"แล้วนี่จะทำอย่างไรดี" ฮูหยินสามกลัดกลุ้ม ไล่หมอชราออกไปนี่มันหมอบ้านๆ ชัดๆ !"ไปเชิญหมอคนอื่นมาอีก! หมอเทวดาหลี่ ใช่แล้ว ไปเชิญหมอเทวดาหลี่มา!" ฮูหยินสามร้องเรียกขึ้นไห่ฉางจวิ้นเองก็เข้ามาแล้ว คนใช้รีบร้อนวิ่งออกไปจนเกือบจะชนนางเข้า"เกิดอะไรขึ้น?"พอเห็นนาง ฮูหยินสามตาก็เปล่งประกาย รีบร้อนคว้ามือของนางมา "นักบุญหญิง ท่านช่วยดูหย่งหนิงของข้าให้หน่อยว่าเป็นอะไร? เขาพูดออกมาไม่ได้เลย!"ไห่ฉางจวิ้นดวงตาเปล่งประกายวาบ"เขาไม่ใช่ว่าออกไปจับม้าหรือ? ทำไมอยู่ดีดีก็พูดไม่ได้เสียแล้ว?""เพราะนังสารเลวฟู่จาวหนิง นางบอกว่าม้าเป็นของนาง จากนั้นก็เอาเข็มแทงลงมา หย่งหนิงของข้าถูกนางแทงมั่วๆ จนพูดไม่ได้ไปแล้ว"ฮูหยินสามเองก็อยากจะรีบไปคิดบัญชีพกับฟู่จาวหนิงเหมือนกัน แต่กลัวจะไปเสียเวลาเรื่องร่างกายของลูกชาย จึงทำได้แค่ทนไว้ก่อน"หยิบเข็มมาแทงหรือ? แทงมั่วด้วยหรือ"ไห่ฉางจวิ้นคิดถึงฉากที่ฟู่จาวหนิงช่วยคนไว้กลางถนน จึงเดินตรงไปข้างเตียงอย่างอดไม่อยู่ ตรวจอาการฟู่หย่งหนิงขึ้นมาฟู่จาวหนิงไม่ใช่แค่เป็นวิชาแพทย์?แต่ยังฝังเข็มได้ด้วยหรือ?ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ร้ายกาจกว่าที่นางจิน
ฮูหยินสามกลั้นหายใจ ไม่กล้าทำให้ไหมใจโลหิตตกใจไห่ฉางจวิ้นหยิบกระบอกหยกใบหนึ่งออกมา ใช้ปลายเข็มแทงเบาๆ ไปที่ปลายนิ้วตนเอง จากนั้นหยดเลือดลงไปในกระบอกหยก จากนั้นก็เขย่าๆ หยดของเหลวในขวดลงไปที่คอของฟู่หย่งหนิงฟู่หย่งหนิงรู้สึกว่าการกระทำนี้ของนางดูลึกลับเหลือเกิน ในใจเริ่มขนลุกเขามองไปทางมารดา ถอยไปทางเตียง คิดจะหลบจากไห่ฉางจวิ้น ฮูหยินสามเองก็รีบเตือนเขา "เด็กดี เจ้าอย่าขยับตัว นี่เป็นการรักษาให้เจ้า อีกเดี๋ยวเจ้าก็พูดได้แล้ว"ไห่ฉางจวิ้นพอเห็นเขาจะหนี ก็เลยกดลงไปที่จุดชีพจรของเขาร่างกายฟู่หย่งหนิงขยับไม่ได้ ถลึงตาโตเห็นเพียงแค่ในขวดนั้นมีตัวอะไรบางอย่างสีทองบินฟิ้วๆ อยู่ว่ากันว่าไหมใจโลหิต อันที่จริงแล้วก็มีขนาดใหญ่เท่ากับผึ้งตัวหนึ่ง ร่างกายสีทอง ดวงตาสีอำพัน และยังมีปีกที่เหมือนเส้นทองถักทอขึ้นอีกสี่ปีกด้วย!มันบินออกจาขวด หมุนวันอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ร่อนลงไปบนคอของฟู่หย่งหนิง และบนคอของเขา ของเหลวที่ไห่ฉางจวิ้นหยดไว้เมื่อครู่แข็งตัวขึ้นมาแล้วเล็กน้อย จนดูเหมือนยางลูกท้อหยดหนึ่งฮูหยินสามมองมันกินสิ่งของหยดนั้นจนหมด จากนั้นก็คายใยไหมสีเลือดกลุ่มหนึ่งออกมา ใยไหมนั้นแปะ
ฟู่จาวหนิงนั่งยองอยู่ใต้หน้าต่าง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตีปีกขึ้น พอเงยหน้า สิ่งที่เหมือนผึ้งตัวหนึ่งก็บินตรงมาแทงลงที่นิ้วของนางทันทีและขณะเดียวกัน นางเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาทางหน้าต่างนี้ในช่วงจังหวะสำคัญ ฟู่จาวหนิงไม่มีเวลาคิด จึงรีบโบกมือจับเจ้าของสิ่งนั้นเก็บเข้าไปในห้องเภสัชจากนั้นนางก็ยืนขึ้น ถอยหลังไปหลายก้าวพอเพิ่งจะถอยหลัง ประตูที่เมื่อครู่แง้มไว้เป็นร่องเล็กๆ ก็ถูกผลักเปิดออกทันที ไห่ฉางจวิ้น รีบกระโจนออกมา พอยืนมั่นคงแล้วจึงมองไปทางฟู่จาวหนิงนางมองหาไปรอบๆ พอไม่พบร่องรอยของไหมใจโลหิตตัวนั้น ก็ทั้งตกตะลึงทั้งร้อนรนทั้งโกรธขึ้งขึ้นมา ชี้นิ้วไปทางฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงโมโห"ฟู่จาวหนิงเจ้าคนชั้นต่ำไร้ยางอาย เจ้ากล้าขโมยไหมใจโลหิตของข้าหรือ?! รีบคืนไหมใจโลหิตของข้ามาเสีย!"ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งได้สติ ว่าเมื่อครู่ที่ถูกนางเก็บเข้ไปในห้องเภสัชก็คือไหมใจโลหิตแต่ว่า ไห่ฉางจวิ้นพออ้าปากก็ด่ากราด นางจึงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก"เจ้าใช้ตาข้างไหนเห็นว่าข้าขโมยไป?""เจ้านั่นล่ะ ไม่เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? เจ้าเข้ามาขโมยไหมใจโลหิตของข้าโดยเฉพาะ! อ๋องเจวี้ยนต้องการมัน เ
นี่คืออาสะใภ้สามที่มาพักอาศัยในบ้านนาง แต่กลับผันตัวจากแขกเป็นเจ้าบ้าน แล้วยังช่วยคนนอกมารังแกนางคนเป็นญาติ ญาติบ้าญาติบออะไร"ไห่ฉางจวิ้น ถ้าเจ้ายังไม่หยุดมือ ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา"เอาไหมใจโลหิตคืนมาให้ข้า!"ไห่ฉางจวิ้นจู่ๆ ก็สายตาโหดเหี้ยม กัดฟัน จากนั้นก็พ่นน้ำลายมาทางใบหน้าของฟู่จาวหนิงอย่างฉับพลันฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยกมือขึ้นมากั้นใบหน้าเอาไว้น้ำลายเหล่านั้นพ่นเข้ามาบนแขนเสื้อของนาง และเปียกขึ้นมาทันที แผ่ลงไปที่ผิวหนัง ลวกขึ้นมาจนแขนนางราวกับถูกเข็มพิษแทงไห่ฉางจวิ้นต้องมีพิษอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในฟันแน่!ฟู่จาวหนิงคว้าแขนเสื้อแล้วออกแรงกระชากฉีกทันที ฉีกแขนเสื้อข้างนั้นออกมา จนเผยให้เห็นแท่นแขนทั้งลำบนท่อนแขนมีจุดแดงเล็กๆ เกิดขึ้นมานับสิบ บวมขึ้นเป็นตุ่มเลือดพิษนี้ ก็รุนแรงอหังการเสียจริง!ไห่ฉางจวิ้นเมื่อครู่พ่นมาทางใบหน้านาง เห็นได้ชัดว่าจะทำลายโฉมใบหน้าของนาง!"ดูสิ พวกเจ้ารีบดู ฟู่จาวหนิงหน้าไม่อายเสียจริง นี่ถึงกับฉีกเสื้อผ้าตนเองออกมาต่อหน้าผู้ชายอย่างพวกเจ้า!"ฮูหยินสามร้องแจ้วขึ้นมา เรียกให้คนใช้เหล่านั้นจ้องม
"คุณหนูฟู่!"จงเจี้ยนปรากฎตัวขึ้นกะทันหัน พอเห็นสภาพของฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสี ยื่นมือไปยังไห่ฉางจวิ้นบนพื้นทันทีเสื้อผ้าวันนี้ของไห่ฉางจวิ้นมีผ้าระบายคลุมไหล่อยู่ ถูกเขาฉีกออกไป แล้วพาดลงไปบนตัวของฟู่จาวหนิง"เจ้ามันสมควรตาย"ไห่ฉางจวิ้นเดิมทีคิดจะชักเข็มออก กระตุ้นกำลังภายในตนเองให้เลือดลมเดินสะดวก และพอคิดจะลุกขึ้น เสื้อผ้าก็ถูกกระชากขาด นางก็โมโหจนหน้าเบี้ยวไปเลยทันทีฟู่จาวหนิงพอเห็นจงเจี้ยนที่เปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายธรรมดาแล้วก็พยักหน้าให้ คว้าชิ้นผ้าระบายนั้นไว้แล้วพันไปบนท่อนแขน เพียงพริบตาก็เหมือนนางมีแขนเสื้อเพิ่มขึ้นมาข้างหนึ่งเมื่อครู่นางตอนที่นางเห็นผู้เฒ่าสามฟู่พาคนเข้ามาก็เอียงตัวหลบไว้แล้ว ไม่ยอมให้พวกเขาได้เห็นท่อนแขนของตนเองสายตาของนางมองไปทางชายหนุ่มข้างกายผู้เฒ่าสามฟู่คนนั้นชายคนนั้นอายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหก รูปร่างสูงใหญ่ ดูแล้วเหมือนจะมีพลังวัวพลังความอย่างไรอย่างนั้น สายตาที่จับจ้องมาที่นางเหมือนหมาป่าจ้องชิ้นเนื้อมันนางคิดถึงคำพูดสาวใช้สองคนนั้น และมีการคาดเดาต่อตัวตนฐานะของชายคนนี้ขึ้นมาสายตาที่มองไปทางผู้เฒ่าสามฟู่ก็ยิ่งเย็นชาลงไปอีก"ฟู่จาว
"เจ้าว่าอะไรนะ!"ผู้เฒ่าสามฟู่หน้าเปลี่ยนสีก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงกล้าพูดแบบนี้กับเขาเสียที่ไหนนางแม้ว่าบางครั้งจะพูดว่าว่าที่นี่เป็นบ้านของนาง แต่ก็ล้วนอ่อนแอทุกครั้ง ไม่เหมือนตอนนี้ที่กล้าด่ากราดออกมาอย่างไม่น่าฟังเช่นนี้เลย"หูชองท่านไม่ดีหรือ? ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวข้าก็จะไล่พวกท่านออกจากตระกูลฟู่อยู่แล้ว พวกท่านไม่คู่ควรกับที่นี่""ใครก็ได้! จับนางกดเอาไว้ ตบปากเสียก่อนยี่สิบที! ข้าจะดูว่านางไปเอาความกล้านี้มาจากไหน ก็แค่พาผู้ชายนอกบ้านเข้ามาคนหนึ่ง กลับคิดว่ามีคนคอยช่วยจนทำอะไรก็ได้เช่นนั้นหรือ!"ข้าทาสร่างกำยำคนนั้นก็พุ่งเข้าหาฟู่จาวหนิงทันทีดูท่าทางของเขา เห็นได้ชัดว่าจะพุ่งเข้ามาใช้แขนโอบรัดร่างนางไว้ กอดนางไว้ให้ขยับไม่ได้"บังอาจ!"จงเจี้ยนเดือดดาล เขามองออกถึงสายตาน่ารังเกียจของข้าทาสคนนี้ ว่าสายตาของเขาเอาแต่จ้องมองที่ไหน?เขาโบกกระบี่แทงไปที่ข้าทาสคนนั้นข้าทาสกลับยื่นมือขึ้นกันกระบี่ของเขา และได้ยินเสียงดังเคร้ง จงเจี้ยนสัมผัสได้ว่ากระบี่กระทบเข้ากับของที่เหมือนแผ่นเหล็กพอมองไป ก็เห็นว่าบนแขนของข้าทาสนี้มีเกราะแขนเหล็กสวมอยู่สองชิ้น"เฮอะ!" ข้าทาสเห็นว่าตนเอง
ผู้เฒ่าสามฟู่เห็นไห่ฉางจวิ้นหนีไปแล้ว ในใจก็ตกตะลึงเดือดดาลเพื่อนคนไหนของฟู่จาวหนิงกัน ที่ให้ยืมองครักษ์ที่ร้ายกาจขนาดนี้มา?แต่ว่าตอนนี้พวกขยะที่เขาเลี้ยงไว้พวกนี้ก็สู้จงเจี้ยนไม่ได้ เขายังจะมีวิธีอะไรได้อีก?"จาวหนิง เจ้าตอนนี้อวดดีเสียเหลือเกิน พอมีคนช่วยเข้าหน่อยก็ไม่เห็นผู้อาวุโสญาติมิตรอยู่ในสายตาแล้วหรือ?" ผู้เฒ่าสามฟู่มองฟู่จาวหนิงเคร่งขรึมกลับมาอย่างองอาจคิดจะสั่งสอนนาง แต่ผลลัพธ์กลับถูกตบหน้าย้อนกลับมาจนบารมีหดหาย โมโหเสียจนหัวใจจะวายอยู่แล้ว"ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังเห็นพวกท่านอยู่ในสายตาเหมือนกัน ผลลัพธ์คือพวกท่านดันกำเริบเสิบสานจนกลายเป็นเม็ดทราย ที่วันวันเข้ามาแทงตาข้าจนเจ็บปวด ตอนนี้ข้าคิดกระจ่างแล้ว ว่าควรจะให้พวกท่านกลับไปอยู่ที่ของพวกท่าน ให้พวกท่านรู้ว่าตัวเองมีกำพืดอะไร"ฟู่จาวหนิงประสานสายตากับผู้เฒ่าสามฟู่ ใบหน้าสงบนิ่ง ไม่มีแววหวาดกลัวแม้แต่น้อยผู้เฒ่าสามฟู่พอเห็นสายตาที่เย็นชาแหลมคมเช่นนี้ของนาง ก็ตระหนักขึ้นมาได้แล้วว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ"ข้าจะคอยดู ว่าเด็กสาวกำพร้าพ่อแม่อย่างเจ้า จะสร้างคลื่นลมได้แค่ไหน"ผู้เฒ่าสามฟู่พูดจบ ก็สะบัดชายเสื้
"ท่านผู้เฒ่า นางไปแล้ว"ในห้อง ฮูหยินสามได้ยินเสียงฝีเท้าของฟู่จาวหนิงกับจงเจี้ยนห่างออกไป จึงเพิ่งถอนหายใจยาว แต่ว่าพอเห็นลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง น้ำตาของนางก็ไหลลงมาอีกครั้ง"ท่านผู้เฒ่า แล้วจะทำอย่างไรกันดี? ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปน่ากลัวขนาดนี้แล้ว""นางก็แค่มีองครักษ์ที่วิชายุทธ์ไม่เลวเท่านั้น แต่ว่าองครักษ์คนหนึ่งจะป้องกันตาเฒ่ากับนางได้พร้อมกันหรือ? นางมักจะมีเวลาที่อยู่คนเดียวเสมอ อดทนไปก่อนเถอะ รอจนเรือนหลังนี้ขายออกไป พอพวกเรารับเงินกับบ้านที่แลกมา ก็คอยดูว่านางกับตาเฒ่านั่นจะไปนอนข้างถนนกันอย่างไร"ผู้เฒ่าสามฟู่ดวงตาเหี้ยมโหดมาดร้าย"ถึงตอนนั้นพกวเขาจะอยู่ก็ไม่มีที่ให้อยู่ พวกเจาค่อยหาคนจำนวนหนึ่งบุกไปก็ได้" เขามองไปยังลูกชายบนเตียง ไม่พูดอะไรอีกฟู่จาวหนิงกลับมาถึงห้องของตนเองพอปิดประตูลง นางก็แวบเข้าไปในห้องเภสัชทันทีห้องเภสัชตอนนี้เหมือนกับเป็นช่องว่างของนางแล้ว นางสามารถสกัดยาอยู่ในนี้ได้ และสามารถนำสิ่งของฝากเอาไว้ในนี้ได้ด้วยยิ่งไปกว่านั้นนางยังพบว่าของที่ใส่เข้ามายังรักษาสภาพตอนที่เก็บเข้ามาได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงแต่ว่า เก็บสิ่งมีชีวิตเข้ามาก็เพิ่งจะทำเป็นครั้ง