“แล้วกัน เลยมอมทั้งคนทั้งหมาเลย รองเท้าก็ขาดหมดแล้ว เฮ้อ! นังหมาจอมแสบนี่” แม่ของสองสาวหันรีหันขวางหาไม้เรียว “รองเท้าที่บ้านมันก็กัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีใส่กันแล้ว ยังจะไปขโมยรองเท้าชาวบ้านอีก นังเมรีไปเอาไม้เรียวมาที”
“ไม้เรียวก็อยู่ในมือพี่รจนั่นไงแม่”
“แล้วนี่จะทำยังไง พ่อสาธุเขาจะใส่อะไรล่ะนั่น”
“เดี๋ยวหนูไปซื้อรองเท้าแตะที่ร้านป้าสายหยุดให้ก่อนก็ได้แม่ คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ในฐานะเจ้าของหมา รจนาจะทำอะไรได้นอกจากรับผิดชอบแทน
“คุณรู้ไซซ์ผมแล้วเหรอ”
“หา! ไซซ์ ไซซ์อะไร” หญิงสาวงุนงง
“อ้าว ก็คุณจะไปซื้อรองเท้าให้ผมน่ะ รู้ไซซ์เท้าผมแล้วหรือไง”
“อ๋อ...งั้นคุณใส่ไซซ์อะไรล่ะคะ แล้วสีล่ะ เอาสีเดิมไหม” ปากพูดแต่ตามองสีรองเท้าที่เก่าคร่ำคร่าจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีอะไร
“ว่าแต่สีเดิมของคุณนี่มันสีอะไร”
เจ้าของรองเท้ากลั้นขำ เก๊กหน้าขรึมใส่แม่สาวแปลกหน้า
“เดี๋ยวผมไปด้วยดีกว่า จะได้ลองใส่ด้วยว่าพอดีเท้าไหม”
รจนามัวแต่มองหน้ามอมๆ ของคนพูด จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าพ่อแม่และน้องสาวของเธอที่หันไปมองสบตากันอย่างแปลกใจ
“โอเคค่ะ เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวรจมานะแม่”
“ใจคอจะไปกันทั้งแบบนั้นน่ะเรอะ มีหวังชาวบ้านแตกตื่นหมด” นางสีดากระเซ้าขำๆ ทำให้รจนาเพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้สารรูปทั้งเขาและเธอนั้นมอมด้วยขี้โคลนไม่ต่างจากหมาเลย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ทุกอณูมีแต่ดินโคลนจากท้องร่องเห็นแต่ลูกกะตา
“พ่อสาธุแหน่ะ เข้าไปล้างหน้าล้างตาในบ้านน้าก่อน หรือจะอาบน้ำด้วยก็ได้นะเดี๋ยวน้าหาผ้าผ่อนให้ใส่ไปก่อน”
“นั่นสิพี่สาธุ”
“ผมกลับไปอาบที่บ้านดีกว่าครับ เกรงใจ”
“มาเกรงใจอะไรกัน ไปๆ เจ้ารจแน่ะพาพี่เขาไปจะอาบในห้องน้ำหรือโอ่งข้างนอกก็ตามสบาย ยัยเมรีตามแม่เข้าไปเอาเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวให้พี่เขาหน่อยไป๊”
“หนูอีกแล้วเหรอแม่” เจเนรัลเบ๊ประจำบ้านโอด แต่ก็ยอมทำตามเมื่อรู้ใจว่าแม่ต้องการสิ่งใด
รจนาแอบถลึงตาใส่มารดากับน้องสาว แต่พอคิดว่าต้นเหตุที่เขามอมม่อกเป็นเพราะอะไร เธอก็จำต้องก้มหน้ารับกรรม
“ว่าไงล่ะคุณ จะอาบข้างนอกหรือข้างในดี”
ชายหนุ่มก้มมองสภาพตัวเอง ก่อนเงยหน้าสบตาคนถามอย่างจนใจ
“ข้างนอกแล้วกันคุณ ตัวสกปรกแบบนี้ไปอาบในบ้านจะเลอะเทอะกันเสียเปล่าๆ”
รจนาพนักหน้า พาเดินนำทางชายหนุ่มไปที่โอ่งน้ำที่ตั้งอยู่ข้างหลังบ้าน เมรีหายไปไม่นานก็วิ่งออกมาพร้อมเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำง่ายๆ มายื่นให้
“หนูช่วยอาบไหมพี่สาธุ”
“ยัยเมรี!” รจนาหวดน้องสาวจอมแก่แดด
“โอ๊ย! มาตีน้องทำไมเนี่ย หรือพี่รจจะช่วยอาบให้พี่สาธุเองล่ะ”
รจนาวางหน้าไม่ถูก มันใช่เรื่องหรือที่จะให้สาวโสดอย่างเธอมาอาบน้ำให้ผู้ชายแปลกหน้า
“คุณอาบเองได้ใช่ไหม”
“ถ้าตอบว่าไม่ใช่ คุณจะอาบให้ผมไหมล่ะ” คำตอบยียวนไม่เท่าลูกตาวิบวับที่มองมา
“ฝันไปเถอะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่ โตป่านนี้แล้วก็อาบเองแล้วกัน ฉันจะไปอาบให้เจ้าเอริดีกว่า ไปเมรี จะยืนดูเขาอาบน้ำหรือไงล่ะ”
“หื้อ...ฉันดูได้เหรอพี่” รจนาสูดหายใจเข้าปอด พลางลากคอน้องสาวตัวป่วนออกไปก่อนจะทำให้เธอขายขี้หน้ามากกว่านี้
โดยสองพี่น้องไม่ทันเห็นสายตาที่มองตามหลัง พร้อมรอยยิ้มมุมปากอย่างขบขัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดเสื้อผ้าที่เลอะโคลนออกเผยให้เห็นรูปสุวรรณชั้นใน แล้วหันไปคว้าผ้าขาวม้าที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ให้มาพันท่อนล่างอย่างคล่องแคล่ว ก่อนอาบน้ำล้างคราบโคลนออกจากตัวจนหมดจด
หากทว่าตอนที่อาบเสร็จ เขาก็ยื่นมือหมายจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวนี่สิ
“อ้าว! ผ้าเช็ดตัวหายไปไหนล่ะ” สาธุคุณแปลกใจ เมื่อกี้เขายังเห็นลูกสาวเจ้าของบ้านเอาผ้าเช็ดตัวมาวางไว้ให้พร้อมเสื้อผ้าและผ้าขาวม้าอยู่นี่นา ชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวาก็พลันเห็นชายผ้าขนหนูสีน้ำเงินลากผ่านไปทางพุ่มไม้หน้าบ้านไวๆ ก็ร้องลั่น
“เฮ้ย! นั่นแกจะเอาไปไหน เอาคืนมานะ”
ไวเท่าใจคิด ชายหนุ่มรีบกระโจนตามเจ้าหมาบีเกิ้ลจอมแสบ โดยไม่ทันเห็นว่ามีใครโผล่มาจากมุมบ้านเพราะได้ยินเสียงเอะอะของเขา จนกระทั่ง...
“ว้าย!”
รจนาผงะเสียหลักจะหงายหลัง หากชายหนุ่มมือไวทายาดรีบคว้าตัวเธอไว้แต่เขาดันกะแรงพลาด ทำให้ร่างเล็กกว่าล้มทับลงมาบนตัวเขาเต็มๆ เสียนี่
“เฮ้ย!”
“โอย...” รจนาครวญคราง วันนี้เธอจับกบไปกี่รอบแล้วนี่ คราวนี้กบตัวใหญ่เสียด้วย หญิงสาวยันแขนจะลุกขึ้นแต่คราวนี้คนที่อยู่ใต้ร่างกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือซ้ำยังดึงตัวเธอไว้แนบกายเปียกโชกแน่น
“เอ๊ะ! คุณมากอดฉันทำไมลุกซักทีสิ ฉันเปียกหมดแล้วเนี่ย”
“อยู่เฉยๆ ก่อน ผมลุกตอนนี้ไม่ได้” เสียงห้าวๆ ปนหอบเพราะวิ่งมาฟังแล้วทำให้แก้มสาวร้อนวาบแปลกๆ พอจะขยับตัวก็สำเหนียกถึงวัตถุแปลกปลอมบางอย่างที่ดุนดันตรงหน้าท้อง ทั้งน่ารำคาญและชวนอึดอัดเธอจึงเอื้อมมือลงไปหมายจะจับออก
“โอ๊ะ! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”
“โอ๊ะ! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”“ก็อะไรไม่รู้มันแทงตรงท้องฉันเนี่ย เลยจะจับออก คุณก็ลุกซักทีสิ”“ก็บอกแล้วไงว่ายังลุกไม่ได้” ชายหนุ่มกัดฟันบอก“แล้วทำไมถึงลุกไม่ได้” หญิงสาวถามพลางสะดุ้งเฮือกเมื่อมือสัมผัสกับของร้อนที่แนบหน้าท้องตน “แล้วนี่มันมันอะไร คุณเอาอะไรมาแทงท้องฉันเนี่ย”“อยากรู้จริงเหรอ” รจนาชะงักกึก ก่อนมองหน้าคนพูดที่อยู่ในระยะประชิด หากแล้วโลกของเธอก็พลันหยุดหมุนไปชั่วขณะทันใดเมื่อกี้เพราะโคลนบดบังแต่ก็พอมองออกว่าโครงหน้าคงดีประมาณหนึ่ง แต่พอล้างโคลนออกไปถึงได้รู้ว่าทำไมพ่อหนุ่มเจ้าของไร่แห้วผู้นี้จึงเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน คิ้ว ตา จมูก ปาก ได้รูปไปหมดราวกับผ่านมือช่างปั้นแม่เจ้าโว้ย! นี่มันเงาะป่าถอดรูปชัดๆ หล่อละมุนอะไรเบอร์นั้นล่ะพ่อคุ๊ณ นี่มันใช่คนเดียวกับมนุษย์โคลนเมื่อกี้เรอะ!“จ้องพอหรือยัง”“ยัง...เอ๊ย! ไหนใครจ้อง ฉันเปล่านะ...” พอถูกจับได้ก็รีบหันไปมองทางอื่น แต่ทว่าเห็นอะไรในมือตัวเองแวบๆ จึงยกขึ้นดูผ้าอะไรวะเปียกๆ นี่มันผ้าขาวม้านี่หว่า มาจากไหนล่ะถ้าไม่ใช่จากคนที่นอนใต้ร่างเธอตอนนี้ รจนาทำตาปริบๆ“นั่นคุณจะจับ...ถึงเมื่อไหร่”“จับ...จับอะไรล่ะ”“ก็มือคุณจับอะ
“เปล่า”“แล้วทำไมตัวสั่น”“ก็...ฮื้ย ช่างฉันเถอะ ยัยเมรีทำไมช้านักนะ” ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ขนลุกซู่ไปหมดแล้วเนี่ย หญิงสาวคิดต่อในใจ“คุณนี่ตลกดีนะ” คร้านจะต่อปากต่อคำ อีกฝ่ายก็ยังกวนไม่เลิก“ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร เมื่อกี้เห็นเมรีเรียกพี่รจๆ รจอะไรเหรอ”“รจนา” ตอบส่งๆ ไป“อ๋อ...รจนาที่เป็นเมียเจ้าเงาะน่ะเหรอ” ไหนใครว่าเขาจีบยาก พูดเป็นต่อยหอยแบบนี้มิน่าสาวถึงหลงคารมยังไม่ทันได้ต่อปาก สาวน้อยเมรีก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูผืนใหม่ แต่ปัญหาคือจะนุ่งยังไงนี่สิ“เดี๋ยวผมจะคลุมตัวเราสองคนไว้ก่อน แล้วค่อยส่งสัญญาณให้คุณค่อยๆ ลุกไปนะ” ชายหนุ่มกระซิบบอกข้างหู ส่วนเธอก็ต้องหันไปสั่งให้น้องสาวออกไปก่อนสาธุคุณจัดการคลุมตัวเขาและเธอไว้ ก่อนกระซิบสั่งให้อีกฝ่ายค่อยๆ ลุกจากตัวเขา แล้วรีบพันผ้าเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว“เอาล่ะเสร็จแล้ว” นั่นแหละรจนาจึงยอมระบายลมหายใจที่กลั้นไว้ออกมา ใจแอบหวิวเมื่อความอุ่นที่มือเคยสัมผัสหายไปเดี๋ยวนะไอ้รจ นั่นมันความรู้สึกอะไรของแกวะ เสียดายที่ไม่ได้จับงั้นเหรอ...ไอ้บ้า ไอ้หื่น พอเลยเลิกคิดหญิงสาวหลับตาปี๋รีบสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดอกุศล“หัวคุณเป็นอะไรน่ะ”“เปล่าๆ งั
รจนาชักรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดก็อีตอนต้องนั่งคร่อมซ้อนท้ายเขานี่เอง หญิงสาวพยายามเว้นระยะห่าง แต่มือไม้เก้กังไม่รู้จะไปจับที่ไหน“กอดเอวผมไว้ก็ได้นะ ผมอาบน้ำแล้ว คุณนั่งซะห่างแบบนั้นเดี๋ยวก็หงายหลังตกรถหรอก”“ขับๆ ไปเถอะ คุณอย่าบ่นมาก” สาธุคุณส่ายหน้า แต่ดวงตาทอประกายเจ้าเล่ห์“ว้าย!” คนซ้อนแหกปากลั่น เมื่อจู่ๆ รถกระตุกจนเธอเกือบหงายเงิบ ต้องรีบสวมกอดเอวคนขับไว้กันตก หูแว่วได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเจ้าของเอวสอบที่เธอกอดไว้ ก็นึกรู้ว่าจงใจ“นี่คุณแกล้งฉันเหรอ”“แกล้งที่ไหน ถนนมันขรุขระ อย่ามาโทษผมน่า”หญิงสาวขบเขี้ยวก่อนจิกหมับเข้าที่หน้าท้องที่อุดมด้วยมัดกล้าม จนเขาครางอู้อี้แต่แทนที่จะปัดออก เขากลับตะปบมือเธอไว้ไม่ให้ประทุษร้ายได้“ไงพ่อสาธุ พาสาวที่ไหนซ้อนท้ายมาล่ะวันนี้ แฟนเหรอ”“ครับแม่อุ้ย ลูกน้าสีดาน่ะครับ” แทนที่จะปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟน เขากลับตอบรับหน้าตาเฉย รจนานึกเสียดายที่ไม่เห็นหน้าคนตอบ แต่หน้าเธอนี่สิร้อนผ่าวๆ ชัดเจนทีเดียว“นี่คุณ ทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน”“ขี้เกียจ” กวนโอ๊ยไปอีกนะพ่อ“เดี๋ยวเขาก็เอาไปลือกันผิดๆ ฉันเสียหายขายไม่ออกจะทำไง”“เอาน่า ถ้
รจนาเผลอรับนัดอย่างลืมตัวโดยไม่ทันสังเกตสายตาของคนรอบข้างที่มองมาที่เธอและเขาก่อนหันไปซุบซิบกันเองคิกคัก“คนอย่างนายสาธุพูดคำไหนคำนั้น ว่าแต่คุณเอาคู่ไหน”“ขอบสีฟ้าแล้วกัน”“งั้นเอาสีฟ้าสองคู่ครับป้า”“เดี๋ยวๆ ทำไมคุณต้องมาเลือกสีเหมือนฉันล่ะ คู่เก่าคุณนั่นสีน้ำตาลไม่ใช่เหรอ”“แหม ผมก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างอะไรบ้าง รองเท้าแตะขอบฟ้าแบบนี้ก็เท่ดีนะ ความหมายก็ดี เราจะพากันไปแตะขอบฟ้าไง”“อี๋...เสี่ยวมาก” รจนาหมดคำจะพูด ครั้นจะเปลี่ยนสีอื่น ก็ไม่มีไซซ์ที่เธอใส่ได้อีก“ซื้อเผื่อยัยเมรีอีกคู่แล้วกัน เอาสีฟ้ามีไหม”“หมดแล้ว มีแต่สีเขียวกับสีส้ม” รจนานิ่งคิดก่อนตัดสินใจเลือกสีส้มให้น้องสาวและรับรองเท้าแตะสีฟ้าที่เธอเลือกมาสวม“แหม เลือกรองเท้าสีเดียวกันเลยนะพ่อสาธุ” เจ้าของร้านอดแซวไม่ได้ แม้จะอดกลัวสกิลปากของลูกค้าสาวอยู่หน่อยๆ“งั้นป้าคิดตังค์ด้วยจ้ะ สามคู่เท่าไหร่จ๊ะ”“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจ่ายเอง”“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันทำคุณเดือดร้อนก็ต้องรับผิดชอบสิ อยู่เฉยๆ ไปรอหน้าร้านเลยไป”“ครับ...” ชายหนุ่มแกล้งลากเสียงยียวน ก่อนจะยอมถอยออกไปรอตามคำสั่ง ท่ามกลางสายตากังขาหลายคู่“ก็ไหนว่า
“ขออีกชิ้นสิ อร่อยดี” คร้านจะต่อปาก หญิงสาวเลยยัดขนมทั้งถุงใส่มือเขาไปจบๆ“อันนี้เขาเรียกขนมอะไรเหรอ” ถามพลางมือก็จกขนมในถุงกระดาษใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ โดยไม่เห็นประกายตาของหญิงสาวข้างกายที่วาววับอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนตอบ“ขี้หมา!”“พรวด! ถุ๊ย! แค่กๆ ขนมอะไรนะ” รจนามองใบหน้าเหวอๆ ของเขาแล้วหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น จนอีกฝ่ายหมั่นไส้เลยยัดขนมในมือใส่ปากเธอเสียเลย“อะ ทีนี้เราก็กินขี้หมาทั้งคู่” สาธุคุณหัวเราะกลับ โดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มที่มีลักยิ้มข้างแก้มของเขาทำให้สาวๆ ในร้านถึงกับกุมอก ตาปรอย พร้อมกับนึกสงสัยว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาเป็นใคร“คนบ้า ยัดมาได้ ดีนะฉันไม่ติดคอตาย แค่กๆ”“ก็ใครละเริ่มก่อน เอาขี้หมามาให้ผมกินเนี่ย”“ใช่ขี้หมาที่ไหน ขนมนั่นน่ะ ชื่อขนมขี้หมาต่างหาก!” รจนาค้อนตากลับ ก่อนจะยอมเฉลย “มันไม่ได้ทำจากขี้หมาจริงๆ แต่ทำจากงาม่อนกวนกับน้ำตาลอ้อยเหนียวๆ มาปั้นเป็นก้อนหน้าตามันคล้ายขี้หมา เขาก็เลยเรียกขนมขี้หมา”สาธุคุณมองริมฝีปากของเธอเพลิน ก่อนเอื้อมมือไปใกล้จนเจ้าตัวชะงัก“อะไร จะตบปากฉันหรือไง”“ใช่ที่ไหนล่ะ เศษขนมมันเลอะปากคุณ ผมจะเช็ดออกให้ต่างหาก” รจนาตัวแข็งทื่อเมื่อริมฝี
แต่ในขณะที่เธอยังไม่ชินกับความเหงาที่ว่า กลับมีเพื่อนร่วมชะตาที่ปรับตัวได้เก่งกว่าชนิดที่เธอเทียบไม่ติด นั่นก็คือ ‘เจ้าเอริ’ หมาบีเกิ้ลตัวป่วน ที่มาไม่ทันไรก็ปรับตัวจากหมาหูยาวสายพันธุ์นอก แปลงร่างกลายมาเป็นหมาบ้านนอกได้อย่างเต็มภาคภูมินอกจากจะหาเรื่องทำลายข้าวของให้แม่ด่ารายวัน แถมบางวันที่ลืมปิดประตูรั้วมันก็ชอบแอบหนีเที่ยวกับแก๊งส์เพื่อนตูบแถวบ้าน ไปนอนแช่โคลนคลุกฝุ่นมอมแมมกลับมาให้เธอปวดหัวตอนนี้แม่ของเธอบอกว่ามันเริ่มไม่แลอาหารเม็ดยี่ห้อดังที่รจนาซื้อมาตุนไว้ให้เสียแล้ว แต่กลับนั่งจ้องแคบหมู ไส้อั่วที่แม่ชอบหิ้วกลับมาจากตลาด แค่ได้กลิ่นก็จะเข้ามาอ้อนขอกินอยู่ประจำ ไม่ให้ก็จะนั่งทำตาปริบๆ ออเซาะอยู่แบบนั้นจนแม่ใจอ่อนก็ต้องหยิบยื่นให้กินตามประสาคนรักสัตว์พอนึกถึงเจ้าตัวยุ่ง รจนาก็ชะโงกมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นว่าประตูรั้วเปิดแง้มไร้เงาเจ้าตัวแสบสี่ขา“หายไปไหนอีกแล้วล่ะ”หญิงสาวถอนหายใจ วันนี้เธออยู่บ้านคนเดียวเสียด้วย พ่อกับแม่ไปช่วยงานที่วัดเพราะอีกมะรืนจะมีงานบุญใหญ่ประจำปี ทางวัดเลยขอแรงชาวบ้านไปช่วยทำความสะอาด และจัดสถานที่ ส่วนเมรีน้องสาวเธอก็ไปโรงเรียนกว่าจะกลับก็เย็นๆ นู
หญิงสาวบ่นในใจ พลางเข็นรถจักรยานไปจอดไว้ข้างต้นลั่นทมหน้าบ้านที่กำลังออกดอกสะพรั่ง พลางนึกเหน็บเจ้าของไร่เอาเข้าไปๆ นอกจากจะปลูกแห้ว ระกำ ลำไยแล้วเขายังอุตส่าห์มีต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านอีก ชีวิตจะชอกช้ำรันทดไปไหนล่ะพ่อบรรยากาศรอบตัวบ้านเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของบ้านคงเข้าไปทำงานในไร่ล่ะสิ อย่ากระนั้นเลยรีบหาเจ้าตัวแสบแล้วรีบเผ่นกลับก่อนที่เจ้าของไร่จะมาเจอว่าเธอแอบบุกบ้านเขาดีกว่าแต่ทว่า...“นั่นใคร!” เสียงห้าวดุตะโกนออกมาจากในบ้านทำเอาผู้บุกรุกสาวสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองทางต้นเสียงก็เห็นเป็นชายหนุ่มร่างสูงที่เดินออกมาจากในกระท่อมทรงแปลกตาแต่สวยน่าอยู่นั่น ในสภาพที่เรียกว่า...ล่อตาล่อใจสายหื่นไม่หยอก“อ้าว! คุณรจนาเมียเจ้าเงาะนั่นเอง มาหาผมถึงกระท่อมมีอะไรเหรอ หรือว่าคิดถึง...”รจนาค้อนคนปากดีจนหน้าคว่ำ โดยพยายามไม่มองแผงอกเปลือยเปล่าที่ทั้งขาว ทั้งล่ำแถมยังอุดมมัดกล้ามเซ็กซี่ที่มีหยดน้ำเกาะพราวบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงเพิ่งอาบน้ำมา น่าเสียดาย เอ๊ย! ต้องบอกว่ายังดีที่ด้านล่างยังมีผ้าขาวม้าพันรอบเอวหาไม่เธอคงได้เป็นตากุ้งยิงแล้วนี่ทำไมเธอต้องมาเจอเขาในสภาพนี้ตลอดเลยล่ะเนี่ย คราวก่
“หึ งั้นคุณก็รีบไปแจ้งเร็วๆ เถอะ ถ้าเขารับแจ้งก็มาบอกผมด้วยนะ ผมจะได้ไปแจ้งบ้าง ข้อหาที่หมาคุณบุกรุกเข้ามาข่มขืนหมาผมถึงในบ้าน แถมเจ้าของหมายังมาหมิ่นประมาทจะแจ้งความจับผมทั้งๆ ที่ไม่มีความผิดด้วยอีกกระทง เผื่อต้องติดคุกพร้อมกันจะได้มีเพื่อนคุยไม่เหงา”“ไม่รู้ล่ะ คุณเป็นเจ้าของหมาหื่นตัวนั้น ถ้าหมาฉันเกิดตั้งท้องขึ้นมาคุณต้องรับผิดชอบ!”สาธุคุณงุนงง ทวนคำ“รับผิดชอบ? ยังไงล่ะ หรือคุณจะให้ผมรับเป็นพ่อของลูกในท้องคุณ เอ๊ย! ลูกในท้องหมาคุณน่ะเหรอ”รจนาฟังแล้วโมโหจนควันออกหู แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองดูหมาของเธอที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับหมาพันธุ์ทางของหนุ่มเจ้าของไร่ข้างกาย มันใช่เหรอเนี่ย แล้วทำไมสาวโสดแถมซิงแบบฉันต้องมานั่งดูหมาเอากันแบบนี้ด้วยวะ แถมไม่ได้ดูคนเดียวต้องมาดูพร้อมกับหนุ่มหล่อล่ำกล้ามแน่นในชุดวาบหวิวน่าปล้ำเสียด้วย เวรของกรรม!“นี่...ใจคอคุณจะยืนดูแบบนี้ต่อไปหรือ ผมว่าคงอีกนานเลยนะนั่นกว่าเขาจะเสร็จภารกิจ ผมว่าเราไปหาอะไรทำฆ่าเวลากันก่อนดีกว่านะ”สาธุคุณเอาน้ำเย็นเข้าลูบเพราะเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนพร้อมจะกินหัวทุกคนที่ขวางหน้า“นี่คุณ...เราไป ‘เด้า’ กันก่อนดีไหม” เฮือก!!!
“แหย่แบบนี้เดี๋ยวก็มีเฮหรอก” พูดจบก็เลยโดนสำเร็จโทษแบบคอมโบเซต รจนาประคองใบหน้าหล่อเหลาก่อนจูบที่หน้าผากเขา ไล่มาที่ดวงตาคมพราว ปลายจมูกโด่ง และแก้มทั้งสอง แต่พอถึงริมฝีปากเธอก็หยุดไว้แค่นั้น และกอดคอเขาไว้ พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู“อยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานจัง” ไม่กระซิบเปล่าแม่สาวจอมซนแอบงับที่ติ่งหูขาวๆ ของเขาจนอีกฝ่ายเผลอหลุดครางออกมา ก่อนที่จะดึงคนเกเรมานั่งลงบนตักและกอดไว้“พี่ไม่ใช่มะม่วง รจแทะเอาๆ แบบนี้รู้บ้างไหมว่ามันทรมานนะ”“ไหนจ๊ะ ทรมานตรงไหนกัน มาให้รจดูหน่อยซิ” มือซุกซนลูบไปตามแนวกระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่เลยไปที่ลาดไหล่กว้างผึ่งผาย แม้จะสวมเสื้อยืดสีขาวแต่ก็เนื้อบางระบายอากาศ ทำให้เธอลวนลามเขาได้อย่างสะดวกโยธิน“ตรงนี้เหรอ...” มือนุ่มๆ ลากลงไปที่แผงอกล่ำเพราะทำงานใช้แรงหนักทุกวันจนเกิดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ก่อนวนปลายนิ้วเรียวรอบๆ จุดปลายยอดอกที่ถูกมีผ้าบางๆ ขวางกั้น แต่กระนั้นก็ไม่ต่างจากการสัมผัสเนื้อแท้เลยแม้แต่น้อย“รจ...” สาธุคุณกัดฟันเรียก เมื่อถูกความรู้สึกบางอย่างโจมตีจนลมหายใจสะดุด หัวใจกระตุกตามแรงมือเธอเป็นระยะๆ“จ๋า...” เสียงหวานกระซิบ พลางย้ายมือไปคลึงปลายยอดอกอีกข
“อารมณ์ปลื้มแฟน ใครจะโชคดีเท่ารจนาคนนี้อีก มีแฟนเนื้อหอมระดับประเทศแถมรูปหล่อเสียด้วย”สาธุคุณยิ้มขำ พอสนิทเข้าหน่อยก็เผยความรั่วออกมารัวๆ แต่ก็ทำให้เขาเพลินดีไปอีกแบบ“อะไร พี่เนี่ยนะเนื้อหอม รจแอบมาดมตอนไหน” พอท้ามา เธอก็จัดการดมเนื้อแก้มเขาให้อีกสองฟอด“ดมตอนนี้ไง หอมจริงด้วย” สาธุคุณดึงคนปากดีเข้ามาขังไว้ในวงแขน“มาอ้อนแบบนี้ คิดจะป่วนพี่หรือไง” หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนควักมือถือออกมาแล้วยื่นให้เขาดู“ใครกันแน่ที่โดนป่วน ดูสิ ทั้งเฟซ ติ๊กต๊อก ไอจี ทวิตเตอร์ ยูทูปเขากำลังคลั่งรักพ่อสังข์ทองแฟนของรจนากันแค่ไหน นี่รายการโหนกระแสเขาโทรมาชวนพี่ไปสัมภาษณ์กับพี่หนุ่มกรรชัยหรือยัง ถ้าพี่จะไปอย่าลืมพารจไปด้วยนะ รจเป็นแฟนคลับพี่เขา จะไปเซลฟี่ด้วย”สาธุคุณดึงปลายจมูกคนช่างเจรจาอย่างมันเขี้ยว พลางหันไปมองคลิปของตน ก่อนที่จะสะดุดตาเมื่อเห็นแคปชั่นใต้ภาพ“พี่เคยเป็นพระเอกละครทำไมไม่เห็นเล่าให้รจฟังบ้างล่ะ”“ก็แค่เคยเป็น เรื่องในอดีตผ่านมาตั้งหลายปีแล้วน่ะ นี่พี่ก็เกือบลืมแล้วด้วยซ้ำ รจแคร์ด้วยเหรอ หรือว่าแอนตี้”“แอนตี้ทำไม มีแฟนเป็นถึงระดับพระเอกไม่ดีตรงไหน อ้อ...ไม่สิ ไม่ดี...ไม่ดีตรงที่มีสาวๆ
“เอะอะอะไรแต่เช้าอีกล่ะยัยตัวแสบ”“มาดูๆ คลิปนี่เร็วๆ” รจนาส่ายหน้าแต่ก็ยอมเบนเท้าไปหาคนเรียก“คลิปอะไรอีกล่ะ”“นี่ไง พี่สาธุดังใหญ่แล้วเนี่ย” ชื่อนั้นทำให้หญิงสาวหูผึ่ง รีบจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของน้องสาวทันทีเป็นคลิปตอนที่สาธุคุณขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีตลาดถนนคนเดินกับเธอวันนั้นนั่นเอง“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังสาธุคุณ โชษฐ์วรการ หวนคืนเวที อีกครั้งหลังหายหน้าไปกว่าห้าปี ความหล่อละมุนกับเสียงหวานๆ ของหนุ่มคนนี้ทำให้สาวๆ ถึงกับใจละลาย อยากได้คนสึ่งตึงรูปหล่อเป็นแฟนทั้งประเทศ!”“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังเหรอ” ทั้งสี่เงยหน้าขึ้นมองสบตากัน เมรีนักสืบโซเชียลตัวแม่รีบพิมพ์เสิร์จชื่อเขาในกูเกิ้ลก่อนเอะอะ“ใช่จริงด้วยนี่ไงๆ พี่สาธุเคยเป็นพระเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องสังข์ทองเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ ด้วย”ก็รู้ว่าเจ้าของไร่หนุ่มนั้นรูปหล่อ แต่ใครจะคิดว่าเขาจะหล่อถึงขั้นได้รับบทพระเอก ถึงจะเป็นพระเอกละครพื้นบ้านก็เถอะ แหม เข้าใจเลือกบทนะ พระสังข์งั้นเหรอ เข้าคู่กับนางรจนาอย่างเธอไปอีก“ถึงว่าสิ แม่ก็คิดๆ อยู่ว่าหน้าคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน ที่แท้ก็เป็นพระสังข์ในทีวีคนนั้นนี่เอง แต่ตอนนั้นพ่อสาธุเขา
สาธุคุณหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น พลางยื่นมือมายีจมูกคนช่างพูดอย่างเอ็นดู คนงานที่กำลังเก็บผักเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างแปลกใจ ก็ร้อยวันพันปีเห็นแต่หน้าขรึมๆ เอาจริงเอาจัง ผิดกับวันนี้ขยันยิ้มขยันพูดขยันอ้อนสาว หากแฟนคลับทั้งหมู่บ้านรู้เข้ามีหวังชักกระแด๋วๆ ด้วยความอิจฉาตายกว่าที่ทัวร์ชมไร่แบบวีไอพีจะเสร็จก็คล้อยบ่าย ตะกร้าหน้ารถจักรยานก็มีพืชผักผลไม้สดๆ เก็บจากต้นที่ผ่านทางไหนก็รับส่วยเขามาจนเต็มพื้นที่ตะกร้า คนปั่นจักรยานก็ไม่มีทีท่าจะบ่นสักคำว่าเหนื่อย แอบเห็นหยาดเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าหล่อคมคายนั่น รจนาจึงอดไม่ได้“พี่จะพักหน่อยไหม ปั่นจักรยานพารจเที่ยวทั้งวันแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ”สาธุคุณก้มมองคนพูดด้วยรอยยิ้ม “เหนื่อยสิ คนนะไม่ใช่เครื่องจักร แต่พี่อยากให้รจเห็นสิ่งที่พี่ทำ วันนี้ที่เห็นน่ะยังไม่ถึงครึ่งของไร่เลยนะ นี่ยังเหลือไร่แห้ว ไร่สับปะรด ไร่ระกำ ลิ้นจี่ แล้วก็สวนดอกไม้อีกตั้งเยอะ แล้วรจล่ะเหนื่อยหรือยัง”“เหนื่อยสิถามได้ เขินจนเหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย พี่เล่นแนะนำรจกับคนทั้งไร่ จนรจเขินวางหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย”“งั้นก็จงเหนื่อยต่อไป เพราะพี่ชอบเห็นรจเขิน เขินทีแก้มแดงทีน่ารักจะตา
“รจส่งรูปให้พี่แล้วนะ” เอ่ยโดยไม่ยอมสบตาเขา ก่อนฉุกใจคิดได้ “เอ๊ะ! เมื่อกี้พี่หลอกให้รจแอดไลน์พี่นี่นา คนเจ้าเล่ห์!”สาธุคุณหัวเราะลั่นเมื่อถูกจับได้ “ไม่ดีเหรอ เรามีไลน์กันไว้ คิดถึงกันก็จะได้ส่งไลน์หาไง นั่นเบอร์โทรส่วนตัวพี่ มีอะไรรจโทรหาได้ตลอดนะ”อืม...เย็นไว้ไอ้รจ แค่แอดไลน์เท่านั้น เขายังไม่ได้ขอแกเป็นเมียโว้ย จะเขินอะไรเบอร์นี้เนี่ย กำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นชื่อที่เขาพิมพ์หน้าจอมือถือเสียก่อน‘ว่าที่เมีย’ตายๆ ตายทั้งๆ ที่หายใจนี่แหละ อะไรจะน่ารักขนาดนี้วะเนี่ย ไม่ไหวจะเขินแล้วนะแม้จะต้องทนต่อความเขินไปตลอดทาง แต่การทัวร์บ้านไร่กับหนุ่มเจ้าของไร่แห้วก็ทำให้รจนาเพลิดเพลินจนลืมเบื่อ จากตอนแรกที่เธอคิดว่าเขาอาจจะทำไร่เหมือนๆ คนทั่วไป หรือไม่ก็แค่ทำไร่เล่นๆ โก้ๆ เท่านั้น เลยเปลี่ยนความคิดใหม่แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาอธิบายให้ฟัง หรือสิ่งที่เขาทดลองผิดลองถูกมากับมือจนได้เทคนิคใหม่ๆ ก็ทำให้เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จริง และรู้ลึก จากที่ชื่นชม จึงกลายเป็นชักจะเลื่อมใสศรัทธา และนับถือในความทรหดอดทนของผู้ชายตรงหน้า ที่ใช้หนึ่งสมองสองมือพลิกฟื้นจากที่นาเป็นไร่สวนผสมที่สวยง
“มานี่สิ เดี๋ยวพี่พับแขนเสื้อให้ หลวมไปหน่อยก็ดีกว่าตากแดดตัวดำเป็นถ่านนะ” รจนาเอียงคอมองผิวขาวของเขา ชาวไร่อะไรวะ ทำไมผิวไม่เห็นคล้ำดำด่างเลย“นี่พี่ใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไรน่ะ ทำงานไร่แต่ทำไมยังขาวได้ขนาดนี้”สาธุคุณเงยหน้ามองคนถามอย่างนึกขำ“เปล่าหรอก พี่ก็ไม่ได้ทาครีมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีใช้ครีมธรรมดาๆ ที่มีขายทั่วๆ ไปเท่านั้น” รจนาได้แต่มองเขาพูดจนเพลิน เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนดูแลตัวเองก็นึกชื่นชม ใบหน้าหล่อเหลาวันนี้เหมือนเพิ่งโกนหนวดมาจึงดูเกลี้ยงเกลาสะอาดน่ามอง ยิ่งทำให้หัวใจสาวโสดชักเกเร“เสร็จแล้ว อ๊ะ!”สาธุคุณถึงกับชะงักเมื่อจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ปลายคางของเขาเบาๆ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว“ขอบคุณนะจ๊ะพี่สาจ๋า” รจนายิ้มหวานใส่ดวงตาคมๆ วาวๆ ที่มองมา “ทำไมล่ะ นึกว่าพี่ชอบให้รจลวนลามซะอีก นี่รจไม่ได้ขัดคำสอนแม่สักนิดนะ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวอย่าให้ผู้ชายเขาถึงตัวหรือลวนลามเอาง่ายๆ ก็นี่ไงพี่ไม่ได้ลวนลามรจ แต่รจต่างหากจะลวนลามพี่เอง ฉะนั้นรจไม่ผิด”สาธุคุณฟังคำพูดเกเรแต่น่ารักของอีกฝ่ายแล้วหลุดขำอีกรอบ ตั้งแต่เกิดมาก็มีครั้งนี้แหละที่เขาถูกผู้หญิงลวนลามแล้วมีห
“พี่ว่าจะไปดูโรงเรือนปลูกผักสลัดเสียหน่อยเห็นลุงบุญบอกว่ากำลังงาม อีกไม่นานคงเก็บขายได้ รจอยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ” เจ้าของไร่ชวน“หืม...รจไปได้เหรอ จะไปเกะกะพี่ทำงานหรือเปล่า”“ทำไมจะไม่ได้ รจเป็นแฟนพี่ ทำไมจะไปดูผลงานแฟนตัวเองไม่ได้ล่ะ แล้วถ้าเราได้แต่งงานกันรจก็คือเมียเจ้าของไร่ เรียนรู้งานไว้บ้างแต่เนิ่นๆ สักหน่อยก็ดี ต่อไปจะได้คอยเป็นหูเป็นตาแทนพี่ได้”“โอย...หวานได้อีกแฟนฉัน” รจนาบ่นอุบอิบเขินๆ ก่อนเสตักผัดผักเข้าปากแก้เกี้ยวพลางรู้สึกว่ารสชาติผัดผักวันนี้ชักจะหวานเกินเบอร์ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงไม่หยุด ก่อนที่จะนึกขึ้นได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวม“จริงสิ! งั้นเดี๋ยวรจไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน ขืนไปชุดนี้ ขากลับแม่จะตกใจคิดว่านั่นลูกหรือถ่าน”สาธุคุณหลุดขำพรืด “ไม่ต้องหรอก ถ้ารจไม่รังเกียจจะใส่เสื้อคลุมกับหมวกของพี่ไปก่อนก็ได้”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” หญิงสาวไม่ใช่คนเรื่องมากจึงตอบรับไป ทั้งๆ ที่ปกติรจนาจะค่อนข้างถือสาไม่ชอบยืมเสื้อผ้าใครใส่ถ้าไม่จำเป็นก็เหอะ“งั้นรจรอพี่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เก็บจานกับปิ่นโตไปล้างเสร็จแล้วจะไปหยิบมาให้”“อุ๊ย! เดี๋ยวรจล้างให้เองพี่ เดี๋ยวแม่รู้จ
“พอๆ เด็กบ้านี่! พูดจาน่าเกลียด ใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วนี่เมื่อไหร่จะเสด็จยะ เดี๋ยวกับข้าวพี่เขาก็เย็นหมด ไม่อร่อยหรอก”“ไปแล้วจ้า ไหนล่ะจ๊ะปิ่นโตของพ่อลูกเขยคนโปรด”นางสีดาส่งปิ่นโตให้ พลางค้อนลูกสาวควับๆ ตามองตามหลังลูกสาวคนโต ลึกๆ นางก็แอบคิดหากรจนาได้ลูกเขยดีๆ แบบสาธุคุณมาเป็นคู่ชีวิต คนเป็นพ่อแม่คงสบายใจนอนตายตาหลับหายห่วงสักที“โฮ่งๆ!” ทันทีที่รถจักรยานของรจนาเลี้ยวเข้าสู่หน้ากระท่อมกลางไร่ลำไย ก็มีเสียงเห่าต้อนรับ หญิงสาวหันไปมองเจ้าหมาที่เธอตามหาซึ่งนอนหมอบข้างๆ เจ้าหมาพันธ์ทางสีดำเมี่ยมอย่างคาดโทษ“หนอย...ติดผู้ชายบ้านช่องไม่ยอมกลับเลยนะแก เจ้าเอริ”“โฮ่ง!”“พูดยังจะมาเถียงอีก ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง...”“ก็เลี้ยงสิ ไม่เห็นยาก” คราวนี้ไม่ใช่หมา แต่เป็นเสียงคนที่กำลังยืนมองลงมาจากระเบียงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มๆ“เกิดมีสักสิบตัวล่ะ พี่จะเลี้ยงไหวเหรอ”“ไม่ไหวรจก็ช่วยเลี้ยงสิ ซ้อมมือไว้ก่อนจะเป็นไรไป อีกหน่อยพอเรามีเองบ้างจะได้ช่วยกันเลี้ยงคล่องๆ ไง”หญิงสาวตวัดค้อนใส่คนหน้ามึนเบาๆ ก่อนที่จะจอดรถจักรยาน และหันไปหยิบปิ่นโตออกมา“แหม จะข้า
“สนสิ แต่ถ้ารจทำพี่หมดตัวอย่ามาบ่นแล้วกัน”“หมดก็หาใหม่”“ที่พูดน่ะหมายถึงเงินหรือคนช่วยใช้เงิน”“ความสุขต่างหาก เงินหมดจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีหนึ่งสมองกับสองมือซะอย่าง พี่ไม่เคยกลัวความลำบาก”ทำไมหล่อจังวะ หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งความคิด “แล้วรจล่ะ มีแฟนเป็นชาวไร่ชาวสวนแบบพี่ กลัวไหม”“กลัวสิ! แต่กลัวพวกสาวๆ คนอื่นมารุมจีบแฟนรจต่างหาก ตั้งแต่มานี่เจอกี่รายแล้วล่ะ ทั้งลูกสาวเจ้าของร้านชำ ทั้งลูกสาวกำนัน ไหนจะคุณครูมัธยมคนสวย เฮ้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์ นี่ยังมีใครอีกไหม บอกมาให้หมดทีเดียว รจจะได้เตรียมใจ”สาธุคุณยิ้มขำคนช่างแขวะ หากอีกใจรู้สึกดีที่ได้ยินเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก“ไม่รู้สิไม่ได้สนใจใคร ตอนนี้พี่สนใจแต่แฟนพี่คนเดียว”บึ้ม! ตายสงบศพหาไม่เจอเลยทีนี้...“หูย...ปากหวาน”“อยากชิมอีกเมื่อไหร่ก็บอกได้ โปรที่ให้ไปก็มีแล้วนี่ จะใช้วันนี้เลยไหม บอกแล้วว่าพี่จะไม่ขัดขืน ยอมตามใจรจทุกอย่าง” ไม่พูดเปล่าดวงตาคนพูดยังทอประกายระยิบระยับเสียด้วยไม่ไหวๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัวไปเรื่อยๆ หยอดเป็นขนมครกแบบนี้เธอจะรับมือยังไงไหว“เอ๊ะ! ทางนั้นมีร้านรองเท้าด้วย เราไปดูกันไหม จะได้ซื้อคู่ใหม่แทนคู่ที่เจ้