"พระชายา ชอบเจ้า?" น้ำเสียงของเขาช้าลง ราวกับมีดทื่อมีดนั้นคิดจะกรีดลงไปบนตัวของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ชอบ ไม่ใช่ชอบแบบนั้น" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งรีบอธิบาย "ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถเป็นน้องชายของพระชายาได้นะ ท่านอ๋อง พฤติกรรมของพระชายาครั้งนี้ที่หออันดับหนึ่งของเมืองหลวงจักรพรรดิ แล้วก็การช่วยคนบนถนนใหญ่นั่น ยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ!"เขาวันนี้ได้ยินคนไม่น้อยข้างนอกเอาแต่วิจารณ์ถึงหมอเทวดาคนนั้นฟู่จาวหนิงมาเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อได้แค่ไม่กี่วัน ก็สร้างชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้วถ้าไม่ใช่องค์หญิงใหญ่กลับมาเมืองหลวงจักรพรรดิพอดี จนแบ่งความสนใจส่วนหนึ่งของประชาชนไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าประชาชนเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะวิจารณ์ฟู่จาวหนิงไปถึงไหนแล้วแต่ต่อให้มีองค์หญิงใหญ่แบ่งการวิจารณ์ไปเท่าไร ฟู่จาวหนิงก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี โดยเฉพาะวิชามีดที่นางแสดงออกมาเพื่อทำเห็ดเชียนเสวี่ยที่หออันดับหนึ่ง ช่วยชีวิตพ่อครัวใหญ่ แล้ววันนั้นคนที่มากินก็ล้วนเป็นพวกคนที่มีหน้ามีตาทั้งสิ้นพูดได้ว่า นางทั้งสร้างชื่อขึ้นในวงล้อมคนใหญ่โต แล้วตอนที่ช่วยชีวิตประชาชนบนถนนใหญ่ ก็ยังสร้างชื่อในหมู่ประชาชนอีกผู้นำน้อยตร
ขณะที่เซียวหลันยวนยังไม่ทันย่อยเรื่องที่ซือถูไป๋ไปขอพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงพวกเขาก็กลับเข้ามาแล้วหลานหรงที่อยู่ด้านนอกได้ข่าวว่าพวกเขากลับมาก่อน จึงรีบเข้ามารายงาน"ศิษย์ข้ากลับมาแล้วหรือ? ไปๆๆ ไปดูว่าวันนี้นางได้อะไรมา" ผู้อาวุโสจี้วิ่งไปหน้าเรือนก่อน"ชิ่งอวิ๋นเซียว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ..."เซียวหลันยวนพอคิดคำพูดที่ชิ่งอวิ๋นเซียวบอกว่าฟู่จาวหนิงชอบเขา จึงเอ่ยปากให้เขากลับไปก่อนผลคือชิ่งอวิ๋นเซียวเองก็วิ่งตรงไปที่เรือนหน้าด้วย "ท่านอ๋อง ข้าจะไปฟังว่าพระชายาวันนี้จะทำเรื่องใหญ่อะไรอีก!"พอเห็นว่าพวกเขาวิ่งออกไปกันจนหมด เซียวหลันยวนก็เกือบตั้งตัวกลับมาไม่ทันฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาของเขา นางกลับมาแล้ว คนที่ต้องรีบไปพบนางไม่ใช่เขาหรอกหรือ? นี่กลายเป็นว่าคนอื่นวิ่งเร็วกว่าเขาเสียอีก!"ท่านอ๋อง พระชายาเดิมทีจะให้ท่านพักผ่อนก่อน ท่านรอที่นี่เถอะ พระชายาเดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่เรือน..."ชิงอียังไม่ทันพูดจบ ตรงหน้าก็ไม่เห็นเงาเซียวหลันยวนแล้วและผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวที่กำลังวิ่ง ข้างกายจู่ๆ ก็มีสายลมกวาดผ่าน เหมือนมีอะไรบางอย่างแฉลบออกไป"ผู้อาวุโสจี้ เมื่อครู่มันอะไรกั
ฟู่จาวหนิงมองๆ เสิ่นเสวียน "ท่านลุง ข้าจะเข้าไปดูพวกเขาก่อน จะอย่างไรต้องทำให้คนฟื้นขึ้นมาก่อน""เจ้าไปเถอะ ข้าจะคุยกับอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย" เสิ่นเสวียนขวางเซียวหลันยวนไว้ผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวตอนนี้เพิ่งจะตามขึ้นมาทัน ยังไม่ทันได้เห็นฟู่จาวหนิง นางก็เข้าห้องไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็อยู่ด้วยหรือ? เช่นนั้นมาดื่มชากันก่อนเถิด"เสิ่นเสวียนพาพวกเขามายังศาลาด้านนอก เสี่ยวชิ่นยกน้ำชาเข้ามา แต่ยังไม่กล้ามองเซียวหลันยวนแต่ตอนนี้นางเองก็นิ่งขึ้นมากแล้ว เพราะพอไม่เห็นเขาสวมหน้ากาก พันผ้าเอาไว้ นั่นคือคุณหนูจาวหนิงสามารถรักษาเขาได้แน่นอนนางเมื่อครู่ตอนที่นำชาเข้าไปส่ง สืออียังบอกกับนางคำหนึ่ง ให้เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อยเสี่ยวชิ่นเห็นใบหน้าด้านนั้นที่อ๋องเจวี้ยนพันผ้าเอาไว้ ตอนนี้หันไปส่งชาให้เสิ่นเสวียนก็ใจเต้นตึกตักเงยหน้าขึ้นเหลือบมองอีกผาดหนึ่งตอนนี้นางจึงได้เห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนดียังดีอยู่อีกฝั่ง ตกตะลึงไปแล้วนี่คืออ๋องเจวี้ยนหรือ?นี่คืออ๋องเจวี้ยนที่ทำเอานางตกใสจนร้องไห้ในครั้งที่แล้ว กระทั่งว่ายังเอาไปฝันร้ายอีกหลายคืนคนนั้นหรือ?เขาเดิมทีหน้
ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง ไม่เดินเข้าไปอีกนางพบว่าสายตาของเขายังไม่ได้ปรับให้คงที่ สีหน้าดูเลื่อนลอยอยู่บ้างและตอนนี้เองในห้องเภสัช เสียงที่อุปกรณ์รายงานออกมานางก็ได้ยินแล้วด้วยผลการยืนยันออกมาแล้วฟู่จาวหนิงไม่ขยับ แต่สายตาเพ่งเข้าไปในมิติ มองดูผลลัพธ์ผลยืนยันของนางกับหมอเจี่ย และนางกับฮูหยินเจี่ยออกมาแล้วพอเห็นผลยืนยันนั่น ในใจฟู่จาวหนิงก็มีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวจบลงแล้วขึ้นมานางเป็นลูกสาวของพวกเขาจริงๆพวกเขาคือสามีภรรยาตระกูลฟู่ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าตนเองมีความรู้สึกอย่างไรบอกว่าหมอเจี่ย จริงๆ แล้วเป็นหมอปลอมหรือ?เป็นสกุลที่ปลอมขึ้นมา"ฮูหยินข้าล่ะ?" ฟู่จิ้นเชินสายตายังเลื่อนลอยอยู่ แต่เสียงดูเนือยๆ พอเอ่ยปากก็ถามถึงภรรยาทันที"ท่านลองหันหน้า มองไปข้างๆ เตียงสิ" ฟู่จาวหนิงเองก็ตอบกลับเขาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เช่นกันฟู่จิ้นเชินหันหน้า มองเห็นภรรยาของตนเองนอนอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็เหมือนสติกลับเข้ามาในสมองทันที สายตาแจ่มชัดขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นยังมีปฏิกิริยาเป็นปกติแล้วเขาลูบใบหน้าภรรยา จากนั้นก็หันมามองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"เจ้าดึงหน้ากากของนางออกหรือ?"ข
นางอยากจะทดลองบอกที่มาของตนเองอีกสักครั้ง แต่พอคิดถึงว่าเซียวหลันยวนยังรออยู่ด้านนอก ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปคนก็พากลับมาแล้ว หากมีปัญหาอะไร นางยังสามารถทำให้เซียวหลันยวนเห็นต่อหน้าได้เลย"คุณ..."เสิ่นเชี่ยวเองก็ตื่นขึ้นแล้วพอนางตื่น ฟู่จิ้นเชินก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที ประคองนางลุกขึ้นมา ถามนางเสียงแผ่วเบา "ฮูหยิน ข้าอยู่ที่นี่ เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?""ข้าไม่เป็นไร แต่คุณปวดหัวไหม?" เสิ่นเชี่ยวเงยหน้ามองหัวของเขา ถามขึ้นอย่างกังวล"หัวไม่ปวด..."ยังไม่ทันพูดจบ ฟู่จิ้นเชินก็ตกตะลึงเขามองฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าถ้าตนเองสลบไป หลังจากตื่นขึ้นมาจะปวดหัวมาก อย่างน้อยต้องทรมานไปหลายวันแต่ว่าตอนนี้ไม่เจ็บปวดแล้ว!สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ"เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้พวกท่าน ให้เส้นเลือดบริเวณหัวไหลได้สะดวกขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายมาคำหนึ่งเสิ่นเชี่ยวเองก็มองไปทางนางนางตกตะลึง แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้วฟู่จาวหนิงพอเห็นสภาพนางก็รู้ว่านางจำได้ อย่างน้อยก็จำคำพูดที่พูดถึงที่มาของตนเองได้"ท่านแม่!"เสิ่นเชี่ยวลงจากเตียง วิ่งเข้ามาหานาง"ฮูหยินช้า
เสียงร้องไห้ของเสิ่นเชี่ยว ดังลอดออกมาเข้าหูชายหนุ่มเหล่านั้นที่ศาลาด้านนอกเสิ่นเสวียนขมวดคิ้ว ลุกขึ้นเดินตรงมาพอเขาลุกขึ้น คนอื่นเองก็ลุกตาม"ข้าไปดูหน่อย"เสิ่นเสวียนเพิ่งยกเท้า เซียวหลันยวนเองก็ตามขึ้นมาชิ่งอวิ๋นเซียวพอเตรียมจะขับ ผู้อาวุโสจี้ก็ดึงเขาไว้ "ไอ๊หยาเสี่ยวชิ่ง เด็กอย่างเจ้าช้าก่อน มีเรื่องอะไรให้พวกเขาไปแก้ไขกันก่อนเถอะ"ยังไม่รู้ว่าเป็นใครหรือเรื่องอะไร พวกเขาอย่าเพิ่งไปยุ่งดีกว่าชิ่งอวิ๋นเซียวทำได้แค่นั่งลงใหม่พร้อมกับเขา"ผู้อาวุโสจี้ ข้างเป็นห่วงอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา พวกเขาจะหย่ากันไม่ได้นะ""เจ้าเอาแต่คิดว่าพวกเขานะหย่ากันทำไม?" ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว "แม้ว่าครั้งนี้ข้าจะรู้สึกว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนทำไม่ค่อยถูก แต่ในใจศิษย์ข้าก็มีน้ำหนักของตัวเองอยู่ นางเองก็ไม่ใช่พวกที่ง้อง่ายด้วย ดังนั้น ถ้านางบอกว่าให้อภัยแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่แล้วล่ะ"สามีภรรยาทะเลาะกันมันก็เรื่องปกติ จะมาพูดหย่าร้างกันง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่มีหรอก"มันก็จริง" ชิ่งอวิ๋นเซียวพยักหน้าทางนั้น ฟู่จาวหนิงมองเสิ่นเชี่ยวที่ร้องไห้เป็นวักเวร ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรดี นางเองก็ปลอบคนไ
หรือก็คือ คนที่พบพวกเขาครั้งแรกคือเซียวหลันยวนหรือ? นี่มันวาสนาอะไรกัน!"ตอนนั้นสภาพของพวกเขายังไม่ใช่เช่นนี้" สายตาเซียวหลันยวนยังอยู่บนใบหน้าเสิ่นเชี่ยว แทบจะพอนึกก็เข้าใจขึ้นมา "พวกเขาแปลงโฉมหรือ?""ใช่"เซียวหลันยวนเดินขึ้นหน้าด้วยสัญชาตญาณฟู่จิ้นเชินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเขา ความรู้สึกระแวดระวังก็พุ่งขึ้นมาทันที ดึงภรรยาถอยออกไปสองก้าวเขามองเซียวหลันยวน"เฮอะ"เซียวหลันยวนหัวเราะเย็นชาขึ้นมา"ดูท่าจะจำข้าได้แล้วกระมัง?"เขาไม่พูดอะไร ก็ระวังตัวเขาเสียขนาดนี้? แล้วยังถอยหลังด้วยสัญชาตญาณอีก นี่กำลังบอกว่าพวกเขากำลังประหม่าอยู่ใช่ไหม?เสิ่นเชี่ยวซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดสามี ตัวสั่นระริกฟู่จิ้นเชินมองนาง เอ่ยกับเซียวหลันยวนว่า "ไม่รู้จัก ท่านคือใครกัน?""ไม่รู้จัก?" เซียวหลันยวนรู้สึกขัน "จะไม่ได้แล้วพวกเจ้าจะขลาดเขลาทำไมกัน? ฟู่..."เขายังไม่ทันพูดจบ ฟู่จาวหนิงก็พุ่งเข้ามาอุดปากเขาไว้ถ้าเผื่อบอกชื่อฟู่จิ้นเชินไปแล้วเขาสลบลงไปอีกล่ะ นั่นจะยิ่งลำบากนะ"ท่านลุง ท่านลองสอบถามไปก่อน ข้าจะพาเขาออกไปคุยหน่อย!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าต้องบอกกับเซียวหลันยวนให้เข้าใจก่อน เดิ
ฟู่จาวหนิงเล่าเรื่องที่นางพบว่าอักษรของฟู่จิ้นเชินดูคุ้นตา จากนั้นจึงไปหาเขา อยากจะรู้ว่าวัตถุดิบยาของเขาคืออะไรออกมาแล้วยังเล่าเรื่องที่พอนางบอกว่าตนเองนั้นสกุลฟู่ ฟู่จิ้นเชินก็เป็นลมล้มไปทันที ตอนตื่นขึ้นมาก็ลืมรายละเอียดส่วนนี้ไปจากการบรรยายของนาง เซียวหลันยวนก็ใจสงบลงมาได้บ้างแล้วเขาตอนนี้โชคดีมากที่เมื่อคืนคืนดีกับฟู่จาวหนิงแล้ว ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนถ้ายังโกรธกันอยู่ วันนี้คงคุมตัวเองไม่ได้ในสถานการณ์นี้แน่ๆและนางคงจะไม่ดึงเขาออกมาทันทีแบบนี้ นางอาจจะไม่ใจเย็นแล้วเล่ากับเขาให้จบก่อน"ดังนั้น เขาตอนนี้แค่ได้ยินคำว่าสกุลฟู่ก็ยังไม่ได้หรือ?"เซียวหลันยวนหลังจากฟังก็รู้สึกแปลกประหลาด เพราะอะไรกัน?เขาเองก็นามสกุลฟู่อยู่ชัดๆ ทำไม กระทั่งนามสกุลของตัวเองก็ยังเอ่ยขึ้นมาไม่ได้?"ใช่ เมื่อครู่มองจากสถานการณ์คือเช่นนั้น ข้าตรวจสอบพวกเขาแล้ว พวกเขาทั้งสองคนร่างกายไม่ค่อยปกติ แต่ว่า ข้ายังสงสัยว่าจิตวิญญาณหรือจิตใจพวกเขาถูกปรับ หรือกระทั่งอาจถูกสะกดจิตควบคุมอยู่ ทำใไ้พวกเขารู้สึกกีดกันอย่างรุนแรงต่อตัวตนฐานะสกุลฟู่"ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วนางแค่เห็นผลลัพธ์ก