นเขาพันผ้าไว้บนหน้า ผู้อาวุโสจี้ก็พุ่งเข้ามา แล้วยังรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย"อ๋องเจวี้ยน ศิษย์ข้าเริ่มรักษาให้เจ้าแล้วหรือ? หรือก็คือ วัตถุดิบยาเหล่านั้นมันได้ใช้งานจริงๆ แล้วสินะ?""พูดถึงวัตถุดิบยาเหล่านั้น ข้าขอบคุณผู้อาวุโสจี้มาก""รู้แล้วสินะว่าวัตถุดิบยาขององค์หญิงใหญ่ได้มาอย่างไร?" ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองเขา "ดังนั้น ท่านก็อย่ามองคุณความดีเป็นขององค์หญิงใหญ่ล่ะ ที่ข้าลงแรงไปหาวัตถุดิบยาเหล่านั้น นั่นก็เพื่อศิษย์รักของข้า เพื่อนางแล้ว ท่านถึงมีโอกาสรักษาใบหน้าท่าน ดังนั้น คุณความดีทั้งหมดเป็นของศิษย์รักข้า อ๋องเจวี้ยนเข้าใจไหม?""ข้าเข้าใจแน่นอน""ท่านเข้าใจก็ดีแล้ว" ผู้อาวุโสจี้ร้องเชอะ เหมือนคิดอะไรออก "ในเมื่อท่านเข้าใจแล้ว ทำไมสองวันนี้ถึงยังไปอยู่ด้วยกันกับองค์หญิงใหญ่อีก? ข้ายังพูดขึ้นมาเลยว่าอ๋องเจวี้ยนเข้าในความคิดหญิงสาวของตนเองหรือเปล่า?""ข้าไม่ได้มีอะไรกับ
"พระชายา ชอบเจ้า?" น้ำเสียงของเขาช้าลง ราวกับมีดทื่อมีดนั้นคิดจะกรีดลงไปบนตัวของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ชอบ ไม่ใช่ชอบแบบนั้น" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งรีบอธิบาย "ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถเป็นน้องชายของพระชายาได้นะ ท่านอ๋อง พฤติกรรมของพระชายาครั้งนี้ที่หออันดับหนึ่งของเมืองหลวงจักรพรรดิ แล้วก็การช่วยคนบนถนนใหญ่นั่น ยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ!"เขาวันนี้ได้ยินคนไม่น้อยข้างนอกเอาแต่วิจารณ์ถึงหมอเทวดาคนนั้นฟู่จาวหนิงมาเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อได้แค่ไม่กี่วัน ก็สร้างชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้วถ้าไม่ใช่องค์หญิงใหญ่กลับมาเมืองหลวงจักรพรรดิพอดี จนแบ่งความสนใจส่วนหนึ่งของประชาชนไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าประชาชนเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะวิจารณ์ฟู่จาวหนิงไปถึงไหนแล้วแต่ต่อให้มีองค์หญิงใหญ่แบ่งการวิจารณ์ไปเท่าไร ฟู่จาวหนิงก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี โดยเฉพาะวิชามีดที่นางแสดงออกมาเพื่อทำเห็ดเชียนเสวี่ยที่หออันดับหนึ่ง ช่วยชีวิตพ่อครัวใหญ่ แล้ววันนั้นคนที่มากินก็ล้วนเป็นพวกคนที่มีหน้ามีตาทั้งสิ้นพูดได้ว่า นางทั้งสร้างชื่อขึ้นในวงล้อมคนใหญ่โต แล้วตอนที่ช่วยชีวิตประชาชนบนถนนใหญ่ ก็ยังสร้างชื่อในหมู่ประชาชนอีกผู้นำน้อยตร
ขณะที่เซียวหลันยวนยังไม่ทันย่อยเรื่องที่ซือถูไป๋ไปขอพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงพวกเขาก็กลับเข้ามาแล้วหลานหรงที่อยู่ด้านนอกได้ข่าวว่าพวกเขากลับมาก่อน จึงรีบเข้ามารายงาน"ศิษย์ข้ากลับมาแล้วหรือ? ไปๆๆ ไปดูว่าวันนี้นางได้อะไรมา" ผู้อาวุโสจี้วิ่งไปหน้าเรือนก่อน"ชิ่งอวิ๋นเซียว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ..."เซียวหลันยวนพอคิดคำพูดที่ชิ่งอวิ๋นเซียวบอกว่าฟู่จาวหนิงชอบเขา จึงเอ่ยปากให้เขากลับไปก่อนผลคือชิ่งอวิ๋นเซียวเองก็วิ่งตรงไปที่เรือนหน้าด้วย "ท่านอ๋อง ข้าจะไปฟังว่าพระชายาวันนี้จะทำเรื่องใหญ่อะไรอีก!"พอเห็นว่าพวกเขาวิ่งออกไปกันจนหมด เซียวหลันยวนก็เกือบตั้งตัวกลับมาไม่ทันฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาของเขา นางกลับมาแล้ว คนที่ต้องรีบไปพบนางไม่ใช่เขาหรอกหรือ? นี่กลายเป็นว่าคนอื่นวิ่งเร็วกว่าเขาเสียอีก!"ท่านอ๋อง พระชายาเดิมทีจะให้ท่านพักผ่อนก่อน ท่านรอที่นี่เถอะ พระชายาเดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่เรือน..."ชิงอียังไม่ทันพูดจบ ตรงหน้าก็ไม่เห็นเงาเซียวหลันยวนแล้วและผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวที่กำลังวิ่ง ข้างกายจู่ๆ ก็มีสายลมกวาดผ่าน เหมือนมีอะไรบางอย่างแฉลบออกไป"ผู้อาวุโสจี้ เมื่อครู่มันอะไรกั
ฟู่จาวหนิงมองๆ เสิ่นเสวียน "ท่านลุง ข้าจะเข้าไปดูพวกเขาก่อน จะอย่างไรต้องทำให้คนฟื้นขึ้นมาก่อน""เจ้าไปเถอะ ข้าจะคุยกับอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย" เสิ่นเสวียนขวางเซียวหลันยวนไว้ผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวตอนนี้เพิ่งจะตามขึ้นมาทัน ยังไม่ทันได้เห็นฟู่จาวหนิง นางก็เข้าห้องไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็อยู่ด้วยหรือ? เช่นนั้นมาดื่มชากันก่อนเถิด"เสิ่นเสวียนพาพวกเขามายังศาลาด้านนอก เสี่ยวชิ่นยกน้ำชาเข้ามา แต่ยังไม่กล้ามองเซียวหลันยวนแต่ตอนนี้นางเองก็นิ่งขึ้นมากแล้ว เพราะพอไม่เห็นเขาสวมหน้ากาก พันผ้าเอาไว้ นั่นคือคุณหนูจาวหนิงสามารถรักษาเขาได้แน่นอนนางเมื่อครู่ตอนที่นำชาเข้าไปส่ง สืออียังบอกกับนางคำหนึ่ง ให้เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อยเสี่ยวชิ่นเห็นใบหน้าด้านนั้นที่อ๋องเจวี้ยนพันผ้าเอาไว้ ตอนนี้หันไปส่งชาให้เสิ่นเสวียนก็ใจเต้นตึกตักเงยหน้าขึ้นเหลือบมองอีกผาดหนึ่งตอนนี้นางจึงได้เห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนดียังดีอยู่อีกฝั่ง ตกตะลึงไปแล้วนี่คืออ๋องเจวี้ยนหรือ?นี่คืออ๋องเจวี้ยนที่ทำเอานางตกใสจนร้องไห้ในครั้งที่แล้ว กระทั่งว่ายังเอาไปฝันร้ายอีกหลายคืนคนนั้นหรือ?เขาเดิมทีหน้
ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง ไม่เดินเข้าไปอีกนางพบว่าสายตาของเขายังไม่ได้ปรับให้คงที่ สีหน้าดูเลื่อนลอยอยู่บ้างและตอนนี้เองในห้องเภสัช เสียงที่อุปกรณ์รายงานออกมานางก็ได้ยินแล้วด้วยผลการยืนยันออกมาแล้วฟู่จาวหนิงไม่ขยับ แต่สายตาเพ่งเข้าไปในมิติ มองดูผลลัพธ์ผลยืนยันของนางกับหมอเจี่ย และนางกับฮูหยินเจี่ยออกมาแล้วพอเห็นผลยืนยันนั่น ในใจฟู่จาวหนิงก็มีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวจบลงแล้วขึ้นมานางเป็นลูกสาวของพวกเขาจริงๆพวกเขาคือสามีภรรยาตระกูลฟู่ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าตนเองมีความรู้สึกอย่างไรบอกว่าหมอเจี่ย จริงๆ แล้วเป็นหมอปลอมหรือ?เป็นสกุลที่ปลอมขึ้นมา"ฮูหยินข้าล่ะ?" ฟู่จิ้นเชินสายตายังเลื่อนลอยอยู่ แต่เสียงดูเนือยๆ พอเอ่ยปากก็ถามถึงภรรยาทันที"ท่านลองหันหน้า มองไปข้างๆ เตียงสิ" ฟู่จาวหนิงเองก็ตอบกลับเขาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เช่นกันฟู่จิ้นเชินหันหน้า มองเห็นภรรยาของตนเองนอนอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็เหมือนสติกลับเข้ามาในสมองทันที สายตาแจ่มชัดขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นยังมีปฏิกิริยาเป็นปกติแล้วเขาลูบใบหน้าภรรยา จากนั้นก็หันมามองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"เจ้าดึงหน้ากากของนางออกหรือ?"ข
นางอยากจะทดลองบอกที่มาของตนเองอีกสักครั้ง แต่พอคิดถึงว่าเซียวหลันยวนยังรออยู่ด้านนอก ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปคนก็พากลับมาแล้ว หากมีปัญหาอะไร นางยังสามารถทำให้เซียวหลันยวนเห็นต่อหน้าได้เลย"คุณ..."เสิ่นเชี่ยวเองก็ตื่นขึ้นแล้วพอนางตื่น ฟู่จิ้นเชินก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที ประคองนางลุกขึ้นมา ถามนางเสียงแผ่วเบา "ฮูหยิน ข้าอยู่ที่นี่ เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?""ข้าไม่เป็นไร แต่คุณปวดหัวไหม?" เสิ่นเชี่ยวเงยหน้ามองหัวของเขา ถามขึ้นอย่างกังวล"หัวไม่ปวด..."ยังไม่ทันพูดจบ ฟู่จิ้นเชินก็ตกตะลึงเขามองฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าถ้าตนเองสลบไป หลังจากตื่นขึ้นมาจะปวดหัวมาก อย่างน้อยต้องทรมานไปหลายวันแต่ว่าตอนนี้ไม่เจ็บปวดแล้ว!สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ"เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้พวกท่าน ให้เส้นเลือดบริเวณหัวไหลได้สะดวกขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายมาคำหนึ่งเสิ่นเชี่ยวเองก็มองไปทางนางนางตกตะลึง แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้วฟู่จาวหนิงพอเห็นสภาพนางก็รู้ว่านางจำได้ อย่างน้อยก็จำคำพูดที่พูดถึงที่มาของตนเองได้"ท่านแม่!"เสิ่นเชี่ยวลงจากเตียง วิ่งเข้ามาหานาง"ฮูหยินช้า