เสิ่นเสวียนตอนนี้ก็พูดขึ้นแล้ว"เอ็นมังกรหยกให้จาวหนิงได้ วิชาแพทย์ของนางนำหน้าหมอใหญ่ทั้งหมดในปัจจุบันนี้ไปแล้ว"พอเห็นฟู่จิ้นเชินจะพูดอะไรอีก เสิ่นเสวียนก็พูดต่อว่า "ยังห่างจากงานประชุมหมอใหญ่อีกตั้งหลายวัน ช่วงนี้ก็ให้จาวหนิงลองรักษาพวกท่านดูก่อนสิ แล้วข้าจะช่วยคิดหาวิธีให้หมอมีชื่ของสมาคมหมอใหญ๋ในตอนนั้นมารักษาพวกท่านให้อีกที ถ้าหากตอนนั้นท่านยังต้องการล่ะก็นะ""่จริงหรือ?""เมื่อครู่ท่านไม่ได้บอกหรอกหรือ ว่าท่านมาต้าชื่อ หนึ่งในเป้าหมายก็คือจะมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับข้า?" เสิ่นเสวียนถามขึ้นอย่างสงบ "ในเมื่อข้าเป็นเป้าหมายการแลกเปลี่ยนที่ท่านเลือก เช่นนั้นท่านก็คงจะหาข่าวเรื่องข้ามาแต่เนิ่นๆ แล้ว"ดังนั้นเมื่อครู่ฟู่จิ้นเชินจึงถามว่าเขาคือเสิ่นเสวียนใช่ไหม"ข้าก็หาข่าวเรื่องท่านมาแล้วจริงๆ"แต่ว่า หลังจากมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ เขาก็ได้ยินสถานการณ์ของตระกูลเสิ่นและเสิ่นเสวียน เหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีนักเดิมทีเขาก็จะเปลี่ยนใจ ซือถูไป๋อาจจะเหมาะในการแลกเปลี่ยนมากกว่าเสิ่นเสวียนทว่าเขาตอนนี้ถูกพวกเขาพามาที่นี่แล้ว"แต่พวกท่านตอนนี้คิดจะบังคับเพื่อแลกเปลี่ยนหรือ?"เสิ่นเสวี
หามาตั้งนาน ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าเอ็นมังกรหยกมันหายากขนาดไหนก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าไม่ต้องรีบร้อนมาก ทว่าตอนนี้พอพบว่าเซียวหลันยวนทนรับกับแผลเป็นพิษบนหน้านี้ไม่ไหวแล้ว นางจึงรู้สึกว่าต้องเอาการรักษาโฉมหน้าเขามาเป็นภารกิจแรกเสียก่อนถ้าหากพลาดเอ็นมังกรหยกในมือฟู่จิ้นเชินนี้ไป นางเองก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปที่จะหาเจอคือเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่จะเจออีกก็ยากด้วยไม่ว่าอย่างไร เอ็นมังกรหยกชิ้นนี้นางต้องนำมาให้ได้"ท่านต้องการนำไปแก้พิษหรือ? ท่านติดพิษมาหรือ?" ความสนใจของฟู่จิ้นเชินอยู่ที่จุดนี้ "ข้ารู้ว่าเอ็นมังกรหยกสามารถขับพิษที่ร้ายแรงออกมาได้"ตอนที่เขาถามฟู่จาวหนิง สายตาก็ดูกังวลอยุ่เสิ่นเชี่ยวเองก็ร้อนรนขึ้นมา "แม่นางท่านติดพิษมาหรือ?"ถ้าไม่ใช่พวกเขาเองก็ต้องรับการรักษษ นางอยากจะมอบเอ็นมังกรหยกนี้ให้ฟู่จาวหนิงไปเลย!"ไม่ใช่นาง แต่เป็นข้า"เซียวหลันยวนเอ่ยออกมาตรงๆ เขากระทั่งรู้สึกภูมิใจหน่อยๆ ด้วยเพราะฟู่จาวหนิงล้วนทำเพื่อเขาพอเห็นนางทำเพื่อตัวเองจนมาเจรจาแลกเปลี่ยนกับพ่อแม่แท้ๆ ได้ เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตนเองถูกปลอบขวัญไปเรียบร้อยแล้วตอนนี้ในใจถูกอัดแน่นเต็มไปหมด
"นี่คือสลบไปแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังสลบลงไปพร้อมกันด้วย?"เสิ่นเสวียนรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยดังนั้น ถ้าพูดถึงอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้อีกสามีภรรยาตระกูลฟู่ถูกประคองไปนอนที่เตียงอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ท่านเองก็เห็นแล้ว พวกเขาประหลาดไปจริงๆ""ยืนยันได้ว่าไม่ใช่แกล้งทำใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเสียงขรึมลงมาเล็กน้อย"ยืนยัน"ฟู่จาวหนิงมองออกว่าเป็นลมจริงหรือแกล้งเป็นลม ยิ่งไปกว่านั้นนางเองยังจับชีพจรให้ด้วยเซียวหลันยวนกัดฟัน ไม่พูดอะไรอีกคนก็สลบไปแล้ว เขายังจะพูดอะไรได้? ยังไม่ได้ถามให้ชัดเลยสักอย่าง"ท่านลุง ท่านกับอายวนออกไปก่อนเถอะ ข้าจะตรวจพวกเขาอย่างละเอียด น่าจะต้องใช้เวลานานหน่อย"ฟู่จาวหนิงมองอย่างขอโทษไปที่เซียวหลันยวน "ท่านอดทนหน่อยได้ไหม? หากอย่างจะรู้ความจริงในครั้งนั้น ดูท่าต้องให้พวกเขาหายเป็นปกติเสียก่อน""ได้ ข้าจะรอ"เซียวหลันยวนก้มหน้าต่ำเล็กน้อย จูบเบาๆ ไปที่หน้าผากนาง และเพราะนาง เขาจึงเต็มใจจะรอเสิ่นเสวียนหมุนตัวออกไป ทำเป็นว่าตัวเองไม่เห็นฉากนี้"จาวหนิง เช่นนั้นเจ้าก็เหนื่อยหน่อยนะ พวกเราจะออกไปแล้ว มีอะไรก็เรียกไป๋หู่"ไป๋หู่จะคอยคุ้
"หลักๆ คือข้าถาม ถามว่าพวกเขาเดิมทีคิดจะหาตัวข้าใช่ไหม มีเรื่องอะไร ถามพวกเขาว่าเป็นสามีภรรยากันไหม ก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน"เสิ่นเสวียนสีหน้าดูซับซ้อน "พวกเขาตอบกลับง่ายอย่างกระชับ แต่ก็ยังพอฟังออกว่า ช่วงสิบกว่าปี้นี้ พวกเขาน่าจะไม่ได้พักที่ไหนนานๆ เลย ระหกระเหินอยู่ภายนอกตลอด"เขาฟังแล้วรู้สึกปวดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นเสิ่นเชี่ยวน้องสาวเขาที่หายสาบสูญไปหลายปีคนเองก็หาพบแล้ว เสิ่นเชี่ยวกระทั่งตัวตนฐานะฟู่หลินซื่อของนางก็ยังนึกไม่ออก ไม่ตอ้งพูดเรื่องตัวตนของเสิ่นเชี่ยวเลยเกรงว่าจะยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ดังนั้นเสิ่นเสวียนจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้แต่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่พวกเขาระหกระเหินอยู่ภายนอกสิบกว่าปี ถึงอย่างไรก็เป็นศัตรูของเขาอยู่แล้วใครจะไปสนใจว่าศัตรูจะมีความสุขหรือเปล่าในช่วงหลายปีนี้?"หลังจากที่ข้าแต่งงานกับจาวหนิงได้ไม่นาน แคว้นเจาก็ยกเลิกการไล่จับพวกเขาแล้ว พวกเขาถ้าหากรู้ อยากจะกลับบ้านมาดูก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"แต่เป็นพวกเขาที่เลือกระหกระเหินอยู่ภายนอกเอง"อ๋องเจวี้ยน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหลังจากกลับมาท่านจะไม่ยัดพวกเขาเข้าคุกทั
หลังจากพูดประโยคนี้นางก็ไม่พูดอะไรต่อ และไม่บอกว่าได้หรือไม่ได้ นั่งอยู่อย่างนั้น ค่อยๆ ดื่มชาห้องอุ่นห้องนี้ของนาง ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา บนกำแพงแขวนภาพไว้ อักษรลงไว้ว่าหัวใจพระสูตร ภาพที่วาดคือวัตถุสีไม่ฉูดฉาดบนโต๊ะมีถาดผลไม้วางอยู่ วางสาลี่ในฤดูกาลของต้าชื่อเอาไว้หลายผล สาลี่นี้ยังส่งกลิ่นหอมหวานออกมา บวกกับควันจางๆ ที่ลอยกรุ่นจากชา บวกกับแสงตะวันอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงจางๆ นอกหน้าต่าง ทำให้รู้สึกเงียบสงัด กาลเวลาเงียบสงบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสวมชุดกระโปรงสีเรียบๆ ที่ผมก็มีเพียงปิ่นหยกสีเขียวเล่มหนึ่ง ใบหน้าขาวสะอาดดุจจันทร์กระจ่าง ดูเข้ากับห้องอุ่นนี้เป็นพิเศษเลยทีเดียวเดิมทีนั่งอยู่ในสถานที่เช่นนี้ มององค์หญิงใหญ่เช่นนี้ ซือถูไป๋ก็รู้สึกว่าตนเองควรจะสงบและผ่อนคลายแต่แปลกมากๆ เขาไม่ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย กระทั่งยังรู้สึกตึงเครียดเสียด้วยซ้ำความรู้สึกที่นั่งดื่มชากับองค์หญิงใหญ่ แตกต่างกับการดื่มชากับฟู่จาวหนิงหลายขุมฟู่จาวหนิงไม่ได้นุ่มนวลอ่อนโยนแบบนี้กับเขาซือถูไป๋รู้สึกแปลกๆ ในใจตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงคนส่งเข้ามา "องค์หญิงใหญ่ องค์ชายสองและพระชายาองค์ชายสองมาขอพบ"ซ
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงตางงหน่อยๆ"เรื่องแบบนี้ มาหาข้าแล้วข้าช่วยอะไรได้หรือ?"นางเองก็แค่แม่นางที่อายุสิบแปด ยังไม่แต่งงาน ไม่ต้องพูดเรื่องตั้งครรภ์เลย มาหานางทำไมกัน?"องค์หญิงใหญ่เปี่ยมล้นด้วยพระพรโชคสุข เป็นคนที่พระเจ้าโปรดปราน ข้าอยากให้เด็กในท้องได้รับโชคนี้ หวังว่าเขาจะปลอดภัย" พระชายาองค์ชายสองตอบมาเสิ่นเซียงกับอิ๋นสั่วที่ยืนอยู่ข้างๆ สบตากันผาดหนึ่ง รู้สึกไม่อยากเชื่อนี่มันอะไรกัน?องค์หญิงใหญ่มีบทบาทแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน?"แล้วข้าจะให้โชคกับเขาได้อย่างไร?" สายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็อดมองไปยังท้องของพระชายาองค์ชายสองไม่ได้ยังเรียบอยู่เลยจะมีเด็กหรือไม่มีเด็กก็ยังมองไม่ออก แล้วจะมอบพรมอบโชคให้ได้อย่างไร?"องค์หญิงใหญ่ วันนี้ข้าอยู่กับท่านที่นี่ นอนด้วยกันกับท่าน เช่นนี้ก็สามารถอยู่ใกล้ท่านได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเวลายังนานพอสมควรอีกด้วย เช่นนี้ได้ไหม?" พระชายาองค์ชายรองถามนางให้ความสำคัญกับเด็กมาก ที่คลอดมาก่อนหน้าคือลูกสาว ครรภ์นี้นางคิดว่าจะเป็นผู้ชาย ถ้านางยังไม่มอบทายาทสืบตระกูลให้กับองค์ชายสอง ตำแหน่งพระชายาองค์ชายสองก็คงจะไม่มั่นคงเสียแล้วองค์ชายสองจะต
คนที่อายุมากกว่าองค์หญิงใหญ่ของพวกนางเกือบสิบปี กลับมาออดอ้อนองค์หญิงใหญ่เนี่ยนะ?หน้าไม่อายเสียจริง!องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดึงมือของตนเองออกมา พูดกับพระชายาองค์ชายสองอย่างจนใจ "ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ หลักๆ คือข้าไม่ชินที่จะนอนร่วมเตียงกับผู้อื่น ถ้าหากข้างกายมีคน ข้าจะนอนไม่หลับ""เป็นไปได้อย่างไรกัน?"พระชายาองค์ชายสองไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย นางมองไปทางองค์ชายสอง "นายท่าน ท่านพูดกับเสด็จอาหน่อยสิว่าข้านอนแล้วว่าง่ายไหม? แค่ขอที่นิดเดียวเท่านั้น ไม่ดิ้นไม่ขยับเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ละเมอไม่กัดฟันด้วย และไม่มีทางกรนอีกต่างหาก ไม่ส่งผลกระทบอะไรเลยนะ"องค์ชายสองพยักหน้า "เสด็จอา เรื่องนี้จริง ท่านจะรู้สึกว่าข้างๆ ไม่มีคนอยู่เลย""จะอย่างไรก็ต้องรู้ ตั้งแต่เล็กจนโตข้าชินกับการนอนคนเดียว ขนาดเฉินเซียงกับอิ๋นสั่วพวกนางจะคุ้มกันอยู่ในห้องข้ายังไม่ยอมเลย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองไปทางสาวใช้วังทั้งสองคนพวกนางรีบพยักหน้ายืนยันคำพูดของนาง"เสด็จอา เช่นนั้นข้านอนบนเตียงข้างๆ ก็ได้ ไม่นอนเตียงเดียวกับท่านอย่างนี้ได้ไหม?" พระชายาองค์ชายสองไม่เชื่อคำพูดนางจริงๆ แต่ก็จำใจต้องถอยมาก้าวหนึ่ง"ถ้าท่
"นี่ก็ออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเองก็ปฏิเสธไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดื่มชาลงไปอีกอึกนางดูไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย"แต่ว่าพระชายาองค์ชายสองนั่นดูโกรธมากเลยนะ ทั้งๆ ที่นางทำไม่ถูกแท้ๆ สุดท้ายกลับยังโทษท่านอีก"นี่มันเหตุผลอะไรกัน?ให้ตายเถอะ"แล้วนางจะคิดได้เอง น่าจะเพราะนางมีนิสัยตรงไปตรงมา อารมณ์จึงแสดงออกบนใบหน้า อีกเดี๋ยวก็คงจะลืมแล้วกระมัง?""องค์หญิงใหญ่ ท่านนี่ก็เอาแต่พูดแทนคนอื่นนะ""ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสหรือไร? ข้าเป็นเสด็จอาของพวกเขานะ ข้าต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับผู้น้อยด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยิ้มๆเฉินเซียงก็ถอนใจออกมาอย่างจนใจวัยวุฒิก็ว่ากันตามวัยวุฒิ แต่นางก็ยังอายุน้อยกว่าพวกองค์ชายสองตั้งเยอะนะ"คุณชายซือถูยังอยู่ข้างนอกไหม? รีบเชิญเขาเข้ามาเร็ว"ซือถูไป๋เข้ามา เหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่ง พอเห็นท่าทางของนางยังดูอ่อนโยนสง่างาม ไม่ถูกสามีภรรยาองค์ชายสองเมื่อครู่นี้สร้างผลกระทบอะไรเลย ในใจก็รู้สึกนับถือขึ้นมา"คุณชายซือถู ขอบอกอะไรที่ตรงไปตรงมาสักเรื่องหนึ่งกับท่านได้ไหม?""องค์หญิงใหญ่เชิญพูดเถิด""อายุของข้าก็ขนาดนี้แล้ว ควรจะอภิ
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม