‘เดี๋ยวนะ นี่มันใช่เหตุผลที่พี่จะทำชั่วๆ นอกใจกันแบบนี้เหรอวะ’
รจนาแผดเสียงใส่อย่างเหลืออด และเสียงของเธอคงดังมากจนทำให้เพื่อนร่วมคอนโดเปิดประตูออกมาดูกันแทบทั้งฟลอร์
‘รจพูดจาดีๆ หน่อย ไม่ต้องเสียงดัง อายคนบ้างสิ’
‘ทีอย่างนี้ล่ะหน้าบาง ทีทำเลวทำไมไม่ละอายใจบ้าง นี่หล่อน! ก่อนหน้านี้รู้ไหมว่าไอ้หมอนี่มันมีแฟนอยู่แล้วน่ะ’
คนถูกถามหน้าซีดไม่ตอบ แต่เท่านี้คนถามก็พอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายรู้เต็มอก แต่ก็ยังคิดแย่งแฟนชาวบ้านอีก เฮ้อ...
‘โห...สมกันดีนี่ ผีเน่ากับโลงผุ หญิงร้ายชายชั่ว เอาเถอะ ถือว่าฉันทำบุญมาดีที่รอดพ้นจากผู้ชายเลวๆ คนนี้ได้โดยไม่โง่โดนเอาฟรีจนท้องไส้ให้อับอายชาวบ้านที่มีผัวเลวแบบนี้ ต้องขอบใจเธอมากนะใบเฟิร์นที่ช่วยมารับบาปเคราะห์แทนฉัน’ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้
‘รจ!’
‘ขึ้นเสียงทำไม! หูไม่ได้หนวก แค่ตาบอดหลงผิดคิดว่านายเป็นคน...ที่แท้ก็...เฮ้อ ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลย เอาไปเถอะ ผู้ชายเลวๆ คนเดียวฉันยกให้ แต่เธอก็ระวังหน่อยนะ สันดานคนมันเปลี่ยนยาก โดยเฉพาะหมอนี่มันปากหวานชอบขายฝันไปวันๆ ถ้ามันนอกใจฉันได้ คิดเหรอว่าเธอเองจะไม่โดนเหมือนกันสักวัน’
‘รจ พี่ขอล่ะ’
‘ขอเหรอ ได้สิ จัดไป...’
ผลัวะ! ผลัวะ!
ผลัวะแรกปากแตก ส่วนผลัวะที่สองเลือดกำเดาพุ่ง กำลังคิดว่าผลัวะที่สามจะจ่อมหมัดตรงไหน เบ้าตาที่มองเธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อก็ไม่เลว แต่ยังไม่ทันทำตามที่คิดไว้ สาวท้องก็รีบถลาเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
‘กรี๊ดดดด พี่จักร! เลือด!’
รจนาสะบัดมือไปมา นี่เป็นครั้งที่สองของวันแล้วที่เธอต้องใช้หมัดแก้ปัญหา ต้องโทษที่เธอตบคนไม่เป็น แต่ถนัดต่อยมากกว่าเพราะเคยเข้าครอสมวยไทยหมายจะลดหุ่นมาหลายครอส ตอนแรกคิดว่าเสียเปล่าคงไม่ได้งัดวิชาออกมาใช้ที่ไหนเสียแล้ว ก็รู้นะว่าการใช้กำลังมันไม่ดี แต่นาทีนี้ขอใช้สักหน่อยเถอะ มันเหลืออดจริงๆ
‘หลีกไป ฉันไม่อยากรังแกคนท้อง’
‘ไม่นะ อย่าทำพี่จักรนะคะ ใบเฟิร์นผิดเองที่รักพี่เขาก่อน ถ้าจะตบจะตีก็ทำเฟิร์นคนเดียวดีกว่า อย่าทำพี่เขาเลย ฮือๆ พี่จักรเจ็บมากไหมคะ ฮือๆ คนเราแค่รักกันมันผิดตรงไหน...’
รจนากลอกตาไปมาอย่างรำคาญใจ กับฉากคร่ำครวญน้ำเน่าที่อีกฝ่ายกำลังยัดเยียดบทนางร้ายให้เธอ ส่วนตัวเองก็ทำตัวเป็นนางเอกอ่อนแอที่โดนรังแกอย่างน่าสงสาร
ทั้งๆ ที่ความจริงตัวเองต่างหากที่แรดมาแย่งแฟนคนอื่น อ้อ! ไม่ใช่สิ ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ต้องด่าตัวผู้ที่โลเลไม่หนักแน่นพอ มากกว่าจะโทษผู้หญิงฝ่ายเดียว
‘นี่หล่อน อย่ามาดึงดราม่าให้คนอื่นหลงประเด็น คนรักกันมันไม่ผิดหรอก แต่ต้องไม่รักกันลับหลังแฟนชาวบ้าน ลักกินขโมยกินมันอร่อยก็จริงแต่มันบาป แล้วก็...’ คนพูดกระแทกสายตาโหดใส่แฟนที่กำลังจะกลายเป็นอดีต
‘คบซ้อน หวังฟันสาวเก็บแต้มไปวันๆ คิดว่าคนอื่นโง่หลอกได้หลอกเอา นั่นมันเรียกสันดานชั่ว!’
‘คบซ้อน หวังฟันสาวเก็บแต้มไปวันๆ คิดว่าคนอื่นโง่หลอกได้หลอกเอา นั่นมันเรียกสันดานชั่ว!’รจนาด่าเรียงตัว พลางจ้องหน้าแฟนหนุ่ม ผิดหวังก็ใช่ แต่อีกใจก็ต้องนับว่าเธอคงทำบุญมาดีที่รู้เช่นเห็นชาติแฟนหนุ่ม โดยไม่พลาดท่าจนท้องป่องอีกคน แบบนั้นคงช้ำใจยิ่งกว่าเพราะสงสารลูกที่จะเกิดมามีพ่อแบบนี้‘ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้กับใครอีกแล้วกัน อ้อ...ในเมื่อเลิกกันแล้ว เงินที่นายยืมไปก็คืนมาด้วยแล้วกัน’‘เงิน...เงินอะไรกันคะพี่จักร’ ใบเฟิร์นหันไปถามหน้าตื่น‘นี่หล่อน ถ้ายังไม่รู้ ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ลำพังเงินเดือนอิพี่จักรของเธอน่ะ เดือนๆ หนึ่งมันยังชักหน้าไม่ถึงหลังเลย ไหนจะผ่อนรถ ไหนจะผ่อนคอนโด เอาเงินที่ไหนมาดาวน์ ลำพังกินข้าวด้วยกันมันยังเกี่ยงฉันจ่ายให้เลย บอกว่ายืมเดี๋ยวคืนอ้างเป็นแฟนกันอย่าคิดเรื่องหยุมหยิม แต่จนถึงตอนนี้มันก็ไม่คืนฉันสักบาท ตอนอยู่กับเธอถ้ามันเลี้ยงข้าวเธอนั่นถือว่าบุญหัวแล้วนะ’ใบเฟิร์นหน้าเสีย จึงทำให้รจนารู้ว่าคำพูดเธอแทงใจดำอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว‘อะไรกัน กับเธอก็โดนเหรอ เฮ้อ...ไม่ไหวนะผู้ชายแบบนี้ หวังว่ามีลูกแล้วก็เปลี่ยนนิสัยหน่อยแล้วกันเนอะ ไม่ใช่เอะอะหาเรื่องเอาเปรียบแฟนแบบนี้มั
ก๊อกๆ“พี่รจ...ตื่นยัง”เสียงตะโกนหน้าห้องฉุดรจนาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง เสียงแปดหลอดของ ‘เมรี’ น้องสาวคนเดียวของเธอเคาะประตูโครมๆ จนน่ากลัวจะพังคามือ“ตื่นแล้วๆ ประตูไม่ได้ล็อก”พอขาดคำประตูก็เปิดผ่างออก คนมาใหม่คือสาวน้อยวัยใสหน้าตาหมดจดตามประสาสาวเหนือ ที่มีใบหน้าละม้ายรจนาส่วนหนึ่งแต่ผิวคล้ำกว่าพี่สาวเล็กน้อย“แม่ให้มาเรียกไปกินข้าว วันนี้มีแกงขนุน น้ำพริกอ่อง ผักลวก แล้วก็ผัดผักรวมมิตร ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลยนะ หรือจะกินข้าวซอยน้ำเงี้ยวก็มีนะ แม่ทำไว้ให้พี่ตั้งแต่เช้ามืดแน่ะ”เมนูที่ว่ามาทำให้รจนาถึงกับน้ำลายสอ ถึงจะไปอยู่เมืองกรุงมาหลายปี แต่อาหารที่ซื้อเขากินหรือจะสู้รสมือแม่ของเธอได้“เดี๋ยวพี่ขอล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วจะรีบตามไป”“เร็วๆ ล่ะ” รจนาพยักหน้ารับ ก่อนหันไปจัดการตัวเอง สลัดความหลังมัวซัวออกจากหัวสมอง “สังข์ทองลูกแม่งามแท้พ่อคุณ...”เสียงเพลงไตเติ้ลละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตลอยลมมาทักทายรจนาพร้อมกลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ได้นั่งล้อมวงกินกันพร้อมหน้าครอบครัว นี่คือวิถีประจำบ้านที่เธอห่างหายไปนานโข“อ้าว! เจ้ารจ มาๆ กินข้าวกันลูก” นายแผนหันไปกวักมือเรียกลูกสาวมาร่วมวง บ้
“เขาก็เม้าท์กันว่าที่พี่กลับมาอยู่บ้านเพราะท้องไม่มีพ่อน่ะสิ”“หา! ว่าไงนะ” คนโดนเม้าท์ตาโตเท่าไข่ห่าน โวยลั่น“จะบ้าเหรอ! เอาอะไรมาท้อง ผัวยังไม่มีซักคน นี่แฟนฉันก็เพิ่งเลิกกันไปก่อนกลับบ้าน...อุ๊บ!”รจนารีบปิดปากเมื่อเผลอหลุดคายความลับออกมา แต่กลับไม่รอดหูของผู้เป็นแม่และน้องสาวตัวแสบได้“ว่าไงนะ! แกเลิกกับแฟนแล้วเรอะ”อุตส่าห์เก็บงำเรื่องจักรินไว้ เพราะกลัวที่บ้านเป็นห่วง แต่ต้องมาหลุดปากเพราะความเผลอเรอ เมื่อรู้ว่าถึงปิดไปก็ไม่ได้ผลเธอเก็บความลับกับเขาได้เสียที่ไหน รจนาจึงถอนหายใจ“อืม...เลิกแล้ว ก็มันนอกใจไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องเลยเลิก”“ไอ้ชาติหมา!” คนที่นั่งนิ่งมานานสบถเสียงเหี้ยม“ใจเย็นพ่อ ใจเย็น หายใจเข้าลึกๆ นะ เดี๋ยวความดันขึ้น” เมรีรีบเข้าไปลูบหลังให้บิดา“ทำไมแกเพิ่งมาบอกพ่อกับแม่ล่ะยัยรจ แล้วนี่มันทำอะไรแกไปบ้าง ได้เสียกันหรือยัง”รจนาทำหน้าเมื่อย ก่อนส่ายหน้าไปมา“ยังไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูทำตามที่แม่สอนให้รักนวลสงวนตัว แขนหนูยังไม่ให้จับเลย แต่ก็เพราะแบบนี้ไงไอ้หมอนั่นถึงหาเรื่องนอกใจหนูไปมีคนอื่น”“เฮ้อ...งั้นก็โล่งอกไปที ช่างหัวมันเถอะ ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งแบบนั้นดีแล้วที
สาวน้อยเข่นเขี้ยวอย่างโมโห ตั้งแต่พี่สาวหอบผ้าผ่อน พร้อมกรงหมากลับมาอยู่บ้านไม่ถึงอาทิตย์ นังเอริหมาบีเกิ้ลจอมซนก็คาบรองเท้าของคนทั้งบ้านไปแทะเรียบไม่เหลือหลอ บางทีก็คาบไปซ่อนให้ตามหาเป็นวันๆ ใช่แต่รองเท้า เสื้อผ้าที่ตากไว้ หรือข้าวของอะไรที่วางขวางหน้ามันก็คาบไปแทะเรียบ จนมาถึงคราวนี้สองพี่น้องก็เหลืออดสุดขีดเพราะเป็นรองเท้าคู่โปรดที่เหลือรอดคู่สุดท้ายแล้ว“นังหมาเวร! แอบดอดหนีออกไปซนที่ไหนอีกล่ะเนี่ย กลับมาจะตีให้ยับ หนอย กัดรองเท้าคู่โปรดฉัน ดูซิ แล้วนี่จะใส่อะไรไปล่ะ ขาดทุกคู่แล้วมั้งเนี่ย”รจนากุมขมับด้วยความโมโหจนน้ำตาแทบเล็ด“เอ๊ะ นั่นไงพี่ อิเละของพี่หรือเปล่าวิ่งแจ้นมานู่นแล้ว”เจ้าของหมาแสบรีบหันขวับ หรี่ตามองสิ่งมีชีวิตที่วิ่งปุเลงๆ สี่ขาหน้าตั้ง หมาน่ะใช่ แต่สีนี่สิ เจ้าหมาของเธอเป็นบีเกิ้ลพันธุ์แท้ หูยาวสวยมีสามสีคือส้ม ขาว และดำ หางมีแต้มดอกสีขาว แต่ไอ้เจ้าตัวที่กำลังวิ่งตรงมานั่นกลับมีสีเดียวคือสีโคลนน้ำครำดำมะเมี่ยม แถมในปากคาบอะไรบางอย่างมาด้วย“อี๋...อย่าเข้ามานะเอริ ไม่เอาไม่เล่น” รจนารีบถอยหนีเมื่อเห็นสภาพหมาตัวมอมที่วิ่งตรงเข้ามาหาเธอ ก่อนสะบัดขนพรึ่บพรั่บแบ่งปันค
“แล้วกัน เลยมอมทั้งคนทั้งหมาเลย รองเท้าก็ขาดหมดแล้ว เฮ้อ! นังหมาจอมแสบนี่” แม่ของสองสาวหันรีหันขวางหาไม้เรียว “รองเท้าที่บ้านมันก็กัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีใส่กันแล้ว ยังจะไปขโมยรองเท้าชาวบ้านอีก นังเมรีไปเอาไม้เรียวมาที”“ไม้เรียวก็อยู่ในมือพี่รจนั่นไงแม่”“แล้วนี่จะทำยังไง พ่อสาธุเขาจะใส่อะไรล่ะนั่น”“เดี๋ยวหนูไปซื้อรองเท้าแตะที่ร้านป้าสายหยุดให้ก่อนก็ได้แม่ คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ในฐานะเจ้าของหมา รจนาจะทำอะไรได้นอกจากรับผิดชอบแทน“คุณรู้ไซซ์ผมแล้วเหรอ”“หา! ไซซ์ ไซซ์อะไร” หญิงสาวงุนงง“อ้าว ก็คุณจะไปซื้อรองเท้าให้ผมน่ะ รู้ไซซ์เท้าผมแล้วหรือไง”“อ๋อ...งั้นคุณใส่ไซซ์อะไรล่ะคะ แล้วสีล่ะ เอาสีเดิมไหม” ปากพูดแต่ตามองสีรองเท้าที่เก่าคร่ำคร่าจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีอะไร“ว่าแต่สีเดิมของคุณนี่มันสีอะไร”เจ้าของรองเท้ากลั้นขำ เก๊กหน้าขรึมใส่แม่สาวแปลกหน้า“เดี๋ยวผมไปด้วยดีกว่า จะได้ลองใส่ด้วยว่าพอดีเท้าไหม”รจนามัวแต่มองหน้ามอมๆ ของคนพูด จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าพ่อแม่และน้องสาวของเธอที่หันไปมองสบตากันอย่างแปลกใจ“โอเคค่ะ เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวรจมานะแม่”“ใจคอจะไปกันทั้งแบบนั้นน่ะเรอะ มีหว
“โอ๊ะ! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”“ก็อะไรไม่รู้มันแทงตรงท้องฉันเนี่ย เลยจะจับออก คุณก็ลุกซักทีสิ”“ก็บอกแล้วไงว่ายังลุกไม่ได้” ชายหนุ่มกัดฟันบอก“แล้วทำไมถึงลุกไม่ได้” หญิงสาวถามพลางสะดุ้งเฮือกเมื่อมือสัมผัสกับของร้อนที่แนบหน้าท้องตน “แล้วนี่มันมันอะไร คุณเอาอะไรมาแทงท้องฉันเนี่ย”“อยากรู้จริงเหรอ” รจนาชะงักกึก ก่อนมองหน้าคนพูดที่อยู่ในระยะประชิด หากแล้วโลกของเธอก็พลันหยุดหมุนไปชั่วขณะทันใดเมื่อกี้เพราะโคลนบดบังแต่ก็พอมองออกว่าโครงหน้าคงดีประมาณหนึ่ง แต่พอล้างโคลนออกไปถึงได้รู้ว่าทำไมพ่อหนุ่มเจ้าของไร่แห้วผู้นี้จึงเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน คิ้ว ตา จมูก ปาก ได้รูปไปหมดราวกับผ่านมือช่างปั้นแม่เจ้าโว้ย! นี่มันเงาะป่าถอดรูปชัดๆ หล่อละมุนอะไรเบอร์นั้นล่ะพ่อคุ๊ณ นี่มันใช่คนเดียวกับมนุษย์โคลนเมื่อกี้เรอะ!“จ้องพอหรือยัง”“ยัง...เอ๊ย! ไหนใครจ้อง ฉันเปล่านะ...” พอถูกจับได้ก็รีบหันไปมองทางอื่น แต่ทว่าเห็นอะไรในมือตัวเองแวบๆ จึงยกขึ้นดูผ้าอะไรวะเปียกๆ นี่มันผ้าขาวม้านี่หว่า มาจากไหนล่ะถ้าไม่ใช่จากคนที่นอนใต้ร่างเธอตอนนี้ รจนาทำตาปริบๆ“นั่นคุณจะจับ...ถึงเมื่อไหร่”“จับ...จับอะไรล่ะ”“ก็มือคุณจับอะ
“เปล่า”“แล้วทำไมตัวสั่น”“ก็...ฮื้ย ช่างฉันเถอะ ยัยเมรีทำไมช้านักนะ” ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ขนลุกซู่ไปหมดแล้วเนี่ย หญิงสาวคิดต่อในใจ“คุณนี่ตลกดีนะ” คร้านจะต่อปากต่อคำ อีกฝ่ายก็ยังกวนไม่เลิก“ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร เมื่อกี้เห็นเมรีเรียกพี่รจๆ รจอะไรเหรอ”“รจนา” ตอบส่งๆ ไป“อ๋อ...รจนาที่เป็นเมียเจ้าเงาะน่ะเหรอ” ไหนใครว่าเขาจีบยาก พูดเป็นต่อยหอยแบบนี้มิน่าสาวถึงหลงคารมยังไม่ทันได้ต่อปาก สาวน้อยเมรีก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูผืนใหม่ แต่ปัญหาคือจะนุ่งยังไงนี่สิ“เดี๋ยวผมจะคลุมตัวเราสองคนไว้ก่อน แล้วค่อยส่งสัญญาณให้คุณค่อยๆ ลุกไปนะ” ชายหนุ่มกระซิบบอกข้างหู ส่วนเธอก็ต้องหันไปสั่งให้น้องสาวออกไปก่อนสาธุคุณจัดการคลุมตัวเขาและเธอไว้ ก่อนกระซิบสั่งให้อีกฝ่ายค่อยๆ ลุกจากตัวเขา แล้วรีบพันผ้าเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว“เอาล่ะเสร็จแล้ว” นั่นแหละรจนาจึงยอมระบายลมหายใจที่กลั้นไว้ออกมา ใจแอบหวิวเมื่อความอุ่นที่มือเคยสัมผัสหายไปเดี๋ยวนะไอ้รจ นั่นมันความรู้สึกอะไรของแกวะ เสียดายที่ไม่ได้จับงั้นเหรอ...ไอ้บ้า ไอ้หื่น พอเลยเลิกคิดหญิงสาวหลับตาปี๋รีบสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดอกุศล“หัวคุณเป็นอะไรน่ะ”“เปล่าๆ งั
รจนาชักรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดก็อีตอนต้องนั่งคร่อมซ้อนท้ายเขานี่เอง หญิงสาวพยายามเว้นระยะห่าง แต่มือไม้เก้กังไม่รู้จะไปจับที่ไหน“กอดเอวผมไว้ก็ได้นะ ผมอาบน้ำแล้ว คุณนั่งซะห่างแบบนั้นเดี๋ยวก็หงายหลังตกรถหรอก”“ขับๆ ไปเถอะ คุณอย่าบ่นมาก” สาธุคุณส่ายหน้า แต่ดวงตาทอประกายเจ้าเล่ห์“ว้าย!” คนซ้อนแหกปากลั่น เมื่อจู่ๆ รถกระตุกจนเธอเกือบหงายเงิบ ต้องรีบสวมกอดเอวคนขับไว้กันตก หูแว่วได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเจ้าของเอวสอบที่เธอกอดไว้ ก็นึกรู้ว่าจงใจ“นี่คุณแกล้งฉันเหรอ”“แกล้งที่ไหน ถนนมันขรุขระ อย่ามาโทษผมน่า”หญิงสาวขบเขี้ยวก่อนจิกหมับเข้าที่หน้าท้องที่อุดมด้วยมัดกล้าม จนเขาครางอู้อี้แต่แทนที่จะปัดออก เขากลับตะปบมือเธอไว้ไม่ให้ประทุษร้ายได้“ไงพ่อสาธุ พาสาวที่ไหนซ้อนท้ายมาล่ะวันนี้ แฟนเหรอ”“ครับแม่อุ้ย ลูกน้าสีดาน่ะครับ” แทนที่จะปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟน เขากลับตอบรับหน้าตาเฉย รจนานึกเสียดายที่ไม่เห็นหน้าคนตอบ แต่หน้าเธอนี่สิร้อนผ่าวๆ ชัดเจนทีเดียว“นี่คุณ ทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน”“ขี้เกียจ” กวนโอ๊ยไปอีกนะพ่อ“เดี๋ยวเขาก็เอาไปลือกันผิดๆ ฉันเสียหายขายไม่ออกจะทำไง”“เอาน่า ถ้
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง
“แม่จ๋าพ่อจ๋าพี่รจอยู่ไหน”เสียงเอะอะดังมาก่อนตัวทำให้คนเป็นแม่ถึงกับส่ายหน้า“กลับมาถึงก็โวยวายเชียวนะยัยเมรี มีอะไรๆ เบาหน่อย พี่รจเขาไม่สบายนอนพักอยู่ แกเล่นตะโกนปาวๆ เดี๋ยวเขาก็ตื่น อ้าว! นั่นไงตื่นจนได้” นางสีดาค้อนลูกสาวตัวแสบ“มีอะไรกันเหรอแม่ ยัยเมรีเอะอะอะไร”“ก็เมื่อกี้หนูลงรถที่หน้าปากซอยว่าจะไปซื้อของที่ร้านป้าสายหยุด เลยไปได้ยินข่าวมา” คนพูดมีทีท่าอึกอัก “พี่ดาวเรืองเขาบอกว่าพี่รจถูกผู้ชายทิ้งเพราะกลับไปคบแฟนเก่า”รจนาตัวชาด้วยความตกตะลึง“ปากคนก็พูดไป คราวก่อนก็บอกพี่แกท้อง คราวนี้ก็โดนผู้ชายทิ้งคราวหน้าอะไรอีกล่ะ” นางสีดาบ่น“แม่อย่าเพิ่งขัดสิหนูยังเล่าไม่จบ ผู้ชายที่ว่าน่ะ เขาบอกว่าเป็นพี่สาธุนะ!”“หา! ว่าไงนะ” ทุกคนอุทานแทบพร้อมกัน พลางหันไปมองหน้ารจนาเป็นตาเดียว“จริงแม่ เขาเห็นกับตาว่าพี่สาธุกอดผู้หญิงคนนั้นแน่นเลย เขายังเอารูปในโทรศัพท์ให้ฉันดูด้วย เห็นหน้าพี่สาธุชัดเลย”คนเป็นข่าวถึงกับหน้าถอดสี หัวใจปลิวหล่นไปที่ตาตุ่ม พยายามข่มความอ่อนแอที่กำลังมารออยู่ที่ดวงตาไว้ไม่ยอมให้มันไหลออกมาพอนางสีดาหันมาเห็นสีหน้าลูกสาวก็นึกรู้ว่าข่าวคงมีมูล“ยัยเมรีเรื่องนี้แกไม่ต้อง
ฝ่ายรจนาเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็เข้าห้องปิดประตูเงียบ รวมถึงปิดโทรศัพท์แล้วโยนมันลงในตะกร้าผ้าเตรียมซัก เผื่อว่าใครโทรมาก็คุยกับตะกร้าผ้านั่นไปแล้วกัน เชอะหญิงสาวนอนตาลอยมองเพดาน พลางคิดถึงเหตุการณ์วาบหวามระหว่างเขาและเธอก่อนหน้า ไออุ่นของเขา สัมผัสของเขา รสจูบของเขา ไหนจะคำหวานที่กระซิบข้างหูนั่นอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดไม่น่าเลย เธอไม่น่ายอมให้เขาใกล้ชิดลึกซึ้งขนาดนั้น ถึงจะยังไม่ทันได้มีอะไรกันจนสุดทางก็เถอะ ทำไมนะ ยัยปากแดงนั่นถึงไม่ยอมมาให้ไวกว่านี้ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์คิดมากแบบนี้เฮ้อ...ป่านนี่สองคนนั่นกำลังทำอะไรกันอยู่นะ ไม่แน่ว่า ยัยนางเอกนั่นอาจจะกำลังออดอ้อนออเซาะขอคืนดีกับสาธุคุณสำเร็จแล้วก็เป็นได้คืนดีกันแล้วไง เลิกๆ เลิกคิดถึงเขาให้ปวดใจซักทีไอ้รจ ใช่ว่าไม่เคยอกหักสักหน่อย ไม่กี่เดือนก่อนตอนเลิกกับจักริน เธอก็ยังไม่ตายนี่นา มันก็แค่ต้องทำใจให้ได้ ลุกให้ไวเท่านั้น ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถลำตัวมากไปกว่านี้นอนไปก็คิดฟุ้งซ่าน อย่ากระนั้นเลยลองเปิดคอมดูดีกว่า ไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบคว้าโน้ตบุ๊กมาเปิดดูอีเมล์ และดูตามเว็ปที่เธอฝากใบสมัครไว้ ตั้งแต่ที่คบกับสาธุเธอก็เลิก
“พี่จะเอาแบบนี้จริงเหรอ” ถามย้ำอีกทีเผื่อเปลี่ยนใจ แต่อีกฝ่ายกลับพยักหน้ายืนยัน ทำให้แฟนเก่าแอบยิ้มร่าสมใจ“งั้นก็ตามใจแล้วกัน”สาธุคุณชะงักกึก เมื่อเห็นสายตาขุ่นเย็นชาที่แฟนสาวส่งกลับมาให้ ก่อนเดินผละไปทางที่หมาของเธอนั่งหมอบอยู่กับแฟนพันธุ์ทางสุดที่รัก“ไป! เอริ! กลับบ้าน!”พอเห็นเจ้าหมาไม่รักดียังคงนิ่งจึงหมั่นไส้เลยเข้าไปอุ้มมันเดินกลับบ้าน ทิ้งจักรยานไว้ โดยไม่ยอมเหลียวหลังไปมองเจ้าของบ้านอีก จึงไม่เห็นสายตาห่วงใยที่ส่งมาให้สาธุคุณรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ เขากำลังจะตามไป แต่กลับโดนกรรณิกาดึงมือไว้“สาธุคะ”ชายหนุ่มชักไม่สบอารมณ์ เขาหันกลับไปมองหน้าแฟนเก่า และดึงมือออกอย่างไม่ไยดี“รีบๆ พูดธุระของคุณมาเสียทีจะได้จบๆ ผมจะได้ไปจัดการธุระของผมบ้าง” คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึก จากตอนแรกที่คิดดีใจว่าสาธุคุณยังมีเยื่อใยหลงเหลืออยู่บ้าง เลยไล่ยัยเด็กกะโปโลนั่นกลับไป แต่พอเห็นสายตาเย็นชาปนรำคาญก็นึกรู้ว่าตัวเองสำคัญตัวผิดอย่างแรง“ลูกเกดอยากขอโทษคุณที่ทำให้คุณเสียใจวันนั้น ลูกเกดรู้แล้วว่าตัวเองโง่เองที่เลือกคนผิด”“เข้าเรื่องเถอะ บอกมาเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่าคืออะไร”กรรณิกาแอบกลืนน้ำลาย ไม่คิดว่า