"นี่ก็ออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเองก็ปฏิเสธไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดื่มชาลงไปอีกอึกนางดูไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย"แต่ว่าพระชายาองค์ชายสองนั่นดูโกรธมากเลยนะ ทั้งๆ ที่นางทำไม่ถูกแท้ๆ สุดท้ายกลับยังโทษท่านอีก"นี่มันเหตุผลอะไรกัน?ให้ตายเถอะ"แล้วนางจะคิดได้เอง น่าจะเพราะนางมีนิสัยตรงไปตรงมา อารมณ์จึงแสดงออกบนใบหน้า อีกเดี๋ยวก็คงจะลืมแล้วกระมัง?""องค์หญิงใหญ่ ท่านนี่ก็เอาแต่พูดแทนคนอื่นนะ""ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสหรือไร? ข้าเป็นเสด็จอาของพวกเขานะ ข้าต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับผู้น้อยด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยิ้มๆเฉินเซียงก็ถอนใจออกมาอย่างจนใจวัยวุฒิก็ว่ากันตามวัยวุฒิ แต่นางก็ยังอายุน้อยกว่าพวกองค์ชายสองตั้งเยอะนะ"คุณชายซือถูยังอยู่ข้างนอกไหม? รีบเชิญเขาเข้ามาเร็ว"ซือถูไป๋เข้ามา เหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่ง พอเห็นท่าทางของนางยังดูอ่อนโยนสง่างาม ไม่ถูกสามีภรรยาองค์ชายสองเมื่อครู่นี้สร้างผลกระทบอะไรเลย ในใจก็รู้สึกนับถือขึ้นมา"คุณชายซือถู ขอบอกอะไรที่ตรงไปตรงมาสักเรื่องหนึ่งกับท่านได้ไหม?""องค์หญิงใหญ่เชิญพูดเถิด""อายุของข้าก็ขนาดนี้แล้ว ควรจะอภิ
เซียงเฉินกับอิ๋นสั่วมองก็ล้วนมองไปทางซือถูไป๋ถูกพวกนางมองเช่นนี้ ทั้งสามใบหน้าลวนกำลังคาดหวังสีหน้าตอบรับของเขา ซือถูไป๋จึงทนไม่ไหวขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง พยักหน้าให้รอจนตอนที่เขาตั้งตัวกลับมาได้ เขาก็ตอบรับไปเรียบร้อยแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหัวเราะขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ"เช่นนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างพยายามกันนะ ต่อให้ผลลัพธ์ไม่สำเร็จ แต่พวกเราก็ทำเต็มที่เพื่อคนที่ชอบแล้ว หลังจากนี้ถ้าหากพวกเรามาอยู่ด้วยกัน จะต้องปฏิบัติต่อกันดั่งแขกคนสำคัญได้แน่"และสามารถอยู่ร่วมกันไปจนแก่เฒ่าได้แน่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหน้าแดงมองเขา "เรื่องที่พวกเราหารือกันนี่ ถ้าพูดออกไปต้องถูกคนหัวเราะเยาะแน่ ดังนั้น ขอให้คุณชายซือถูเก็บเป็นความลับด้วย ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว""...แน่นอน"ซือถูไป๋ตอนนี้งงงันหน่อยๆอันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงตอบรับไป"เ่นนั้นเรื่องที่คุณชายซือถูเข้ามาให้ข้าช่วย ข้าจะให้คนไปจัดการให้ คุณชายซือถูโปรดวางใจ"ออกมาจากในวัง ซือถูไป๋ถูกลมเย็นพัดใส่ จึงได้สติขึ้นมาในพริบตาเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว"ทำไมข้าจึงไปรับปากองค์หญิงใหญ่กัน?"ในของเขาไม่ได้อยู่บนตัวองค์หญ
"ดังนั้น โชคของท่านจึงไม่เลวเลย เพราะแย่งมาได้ก่อนก้าวหนึ่ง ได้รับเอ็นมังกรหยกมาก่อน"เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูลึกลับหน่อยๆฟู่จาวหนิงถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง ถ้าซือถูไป๋ได้เอ็นมังกรหยกไป ถึงตอนนั้นถ้าหากซือถูไป๋เสนอเงื่อนไขอะไรที่เกี่ยวกับตัวนางมา นางจะตอบรับก็ไม่ได้ จะไม่ตอบรับก็ไม่ได้อีก"ก็ไม่ถูกนัก น่าจะเพราะจาวหนิงดวงดี นางมีโชคมาตลอดแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว"เรื่องราวมักจะไม่ค่อยพัฒนาไปทิศทางที่นางต้องลำบาก"ท่านลุงพูดถูกต้อง หนิงหนิงเป็นคนที่มีโชคคนหนึ่งจริงๆ"จุดนี้ เซียวหลันยวนเองก็ยังยอมรับฟู่จาวหนิงที่มีโชคกำลังตรวจฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวอย่างละเอียด เหนื่อยจนแทบรากเลือดผลลัพธ์ที่ออกมาตอนท้าย นางดูอยู่นาน ค้นคว้าอยู่นานเสิ่นเชี่ยวตื่นไวกว่าฟู่จิ้นเชินเล็กน้อยหลังจากตื่นมานางก็เห็นฟู่จาวหนิงนั่งอยู่ข้างๆ พลิกกระดาษที่ดูประหลาดหน่อยๆ เหมือนกำลังอ่านอะไรด้านนอกแสงตะวันส่องลอดเข้ามา ส่วนหนึ่งกระทบลงบนหน้านางพอดี เปล่งประกายสีส้มออกมาชั้นหนึ่ง ทำให้ใบหน้าด้านข้างของนางดูเหมือนเคลือบทองไว้ งดงามอย่างมากเสิ่นเชี่ยวมองไปมองมา รู้สึกว่าตนเองเคลิ้มไปหน่อยๆ ไม่ส่งเสียงอะ
ต้องให้พวกเขามาฟังเสิ่นเชี่ยวพูดด้วยเซียวหลันยวนกับเสิ่นเสวียนรีบขเ้ามา แต่กลัวว่าหลังจากเห็นพวกเขาเสิ่นเชี่ยวจะไม่พูดต่อ พวกเขาจึงยืนฟังอยู่ด้านนอกหน้าต่าง"วิธีอะไรหรือ?""หมอคนนั้นบอกว่า ขอแค่ให้สามีลืมเรื่องในอดีตไป เขาก็จะไม่เจ็บปวดแล้ว ไม่เช่นนั้น ทุกครั้งที่สามีต้องมาปวดหัวแทบแตก เขาจะยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป""แล้วใช้วิธีไหน จึงสามารถทำให้เขาลืมเรื่องเก่าไปหรือ?""นั่นเป็นหมอผีคนหนึ่ง" เสิ่นเชี่ยวบอก "วิธีของเขา คือให้สามีกินยาลงไป แล้วยังฝังเข็มให้เขา แต่เข็มของเขากับเข็มของท่านไม่เหมือนกัน ข้าเองก็บอกไม่ถูก ถึงอย่างไรตอนนั้นก็รักษาไปเดือนเต็มๆ หลังจากสามีออกมาก็ลืมไปแล้วจริงๆ แต่คำว่าสกุลฟู่นี่ก็ราวกับเป็นสายฟ้าฟาด ถ้าเอ่ยขึ้นมากับเขาก็จะระเบิดขึ้นทันที จนทำให้เขาอาการกำเริบ"ฟู่จาวหนิงฟังถึงจุดนี้แล้วก็รู้สึกดูน่าขันหน่อยๆ"แล้วเขาลืมไปเช่นนี้ ไม่คิดถึงที่บ้านบ้างหรือว่ายังมีญาติหรือไม่ อย่างเช่นพ่อของเขาหรือลูกสาวที่ยังเล็กแบบนี้? ลืมพวกเขาไปจนหมด คิดคิดจะทอดทิ้งพวกเขาหรือ?""ไม่ใช่!"เสิ่นเชี่ยวรีบอธิบาย "ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมีคนบอกว่า พวกเราถ้ายังกล้ากลับไปที่บ้าน
ฟู่จาวหนิงไฟโกรธลุกขึ้นมาบนหัวแล้ว คุมไม่อยู่ขึ้นมาหน่อยๆเสียงของนางสูงขึ้น"ท่านรู้อยู่แล้วว่าอ๋องเจวี้ยนยังเป็นเด็กทารกที่เล็กมาก ท่านไม่อยากจะสังหารเขา แล้วทำไมพอคนอื่นบอกว่าอ๋องเจวี้ยนห้ามมีชีวิตอยู่ ท่านจึงยังไปวางยาพิษอีก?"เสิ่นเชี่ยวดวงตาแดงรื้น"ข้าไม่ได้ไปวางยาพิษ ข้าปฏิเสธนางแล้ว แต่นางก็หมุนตัวเดินไปทันที นางบอกว่า ถ้าข้าไม่ทำเรื่องนี้ นางจะให้สามีเป็นคนทำ แล้วยังบอกอีกว่าพิษเตรียมไว้เรียบร้อย พร้อมชี้ไปยังห้องที่อ๋องเจวี้ยนอยู่ให้ข้ารู้ แล้วนางก็เดินออกไป""แล้วท่านล่ะ?"ฟู่จาวหนิงใจแขวนขึ้นมาแล้วนางสัมผัสได้ ตอนนี้สมองเสิ่นเชี่ยวแม้จะยังสับสน แต่ถ้ารีบถามต่อ นางจะจดจำบางอย่างขึ้นมาได้ครั้งคราว บางทีภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่นางพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงไปหลายส่วน"ข้าหรือ? ข้าตอนนั้นคิดแต่ว่าจะให้สามีไปฟังนางไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ข้าก็ตรงไปยังห้องที่นางชี้ เข้าไปในตำหนัก เข้าไปยังห้องนั้น ต่อมาข้าก็จำอะไรไม่ได้แล้ว สมองข้าขาวโพลนไปหมด แล้วยังมึนหัวอีกด้วย จนตอนที่ข้าตื่นมา ก็มีคนมากมายกำลังล้อมข้าอยู่ ในมือข้ามีชามอยู่ใบหนึ่ง..."เสิ่นเชี่ยวปิดหน้าร้องไห้ขึ้นมา
"แล้วพวกท่านทำไมถึงต้องออกจากเมืองหลวงล่ะ?" ในห้อง ฟู่จาวหนิงยังถามต่อ"ในวังมีคนจะสังหารพวกเรา พวกเราถ้าไม่หนี คืนนั้นคงตายอยู่ในคุกไปแล้ว สามีบอกว่าพวกเราถ้าต้องตายไปแบบนี้ แล้วไม่มีวันไหนที่ได้สืบค้นจนเจอความจริง คนที่บ้านก็จะต้องมารับภาระการตราหน้านี้ไปตลอด""พวกท่านไม่ใช่ว่าจำคนในครอบครัวไม่ได้แล้วหรือ?""สามีข้าที่จำไม่ได้ ส่วนข้า ข้ายังจำได้ ข้าจำได้ ในบ้านมีคนอยู่มากมาย ท่านพ่อตาเองก็เป็นคนดีมาก แล้วก็ แล้วก็..."ฟู่จาวหนิงกำลังกลั้นหายใจรอคำพูดต่อไปของนาง ถ้าพูดต่อไปจะนึกออกไหมว่ายังมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง?ผลคือนางเห็นเสิ่นเชี่ยวบอกว่าแล้วก็อยู่นานสองนาน แต่ก็งงงันไม่พูดต่อ กลับก้มหน้าลงต่ำเสียด้วยซ้ำไป"ไม่ใช่สิ ข้าต้องลืมอะไรไปแน่ๆ สำคัญมากๆ ด้วย ทำไมข้าจึงคิดไม่ออกกัน!"นางเกือบจะพังทลายอยู่แล้วฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวเองก็ใกล้พังทลายเหมือนกัน สามีภรรยาคู่นี้เป็นอะไรไป! ความทรงจำในสมองถึงได้เหมือนถูกแทงจนกลวงเป็นตะกร้า!"พวกเขาจำจาวหนิงไม่ได้" เสิ่นเสวียนถอนหายใจขึ้นมาอีก"ที่ควรจำดันไม่จำ" เซียวหลันยวนเองก็กัดฟันโชคดีที่จาวหนิงมีใจแข็งแกร่ง ไม่ใช่เด็กที่อ่อนแอขนาดน
ฟู่จาวหนิงถามเสิ่นเชี่ยวเสร็จ รู้สึกแค่ว่าอารมณ์ยังหนักอึ้งอยู่หน่อยๆและไม่รู้ว่าฟู่จิ้นเชินได้ยินไปมากน้อยแค่ไหน เขาตื่นขึ้นมาระหว่างนั้นรอจนฟู่จาวหนิงไม่ถามอะไรต่อ เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง มองมาทางฟู่จาวหนิง"พวกท่านพาสามีภรรยาอย่างพวกเรามาที่นี่ เป็นเพราะอะไรกันแน่?""ท่านไม่ใช่ว่าพบกับเซียวหลันยวนแล้วหรือ?""ดังนั้น เพราะเขาคิดจะจับพวกเราอย่างนั้นหรือ? คิดจะล้างหนี้แค้นสมัยยังเด็กใช่ไหม" ฟู่จิ้นเชินคาดเดาไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งจะยืนยันฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบฟู่จิ้นเชินยื่นมือมากุมมือภรรยา ปลอบประโลมนางที่อารมณ์ลนลานขึ้นอย่างชัดเจน"ดูท่าจะไม่ใช่แค่เพื่อล้างแค้น ไม่ใช่นั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลามารักษาพวกเรา แล้วยังถามเรื่องในอดีตมากมายถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาต้องการเอ็นมังกรหยกแค่แย่งไปก็จบเรื่องแล้ว แต่นี่ยังคิดจะมาแลกเปลี่ยนกับพวกเราด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างประหลาดใจดูท่า ฟู่จิ้นเชินต่อให้ความทรงจำจะยังสับสน บางครั้งยังถูกกระตุ้นจนเกิดอาการวิงเวียน แต่สติสัมปชัญญะของเขาก็ยังใช้การได้อยู่"อ๋องเจวี้ยนยังรู้สึกสงสัยกับเรื่องในอดีตอยู่ใช่ไหม? เขาอยากจะรู้
คำพูดของฟู่จิ้นเชินยังไม่ทันพูดจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทเขา"ข้ายังไม่ตาย แต่การที่ไม่ตายมันหมายถึงว่าหลายปีนี้ข้าไม่ทุกข์ทรมานหรือไรกัน? ข้าทรมานในแบบที่พวกเจ้าจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลบหายไปได้"อย่าคิดว่าเขาไม่ตาย แล้วเรื่องที่วางยาพิษจะจบไปนะ"พวกเราไม่ได้หมายความเช่นนั้น"ฟู่จิ้นเชินกัดฟัน อธิบายมาคำหนึ่ง "ความหมายของข้าคือ อ๋องเจวี้ยนไม่ตาย เช่นนั้นถ้าพวกเรามีความผิดจริง จะลงโทษมาที่ข้าคนเดียวได้ไหม?""ท่นคิดจะปกป้องนางหรือ?""คุณ ต่อให้เรื่องวางยาพิษเป็นเรื่องจริง นั่นมันก็เป็นข้าที่ทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเลย" เสิ่นเชี่ยวหันกลับมาจับมือฟู่จิ้นเชิน เอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนว่า "ดังนั้นถ้าจะเอาผิดจริงๆ ก็ต้องมาลงที่ตัวข้าสิ"ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไม่พูดอะไรดูท่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของพวกเขาจะดีมากๆ มาโดยตลอด?"เรื่องเลห่านี้รอตรวจสอบความจริงแล้วค่อยว่ากันเถอะ" เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวน "ได้ไหม?"เซียวหลันยวนหรุบตาต่ำเขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?พอได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องในตอนนั้นมันแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในการพรรณนาของเสิ่นเ
พวกของอวิ๋นจูถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร? รับพวกนางไว้คือทำให้ตนเองสกปรกหรือ? พวกนางเป็นสิ่งสกปรกหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงกระแอมออกมาสองที "ขัดราชโองการมันก็ไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ให้พวกนางอยู่ปรนนิบัติท่านอ๋องที่นี่แล้วกัน ไหนๆ ก็มากันแล้ว"เซียวหลันยวนหรี่ตาลง บีบมือฟู่จาวหนิงทำไมจึงเป็นเช่นนี้?เขาแสดงท่าทีเด็ดขาดไปแล้ว ว่าจะไม่รับหญิงสาวเหล่านี้เด็ดขาด จาวหนิงกลับไม่เชื่อเขาหรือ?ฟู่จาวหนิงตั้งใจจะจัดการคนพวกนี้อยู่แล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรก่อนหน้านี้ไม่ใช่มาเชิดหน้าชูตาเลือกเรือนต่อหน้าข้าหรือ? ตอนนี้นางจะให้พวกนางเลือกให้พอเลยนางไม่สนใจเซียวหลันยวน แต่มองไปทางหัวหน้าคุก"พวกเรามาอยู่ด้วยกันกับท่านอ๋อง ห้องนี้ข้ากับท่านอ๋องอยู่ ให้พวกนางไปอยู่ห้องตรงข้ามกับข้างๆ ก็แล้วกัน พวกนางอยากจะอยู่ใกล้ๆ ท่านอ๋องข้าหน่อยน่ะ"นางดึงเซียวหลันยวนเดินตรงไปห้งอขังที่สะอาดที่สุดตรงหน้า เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน "เปิดประตูห้องขังสิ ยืนงงอะไรอยู่? ท่านอ๋องข้าตอนนี้กำลังติดคุกอยู่นะ พวกเจ้ายังไม่รีบให้เขาเข้าไปอีก"ผุ้คนคุมหนึ่งฟังคำสั่งนางอย่างงงๆ เดินเข้ามาเปิดประตูฟ
พวกของอวิ๋นจูตะลึงงันไปก่อนหน้านี้ยังสั่งคนมาไล่พวกนางออกจากจวนอ๋องแท้ๆ ตอนนี้กลับลืมไปแล้วว่าพวกนางเป็นใคร?เซียวหลันยวนไม่สนใจพวกนาง เขามองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมา"องค์จักรพรรดิประกาศราชโองการลงมา บอกจะให้พวกนางอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หลังจากนี้ให้คอยปรนนิบัติท่านให้ดี พยายามมีทายาทสืบสกุลให้กับจวนอ๋องเจวี้ยน"เซียวหลันยวนสันหลังวาบ เขากุมมือนางแน่นทันที และพานางถอยห่างออกมาอีกหลายก้าวเจ้าจักรพรรดิสุนัขนี่ ถ้าหนิงหนิงโกรธเขาขึ้นมาเพราเรื่องนี้ เขาจะไม่ทนแล้วนะ"เมื่อครู่หลังจากวพกนางรับราชโองการแล้ว ก็เริ่มเลือกเรือนในจวนอ๋องเจวี้ยนกันแล้วนะ อย่างคนนี้ แม่นางอวิ๋นจู นางบอกจะเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อย หลังจากนี้ทุกคืนถ้าท่านจะไปหานาง จะได้ไม่ต้องตากลมหนาวเยอะ"ฟู่จาวหนิงเอาคำพูดก่อนหน้านี้พูดออกมาจนหมดนางเอียงตามองเซียวหลันยวน น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมา "ท่านอ๋อง ดีใจมากเลยใช่ไหม?""ไร้สาระ ข้าจะเอาเจ้าพวกนี้มาทำไมกัน" เซียวหลันยวนไม่มองพวกนางด้วยซ้ำเจ้าพวกนี้: ..."ข้าคิดแบบนี้นะ ในเมื่อองค์จักรพรรดิออกราชโองการให้พวกนางมาปรนนิบัติท่านแล้ว เช่นน
ฟู่จาวหนิงมองซือหรูผาดหนึ่งซือหรูดูเหมือนอายุจะมากกว่าหลายปีมองแล้วดูเป็นคนอ่อนโยนมาก นางเหมือนจะเข้าสู่บทบาทอนุภรรยาของอ๋องเจวี้ยนแล้ว เหมือนกำลังคิดแทนอ๋องเจวี้ยนกับนางแล้วอย่างไรอย่างนั้น"ในเมื่อพวกเราต้องอยู่ที่นี่กับท่านอ๋อง ที่นี่ทั้งมืดและเย็น พวกเราก็ต้องกลับไปเตรียมผ้าห่มหนาๆ หน่อยใช่ไหม แล้วก็นำเตาถ่านมาด้วย ไหนจะกาน้ำอีก ถึงเวลาท่านอ๋องจะได้ดื่มน้ำร้อนได้ตลอดเวลา"ซือหรูเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูกังวลหน่อยๆ "พระชายา ท่านอ๋องจำเป็นต้องดื่มยาไหม? พวกเราจำเป็นต้องบอกกับผู้คุมให้เตรียมกรอกยาเข้ามาไหม?"ชิวอวิ๋นมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ สะกิดนางเบาๆ"เจ้าคิดจะอยู่ในคุกนี่จริงๆ หรือ?"นี่พูดบ้าอะไรกัน!"ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรได้?" ซือหรูผายสองมือออกชิวอวิ๋นชะงักไป ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี นางพูดไม่ได้ว่าลองไปขอร้องพระชายาเยว่ดูไหม?พระชายาเยว่เองก็น่าจะคิดรับมือกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ ภารกิจของนางคือติดตามพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรียนรู้วิชาแพทย์ทฤษฏียาจากนาง นางเดิมทีไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในคุกใหญ่เพื่อลำบากไปด้วยกัน"ข้าจะไปขอให้ท่านพ่อช่วย!" อวิ๋นจูเห็นอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา ก็ยกเสียงขึ้น
ห้องขังด้านบนก็ถือว่าเย็นมากแล้ว ในคุกใต้ดินด้านล่างคงจะยิ่งหนาวแทงเข้าไปถึงกระดูกถ้าบวกความชื้นเข้าไปอีก ตอนกลางคืนที่นี่จะต้องเย็นจนคนอยู่ไม่ได้แน่คนที่อยู่เบื้องหลังคิดเอาไว้เช่นนี้ แค่ให้อ๋องเจวี้ยนขังอยู่ในคุกใต้ดินสักสองสามวัน เขาก็น่าจะป่วยหนักแล้วใครจะคิดว่านี่ยังไม่ทันถึงวันเลยเซียวหลันยวนยืนอยู่ในห้องขัง หลับตา ราวกับเสาต้นหนึ่งหัวหน้าคุกเห็นสภาพเช่นนี้ของเขา ก็อดมองไปยังกองฟางที่มุมนั่นไม่ได้ ฟางกองนั้นก็ชื้นไปหน่อยๆ แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังดูสกปรกมาก ดูท่าอ๋องเจวี้ยนแค่จะนั่งก็คงยังไม่กล้านั่งด้วยซ้ำถ้าจะขังเขาไว้ในคุกใต้ดินจริง เขาไม่ต้องยืนอยู่ตลอดแบบนี้หรือ?"เปิดประตู"เซียวหลันยวนพอได้ยินเสียง ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นพอเห็นหัวหน้าคุกเข้ามา เขากลับรู้สึกเกินคาดหลังจากถูกขังเข้ามาก็มีผู้คุมสองคนมาคุยแค่คำสองคำ ความหมายคือตอนนี้ในคุกเหลืออยู่แค่ห้องขังนี้ที่ว่าง ด้านบนมีพวกนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เข้ามาอีกบางส่วน อ๋องเจวี้ยนถ้าจะอยู่กับพวกเขา เกรงว่าจะมีอันตรายบอกว่าที่ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินเป็นเรื่องจนใจเขาเองก็ลองบอกให้เรียกหัวหน้าคุกมาแล้ว แต่ผู้คุมก็บอกว่าหัวหน้า
พอได้ยินว่าคุกใต้ดินน้ำรั่ว หัวหน้าคุกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยทีเดียวทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงน้ำรั่วเข้ามากัน?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สาวงามเหล่านี้เป็นคนจากที่ไหน เขาเองก็รู้อยู่ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ถูกยัดเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ไม่มีทางที่จะมีใจปฏิพัทธ์กับอ๋องเจวี้ยนแต่ถ้าตอนนี้ให้พวกนางต้องมาเห็นว่าคุกอ๋องที่ขังอ๋องเจวี้ยนไว้เป็นเช่นไร คงจะยากที่พวกนางจะไม่พูดกันออกไปองค์จักรพรรดิแค่บอกว่าจะขังอ๋องเจวี้ยนสองเดือนให้เขาได้ไปนั่งทบทวนตนเอง แต่ไม่ได้บอกว่าอ๋องเจวี้ยนจะต้องถูกทรมานอยู่ในคุกเช่นนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหน้าอยู่เป็นแน่แท้"คุกใต้ดิน?"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "พวกเราเมื่อครู่ดูห้องขังพวกนี้แล้วแต่ไม่เจอท่านอ๋องของข้าเลย เจ้าคงไม่ได้ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินกระมัง? คุกใต้ดินที่น้ำรั่ว?"ยังไม่ทันที่หัวหน้าคุกจะพูดอะไร นางก็อุทานตกใจขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! สุขภาพท่านอ๋องของพวกเรายังไม่หายดีนะ ห้องขังปกติตรงนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วทำไมถึงเอาเขาไปขังไว้คุกใต้ดินกัน? สวรรค์โปรดพระโพธิสัตว์กวนอินเอ๋ย หรือความหมายขององค์จักรพรรดิ จะไม่ใช่ให้ท่านอ๋องไปคิดทบทวน แต่จะทรมานเขาอยู
"อ๊า!" อวิ๋นจูถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว จนไปกระแทกกับชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ นางชิวอวิ๋นถูกกระแทกจนไปโดนประตูห้องขังอีกห้อง เสียงดังปึงนางกำลังจะกรีดร้อง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมหายใจคาวๆ พ่นมาที่ต้นคอ ตกใจจนนางสะดุ้งโหยง ขนลุกชูชันไปทั้งตัวนางหันหน้าคอแข็งมองไป ก็เห็นว่าด้านหลังประตูห้องขังมีผู้เฒ่าคนหนึ่งประชิดเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง สูดลมหายใจอย่างเคลิบเคลิ้ม"หญิงสาวนี่ตัวหอมจริง...""อ๊า!"พริบตาเดียว ชิวอวิ๋นก็กรีดร้องแหลมขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดีดตัวออกห่างอย่างรวดเร็วผู้คุมพุ่งเข้ามา กระบองในมือก็ออกแรงฟาดไปที่ประตูห้องขัง"ถอยออกไป!""ทำอะไรน่ะ? ทำอะไร? อยากตายหรือไรกัน?"นักโทษเหล่านั้นล้วนถอยกลับไปในมุมของห้องขัง แต่ก็ยังมีคนที่จับจ้องมายังหญิงสาวเหล่านี้ ในดวงตามีประกายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้นขังอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นหญิงสาวมาตั้งนาน แล้วยังเป็นหญิงสาวแรกแย้มที่สวยขนาดนี้อีกพวกของอวิ๋นจูถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องจนตัวสั่น รู้สึกแย่ไปทั้งตัวแล้วพวกนางมองไปทางฟู่จาวหนิง แต่กลับเห็นฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้ว่าสวมหน้
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?" ผู้คุมถลึงตาโต สงสัยว่าหูของตนเองคงจะฝาดไป"ข้าแจ้นมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าแข็งขัน "ทำตามราชโองการ พวกเราก็รีบเข้ามาปรนนิบัติอ่องเจวี้ยนนี่อย่างไร อ๋องเจวี้ยนถ้าต้องอยู่ที่นี่สองเดือน พวกเราจะไปกเินดีอยู่ดีในจวนได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าต้องมาร่วมกันลำบากที่นี่ด้วยสิ""แต่ แต่ว่า..."ผู้คุมทั้งหมดล้วนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ละคนใบ้กินกันไปหมดอ๋องเจวี้ยนอยู่ในคุกใต้ดินนะ แล้วยังเป็นคุกใต้ดินที่สิ่งแวดล้อมแย่ที่สุดห้องนั้นด้วย"พวกเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามองค์จักรพรรดิเอา สายสวยพวกนี้ฝ่าบาทส่งมา บอกให้พวกนางดูแลอ๋องเจวี้ยนให้ดี ข้าจะให้พวกนางขัดราชโองการได้อย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก แสดงออกว่าตนเองเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังต่อราชโองการ"นี่นี่นี่ พวกนางควรจะรออยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนถึงจะถูกสิ...""เช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องพวกเราต้องอยู่ในคุกตั้งสองเดือนเชียวนะ นี่เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้วด้วย พวกเราจะปล่อยให้เขาติดคุกอยู่คนเดียว แต่ตนเองไปเสวยสุขอยู่ในจวนได้อย่างไ
เขาควรจะเขียนจดหมายบอกนายท่านหน่อยดีไหม ว่าจวนอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ถูกยัดหญิงสาวเข้ามาถึงสามคน? ถ้ารับสามคนนี้เข้ามา หลังจากนี้ก็คงจะมีคนที่สี่ห้าหกเจ็ดอีกถ้าหากหญิงสาวเหล่านี้วันวันเอาแต่ลอยชายอยู่ข้างกายคุณหนูกับอาเขย ร้อยเล่ห์มารยา จะช้าเร็วคงได้ส่งผลกระทบกับความรักของคุณหนูกับอาเขยแน่ๆผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยก็ได้ข่าวนี้แล้ว ปู่หลานทั้งสองคนก็รีบตรงเข้ามาและได้ยินคำพูดที่อวิ๋นจูกำลังเลือกเรือนกับฟู่จาวหนิงอยู่"พระชายา ข้าได้ยินว่าท่านอยู่ในเรือนเจียนเจีย เรือนนั้นห่างจากเรือนโยวหนิงไปหน่อย ข้าอยู่เรือนไหนถึงจะดีล่ะ? หรือให้ข้าเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อยดี? อีกหน่อยท่านอ๋องถ้าจะไปหาข้าก็ไม่ต้องเดินทางไกลแล้ว"นิ้วมืออวิ๋นจูกำชายเสื้อตนเองไว้ ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย ดูอ่อนโยนอ่อนแอ ทำให้คนอยากเข้ามาปกป้อง"ร่างกายของท่านอ๋องไม่ใช่เพิ่งดีขึ้นหรือ? หลังจากนี้หากจะต้องมาหาตอนกลางคืน ถ้าเดินไหกลมากคงไม่ดีกับสุขภาพเขาเท่าไร""หญิงสาวอย่างเจ้าไม่หน้าด้านไร้ยางอายไปหน่อยหรือ?!"ฟู่จาวเฟยพอได้ยินคำพูดนี้ก็ด่าลั่นออกมาอย่างโกรธเคืองยังไม่มีตัวตนฐานะอะไรกันเลย นี่คิดจะมาบีบคั้
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาที่นี่ยังไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าเครือญาติแต่งงานกันไม่ได้สินะแล้วเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันก็มีอยู่มากมายจริงๆเซียวหลันยวนกับอวิ๋นจูเองก็ไม่ถือว่าเป็นญาติใกล้ๆ กันแล้ว จากที่พวกเขาเห็นก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร"ท่านถามข้าว่าทำไมไม่เรียกเขาพี่ชาย ไม่ใช่คิดจะหยามหมิ่นข้าหรอกหรือ?" อวิ๋นจูเข้ามาใกล้นาง กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า "แม่ของข้าเป็นเมียน้อยที่ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ราชวงศ์ไม่ยอมรับตัวตนฐานะของข้า พ่อของข้าก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนข้าแล้วพาข้าไปพบเหล่าพี่น้องในราชวงศ์พวกนั้นอย่างผ่าเผย แล้วอ๋องเจวี้ยน จะมองข้าเป็นน้องสาวได้อย่างไรกัน?""ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะใช้ความสัมพันธ์ในชั้นนี้เข้าใกล้เขาตั้งแต่แรก"อวิ๋นจูดูแล้วเหมือนจะภูมิใจขึ้นมาหน่อย แต่พอฟังน้ำเสียงนางก็ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เหมือนกันคนแม่เป็นเมียน้อย เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด"ข้าเชื่อว่า ด้วยตัวของข้า ข้าเองก็สามารารถทำให้อ๋องเจวี้ยนเอียงตามองข้าต่างออกไปได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองพิจารณานางผาดหนึ่งท่ามกลางสายตาพิจารณาของนาง อวิ๋นจูก็ยืดอกขึ้นนางมั่นใจกับรูปร่างภายนอกของ