เสิ่นเสวียนตอนนี้ก็พูดขึ้นแล้ว"เอ็นมังกรหยกให้จาวหนิงได้ วิชาแพทย์ของนางนำหน้าหมอใหญ่ทั้งหมดในปัจจุบันนี้ไปแล้ว"พอเห็นฟู่จิ้นเชินจะพูดอะไรอีก เสิ่นเสวียนก็พูดต่อว่า "ยังห่างจากงานประชุมหมอใหญ่อีกตั้งหลายวัน ช่วงนี้ก็ให้จาวหนิงลองรักษาพวกท่านดูก่อนสิ แล้วข้าจะช่วยคิดหาวิธีให้หมอมีชื่ของสมาคมหมอใหญ๋ในตอนนั้นมารักษาพวกท่านให้อีกที ถ้าหากตอนนั้นท่านยังต้องการล่ะก็นะ""่จริงหรือ?""เมื่อครู่ท่านไม่ได้บอกหรอกหรือ ว่าท่านมาต้าชื่อ หนึ่งในเป้าหมายก็คือจะมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับข้า?" เสิ่นเสวียนถามขึ้นอย่างสงบ "ในเมื่อข้าเป็นเป้าหมายการแลกเปลี่ยนที่ท่านเลือก เช่นนั้นท่านก็คงจะหาข่าวเรื่องข้ามาแต่เนิ่นๆ แล้ว"ดังนั้นเมื่อครู่ฟู่จิ้นเชินจึงถามว่าเขาคือเสิ่นเสวียนใช่ไหม"ข้าก็หาข่าวเรื่องท่านมาแล้วจริงๆ"แต่ว่า หลังจากมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ เขาก็ได้ยินสถานการณ์ของตระกูลเสิ่นและเสิ่นเสวียน เหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีนักเดิมทีเขาก็จะเปลี่ยนใจ ซือถูไป๋อาจจะเหมาะในการแลกเปลี่ยนมากกว่าเสิ่นเสวียนทว่าเขาตอนนี้ถูกพวกเขาพามาที่นี่แล้ว"แต่พวกท่านตอนนี้คิดจะบังคับเพื่อแลกเปลี่ยนหรือ?"เสิ่นเสวี
หามาตั้งนาน ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าเอ็นมังกรหยกมันหายากขนาดไหนก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าไม่ต้องรีบร้อนมาก ทว่าตอนนี้พอพบว่าเซียวหลันยวนทนรับกับแผลเป็นพิษบนหน้านี้ไม่ไหวแล้ว นางจึงรู้สึกว่าต้องเอาการรักษาโฉมหน้าเขามาเป็นภารกิจแรกเสียก่อนถ้าหากพลาดเอ็นมังกรหยกในมือฟู่จิ้นเชินนี้ไป นางเองก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปที่จะหาเจอคือเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่จะเจออีกก็ยากด้วยไม่ว่าอย่างไร เอ็นมังกรหยกชิ้นนี้นางต้องนำมาให้ได้"ท่านต้องการนำไปแก้พิษหรือ? ท่านติดพิษมาหรือ?" ความสนใจของฟู่จิ้นเชินอยู่ที่จุดนี้ "ข้ารู้ว่าเอ็นมังกรหยกสามารถขับพิษที่ร้ายแรงออกมาได้"ตอนที่เขาถามฟู่จาวหนิง สายตาก็ดูกังวลอยุ่เสิ่นเชี่ยวเองก็ร้อนรนขึ้นมา "แม่นางท่านติดพิษมาหรือ?"ถ้าไม่ใช่พวกเขาเองก็ต้องรับการรักษษ นางอยากจะมอบเอ็นมังกรหยกนี้ให้ฟู่จาวหนิงไปเลย!"ไม่ใช่นาง แต่เป็นข้า"เซียวหลันยวนเอ่ยออกมาตรงๆ เขากระทั่งรู้สึกภูมิใจหน่อยๆ ด้วยเพราะฟู่จาวหนิงล้วนทำเพื่อเขาพอเห็นนางทำเพื่อตัวเองจนมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับพ่อแม่แท้ๆ ได้ เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตนเองถูกปลอบขวัญไปเรียบร้อยแล้วตอนนี้ในใจถูกอัดแน่นเต็มไปหมด
"นี่คือสลบไปแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังสลบลงไปพร้อมกันด้วย?"เสิ่นเสวียนรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยดังนั้น ถ้าพูดถึงอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้อีกสามีภรรยาตระกูลฟู่ถูกประคองไปนอนที่เตียงอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ท่านเองก็เห็นแล้ว พวกเขาประหลาดไปจริงๆ""ยืนยันได้ว่าไม่ใช่แกล้งทำใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเสียงขรึมลงมาเล็กน้อย"ยืนยัน"ฟู่จาวหนิงมองออกว่าเป็นลมจริงหรือแกล้งเป็นลม ยิ่งไปกว่านั้นนางเองยังจับชีพจรให้ด้วยเซียวหลันยวนกัดฟัน ไม่พูดอะไรอีกคนก็สลบไปแล้ว เขายังจะพูดอะไรได้? ยังไม่ได้ถามให้ชัดเลยสักอย่าง"ท่านลุง ท่านกับอายวนออกไปก่อนเถอะ ข้าจะตรวจพวกเขาอย่างละเอียด น่าจะต้องใช้เวลานานหน่อย"ฟู่จาวหนิงมองอย่างขอโทษไปที่เซียวหลันยวน "ท่านอดทนหน่อยได้ไหม? หากอย่างจะรู้ความจริงในครั้งนั้น ดูท่าต้องให้พวกเขาหายเป็นปกติเสียก่อน""ได้ ข้าจะรอ"เซียวหลันยวนก้มหน้าต่ำเล็กน้อย จูบเบาๆ ไปที่หน้าผากนาง และเพราะนาง เขาจึงเต็มใจจะรอเสิ่นเสวียนหมุนตัวออกไป ทำเป็นว่าตัวเองไม่เห็นฉากนี้"จาวหนิง เช่นนั้นเจ้าก็เหนื่อยหน่อยนะ พวกเราจะออกไปแล้ว มีอะไรก็เรียกไป๋หู่"ไป๋หู่จะคอยคุ้
"หลักๆ คือข้าถาม ถามว่าพวกเขาเดิมทีคิดจะหาตัวข้าใช่ไหม มีเรื่องอะไร ถามพวกเขาว่าเป็นสามีภรรยากันไหม ก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน"เสิ่นเสวียนสีหน้าดูซับซ้อน "พวกเขาตอบกลับง่ายอย่างกระชับ แต่ก็ยังพอฟังออกว่า ช่วงสิบกว่าปี้นี้ พวกเขาน่าจะไม่ได้พักที่ไหนนานๆ เลย ระหกระเหินอยู่ภายนอกตลอด"เขาฟังแล้วรู้สึกปวดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นเสิ่นเชี่ยวน้องสาวเขาที่หายสาบสูญไปหลายปีคนเองก็หาพบแล้ว เสิ่นเชี่ยวกระทั่งตัวตนฐานะฟู่หลินซื่อของนางก็ยังนึกไม่ออก ไม่ตอ้งพูดเรื่องตัวตนของเสิ่นเชี่ยวเลยเกรงว่าจะยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ดังนั้นเสิ่นเสวียนจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้แต่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่พวกเขาระหกระเหินอยู่ภายนอกสิบกว่าปี ถึงอย่างไรก็เป็นศัตรูของเขาอยู่แล้วใครจะไปสนใจว่าศัตรูจะมีความสุขหรือเปล่าในช่วงหลายปีนี้?"หลังจากที่ข้าแต่งงานกับจาวหนิงได้ไม่นาน แคว้นเจาก็ยกเลิกการไล่จับพวกเขาแล้ว พวกเขาถ้าหากรู้ อยากจะกลับบ้านมาดูก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"แต่เป็นพวกเขาที่เลือกระหกระเหินอยู่ภายนอกเอง"อ๋องเจวี้ยน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหลังจากกลับมาท่านจะไม่ยัดพวกเขาเข้าคุกทั
หลังจากพูดประโยคนี้นางก็ไม่พูดอะไรต่อ และไม่บอกว่าได้หรือไม่ได้ นั่งอยู่อย่างนั้น ค่อยๆ ดื่มชาห้องอุ่นห้องนี้ของนาง ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา บนกำแพงแขวนภาพไว้ อักษรลงไว้ว่าหัวใจพระสูตร ภาพที่วาดคือวัตถุสีไม่ฉูดฉาดบนโต๊ะมีถาดผลไม้วางอยู่ วางสาลี่ในฤดูกาลของต้าชื่อเอาไว้หลายผล สาลี่นี้ยังส่งกลิ่นหอมหวานออกมา บวกกับควันจางๆ ที่ลอยกรุ่นจากชา บวกกับแสงตะวันอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงจางๆ นอกหน้าต่าง ทำให้รู้สึกเงียบสงัด กาลเวลาเงียบสงบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสวมชุดกระโปรงสีเรียบๆ ที่ผมก็มีเพียงปิ่นหยกสีเขียวเล่มหนึ่ง ใบหน้าขาวสะอาดดุจจันทร์กระจ่าง ดูเข้ากับห้องอุ่นนี้เป็นพิเศษเลยทีเดียวเดิมทีนั่งอยู่ในสถานที่เช่นนี้ มององค์หญิงใหญ่เช่นนี้ ซือถูไป๋ก็รู้สึกว่าตนเองควรจะสงบและผ่อนคลายแต่แปลกมากๆ เขาไม่ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย กระทั่งยังรู้สึกตึงเครียดเสียด้วยซ้ำความรู้สึกที่นั่งดื่มชากับองค์หญิงใหญ่ แตกต่างกับการดื่มชากับฟู่จาวหนิงหลายขุมฟู่จาวหนิงไม่ได้นุ่มนวลอ่อนโยนแบบนี้กับเขาซือถูไป๋รู้สึกแปลกๆ ในใจตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงคนส่งเข้ามา "องค์หญิงใหญ่ องค์ชายสองและพระชายาองค์ชายสองมาขอพบ"ซ
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงตางงหน่อยๆ"เรื่องแบบนี้ มาหาข้าแล้วข้าช่วยอะไรได้หรือ?"นางเองก็แค่แม่นางที่อายุสิบแปด ยังไม่แต่งงาน ไม่ต้องพูดเรื่องตั้งครรภ์เลย มาหานางทำไมกัน?"องค์หญิงใหญ่เปี่ยมล้นด้วยพระพรโชคสุข เป็นคนที่พระเจ้าโปรดปราน ข้าอยากให้เด็กในท้องได้รับโชคนี้ หวังว่าเขาจะปลอดภัย" พระชายาองค์ชายสองตอบมาเสิ่นเซียงกับอิ๋นสั่วที่ยืนอยู่ข้างๆ สบตากันผาดหนึ่ง รู้สึกไม่อยากเชื่อนี่มันอะไรกัน?องค์หญิงใหญ่มีบทบาทแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน?"แล้วข้าจะให้โชคกับเขาได้อย่างไร?" สายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็อดมองไปยังท้องของพระชายาองค์ชายสองไม่ได้ยังเรียบอยู่เลยจะมีเด็กหรือไม่มีเด็กก็ยังมองไม่ออก แล้วจะมอบพรมอบโชคให้ได้อย่างไร?"องค์หญิงใหญ่ วันนี้ข้าอยู่กับท่านที่นี่ นอนด้วยกันกับท่าน เช่นนี้ก็สามารถอยู่ใกล้ท่านได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเวลายังนานพอสมควรอีกด้วย เช่นนี้ได้ไหม?" พระชายาองค์ชายรองถามนางให้ความสำคัญกับเด็กมาก ที่คลอดมาก่อนหน้าคือลูกสาว ครรภ์นี้นางคิดว่าจะเป็นผู้ชาย ถ้านางยังไม่มอบทายาทสืบตระกูลให้กับองค์ชายสอง ตำแหน่งพระชายาองค์ชายสองก็คงจะไม่มั่นคงเสียแล้วองค์ชายสองจะต
คนที่อายุมากกว่าองค์หญิงใหญ่ของพวกนางเกือบสิบปี กลับมาออดอ้อนองค์หญิงใหญ่เนี่ยนะ?หน้าไม่อายเสียจริง!องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดึงมือของตนเองออกมา พูดกับพระชายาองค์ชายสองอย่างจนใจ "ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ หลักๆ คือข้าไม่ชินที่จะนอนร่วมเตียงกับผู้อื่น ถ้าหากข้างกายมีคน ข้าจะนอนไม่หลับ""เป็นไปได้อย่างไรกัน?"พระชายาองค์ชายสองไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย นางมองไปทางองค์ชายสอง "นายท่าน ท่านพูดกับเสด็จอาหน่อยสิว่าข้านอนแล้วว่าง่ายไหม? แค่ขอที่นิดเดียวเท่านั้น ไม่ดิ้นไม่ขยับเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ละเมอไม่กัดฟันด้วย และไม่มีทางกรนอีกต่างหาก ไม่ส่งผลกระทบอะไรเลยนะ"องค์ชายสองพยักหน้า "เสด็จอา เรื่องนี้จริง ท่านจะรู้สึกว่าข้างๆ ไม่มีคนอยู่เลย""จะอย่างไรก็ต้องรู้ ตั้งแต่เล็กจนโตข้าชินกับการนอนคนเดียว ขนาดเฉินเซียงกับอิ๋นสั่วพวกนางจะคุ้มกันอยู่ในห้องข้ายังไม่ยอมเลย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองไปทางสาวใช้วังทั้งสองคนพวกนางรีบพยักหน้ายืนยันคำพูดของนาง"เสด็จอา เช่นนั้นข้านอนบนเตียงข้างๆ ก็ได้ ไม่นอนเตียงเดียวกับท่านอย่างนี้ได้ไหม?" พระชายาองค์ชายสองไม่เชื่อคำพูดนางจริงๆ แต่ก็จำใจต้องถอยมาก้าวหนึ่ง"ถ้าท่
"นี่ก็ออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเองก็ปฏิเสธไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดื่มชาลงไปอีกอึกนางดูไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย"แต่ว่าพระชายาองค์ชายสองนั่นดูโกรธมากเลยนะ ทั้งๆ ที่นางทำไม่ถูกแท้ๆ สุดท้ายกลับยังโทษท่านอีก"นี่มันเหตุผลอะไรกัน?ให้ตายเถอะ"แล้วนางจะคิดได้เอง น่าจะเพราะนางมีนิสัยตรงไปตรงมา อารมณ์จึงแสดงออกบนใบหน้า อีกเดี๋ยวก็คงจะลืมแล้วกระมัง?""องค์หญิงใหญ่ ท่านนี่ก็เอาแต่พูดแทนคนอื่นนะ""ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสหรือไร? ข้าเป็นเสด็จอาของพวกเขานะ ข้าต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับผู้น้อยด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยิ้มๆเฉินเซียงก็ถอนใจออกมาอย่างจนใจวัยวุฒิก็ว่ากันตามวัยวุฒิ แต่นางก็ยังอายุน้อยกว่าพวกองค์ชายสองตั้งเยอะนะ"คุณชายซือถูยังอยู่ข้างนอกไหม? รีบเชิญเขาเข้ามาเร็ว"ซือถูไป๋เข้ามา เหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่ง พอเห็นท่าทางของนางยังดูอ่อนโยนสง่างาม ไม่ถูกสามีภรรยาองค์ชายสองเมื่อครู่นี้สร้างผลกระทบอะไรเลย ในใจก็รู้สึกนับถือขึ้นมา"คุณชายซือถู ขอบอกอะไรที่ตรงไปตรงมาสักเรื่องหนึ่งกับท่านได้ไหม?""องค์หญิงใหญ่เชิญพูดเถิด""อายุของข้าก็ขนาดนี้แล้ว ควรจะอภิ