“อา...อย่างนั้น โอ้ววว ซี้ดดดด...”
เสียงแปลกประหลาดที่เล็ดลอดออกมาจากห้องผู้จัดการใหญ่ทำให้รจนาชะงักมือที่กำลังจะเคาะประตูฉับพลัน
เสียงอะไรวะ ใครเปิดหนังโป๊ดูในออฟฟิศนายเปล่าวะ หญิงสาวกวาดตามองทั่วออฟฟิศ คอมพิวเตอร์ของเลขาจีเอ็มนั้นปิดไปแล้ว พี่อ้อยเลขาก็หายตัวไม่อยู่เฝ้าโต๊ะอีก
รจนามองนาฬิกาข้อมือที่บอกว่าเลยเวลาที่เธอควรต้องกลับบ้านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของจักรินแฟนหนุ่มที่เธอตั้งใจจะซื้อเค้กไปเซอร์ไพร์ซหลังผิดนัดเขามาหลายครั้งเพราะเรื่องงาน
“อย่างนั้น...อืม ดีมาก...”
เสียงคุ้นหูของเจ้านายใหญ่ลอยมากระตุ้นต่อมความเผือกประจำตัว ทำให้พีอาร์สาวอดไม่ไหวต้องหาช่องส่องผี แต่ยังไม่ทันได้เห็นอะไรก็ดันโดนขัดจังหวะเสียก่อน
“อ้าว! คุณรจมาหานายเหรอคะ”
คุณอ้อยเลขาทักเสียงดังเกินเบอร์ รจนาแอบกลอกตาก่อนหันไปปั้นหน้าใสซื่อ หูแว่วได้ยินเสียงอะไรขลุกขลักแปลกๆ ดังออกมาจากในห้องเจ้านายชวนให้สงสัย
“งั้นเดี๋ยวพี่โทรแจ้งนายให้ก่อนนะคะว่าสะดวกให้พบหรือยัง”
“คุณรจมาแล้วหรือ ให้เข้ามาได้”
ไม่ทันได้อ้าปากท้วงว่าไม่ต้อง คนในห้องก็ตะโกนสวนออกมาเสียก่อน พร้อมกับเสียงปลดล็อกและประตูห้องที่เปิดออกผ่าง
คนที่รจนาสงสัยว่าหายไปไหน ก้าวออกมาด้วยมาดนางพญา แต่สภาพนั้นหากคนช่างสังเกตย่อมดูออกว่าไม่เนี้ยบเหมือนเดิม แถมลิปสติกยังมีคาบเลอะเลยขอบปากที่บวมเจ่อนิดๆ นั่นชวนให้อยากรู้ไปอีกว่าเจ้าตัวไปกินอะไรมา ปากถึงเจ่อได้เบอร์นั่น ท่าทางขนาดจะใหญ่น่าดู
“ดาต้า!”
คนถูกเรียกกระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย สายตาที่มองรจนาในฐานะหัวหน้าและรุ่นพี่ดูเหนือและแอบเย้ยหยันในที
“พี่รจมาแล้วเหรอคะ”
อยากจะกระแทกให้หน้าหงาย ที่เธอต้องเลิกงานสายมันเพราะใครกันล่ะยะ เฮ้อ...ขี้เกียจสนใจ จึงหันไปหาคนกลาง
“รจเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะพี่อ้อย”
“อ๊ะ...เชิญค่ะเชิญ”
ดาริกายักไหล่ไม่ได้ยี่หระที่โดนเมิน แต่ยามที่เดินเฉียดมาใกล้ หูของรจนาก็ได้ยินเสียงกระซิบอย่างเป็นต่อ
“ขอให้โชคดีนะคะพี่รจ”
โชคดี! โชคดีอะไรของมันวะ โดนเรียกเข้าห้องเย็นตอนเลิกงานมันโชคดีตรงไหนเนี่ย
“อ้าว คุณรจมาแล้วเหรอ เชิญนั่งๆ ปิดประตูล็อกกลอนด้วย”
สภาพของดาริกาว่าประหลาดแล้ว มาเจอสภาพอีกคนนี่สิ ยิ่งประหลาดกว่า เรื่องชักไม่ชอบมาพากลเสียแล้วตั้งแต่คำอวยพรแบบแอ๊บๆ ของเพื่อนคู่แข่ง มาเจอสภาพเจ้านายใหญ่ที่เอิ่ม...ดูไม่จืด
เธอไม่ได้โง่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าทั้งซาวเอฟเฟกต์แปลกๆ และสภาพที่เห็นตรงหน้าคืออะไร แต่ความอยู่เป็นสอนให้ต้องทำเป็นหูหนวกตาบอดเสียบ้างจะได้อยู่รอดปลอดภัย
“เห็นคุณอ้อยบอกว่านายเรียกพบรจเหรอคะ”
เรื่องใส่หน้ากากแป๊ะยิ้มขอให้บอก อีรจถนัดนัก แม้จะอยากตะโกนบอกอีกฝ่ายให้รูดซิปกางเกงขึ้นให้เรียบร้อยเสียหน่อย เพราะเกรงหนอนน้อยจะออกมาทำให้ตาสวยๆ ของเธอจะเป็นกุ้งยิงเสียก่อนก็เถอะ
หญิงสาวไม่แคร์หรอกว่าใครจะกุ๊กกิ๊กกับใคร หรือกินกันในออฟฟิศยังไง ท่าไหน ขอแค่ไม่ทำให้เสียงานเสียการจนเธอพลอยเดือดร้อนไปด้วยก็พอ แต่ท่าทางเคสนี้จะไม่ใช่แฮะ
“ได้ยินว่าช่วงนี้งานฝ่ายพีอาร์ยุ่งมาก”
ยุ่งสิวะ ก็ฝีมืออีเด็กฝากของเจ้านายทั้งนั้นที่ทำคนอื่นยุ่งหัวฟู
“ก็นิดหน่อยเป็นธรรมดาค่ะบอส แต่รจรับมือได้ค่ะ ไม่ต้องห่วง”
“งั้นเหรอ...” เอ่ยเหมือนไม่เชื่อแล้วสายตาวิบวับๆ ที่ป้วนเปี้ยนแถวหน้าอกเธอนี่มันยังไงวะ คืออะไร
“บอสคะ”
“อืม...ดูเหมาะมือจริงๆ ด้วย” รจนาผงะ นึกว่าหูฝาด
“คะ อะไรเหมาะมือนะคะบอส”
“ห๊ะ อ๋อเปล่าๆ ไม่มีอะไร ผมว่าคุณน่าจะรับมืองานหนักได้สบายๆ จริงๆ ด้วย”
ชายกลางคนรีบพยักพเยิด แต่สายตาไม่ยอมละไปจากสิ่งเย้ายวนที่เขาแอบหมายตามาตั้งแต่ตอนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ แม่พีอาร์สาวคนสวยนี่ช่างมีต้นทุนล้นทะลักจนชวนให้กระหายใคร่ลองชิมเสียจริงๆ
“จริงๆ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพีอาร์ก็ว่างมาพักหนึ่งแล้ว คุณรู้ใช่ไหม”
“ทราบค่ะบอส” ทำไมจะไม่รู้ ก็เธอไงคนที่คู่ควรจะได้มัน
“อืม วันก่อนทางโอนเนอร์ก็ถามมาว่าจะแต่งตั้งใครมาแทนหัวหน้าคนเก่า ผมคิดถึงคุณก่อนคนแรก แต่ก็นั่นแหละ...”
รจนาหุบยิ้มฉับ รู้สึกตาขวาเริ่มกระตุกแรงขึ้นเรื่อยๆ มือที่กำมือถือไว้ขยับขยุกขยิก
“ผมก็ได้แต่คิด ถ้าโอนเนอร์ไม่ได้คิดตามก็คงยากหน่อย”
“คะ!”
พีอาร์สาวขมวดคิ้วแน่น อะไรคือเจ้าของบริษัทไม่คิดตามในเมื่อเธอสร้างผลงานให้บริษัทมาตั้งมากมายเท่าไหร่ มันไม่ได้เข้าตาพวกท่านๆ บ้างเลยหรือไงวะ
“คุณดาต้าไง คุณก็รู้ว่าทางโอนเนอร์เขาหนุนหลังคุณดาต้าอยู่ ทางนั้นก็โปรไฟล์ดีเสียด้วย เด็กจบนอก บุคลิกดี หน้าตาก็สวยหุ่นก็แซ่บ เอ๊ย! ดี แถมแต่งตัวก็เก่งเหมาะจะเป็นหน้าเป็นตาให้บริษัทเราเวลาออกงานออกการไม่เคอะเขิน”
ชิ! สวยแล้วไง แต่งตัวเก่งแล้วไง โอนเนอร์มาแหกตาดูการทำงานของยัยนั่นหน่อยไหม กากแล้วยังหยิ่งผยอง โง่แล้วดันอวดฉลาด สวยน่ะไม่เถียง แต่สวยแล้วไร้สมองทำงานไม่เป็นจะเอาขึ้นมาเป็นหัวหน้าขี่หัวเธอหรือไงยะ แต่ก็นั่นแหละ เธอก็ได้แค่คิด ท่องไว้ไอ้รจ ท่องไว้...
งานดีๆ นั้นหายาก เธอจะมาตกงานตอนนี้ไม่ได้
“รจคิดว่างานพีอาร์นั้นจริงๆ แค่สวยไปวันๆ อย่างเดียวมันอาจไม่พอ จริงไหมคะบอส สมัยนี้คนสวยๆ หาง่าย แต่คนที่ฉลาด ทำงานเป็น และขวนขวายเรียนรู้ พัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลกทันเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลาต่างหากที่ควรได้รับโอกาสมากกว่า”“ก็นี่ไง ผมก็คิดแบบคุณเลยล่ะ แต่ก็นั่นแหละ...”นั่นแหละอะไรอีกยะ หญิงสาวยืดหลังตรงราวกับแม่เสือระวังภัย“ที่ผมเรียกคุณดาต้าและคุณเข้ามาคุยก็ด้วยเรื่องนี้ ผมอยากสนับสนุนคุณให้ได้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกนะ เพราะยังไงก็มีประสบการณ์มากกว่า อีกอย่างคุณตาลก็บอกว่าคุณทำงานดีมาก แต่การต้องงัดข้อกับโอนเนอร์มันก็ควรมีแรงจูงใจกันหน่อย จริงไหม”“แล้วแรงจูงใจที่บอสว่านั่นคืออะไรล่ะคะ” หญิงสาวแสร้งยิ้มหวาน นึกถึงคำอวยพรอาบยาพิษที่ดาริกาทิ้งไว้ให้ ภาวนาว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด“คือ...ตัวคุณไง!” รจนาสูดหายใจเข้าลึกจนถึงลิ้นปี่ มือกำโทรศัพท์มือถือแน่น ตาเหลือบไปมองแจกันดอกกุหลาบแสนสวยบนโต๊ะเจ้านายเพื่อคูลดาวน์อารมณ์ตัวเองเย็นไว้โยม...งานหายาก ท่องไว้ ฉันไม่อยากตกงานตอนนี้“พูดก็พูดเถอะนะ ผมน่ะแอบถูกชะตาคุณมาตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว และคิดว่าอนาคตคุณต้องไปไกลกว่านี้แน่ ถ้าเพียงแต่...”“เพียงแต่อ
‘สังข์ทองลูกแม่ งามแท้พ่อคุณ...’เสียงทีวีดิจิตอลขนาดหน้าจอสี่สิบนิ้วแผดโหยหวนลั่นบ้าน ทำให้คนที่กำลังนอนฝันหวานต้องรีบยกหมอนปิดหูทันใด มิไยว่าเสียงเพลงละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตก็ยังคงหลอนหูอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบตีสาม หลับไม่ทันอิ่มก็เจอนาฬิกาปลุกที่ชื่อพระสังข์ของแม่ปลุกแต่ไก่โห่อีก“โอ๊ย...แม่นะแม่! เปิดทีวีเผื่อข้างบ้านหรือไงเนี่ย”คนที่ชื่อเหมือนเมียพระสังข์ลุกพรวดจากที่นอนอย่างเหลืออด หมดกันเช้าตรู่อันแสนสงบรจนายีผมจนฟูยุ่งเหยิงระบายความหงุดหงิด การอยู่เมืองกรุงตัวคนเดียวมากว่าสิบปีทำให้เธอรู้สึกมีอิสระ และเมื่อต้องกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวที่บ้านต่างจังหวัดแบบนี้มันก็ทำให้รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ หากจะถามว่าแล้วเธอจะกลับมาทำอะไรน่ะเหรอเหตุผลก็เพราะเธอสู้ค่าครองชีพของเมืองกรุงไม่ไหวน่ะสิ ค่าข้าวปลาอาหารต้องกินทุกวันมื้อหนึ่งอย่างประหยัดสุดๆ ก็ต้องมีในกระเป๋าไม่ต่ำกว่าร้อยแล้ว นี่ไม่นับมื้อที่อยากกินฟุ่มเฟือยบ้าง หมูกะทะ ชาบู ปิ้งย่างเอย ไหนจะค่าที่พักที่เช่ารายเดือนรวมค่าน้ำค่าไฟไม่ต่ำกว่าเดือนละสี่ซ้าห้าพันอีกล่ะ ไหนจะค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าเนต ยั
‘เดี๋ยวนะ นี่มันใช่เหตุผลที่พี่จะทำชั่วๆ นอกใจกันแบบนี้เหรอวะ’รจนาแผดเสียงใส่อย่างเหลืออด และเสียงของเธอคงดังมากจนทำให้เพื่อนร่วมคอนโดเปิดประตูออกมาดูกันแทบทั้งฟลอร์‘รจพูดจาดีๆ หน่อย ไม่ต้องเสียงดัง อายคนบ้างสิ’‘ทีอย่างนี้ล่ะหน้าบาง ทีทำเลวทำไมไม่ละอายใจบ้าง นี่หล่อน! ก่อนหน้านี้รู้ไหมว่าไอ้หมอนี่มันมีแฟนอยู่แล้วน่ะ’คนถูกถามหน้าซีดไม่ตอบ แต่เท่านี้คนถามก็พอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายรู้เต็มอก แต่ก็ยังคิดแย่งแฟนชาวบ้านอีก เฮ้อ...‘โห...สมกันดีนี่ ผีเน่ากับโลงผุ หญิงร้ายชายชั่ว เอาเถอะ ถือว่าฉันทำบุญมาดีที่รอดพ้นจากผู้ชายเลวๆ คนนี้ได้โดยไม่โง่โดนเอาฟรีจนท้องไส้ให้อับอายชาวบ้านที่มีผัวเลวแบบนี้ ต้องขอบใจเธอมากนะใบเฟิร์นที่ช่วยมารับบาปเคราะห์แทนฉัน’ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้‘รจ!’‘ขึ้นเสียงทำไม! หูไม่ได้หนวก แค่ตาบอดหลงผิดคิดว่านายเป็นคน...ที่แท้ก็...เฮ้อ ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลย เอาไปเถอะ ผู้ชายเลวๆ คนเดียวฉันยกให้ แต่เธอก็ระวังหน่อยนะ สันดานคนมันเปลี่ยนยาก โดยเฉพาะหมอนี่มันปากหวานชอบขายฝันไปวันๆ ถ้ามันนอกใจฉันได้ คิดเหรอว่าเธอเองจะไม่โดนเหมือนกันสักวัน’‘รจ พี่ขอล่ะ’‘ขอเหรอ ได้สิ จัดไป...’ผลัว
‘คบซ้อน หวังฟันสาวเก็บแต้มไปวันๆ คิดว่าคนอื่นโง่หลอกได้หลอกเอา นั่นมันเรียกสันดานชั่ว!’รจนาด่าเรียงตัว พลางจ้องหน้าแฟนหนุ่ม ผิดหวังก็ใช่ แต่อีกใจก็ต้องนับว่าเธอคงทำบุญมาดีที่รู้เช่นเห็นชาติแฟนหนุ่ม โดยไม่พลาดท่าจนท้องป่องอีกคน แบบนั้นคงช้ำใจยิ่งกว่าเพราะสงสารลูกที่จะเกิดมามีพ่อแบบนี้‘ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้กับใครอีกแล้วกัน อ้อ...ในเมื่อเลิกกันแล้ว เงินที่นายยืมไปก็คืนมาด้วยแล้วกัน’‘เงิน...เงินอะไรกันคะพี่จักร’ ใบเฟิร์นหันไปถามหน้าตื่น‘นี่หล่อน ถ้ายังไม่รู้ ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ลำพังเงินเดือนอิพี่จักรของเธอน่ะ เดือนๆ หนึ่งมันยังชักหน้าไม่ถึงหลังเลย ไหนจะผ่อนรถ ไหนจะผ่อนคอนโด เอาเงินที่ไหนมาดาวน์ ลำพังกินข้าวด้วยกันมันยังเกี่ยงฉันจ่ายให้เลย บอกว่ายืมเดี๋ยวคืนอ้างเป็นแฟนกันอย่าคิดเรื่องหยุมหยิม แต่จนถึงตอนนี้มันก็ไม่คืนฉันสักบาท ตอนอยู่กับเธอถ้ามันเลี้ยงข้าวเธอนั่นถือว่าบุญหัวแล้วนะ’ใบเฟิร์นหน้าเสีย จึงทำให้รจนารู้ว่าคำพูดเธอแทงใจดำอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว‘อะไรกัน กับเธอก็โดนเหรอ เฮ้อ...ไม่ไหวนะผู้ชายแบบนี้ หวังว่ามีลูกแล้วก็เปลี่ยนนิสัยหน่อยแล้วกันเนอะ ไม่ใช่เอะอะหาเรื่องเอาเปรียบแฟนแบบนี้มั
ก๊อกๆ“พี่รจ...ตื่นยัง”เสียงตะโกนหน้าห้องฉุดรจนาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง เสียงแปดหลอดของ ‘เมรี’ น้องสาวคนเดียวของเธอเคาะประตูโครมๆ จนน่ากลัวจะพังคามือ“ตื่นแล้วๆ ประตูไม่ได้ล็อก”พอขาดคำประตูก็เปิดผ่างออก คนมาใหม่คือสาวน้อยวัยใสหน้าตาหมดจดตามประสาสาวเหนือ ที่มีใบหน้าละม้ายรจนาส่วนหนึ่งแต่ผิวคล้ำกว่าพี่สาวเล็กน้อย“แม่ให้มาเรียกไปกินข้าว วันนี้มีแกงขนุน น้ำพริกอ่อง ผักลวก แล้วก็ผัดผักรวมมิตร ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลยนะ หรือจะกินข้าวซอยน้ำเงี้ยวก็มีนะ แม่ทำไว้ให้พี่ตั้งแต่เช้ามืดแน่ะ”เมนูที่ว่ามาทำให้รจนาถึงกับน้ำลายสอ ถึงจะไปอยู่เมืองกรุงมาหลายปี แต่อาหารที่ซื้อเขากินหรือจะสู้รสมือแม่ของเธอได้“เดี๋ยวพี่ขอล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วจะรีบตามไป”“เร็วๆ ล่ะ” รจนาพยักหน้ารับ ก่อนหันไปจัดการตัวเอง สลัดความหลังมัวซัวออกจากหัวสมอง “สังข์ทองลูกแม่งามแท้พ่อคุณ...”เสียงเพลงไตเติ้ลละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตลอยลมมาทักทายรจนาพร้อมกลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ได้นั่งล้อมวงกินกันพร้อมหน้าครอบครัว นี่คือวิถีประจำบ้านที่เธอห่างหายไปนานโข“อ้าว! เจ้ารจ มาๆ กินข้าวกันลูก” นายแผนหันไปกวักมือเรียกลูกสาวมาร่วมวง บ้
“เขาก็เม้าท์กันว่าที่พี่กลับมาอยู่บ้านเพราะท้องไม่มีพ่อน่ะสิ”“หา! ว่าไงนะ” คนโดนเม้าท์ตาโตเท่าไข่ห่าน โวยลั่น“จะบ้าเหรอ! เอาอะไรมาท้อง ผัวยังไม่มีซักคน นี่แฟนฉันก็เพิ่งเลิกกันไปก่อนกลับบ้าน...อุ๊บ!”รจนารีบปิดปากเมื่อเผลอหลุดคายความลับออกมา แต่กลับไม่รอดหูของผู้เป็นแม่และน้องสาวตัวแสบได้“ว่าไงนะ! แกเลิกกับแฟนแล้วเรอะ”อุตส่าห์เก็บงำเรื่องจักรินไว้ เพราะกลัวที่บ้านเป็นห่วง แต่ต้องมาหลุดปากเพราะความเผลอเรอ เมื่อรู้ว่าถึงปิดไปก็ไม่ได้ผลเธอเก็บความลับกับเขาได้เสียที่ไหน รจนาจึงถอนหายใจ“อืม...เลิกแล้ว ก็มันนอกใจไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องเลยเลิก”“ไอ้ชาติหมา!” คนที่นั่งนิ่งมานานสบถเสียงเหี้ยม“ใจเย็นพ่อ ใจเย็น หายใจเข้าลึกๆ นะ เดี๋ยวความดันขึ้น” เมรีรีบเข้าไปลูบหลังให้บิดา“ทำไมแกเพิ่งมาบอกพ่อกับแม่ล่ะยัยรจ แล้วนี่มันทำอะไรแกไปบ้าง ได้เสียกันหรือยัง”รจนาทำหน้าเมื่อย ก่อนส่ายหน้าไปมา“ยังไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูทำตามที่แม่สอนให้รักนวลสงวนตัว แขนหนูยังไม่ให้จับเลย แต่ก็เพราะแบบนี้ไงไอ้หมอนั่นถึงหาเรื่องนอกใจหนูไปมีคนอื่น”“เฮ้อ...งั้นก็โล่งอกไปที ช่างหัวมันเถอะ ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งแบบนั้นดีแล้วที
สาวน้อยเข่นเขี้ยวอย่างโมโห ตั้งแต่พี่สาวหอบผ้าผ่อน พร้อมกรงหมากลับมาอยู่บ้านไม่ถึงอาทิตย์ นังเอริหมาบีเกิ้ลจอมซนก็คาบรองเท้าของคนทั้งบ้านไปแทะเรียบไม่เหลือหลอ บางทีก็คาบไปซ่อนให้ตามหาเป็นวันๆ ใช่แต่รองเท้า เสื้อผ้าที่ตากไว้ หรือข้าวของอะไรที่วางขวางหน้ามันก็คาบไปแทะเรียบ จนมาถึงคราวนี้สองพี่น้องก็เหลืออดสุดขีดเพราะเป็นรองเท้าคู่โปรดที่เหลือรอดคู่สุดท้ายแล้ว“นังหมาเวร! แอบดอดหนีออกไปซนที่ไหนอีกล่ะเนี่ย กลับมาจะตีให้ยับ หนอย กัดรองเท้าคู่โปรดฉัน ดูซิ แล้วนี่จะใส่อะไรไปล่ะ ขาดทุกคู่แล้วมั้งเนี่ย”รจนากุมขมับด้วยความโมโหจนน้ำตาแทบเล็ด“เอ๊ะ นั่นไงพี่ อิเละของพี่หรือเปล่าวิ่งแจ้นมานู่นแล้ว”เจ้าของหมาแสบรีบหันขวับ หรี่ตามองสิ่งมีชีวิตที่วิ่งปุเลงๆ สี่ขาหน้าตั้ง หมาน่ะใช่ แต่สีนี่สิ เจ้าหมาของเธอเป็นบีเกิ้ลพันธุ์แท้ หูยาวสวยมีสามสีคือส้ม ขาว และดำ หางมีแต้มดอกสีขาว แต่ไอ้เจ้าตัวที่กำลังวิ่งตรงมานั่นกลับมีสีเดียวคือสีโคลนน้ำครำดำมะเมี่ยม แถมในปากคาบอะไรบางอย่างมาด้วย“อี๋...อย่าเข้ามานะเอริ ไม่เอาไม่เล่น” รจนารีบถอยหนีเมื่อเห็นสภาพหมาตัวมอมที่วิ่งตรงเข้ามาหาเธอ ก่อนสะบัดขนพรึ่บพรั่บแบ่งปันค
“แล้วกัน เลยมอมทั้งคนทั้งหมาเลย รองเท้าก็ขาดหมดแล้ว เฮ้อ! นังหมาจอมแสบนี่” แม่ของสองสาวหันรีหันขวางหาไม้เรียว “รองเท้าที่บ้านมันก็กัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีใส่กันแล้ว ยังจะไปขโมยรองเท้าชาวบ้านอีก นังเมรีไปเอาไม้เรียวมาที”“ไม้เรียวก็อยู่ในมือพี่รจนั่นไงแม่”“แล้วนี่จะทำยังไง พ่อสาธุเขาจะใส่อะไรล่ะนั่น”“เดี๋ยวหนูไปซื้อรองเท้าแตะที่ร้านป้าสายหยุดให้ก่อนก็ได้แม่ คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ในฐานะเจ้าของหมา รจนาจะทำอะไรได้นอกจากรับผิดชอบแทน“คุณรู้ไซซ์ผมแล้วเหรอ”“หา! ไซซ์ ไซซ์อะไร” หญิงสาวงุนงง“อ้าว ก็คุณจะไปซื้อรองเท้าให้ผมน่ะ รู้ไซซ์เท้าผมแล้วหรือไง”“อ๋อ...งั้นคุณใส่ไซซ์อะไรล่ะคะ แล้วสีล่ะ เอาสีเดิมไหม” ปากพูดแต่ตามองสีรองเท้าที่เก่าคร่ำคร่าจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีอะไร“ว่าแต่สีเดิมของคุณนี่มันสีอะไร”เจ้าของรองเท้ากลั้นขำ เก๊กหน้าขรึมใส่แม่สาวแปลกหน้า“เดี๋ยวผมไปด้วยดีกว่า จะได้ลองใส่ด้วยว่าพอดีเท้าไหม”รจนามัวแต่มองหน้ามอมๆ ของคนพูด จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าพ่อแม่และน้องสาวของเธอที่หันไปมองสบตากันอย่างแปลกใจ“โอเคค่ะ เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวรจมานะแม่”“ใจคอจะไปกันทั้งแบบนั้นน่ะเรอะ มีหว
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง
“แม่จ๋าพ่อจ๋าพี่รจอยู่ไหน”เสียงเอะอะดังมาก่อนตัวทำให้คนเป็นแม่ถึงกับส่ายหน้า“กลับมาถึงก็โวยวายเชียวนะยัยเมรี มีอะไรๆ เบาหน่อย พี่รจเขาไม่สบายนอนพักอยู่ แกเล่นตะโกนปาวๆ เดี๋ยวเขาก็ตื่น อ้าว! นั่นไงตื่นจนได้” นางสีดาค้อนลูกสาวตัวแสบ“มีอะไรกันเหรอแม่ ยัยเมรีเอะอะอะไร”“ก็เมื่อกี้หนูลงรถที่หน้าปากซอยว่าจะไปซื้อของที่ร้านป้าสายหยุด เลยไปได้ยินข่าวมา” คนพูดมีทีท่าอึกอัก “พี่ดาวเรืองเขาบอกว่าพี่รจถูกผู้ชายทิ้งเพราะกลับไปคบแฟนเก่า”รจนาตัวชาด้วยความตกตะลึง“ปากคนก็พูดไป คราวก่อนก็บอกพี่แกท้อง คราวนี้ก็โดนผู้ชายทิ้งคราวหน้าอะไรอีกล่ะ” นางสีดาบ่น“แม่อย่าเพิ่งขัดสิหนูยังเล่าไม่จบ ผู้ชายที่ว่าน่ะ เขาบอกว่าเป็นพี่สาธุนะ!”“หา! ว่าไงนะ” ทุกคนอุทานแทบพร้อมกัน พลางหันไปมองหน้ารจนาเป็นตาเดียว“จริงแม่ เขาเห็นกับตาว่าพี่สาธุกอดผู้หญิงคนนั้นแน่นเลย เขายังเอารูปในโทรศัพท์ให้ฉันดูด้วย เห็นหน้าพี่สาธุชัดเลย”คนเป็นข่าวถึงกับหน้าถอดสี หัวใจปลิวหล่นไปที่ตาตุ่ม พยายามข่มความอ่อนแอที่กำลังมารออยู่ที่ดวงตาไว้ไม่ยอมให้มันไหลออกมาพอนางสีดาหันมาเห็นสีหน้าลูกสาวก็นึกรู้ว่าข่าวคงมีมูล“ยัยเมรีเรื่องนี้แกไม่ต้อง
ฝ่ายรจนาเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็เข้าห้องปิดประตูเงียบ รวมถึงปิดโทรศัพท์แล้วโยนมันลงในตะกร้าผ้าเตรียมซัก เผื่อว่าใครโทรมาก็คุยกับตะกร้าผ้านั่นไปแล้วกัน เชอะหญิงสาวนอนตาลอยมองเพดาน พลางคิดถึงเหตุการณ์วาบหวามระหว่างเขาและเธอก่อนหน้า ไออุ่นของเขา สัมผัสของเขา รสจูบของเขา ไหนจะคำหวานที่กระซิบข้างหูนั่นอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดไม่น่าเลย เธอไม่น่ายอมให้เขาใกล้ชิดลึกซึ้งขนาดนั้น ถึงจะยังไม่ทันได้มีอะไรกันจนสุดทางก็เถอะ ทำไมนะ ยัยปากแดงนั่นถึงไม่ยอมมาให้ไวกว่านี้ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์คิดมากแบบนี้เฮ้อ...ป่านนี่สองคนนั่นกำลังทำอะไรกันอยู่นะ ไม่แน่ว่า ยัยนางเอกนั่นอาจจะกำลังออดอ้อนออเซาะขอคืนดีกับสาธุคุณสำเร็จแล้วก็เป็นได้คืนดีกันแล้วไง เลิกๆ เลิกคิดถึงเขาให้ปวดใจซักทีไอ้รจ ใช่ว่าไม่เคยอกหักสักหน่อย ไม่กี่เดือนก่อนตอนเลิกกับจักริน เธอก็ยังไม่ตายนี่นา มันก็แค่ต้องทำใจให้ได้ ลุกให้ไวเท่านั้น ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถลำตัวมากไปกว่านี้นอนไปก็คิดฟุ้งซ่าน อย่ากระนั้นเลยลองเปิดคอมดูดีกว่า ไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบคว้าโน้ตบุ๊กมาเปิดดูอีเมล์ และดูตามเว็ปที่เธอฝากใบสมัครไว้ ตั้งแต่ที่คบกับสาธุเธอก็เลิก
“พี่จะเอาแบบนี้จริงเหรอ” ถามย้ำอีกทีเผื่อเปลี่ยนใจ แต่อีกฝ่ายกลับพยักหน้ายืนยัน ทำให้แฟนเก่าแอบยิ้มร่าสมใจ“งั้นก็ตามใจแล้วกัน”สาธุคุณชะงักกึก เมื่อเห็นสายตาขุ่นเย็นชาที่แฟนสาวส่งกลับมาให้ ก่อนเดินผละไปทางที่หมาของเธอนั่งหมอบอยู่กับแฟนพันธุ์ทางสุดที่รัก“ไป! เอริ! กลับบ้าน!”พอเห็นเจ้าหมาไม่รักดียังคงนิ่งจึงหมั่นไส้เลยเข้าไปอุ้มมันเดินกลับบ้าน ทิ้งจักรยานไว้ โดยไม่ยอมเหลียวหลังไปมองเจ้าของบ้านอีก จึงไม่เห็นสายตาห่วงใยที่ส่งมาให้สาธุคุณรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ เขากำลังจะตามไป แต่กลับโดนกรรณิกาดึงมือไว้“สาธุคะ”ชายหนุ่มชักไม่สบอารมณ์ เขาหันกลับไปมองหน้าแฟนเก่า และดึงมือออกอย่างไม่ไยดี“รีบๆ พูดธุระของคุณมาเสียทีจะได้จบๆ ผมจะได้ไปจัดการธุระของผมบ้าง” คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึก จากตอนแรกที่คิดดีใจว่าสาธุคุณยังมีเยื่อใยหลงเหลืออยู่บ้าง เลยไล่ยัยเด็กกะโปโลนั่นกลับไป แต่พอเห็นสายตาเย็นชาปนรำคาญก็นึกรู้ว่าตัวเองสำคัญตัวผิดอย่างแรง“ลูกเกดอยากขอโทษคุณที่ทำให้คุณเสียใจวันนั้น ลูกเกดรู้แล้วว่าตัวเองโง่เองที่เลือกคนผิด”“เข้าเรื่องเถอะ บอกมาเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่าคืออะไร”กรรณิกาแอบกลืนน้ำลาย ไม่คิดว่า