เซียงเฉินกับอิ๋นสั่วมองก็ล้วนมองไปทางซือถูไป๋ถูกพวกนางมองเช่นนี้ ทั้งสามใบหน้าลวนกำลังคาดหวังสีหน้าตอบรับของเขา ซือถูไป๋จึงทนไม่ไหวขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง พยักหน้าให้รอจนตอนที่เขาตั้งตัวกลับมาได้ เขาก็ตอบรับไปเรียบร้อยแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหัวเราะขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ"เช่นนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างพยายามกันนะ ต่อให้ผลลัพธ์ไม่สำเร็จ แต่พวกเราก็ทำเต็มที่เพื่อคนที่ชอบแล้ว หลังจากนี้ถ้าหากพวกเรามาอยู่ด้วยกัน จะต้องปฏิบัติต่อกันดั่งแขกคนสำคัญได้แน่"และสามารถอยู่ร่วมกันไปจนแก่เฒ่าได้แน่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหน้าแดงมองเขา "เรื่องที่พวกเราหารือกันนี่ ถ้าพูดออกไปต้องถูกคนหัวเราะเยาะแน่ ดังนั้น ขอให้คุณชายซือถูเก็บเป็นความลับด้วย ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว""...แน่นอน"ซือถูไป๋ตอนนี้งงงันหน่อยๆอันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงตอบรับไป"เ่นนั้นเรื่องที่คุณชายซือถูเข้ามาให้ข้าช่วย ข้าจะให้คนไปจัดการให้ คุณชายซือถูโปรดวางใจ"ออกมาจากในวัง ซือถูไป๋ถูกลมเย็นพัดใส่ จึงได้สติขึ้นมาในพริบตาเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว"ทำไมข้าจึงไปรับปากองค์หญิงใหญ่กัน?"ในของเขาไม่ได้อยู่บนตัวองค์หญ
"ดังนั้น โชคของท่านจึงไม่เลวเลย เพราะแย่งมาได้ก่อนก้าวหนึ่ง ได้รับเอ็นมังกรหยกมาก่อน"เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูลึกลับหน่อยๆฟู่จาวหนิงถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง ถ้าซือถูไป๋ได้เอ็นมังกรหยกไป ถึงตอนนั้นถ้าหากซือถูไป๋เสนอเงื่อนไขอะไรที่เกี่ยวกับตัวนางมา นางจะตอบรับก็ไม่ได้ จะไม่ตอบรับก็ไม่ได้อีก"ก็ไม่ถูกนัก น่าจะเพราะจาวหนิงดวงดี นางมีโชคมาตลอดแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว"เรื่องราวมักจะไม่ค่อยพัฒนาไปทิศทางที่นางต้องลำบาก"ท่านลุงพูดถูกต้อง หนิงหนิงเป็นคนที่มีโชคคนหนึ่งจริงๆ"จุดนี้ เซียวหลันยวนเองก็ยังยอมรับฟู่จาวหนิงที่มีโชคกำลังตรวจฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวอย่างละเอียด เหนื่อยจนแทบรากเลือดผลลัพธ์ที่ออกมาตอนท้าย นางดูอยู่นาน ค้นคว้าอยู่นานเสิ่นเชี่ยวตื่นไวกว่าฟู่จิ้นเชินเล็กน้อยหลังจากตื่นมานางก็เห็นฟู่จาวหนิงนั่งอยู่ข้างๆ พลิกกระดาษที่ดูประหลาดหน่อยๆ เหมือนกำลังอ่านอะไรด้านนอกแสงตะวันส่องลอดเข้ามา ส่วนหนึ่งกระทบลงบนหน้านางพอดี เปล่งประกายสีส้มออกมาชั้นหนึ่ง ทำให้ใบหน้าด้านข้างของนางดูเหมือนเคลือบทองไว้ งดงามอย่างมากเสิ่นเชี่ยวมองไปมองมา รู้สึกว่าตนเองเคลิ้มไปหน่อยๆ ไม่ส่งเสียงอะ
ต้องให้พวกเขามาฟังเสิ่นเชี่ยวพูดด้วยเซียวหลันยวนกับเสิ่นเสวียนรีบขเ้ามา แต่กลัวว่าหลังจากเห็นพวกเขาเสิ่นเชี่ยวจะไม่พูดต่อ พวกเขาจึงยืนฟังอยู่ด้านนอกหน้าต่าง"วิธีอะไรหรือ?""หมอคนนั้นบอกว่า ขอแค่ให้สามีลืมเรื่องในอดีตไป เขาก็จะไม่เจ็บปวดแล้ว ไม่เช่นนั้น ทุกครั้งที่สามีต้องมาปวดหัวแทบแตก เขาจะยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป""แล้วใช้วิธีไหน จึงสามารถทำให้เขาลืมเรื่องเก่าไปหรือ?""นั่นเป็นหมอผีคนหนึ่ง" เสิ่นเชี่ยวบอก "วิธีของเขา คือให้สามีกินยาลงไป แล้วยังฝังเข็มให้เขา แต่เข็มของเขากับเข็มของท่านไม่เหมือนกัน ข้าเองก็บอกไม่ถูก ถึงอย่างไรตอนนั้นก็รักษาไปเดือนเต็มๆ หลังจากสามีออกมาก็ลืมไปแล้วจริงๆ แต่คำว่าสกุลฟู่นี่ก็ราวกับเป็นสายฟ้าฟาด ถ้าเอ่ยขึ้นมากับเขาก็จะระเบิดขึ้นทันที จนทำให้เขาอาการกำเริบ"ฟู่จาวหนิงฟังถึงจุดนี้แล้วก็รู้สึกดูน่าขันหน่อยๆ"แล้วเขาลืมไปเช่นนี้ ไม่คิดถึงที่บ้านบ้างหรือว่ายังมีญาติหรือไม่ อย่างเช่นพ่อของเขาหรือลูกสาวที่ยังเล็กแบบนี้? ลืมพวกเขาไปจนหมด คิดคิดจะทอดทิ้งพวกเขาหรือ?""ไม่ใช่!"เสิ่นเชี่ยวรีบอธิบาย "ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมีคนบอกว่า พวกเราถ้ายังกล้ากลับไปที่บ้าน
ฟู่จาวหนิงไฟโกรธลุกขึ้นมาบนหัวแล้ว คุมไม่อยู่ขึ้นมาหน่อยๆเสียงของนางสูงขึ้น"ท่านรู้อยู่แล้วว่าอ๋องเจวี้ยนยังเป็นเด็กทารกที่เล็กมาก ท่านไม่อยากจะสังหารเขา แล้วทำไมพอคนอื่นบอกว่าอ๋องเจวี้ยนห้ามมีชีวิตอยู่ ท่านจึงยังไปวางยาพิษอีก?"เสิ่นเชี่ยวดวงตาแดงรื้น"ข้าไม่ได้ไปวางยาพิษ ข้าปฏิเสธนางแล้ว แต่นางก็หมุนตัวเดินไปทันที นางบอกว่า ถ้าข้าไม่ทำเรื่องนี้ นางจะให้สามีเป็นคนทำ แล้วยังบอกอีกว่าพิษเตรียมไว้เรียบร้อย พร้อมชี้ไปยังห้องที่อ๋องเจวี้ยนอยู่ให้ข้ารู้ แล้วนางก็เดินออกไป""แล้วท่านล่ะ?"ฟู่จาวหนิงใจแขวนขึ้นมาแล้วนางสัมผัสได้ ตอนนี้สมองเสิ่นเชี่ยวแม้จะยังสับสน แต่ถ้ารีบถามต่อ นางจะจดจำบางอย่างขึ้นมาได้ครั้งคราว บางทีภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่นางพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงไปหลายส่วน"ข้าหรือ? ข้าตอนนั้นคิดแต่ว่าจะให้สามีไปฟังนางไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ข้าก็ตรงไปยังห้องที่นางชี้ เข้าไปในตำหนัก เข้าไปยังห้องนั้น ต่อมาข้าก็จำอะไรไม่ได้แล้ว สมองข้าขาวโพลนไปหมด แล้วยังมึนหัวอีกด้วย จนตอนที่ข้าตื่นมา ก็มีคนมากมายกำลังล้อมข้าอยู่ ในมือข้ามีชามอยู่ใบหนึ่ง..."เสิ่นเชี่ยวปิดหน้าร้องไห้ขึ้นมา
"แล้วพวกท่านทำไมถึงต้องออกจากเมืองหลวงล่ะ?" ในห้อง ฟู่จาวหนิงยังถามต่อ"ในวังมีคนจะสังหารพวกเรา พวกเราถ้าไม่หนี คืนนั้นคงตายอยู่ในคุกไปแล้ว สามีบอกว่าพวกเราถ้าต้องตายไปแบบนี้ แล้วไม่มีวันไหนที่ได้สืบค้นจนเจอความจริง คนที่บ้านก็จะต้องมารับภาระการตราหน้านี้ไปตลอด""พวกท่านไม่ใช่ว่าจำคนในครอบครัวไม่ได้แล้วหรือ?""สามีข้าที่จำไม่ได้ ส่วนข้า ข้ายังจำได้ ข้าจำได้ ในบ้านมีคนอยู่มากมาย ท่านพ่อตาเองก็เป็นคนดีมาก แล้วก็ แล้วก็..."ฟู่จาวหนิงกำลังกลั้นหายใจรอคำพูดต่อไปของนาง ถ้าพูดต่อไปจะนึกออกไหมว่ายังมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง?ผลคือนางเห็นเสิ่นเชี่ยวบอกว่าแล้วก็อยู่นานสองนาน แต่ก็งงงันไม่พูดต่อ กลับก้มหน้าลงต่ำเสียด้วยซ้ำไป"ไม่ใช่สิ ข้าต้องลืมอะไรไปแน่ๆ สำคัญมากๆ ด้วย ทำไมข้าจึงคิดไม่ออกกัน!"นางเกือบจะพังทลายอยู่แล้วฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวเองก็ใกล้พังทลายเหมือนกัน สามีภรรยาคู่นี้เป็นอะไรไป! ความทรงจำในสมองถึงได้เหมือนถูกแทงจนกลวงเป็นตะกร้า!"พวกเขาจำจาวหนิงไม่ได้" เสิ่นเสวียนถอนหายใจขึ้นมาอีก"ที่ควรจำดันไม่จำ" เซียวหลันยวนเองก็กัดฟันโชคดีที่จาวหนิงมีใจแข็งแกร่ง ไม่ใช่เด็กที่อ่อนแอขนาดน
ฟู่จาวหนิงถามเสิ่นเชี่ยวเสร็จ รู้สึกแค่ว่าอารมณ์ยังหนักอึ้งอยู่หน่อยๆและไม่รู้ว่าฟู่จิ้นเชินได้ยินไปมากน้อยแค่ไหน เขาตื่นขึ้นมาระหว่างนั้นรอจนฟู่จาวหนิงไม่ถามอะไรต่อ เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง มองมาทางฟู่จาวหนิง"พวกท่านพาสามีภรรยาอย่างพวกเรามาที่นี่ เป็นเพราะอะไรกันแน่?""ท่านไม่ใช่ว่าพบกับเซียวหลันยวนแล้วหรือ?""ดังนั้น เพราะเขาคิดจะจับพวกเราอย่างนั้นหรือ? คิดจะล้างหนี้แค้นสมัยยังเด็กใช่ไหม" ฟู่จิ้นเชินคาดเดาไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งจะยืนยันฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบฟู่จิ้นเชินยื่นมือมากุมมือภรรยา ปลอบประโลมนางที่อารมณ์ลนลานขึ้นอย่างชัดเจน"ดูท่าจะไม่ใช่แค่เพื่อล้างแค้น ไม่ใช่นั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลามารักษาพวกเรา แล้วยังถามเรื่องในอดีตมากมายถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาต้องการเอ็นมังกรหยกแค่แย่งไปก็จบเรื่องแล้ว แต่นี่ยังคิดจะมาแลกเปลี่ยนกับพวกเราด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างประหลาดใจดูท่า ฟู่จิ้นเชินต่อให้ความทรงจำจะยังสับสน บางครั้งยังถูกกระตุ้นจนเกิดอาการวิงเวียน แต่สติสัมปชัญญะของเขาก็ยังใช้การได้อยู่"อ๋องเจวี้ยนยังรู้สึกสงสัยกับเรื่องในอดีตอยู่ใช่ไหม? เขาอยากจะรู้
คำพูดของฟู่จิ้นเชินยังไม่ทันพูดจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทเขา"ข้ายังไม่ตาย แต่การที่ไม่ตายมันหมายถึงว่าหลายปีนี้ข้าไม่ทุกข์ทรมานหรือไรกัน? ข้าทรมานในแบบที่พวกเจ้าจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลบหายไปได้"อย่าคิดว่าเขาไม่ตาย แล้วเรื่องที่วางยาพิษจะจบไปนะ"พวกเราไม่ได้หมายความเช่นนั้น"ฟู่จิ้นเชินกัดฟัน อธิบายมาคำหนึ่ง "ความหมายของข้าคือ อ๋องเจวี้ยนไม่ตาย เช่นนั้นถ้าพวกเรามีความผิดจริง จะลงโทษมาที่ข้าคนเดียวได้ไหม?""ท่นคิดจะปกป้องนางหรือ?""คุณ ต่อให้เรื่องวางยาพิษเป็นเรื่องจริง นั่นมันก็เป็นข้าที่ทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเลย" เสิ่นเชี่ยวหันกลับมาจับมือฟู่จิ้นเชิน เอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนว่า "ดังนั้นถ้าจะเอาผิดจริงๆ ก็ต้องมาลงที่ตัวข้าสิ"ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไม่พูดอะไรดูท่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของพวกเขาจะดีมากๆ มาโดยตลอด?"เรื่องเลห่านี้รอตรวจสอบความจริงแล้วค่อยว่ากันเถอะ" เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวน "ได้ไหม?"เซียวหลันยวนหรุบตาต่ำเขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?พอได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องในตอนนั้นมันแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในการพรรณนาของเสิ่นเ
"ฮูหยินขอให้นางช่วยพาเฟยเอ๋อร์ไป ครึ่งวัน แค่ครึ่งวันเท่านั้น พอพวกเราสลัดพวกมือสังหารหลุดก็จะมารับตัวเฟยเอ๋อร์กลับไป"ฟู่จิ้นเชินยิ้มขืนขึ้นมา ปิดหน้าผากก้มหน้า พยายามสะกดความเสียใจของตนเองพอพูดถึงเฟยเอ๋อร์ สำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุด"ข้าตอนนั้นก็ค้านไปแล้ว เพราะหญิงสาวคนนั้นอายุยังน้อยแล้วยังตั้งครรภ์อีก พวกเราฝากเด็กไว้กับนางไม่ได้ ถ้านางไปเจอกับเรื่องฆ่าฟันเข้าล่ะ?"เดิมทีก็ไม่ควรเห็นด้วยอยู่แล้วฟู่จาวหนิงนิ่งงันฟังเขาพูดต่อ"แต่ว่า ที่ทำให้ข้ารู้สึกเกินคาดก็คือ หญิงสาวอายุน้อยคนนั้นกลับใช้วาทศิลป์กล่อมจนข้ารับปาก บอกว่านางกล่อมเด็กเป็น เด็กอยู่ข้างกายนางจะเชื่อฟังเอามากๆ รับประกันได้ว่าไม่มีทางร้องไห้ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ได้ยินเรื่องที่พวกเราถูกล่าสังหารอยู่ นางยังบอกว่าบ้านของตนเองก็ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่ไม่กลัวอันตรายใด และจะไม่มีใครไปหาที่บ้านนางแน่"ฟู่จิ้นเชินรู้สึกเสียใจมาก เสียใจที่ตอนนั้นถูกกล่อมจนเชื่อ"นางยังทิ้งที่อยู่ให้ข้าด้วย พูดอย่างละเอียดว่าตนเองอยู่ที่ไหน บ้านสามีชื่อว่าอะไร ให้พวกข้าไปหาเด็กตอนไหนก็ได้ นางบอกว่าในท้องนางก็ตั้งครรภ์อยู่คนหนึ่
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่