"ฟู่จิ้นเชินมีเอ็นมังกรหยก!"ฟู่จาวหนิงตอนที่บอกเรื่องนี่ก็ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าฟู่จิ้นเชินจะแลกเอ็นมังกรหยกกับอะไร นางจะต้องนำมาให้ได้ จัดการขจัดพิษที่เหลือให้กับเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนมองนางเขม็ง"เจ้าจะนำมันมาเพื่อข้าหรือ?""แน่นอนสิ!" ฟู่จาวหนิงตอบอย่างไม่ต้องคิดนี่ยังต้องพูดอีกหรือ?มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าการขจัดพิษให้เขาอีก?เซียวหลันยวนกอดนางอีกครั้งเพียงพอแล้ว เขารู้สึกว่าเพียงพอแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ระหว่างพ่อแม่กับตัวเขา ฟู่จาวหนิงเลือกตัวเขาเขาที่อยู่ในใจนาง สำคัญยิ่งกว่าพ่อกับแม่ของนาง!พอเข้าใจเช่นนี้ ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกว่าใจของตนเองอุ่นวาบขึ้นมา กระทั่งว่า เขารู้สึกว่าความแค้นอะไรก็ไม่สำคัญอีกแล้วต่อให้พิษในครั้งนั้นจะทำให้เขาลำบากมามากหลายต่อหลายปี เจอกับความทุกข์ตรมมาหลายปี กระทั่งตอนนี้โฉมหน้าก็ยังย่อยยับ แต่แล้วจะทำไมกัน?เขาได้นางมาแล้วฟู่จาวหนิงคือสมบัติล้ำค่าของเขา สำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด"เช่นนั้นก็ต้องพึ่งเจ้าแล้ว" เสียงของเขามีความสะอื้นไห้เดิมทีคิว่าฟู่จาวหนิงจะฟังไม่รู้ แต่นางได้ยินแล้ว ฟู่จาวหนิงตกตะลึงเล็กน้อย คิไม่ถึงว่าเข
"พงกเขาอาจจะลืมลืมเรื่องในอดีตไปแล้ว น่าจะป่วย ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ข้ายังไม่ออกคำสั่ง พวกเจ้าใครก็ห้ามลงมือทั้งนั้น" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นชิงอีมองๆ ฟู่จาวหนิง ขานรับกลับมา"ขอรับ"ตอนนี้ซับซ้อนขึ้นมาแล้ว!สถานการณ์ที่ไม่เคยคิดไว้มาตลอดก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!หาตัวคู่แค้นเจอ แต่ท่านอ๋องดันตกหลุมรักลูกของคู่แค้น! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?ในใจชิงอีครุ่นคิดอย่างว้าวุ่น หรือว่าสุดท้ายท่านอ๋องทำได้แค่ปล่อยวางความแค้นลง? แต่พระชายาก็ไม่รู้นี่นา ว่าท่านอ๋องตอนนั้นน่าเวทนาแค่ไหน ยังเป็นทารกอยู่เลย แล้วยังตอนที่เป็นเด็ก ช่วงคืนวันเหล่านั้น ท่านอ๋องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเขาผ่านคืนวันที่ทุกข์ทรมานมามากตั้งเท่าไร ถึงสามารถมีชีวิตต่อได้ ถึงสามารถเติบโตขึ้นมาได้ทั้งหมดเป็นเพราะการวางยาในวังครั้งนั้นความทุกข์เหล่านั้น อย่าว่าแต่ตัวท่านอ๋องเองเลย กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่อาจลืมได้ชิงอีก้มหน้าตามอยู่ด้านหลังพวกเขา ตามพวกเขากลับมายังเรือนหน้าผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวไม่อยู่ในศาลาแล้วเสี่ยวชิ่นเข้ามารับ "ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งบอกว่า พวก
"อายวน ใจเย็นๆ ก่อน"ฟู่จาวหนิงล้วนรู้สึกว่าอารมณ์โกรธของเซียวหลันยวนจะระเบิดออกมาแล้ว จึงเขย่ามือของเขาไว้เซียวหลันยวนผ่อนลมหายใจ"เอ็นมังกรหยกนั่นต้องนะมาให้ได้" เขาเอ่ยกับฟู่จาวหนิงอย่างน้อยเนื้อต่ำใจถ้ามีเอ็นมังกรหยกนั่น เขาก็จะขจัดพิษได้จนหมด ซึ่งจะมีบทบาทระดับหนึ่งกับแผนเป็นพิษบนใบหน้านี้ บางทีโฉมหน้าของเขาอาจจะฟื้นกลับมาได้"แน่นอน"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า นางจะต้องนำมาให้ได้"พวกท่านต้องการวัตถุดิบยาของข้าหรือ?" ฟู่จิ้นเชินสีหน้าสงสัย "เช่นนั้นข้าจะไม่ให้พวกท่าหรอก ข้ารับปากคนอื่นไว้แล้ว ว่าจะนำวัตถุดิบยานี้ให้เขา"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ซือถูไป๋หรือ?""ท่านรู้ได้อย่างไร?""เขาไม่ใช่ว่ามาเจรจาแลกเปลี่ยนกับท่านหรอกหรือ?""ซือถูไป๋ เป็นคุณชายน้อยจากโรงยาทงฝู เขาน่าจะมีเส้นสายในสมาคมหมอใหญ่ ข้าเชื่อว่าถ้าให้เวลาเขาหน่อย เขาจะสามารถสำเร็จเงื่อนไขของข้าได้" ฟู่จิ้นเชินมองนาง เอ่ยต่อว่า "ซือถูไป๋เองก็ดูเป็นคนไม่เลวนัก ข้าจึงฟังคำพูดเขา""ดังนั้น ความหมายของท่านคือ?" เซียวหลันยวนสายตาขรึมลงมานี่คือคิดจะบอกให้จาวหนิงแต่งงานใหม่หรือ?นี่กล้าพูดชมซือถูไป๋ต่อหน้าเขาเลยหรือ?"ไม่
เสิ่นเสวียนตอนนี้ก็พูดขึ้นแล้ว"เอ็นมังกรหยกให้จาวหนิงได้ วิชาแพทย์ของนางนำหน้าหมอใหญ่ทั้งหมดในปัจจุบันนี้ไปแล้ว"พอเห็นฟู่จิ้นเชินจะพูดอะไรอีก เสิ่นเสวียนก็พูดต่อว่า "ยังห่างจากงานประชุมหมอใหญ่อีกตั้งหลายวัน ช่วงนี้ก็ให้จาวหนิงลองรักษาพวกท่านดูก่อนสิ แล้วข้าจะช่วยคิดหาวิธีให้หมอมีชื่ของสมาคมหมอใหญ๋ในตอนนั้นมารักษาพวกท่านให้อีกที ถ้าหากตอนนั้นท่านยังต้องการล่ะก็นะ""่จริงหรือ?""เมื่อครู่ท่านไม่ได้บอกหรอกหรือ ว่าท่านมาต้าชื่อ หนึ่งในเป้าหมายก็คือจะมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับข้า?" เสิ่นเสวียนถามขึ้นอย่างสงบ "ในเมื่อข้าเป็นเป้าหมายการแลกเปลี่ยนที่ท่านเลือก เช่นนั้นท่านก็คงจะหาข่าวเรื่องข้ามาแต่เนิ่นๆ แล้ว"ดังนั้นเมื่อครู่ฟู่จิ้นเชินจึงถามว่าเขาคือเสิ่นเสวียนใช่ไหม"ข้าก็หาข่าวเรื่องท่านมาแล้วจริงๆ"แต่ว่า หลังจากมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ เขาก็ได้ยินสถานการณ์ของตระกูลเสิ่นและเสิ่นเสวียน เหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีนักเดิมทีเขาก็จะเปลี่ยนใจ ซือถูไป๋อาจจะเหมาะในการแลกเปลี่ยนมากกว่าเสิ่นเสวียนทว่าเขาตอนนี้ถูกพวกเขาพามาที่นี่แล้ว"แต่พวกท่านตอนนี้คิดจะบังคับเพื่อแลกเปลี่ยนหรือ?"เสิ่นเสวี
หามาตั้งนาน ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าเอ็นมังกรหยกมันหายากขนาดไหนก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าไม่ต้องรีบร้อนมาก ทว่าตอนนี้พอพบว่าเซียวหลันยวนทนรับกับแผลเป็นพิษบนหน้านี้ไม่ไหวแล้ว นางจึงรู้สึกว่าต้องเอาการรักษาโฉมหน้าเขามาเป็นภารกิจแรกเสียก่อนถ้าหากพลาดเอ็นมังกรหยกในมือฟู่จิ้นเชินนี้ไป นางเองก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปที่จะหาเจอคือเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่จะเจออีกก็ยากด้วยไม่ว่าอย่างไร เอ็นมังกรหยกชิ้นนี้นางต้องนำมาให้ได้"ท่านต้องการนำไปแก้พิษหรือ? ท่านติดพิษมาหรือ?" ความสนใจของฟู่จิ้นเชินอยู่ที่จุดนี้ "ข้ารู้ว่าเอ็นมังกรหยกสามารถขับพิษที่ร้ายแรงออกมาได้"ตอนที่เขาถามฟู่จาวหนิง สายตาก็ดูกังวลอยุ่เสิ่นเชี่ยวเองก็ร้อนรนขึ้นมา "แม่นางท่านติดพิษมาหรือ?"ถ้าไม่ใช่พวกเขาเองก็ต้องรับการรักษษ นางอยากจะมอบเอ็นมังกรหยกนี้ให้ฟู่จาวหนิงไปเลย!"ไม่ใช่นาง แต่เป็นข้า"เซียวหลันยวนเอ่ยออกมาตรงๆ เขากระทั่งรู้สึกภูมิใจหน่อยๆ ด้วยเพราะฟู่จาวหนิงล้วนทำเพื่อเขาพอเห็นนางทำเพื่อตัวเองจนมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับพ่อแม่แท้ๆ ได้ เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตนเองถูกปลอบขวัญไปเรียบร้อยแล้วตอนนี้ในใจถูกอัดแน่นเต็มไปหมด
"นี่คือสลบไปแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังสลบลงไปพร้อมกันด้วย?"เสิ่นเสวียนรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยดังนั้น ถ้าพูดถึงอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้อีกสามีภรรยาตระกูลฟู่ถูกประคองไปนอนที่เตียงอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ท่านเองก็เห็นแล้ว พวกเขาประหลาดไปจริงๆ""ยืนยันได้ว่าไม่ใช่แกล้งทำใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเสียงขรึมลงมาเล็กน้อย"ยืนยัน"ฟู่จาวหนิงมองออกว่าเป็นลมจริงหรือแกล้งเป็นลม ยิ่งไปกว่านั้นนางเองยังจับชีพจรให้ด้วยเซียวหลันยวนกัดฟัน ไม่พูดอะไรอีกคนก็สลบไปแล้ว เขายังจะพูดอะไรได้? ยังไม่ได้ถามให้ชัดเลยสักอย่าง"ท่านลุง ท่านกับอายวนออกไปก่อนเถอะ ข้าจะตรวจพวกเขาอย่างละเอียด น่าจะต้องใช้เวลานานหน่อย"ฟู่จาวหนิงมองอย่างขอโทษไปที่เซียวหลันยวน "ท่านอดทนหน่อยได้ไหม? หากอย่างจะรู้ความจริงในครั้งนั้น ดูท่าต้องให้พวกเขาหายเป็นปกติเสียก่อน""ได้ ข้าจะรอ"เซียวหลันยวนก้มหน้าต่ำเล็กน้อย จูบเบาๆ ไปที่หน้าผากนาง และเพราะนาง เขาจึงเต็มใจจะรอเสิ่นเสวียนหมุนตัวออกไป ทำเป็นว่าตัวเองไม่เห็นฉากนี้"จาวหนิง เช่นนั้นเจ้าก็เหนื่อยหน่อยนะ พวกเราจะออกไปแล้ว มีอะไรก็เรียกไป๋หู่"ไป๋หู่จะคอยคุ้
"หลักๆ คือข้าถาม ถามว่าพวกเขาเดิมทีคิดจะหาตัวข้าใช่ไหม มีเรื่องอะไร ถามพวกเขาว่าเป็นสามีภรรยากันไหม ก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน"เสิ่นเสวียนสีหน้าดูซับซ้อน "พวกเขาตอบกลับง่ายอย่างกระชับ แต่ก็ยังพอฟังออกว่า ช่วงสิบกว่าปี้นี้ พวกเขาน่าจะไม่ได้พักที่ไหนนานๆ เลย ระหกระเหินอยู่ภายนอกตลอด"เขาฟังแล้วรู้สึกปวดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นเสิ่นเชี่ยวน้องสาวเขาที่หายสาบสูญไปหลายปีคนเองก็หาพบแล้ว เสิ่นเชี่ยวกระทั่งตัวตนฐานะฟู่หลินซื่อของนางก็ยังนึกไม่ออก ไม่ตอ้งพูดเรื่องตัวตนของเสิ่นเชี่ยวเลยเกรงว่าจะยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ดังนั้นเสิ่นเสวียนจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้แต่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่พวกเขาระหกระเหินอยู่ภายนอกสิบกว่าปี ถึงอย่างไรก็เป็นศัตรูของเขาอยู่แล้วใครจะไปสนใจว่าศัตรูจะมีความสุขหรือเปล่าในช่วงหลายปีนี้?"หลังจากที่ข้าแต่งงานกับจาวหนิงได้ไม่นาน แคว้นเจาก็ยกเลิกการไล่จับพวกเขาแล้ว พวกเขาถ้าหากรู้ อยากจะกลับบ้านมาดูก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"แต่เป็นพวกเขาที่เลือกระหกระเหินอยู่ภายนอกเอง"อ๋องเจวี้ยน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหลังจากกลับมาท่านจะไม่ยัดพวกเขาเข้าคุกทั
หลังจากพูดประโยคนี้นางก็ไม่พูดอะไรต่อ และไม่บอกว่าได้หรือไม่ได้ นั่งอยู่อย่างนั้น ค่อยๆ ดื่มชาห้องอุ่นห้องนี้ของนาง ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา บนกำแพงแขวนภาพไว้ อักษรลงไว้ว่าหัวใจพระสูตร ภาพที่วาดคือวัตถุสีไม่ฉูดฉาดบนโต๊ะมีถาดผลไม้วางอยู่ วางสาลี่ในฤดูกาลของต้าชื่อเอาไว้หลายผล สาลี่นี้ยังส่งกลิ่นหอมหวานออกมา บวกกับควันจางๆ ที่ลอยกรุ่นจากชา บวกกับแสงตะวันอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงจางๆ นอกหน้าต่าง ทำให้รู้สึกเงียบสงัด กาลเวลาเงียบสงบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสวมชุดกระโปรงสีเรียบๆ ที่ผมก็มีเพียงปิ่นหยกสีเขียวเล่มหนึ่ง ใบหน้าขาวสะอาดดุจจันทร์กระจ่าง ดูเข้ากับห้องอุ่นนี้เป็นพิเศษเลยทีเดียวเดิมทีนั่งอยู่ในสถานที่เช่นนี้ มององค์หญิงใหญ่เช่นนี้ ซือถูไป๋ก็รู้สึกว่าตนเองควรจะสงบและผ่อนคลายแต่แปลกมากๆ เขาไม่ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย กระทั่งยังรู้สึกตึงเครียดเสียด้วยซ้ำความรู้สึกที่นั่งดื่มชากับองค์หญิงใหญ่ แตกต่างกับการดื่มชากับฟู่จาวหนิงหลายขุมฟู่จาวหนิงไม่ได้นุ่มนวลอ่อนโยนแบบนี้กับเขาซือถูไป๋รู้สึกแปลกๆ ในใจตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงคนส่งเข้ามา "องค์หญิงใหญ่ องค์ชายสองและพระชายาองค์ชายสองมาขอพบ"ซ