ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง ไม่เดินเข้าไปอีกนางพบว่าสายตาของเขายังไม่ได้ปรับให้คงที่ สีหน้าดูเลื่อนลอยอยู่บ้างและตอนนี้เองในห้องเภสัช เสียงที่อุปกรณ์รายงานออกมานางก็ได้ยินแล้วด้วยผลการยืนยันออกมาแล้วฟู่จาวหนิงไม่ขยับ แต่สายตาเพ่งเข้าไปในมิติ มองดูผลลัพธ์ผลยืนยันของนางกับหมอเจี่ย และนางกับฮูหยินเจี่ยออกมาแล้วพอเห็นผลยืนยันนั่น ในใจฟู่จาวหนิงก็มีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวจบลงแล้วขึ้นมานางเป็นลูกสาวของพวกเขาจริงๆพวกเขาคือสามีภรรยาตระกูลฟู่ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าตนเองมีความรู้สึกอย่างไรบอกว่าหมอเจี่ย จริงๆ แล้วเป็นหมอปลอมหรือ?เป็นสกุลที่ปลอมขึ้นมา"ฮูหยินข้าล่ะ?" ฟู่จิ้นเชินสายตายังเลื่อนลอยอยู่ แต่เสียงดูเนือยๆ พอเอ่ยปากก็ถามถึงภรรยาทันที"ท่านลองหันหน้า มองไปข้างๆ เตียงสิ" ฟู่จาวหนิงเองก็ตอบกลับเขาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เช่นกันฟู่จิ้นเชินหันหน้า มองเห็นภรรยาของตนเองนอนอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็เหมือนสติกลับเข้ามาในสมองทันที สายตาแจ่มชัดขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นยังมีปฏิกิริยาเป็นปกติแล้วเขาลูบใบหน้าภรรยา จากนั้นก็หันมามองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"เจ้าดึงหน้ากากของนางออกหรือ?"ข
นางอยากจะทดลองบอกที่มาของตนเองอีกสักครั้ง แต่พอคิดถึงว่าเซียวหลันยวนยังรออยู่ด้านนอก ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปคนก็พากลับมาแล้ว หากมีปัญหาอะไร นางยังสามารถทำให้เซียวหลันยวนเห็นต่อหน้าได้เลย"คุณ..."เสิ่นเชี่ยวเองก็ตื่นขึ้นแล้วพอนางตื่น ฟู่จิ้นเชินก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที ประคองนางลุกขึ้นมา ถามนางเสียงแผ่วเบา "ฮูหยิน ข้าอยู่ที่นี่ เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?""ข้าไม่เป็นไร แต่คุณปวดหัวไหม?" เสิ่นเชี่ยวเงยหน้ามองหัวของเขา ถามขึ้นอย่างกังวล"หัวไม่ปวด..."ยังไม่ทันพูดจบ ฟู่จิ้นเชินก็ตกตะลึงเขามองฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าถ้าตนเองสลบไป หลังจากตื่นขึ้นมาจะปวดหัวมาก อย่างน้อยต้องทรมานไปหลายวันแต่ว่าตอนนี้ไม่เจ็บปวดแล้ว!สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ"เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้พวกท่าน ให้เส้นเลือดบริเวณหัวไหลได้สะดวกขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายมาคำหนึ่งเสิ่นเชี่ยวเองก็มองไปทางนางนางตกตะลึง แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้วฟู่จาวหนิงพอเห็นสภาพนางก็รู้ว่านางจำได้ อย่างน้อยก็จำคำพูดที่พูดถึงที่มาของตนเองได้"ท่านแม่!"เสิ่นเชี่ยวลงจากเตียง วิ่งเข้ามาหานาง"ฮูหยินช้า
เสียงร้องไห้ของเสิ่นเชี่ยว ดังลอดออกมาเข้าหูชายหนุ่มเหล่านั้นที่ศาลาด้านนอกเสิ่นเสวียนขมวดคิ้ว ลุกขึ้นเดินตรงมาพอเขาลุกขึ้น คนอื่นเองก็ลุกตาม"ข้าไปดูหน่อย"เสิ่นเสวียนเพิ่งยกเท้า เซียวหลันยวนเองก็ตามขึ้นมาชิ่งอวิ๋นเซียวพอเตรียมจะขับ ผู้อาวุโสจี้ก็ดึงเขาไว้ "ไอ๊หยาเสี่ยวชิ่ง เด็กอย่างเจ้าช้าก่อน มีเรื่องอะไรให้พวกเขาไปแก้ไขกันก่อนเถอะ"ยังไม่รู้ว่าเป็นใครหรือเรื่องอะไร พวกเขาอย่าเพิ่งไปยุ่งดีกว่าชิ่งอวิ๋นเซียวทำได้แค่นั่งลงใหม่พร้อมกับเขา"ผู้อาวุโสจี้ ข้างเป็นห่วงอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา พวกเขาจะหย่ากันไม่ได้นะ""เจ้าเอาแต่คิดว่าพวกเขานะหย่ากันทำไม?" ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว "แม้ว่าครั้งนี้ข้าจะรู้สึกว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนทำไม่ค่อยถูก แต่ในใจศิษย์ข้าก็มีน้ำหนักของตัวเองอยู่ นางเองก็ไม่ใช่พวกที่ง้อง่ายด้วย ดังนั้น ถ้านางบอกว่าให้อภัยแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่แล้วล่ะ"สามีภรรยาทะเลาะกันมันก็เรื่องปกติ จะมาพูดหย่าร้างกันง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่มีหรอก"มันก็จริง" ชิ่งอวิ๋นเซียวพยักหน้าทางนั้น ฟู่จาวหนิงมองเสิ่นเชี่ยวที่ร้องไห้เป็นวักเวร ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรดี นางเองก็ปลอบคนไ
หรือก็คือ คนที่พบพวกเขาครั้งแรกคือเซียวหลันยวนหรือ? นี่มันวาสนาอะไรกัน!"ตอนนั้นสภาพของพวกเขายังไม่ใช่เช่นนี้" สายตาเซียวหลันยวนยังอยู่บนใบหน้าเสิ่นเชี่ยว แทบจะพอนึกก็เข้าใจขึ้นมา "พวกเขาแปลงโฉมหรือ?""ใช่"เซียวหลันยวนเดินขึ้นหน้าด้วยสัญชาตญาณฟู่จิ้นเชินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเขา ความรู้สึกระแวดระวังก็พุ่งขึ้นมาทันที ดึงภรรยาถอยออกไปสองก้าวเขามองเซียวหลันยวน"เฮอะ"เซียวหลันยวนหัวเราะเย็นชาขึ้นมา"ดูท่าจะจำข้าได้แล้วกระมัง?"เขาไม่พูดอะไร ก็ระวังตัวเขาเสียขนาดนี้? แล้วยังถอยหลังด้วยสัญชาตญาณอีก นี่กำลังบอกว่าพวกเขากำลังประหม่าอยู่ใช่ไหม?เสิ่นเชี่ยวซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดสามี ตัวสั่นระริกฟู่จิ้นเชินมองนาง เอ่ยกับเซียวหลันยวนว่า "ไม่รู้จัก ท่านคือใครกัน?""ไม่รู้จัก?" เซียวหลันยวนรู้สึกขัน "จะไม่ได้แล้วพวกเจ้าจะขลาดเขลาทำไมกัน? ฟู่..."เขายังไม่ทันพูดจบ ฟู่จาวหนิงก็พุ่งเข้ามาอุดปากเขาไว้ถ้าเผื่อบอกชื่อฟู่จิ้นเชินไปแล้วเขาสลบลงไปอีกล่ะ นั่นจะยิ่งลำบากนะ"ท่านลุง ท่านลองสอบถามไปก่อน ข้าจะพาเขาออกไปคุยหน่อย!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าต้องบอกกับเซียวหลันยวนให้เข้าใจก่อน เดิ
ฟู่จาวหนิงเล่าเรื่องที่นางพบว่าอักษรของฟู่จิ้นเชินดูคุ้นตา จากนั้นจึงไปหาเขา อยากจะรู้ว่าวัตถุดิบยาของเขาคืออะไรออกมาแล้วยังเล่าเรื่องที่พอนางบอกว่าตนเองนั้นสกุลฟู่ ฟู่จิ้นเชินก็เป็นลมล้มไปทันที ตอนตื่นขึ้นมาก็ลืมรายละเอียดส่วนนี้ไปจากการบรรยายของนาง เซียวหลันยวนก็ใจสงบลงมาได้บ้างแล้วเขาตอนนี้โชคดีมากที่เมื่อคืนคืนดีกับฟู่จาวหนิงแล้ว ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนถ้ายังโกรธกันอยู่ วันนี้คงคุมตัวเองไม่ได้ในสถานการณ์นี้แน่ๆและนางคงจะไม่ดึงเขาออกมาทันทีแบบนี้ นางอาจจะไม่ใจเย็นแล้วเล่ากับเขาให้จบก่อน"ดังนั้น เขาตอนนี้แค่ได้ยินคำว่าสกุลฟู่ก็ยังไม่ได้หรือ?"เซียวหลันยวนหลังจากฟังก็รู้สึกแปลกประหลาด เพราะอะไรกัน?เขาเองก็นามสกุลฟู่อยู่ชัดๆ ทำไม กระทั่งนามสกุลของตัวเองก็ยังเอ่ยขึ้นมาไม่ได้?"ใช่ เมื่อครู่มองจากสถานการณ์คือเช่นนั้น ข้าตรวจสอบพวกเขาแล้ว พวกเขาทั้งสองคนร่างกายไม่ค่อยปกติ แต่ว่า ข้ายังสงสัยว่าจิตวิญญาณหรือจิตใจพวกเขาถูกปรับ หรือกระทั่งอาจถูกสะกดจิตควบคุมอยู่ ทำใไ้พวกเขารู้สึกกีดกันอย่างรุนแรงต่อตัวตนฐานะสกุลฟู่"ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วนางแค่เห็นผลลัพธ์ก
"อืม ท่านคิดแบบนี้ข้าดีใจมาก" ฟู่จาวหนิงผ่อนใจโล่งเล็กน้อย"ดังนั้น เจ้ารับปากข้าได้ไหม" เซียวหลันยวนหมุนตัวนางกลับมา มองนางอย่างตั้งใจ "ถ้าหาก ข้าพูดว่าถ้าหากนะ ตอนที่ความคิดของพวกเขาการกระทำของพวกเขา ขัดแย้งกับข้าอย่างจัง เจ้าจะเลือกข้าได้ไหม?"ฟู่จาวหนิงงงงันเซียวหลันยวนยื่นมือมาลูบผมที่ใบหูนาง บอกว่า "ตอนนี้ความจริงยังไม่ชัดเจน พวกเราจึงสมมติไว้ก่อน ถ้าเผื่อพวกเขาเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง ถ้าเผื่อเส้นทางที่พวกเขาจะเดินแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับข้า พวกเขาจะพาเจ้าไป เอาตัวตนความเป็นพ่อแม่มาบีบข้า เจ้าจะสามารถผลักไสพวกเขามายืนอยู่ฝั่งข้าได้ไหม?"ถ้าเผื่อ ฟู่หลินซื่อเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้างจริง เรื่องวางพิษครั้งนั้นเป็นสิ่งที่นางทำจริง ต่อให้เขาจะเห็นแก่หน้าฟู่จาวหนิงไม่สังหารอีกฝ่ายทิ้ง แต่คงจะยอมรับนางเป็นญาติด้วยไม่ได้ปล่อยให้นางจากไป ไม่ให้มาปรากฏในสายตาเขาอีกก็ถือว่ายอดมากแล้วตอนนั้นถ้าหากฟู่หลินซื่อจะให้ฟู่จาวหนิงไปกับพวกเขาล่ะ?ฟู่จาวหนิงยังไม่ตอบ เซียวหลันยวนก็เอ่ยขึ้นอีก "ปู่ของเจ้าอยากให้ลูกชายกลับบ้านมากๆ เจ้าเองก็รู้ เสี่ยวเฟยก็ค้นหาพ่อกับแม่มาตลอด ถึงตอนนั้นถ้าพว
"ฟู่จิ้นเชินมีเอ็นมังกรหยก!"ฟู่จาวหนิงตอนที่บอกเรื่องนี่ก็ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าฟู่จิ้นเชินจะแลกเอ็นมังกรหยกกับอะไร นางจะต้องนำมาให้ได้ จัดการขจัดพิษที่เหลือให้กับเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนมองนางเขม็ง"เจ้าจะนำมันมาเพื่อข้าหรือ?""แน่นอนสิ!" ฟู่จาวหนิงตอบอย่างไม่ต้องคิดนี่ยังต้องพูดอีกหรือ?มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าการขจัดพิษให้เขาอีก?เซียวหลันยวนกอดนางอีกครั้งเพียงพอแล้ว เขารู้สึกว่าเพียงพอแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ระหว่างพ่อแม่กับตัวเขา ฟู่จาวหนิงเลือกตัวเขาเขาที่อยู่ในใจนาง สำคัญยิ่งกว่าพ่อกับแม่ของนาง!พอเข้าใจเช่นนี้ ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกว่าใจของตนเองอุ่นวาบขึ้นมา กระทั่งว่า เขารู้สึกว่าความแค้นอะไรก็ไม่สำคัญอีกแล้วต่อให้พิษในครั้งนั้นจะทำให้เขาลำบากมามากหลายต่อหลายปี เจอกับความทุกข์ตรมมาหลายปี กระทั่งตอนนี้โฉมหน้าก็ยังย่อยยับ แต่แล้วจะทำไมกัน?เขาได้นางมาแล้วฟู่จาวหนิงคือสมบัติล้ำค่าของเขา สำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด"เช่นนั้นก็ต้องพึ่งเจ้าแล้ว" เสียงของเขามีความสะอื้นไห้เดิมทีคิว่าฟู่จาวหนิงจะฟังไม่รู้ แต่นางได้ยินแล้ว ฟู่จาวหนิงตกตะลึงเล็กน้อย คิไม่ถึงว่าเข
"พงกเขาอาจจะลืมลืมเรื่องในอดีตไปแล้ว น่าจะป่วย ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ข้ายังไม่ออกคำสั่ง พวกเจ้าใครก็ห้ามลงมือทั้งนั้น" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นชิงอีมองๆ ฟู่จาวหนิง ขานรับกลับมา"ขอรับ"ตอนนี้ซับซ้อนขึ้นมาแล้ว!สถานการณ์ที่ไม่เคยคิดไว้มาตลอดก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!หาตัวคู่แค้นเจอ แต่ท่านอ๋องดันตกหลุมรักลูกของคู่แค้น! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?ในใจชิงอีครุ่นคิดอย่างว้าวุ่น หรือว่าสุดท้ายท่านอ๋องทำได้แค่ปล่อยวางความแค้นลง? แต่พระชายาก็ไม่รู้นี่นา ว่าท่านอ๋องตอนนั้นน่าเวทนาแค่ไหน ยังเป็นทารกอยู่เลย แล้วยังตอนที่เป็นเด็ก ช่วงคืนวันเหล่านั้น ท่านอ๋องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเขาผ่านคืนวันที่ทุกข์ทรมานมามากตั้งเท่าไร ถึงสามารถมีชีวิตต่อได้ ถึงสามารถเติบโตขึ้นมาได้ทั้งหมดเป็นเพราะการวางยาในวังครั้งนั้นความทุกข์เหล่านั้น อย่าว่าแต่ตัวท่านอ๋องเองเลย กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่อาจลืมได้ชิงอีก้มหน้าตามอยู่ด้านหลังพวกเขา ตามพวกเขากลับมายังเรือนหน้าผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวไม่อยู่ในศาลาแล้วเสี่ยวชิ่นเข้ามารับ "ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งบอกว่า พวก