สุดท้ายรจนาก็มาลงเอยที่โต๊ะอาหารกับเจ้าของบ้านที่ตอนนี้แต่งตัวใหม่ด้วยเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขาสั้นสีซีดแต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาน่ามอง คนหล่อทำอะไรไม่ผิด“ไงคุณ พอกินได้ไหม มื้อนี้ผมมีแต่กับข้าวบ้านๆ”แขกไม่ได้รับเชิญยื่นหน้ามองอาหารที่วางบนขันโตกไม้สาน มีจอผักกาดใส่กระดูกหมู ไข่เจียวฟูๆ หอมๆ แล้วก็มีน้ำพริก แคปหมูกับผักสดแนมดูน่ากินกับข้าวบ้านๆ จริงๆ ด้วย แต่นาทีที่ท้องหิวจะบ้านไม่บ้านเธอก็กินได้ทั้งนั้น“สบายมาก ว่าแต่กับข้าวพวกนี้คุณทำเองเหรอ”“เปล่า ฝีมือเมียลุงบุญที่คุณเจอหน้าไร่ทำแบ่งมาให้น่ะ ฝีมือผมน่ะก็แค่เก็บผักสดในไร่มากินกับน้ำพริก แล้วก็หุงข้าวแค่นั้น”“ฉันก็ว่างั้น” รจนาพยักพเยิด “แล้วนี่ฉันมาแย่งคุณกินแบบนี้ แล้วคุณจะอิ่มเหรอ”สาธุคุณตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานส่งให้คนช่างถาม“ไม่อิ่มก็เจียวไข่เพิ่ม ของหาได้ในไร่ไม่ได้เสียเงินซื้อ คุณกินให้อิ่มเถอะไม่ต้องห่วง ผู้หญิงตัวอวบๆ คนเดียวผมเลี้ยงได้น่า”ทั้งประโยคดูเหมือนจะมีคำเดียวที่ไม่เข้าหู“คุณว่าใครอวบ...”“ก็คุณไง...เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งอาละวาด ผมว่าสาวอวบๆ แต่สุขภาพดีมีเนื้อมีหนังแบบคุณน่ะสวยออกนะ ดีกว่าพวกสาวผอมๆ
“ไม่ชอบเหรอ หรือจะให้เรียกว่าที่ระ...”“หยุดค่ะ! ไม่เอา! ไม่ต้องเรียกอะไรทั้งนั้น เรียกรจเฉยๆ พอ”“งั้นรจก็เรียกพี่ว่าพี่แล้วกันจะพี่ธุ หรือพี่สาจ๋าก็ตามใจ” เป็นอันว่าเธอก็ยังไม่อาจเอาชนะคนตรงหน้าได้เหมือนเดิมสิน่าสาธุคุณตักไข่เจียวใส่จานให้หญิงสาวด้วยความรู้สึกที่แปลกไปจากเดิมปกติเขาชอบนั่งกินข้าวคนเดียวเงียบๆ แต่พอมีเธอเข้ามาชวนคุยชวนต่อปากต่อคำเป็นเพื่อน ก็ทำให้อาหารธรรมดาๆ อร่อยขึ้นมาได้น่าแปลกที่กับรจนา แม้เธอจะช่างพูดช่างคุยแต่เขากลับไม่รู้สึกเบื่อหน่าย รำคาญ หรือกดดันจนอยากจะเดินหนีเหมือนเวลาต้องคุยกับคนแปลกหน้า หรือพวกสาวๆ คนอื่นๆ ที่แวะเวียนเข้ามาหา“จริงสิ อยู่คนเดียวเงียบๆ แบบนี้ ทำไมคุณ เอ๊ย! พี่ไม่หาแฟนมาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาสักคนล่ะ รจได้ยินยัยเมรีบอกว่ามีสาวๆ มาตามจีบพี่ตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ”“ก็ยังไม่เจอใครที่อยากเป็นแฟนด้วย ที่มีเข้ามาก็มีแต่น่ารำคาญ เลยอยู่คนเดียวดีกว่า”“อะไรกัน ไอ้ที่เขามาจีบๆ นี่ไม่มีเข้าตาพี่สักคนเชียวเหรอ ยัยดาวเรืองที่ร้านขายของชำนั่นไง วันนั้นเห็นส่งสายตาให้ว้านหวาน”“ไม่เอาล่ะ ไม่อยากได้ลูกสาวเจ้ากรมข่าวลือมาไว้ที่บ้าน”รจนาหัวเราะเบาๆ เมื่อน
“บอกแล้ว แต่ไม่ฟัง”“แล้วกัน” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ก่อนมองใบหน้าหล่อที่ยุ่งเหยิง เสียงเรียกแจ๋วๆ ยังดังต่อเนื่องจนน่ารำคาญหู นั่นคนหรือนกแก้วอะไรจะเสียงเจื้อยแจ้วได้ขนาดนั้น“งั้นให้รจช่วยไหมล่ะ”ชายหนุ่มชะงักก่อนมองสบตาสวยเฉี่ยวที่แฝงความซุกซนของหญิงสาวตรงหน้า“ช่วยยังไงล่ะ”รจนาไม่ตอบ แต่ยักคิ้วแผล็บๆ พร้อมกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“พี่สาธุจ๋า อยู่ไหมเอ่ย...อุ๊ย!” นกแก้วปากแดงถึงกับผงะเมื่อจู่ๆ ประตูก็บ้านก็เปิดออก โดยฝีมือสาวแปลกหน้า“หล่อนเป็นใครยะ แล้วเข้าไปทำอะไรในบ้านพี่สาธุของฉัน”รจนายิ้มหวานทำหน้าใสซื่อ“แล้วทำไมฉันจะเข้าไปในบ้านพี่เขาไม่ได้ เธอล่ะเป็นใคร มาทำอะไรที่บ้านพี่สาธุของฉัน” หญิงสาวแกล้งย้อนถามเอ...จะว่าไปไดอะล็อกนี้มันก็คุ้นๆ แฮะ“ฉันมาหาพี่สาธุ เอาปิ่นโตมาให้ พี่สาธุอยู่ไหน” ยิ่งพูดก็ยิ่งห้วน แต่สายตานี่สิจิกเป็นไก่เชียวนะแม่คุณ แต่ขอโทษที่ทำอะไรคนอย่างรจนาไม่ได้“พี่สาจ๋า...ใครก็ไม่รู้มาหาจ้า ออกมาดูหน่อยสิจ๊ะ”รอเพียงไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมา รจนาจึงได้ทีเข้าไปกอดเอวสอบอย่างออเซาะ โดยไม่สนดวงตาลุกวาวๆ ของผู้หญิงอีกคน“พี่สาธุจ๊ะ นังนี่ใคร”รจนาเบ้หน้า มาจิกห
แทนที่พอเขารู้ตัวว่าผิดคิวจะรีบละริมฝีปากออกจากปลายนิ้วของเธอ แต่สาธุคุณกลับดึงมือเธอมาจูบอีกหนเสียนี่รจนาเผลอเงยหน้าสบตาคมกริบที่มองลงมาอย่างตกใจ ดีที่เธอถนัดดึงสีหน้านิ่งเก่ง ทำให้ไม่ได้เผลอหลุดจนมีพิรุธให้ใครจับได้“เอิ่ม! พี่สาจ๋า ทำอะไรเนี่ย ไม่อายชาวบ้านบ้าง รจเขินนะ”“แต่พี่ชอบให้รจเขินพี่ แก้มแดงแบบนี้น่ารักดี” ไม่พูดเปล่าใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับจมูกโด่งยังโน้มเข้าหาแก้มที่แดงน่ารักของเธอประกอบเสียด้วยรจนาใจหายวาบ ตัวแข็งทื่อ เมื่อถูกขโมยหอมแก้มซึ่งๆ หน้า ชักจะไม่ไหวแล้วนะ อย่าเล่นนอกบทแบบนี้สิโว้ย!“กรี๊ดดดด พี่สาธุทำไมพี่ทำแบบนี้กับผ่อง ฮือ คนใจร้าย อย่ากงอย่ากินมันเลยกับข้าวนี่ ฉันจะเอาไปเททิ้งให้หมากิน”หากพอคนพูดเหลียวซ้ายแลขวาก็หันไปเห็นหมาที่กำลังจู๋จี๋กันอย่างหวานชื่นบาดตาเข้าพอดี หญิงสาวอ้าปากหวอ ก่อนรีบสะบัดหน้าหนีพรืด กระแทกเท้าเดินกลับไปอย่างหัวเสียทันทีรอจนแขกไม่ได้รับเชิญหายลับตาไป นางเอกจำเป็นก็สั่งคัทตัวเองหันไปฟาดที่อกแกร่งดังพลั่ก“พี่มาหอมแก้มรจทำไมเนี่ย”สาธุคุณหลุดขำ “พี่หอมรจที่ไหน เมื่อกี้พี่หอมแฟนพี่ต่างหาก”“อย่ามาเล่นลิ้นนะ คนอุตส่าห์ช่วยเล่นละครไ
“พูดแล้วยังจะมายิ้มอีก เดี๋ยวปั๊ดต่อยปากแตกเสียดีไหม”คำนั้นทำให้คนฟังนึกขำ หากเป็นสาวอื่นเสียจูบแรกโดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ก็ควรเขินอาย ไม่ก็วิ่งหนี แต่แม่สาวตรงหน้ากลับจะต่อยปากเขาเสียนี่“จะต่อยก็ได้ แต่ต้องใช้ปากรจต่อยพี่นะ เพื่อความยุติธรรม กล้าไหมล่ะ”รจนาไม่ได้โง่ที่จะหลงกลเขาง่ายๆ แต่รสจูบที่ยังติดตรึงที่ริมฝีปากนั่น ถามว่ารังเกียจไหม น่าแปลกที่เธอก็บอกได้ไม่เต็มปากว่ารังเกียจเขา แค่ตกใจไม่ทันตั้งตัวเท่านั้น หากเป็นคนอื่นแม้กระทั่งจักรินแฟนเก่า หรืออดีตเจ้านายชีกอหากมาทำแบบนี้ล่ะก็ เธอคงต่อยปากจนฟันร่วงไปแล้ว แต่นี่กับคนที่เพิ่งพบกันไม่กี่ครั้ง ทำไมนะ...“คิดนานจัง”“เดี๋ยวนะ ที่พี่มาขยันอ่อยกันแบบนี้ อย่าบอกนะว่าพี่คิดจะจีบรจ” ถึงคราวชายหนุ่มเป็นฝ่ายอึ้งบ้าง“ถ้าพี่บอกว่าใช่ล่ะ รจจะยอมให้พี่จีบไหม”เอาเข้าไป! ก็ไหนแม่กับยัยเมรีว่าเขาจีบยากนักไง ไหงเป็นงี้ล่ะ“อย่ามาตลก นี่ใคร...รจนาศิษย์แม่สีดาเชียวนะแค่จูบเดียวไม่ทำให้คนอย่างไอ้รจหวั่นไหวง่ายๆ หรอก ขอบอก...อุ๊บ!”พอขาดคำ จูบที่สองก็ตามมาทดสอบขันติของคนปากเก่ง รจนาเบิกตากว้าง แต่ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าควรป้องกันตัวเองจึงรีบเม้มป
“ถ้ารจตกลงคบกัน พี่จะยอมให้รจจูบพี่ได้ทุกที่ ทุกเวลาตามใจชอบ หรือจะมากกว่าจูบก็ตามใจรจเลย พี่จะไม่บังคับหรือขัดขืน พี่จะตามใจรจทุกอย่างเลยดีไหม”หูย! โปรอะไรนี่ คนหรือค่ายมือถือ คิดแพคเกจนี้นานไหมเนี่ยคุณพี่ พีอาร์เก่าค่อนขอดในใจ แต่ก็นั่นแหละ เธอเพิ่งอกหักถูกคนรักทรยศมา แผลยังไม่ทันหายดีเลย มาเจอโปรโมชั่นของหนุ่มบ้านไร่เจ้าเสน่ห์แบบนี้ มันก็ต้องมีระแวงไว้หน่อย“แล้วถ้า...เราไปกันไม่รอดล่ะ คือรจไม่ได้แช่งนะ แต่แค่ถามเผื่อไว้น่ะ ก็อย่างที่รจเล่า ตอนคบกันใหม่ๆ อะไรๆ ก็ดี แต่พอนานไปรจจะมั่นใจได้ไงว่าพี่จะไม่ออกลายกลายพันธุ์เหมือนคนอื่น”“ก็ถ้าคบกันแล้ว รจอึดอัด หรืออยากกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ขอแค่มาบอกกันตรงๆ แต่พี่ขอรับปากอย่างลูกผู้ชายตรงนี้ว่าจะไม่นอกใจรจในระหว่างที่เราคบกัน ถ้าพี่ผิดสัญญา หรือเราลองปรับตัวทุกวิธีแล้วยังเข้าหากันไม่ได้ พี่ก็จะยอมปล่อยรจไป ดีไหม”หญิงสาวแอบหงุดหงิดกับคำว่ายอมปล่อยรจไปนั่นชะมัด แต่สิ่งที่เขาเสนอมาก็แฟร์ดี ถ้าตกลงตอนนี้เขาจะหาว่าเธอใจง่ายไปไหมนะ แต่มันก็ไม่ได้เสียหายที่จะลองไม่ใช่หรือ“งั้นรจขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม”สาธุคุณลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนพยักหน้า“ได้สิ
รจนากลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ แม้จะปั่นจักรยานเป๋เกือบพุ่งเข้าพุ่มไม้ข้างทางสองรอบ หรือหวิดแฉลบสอยเสาไฟฟ้าอีกสองสามต้น เพราะคิดถึงตอนที่โดนใครบางคนจูบพ่อกับแม่ของเธอกลับจากวัดแล้วกำลังนอนเอนหลังดูละครทีวีตอนบ่ายที่เอาเรื่องเก่าๆ มารีรันใหม่ให้คนดูอีกรอบกันอย่างเพลิดเพลิน พอได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันไปมอง“อ้าว ยัยรจ ไปไหนมาล่ะลูก เมื่อกี้แม่กลับมาเห็นบ้านปิดหมด คิดว่าแกนอนกลางวันในห้องเสียอีก”“ไปตามหาเจ้าเอริน่ะสิแม่ มันแอบหนีเที่ยวนอกบ้าน”“แล้วเจอไหม”“เจอจ้ะ ไปเจอที่ไร่ท้ายซอยนู่น ไปติดหนุ่มบ้านเขาไม่ยอมกลับบ้านเสียด้วย” คนพูดแอบหลบตา จะบอกว่าไม่ได้ติดธรรมดาก็ละอายปากจะเล่าเพราะตัวเองก็มีชนักติดหลังอันบะเริ่มอยู่นางสีดาและนายแผนหัวเราะอย่างขำขัน“เออ หมามันก็มีหัวใจนะ รู้จักเลือกแฟนเสียด้วย นี่คงไปติดใจเจ้าวายของพ่อสาธุรูปหล่อเขาล่ะสิ”พอได้ยินชื่อเจ้าของหมาที่ทำเพิ่งให้หัวใจเธอว้าวุ่น รจนาก็หน้าร้อนผ่าว ปากที่ถูกจูบรู้สึกวูบๆ วาบๆ“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะ ทำไมหน้าแดงแบบนั้น ไม่สบายหรือเปล่าลูก” นายแผนถามอย่างเป็นห่วง แต่วัวสันหลังหวะกลับร้อนตัว“เปล่าจ้ะพ่อเปล่า รจตากแดดน่ะสิพ่อ เดิน
“ยังไม่กลับจากโรงเรียนเลย เห็นว่าวันนี้มีซ้อมเชียร์ลีดหรืออะไรซักอย่างเนี่ย บอกว่าจะกลับเย็นๆ โน่น ลูกก็ไปกับพี่เขาสองคนละกัน”เสร็จกัน...เป็นอันว่าเข้าทางโจร!“งั้นเดี๋ยวพี่ไปรอที่รถแล้วกันนะ น้าสีดากับน้าแผนอยากได้อะไรจากถนนคนเดินไหมครับ เดี๋ยวผมซื้อมาฝาก”“โอ๊ย...น้าไม่เอาอะไรหรอกจ้ะพ่อคุณ ฝากดูแลน้องด้วยแล้วกัน แม่คนนี้น่ะชอบเดินหลงทางประจำ คราวก่อนไปตลาดหันมาอีกทีเดินหายไปเสียแล้ว ดีนะไม่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่”“แม่จ๋า...นี่ลูกไง รจนาเอง ลูกแม่ จะขายหนูให้อายเขาไปไหนเนี่ย”“ก็มันจริงนี่นา แกน่ะชอบเดินไม่จำทาง”“งั้นรจขอไปแต่งตัวกับหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนนะจ๊ะ” รีบตัดบทก่อนแม่จะขายเธอจนหมดเปลือก ไม่รู้ว่าตั้งใจบอกใคร แต่เธอเห็นสายตาวิบวับที่มองมาคู่นั้นก็ชักจะใจคอไม่ดี หรือจะอ้างว่าปวดท้องไม่สบายแล้วเทนัดนี้ไปก่อนดีนะสุดท้ายรจนาก็ไม่ได้ใช้ข้ออ้างไร้สาระพวกนั้น ตอนที่เธอออกมาสาธุคุณกำลังกอดอกนั่งพิงเบาะราชรถสองล้อยี่ห้อฟีโน่สีขาวที่วันนี้เขาใช้เป็นยานพาหนะพาเธอไปเที่ยวตลาดนัดหน้าอำเภอ“วันนี้ซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่ไปแล้วกัน คนเยอะเอารถใหญ่ไปก็หาที่จอดยาก” ค่อยยังชั่วที่เขาไม่ได้เริ่มต้นด้วยค
“แหย่แบบนี้เดี๋ยวก็มีเฮหรอก” พูดจบก็เลยโดนสำเร็จโทษแบบคอมโบเซต รจนาประคองใบหน้าหล่อเหลาก่อนจูบที่หน้าผากเขา ไล่มาที่ดวงตาคมพราว ปลายจมูกโด่ง และแก้มทั้งสอง แต่พอถึงริมฝีปากเธอก็หยุดไว้แค่นั้น และกอดคอเขาไว้ พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู“อยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานจัง” ไม่กระซิบเปล่าแม่สาวจอมซนแอบงับที่ติ่งหูขาวๆ ของเขาจนอีกฝ่ายเผลอหลุดครางออกมา ก่อนที่จะดึงคนเกเรมานั่งลงบนตักและกอดไว้“พี่ไม่ใช่มะม่วง รจแทะเอาๆ แบบนี้รู้บ้างไหมว่ามันทรมานนะ”“ไหนจ๊ะ ทรมานตรงไหนกัน มาให้รจดูหน่อยซิ” มือซุกซนลูบไปตามแนวกระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่เลยไปที่ลาดไหล่กว้างผึ่งผาย แม้จะสวมเสื้อยืดสีขาวแต่ก็เนื้อบางระบายอากาศ ทำให้เธอลวนลามเขาได้อย่างสะดวกโยธิน“ตรงนี้เหรอ...” มือนุ่มๆ ลากลงไปที่แผงอกล่ำเพราะทำงานใช้แรงหนักทุกวันจนเกิดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ก่อนวนปลายนิ้วเรียวรอบๆ จุดปลายยอดอกที่ถูกมีผ้าบางๆ ขวางกั้น แต่กระนั้นก็ไม่ต่างจากการสัมผัสเนื้อแท้เลยแม้แต่น้อย“รจ...” สาธุคุณกัดฟันเรียก เมื่อถูกความรู้สึกบางอย่างโจมตีจนลมหายใจสะดุด หัวใจกระตุกตามแรงมือเธอเป็นระยะๆ“จ๋า...” เสียงหวานกระซิบ พลางย้ายมือไปคลึงปลายยอดอกอีกข
“อารมณ์ปลื้มแฟน ใครจะโชคดีเท่ารจนาคนนี้อีก มีแฟนเนื้อหอมระดับประเทศแถมรูปหล่อเสียด้วย”สาธุคุณยิ้มขำ พอสนิทเข้าหน่อยก็เผยความรั่วออกมารัวๆ แต่ก็ทำให้เขาเพลินดีไปอีกแบบ“อะไร พี่เนี่ยนะเนื้อหอม รจแอบมาดมตอนไหน” พอท้ามา เธอก็จัดการดมเนื้อแก้มเขาให้อีกสองฟอด“ดมตอนนี้ไง หอมจริงด้วย” สาธุคุณดึงคนปากดีเข้ามาขังไว้ในวงแขน“มาอ้อนแบบนี้ คิดจะป่วนพี่หรือไง” หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนควักมือถือออกมาแล้วยื่นให้เขาดู“ใครกันแน่ที่โดนป่วน ดูสิ ทั้งเฟซ ติ๊กต๊อก ไอจี ทวิตเตอร์ ยูทูปเขากำลังคลั่งรักพ่อสังข์ทองแฟนของรจนากันแค่ไหน นี่รายการโหนกระแสเขาโทรมาชวนพี่ไปสัมภาษณ์กับพี่หนุ่มกรรชัยหรือยัง ถ้าพี่จะไปอย่าลืมพารจไปด้วยนะ รจเป็นแฟนคลับพี่เขา จะไปเซลฟี่ด้วย”สาธุคุณดึงปลายจมูกคนช่างเจรจาอย่างมันเขี้ยว พลางหันไปมองคลิปของตน ก่อนที่จะสะดุดตาเมื่อเห็นแคปชั่นใต้ภาพ“พี่เคยเป็นพระเอกละครทำไมไม่เห็นเล่าให้รจฟังบ้างล่ะ”“ก็แค่เคยเป็น เรื่องในอดีตผ่านมาตั้งหลายปีแล้วน่ะ นี่พี่ก็เกือบลืมแล้วด้วยซ้ำ รจแคร์ด้วยเหรอ หรือว่าแอนตี้”“แอนตี้ทำไม มีแฟนเป็นถึงระดับพระเอกไม่ดีตรงไหน อ้อ...ไม่สิ ไม่ดี...ไม่ดีตรงที่มีสาวๆ
“เอะอะอะไรแต่เช้าอีกล่ะยัยตัวแสบ”“มาดูๆ คลิปนี่เร็วๆ” รจนาส่ายหน้าแต่ก็ยอมเบนเท้าไปหาคนเรียก“คลิปอะไรอีกล่ะ”“นี่ไง พี่สาธุดังใหญ่แล้วเนี่ย” ชื่อนั้นทำให้หญิงสาวหูผึ่ง รีบจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของน้องสาวทันทีเป็นคลิปตอนที่สาธุคุณขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีตลาดถนนคนเดินกับเธอวันนั้นนั่นเอง“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังสาธุคุณ โชษฐ์วรการ หวนคืนเวที อีกครั้งหลังหายหน้าไปกว่าห้าปี ความหล่อละมุนกับเสียงหวานๆ ของหนุ่มคนนี้ทำให้สาวๆ ถึงกับใจละลาย อยากได้คนสึ่งตึงรูปหล่อเป็นแฟนทั้งประเทศ!”“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังเหรอ” ทั้งสี่เงยหน้าขึ้นมองสบตากัน เมรีนักสืบโซเชียลตัวแม่รีบพิมพ์เสิร์จชื่อเขาในกูเกิ้ลก่อนเอะอะ“ใช่จริงด้วยนี่ไงๆ พี่สาธุเคยเป็นพระเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องสังข์ทองเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ ด้วย”ก็รู้ว่าเจ้าของไร่หนุ่มนั้นรูปหล่อ แต่ใครจะคิดว่าเขาจะหล่อถึงขั้นได้รับบทพระเอก ถึงจะเป็นพระเอกละครพื้นบ้านก็เถอะ แหม เข้าใจเลือกบทนะ พระสังข์งั้นเหรอ เข้าคู่กับนางรจนาอย่างเธอไปอีก“ถึงว่าสิ แม่ก็คิดๆ อยู่ว่าหน้าคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน ที่แท้ก็เป็นพระสังข์ในทีวีคนนั้นนี่เอง แต่ตอนนั้นพ่อสาธุเขา
สาธุคุณหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น พลางยื่นมือมายีจมูกคนช่างพูดอย่างเอ็นดู คนงานที่กำลังเก็บผักเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างแปลกใจ ก็ร้อยวันพันปีเห็นแต่หน้าขรึมๆ เอาจริงเอาจัง ผิดกับวันนี้ขยันยิ้มขยันพูดขยันอ้อนสาว หากแฟนคลับทั้งหมู่บ้านรู้เข้ามีหวังชักกระแด๋วๆ ด้วยความอิจฉาตายกว่าที่ทัวร์ชมไร่แบบวีไอพีจะเสร็จก็คล้อยบ่าย ตะกร้าหน้ารถจักรยานก็มีพืชผักผลไม้สดๆ เก็บจากต้นที่ผ่านทางไหนก็รับส่วยเขามาจนเต็มพื้นที่ตะกร้า คนปั่นจักรยานก็ไม่มีทีท่าจะบ่นสักคำว่าเหนื่อย แอบเห็นหยาดเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าหล่อคมคายนั่น รจนาจึงอดไม่ได้“พี่จะพักหน่อยไหม ปั่นจักรยานพารจเที่ยวทั้งวันแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ”สาธุคุณก้มมองคนพูดด้วยรอยยิ้ม “เหนื่อยสิ คนนะไม่ใช่เครื่องจักร แต่พี่อยากให้รจเห็นสิ่งที่พี่ทำ วันนี้ที่เห็นน่ะยังไม่ถึงครึ่งของไร่เลยนะ นี่ยังเหลือไร่แห้ว ไร่สับปะรด ไร่ระกำ ลิ้นจี่ แล้วก็สวนดอกไม้อีกตั้งเยอะ แล้วรจล่ะเหนื่อยหรือยัง”“เหนื่อยสิถามได้ เขินจนเหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย พี่เล่นแนะนำรจกับคนทั้งไร่ จนรจเขินวางหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย”“งั้นก็จงเหนื่อยต่อไป เพราะพี่ชอบเห็นรจเขิน เขินทีแก้มแดงทีน่ารักจะตา
“รจส่งรูปให้พี่แล้วนะ” เอ่ยโดยไม่ยอมสบตาเขา ก่อนฉุกใจคิดได้ “เอ๊ะ! เมื่อกี้พี่หลอกให้รจแอดไลน์พี่นี่นา คนเจ้าเล่ห์!”สาธุคุณหัวเราะลั่นเมื่อถูกจับได้ “ไม่ดีเหรอ เรามีไลน์กันไว้ คิดถึงกันก็จะได้ส่งไลน์หาไง นั่นเบอร์โทรส่วนตัวพี่ มีอะไรรจโทรหาได้ตลอดนะ”อืม...เย็นไว้ไอ้รจ แค่แอดไลน์เท่านั้น เขายังไม่ได้ขอแกเป็นเมียโว้ย จะเขินอะไรเบอร์นี้เนี่ย กำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นชื่อที่เขาพิมพ์หน้าจอมือถือเสียก่อน‘ว่าที่เมีย’ตายๆ ตายทั้งๆ ที่หายใจนี่แหละ อะไรจะน่ารักขนาดนี้วะเนี่ย ไม่ไหวจะเขินแล้วนะแม้จะต้องทนต่อความเขินไปตลอดทาง แต่การทัวร์บ้านไร่กับหนุ่มเจ้าของไร่แห้วก็ทำให้รจนาเพลิดเพลินจนลืมเบื่อ จากตอนแรกที่เธอคิดว่าเขาอาจจะทำไร่เหมือนๆ คนทั่วไป หรือไม่ก็แค่ทำไร่เล่นๆ โก้ๆ เท่านั้น เลยเปลี่ยนความคิดใหม่แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาอธิบายให้ฟัง หรือสิ่งที่เขาทดลองผิดลองถูกมากับมือจนได้เทคนิคใหม่ๆ ก็ทำให้เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จริง และรู้ลึก จากที่ชื่นชม จึงกลายเป็นชักจะเลื่อมใสศรัทธา และนับถือในความทรหดอดทนของผู้ชายตรงหน้า ที่ใช้หนึ่งสมองสองมือพลิกฟื้นจากที่นาเป็นไร่สวนผสมที่สวยง
“มานี่สิ เดี๋ยวพี่พับแขนเสื้อให้ หลวมไปหน่อยก็ดีกว่าตากแดดตัวดำเป็นถ่านนะ” รจนาเอียงคอมองผิวขาวของเขา ชาวไร่อะไรวะ ทำไมผิวไม่เห็นคล้ำดำด่างเลย“นี่พี่ใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไรน่ะ ทำงานไร่แต่ทำไมยังขาวได้ขนาดนี้”สาธุคุณเงยหน้ามองคนถามอย่างนึกขำ“เปล่าหรอก พี่ก็ไม่ได้ทาครีมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีใช้ครีมธรรมดาๆ ที่มีขายทั่วๆ ไปเท่านั้น” รจนาได้แต่มองเขาพูดจนเพลิน เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนดูแลตัวเองก็นึกชื่นชม ใบหน้าหล่อเหลาวันนี้เหมือนเพิ่งโกนหนวดมาจึงดูเกลี้ยงเกลาสะอาดน่ามอง ยิ่งทำให้หัวใจสาวโสดชักเกเร“เสร็จแล้ว อ๊ะ!”สาธุคุณถึงกับชะงักเมื่อจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ปลายคางของเขาเบาๆ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว“ขอบคุณนะจ๊ะพี่สาจ๋า” รจนายิ้มหวานใส่ดวงตาคมๆ วาวๆ ที่มองมา “ทำไมล่ะ นึกว่าพี่ชอบให้รจลวนลามซะอีก นี่รจไม่ได้ขัดคำสอนแม่สักนิดนะ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวอย่าให้ผู้ชายเขาถึงตัวหรือลวนลามเอาง่ายๆ ก็นี่ไงพี่ไม่ได้ลวนลามรจ แต่รจต่างหากจะลวนลามพี่เอง ฉะนั้นรจไม่ผิด”สาธุคุณฟังคำพูดเกเรแต่น่ารักของอีกฝ่ายแล้วหลุดขำอีกรอบ ตั้งแต่เกิดมาก็มีครั้งนี้แหละที่เขาถูกผู้หญิงลวนลามแล้วมีห
“พี่ว่าจะไปดูโรงเรือนปลูกผักสลัดเสียหน่อยเห็นลุงบุญบอกว่ากำลังงาม อีกไม่นานคงเก็บขายได้ รจอยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ” เจ้าของไร่ชวน“หืม...รจไปได้เหรอ จะไปเกะกะพี่ทำงานหรือเปล่า”“ทำไมจะไม่ได้ รจเป็นแฟนพี่ ทำไมจะไปดูผลงานแฟนตัวเองไม่ได้ล่ะ แล้วถ้าเราได้แต่งงานกันรจก็คือเมียเจ้าของไร่ เรียนรู้งานไว้บ้างแต่เนิ่นๆ สักหน่อยก็ดี ต่อไปจะได้คอยเป็นหูเป็นตาแทนพี่ได้”“โอย...หวานได้อีกแฟนฉัน” รจนาบ่นอุบอิบเขินๆ ก่อนเสตักผัดผักเข้าปากแก้เกี้ยวพลางรู้สึกว่ารสชาติผัดผักวันนี้ชักจะหวานเกินเบอร์ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงไม่หยุด ก่อนที่จะนึกขึ้นได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวม“จริงสิ! งั้นเดี๋ยวรจไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน ขืนไปชุดนี้ ขากลับแม่จะตกใจคิดว่านั่นลูกหรือถ่าน”สาธุคุณหลุดขำพรืด “ไม่ต้องหรอก ถ้ารจไม่รังเกียจจะใส่เสื้อคลุมกับหมวกของพี่ไปก่อนก็ได้”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” หญิงสาวไม่ใช่คนเรื่องมากจึงตอบรับไป ทั้งๆ ที่ปกติรจนาจะค่อนข้างถือสาไม่ชอบยืมเสื้อผ้าใครใส่ถ้าไม่จำเป็นก็เหอะ“งั้นรจรอพี่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เก็บจานกับปิ่นโตไปล้างเสร็จแล้วจะไปหยิบมาให้”“อุ๊ย! เดี๋ยวรจล้างให้เองพี่ เดี๋ยวแม่รู้จ
“พอๆ เด็กบ้านี่! พูดจาน่าเกลียด ใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วนี่เมื่อไหร่จะเสด็จยะ เดี๋ยวกับข้าวพี่เขาก็เย็นหมด ไม่อร่อยหรอก”“ไปแล้วจ้า ไหนล่ะจ๊ะปิ่นโตของพ่อลูกเขยคนโปรด”นางสีดาส่งปิ่นโตให้ พลางค้อนลูกสาวควับๆ ตามองตามหลังลูกสาวคนโต ลึกๆ นางก็แอบคิดหากรจนาได้ลูกเขยดีๆ แบบสาธุคุณมาเป็นคู่ชีวิต คนเป็นพ่อแม่คงสบายใจนอนตายตาหลับหายห่วงสักที“โฮ่งๆ!” ทันทีที่รถจักรยานของรจนาเลี้ยวเข้าสู่หน้ากระท่อมกลางไร่ลำไย ก็มีเสียงเห่าต้อนรับ หญิงสาวหันไปมองเจ้าหมาที่เธอตามหาซึ่งนอนหมอบข้างๆ เจ้าหมาพันธ์ทางสีดำเมี่ยมอย่างคาดโทษ“หนอย...ติดผู้ชายบ้านช่องไม่ยอมกลับเลยนะแก เจ้าเอริ”“โฮ่ง!”“พูดยังจะมาเถียงอีก ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง...”“ก็เลี้ยงสิ ไม่เห็นยาก” คราวนี้ไม่ใช่หมา แต่เป็นเสียงคนที่กำลังยืนมองลงมาจากระเบียงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มๆ“เกิดมีสักสิบตัวล่ะ พี่จะเลี้ยงไหวเหรอ”“ไม่ไหวรจก็ช่วยเลี้ยงสิ ซ้อมมือไว้ก่อนจะเป็นไรไป อีกหน่อยพอเรามีเองบ้างจะได้ช่วยกันเลี้ยงคล่องๆ ไง”หญิงสาวตวัดค้อนใส่คนหน้ามึนเบาๆ ก่อนที่จะจอดรถจักรยาน และหันไปหยิบปิ่นโตออกมา“แหม จะข้า
“สนสิ แต่ถ้ารจทำพี่หมดตัวอย่ามาบ่นแล้วกัน”“หมดก็หาใหม่”“ที่พูดน่ะหมายถึงเงินหรือคนช่วยใช้เงิน”“ความสุขต่างหาก เงินหมดจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีหนึ่งสมองกับสองมือซะอย่าง พี่ไม่เคยกลัวความลำบาก”ทำไมหล่อจังวะ หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งความคิด “แล้วรจล่ะ มีแฟนเป็นชาวไร่ชาวสวนแบบพี่ กลัวไหม”“กลัวสิ! แต่กลัวพวกสาวๆ คนอื่นมารุมจีบแฟนรจต่างหาก ตั้งแต่มานี่เจอกี่รายแล้วล่ะ ทั้งลูกสาวเจ้าของร้านชำ ทั้งลูกสาวกำนัน ไหนจะคุณครูมัธยมคนสวย เฮ้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์ นี่ยังมีใครอีกไหม บอกมาให้หมดทีเดียว รจจะได้เตรียมใจ”สาธุคุณยิ้มขำคนช่างแขวะ หากอีกใจรู้สึกดีที่ได้ยินเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก“ไม่รู้สิไม่ได้สนใจใคร ตอนนี้พี่สนใจแต่แฟนพี่คนเดียว”บึ้ม! ตายสงบศพหาไม่เจอเลยทีนี้...“หูย...ปากหวาน”“อยากชิมอีกเมื่อไหร่ก็บอกได้ โปรที่ให้ไปก็มีแล้วนี่ จะใช้วันนี้เลยไหม บอกแล้วว่าพี่จะไม่ขัดขืน ยอมตามใจรจทุกอย่าง” ไม่พูดเปล่าดวงตาคนพูดยังทอประกายระยิบระยับเสียด้วยไม่ไหวๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัวไปเรื่อยๆ หยอดเป็นขนมครกแบบนี้เธอจะรับมือยังไงไหว“เอ๊ะ! ทางนั้นมีร้านรองเท้าด้วย เราไปดูกันไหม จะได้ซื้อคู่ใหม่แทนคู่ที่เจ้