รอจนยาชาหมดฤทธิ์ เซียวหลันยวนเริ่มรู้สึกว่าหน้าขอบตนเองเจ็บขึ้นมาเล็กๆแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็พันแผลให้เขาไว้ดีแล้ว นี่คือห้ามไปแตะต้องแน่นอน เขาทำได้แค่ทนไว้รออยู่ครู่หนึ่งผู้อาวุโสจี้ก็มาหาเขาพอเจอหน้า เห็นเขาพันผ้าไว้บนหน้า ผู้อาวุโสจี้ก็พุ่งเข้ามา แล้วยังรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย"อ๋องเจวี้ยน ศิษย์ข้าเริ่มรักษาให้เจ้าแล้วหรือ? หรือก็คือ วัตถุดิบยาเหล่านั้นมันได้ใช้งานจริงๆ แล้วสินะ?""พูดถึงวัตถุดิบยาเหล่านั้น ข้าขอบคุณผู้อาวุโสจี้มาก""รู้แล้วสินะว่าวัตถุดิบยาขององค์หญิงใหญ่ได้มาอย่างไร?" ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองเขา "ดังนั้น ท่านก็อย่ามองคุณความดีเป็นขององค์หญิงใหญ่ล่ะ ที่ข้าลงแรงไปหาวัตถุดิบยาเหล่านั้น นั่นก็เพื่อศิษย์รักของข้า เพื่อนางแล้ว ท่านถึงมีโอกาสรักษาใบหน้าท่าน ดังนั้น คุณความดีทั้งหมดเป็นของศิษย์รักข้า อ๋องเจวี้ยนเข้าใจไหม?""ข้าเข้าใจแน่นอน""ท่านเข้าใจก็ดีแล้ว" ผู้อาวุโสจี้ร้องเชอะ เหมือนคิดอะไรออก "ในเมื่อท่านเข้าใจแล้ว ทำไมสองวันนี้ถึงยังไปอยู่ด้วยกันกับองค์หญิงใหญ่อีก? ข้ายังพูดขึ้นมาเลยว่าอ๋องเจวี้ยนเข้าในความคิดหญิงสาวของตนเองหรือเปล่า?""ข้าไม่ได้มีอะไรกับ
"พระชายา ชอบเจ้า?" น้ำเสียงของเขาช้าลง ราวกับมีดทื่อมีดนั้นคิดจะกรีดลงไปบนตัวของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ชอบ ไม่ใช่ชอบแบบนั้น" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งรีบอธิบาย "ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถเป็นน้องชายของพระชายาได้นะ ท่านอ๋อง พฤติกรรมของพระชายาครั้งนี้ที่หออันดับหนึ่งของเมืองหลวงจักรพรรดิ แล้วก็การช่วยคนบนถนนใหญ่นั่น ยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ!"เขาวันนี้ได้ยินคนไม่น้อยข้างนอกเอาแต่วิจารณ์ถึงหมอเทวดาคนนั้นฟู่จาวหนิงมาเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อได้แค่ไม่กี่วัน ก็สร้างชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้วถ้าไม่ใช่องค์หญิงใหญ่กลับมาเมืองหลวงจักรพรรดิพอดี จนแบ่งความสนใจส่วนหนึ่งของประชาชนไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าประชาชนเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะวิจารณ์ฟู่จาวหนิงไปถึงไหนแล้วแต่ต่อให้มีองค์หญิงใหญ่แบ่งการวิจารณ์ไปเท่าไร ฟู่จาวหนิงก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี โดยเฉพาะวิชามีดที่นางแสดงออกมาเพื่อทำเห็ดเชียนเสวี่ยที่หออันดับหนึ่ง ช่วยชีวิตพ่อครัวใหญ่ แล้ววันนั้นคนที่มากินก็ล้วนเป็นพวกคนที่มีหน้ามีตาทั้งสิ้นพูดได้ว่า นางทั้งสร้างชื่อขึ้นในวงล้อมคนใหญ่โต แล้วตอนที่ช่วยชีวิตประชาชนบนถนนใหญ่ ก็ยังสร้างชื่อในหมู่ประชาชนอีกผู้นำน้อยตร
ขณะที่เซียวหลันยวนยังไม่ทันย่อยเรื่องที่ซือถูไป๋ไปขอพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงพวกเขาก็กลับเข้ามาแล้วหลานหรงที่อยู่ด้านนอกได้ข่าวว่าพวกเขากลับมาก่อน จึงรีบเข้ามารายงาน"ศิษย์ข้ากลับมาแล้วหรือ? ไปๆๆ ไปดูว่าวันนี้นางได้อะไรมา" ผู้อาวุโสจี้วิ่งไปหน้าเรือนก่อน"ชิ่งอวิ๋นเซียว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ..."เซียวหลันยวนพอคิดคำพูดที่ชิ่งอวิ๋นเซียวบอกว่าฟู่จาวหนิงชอบเขา จึงเอ่ยปากให้เขากลับไปก่อนผลคือชิ่งอวิ๋นเซียวเองก็วิ่งตรงไปที่เรือนหน้าด้วย "ท่านอ๋อง ข้าจะไปฟังว่าพระชายาวันนี้จะทำเรื่องใหญ่อะไรอีก!"พอเห็นว่าพวกเขาวิ่งออกไปกันจนหมด เซียวหลันยวนก็เกือบตั้งตัวกลับมาไม่ทันฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาของเขา นางกลับมาแล้ว คนที่ต้องรีบไปพบนางไม่ใช่เขาหรอกหรือ? นี่กลายเป็นว่าคนอื่นวิ่งเร็วกว่าเขาเสียอีก!"ท่านอ๋อง พระชายาเดิมทีจะให้ท่านพักผ่อนก่อน ท่านรอที่นี่เถอะ พระชายาเดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่เรือน..."ชิงอียังไม่ทันพูดจบ ตรงหน้าก็ไม่เห็นเงาเซียวหลันยวนแล้วและผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวที่กำลังวิ่ง ข้างกายจู่ๆ ก็มีสายลมกวาดผ่าน เหมือนมีอะไรบางอย่างแฉลบออกไป"ผู้อาวุโสจี้ เมื่อครู่มันอะไรกั
ฟู่จาวหนิงมองๆ เสิ่นเสวียน "ท่านลุง ข้าจะเข้าไปดูพวกเขาก่อน จะอย่างไรต้องทำให้คนฟื้นขึ้นมาก่อน""เจ้าไปเถอะ ข้าจะคุยกับอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย" เสิ่นเสวียนขวางเซียวหลันยวนไว้ผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวตอนนี้เพิ่งจะตามขึ้นมาทัน ยังไม่ทันได้เห็นฟู่จาวหนิง นางก็เข้าห้องไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็อยู่ด้วยหรือ? เช่นนั้นมาดื่มชากันก่อนเถิด"เสิ่นเสวียนพาพวกเขามายังศาลาด้านนอก เสี่ยวชิ่นยกน้ำชาเข้ามา แต่ยังไม่กล้ามองเซียวหลันยวนแต่ตอนนี้นางเองก็นิ่งขึ้นมากแล้ว เพราะพอไม่เห็นเขาสวมหน้ากาก พันผ้าเอาไว้ นั่นคือคุณหนูจาวหนิงสามารถรักษาเขาได้แน่นอนนางเมื่อครู่ตอนที่นำชาเข้าไปส่ง สืออียังบอกกับนางคำหนึ่ง ให้เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อยเสี่ยวชิ่นเห็นใบหน้าด้านนั้นที่อ๋องเจวี้ยนพันผ้าเอาไว้ ตอนนี้หันไปส่งชาให้เสิ่นเสวียนก็ใจเต้นตึกตักเงยหน้าขึ้นเหลือบมองอีกผาดหนึ่งตอนนี้นางจึงได้เห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนดียังดีอยู่อีกฝั่ง ตกตะลึงไปแล้วนี่คืออ๋องเจวี้ยนหรือ?นี่คืออ๋องเจวี้ยนที่ทำเอานางตกใสจนร้องไห้ในครั้งที่แล้ว กระทั่งว่ายังเอาไปฝันร้ายอีกหลายคืนคนนั้นหรือ?เขาเดิมทีหน้
ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง ไม่เดินเข้าไปอีกนางพบว่าสายตาของเขายังไม่ได้ปรับให้คงที่ สีหน้าดูเลื่อนลอยอยู่บ้างและตอนนี้เองในห้องเภสัช เสียงที่อุปกรณ์รายงานออกมานางก็ได้ยินแล้วด้วยผลการยืนยันออกมาแล้วฟู่จาวหนิงไม่ขยับ แต่สายตาเพ่งเข้าไปในมิติ มองดูผลลัพธ์ผลยืนยันของนางกับหมอเจี่ย และนางกับฮูหยินเจี่ยออกมาแล้วพอเห็นผลยืนยันนั่น ในใจฟู่จาวหนิงก็มีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวจบลงแล้วขึ้นมานางเป็นลูกสาวของพวกเขาจริงๆพวกเขาคือสามีภรรยาตระกูลฟู่ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าตนเองมีความรู้สึกอย่างไรบอกว่าหมอเจี่ย จริงๆ แล้วเป็นหมอปลอมหรือ?เป็นสกุลที่ปลอมขึ้นมา"ฮูหยินข้าล่ะ?" ฟู่จิ้นเชินสายตายังเลื่อนลอยอยู่ แต่เสียงดูเนือยๆ พอเอ่ยปากก็ถามถึงภรรยาทันที"ท่านลองหันหน้า มองไปข้างๆ เตียงสิ" ฟู่จาวหนิงเองก็ตอบกลับเขาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เช่นกันฟู่จิ้นเชินหันหน้า มองเห็นภรรยาของตนเองนอนอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็เหมือนสติกลับเข้ามาในสมองทันที สายตาแจ่มชัดขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นยังมีปฏิกิริยาเป็นปกติแล้วเขาลูบใบหน้าภรรยา จากนั้นก็หันมามองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"เจ้าดึงหน้ากากของนางออกหรือ?"ข
นางอยากจะทดลองบอกที่มาของตนเองอีกสักครั้ง แต่พอคิดถึงว่าเซียวหลันยวนยังรออยู่ด้านนอก ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปคนก็พากลับมาแล้ว หากมีปัญหาอะไร นางยังสามารถทำให้เซียวหลันยวนเห็นต่อหน้าได้เลย"คุณ..."เสิ่นเชี่ยวเองก็ตื่นขึ้นแล้วพอนางตื่น ฟู่จิ้นเชินก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที ประคองนางลุกขึ้นมา ถามนางเสียงแผ่วเบา "ฮูหยิน ข้าอยู่ที่นี่ เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?""ข้าไม่เป็นไร แต่คุณปวดหัวไหม?" เสิ่นเชี่ยวเงยหน้ามองหัวของเขา ถามขึ้นอย่างกังวล"หัวไม่ปวด..."ยังไม่ทันพูดจบ ฟู่จิ้นเชินก็ตกตะลึงเขามองฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าถ้าตนเองสลบไป หลังจากตื่นขึ้นมาจะปวดหัวมาก อย่างน้อยต้องทรมานไปหลายวันแต่ว่าตอนนี้ไม่เจ็บปวดแล้ว!สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ"เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้พวกท่าน ให้เส้นเลือดบริเวณหัวไหลได้สะดวกขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายมาคำหนึ่งเสิ่นเชี่ยวเองก็มองไปทางนางนางตกตะลึง แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้วฟู่จาวหนิงพอเห็นสภาพนางก็รู้ว่านางจำได้ อย่างน้อยก็จำคำพูดที่พูดถึงที่มาของตนเองได้"ท่านแม่!"เสิ่นเชี่ยวลงจากเตียง วิ่งเข้ามาหานาง"ฮูหยินช้า
เสียงร้องไห้ของเสิ่นเชี่ยว ดังลอดออกมาเข้าหูชายหนุ่มเหล่านั้นที่ศาลาด้านนอกเสิ่นเสวียนขมวดคิ้ว ลุกขึ้นเดินตรงมาพอเขาลุกขึ้น คนอื่นเองก็ลุกตาม"ข้าไปดูหน่อย"เสิ่นเสวียนเพิ่งยกเท้า เซียวหลันยวนเองก็ตามขึ้นมาชิ่งอวิ๋นเซียวพอเตรียมจะขับ ผู้อาวุโสจี้ก็ดึงเขาไว้ "ไอ๊หยาเสี่ยวชิ่ง เด็กอย่างเจ้าช้าก่อน มีเรื่องอะไรให้พวกเขาไปแก้ไขกันก่อนเถอะ"ยังไม่รู้ว่าเป็นใครหรือเรื่องอะไร พวกเขาอย่าเพิ่งไปยุ่งดีกว่าชิ่งอวิ๋นเซียวทำได้แค่นั่งลงใหม่พร้อมกับเขา"ผู้อาวุโสจี้ ข้างเป็นห่วงอ๋องเจวี้ยนกับพระชายา พวกเขาจะหย่ากันไม่ได้นะ""เจ้าเอาแต่คิดว่าพวกเขานะหย่ากันทำไม?" ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว "แม้ว่าครั้งนี้ข้าจะรู้สึกว่าเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนทำไม่ค่อยถูก แต่ในใจศิษย์ข้าก็มีน้ำหนักของตัวเองอยู่ นางเองก็ไม่ใช่พวกที่ง้อง่ายด้วย ดังนั้น ถ้านางบอกว่าให้อภัยแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่แล้วล่ะ"สามีภรรยาทะเลาะกันมันก็เรื่องปกติ จะมาพูดหย่าร้างกันง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่มีหรอก"มันก็จริง" ชิ่งอวิ๋นเซียวพยักหน้าทางนั้น ฟู่จาวหนิงมองเสิ่นเชี่ยวที่ร้องไห้เป็นวักเวร ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรดี นางเองก็ปลอบคนไ
หรือก็คือ คนที่พบพวกเขาครั้งแรกคือเซียวหลันยวนหรือ? นี่มันวาสนาอะไรกัน!"ตอนนั้นสภาพของพวกเขายังไม่ใช่เช่นนี้" สายตาเซียวหลันยวนยังอยู่บนใบหน้าเสิ่นเชี่ยว แทบจะพอนึกก็เข้าใจขึ้นมา "พวกเขาแปลงโฉมหรือ?""ใช่"เซียวหลันยวนเดินขึ้นหน้าด้วยสัญชาตญาณฟู่จิ้นเชินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเขา ความรู้สึกระแวดระวังก็พุ่งขึ้นมาทันที ดึงภรรยาถอยออกไปสองก้าวเขามองเซียวหลันยวน"เฮอะ"เซียวหลันยวนหัวเราะเย็นชาขึ้นมา"ดูท่าจะจำข้าได้แล้วกระมัง?"เขาไม่พูดอะไร ก็ระวังตัวเขาเสียขนาดนี้? แล้วยังถอยหลังด้วยสัญชาตญาณอีก นี่กำลังบอกว่าพวกเขากำลังประหม่าอยู่ใช่ไหม?เสิ่นเชี่ยวซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดสามี ตัวสั่นระริกฟู่จิ้นเชินมองนาง เอ่ยกับเซียวหลันยวนว่า "ไม่รู้จัก ท่านคือใครกัน?""ไม่รู้จัก?" เซียวหลันยวนรู้สึกขัน "จะไม่ได้แล้วพวกเจ้าจะขลาดเขลาทำไมกัน? ฟู่..."เขายังไม่ทันพูดจบ ฟู่จาวหนิงก็พุ่งเข้ามาอุดปากเขาไว้ถ้าเผื่อบอกชื่อฟู่จิ้นเชินไปแล้วเขาสลบลงไปอีกล่ะ นั่นจะยิ่งลำบากนะ"ท่านลุง ท่านลองสอบถามไปก่อน ข้าจะพาเขาออกไปคุยหน่อย!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าต้องบอกกับเซียวหลันยวนให้เข้าใจก่อน เดิ
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม